เมื่อคืนลองมานึกๆดู ผมเชื่อว่า นักลงทุนแนววีไอเกือบทุกคน จะต้องมีประสบการณ์เกี่ยวกับหุ้นที่ทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ บางตัวก็ให้ความรู้สึกที่ดีมากๆๆๆๆๆ (ของคุณปรัชญาและคุณซีเคคือ ยูนิคแก๊ส) ส่วนบางตัวก็ให้ความรู้สึก ที่นึกสาปแช่งคนทำ เท่าที่ผมลองไล่เรียงดู จะได้ข้อมูลที่ไม่เป็นทางการและไม่ยืนยันความถูกต้องดังนี้คือ
๑ หุ้นที่ทำเทนเดอร์ มีสองแบบ
ก. ทำเทนเดอร์ฯเพื่อต้องการจะถอนตัวออกจากตลาดฯ
ข. ทำเทนเดอร์ฯเพราะถือครองหุ้นข้ามเส้น ๒๕ เปอร์เซนต์ ตามกฏของกลต.
๒ หุ้นที่ทำเทนเดอร์แบบ ก.
ผมยังไม่เคยเจอตัวไหนที่ให้ราคาเสนอซื้อ "ต่ำกว่าราคามูลค่าหุ้นตามบัญชีที่ปรับปรุงแล้ว" ใครมีข้อมูลว่ามีต่ำกว่า ช่วยเพิ่มเติมให้ด้วย
๓ หุ้นที่ทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์แบบ ข.
มีทั้งที่ให้ เกินมูลค่าหุ้นตามบัญชี และให้ต่ำกว่า มูลค่าหุ้นตามบัญชี โดยตัวที่ให้ต่ำกว่าฯ ส่วนใหญ่จะอ้างอิงถึงส่วนลดกระแสเงินสดของหุ้น และจะไม่ถอนหุ้นออกจากตลาดฯ
๔ ผมไม่เคยเห็นหุ้นเน่าๆตัวไหน
ยอมทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์เพื่อถอนตัวออกจากตลาดฯ มีแต่จะจับไปใส่ตะกร้าล้างน้ำ เพื่อเอากลับมาฟาดส่วนเกินทุนจากนักลงทุนรายย่อยในตลาดฯต่อ
๕ หุ้นดีๆที่จะถูกทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ เพื่อออกจากตลาดทุกตัว "จะเป็นหุ้นที่ไม่มีสภาพคล่องคอ"
ประสบการณ์โดยตรงของผม ที่ได้จากหุ้นที่ถูกทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์มีดังนี้
essex หุ้นในหมวดอัญมณี
บงล. ภัทรธนกิจ หุ้นในหมวดไฟแนนซ์
foremost หุ้นในหมวดอาหาร
united food หุ้นในหมวดอาหาร
utl หุ้นในหมวดขนส่ง
tmd หุ้นในหมวดหีบห่อ บรรจุภัณฑ์
sst หุ้นในหมวดคลังสินค้า
safe หุ้นในหมวดประกันภัย
จะขอเล่าประสบการณ์ย่อๆแต่ละตัว ตามแต่โอกาส ไว้ในกระทู้นี้
essex
หุ้นที่เคยอยู่ในหมวดอัญมณี เป็นหุ้นที่ผมขายเทนเดอร์ออฟเฟอร์แล้วเจ็บปวดที่สุด ตอนเข้าตลาด ขายไอพีโอที่ ๒๔๐ จากพาร์ ๑๐
พอคิดจะถอนตัวออกจากตลาด เขาก็ให้ราคาตามใจชอบที่ ๗๐ กว่า ???
ในตอนนั้น กลต.ยังไม่ได้ออกกฏระเบียบ ว่าด้วยการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ออกมา เจ้าของได้อาศัยโบรกเกอร์จีเอฟ เป็นตัวช่วยเสริมความชอบธรรมให้กับราคาที่ให้ โดยการออกบทวิเคราะห์อ้างอิงส่วนลดกระแสเงินสดเท่านั้น ในขณะที่มูลค่าหุ้นตามบัญชีมีมากกว่าหนึ่งร้อยบาท
โดยที่บริษัทแทบจะไม่มีหนี้สินเลย
ในวันที่ให้ผู้ถือหุ้นลงมติ เพื่อยินยอมให้ถอนหุ้นออกจากตลาดฯ เขาจัดประชุมที่โรงแรมเชอราตันมณเฑียรที่ถนนสุรวงศ์ ตัวแทนของจีเอฟบนเวที
ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้จัดทำคำเสนอซื้อ บรรยายซะดิบดีว่า ทำไมถึงให้ราคาเพียงแค่นั้น ผมได้ลุกขึ้นพูดว่า
ตอนคุณเข้าตลาด คุณเอาเงินจากคนในตลาดไป หุ้นละ ๒๔๐ บาท พอคุณจะถอนตัว
คุณจ่ายคืนเพียง ๗๐ กว่าบาท มันถูกต้องแล้วหรือ
และที่สำคัญ จีเอฟไม่ควรจะมีส่วนได้ส่วนเสียกับงานนี้ เพราะเท่าที่ผมตรวจเจอ ก่อนทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์
ซึ่งราคาเริ่มขยับขึ้นมาจาก ๔๐ บาท อยู่ๆ จีเอฟก็โผล่ขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ได้อย่างไร
ปรากฏว่าคนของจีเอฟคนเวที ตอบแบบอ้ำอึ้งว่า เป็นหุ้นของลูกค้า
รายย่อยข้างล่างพากันหัวเราะแบบแค้นๆ และไม่ยอมรับการราคาเสนอซื้อดังกล่าว
มีเสี่ยหนุ่มคนหนึ่ง ถือไว้ถึงแปดหมื่นหุ้น ในราคาที่ต้องขาดทุนประมาณแปดล้านบาท
เขาลุกขึ้นคัดค้านด้วยวาจาที่ดุเดือด
แต่ในที่สุด น้ำน้อยก็ย่อมแพ้ไฟ เพราะตอนนั้นยังไม่กฏเกณฑ์การคัดค้านเกินสิบเปอร์เซนต์ หลังลงมติเสร็จ ผู้ถือหุ้นรายย่อยกลุ่มหนึ่ง
ได้เดินทางต่อไปร้องเรียนกับ กลต. (กูเลือกตรวจ) ซึ่งผลที่ออกมา คงไม่ต้องเล่าว่าเป็นอย่างไร
ในที่สุด ผมก็ต้องยอมทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์หุ้นตัวนี้ โดยขาดทุนไปประมาณสองแสนบาท
บงล. ภัทรธนกิจ จำชื่อย่อไม่ได้แล้ว
หุ้นตัวนี้ ความจริงส่ออาการเน่ามานานแล้ว
เพียงแต่คุณบัณฑูรต้องเข้าไปพยุง
โดยถมเงินเพิ่มทุนลงไปอีกหกพันล้านเพื่อเห็นแก่อา
หกพันล้านที่ถมลงไป ปรากฏว่าหายวับไปเป็นเอนพีแอล
ด้วยฝืมือของเสี่ย ว.
มิหนำซ้ำพอร์ตหุ้นที่มีกำไรตัวเลขนับหมื่นล้าน
ก็หายวับไปในพริบตากับหุ้นพวกไฟแนนซ์และสื่อสารเน่าๆ
ในที่สุดธนาคารกสิกร
ก็ทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์เพื่อเอาหุ้นออกจากตลาดฯ
(ก่อนฟองสบู่จะแตก) ที่ราคา ๔.๕๐ บาท
หลังหมดระยะเทนเดอร์ หุ้นได้ลงไปที่ ๓ บาท
ผมก็เลยเสี่ยงเข้าไปเล่น
เพราะนึกแค่ว่า จะต้องมีการทำเทนเดอร์รอบสองอีกครั้ง
โดยที่ยังไม่รู้ถึงหายนะภัยร้ายแรงระดับภูมิภาค
จากการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่เริ่มก่อตัว
ปรากฏว่าโชคดีมากๆ มีมืออาชีพในตลาดฯ
จัดการปั่นขึ้นไปถึง ๘ บาท ก่อนที่บริษัทจะถูกตอกฝาโลง
จึงเป็นหุ้นเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ที่ผมมีความรู้สึกดีๆให้
ถึงแม้จะขายในตลาดฯได้กำไรมาแปดหมื่น
แล้วดันไปรับกลับที่ สามบาท หนึ่งหมื่นหุ้น
รวมเบ็ดเสร็จก็ยังกำไรอยู่ ห้าหมื่นบาท
foremost
หุ้นในหมวดอาหาร
ตัวนี้ผมก็ซื้อแบบมวยวัดอีกนั่นแหละ
พีอีต่ำ พีบีวีต่ำ ยีลด์ดี ไม่มีสภาพคล่องคอก็รับได้อยู่แล้ว
ซื้อมาที่ ๔๐ บาท ถืออยู่ประมาณครึ่งปีได้
บริษัทก็ประกาศทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์เพื่อถอนหุ้นออกจากตลาด
ถือได้ว่า เป็นบริษัทที่ เจ้าของมีธรรมาภิบาลค่อนข้างสูงมากๆ
ราคาหุ้นไม่ได้ขยับขึ้นมาเลย จากแถว ๔๐ บาทต้นๆ
พอประกาศเทนเดอร์ออฟเฟอร์ที่ราคา ๑๐๔ บาท
ก็เท่ากับว่า ราคาหุ้นกระโดดขึ้นภายในวันเดียว
๑๕๐ เปอร์เซนต์ทันที โดยไม่มีวี่แววอะไรทั้งสิ้น
แต่ราคาด้านขายยังคงมีคนตั้งไว้แถว ๑๐๐ - ๑๐๑ บาท
ผมเห็นช่องทางจะทำอาบริเทจแบบมวยวัด
เลยซื้อเพื่อกินส่วนต่าง
เหมือนกับว่าเราเอาเงินไปฝากกินดอกเบี้ย
เพราะมั่นใจในฐานะการเงินของบริษัทมากๆ
หุ้นทั้งหมดที่มีอยู่เดิม และซื้อเพิ่มเพื่อกินส่วนต่างเสมือนดอกเบี้ย
ได้นำไปขายให้กับผู้ถือหุ้นรายใหญ่
โดยมี บงล.กรุงเทพธนาทร เป็นตัวแทนผู้เสนอซื้อ
และจากดีลนี้ ทำให้ผมได้ความรู้เพิ่มเติมมาหนึ่งอย่างคือ
ผมได้ถามทางเจ้าหน้าที่ของบีฟิทว่า
ในเมื่อราคาในตลาดฯถูกกว่าราคาเทนเดอร์ออฟเฟอร์
ทำไมเจ้าของไม่มาซื้อในตลาด
คำตอบก็คือ
ตามกฏของ กลต.
เมื่อยื่นทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์แล้ว
จะไม่สามารถมาซื้อในตลาดได้อีก
จนกว่าจะสิ้นสุดการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์
ผมคิดว่า ถ้าเจ้าของบริษัทจะเลี่ยงบาลีซะอย่าง
ก็ทำได้สบายมาก ใช้นอมินีมาซื้อก่อน
แล้วค่อยขายเทนเดอร์ฯให้ทีหลัง
แต่คงต้องเสียค่าคอมสองต่อ
ดังนั้น บริษัทที่มีธรรมาภิบาลดีๆ
คงไม่อยากจะทำ
UNI ยูไนเต็ดฟูดส์ หุ้นในหมวดอาหาร
ตัวนี้เข้าไปซื้อเพราะแอบแกะงบเก้าเดือน
โดยบริษัทไม่ยอมแจ้งงบไตรมาสที่สาม
แจ้งแต่งบเก้าเดือน
พอหักลบกับกำไรหกเดือนที่ผ่านมา
ที่แท้กำไรไตรมาสสาม ดีขึ้นมาก
ก็เลยเข้าไปซื้อแบบ
ไม่สนในสภาพคล่องคอเหมือนเดิม
ที่ราคาแถวๆ ๑๐ - ๑๑ บาท
โดยคิดว่า
ขอให้พีอีต่ำ พีบีวีต่ำ มียีลด์ก็พอใจแล้ว
ผมเข้าไปซื้อหลังประกาศงบไตรมาสสาม
และก่อนที่จะมีการประกาศงบไตรมาสที่ ๔
บริษัทได้ออกข่าว ขอทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์
ที่ราคา ๒๔ บาท !!!!!!!!!
จำได้ว่าคืนนั้น หลังอ่านข่าวจากเวปตลาดฯ
ผมนอนหลับสบายมากๆเลย
เพราะว่า
โชคดีจริงๆ ที่มีอินไซด์เข้ามาแค่สิบนาทีสุดท้าย
ก่อนจะปิดตลาดในวันศุกร์
ก็เลยยังงงๆ กับราคาที่กระโดดขึ้นมาแบบพรวดพราด
ขายทิ้งไปแค่สิบเปอร์เซนต์ของที่ถืออยู่เท่านั้น
ยูไนเต็ดฟูดส์เอาออกจากตลาดฯไปถือเอง
ส่วนเอเจพลาสท์ ซึ่งตอนนั้นผลประกอบการยังเน่าอยู่
อยู่ในตลาดฯต่อ จนผลประกอบการเริ่มดีขึ้น
และราคาหุ้นได้ถูกปั่น
จนขึ้นไปมากกว่ายี่สิบเท่า
แถมแจกฟรีวอร์แรนท์ใช้สิทธิ์ได้ครั้งเดียวอีกด้วย
ลืมเล่าไปนิด หุ้นตัวนี้ ผมขายทิ้งในตลาดฯจนหมด
เพราะบางส่วนเสียส่วนต่างแค่ ยี่สิบห้าสตางค์
ส่วนที่เหลือ มีมือดีมาตั้งซื้อเท่ากับราคาเทนเดอร์ออฟเฟอร์
ที่ ๒๔ บาท เลยขายทิ้งจนหมด
ขี้เกียจจะเซนต์เอกสารกับรอรับเช็ค
UTL ยูนิไทไลน์เป็นหุ้นในหมวดขนส่ง
ตัวนี้น่าจะเป็นเพียงตัวเดียว
ที่ผมมั่นใจค่อนข้างมากว่า
จะต้องมีการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์เพื่อออกจากตลาดฯ
เพราะจากการดูผู้ถือหุ้นรายใหญ่เมื่อปี ๒๕๔๖
ปรากฏข้อมูลดังนี้
1 นาย ชวลิต เชาว์ 113,288,290 50.25 %
2 LIN HOLDINGS INC., MARSHALL ISLANDS 48,785,634 21.64 %
3 MACST TRUST INC., LIBERIA 45,587,710 20.22 %
4 CATHAY TRUST INC., LIBERIA 14,400,000 6.39 %
ดูปั๊บก็เดาได้ว่า มีซุกหุ้นแน่ๆ
ก็เลยซื้อไว้ที่หกบาทปลายๆ บวกเจ็ดบาทต้นๆ
เหมียนเดิม ใครๆก็บ่นว่า
หุ้นไม่มีสภาพคล่องคอ
ซื้อแล้วก็ถือรอ รอ และรอ
วันเวลาที่เจ้าของจะเอาหุ้นออกจากตลาด
เพราะสภาพคล่องคอมันหมดแล้วจริงๆ
รายย่อย ห้าร้อยกว่าคน ถือหุ้นรวมกันแค่ ๑.๕๐ %
จังหวะที่คุณชวลิต เชาว์เข้ามาทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์
มันเป็นวงจรขาขึ้น ของพวกหุ้นเรือประเภทเทกองพอดี
ตัวนี้ไม่แน่ใจว่า จะมีอินไซด์ค่อยๆตามเก็บหรือเปล่า
แต่ราคาก็กระโดดจากแถว ๘ บาทต้นๆ
ขึ้นไปที่ ๑๑ ในทันทีหลังข่าวออกแล้ว
ถ้ามีอินไซด์ ก็คงทำกันแค่ พอหอมปากหอมคอ
ประเภทซื้อตามน้ำ
ซึ่งผมก็ได้ขายตามน้ำไปในตลาดฯ
ในราคาที่มีส่วนลดประมาณสองสามเปอร์เซนต์
จากราคาเทนเดอร์ออฟเฟอร์ที่ ๑๑.๒๐ บาท ???
เรื่องตลกร้ายที่ตามก็คือ
ถึงเจ้าของจะประกาศทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ไปแล้วหนึ่งรอบ
ยังมีการขยับราคาเทนเดอร์เป็นก๊อกที่สองตามมาอีก
ทำเอาต้องกัดฟันกรอดๆที่เสียรู้ (แต่ได้เงิน)
ที่ตลกสุดโหดร้ายไปกว่านั้นก็คือ
พวกมืออาชีพในตลาดฯ
จัดการปั่นยูนิไทยตามกระแสพวกเรือเทกอง ขึ้นไปอีก
จนแพงกว่าเทนเดอร์ออฟเฟอร์เกือบหนึ่งเท่าตัว
ราคาสูงสุดที่ปั่นคือ ๒๑ บาท !!!!!!!
ระหว่างนั้น บรรดาแมลงเม่าที่ตามเข้าไปเล่น
ตามเสียงเชียร์ในเวปบอร์ด ตามเสียงเชียร์ของมาร์เก็ตติ้ง
ก็เล่นไปเสียวไปกลัวหุ้นจะโดนเอาออกจากตลาดฯ
แต่ก็มีพวกกูรู้ มาชี้แนะว่า
ไม่ต้องกลัว เจ้าของไม่เอาออกหรอก
แค่ซื้อตามกฏของ กลต.
ไม่งั้นราคาไม่ขึ้นมาขนาดนี้หรอก
ข้าพเจ้าอ่านเจอในเวปบอร์ดก็ได้แต่ปลงๆ
ไม่กล้าออกความเห็น เดี๋ยวจะกลายเป็นพวกองุ่นเปรี้ยว
เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รอง
เรื่องอะไรจะเอากระดูกมาแขวนคอ
และแล้วสิ่งที่แมลงเม่าหุ้น
ไม่อยากจะได้ยิน ไม่อยากจะอ่านก็ตามมา
ตลาดประกาศเพิกถอนหุ้นยูนิไทไลน์ออกจากตลาดฯ
ตามคำเสนอซื้อของเจ้าของกิจการ
นี่คือจุดจบที่ซ้ำชาก ของบรรดาแมลงเม่าหุ้น
ที่ตกเป็นเครื่องมือของข่าว จบโดนหุ้นเล่น
เข้าใจว่าแต่ละคนที่ซื้อเกินราคาเทนเดอร์ออฟเฟอร์
คงเซนต์ขายหุ้นไป น้ำตาตกไป
TMD หุ้นในหมวดหีบห่อ บรรจุภัณฑ์
การทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ของถังโลหะไทย
ดูราคาเสนอซื้อปั๊บ
ฟันธงทันทีว่า
เป็นการเสนอซื้อตามเทนเดอร์ออฟเฟอร์ประเภท ข. แน่นอน
แต่ราคาหุ้นก็ตกทันที
ตอบรับกับราคาเทนเดอร์ออฟเฟอร์
มีอย่างที่ไหน บุ๊คแวลู่ ๔๐ กว่า
ดันประกาศทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์แค่ ๙ บาท
เลยทำตัวเป็นหมูไม่กลัวน้ำร้อน
ทำนอง ใจกล้าแต่ขาสั่น
ตั้งเสนอซื้อที่ราคาสูงกว่าเทนเดอร์ออฟเฟอร์ประมาณ ๕๐ สตางค์
ด้วยใจที่เต้นตุบตับ กลัวเจ๊งจากราคาหุ้น
(เรื่องออกจากตลาดฯไม่กลัวอยู่แล้ว)
แล้วในที่สุด อานิสงส์ของความใจกล้าแต่ขาสั่น
ก็ทำให้ได้มาขายหมูหมดเล้าที่ ๑๕ บาทต้นๆ
สำหรับ safe คงเล่ากันจนเปื่อยหมดแล้ว
ไม่ต้องเล่าซ้ำอีก
แต่มีเกล็ดเล็กๆน้อยๆ ที่อยากจะบอกว่า
"คนคำนวณหรือจะสู้ฟ้าลิขิต"
ตอนที่คุณปรัชญาเอาพอร์ตที่ผมลบทิ้งไปแล้วที่ห้องสินธร
มาโพสที่ ทีวีไอ
ผมเสียววาบเลย
คิดว่าเดี๋ยวต้องมีการกดราคารับซื้อแน่ๆ
แล้วก็จริงๆด้วย
ราคาเริ่มไหลลงจาก ๗๐ ลงมาที่ ๖๗
ด้วยความไม่แน่ใจ เพราะจริงๆแล้ว
ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับราคาหุ้น
ก็เลยตัดสินใจทิ้งไปก่อน หนึ่งหมื่นห้าพันหุ้น
หยิบเงินล้านแรกขึ้นมาก่อน
กำลังจะตัดสินใจขายต่อดีหรือเปล่า
ก็ถึงเวลาที่ต้องไปรับลูก
ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันพอดี
ก็เลยตัดสินใจว่า
กลับมาจากรับลูกก่อน
แล้วค่อยตัดสินใจอีกที
ระหว่างทางที่ขี่จักรยาน พาลูกกลับมาจากโรงเรียน
โบรกเกอร์ธนชาตได้โทรเข้ามือถือ
แจ้งว่า วันนี้ เซฟ ขึ้นไปอีก สิบห้าบาท
ผมเลยบอกว่า ตอนนี้กำลังอยู่นอกบ้าน
เดี๋ยวกลับบ้านค่อยโทรบอก
ฟ้าลิขิตมาจริงๆ
กลับถึงบ้าน หุ้นโดน halt ไปแล้ว
ฟ้าคงลิขิตมา
ให้ได้ส่วนต่างอีกเกือบ สองล้านกว่าบาท
เอวังก็มีด้วยปการฉนี้แล
เดี๋ยวต้องไปรับลูกอีกแล้ว
tender offer : BY ขอบฟ้า จันทรา ดาบ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
tender offer : BY ขอบฟ้า จันทรา ดาบ
โพสต์ที่ 2
คนเขียนคือเฮียคลายเครียดครับ
กรุณาให้เกียรติแก่ผู้เขียนให้ถูกคนด้วยครับ
กระทู้ original อยู่ที่นี่ครับ
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=15567
กรุณาให้เกียรติแก่ผู้เขียนให้ถูกคนด้วยครับ
กระทู้ original อยู่ที่นี่ครับ
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=15567