ทักษิณติว ซื้อ 'มติชน' ถือว่าโง่/เหตุถอด เมืองไทยรายสัปดาห์

[Onokung]

เมื่อเวลา 08.30 น. วานนี้( 22 ก.ย. )ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในรายการ นายกฯทักษิณพบสื่อมวลชน ถึงกรณีนายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ผู้บริหารบริษัทจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เข้าซื้อหุ้นบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และบริษัทโพสต์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) ว่า สื่อบางสื่อ ที่เป็นบริษัทไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เป็นการถือหุ้นโดยบุคคลเจ้าของกิจการ กรณีนี้ใครเข้าไปซื้อไม่ได้ ส่วนบริษัทที่ไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หมายความว่าใช้เงินชาวบ้านทั้งนักลงทุนรายย่อยรายใหญ่ไปขยายกิจการ เจ้าของเดิมถือหุ้นลดลง ถ้าต่อมาเจ้าของหุ้นเอาหุ้นที่มีอยู่ขายออกไปอีก ได้เงินไปใช้เรียบร้อยแล้ว แสดงว่าตัวเองลดการถือครอง หุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลัก ทรัพย์จึงเป็นหุ้นที่เสรีมีการซื้อขายทั่วไป ใครเข้าไปซื้อขายก็มีสิทธิที่จะถือหุ้นตามนั้น ถ้าไม่อยากให้ใครซื้อขายหุ้น ไม่อยากให้ใครครอบงำ ต้องอย่าขายหุ้นตัวเองหรือกลุ่มของตัวเองให้เหลือต่ำกว่า 51% นี่คือหลักทั่วไป แต่ ในเมื่อขายไปแล้วจนเหลือน้อย ใครก็สามารถเข้าไปตรวจสอบ ในตลาดได้ว่าแต่ละคนถือหุ้นเท่าไหร่ หากเห็นว่าเจ้าของเดิมถือหุ้นอยู่น้อยแล้วจะเข้าไปซื้อ อันนั้นเป็นเรื่องของตลาดทุน ถ้าไม่อยากให้ใครเข้ามายุ่งก็ไม่ต้องไปจดทะเบียน ไม่ปล่อยหุ้นลอยอยู่ในตลาด

ลั่นไม่โง่หนุนหลัง อากู๋ ซื้อหุ้น

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า เรื่องนี้ที่ต่างประเทศมีกันบ่อย เรียกว่า Hostile Takeover เป็นการเทกโอเวอร์โดยการแอบซื้อหุ้นจนถือหุ้นมากกว่าเจ้าของเดิม แต่ในประเทศไทยเพิ่งเกิด คือไปซื้อหุ้นที่ต่างประเทศถืออยู่ เมื่อซื้อก็มีหุ้นมากขึ้นและเกิดการเจรจา เข้าใจว่าตอนนี้เจรจาเป็นที่ยุติแล้ว ระหว่างผู้ถือหุ้นเดิมกับผู้ถือหุ้นใหม่ ตกลงกันด้วยดี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือพยายามจะลากผมเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย กรุณาอย่าลากผมเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ด้วยเหตุผลทางการเมืองก็ถือว่าโง่ถ้าทำ เพราะสื่อไม่ได้มีฉบับเดียว มีสื่อเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด ฉบับที่ยอดขายสูงที่สุดคือไทยรัฐ ก็รู้จักกันดี ฉบับยอดขายสูงอันดับ 2 คือเดลินิวส์ ฉบับที่ยอดขายอันดับ 3 คือมติชน ผมก็รู้ จักกันดี ทำไมผมต้องเข้าไปเป็นเจ้าของ ไม่มีความจำเป็น โดยเหตุผลทางธุรกิจถ้าทำก็โง่อีก ทำไมต้องลงทุนอย่างนี้ และตัวผมเองก็ถือว่าไม่ได้สนใจ เรื่องทางธุรกิจแล้วตั้งแต่ มาเป็นนายกฯ ไม่เคยคิดเรื่องธุรกิจเลย เพราะฉะนั้นทั้ง เหตุผลทางการเมืองและธุรกิจถ้าตัดสินใจอย่างนั้นก็คือโง่

วอนสื่อยอมรับกติกาสากล

นายกรัฐมนตรีล่าวว่า สำหรับนายไพบูลย์จะตัดสินใจอย่างไรก็เป็นเรื่องของเขา เงินของเขา ธุรกิจของเขา ไม่เกี่ยวกับตน ถึงนายไพบูลย์จะยิ่งใหญ่หรือเล็กลงก็ไม่เกี่ยวกัน แม้ว่าจะรู้จักกันดีก็ตาม ความจริงก็รู้จักกันดีทุกคน ประเทศไทยแคบจะตาย ดังนั้นกรุณาอย่าลากเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่บางกอกโพสต์มายืนชี้ตึก ไอ้นี่เสื่อมเสีย ประเทศเสียหาย คุณอยากเล่นอะไรก็เล่น แต่อย่ามาเล่นที่ตึกทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องของประเทศ ต้องยอมรับว่าเมื่อมีการโฟลทหุ้นในตลาดหลัก ทรัพย์หุ้นก็เปลี่ยนมือตลอดเวลา ถ้าไม่อยากเปลี่ยนมือก็สามารถเอาออกจากตลาดได้ หากจะต่อยมวยสากลต้องใช้กติกาสากล

ย้อนเกล็ดเจ้าของเดิมขายหุ้นซื้อบ้าน

เรื่องของการซื้อหุ้นเป็นเรื่องของตลาดทุน เมื่อโฟล์ทแล้วหุ้นจับเปลี่ยนมืออย่างไรก็เป็นสิทธิของผู้ซื้อที่ซื้อแล้วจะขายต่อ สมมติว่าผมมีหุ้นจำนวนหนึ่งในสมัยที่ทำธุรกิจ มีคนมาขอซื้อหุ้นเป็นบล็อก ผมก็ขาย เป็นเสรีภาพของคนที่ซื้อขายหุ้นในตลาด กติกาเป็นอย่างนี้ต้องยอมรับ อย่างการเพิ่มทุนเอาให้ในตลาดเริ่มต้น 20% เจ้าของเดิมเหลือ 80% ต่อมาเจ้าของเดิมเกิดอยากปลูกบ้าน เลยขายหุ้นเอาเงินไปปลูกบ้าน หุ้นก็ต้องหายไปเป็นธรรมดา คนที่ซื้อไปถ้าราคาหุ้นขึ้นก็ขายทำกำไร อันนี้คือกติกาที่ต้องยอมรับ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว

ชี้แบงก์ปล่อยกู้เพราะเชื่อเครดิต

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่บอกว่าเรื่องนี้ถ้ามองในเชิงธุรกิจ ถ้าทำก็ถือว่าโง่ อยากทราบว่าเหตุใดธนาคารพาณิชย์ถึงยอมปล่อยกู้ ให้เอาเงินเป็นพันล้านบาทมาเสี่ยงซื้อหุ้นของสื่อ และสมมติว่านายกฯยังเป็นนักธุรกิจอยู่ จะสนใจซื้อหุ้นบริษัทมติชนหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า การลงทุนซื้อหุ้นในตลาดมีเหตุผล 2-3 เหตุผล 1. คาดว่าหุ้นจะขึ้นก็ซื้อเพื่อทำกำไร 2. ซื้อหุ้นเพราะคาดว่าผลประกอบการจะดี ได้รับเงินปันผลมากกว่าดอกเบี้ยในการเอาเงินไปฝากธนาคาร 3. ถ้ามีธุรกิจอยู่แล้วหวังว่าจะใช้ประโยชน์ จากการเป็นพันธมิตรกัน เช่น ใช้ฐานข้อมูล ใช้เรื่องการตลาดบ้าง ถ้าผมไม่อยู่ในการเมืองก็ต้องดูว่าจะลงทุนในฐานะอะไร ถ้าในฐานะนักลงทุนต้องดูว่าผลประกอบการดีไหม พีอีเป็นกี่เท่า ถ้าพีอี 20 เท่า ก็ไม่รู้จะลงทุนทำไม ถ้าพีอีเจ็ดแปดเท่าอันนี้น่าสนใจ ส่วนธนาคารพาณิชย์ที่ปล่อยกู้ก็ต้องมองว่าใครกู้ มีอะไรรองรับอยู่ข้างหลัง แต่ถ้าเป็นการปล่อยกู้ที่มีโครงการ (Project Financing) ก็ต้องดูว่าโครงการนี้มีความเป็นไปได้หรือไม่ แต่ถ้าเป็นการกู้โดยบริษัทที่มีแหล่งรายได้หลายแหล่ง ก็เป็นเหตุผลอีกเรื่อง ผมไม่รู้ในรายละเอียด แต่หลักการของธนาคารเป็นอย่างนี้

ติงอย่าวิจารณ์ด้วยอารมณ์

เมื่อถามว่า กรณีที่แกรมมี่เข้าไปซื้อหุ้นบริษัทมติชนและบางกอกโพสต์ ซึ่งแกรมมี่เป็นบริษัทสื่อด้านบันเทิงอยู่แล้ว แต่เข้าไปซื้อหุ้นหนังสือพิมพ์ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทยอีก ตรงนี้อาจเป็นการผูกขาดในการเสนอข่าวสารแก่ประชาชนได้ ดังนั้น จะมีการออกกฎหมายควบคุมดูแลการซื้อหุ้นข้ามสื่อหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า แม้ในตลาดจะมีการซื้อขายหุ้นได้ แต่การจะเข้าไปบริหารได้หรือไม่อยู่ที่ผู้ถือหุ้นทั้งหมดโหวตกัน สมมติแกรมมี่ถือหุ้น 30% และผู้ถือหุ้นเดิมถืออยู่ 30% เวลาประชุมผู้ถือหุ้นใหญ่ก็จะโหวตกันว่าจะให้ใครเป็นผู้บริหาร เพราะยังมีผู้ถือหุ้นอยู่อีก 40% ซึ่งเขาก็เชื่อใจผู้ถือหุ้นเดิม จึงมีโอกาสบริหารงานต่อ ผู้ถือหุ้นเป็นผู้เลือกกรรมการ จากนั้นกรรมการจะตั้งผู้บริหาร ถ้ากรรมการส่วนใหญ่มาจากผู้ถือหุ้นกลุ่มไหน กลุ่มนั้นจะเป็นฝ่ายตั้งผู้บริหาร เป็นระบบของกฎหมายที่จะต้องเข้าใจกัน ถ้าไม่เข้าใจกฎหมายก็จะพูดโดยใช้อารมณ์ นอกจากนี้ ถ้าแกรมมี่ไปซื้อได้หมดจะครอบงำผู้บริโภคได้ไหม เพราะจากผลสำรวจพบว่าประชาชนที่รู้ข่าวสาร 80% มาจากสื่อทีวี 12% มาจากหนังสือพิมพ์ทุกฉบับรวมกัน และอีก 8% มาจากวิทยุ เพราะฉะนั้นเรื่องครอบงำไม่มีหรอก และตอนนี้ทุกอย่างแฮปปี้เอ็นดิ้งแล้วไม่ใช่หรือ ในเมื่อทั้งสองฝ่ายออกมาแถลง ข่าวชื่นมื่นแล้วว่าไม่เข้าไปครอบงำ ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว ถือหุ้น 20% อีกกว่า 10% ขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม ก็จบแล้ว

กฎหมายป้องกันผูกขาดอาจทำให้หุ้นตก

ผู้สื่อข่าวแย้งว่า ส่วนใหญ่สื่อทีวีจะเอาข่าวจากหนังสือพิมพ์มาขยายผลนำเสนอต่อ สื่อหนังสือพิมพ์จึงเป็นสื่อหลัก ถ้ามีการเป็นเจ้าของกิจการหลายๆสื่อก็อาจมีการครอบงำประชาชนได้ ตรงนี้จะมีมาตรการป้องกันหรือควบคุมไม่ให้มีการถือหุ้นข้ามสื่อจนมีอำนาจในการ บริหารสื่อทีเดียวหลายๆสื่อหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า ไม่มีปัญหา เป็นเรื่องของสมาคมสื่อจะคุยกันก่อนแล้วเสนอมายังรัฐบาลก็ได้ ถ้ารัฐบาลเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ เป็นที่ปรารถนาของผู้ประกอบวิชาชีพด้านนี้ ก็พร้อมสนับสนุนและออกกฎหมาย แต่ปัญหาคือราคาหุ้นของกลุ่มสื่อในตลาดอาจจะมีปัญหา เพราะมันไม่ฟรีโฟล์ท ทำให้ดีมานด์ซัพพลายมีปัญหา

ย้ำเหตุถอด เมืองไทยรายสัปดาห์

เมื่อถามว่า กรณีทางช่อง 9 สั่งถอดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ เป็นการแทรกแซงสื่อหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า เป็นเรื่องของ อสมท ที่เป็นผู้ให้เช่าเวลากับคู่สัญญา รัฐบาลไม่เกี่ยว แต่ทราบมาว่า ทั้งประธานและผู้จัดการ อสมท ได้ไปปรึกษาส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้น ถ้ามีอะไรที่คิดว่าไม่เหมาะสม ทำให้เจ้าของช่องอาจถูกฟ้อง เจ้าของช่องก็ต้องดูแล ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่รัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้น อสมท เกิน 50% อาจถูกมองว่ารัฐบาลเกี่ยวข้องและเข้าไปแทรกแซง ทำให้รายการนี้ถูกถอดออก เพราะนำเสนอเรื่องพระราชอำนาจ พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า ทาง อสมท ได้สอบถามกับสำนักราชเลขาธิการแล้ว เพราะการพูดจาในรายการนี้มีความไม่เหมาะสมต่อเนื่องมานาน

ฝ่ายค้านยื่นตีความคุกคามสื่อ

อีกด้านหนึ่ง เวลา 15.00 น. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) และนายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปยื่นหนังสือต่อ พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา เพื่อให้สอบสวนข้อเท็จจริงและเสนอเรื่อง พร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครอง เพื่อวินิจฉัยกรณีการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนและสื่อมวลชน โดยนายอภิชาตกล่าวว่า ได้ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบกรณีที่บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ระงับสัญญาเช่าเวลาการจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ที่มีนายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นผู้ดำเนินรายการ เข้าข่ายละเมิดสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 37 มาตรา 39 และมาตรา 41 วิปฝ่ายค้านจึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา พิจารณาว่าเรื่องดังกล่าวมีปัญหาดังที่ร้องมาหรือไม่ เพื่อเสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะได้วินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานสังคมต่อไป

สนธิ ประกาศฟ้องบอร์ด อสมท

บ่ายวันเดียวกัน ที่สำนักงานเครือผู้จัดการ ถนนท่าพระอาทิตย์ เขตพระนคร นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ในเครือผู้จัดการและสถานีข่าวผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี ได้เปิดแถลงข่าวถึงเรื่องการถูกถอดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ว่า ได้ปรึกษาทนายความแล้วเตรียมยื่นฟ้องคณะผู้บริหาร อสมท ประกอบด้วย นายเรวัต ฉ่ำเฉลิม นายธงทอง จันทรางศุ และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รวม 4 สำนวน โดย 2 สำนวนแรกเป็นคดีอาญา ข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา สำนวนที่ 2 ฟ้องคดีแพ่งฐานร่วมกันละเมิดสิทธิส่วนตัว เรียกค่าเสียหาย 1 บาท สำนวนที่ 3 ฟ้องในเรื่องธุรกิจ คือยกเลิกสัญญาอย่างไม่เป็นธรรม สำนวนที่ 4 เป็นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายมาตรา 157 เนื่องจากกลุ่มทั้งหมดเป็นข้าราชการร่วมกันกระทำให้ได้รับความเสียหาย ทั้งทางนิติบุคคลและบริษัท หากยกเลิกสัญญา แจ้งให้ทราบเป็นการส่วนตัวก่อนก็คงไม่มีปัญหา แต่กลับไปออกแถลงข่าวทางทีวี ทำให้ธุรกิจต่างๆได้รับความเสียหาย ส่วนกระแสข่าวลือว่าจะมีตำรวจกองปราบฯบุกเข้าไปตรวจค้นสำนักงานผู้จัดการ เรื่องนี้ ทราบจากสื่อมวลชนว่ามีผู้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับตนรวมทั้งสิ้น 3 ข้อหา คือ ฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ผลิตซีดีโดยไม่ได้รับอนุญาตและฟอกเงิน ซึ่งพร้อมจะให้จับกุมตัว ไม่หนีไปไหน
[/url]

[Onokung]

สุดยอด
ออกมาประกาศทีนึง เสียงซาไปเยอะเลย
ผมเห็นใจ และอยู่ข้างอากู๋ครับ (เผื่อจะมีโอกาสหลีสาว Grammy)
สงสัยแนวร่วมผมจะเป็นพี่ฉัตรชัย เพราะพี่เค้าโพสแสดงอารมณ์มากเลย

[Viewtiful Investor]

งานนี้นักวิชาเกินเสนอหน้ากันเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด ขนาด "ราษฎรอาวุโส" ยังออกมาพูดอะไรที่ผมฟังแล้วหมดศรัทธา ไม่น่าเลย...เรื่องอะไรที่ไม่รู้ก็ไม่ต้องพูดก็ด้ายยยยย

เพราะจากผลสำรวจพบว่าประชาชนที่รู้ข่าวสาร 80% มาจากสื่อทีวี 12% มาจากหนังสือพิมพ์ทุกฉบับรวมกัน และอีก 8% มาจากวิทยุ เพราะฉะนั้นเรื่องครอบงำไม่มีหรอก

อยากได้ยินคนใช้เหตุผลอ้างอิงในการโต้แย้ง ดูดีกว่าเย้วๆๆกันเป็นฝูงเยอะเลยครับ

[poppo]

ผมแฟนพันธุ์แท้มติชน ซื้อทุกเล่มทั้งรายวันและรายสัปดาห์ บางเล่มของประชาชาติธุรกิจ แต่ไม่ชอบข่าวสดเพราะตลาดเกินไป แต่วันนี้พออ่านมติชนสุดสัปดาห์และรายวันใน 4-5 วันหลังนี้แล้วเบื่อเลย อยากให้เขารู้จังว่าอะไรที่น้อยๆ กำลังดีจะรู้สึกเห็นใจ แต่อะไรที่มากเกินพอดีจะรู้สึกหมั่นไส้ รู้สึกว่าเขาหลงตัวเองเกินไปแล้ว แต่ผมก็คงยังอ่านเหมือนเดิมเพราะไม่ค่อยมีทางเลือกอื่น

[คัดท้าย]

ลองฟังอีกมุมนึงจาก อีกฝ่ายนึงมั่งครับ ผมว่ารอบนี้ดุดันกว่าอยู่ช่อง9 เยอะ

รายการ เมืองไทยรายสัปดาห์ สัญจร ช่วงที่ 1
http://www.managerradio.com/Radio/Detai ... am_id=1756

รายการ เมืองไทยรายสัปดาห์ สัญจร ช่วงที่ 2
http://www.managerradio.com/Radio/Detai ... am_id=1757

รายการ เมืองไทยรายสัปดาห์ สัญจร ช่วงที่ 3
http://www.managerradio.com/Radio/Detai ... am_id=1758

แต่ฟังแล้ว เท่าที่ตามมา ผมว่าหลายเรื่องที่คุณสนธิ พูดมานี่ มีมูลนะ

[CK]

มีมูลจริงๆ ครับ คุณคัดท้าย

แต่แกไปเสียตรงที่ใส่ไข่เติมผงชูรส โม้ๆ บ้างเยอะไปหน่อย
เลยเสีย credibility ไปหมดครับ

ผมไม่เคยชอบคุณสนธิตั้งแต่สมัยดีลงานด้วยกันก่อนฟองสบู่แตก
(เดี๋ยวนี้ก็ยังไม่ชอบ) แต่ที่แกพูดหลายอย่างก็นับว่ารู้จริงครับ

โดยเฉพาะ... ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวโดนหาว่า...

[YUT]

แต่ทราบมาว่า ทั้งประธานและผู้จัดการ อสมท ได้ไปปรึกษาส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

ข้าราชบริพารที่ดี ต้องรู้ว่า อะไรควรพูด อะไรไม่ควรพูด

[Onokung]

ลองฟังดูแล้วครับพี่ คัดท้าย
คิดว่าคุณสนธิเป็นพวกชอบจับผิด น่าเอาไปร่วมฝ่ายค้าน ของทุกรัฐบาลนะครับ
บางเรื่องก็ฟังแล้วแปลกๆ อย่างพวกเรื่อง การกลั่น กำไรจากโรงกลั่น
ผมจำได้ลางๆว่าเค้า อิงราคา จาก สิงคโปร์ไม่ใช่เหรอ
อีกอย่าง กำไรของส่วนน้ำมัน มันก็เป็น ไปตามส่วนต่างของต้นทุน  แต่ก่อน ขายของต้นทุน 5 บาท กำไร 1 บาท
จะมาบอกว่าตอนนี้ ขายของต้นทุน 20 บาท ให้คงกำไรเอาไว้เท่าเดิมคือ 1 บาท
ไม่เห็นพูดถึงเงินที่ สำรองออกก่อนนี้ที่เป็นก่อหนี้อยู่ 80000 กว่าล้านตอนชดเชยราคาน้ำมัน เลยครับ
เรื่อง ของ นายกร้องไห้ เค้าสมควรเป็นเรื่องที่ เอาออกมาพูดออกที่ สาธารณะ เหรอ ครับ (ต่อให้เป็นใครที่ท่านรู้จักก็ไม่สมควรนะผมว่า)
ส่วนเรื่อง การแปรรูป ทศท.ที่สนับสนุนน่ะครับ เพราะว่ามีคู่แข่งไม่บอกไปด้วยละครับว่า รัฐบาลเค้าเปิดเสรีโทรคมนาคม

- ทำไมมีแนวความคิดที่ว่าดี เวลากล่าวอ้างถึงใคร(ในด้านร้าย)ไม่เอา เค้ามาพูดสอบถามแก้ข้อกล่าวหาบ้างล่ะครับ - แถมพูดไปยังบอกในทำนองว่าที่นี้ผมไม่เก็บค่าเช่าเพราะฉะนั้นถ้ามาขัดคอผม มีสิทธิ์เชิญ ออก (แล้วไปแซวว่านายกเอานิสัยตำรวจมาใช้ ตัวเองก็พอกับที่ว่าเค้าเลย)

บอกตามตรงเลยว่าประเด็นก็พอฟังแต่ที่แย่คือ นิสัย ท่าทาง และคำพูดท่านเล๊ยยย

[Jeng]

ฟังจบแล้วครับ ทั้งสามตอน

เนื้อก็ดีครับ ได้มุมมองอีกมุมหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม รู้สึกคุณสนธิใช้อารมณ์มากไปหน่อย

ใช้คำพูดจาบจ้วง หยาบคาย อาจจะเป็นเพราะโมโห ต้องการระบาย หรือโดนกดดันอะไรบางอย่างหรือเปล่า

วันหน้าจะแอบฟังเพิ่มเติม

อืม แต่การที่ไปจัดที่ธรรมศาสตร์ให้นักศึกษาฟัง จะดีหรือ เด็กๆเค๊ายังเล็กอยู่นะครับ น่าจะให้เรียนไปก่อน

ฟังเรื่องใหญ่ระดับประเทศ คนบรรยายก็ดูน่าเชื่อถือ ผมว่าฟังแล้ว หลายคนวิญญาน 14 ตุลา 16 ตุลา เข้าสิงเอาง่ายๆนะครับ

ผมว่าน่าจะค่อยๆพูดคุยกัน ด้วยเหตุด้วยผล

เรื่องนายก บริหารงานไม่ดี อะไรก็ว่าเป็นเรื่องๆ

และที่สำคัญ ควรพูดด้านดีด้วย

และพูดในลักษณะเห็นใจด้วย

[Meeja]

จากผลสำรวจพบว่าประชาชนที่รู้ข่าวสาร 80% มาจากสื่อทีวี 12% มาจากหนังสือพิมพ์ทุกฉบับรวมกัน และอีก 8% มาจากวิทยุ เพราะฉะนั้นเรื่องครอบงำไม่มีหรอก [/url]

คุณภาพของสื่อ 100% นี่เป็นไงล่ะครับ
ทีวีของใคร
นสพ. เป็นพวกใคร
วิทยุที่พูดความเห็นตรงข้าม ผลเป็นยังไง

Grammy ซื้อไม่ผิดหรอกครับ มติชนดูแลผู้ถือหุ้นไม่ดีเอง
แต่ขอสื่อที่เป็นกลางไว้ ไม่ได้เหรอครับ ขอดื้อๆ อย่างนี้เลย
ตอนนี้มติชนคงรู้แล้วล่ะ ว่าตัวเองต้องดูแลผู้ถือหุ้นด้วย เพราะ List ในตลาด

พี่เจ๋ง
14 ตุลา 16 กับ 6 ตุลา 19 ครับ

[adi]

just don't like the guy

[YUT]

วันศุกร์ฟังรายการคุณสนธิ นึกถึงคำๆหนึ่งขึ้นมาได้

"ถ้าใจไม่สุภาพ ต่อให้ทำท่าทางสุภาพขนาดไหน ก็ปิดเอาไว้ได้ไม่นาน"

ถ้าจะให้คนเชื่อถือ ต้องพูด "เหตุผล" เยอะๆ "อารมณ์" น้อยๆ ยิ่งตัวเองใช้อารมณ์มากเท่าใด ก็เสียรังวัดมากขึ้นเท่านั้น...สงสัยศาสนาจะทำให้เขาสงบจิตใจลงไม่ได้ (ทุกอย่างเป็นสิ่งสมมติจริงๆ...ถึงยึดเอาไว้แน่น)

[เพื่อน]

ฟังแล้วก็มีมูลให้คิดเหมือนกันนะ
แต่ก็อย่างที่คุณเจ๋ง กับคุณCKว่า...ดูเค้าใช้อารมณ์ใส่พริกใส่ใข่มากไปจนเกินพอดี...ฟังดูเหมือนต้องการหาเสียงหาพวกมากไปหน่อย และไอ้เสียงปรบมือก็รู้สึกเวอร์ๆยังไงอยู่(เหมือนตอนนายกหาเสียงเลย)มีหน้าม้าคอยปรบมือนำอยู่เรื่อย

จริงๆน่าจะแสดงความคิดเหตุผลก็พอ ไม่เห็นต้องด่าทอกันรุนแรงเลย ผมยิ่งไม่ค่อยศรัทาแกอยู่ เพราะช่วงแรกก็เห็นแกเชลียร์ท่านนายกจะตาย พอตอนนี้โกรธกันก็เลยเล่นซะหนัก

แต่ผมจะตั้งข้อสังเกตุให้เราติดตามดูต่ออีกหน่อย...นายกของเราล้างแค้นเก่งนะ เท่าที่เห็นมายังไม่เคยพลาดเป้าซักที....ระวังมติชนด้วย ผมว่ายังไม่จบหรอก ไปขุดคุ้ยแกไว้เยอะเหมือนกัน....ไม่เชื่อก็คอยดูกันต่อไป....

[M149]

ถึงแม้จะมีมูล แต่การนำเสนอข้อมูลด้านเดียว และให้น้ำหนักแบบสุดโต่ง มันก็ไม่ต่างอะไรกับพวก ซ้ายจัดขวาจัด ผมคิดว่าใช้เป็นบบรทัดฐานทางสังคมไม่ได้หรอกครับ

[chatchai]

คนอะไรหลังจากล้มละลายไม่นาน  ก็กลับมายืนได้อย่างร่ำรวย

ในประเทศไทย  จริงๆแล้วก็มีบริษัทที่พยายามจะมีสื่อครบอยู่หลายแห่ง

ทั้งเนชั่นที่ในอดีต  มีทั้ง  หนังสือพิมพ์  วิทยุ  อินเตอร์เน็ต และโทรทัศน์ ITV  (แถมยังชอบบิดเบือนข่าว)

ผู้จัดการ เองก็มีทั้ง  วิทยุ  หนังสือพิมพ์  อินเตอร์เน็ต  และโทรทัศน์  (ในอินเตอร์เน็ต  ก็เที่ยวไปกล่าวหาดารามากมาย  ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าตริงหรือไม่  และไม่มีประดยชน์อะไรเลย  นอกจากสร้างเรตติ้ง)

[นายสต็อก]

เมืองไทยรายสัปดาห์เป็นรายการที่น่าสนใจดีรายการหนึ่งนะครับ ผมเปิดชม
รายการอยู่บ่อยๆ แม้ว่าจะเป็นรายการประเภท One Man Show and No
Debate! (ฟังอย่างเดียว...อย่ามาเถียงกับผม)

แต่พอมีข่าว คุณสนธิ เค้าออกมาฟ้องร้อง ช่อง 9 เอาค่าเสียหาย 1 บาท
ก็อดคิดไม่ได้ว่า ใครเค้าจะให้คุณสนธิจัดรายการอีกหล่ะ ถ้าใครไปขัดคอแก
หรือ เลิกรายการของท่านไป ก็จะไปฟ้องร้องหาเรื่องกับเค้าอีก!!! :lol:

ปล: ไม่เคยเข้ามาเขียน Comment ในเว็บนี้ซะนาน