หลักการบริหารบริษัท ประเทศไทย ผมว่ามันแปลกๆ

[คัดท้าย]

ถ้าเทียบกับบริษัท หลักการบริหารบริษัท ประเทศไทย ผมว่ามันแปลกๆ

ปกติในบริษัท สมมุติมีผู้ถือหุ้น 30 คน ยกมือเลือกตั้งผู้บริหาร มีผู้บริหารคนนึง ได้เสียงจากผู้ถือหุ้น 19 คน ก็ได้ทำการบริหาร แต่บริษัทก็ยัง มี Auditor มีผู้ตรวจสอบบัญชี ทำงานต่อไป ไม่ว่าผู้บริหารจะเลือกกี่เสียง เพราะว่า ไม่ว่าผู้บริหารจะได้กี่เสียง ก็ไม่ได้แปลว่าผู้บริหารจะไว้ใจได้ 100%

พอมาดูบริษัทประเทศไทยแล้ว แปลก .. ผู้บริหารได้เสียง 19 ล้าน ได้ผู้แทนท่วมท้น ... รัฐธรรมนูญไทย บอกว่า Auditor หรือ ผู้ตรวจสอบบัญชี ที่รู้จักกันดีในนาม ฝ่ายค้าน ไม่ต้องทำงาน ทำงานไม่ได้

และ แปลกคือ ให้ล่ารายชื่อ ผู้ถือหุ้น 50,000 ชื่อ เพื่อถอดถอนผู้บริหารได้ ซึ่งเทียบแล้วไม่ถึงเสียงผู้ถือหุ้น 1 จาก 30 ด้วยซ้ำ

มานั่งคิดแล้วมันแปลกดี ....

[ครรชิต ไพศาล]

ถ้าคุณเป็น ที่ปรึกษา ของบริษัทนี้ คุณจะให้คำปรึกษาว่าอย่างไรครับ เพื่อแก้ปัญหา ???

ในความเห็นผม ก็ยังเป็นความเห็นเดิมที่ผมเคยพูด

ถ้ายึดหลักของกระบวนการยุติธรรม
ผู้ถูกกล่าวหา ยังเป็นผู้บริสุทธิ ตรายใดที่ยังไม่มีคำพิพากษาศาลเป็นอันสิ้นสุด  ว่าผิดจริง
ถ้าผิดจริง ให้ศาลพิพากษา เอาเข้าคุก จึงจะประณามเขาว่า เป็นคนชั่วช้าสามาน
ตราบใดที่ข้อกล่าวหา  ยังเป็นเพียงข้อสงสัยของคนบางคน ไม่มีคำพิพากษาศาลเป้นอันสิ้นสุดว่าผิดจริง ต้องยกประโยชน์ให้ผู้ถูกกล่าวหา

ยกตัวอย่างเช่นคดีดังของ  เชอรีแอน ดันแคน  เป็นต้น
คนถูกคำพิพากษาศาล ว่าผิดจริง ฆ่าคนตายโทษมหันต์
ไปๆมาๆ กลับตาลปัตร กลายเป็นว่า ศาลไปลงโทษคนบริสุทธิ
เพราะผู้กล่าวหาสร้างพยานเท็จ ขึ้นมาพูดโกหก ให้ศาลเชื่อว่า
จำเลยฆ่าคนตายโดยเจตนาไตรตรองไว้ก่อน


ถ้ายึดหลักในทางการเมือง
ตราบใดที่ข้อกล่าวหา  ยังเป็นเพียงข้อสงสัย ไม่มีคำพิพากษาศาลว่าผิดจริง
ต้องโหวดเสียง สนับสนุนว่า ใครเชื่อว่าผิด ใครไม่เชื่อว่าผิด
ผมไม่ใช้คำว่า ผิดจริง ผมใช้คำว่า ผิด ตามความเห็นความเชื่อของแต่ละฝ่าย

เสียงฝ่ายไหนมากกว่ากัน ทุกฝ่ายก็ต้องยอมรับ
ว่าเป็นไปตามมติเสียงข้างมาก นั้น

[ครรชิต ไพศาล]

ถ้ายึดหลักจริยธรรม
โลกในอุดมคติ ก็ต้องไปอยู่วัด
แต่ขนาดเป็นบวชพระอยู่วัดแล้ว ก็ยังละเมิดศีล มีให้เห็นเยอะแยะไป

อย่าหวังให้ได้ ดังใจเราไปทุกอย่าง ในสังคมของคนหมู่มาก

[ครรชิต ไพศาล]

ถ้ายึดหลักจริยธรรม
โลกในอุดมคติ ก็ต้องไปอยู่วัด ตัดความวุ่นวายทางโลก
แต่ขนาดบวชเป็นพระอยู่วัดแล้ว ก็ยังละเมิดศีล มีให้เห็นเยอะแยะไป

อย่าหวังให้ได้ ดังใจเราไปทุกอย่าง ในสังคมของคนหมู่มาก

[WaveRider965]

ต้องเชื่อในการตรวจสอบ ว่าบริสุทธิ์ หนึ่ง
ต้องเชื่อในศาล ว่าบริสุทธิ์ หนึ่ง
ต้องหาหลักฐานชัดเจน เพียงสงสัย
มีหลักฐานไม่เพียงพอ ให้สงบไว้

หลักของทุนนิยม ต้องการความสงบเรียบร้อย
ความวุ่นวาย ย่อมทำลายบรรยากาศการลงทุน
การเมืองต้องนิ่ง CEO เลือกมาแล้วก็ต้องฟัง
จะเลือกมาแล้ว คัดค้านกันทีหลังนั้นไม่ควร

สส. สว. นั้นรวมกันเป็นหนึ่ง มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน
แสดงความเป็นหนึ่งเดียวกัน สร้างความมั่นคงสูง
องค์กรอิสระ ที่เหมือน auditor ก็รองรับการทำงานของรัฐ อย่างเข้มแข็ง
จะหานายกคนไหน มีอำนาจ บารมี เท่านี้ได้อีก
จะหารัฐบาลไหน มีความมั่นคง เท่านี้ได้อีก

จริยธรรม นะหรือ เป็นเรื่องจับต้องไม่ได้ ขึ้นศาล ไม่มีใครรับ
มาตราฐาน จริยธรรม อยู่ที่ไหน ใครกำหนด
ผิดถูก ต้องให้ศาล ตัดสิน ศาลไม่รับตัดสิน ก็แสดงว่า ไม่มีมูล
ก็ควรเลิกวิจารณ์ เพราะจะเป็นการหมิ่นศาล และไม่ยอมรับกติกา
หากต้องการ ก็หาหลักฐาน หาใบเสร็จที่แน่นหนา มาส่งให้กับศาล
ศาลก็จะไม่ต้องผิดพลาด ลงโทษคนบริสุทธิ์ อย่างที่เคยเกิด

คิดดูให้ดี จะไปลำบากทำไม แค่นี้ก็พออยู่พอกิน
ปล่อยวางเสียบ้าง ใจก็สงบ ชีวิตก็สบาย



เต่านอกกะลา ... เริงร่าในทุนนิยม (1)

[ครรชิต ไพศาล]

ถ้าไม่เช่นนั้น ก็ต้องเลือกทาง เป็นนักปฏิวัติสังคมอุดมการณ์
อย่างวีรชนในอดีตเช่น  คุณ จิต ภูมิศักดิ์ คุณ อัสนี พลจันทร์

ซึ่งมันก็เป็นไปไม่ได้ ในสังคมของคนหมู่มาก ปลงเสียเถอะโยม  :lol:

[คัดท้าย]

ถ้ายึดหลักจริยธรรม
โลกในอุดมคติ ก็ต้องไปอยู่วัด ตัดความวุ่นวายทางโลก
แต่ขนาดบวชเป็นพระอยู่วัดแล้ว ก็ยังละเมิดศีล มีให้เห็นเยอะแยะไป

อย่าหวังให้ได้ ดังใจเราไปทุกอย่าง ในสังคมของคนหมู่มาก

ซื้อหุ้นของกิจการที่ดี มีกำไรต่อเนื่อง ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ ในเวลาที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ และ ถือมันไว้ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดี ไม่มีสูตรสำเร็จในการคิดมูลค่าที่แท้จริงของกิจการ คุณต้องรู้ซึ่งในกิจการ นั้นๆ

ผมยังไม่ใช่ VI ครับ ผมไม่เคยเรียกร้อว ผู้บริหารดีมีคุณธรรมขนาดขาวสะอาดแบบ VI

แต่ว่า ผมมองเป้าหมายของผมเป็นหลัก ผมเชื่อในความโลภ ความกลัว ความอยาก ความลำเอียง ความรัก ความเกลียด ของทุกคน ผมก็มี ใครๆ ก็มี

ผมจึงเชื่อว่า ระบบต้องดี เพราะหากระบบไม่ดี ระยะยาวมันก็ไม่มีทางดี ใน Techincal Trading เค้าถึงมีคำสอน ให้กำหนด เทรดดิ้ง ซิสเต็ม ขึ้นมา เพราะใจคนนั้นเอาแน่นอนไม่ได้

ผมจึงเชื่อว่า ระบบต้องดีครับ ผมไม่เคยคิดว่าคนต้องสมบูรณ์แบบ ในระบบของ Technical Analysis ไม่มีความจำเป็นที่เราต้องซื้อ High ขาย Low ไม่มีใครหวังแบบนั้น เพราะไม่ได้ต้องการระบบที่สมบูรณ์แบบ แต่ต้องการระบบที่ใช้งานได้จริงในเชิงปฏิบัติ

ระบบการเมือง ผมว่าก็เหมือนกัน คงไม่มีระบบที่สมบูรณ์แบบ แต่ต้องเป็นระบบที่ดีพอ ว่าจะใช้งานได้จริงในเชิงปฏิบัติ ถ้าระบบเล่นแล้วขาดทุน ก็ต้องปรับระบบ

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ระบบการเมือง ผมว่าก็เหมือนกัน คงไม่มีระบบที่สมบูรณ์แบบ แต่ต้องเป็นระบบที่ดีพอ 

ระบบที่ดีพอ บางคนอาจจะบอกว่าเอาอะไรมาวัด

ผมเสนอว่า มีทางวัดได้ง่ายมาก จากสามัญสำนึก

เช่น บริษัทหนึ่ง พนักงาน 100 คน ลูกค้าตรึม อยู่เย็นเป็นสุข ไม่มีการร้องเรียนกรมแรงงาน ไม่มีการฟ้องร้อง จากลูกค้า ไม่มีการฟ้องร้องลูกค้า

ทุกคนทำงาน ยิ้มแย้มแจ่ใส >>>> แน่นอน ทุกบริษัทหวังแบบนี้ แต่อาจจะไม่ 100 %

กับอีกบริษัทหนึ่ง พนักงาน ลูกค้า เท่ากัน เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดี ตัวพนักงานเองก็ไม่พอใจ มีปัญหาการเอารัดเอาเปรียบ ต้องไปฟ้องร้องกรมแรงงาน อัตราการลาออก เกินเกนมาตรฐาน ต้นทุนการจัดการแพง เพราะมัวแต่รับพนักงานใหม่มาฝึกหัด ลูกค้าเริ่มบ่น ว่าบริการเริ่มแย่ อยากเปลี่ยน

เหอๆ ทั้งสองบริษัท ทำถูกกฎหมายเหมือนกัน หรือ ถ้าบริษัทที่สองทำผิดก็ไปฟ้องศาลดิ แล้วศาลตัดสินก็ถือว่าจบ

อืม ในความคิดของผม ศาลตัดสินไม่ได้แก้ให้ระบบดีขึ้น เพียงแต่ พอมีหลักความยุติธรรมให้คนมีทางออก ต่อให้ศาลตัดสิน ถ้าบริษัทที่สองไม่แก้ไขปรัชญาในการบริหาร สุดท้าย ก็ต้องเสื่อมและตกต่ำในที่สุด

[คัดท้าย]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ระบบการเมือง ผมว่าก็เหมือนกัน คงไม่มีระบบที่สมบูรณ์แบบ แต่ต้องเป็นระบบที่ดีพอ 

ระบบที่ดีพอ บางคนอาจจะบอกว่าเอาอะไรมาวัด

ถ้าเป็นเรื่องระบบหุ้น ระบบเทรดที่ดีคือ

1. ต้องออกแบบให้เล่นแล้วกำไร
2. และต้องกำไรในระยะยาว ไม่ใช่ 3 วันดี 4 วันไข้
3. ระบบต้องออกแบบให้สามารถรับมือกับภาวะตลาดในหลายๆแบบได้ เช่น ขาลง ขาขึ้น หรือ sideway เพราะจะพบว่าระบบบางระบบกำไรดีเชียวในบางภาวะ แต่พอเข้าบางภาวะ เจ๊งเละเทะ
4. ระบบจะต้องปฏิบัติได้จริง

[ครรชิต ไพศาล]

ถึงแม้เราหวังว่าจะมองหา ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ
แต่ ผมก็เชื่อ เช่นเดียวกัน กับ คุณ คัดท้าย  
ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งจะสมบูรณ์แบบ จนไม่มีที่ติ
ไม่มีระบบไหนที่สมบูรณ์แบบ จนไม่มีทีติ เช่นกัน


เราจึงต้องชั่งน้ำหนัก ระหว่างข้อดี กลับข้อเสีย ของระบบและคนคนนั้นดู

ว่า ข้างดี กับ ข้างเสีย ข้างไหนมีมากกว่ากัน

ดังกลอนที่ท่านพระพุทธทาส เขียนไว้ว่า

โค้ด: เลือกทั้งหมด

                                 มองแต่แง่ดีเถิด

  เขามีส่วนเลวบ้างช่างหัวเขา               จงเลือกเอาสิ่งดีเขามีอยู่
เป็นประโยชน์โลกบ้างยังน่าดู                ส่วนที่ชั่วอย่าไปรู้ของเขาเลย
  จะหาคนมีดีโดยส่วนเดียว                  อย่ามัวเที่ยวค้นหาสหายเอ๋ย
เหมือนเที่ยวหาหนวดเตาตายเปล่าเลย    ฝึกให้เคยมองแต่ดีมีคุณจริง 

วันนี้ผมอ่านบทสนทนา ในฤดูหนาว ของ พระราชา  กับ จังกึม  

พระราชา.."หน้าหนาวปีที่แล้วหนาวมาก จนมีราษฎรหนาวตายไปเยอะ แต่พอผ่านไป ฤดูใบไม้ผลิก็เข้ามาแทน"
จังกึม.."แต่อย่าทรงคิดว่า ความหนาวเป็นความโหดร้ายสำหรับเรา"
พระราชา.."เพราะอะไร"
จังกึม.."เพราะความที่อากาศหนาว ต้นข้าวสาลีถึงได้งอกงาม ราษฎรตายดูอนาถจริงๆ
แต่อย่างน้อยคนที่อดอยากได้ลดลงบ้าง หน้าหนาวอากาศเย็น ผู้คนล้มตายมากขึ้น
เหลือฤดูกาลอีกสามฤดู โรคติดต่อก็จะน้อยลงไปด้วย อีกเพคะ
ฉะนั้นถ้าปีนี้หนาวจัดอีก เราจะได้เตรียมดูแลผู้ป่วยให้ดียิ่งขึ้น
แต่ถ้าหนาวน้อย เราก็จะเตรียมรับมือกับโรคระบาด
ธรรมชาติคอยสอนเราอยู่เสมอ เราจึงต้องเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติ"

สำหรับ พระราชา ฤดูหนาวช่างแสนจะโหดร้าย
สำหรับ จังกึม ผู้มองโลกในแง่ดี ก็ยังเห็นส่วนดีของฤดูหนาว


ในการลงทุนถ้าเราเลือกผิด เราก็ขายทิ้ง เปลี่ยนใหม่ ได้ทันทีไม่มีกฏบังคับ


แต่ในทางการเมือง เรานึกจะเปลี่ยนเมื่อไรก็เปลี่ยน คงไม่ได้ เพราะมีกฏกติกาบังคับ
ระบบของเรา ถ้าเราไม่ชอบ เลือกตั้ง 4 ปีครั้งหน้า ก็เลือกคนใหม่ได้

จะไปบังคับให้นายก ลาออก นายก เขาก็บอกว่าเขาไม่ได้ทำผิด กติกา
จะไปยุบสภา เพื่อเลือกนายกใหม่  ซึ่งก็ต้องทำตามกติกากำหนดไว้
ตัวนายกเองจะยุบสภา ก็ต้องทำตามกฏกติกาที่ตั้งไว้

นายกบอกว่า นายกก็คือผลผลิต ของ กฎกติการะบบปกครองที่กำหนดไว้ ก่อนหน้าแล้ว นายกไม่ได้เขียนเอง

"เราก็คงต้องเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับกฎกติการะบบปกครองที่กำหนดไว้"

เช่นเดียวกับ ที่ จังกึมพูด

"ธรรมชาติคอยสอนเราอยู่เสมอ เราจึงต้องเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติ"

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

"ธรรมชาติคอยสอนเราอยู่เสมอ เราจึงต้องเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติ"

ธรรมชาติ ของประชาธิบไตย คือ ใช้เสียงข้างมาก เลือก นายกเข้ามา

ธรรมชาติ ของประชาธิบไตย เมื่อไม่พอใจการทำงาน บางด้าน ก็อยากจะพูด เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือพูดในสื่อ เช่น รายการเมืองไทยรายสัปดาห์

เมื่อไม่สามารถทำได้ ก็เกิดแรงบีบคั้น เพราะธรรมชาติ มันเป็นอย่างนั้นเอง

แรงบีบคั้นที่มากขึ้นของสังคม ก็เลยระเบิดออกมาเป็นการประท้วง

อืม ผมคิดว่า นายกมั๊งครับ ที่ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้ากับธรรมชาติ

เหอๆ

[WaveRider965]

เป็นมุมมองที่เยี่ยม ส่องสว่าง ให้ดวงตาเห็นธรรม

ส่วนดีไม่รู้จักดู ขุดขุ้ยดูแต่ของเน่า
แล้วจะเห็นคุณค่าได้อย่างไร แล้วจะมีประโยชน์ตรงไหน
ดี ครึ่ง เน่า ครึ่ง ก็ยังดีว่า เน่าหมด
ปรับตัวสักหน่อย ปิดตาข้างหนึ่ง ปิดจมูกข้างหนึ่ง
ดูแต่ของดี ดมแต่สิ่งหอม
ชึวิตก็สดชื่นแจ่มใส ไร้สิ่งมัวหมอง
ผู้คนปรองดอง สังคมรุดหน้า



เต่านอกกะลา ... เริงร่าในทุนนิยม (7)