บทความสำหรับมือใหม่
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
บทความสำหรับมือใหม่
โพสต์ที่ 1
ตลาดหุ้นไทย
ผมว่าตลาดหุ้นไทย ก็เหมือนตลาดหุ้นทั่วโลก คือบริษัทต่างๆเข้ามาจดทะเบียนเพื่อกระจายหุ้น เพื่อหวังผลในการระดมทุนและสร้างเครดิต เนื่องจากเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ก็จะทำอะไรๆง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตามพวกเราในฐานะนักลงทุน จำเป็นต้องมองแบบนักธุรกิจ ที่กำลังมองหาธุรกิจดีๆ ที่ให้ผลตอบแทนอย่างเหมาะสม เมื่อเทียบกับความเสี่ยง
แต่คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาในตลาดหุ้นแบบ เป็นแบบเก็งกำไร ได้กำไรก็เล่นต่อ ขาดทุนก็เลิกกันไป จนกระทั่งมีคนเข็ดจากตลาดหุ้นเป็นจำนวนมาก เมื่อคราวที่ดัชนี 1800 ลงมา 200
การเล่นเก็งกำไร กับการลงทุนระยะยาว อย่างไหนกันแน่ที่ให้ผลตอบแทนมากกว่ากัน สำหรับผมแล้ว ขึ้นอยู่กับกรอบเวลา ถ้ามามองกันในระยะสั้นๆแล้ว การเก็งกำไรย่อมชนะ
แต่อย่างไรก็ตามการลงทุนแบบระยะยาว กลับทำให้เราได้รับ หลายสิ่งหลายอย่างในชีวิต พร้อมๆกับการทำกำไรจากการลงทุนคือ 1. เวลาสำหรับครอบครัว 2. ไม่เครียด 3. ความรอบรู้ในธุรกิจรอบด้าน
สำหรับมือใหม่ ที่เริ่มรู้สึกว่าดัชนีตอนนี้ขึ้นมาสูงแล้ว ทำให้ไม่รู้จะเล่นหุ้นพื้นฐานได้อย่างไร ขอให้กลับไปดูคำว่าพื้นฐานให้ดี คนส่วนใหญ่ชอบใช้คำนี้ แต่ไม่รู้จริงๆว่ามันคืออะไรกันแน่ คำว่าหุ้นพื้นฐานดีคืออะไรกันแน่ นิยามของคำว่าพื้นฐานดีคืออะไร
สำหรับผมแล้ว ผมเชื่อตามหลักของ The New Buffetology คือหุ้นพื้นฐานดี คือบริษัทที่มีกิจการที่มีความได้เปรียบในการแข่งขัน และความได้เปรียบนั้นอยู่มานานแล้ว และยังคงมีความได้เปรียบในการแข่งขันต่อไปในอนาคต
ผู้บริหารก็สำคัญ เพราะธุรกิจที่มีความได้เปรียบในการแข่งขัน แต่ผู้บริหารกลับไม่ค่อยมีความสามารถในการใช้ความได้เปรียบนั้นๆ ทำให้ผู้ถือหุ้นได้รับผลตอบแทนน้อยเกินควร
ก็ขอฝากไว้ว่า ถ้าจะลงทุนในกิจการใดกิจการหนึ่ง เราควรรอบรู้เกี่ยวกับกิจการนั้นๆ พอสมควร โดยการอ่าน 56 1
ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจก็ถามได้ในโครงการร้อยคนร้อยหุ้น
เมื่อกี้นี้ผมดาวโหลด Buffetology ที่น้องอนุสรณ์ทำ Link ไว้ให้ผมอ่านดูแล้วดีมากเลยครับ
เช่น กุญแจสำคัญ 8 ประการ เพื่อการลงทุนอย่างมีคุณค่า
1. ธุรกิจที่เราเลือกมีความเป็น Consumer monopoly อย่างเด่นชัดหรือเปล่า สำหรับผมแล้ว ข้อ 1. คือ SSC
2. กำไรของบริษัทมาก และกำลังโตขึ้นหรือเปล่า ข้อ 2. คือ APRINT
3. กู้เงินน้อยหรือเปล่า ข้อ 3. คือ MAKRO
4. ROE สูงอย่างต่อเนื่องหรือเปล่า ข้อ 4. คือ TPCORP
5. เก็บกำไรเป็นกำไรสะสมหรือเปล่า ข้อ 5. SPI
6. บริษัทต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันหรือเปล่า ข้อ 6. เช่น M150 ต้องโฆษณามากๆเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาด
7. ผู้บริหารนำกำไรสะสมไปลงทุนเพิ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือเปล่า ผู้บริหารทำกำไรได้เพิ่มจากธุรกิจที่ทำอยู่หรือเปล่า ผู้บริหารขยายการลงทุนหรือเปล่า ข้อ 7. TR
8. บริษัทสามารถขึ้นราคาเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อได้หรือเปล่า ข้อ 8. TF
ผมว่าตลาดหุ้นไทย ก็เหมือนตลาดหุ้นทั่วโลก คือบริษัทต่างๆเข้ามาจดทะเบียนเพื่อกระจายหุ้น เพื่อหวังผลในการระดมทุนและสร้างเครดิต เนื่องจากเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ก็จะทำอะไรๆง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตามพวกเราในฐานะนักลงทุน จำเป็นต้องมองแบบนักธุรกิจ ที่กำลังมองหาธุรกิจดีๆ ที่ให้ผลตอบแทนอย่างเหมาะสม เมื่อเทียบกับความเสี่ยง
แต่คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาในตลาดหุ้นแบบ เป็นแบบเก็งกำไร ได้กำไรก็เล่นต่อ ขาดทุนก็เลิกกันไป จนกระทั่งมีคนเข็ดจากตลาดหุ้นเป็นจำนวนมาก เมื่อคราวที่ดัชนี 1800 ลงมา 200
การเล่นเก็งกำไร กับการลงทุนระยะยาว อย่างไหนกันแน่ที่ให้ผลตอบแทนมากกว่ากัน สำหรับผมแล้ว ขึ้นอยู่กับกรอบเวลา ถ้ามามองกันในระยะสั้นๆแล้ว การเก็งกำไรย่อมชนะ
แต่อย่างไรก็ตามการลงทุนแบบระยะยาว กลับทำให้เราได้รับ หลายสิ่งหลายอย่างในชีวิต พร้อมๆกับการทำกำไรจากการลงทุนคือ 1. เวลาสำหรับครอบครัว 2. ไม่เครียด 3. ความรอบรู้ในธุรกิจรอบด้าน
สำหรับมือใหม่ ที่เริ่มรู้สึกว่าดัชนีตอนนี้ขึ้นมาสูงแล้ว ทำให้ไม่รู้จะเล่นหุ้นพื้นฐานได้อย่างไร ขอให้กลับไปดูคำว่าพื้นฐานให้ดี คนส่วนใหญ่ชอบใช้คำนี้ แต่ไม่รู้จริงๆว่ามันคืออะไรกันแน่ คำว่าหุ้นพื้นฐานดีคืออะไรกันแน่ นิยามของคำว่าพื้นฐานดีคืออะไร
สำหรับผมแล้ว ผมเชื่อตามหลักของ The New Buffetology คือหุ้นพื้นฐานดี คือบริษัทที่มีกิจการที่มีความได้เปรียบในการแข่งขัน และความได้เปรียบนั้นอยู่มานานแล้ว และยังคงมีความได้เปรียบในการแข่งขันต่อไปในอนาคต
ผู้บริหารก็สำคัญ เพราะธุรกิจที่มีความได้เปรียบในการแข่งขัน แต่ผู้บริหารกลับไม่ค่อยมีความสามารถในการใช้ความได้เปรียบนั้นๆ ทำให้ผู้ถือหุ้นได้รับผลตอบแทนน้อยเกินควร
ก็ขอฝากไว้ว่า ถ้าจะลงทุนในกิจการใดกิจการหนึ่ง เราควรรอบรู้เกี่ยวกับกิจการนั้นๆ พอสมควร โดยการอ่าน 56 1
ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจก็ถามได้ในโครงการร้อยคนร้อยหุ้น
เมื่อกี้นี้ผมดาวโหลด Buffetology ที่น้องอนุสรณ์ทำ Link ไว้ให้ผมอ่านดูแล้วดีมากเลยครับ
เช่น กุญแจสำคัญ 8 ประการ เพื่อการลงทุนอย่างมีคุณค่า
1. ธุรกิจที่เราเลือกมีความเป็น Consumer monopoly อย่างเด่นชัดหรือเปล่า สำหรับผมแล้ว ข้อ 1. คือ SSC
2. กำไรของบริษัทมาก และกำลังโตขึ้นหรือเปล่า ข้อ 2. คือ APRINT
3. กู้เงินน้อยหรือเปล่า ข้อ 3. คือ MAKRO
4. ROE สูงอย่างต่อเนื่องหรือเปล่า ข้อ 4. คือ TPCORP
5. เก็บกำไรเป็นกำไรสะสมหรือเปล่า ข้อ 5. SPI
6. บริษัทต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันหรือเปล่า ข้อ 6. เช่น M150 ต้องโฆษณามากๆเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาด
7. ผู้บริหารนำกำไรสะสมไปลงทุนเพิ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือเปล่า ผู้บริหารทำกำไรได้เพิ่มจากธุรกิจที่ทำอยู่หรือเปล่า ผู้บริหารขยายการลงทุนหรือเปล่า ข้อ 7. TR
8. บริษัทสามารถขึ้นราคาเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อได้หรือเปล่า ข้อ 8. TF
-
- Verified User
- โพสต์: 49
- ผู้ติดตาม: 0
บทความสำหรับมือใหม่
โพสต์ที่ 2
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ......อย่างจริงใจครับ......................
ชอบเรื่องที่พี่เจ๋ง กล่าวถึงสังคมชาว vi เปรียบกับนกบินเกาะกลุ่มกันเป็นรูป " V " ครับ ลึกซึ้งดีครับ................................................
อยากเรียนเสนอพี่เจ๋ง นิดนึง เรื่อง" (mini) company visit" จริงๆเป็นเรื่องเก่าที่เคยกล่าวกันในงาน "สัมมนา tvi #1" แต่เห็นเงียบหายกันไป
พี่เจ๋งคิดเห็นว่าอย่างไรครับ ลองคุยกับพี่ๆ keyman อีกหลายๆท่านดูนะครับ.......(ส่วนตัว)เห้นว่าเป็นประโยชน์ต่อชาว VI ทุกท่านทั้งใหม่-เก่า
อาทิ เช่น
1.ชาว vi ได้รวมตัวกัน แสดงพลังกันหน่อย(อันนี้ จริงๆก็ คิดถึง อะนะ อยากเจอ ...อิ.อิ )
2.ก่อนจะได้คุยกับบริษัท..ชาว vi คงต้อง vote ก่อนว่าจะเป็นบริษัทใดดี
เรียงลำดับ1,2,3...ผล vote อาจจะเป็นบรรษัทภิบาลที่ดี แต่ตัวหุ้น/ราคาอาจไม่น่าซื้อก็ได้จะได้ไม่เป็นการเชียร์หุ้น
3.กว่าจะประชุมผู้ถือหุ้นก็อีกครึ่งปี ถ้าเราทำสำเร็จก่อน พี่ๆ vi รุ่นเก่าจะได้แสดงแนวทางการสอบถามปัญหาให้น้องๆดู
ชอบเรื่องที่พี่เจ๋ง กล่าวถึงสังคมชาว vi เปรียบกับนกบินเกาะกลุ่มกันเป็นรูป " V " ครับ ลึกซึ้งดีครับ................................................
อยากเรียนเสนอพี่เจ๋ง นิดนึง เรื่อง" (mini) company visit" จริงๆเป็นเรื่องเก่าที่เคยกล่าวกันในงาน "สัมมนา tvi #1" แต่เห็นเงียบหายกันไป
พี่เจ๋งคิดเห็นว่าอย่างไรครับ ลองคุยกับพี่ๆ keyman อีกหลายๆท่านดูนะครับ.......(ส่วนตัว)เห้นว่าเป็นประโยชน์ต่อชาว VI ทุกท่านทั้งใหม่-เก่า
อาทิ เช่น
1.ชาว vi ได้รวมตัวกัน แสดงพลังกันหน่อย(อันนี้ จริงๆก็ คิดถึง อะนะ อยากเจอ ...อิ.อิ )
2.ก่อนจะได้คุยกับบริษัท..ชาว vi คงต้อง vote ก่อนว่าจะเป็นบริษัทใดดี
เรียงลำดับ1,2,3...ผล vote อาจจะเป็นบรรษัทภิบาลที่ดี แต่ตัวหุ้น/ราคาอาจไม่น่าซื้อก็ได้จะได้ไม่เป็นการเชียร์หุ้น
3.กว่าจะประชุมผู้ถือหุ้นก็อีกครึ่งปี ถ้าเราทำสำเร็จก่อน พี่ๆ vi รุ่นเก่าจะได้แสดงแนวทางการสอบถามปัญหาให้น้องๆดู
"การลงทุนที่ชาญฉลาดที่สุด จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ เราลงทุนแบบทำธุรกิจ"
-
- Verified User
- โพสต์: 49
- ผู้ติดตาม: 0
บทความสำหรับมือใหม่
โพสต์ที่ 3
จริงๆ ก็มีประโยชน์ในทางอ้อมอีกหลายข้อ นะครับ ที่ยกมาแบบพอสังเขป
ครับ.............
รูปแบบอาจจะรวมตัวกัน ณ.สถานที่แบบที่เราเคย meeting#2 กันซึ่งอาจ
จะทำให้เราได้ฟังบรรยายสรุปจากบริษัทที่เรา vote กันมาได้มากกว่า 1
บรษัท เนื่องจากไม่ต้องเดินทาง แต่เราเขาเชิญมาบรรยาย บรรยากาศแบบ
กันเอ้ง กันเอง (ผมคิดว่า เขาน่าจะมานะครับ เพราะ วัตถุประสงค์ของพวกเราคือ ลงทุนร่วมกับบริษัทที่ดี)
ครับ.............
รูปแบบอาจจะรวมตัวกัน ณ.สถานที่แบบที่เราเคย meeting#2 กันซึ่งอาจ
จะทำให้เราได้ฟังบรรยายสรุปจากบริษัทที่เรา vote กันมาได้มากกว่า 1
บรษัท เนื่องจากไม่ต้องเดินทาง แต่เราเขาเชิญมาบรรยาย บรรยากาศแบบ
กันเอ้ง กันเอง (ผมคิดว่า เขาน่าจะมานะครับ เพราะ วัตถุประสงค์ของพวกเราคือ ลงทุนร่วมกับบริษัทที่ดี)
"การลงทุนที่ชาญฉลาดที่สุด จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ เราลงทุนแบบทำธุรกิจ"
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
บทความสำหรับมือใหม่
โพสต์ที่ 4
การรวมตัวกันของกลุ่มนักลงทุนแนว VI ถ้ามีการนำเสนอไปที่แต่ละบริษัท เพื่อให้บริษัทเหล่านั้นมาให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง พี่คิดว่า บริษัทนั้นๆ สนใจอย่างแน่นอน
เพราะ
1. พวกเราเน้นการลงทุนระยะยาว
2. บริษัทนั้นๆ ชอบให้มีการลงทุนระยะยาว
แต่พี่เสนอว่า ให้จัดทดลองดูซัก 3 บริษัท แล้วประกาศ ลงหนังสือพิมพ์ไปเลย เพื่อชักชวนให้คนใหม่ๆเข้ามาอีก
คล้ายๆว่า กลุ่ม TVI จัด company visit ครั้งที่ 1
โดยจัดที่โรงแรม จุดจุดจุด
ซึ่งครั้งนี้จะมีบริษัทที่มาให้ข้อมูล
ประกอบไปด้วย
1. XY
2. ABC
3. SSB
ระยะเวลาในการอบรม 9.00 - 17.00
บัตรราคา 400 บาท รวมอาหาร
แบบนี้ดีหรือไม่ครับ น้อง buzz
เพราะ
1. พวกเราเน้นการลงทุนระยะยาว
2. บริษัทนั้นๆ ชอบให้มีการลงทุนระยะยาว
แต่พี่เสนอว่า ให้จัดทดลองดูซัก 3 บริษัท แล้วประกาศ ลงหนังสือพิมพ์ไปเลย เพื่อชักชวนให้คนใหม่ๆเข้ามาอีก
คล้ายๆว่า กลุ่ม TVI จัด company visit ครั้งที่ 1
โดยจัดที่โรงแรม จุดจุดจุด
ซึ่งครั้งนี้จะมีบริษัทที่มาให้ข้อมูล
ประกอบไปด้วย
1. XY
2. ABC
3. SSB
ระยะเวลาในการอบรม 9.00 - 17.00
บัตรราคา 400 บาท รวมอาหาร
แบบนี้ดีหรือไม่ครับ น้อง buzz