Water crisis
-
- Verified User
- โพสต์: 121
- ผู้ติดตาม: 0
Water crisis
โพสต์ที่ 1
ข่าวจากกรุงเทพธุรกิจ
ปูนใหญ่รับมือวิกฤติน้ำ ลดผลิตปิโตรเคมี40%
22 มิถุนายน 2548 22:14 น.
'วีนิไทย-กลุ่มปตท.'เตรียมเดินตาม หากสถานการณ์รุนแรงขึ้น'ไทยซัมมิท'เตรียมสำรองรับมือ
"ทักษิณ" ระบุภาคตะวันออกไม่ขาดน้ำอุตสาหกรรม ยังใช้ได้ 2 เดือน ชี้ผู้ประกอบการเข้าใจไปเอง ลั่นให้เดินหน้าผลิตเต็มที่ รัฐบาลพร้อมเติมหาให้ ขณะที่ปูนใหญ่ลดการผลิตเป็นรายแรก 40% ขณะที่ วีนิไทยกับกลุ่ม ปตท.เตรียมเดินตามหากสถานการณ์รุนแรง "สวัสดิ์" ระบุต่างชาติหวั่นปัญหาน้ำขาดแคลนชะลอลงทุน ร้องเปิดเสรีบริการน้ำภาคตะวันออกแทนผูกขาด
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกใน จ.ระยอง ว่า ขอให้ทุกฝ่ายอย่าวิตก เพราะจะมีน้ำใช้พอเพียงอย่างแน่นอน ส่วนกรณีที่ผู้ประกอบการระบุว่าจะมีน้ำใช้เพียง 10 วัน เป็นเพราะผู้ประกอบการไม่ได้ไปดูอ่างเก็บน้ำ เปิดแต่น้ำก๊อกใช้ (โห! พี่แหม้ววว.. โรงงานพันล้าน ใช้น้ำผ่านก๊อก!! ขำขำ) แล้วมาสันนิษฐานว่าน้ำจะน้อยทำให้เกิดความเข้าใจผิด ขอยืนยันว่า น้ำมีพอต่อการผลิตภายในประเทศ และจะไม่ส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิตอุตสาหกรรมแต่อย่างใด
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ได้มีการทำฝนเทียมมาอย่างต่อเนื่อง และความชื้นสัมพัทธ์ในบริเวณดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นมา 70% โดยถือเป็นระดับที่สามารถทำฝนเทียมได้ตลอด และขณะนี้เครื่องบินทำฝนเทียมได้ขึ้นบนแล้ว 40 เที่ยวบิน ส่งผลให้ได้นำเข้าไปในอ่างเก็บน้ำพอสมควร เพราะฉะนั้นอย่างวิตกน้ำพอเพียงแน่นอน ผู้ประกอบการที่ออกมาให้ความเห็นไม่ได้ไปสำรวจอ่างเก็บน้ำ เป็นการสันนิษฐานเองว่าน้ำจะขาดแคลน
"ผู้ประกอบการเข้าใจผิด วันนี้ผมได้อ่านหนังสือพิมพ์ที่มีข่าวคุณบัณฑิต ทวีคงคา เลขาธิการกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ต้องเข้าใจว่า ทั้งกระทรวงเกษตรฯ และอีสท์วอเตอร์ รายงานว่าน้ำพอเพียงไม่ต้องห่วง ยืนยันได้เลยไม่มีปัญหา และไม่ต้องนำเข้าสินค้าบางตัวจากต่างประเทศเข้ามา เพื่อทดแทนการผลิตที่หายไป ขอบอกว่า น้ำพอผลิตสินค้าในประเทศได้แน่นอน วันนี้น้ำมีแล้ว จากเดิมที่ทุกคนทำท่าวิตกว่าจะขาดแคลนน้ำ วันนี้น้ำที่มีอยู่ สามารถใช้ได้อย่างสบายๆ 2 เดือน ตอนนี้มีการทำฝนเทียม มีน้ำไหลสู่อ่างมากพอสมควร คนไปเข้าใจกันเองว่าจะไม่มีน้ำใช้ ตอนนี้มีเต็มหมดแล้ว ให้ใช้เต็มที่แล้วจะหาน้ำเติมให้" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
สำหรับเรื่องระดับน้ำในอ่างที่ไม่เพียงพอนั้น นายกฯกล่าวว่า อ่างเก็บน้ำไม่เคยมีน้ำเต็มอยู่แล้ว แต่เรามีการเติมอยู่ตลอด เรามีช่องทางเตรียมน้ำ แม้แต่น้ำใต้ดินก็เตรียมแล้ว ดังนั้น ถ้าคิดว่ามีกำลังผลิตเท่าไร และคิดว่าขายได้ ก็ขอให้ผลิตสินค้าอย่างเต็มที่ วันนี้รัฐบาลได้เตรียมทางแก้ปัญหาไว้แล้ว เช่น การมอบให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หาแหล่งน้ำใต้ดิน
กนอ.ยันผู้ผลิตไม่จำเป็นต้องลดกำลังการผลิต
นายอุทัย จันทิมา ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า กนอ.ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง และนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ทราบ ปริมาณน้ำเพื่ออุตสาหกรรมที่อยู่ในความรับผิดชอบของ กนอ.และบริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด หรืออีสท์ วอเตอร์ ในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.ยังมีเพียงพอใช้ และไม่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำ ซึ่งผู้ประกอบการทุกโรงงานที่ตั้งในนิคมอุตสาหกรมทั้งสองแห่ง ไม่จำเป็นต้องลดกำลังการผลิตในช่วงเวลาดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หากต้องการมีส่วนร่วมในการประหยัดน้ำอุตสาหกรรม ก็สามารถดำเนินการได้ เช่น การเลื่อนเวลาหยุดซ่อมโรงงานประจำปีที่เกือบทุกโรงงานจะหยุดซ่อมในเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้ อาจเปลี่ยนมาหยุดซ่อมประจำปีในเดือน ก.ค.-ส.ค.แทน แต่หากไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงเวลาการหยุดซ่อมประจำปี ก็ไม่จำเป็นต้องหยุดซ่อมในช่วงเดือนก.ค.-ส.ค.นี้
คาดใช้งบ2พันล้านแก้ปัญหาระยะสั้น-ยาว
ทั้งนี้ กนอ.ไม่ได้มีคำสั่งให้ผู้ประกอบการลดใช้น้ำให้เหลือเพียง 40% ทำให้โรงงานต้องลดกำลังการผลิตลง เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับความสมัครใจและนโยบายของบริษัท ยืนยันว่า ทุกบริษัทสามารถใช้น้ำได้ตามปกติไม่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำ อย่างไรก็ตาม การประเมินในเบื้องต้น คาดว่า จะใช้งบประมาณ 2,000 ล้านบาทในการดำเนินมาตรการทั้งในระยะสั้นและยาวในการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำ
สำหรับแผนแก้ไขปัญหาการขาดน้ำระยะยาว กรมชลประทานและอีสท์ วอเตอร์ จะเร่งต่อท่อส่งน้ำจากแม่น้ำบางปะกงเพื่อผันน้ำมาใส่ในอ่างเก็บน้ำบางพระ และอ่างดอกกราย อ่างหนองปลาไหล จ.ชลบุรีแล้วเสร็จในเดือนมิ.ย.2549 ใช้เงินลงทุน 200 ล้านบาท ระยะทาง 7 กิโลเมตร เมื่อแล้วเสร็จจะทำให้ปริมาณน้ำในอ่างหนองปลาไหลมีน้ำสะสม 163 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี อ่างดอกกรายมี 71 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี เป็นต้น
"ปูนใหญ่"ประเดิมรายแรกลด40%
นายกานต์ ตระกูลฮุน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า สืบเนื่องจากภาวะขาดแคลนน้ำของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งเกิดจากปัญหาภัยแล้งที่ทำให้ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำที่ส่งเข้าสู่นิคมอุตสาหกรรมอยู่ในระดับต่ำ ทำให้มีผลกระทบต่อการผลิตของอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ในนิคมอุตสาหกรรมและบริเวณโดยรอบ ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว อุตสาหกรรมต่างๆ จึงจำเป็นต้องลดปริมาณการใช้น้ำ และลดกำลังการผลิตลง
ทั้งนี้ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย ขอแจ้งให้ทราบว่า ธุรกิจปิโตรเคมีของบริษัท ซึ่งมีฐานการผลิตอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จำเป็นต้องลดปริมาณการใช้น้ำ และลดกำลังการผลิตในสายการผลิตต่างๆ ลงประมาณ 40% ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน 2548 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ภาวะการขาดแคลนน้ำในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งมีผลกระทบกับอุตสาหกรรมส่วนใหญ่นั้น ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างร่วมกันหาทางแก้ไขปัญหาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
ค่ายอื่นเตรียมลดตามหากถึงขั้นรุนแรง
ด้าน ดร.สันติสุข สงวนเรือง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วีนิไทย (VNT) เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาหาทางแก้ไขสถานการณ์ขาดแคลนน้ำ และทางโรงงานผลิตอาจจะพิจารณาลดกำลังการผลิตหากภัยแล้งถ้าหากพบว่ารุนแรงมากกว่านี้ แต่ปัจจุบันยังเดินเครื่องตามปกติ ซึ่งยอมรับว่า วิกฤตการณ์ครั้งนี้บริษัทได้รับผลกระทบเหมือนกับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมเดียวกัน
แหล่งข่าวผู้บริหารของบริษัท ปตท.(PTT) เปิดเผยว่า ธุรกิจกลุ่มปิโตรเคมีของบริษัท ขณะนี้ได้รับผลกระทบจากภาวะการขาดแคลนน้ำพอสมควร แต่บริษัทยังไม่มีการลดกำลังการผลิต แต่ถ้าหากสถานการณ์รุนแรงมากขึ้น คาดว่าจะต้องลดกำลังการผลิตลงบ้าง ซึ่งบริษัทได้รับผลกระทบเหมือนกับบริษัทอื่นๆ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นเรื่องของภาพรวมมากกว่า ซึ่งภาครัฐควรจะหาวิธีการหาทางแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมให้กับภาคเอกชนด้วย
"บริษัทอาจจะต้องลดกำลังการผลิตลงไปบ้าง เพราะทุกคนได้รับผลกระทบเหมือนกันหมด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหาทางแก้ไข และทางการน่าจะหามาตรการมาช่วยเหลือ ดังนั้น ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นไม่น่าจะรุนแรงกับ ปตท.มากนัก" แหล่งข่าวกล่าว
นอกจากนี้ ในส่วนของบริษัท ไทยออยล์ (TOP) ไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากมีโรงงานที่สามารถปรับสภาพน้ำจากน้ำทะเลเป็นน้ำจืด จึงไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท อย่างไรก็ตาม การที่ ปตท.มีบริษัทในเครือ และอยู่ในพื้นที่ที่ประสบภัยแล้งหลายแห่ง ทำให้ตอนนี้บริษัทจะต้องหาทางเลือกที่จะใช้ในการแก้ไขปัญหาของตัวเองก่อน
ทีพีไอชี้ 1เดือนฝนไม่ตกผลกระทบรุนแรง
ด้านแหล่งข่าวจากผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บมจ.อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย (TPI) ระบุว่า บริษัทอาจได้รับผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนน้ำในภาคตะวันออก หากฝนไม่ตกลงมาในช่วง 1 เดือนหลังจากนี้ โดยขณะนี้บริษัทยังไม่มีแผนลดกำลังผลิต อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้น 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือนนี้ ยังไม่กระทบ แต่หลังจาก 1 เดือนไปแล้ว ถ้าฝนไม่ตก กระทบแน่ กระทบมาก และกระทบทุกราย
เขากล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายบริหารของทีพีไอ กำลังพิจารณาแนวทางการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำ เพื่อรองรับกรณีที่ฝนไม่ตกลงมาในช่วง 1 เดือนหลังจากนี้ โดยในวันที่ 27 มิ.ย.นี้บริษัทจะได้รับการจ่ายน้ำลดลง ซึ่งเป็นไปตามมาตรการประหยัดการใช้น้ำของทางการ แต่ก็ยังบริหารจัดการการใช้น้ำในโรงงานได้ และมีปริมาณน้ำสำรองเพียงพอที่จะผลิตตามกำลังผลิตปัจจุบันได้
ปัจจุบัน ทีพีไอ มีปริมาณใช้น้ำ 4-5 หมื่นลูกบาศก์เมตร/วัน และมีกำลังกลั่นน้ำมันที่ 1.8 แสนบาร์เรล/วัน ขณะที่มีกำลังผลิตปิโตรเคมีที่ 100% และยังไม่มีการลดกำลังผลิต
'สวัสดิ์'ชี้ต่างชาติหวั่นปัญหาน้ำชะลอลงทุน
นายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง นายกสมาคมนิคมอุตสาหกรรมไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นครไทยสตริปมิล จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นเอสเอ็ม และเอ็มเอสสตีลกรุ๊ป กล่าวว่า จากปัญหาภัยแล้งภาคตะวันออก ทำให้นักลงทุนต่างชาติชะลอการลงทุนในไทย โดยได้มีการสอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมาก ว่า น้ำในภาคตะวันออกเพียงพอหรือไม่ และแนวโน้มในอนาคตเป็นอย่างไร ซึ่งความจริงแล้วน้ำในระยองนั้นมีเพียงพอ แต่ขาดการจัดการที่ดี ขาดการเชื่อมโยง ซึ่งหากภาครัฐ-เอกชนตื่นตัวกัน เร่งสร้างท่อน้ำเชื่อมโยงแหล่งน้ำต่างๆ เช่น อ่างประแสร์ แม่น้ำบางปะกง อ่างดอกกราย อ่างหนองปลาไหล หนองค้อ บางพระ ฯลฯ น้ำก็จะมีอย่างเพียงพอ
"ที่ผ่านมา กรมชลประทานกับอีสท์ วอเตอร์ ไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการสร้างท่อส่งน้ำ ที่จะเชื่อมโยงอ่างประแสร์ไปดอกกราย และการสร้างท่อน้ำจากแม่น้ำบางปะกง เงินลงทุนโครงการละกว่า 2,000 ล้านบาท จึงทำให้เรื่องล่าช้ามานานนับปี และหากมีการเปิดให้เกิดการบริการน้ำดิบเพื่ออุตสาหกรรมมีการแข่งขัน จากที่ปัจจุบันมีอีสท์ วอเตอร์ เพียงรายเดียว ก็น่าจะทำให้เกิดการแข่งขันด้านการบริการที่ดีขึ้น" นายสวัสดิ์ กล่าว
นายสวัสดิ์ กล่าวว่า บริษัทเหล็กในเครือไม่มีปัญหาขาดแคลนน้ำแต่อย่างใด เนื่องจากมีการศึกษาเรื่องแหล่งน้ำ และวางแผนขุดบ่อน้ำไว้จนเพียงพอ อย่างไรก็ตาม ความจริงแล้วการวางแผนเชื่อมโยงท่อน้ำในภาคตะวันออกนั้น นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ศึกษาและดำเนินการมาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว แต่น่าเสียดายที่ไม่มีการสานต่อ จนเกิดปัญหาความเสียหายในวันนี้
มิตซูบิชิรอมาตรการประชุมร่วมนิคม
นายชัชรินทร์ วงศ์สงวน ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิ ซึ่งมีโรงงานหลักอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง กล่าวว่า ผลกระทบของปัญหาน้ำที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน เนื่องจากต้องรอการประชุมร่วมกับ นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ที่ได้เชิญตัวแทนผู้ประกอบการโรงงานในนิคมเข้าร่วมประชุมหารือช่วงบ่ายวานนี้ (22 มิ.ย.) โดยให้แต่ละโรงงานนำเสนอรายละเอียดการใช้น้ำมาว่าเป็นอย่างไร จากนั้นทางนิคมก็จะนำไปใช้ในการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งเชื่อว่าจะไม่สร้างผลกระทบโดยรวมมากนัก
ทั้งนี้ สำหรับภาคการผลิตรถยนต์โดยทั่วไป จะใช้น้ำเป็นองค์ประกอบไม่มากนัก โดยส่วนที่จะต้องใช้งานหลักๆคือ โรงงานสี และส่วนทดสอบคุณภาพการรั่วซึมของตัวถังเท่านั้น
สำหรับโรงงานมิตซูบิชิ มีกำลังการผลิตเต็มที่ประมาณ 1 หมื่นคัน/เดือน ปัจจุบันทำการผลิตรถยนต์นั่ง แลนเซอร์ และรถปิกอัพ สตราดา สำหรับป้อนตลาดในประเทศและส่งออก
ไทยซัมมิท เตรียมสำรองน้ำรับวิกฤติ
นายสาโรจน์ วสุวานิช รองประธาน และประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท ไทยซัมมิท ฮาร์เนส ในเครือไทยซัมมิท กรุ๊ป ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ กล่าวว่า ถ้าปัญหาขาดแคลนน้ำยังไม่ได้รับการแก้ไข เท่าที่ประเมินเบื้องต้น คาดว่า น้ำที่มีอยู่ตอนนี้น่าจะใช้ไปได้จนถึงสิ้นเดือนนี้เท่านั้น และตอนนี้ได้เตรียมแท็งก์ขนาดใหญ่สำหรับกักเก็บน้ำไว้แล้วกว่า 120,000 ลิตร เพื่อรับวิกฤติที่จะเกิดขึ้น ซึ่งน้ำปริมาณขนาดนี้สามารถใช้ในโรงงานทั้ง 6 บริษัทของไทยซัมมิท ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ได้ประมาณ 2 วันเท่านั้น โดยวิธีการแก้ปัญหาคงทำด้วยการลำเลียงน้ำด้วยรถบรรทุกน้ำเข้ามาเก็บไว้ในทุกๆ วัน
โรงงานทั้ง 6 แห่งของไทยซัมมิท ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ได้แก่ บริษัท ไทยซัมมิท ฮาร์เนส จำกัด บริษัทไทยซัมมิท เทป จำกัด บริษัท ไทยซัมมิท คอนเนคเตอร์ จำกัด บริษัท ไทยซัมมิท มิตซูบะ จำกัด บริษัท ไทยซัมมิท แหลมฉบัง จำกัด และบริษัท ไทยซัมมิท พีเคเค จำกัด ทั้งหมดล้วนแต่เป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ และอุปสงค์ในการใช้น้ำของโรงงานนั้นจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอุปโภค-บริโภค และการระบายความร้อนของเครื่องจักรอุตสาหกรรม คิดเป็นสัดส่วนทั้งหมด 2% ของวัตถุดิบโดยรวม ถึงแม้ว่าจะเป็นสัดส่วนที่น้อยแต่ก็เป็นสัดส่วนที่จำเป็นอย่างมากในกระบวนการผลิตสินค้า และตอนนี้ทางไทยซัมมิทก็กำลังเตรียมที่จะสต็อกน้ำไว้ล่วงหน้าแล้ว
ปูนใหญ่รับมือวิกฤติน้ำ ลดผลิตปิโตรเคมี40%
22 มิถุนายน 2548 22:14 น.
'วีนิไทย-กลุ่มปตท.'เตรียมเดินตาม หากสถานการณ์รุนแรงขึ้น'ไทยซัมมิท'เตรียมสำรองรับมือ
"ทักษิณ" ระบุภาคตะวันออกไม่ขาดน้ำอุตสาหกรรม ยังใช้ได้ 2 เดือน ชี้ผู้ประกอบการเข้าใจไปเอง ลั่นให้เดินหน้าผลิตเต็มที่ รัฐบาลพร้อมเติมหาให้ ขณะที่ปูนใหญ่ลดการผลิตเป็นรายแรก 40% ขณะที่ วีนิไทยกับกลุ่ม ปตท.เตรียมเดินตามหากสถานการณ์รุนแรง "สวัสดิ์" ระบุต่างชาติหวั่นปัญหาน้ำขาดแคลนชะลอลงทุน ร้องเปิดเสรีบริการน้ำภาคตะวันออกแทนผูกขาด
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกใน จ.ระยอง ว่า ขอให้ทุกฝ่ายอย่าวิตก เพราะจะมีน้ำใช้พอเพียงอย่างแน่นอน ส่วนกรณีที่ผู้ประกอบการระบุว่าจะมีน้ำใช้เพียง 10 วัน เป็นเพราะผู้ประกอบการไม่ได้ไปดูอ่างเก็บน้ำ เปิดแต่น้ำก๊อกใช้ (โห! พี่แหม้ววว.. โรงงานพันล้าน ใช้น้ำผ่านก๊อก!! ขำขำ) แล้วมาสันนิษฐานว่าน้ำจะน้อยทำให้เกิดความเข้าใจผิด ขอยืนยันว่า น้ำมีพอต่อการผลิตภายในประเทศ และจะไม่ส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิตอุตสาหกรรมแต่อย่างใด
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ได้มีการทำฝนเทียมมาอย่างต่อเนื่อง และความชื้นสัมพัทธ์ในบริเวณดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นมา 70% โดยถือเป็นระดับที่สามารถทำฝนเทียมได้ตลอด และขณะนี้เครื่องบินทำฝนเทียมได้ขึ้นบนแล้ว 40 เที่ยวบิน ส่งผลให้ได้นำเข้าไปในอ่างเก็บน้ำพอสมควร เพราะฉะนั้นอย่างวิตกน้ำพอเพียงแน่นอน ผู้ประกอบการที่ออกมาให้ความเห็นไม่ได้ไปสำรวจอ่างเก็บน้ำ เป็นการสันนิษฐานเองว่าน้ำจะขาดแคลน
"ผู้ประกอบการเข้าใจผิด วันนี้ผมได้อ่านหนังสือพิมพ์ที่มีข่าวคุณบัณฑิต ทวีคงคา เลขาธิการกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ต้องเข้าใจว่า ทั้งกระทรวงเกษตรฯ และอีสท์วอเตอร์ รายงานว่าน้ำพอเพียงไม่ต้องห่วง ยืนยันได้เลยไม่มีปัญหา และไม่ต้องนำเข้าสินค้าบางตัวจากต่างประเทศเข้ามา เพื่อทดแทนการผลิตที่หายไป ขอบอกว่า น้ำพอผลิตสินค้าในประเทศได้แน่นอน วันนี้น้ำมีแล้ว จากเดิมที่ทุกคนทำท่าวิตกว่าจะขาดแคลนน้ำ วันนี้น้ำที่มีอยู่ สามารถใช้ได้อย่างสบายๆ 2 เดือน ตอนนี้มีการทำฝนเทียม มีน้ำไหลสู่อ่างมากพอสมควร คนไปเข้าใจกันเองว่าจะไม่มีน้ำใช้ ตอนนี้มีเต็มหมดแล้ว ให้ใช้เต็มที่แล้วจะหาน้ำเติมให้" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
สำหรับเรื่องระดับน้ำในอ่างที่ไม่เพียงพอนั้น นายกฯกล่าวว่า อ่างเก็บน้ำไม่เคยมีน้ำเต็มอยู่แล้ว แต่เรามีการเติมอยู่ตลอด เรามีช่องทางเตรียมน้ำ แม้แต่น้ำใต้ดินก็เตรียมแล้ว ดังนั้น ถ้าคิดว่ามีกำลังผลิตเท่าไร และคิดว่าขายได้ ก็ขอให้ผลิตสินค้าอย่างเต็มที่ วันนี้รัฐบาลได้เตรียมทางแก้ปัญหาไว้แล้ว เช่น การมอบให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หาแหล่งน้ำใต้ดิน
กนอ.ยันผู้ผลิตไม่จำเป็นต้องลดกำลังการผลิต
นายอุทัย จันทิมา ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า กนอ.ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง และนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ทราบ ปริมาณน้ำเพื่ออุตสาหกรรมที่อยู่ในความรับผิดชอบของ กนอ.และบริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด หรืออีสท์ วอเตอร์ ในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.ยังมีเพียงพอใช้ และไม่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำ ซึ่งผู้ประกอบการทุกโรงงานที่ตั้งในนิคมอุตสาหกรมทั้งสองแห่ง ไม่จำเป็นต้องลดกำลังการผลิตในช่วงเวลาดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หากต้องการมีส่วนร่วมในการประหยัดน้ำอุตสาหกรรม ก็สามารถดำเนินการได้ เช่น การเลื่อนเวลาหยุดซ่อมโรงงานประจำปีที่เกือบทุกโรงงานจะหยุดซ่อมในเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้ อาจเปลี่ยนมาหยุดซ่อมประจำปีในเดือน ก.ค.-ส.ค.แทน แต่หากไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงเวลาการหยุดซ่อมประจำปี ก็ไม่จำเป็นต้องหยุดซ่อมในช่วงเดือนก.ค.-ส.ค.นี้
คาดใช้งบ2พันล้านแก้ปัญหาระยะสั้น-ยาว
ทั้งนี้ กนอ.ไม่ได้มีคำสั่งให้ผู้ประกอบการลดใช้น้ำให้เหลือเพียง 40% ทำให้โรงงานต้องลดกำลังการผลิตลง เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับความสมัครใจและนโยบายของบริษัท ยืนยันว่า ทุกบริษัทสามารถใช้น้ำได้ตามปกติไม่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำ อย่างไรก็ตาม การประเมินในเบื้องต้น คาดว่า จะใช้งบประมาณ 2,000 ล้านบาทในการดำเนินมาตรการทั้งในระยะสั้นและยาวในการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำ
สำหรับแผนแก้ไขปัญหาการขาดน้ำระยะยาว กรมชลประทานและอีสท์ วอเตอร์ จะเร่งต่อท่อส่งน้ำจากแม่น้ำบางปะกงเพื่อผันน้ำมาใส่ในอ่างเก็บน้ำบางพระ และอ่างดอกกราย อ่างหนองปลาไหล จ.ชลบุรีแล้วเสร็จในเดือนมิ.ย.2549 ใช้เงินลงทุน 200 ล้านบาท ระยะทาง 7 กิโลเมตร เมื่อแล้วเสร็จจะทำให้ปริมาณน้ำในอ่างหนองปลาไหลมีน้ำสะสม 163 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี อ่างดอกกรายมี 71 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี เป็นต้น
"ปูนใหญ่"ประเดิมรายแรกลด40%
นายกานต์ ตระกูลฮุน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า สืบเนื่องจากภาวะขาดแคลนน้ำของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งเกิดจากปัญหาภัยแล้งที่ทำให้ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำที่ส่งเข้าสู่นิคมอุตสาหกรรมอยู่ในระดับต่ำ ทำให้มีผลกระทบต่อการผลิตของอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ในนิคมอุตสาหกรรมและบริเวณโดยรอบ ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว อุตสาหกรรมต่างๆ จึงจำเป็นต้องลดปริมาณการใช้น้ำ และลดกำลังการผลิตลง
ทั้งนี้ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย ขอแจ้งให้ทราบว่า ธุรกิจปิโตรเคมีของบริษัท ซึ่งมีฐานการผลิตอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จำเป็นต้องลดปริมาณการใช้น้ำ และลดกำลังการผลิตในสายการผลิตต่างๆ ลงประมาณ 40% ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน 2548 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ภาวะการขาดแคลนน้ำในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งมีผลกระทบกับอุตสาหกรรมส่วนใหญ่นั้น ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างร่วมกันหาทางแก้ไขปัญหาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
ค่ายอื่นเตรียมลดตามหากถึงขั้นรุนแรง
ด้าน ดร.สันติสุข สงวนเรือง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วีนิไทย (VNT) เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาหาทางแก้ไขสถานการณ์ขาดแคลนน้ำ และทางโรงงานผลิตอาจจะพิจารณาลดกำลังการผลิตหากภัยแล้งถ้าหากพบว่ารุนแรงมากกว่านี้ แต่ปัจจุบันยังเดินเครื่องตามปกติ ซึ่งยอมรับว่า วิกฤตการณ์ครั้งนี้บริษัทได้รับผลกระทบเหมือนกับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมเดียวกัน
แหล่งข่าวผู้บริหารของบริษัท ปตท.(PTT) เปิดเผยว่า ธุรกิจกลุ่มปิโตรเคมีของบริษัท ขณะนี้ได้รับผลกระทบจากภาวะการขาดแคลนน้ำพอสมควร แต่บริษัทยังไม่มีการลดกำลังการผลิต แต่ถ้าหากสถานการณ์รุนแรงมากขึ้น คาดว่าจะต้องลดกำลังการผลิตลงบ้าง ซึ่งบริษัทได้รับผลกระทบเหมือนกับบริษัทอื่นๆ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นเรื่องของภาพรวมมากกว่า ซึ่งภาครัฐควรจะหาวิธีการหาทางแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมให้กับภาคเอกชนด้วย
"บริษัทอาจจะต้องลดกำลังการผลิตลงไปบ้าง เพราะทุกคนได้รับผลกระทบเหมือนกันหมด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหาทางแก้ไข และทางการน่าจะหามาตรการมาช่วยเหลือ ดังนั้น ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นไม่น่าจะรุนแรงกับ ปตท.มากนัก" แหล่งข่าวกล่าว
นอกจากนี้ ในส่วนของบริษัท ไทยออยล์ (TOP) ไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากมีโรงงานที่สามารถปรับสภาพน้ำจากน้ำทะเลเป็นน้ำจืด จึงไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท อย่างไรก็ตาม การที่ ปตท.มีบริษัทในเครือ และอยู่ในพื้นที่ที่ประสบภัยแล้งหลายแห่ง ทำให้ตอนนี้บริษัทจะต้องหาทางเลือกที่จะใช้ในการแก้ไขปัญหาของตัวเองก่อน
ทีพีไอชี้ 1เดือนฝนไม่ตกผลกระทบรุนแรง
ด้านแหล่งข่าวจากผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บมจ.อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย (TPI) ระบุว่า บริษัทอาจได้รับผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนน้ำในภาคตะวันออก หากฝนไม่ตกลงมาในช่วง 1 เดือนหลังจากนี้ โดยขณะนี้บริษัทยังไม่มีแผนลดกำลังผลิต อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้น 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือนนี้ ยังไม่กระทบ แต่หลังจาก 1 เดือนไปแล้ว ถ้าฝนไม่ตก กระทบแน่ กระทบมาก และกระทบทุกราย
เขากล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายบริหารของทีพีไอ กำลังพิจารณาแนวทางการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำ เพื่อรองรับกรณีที่ฝนไม่ตกลงมาในช่วง 1 เดือนหลังจากนี้ โดยในวันที่ 27 มิ.ย.นี้บริษัทจะได้รับการจ่ายน้ำลดลง ซึ่งเป็นไปตามมาตรการประหยัดการใช้น้ำของทางการ แต่ก็ยังบริหารจัดการการใช้น้ำในโรงงานได้ และมีปริมาณน้ำสำรองเพียงพอที่จะผลิตตามกำลังผลิตปัจจุบันได้
ปัจจุบัน ทีพีไอ มีปริมาณใช้น้ำ 4-5 หมื่นลูกบาศก์เมตร/วัน และมีกำลังกลั่นน้ำมันที่ 1.8 แสนบาร์เรล/วัน ขณะที่มีกำลังผลิตปิโตรเคมีที่ 100% และยังไม่มีการลดกำลังผลิต
'สวัสดิ์'ชี้ต่างชาติหวั่นปัญหาน้ำชะลอลงทุน
นายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง นายกสมาคมนิคมอุตสาหกรรมไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นครไทยสตริปมิล จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นเอสเอ็ม และเอ็มเอสสตีลกรุ๊ป กล่าวว่า จากปัญหาภัยแล้งภาคตะวันออก ทำให้นักลงทุนต่างชาติชะลอการลงทุนในไทย โดยได้มีการสอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมาก ว่า น้ำในภาคตะวันออกเพียงพอหรือไม่ และแนวโน้มในอนาคตเป็นอย่างไร ซึ่งความจริงแล้วน้ำในระยองนั้นมีเพียงพอ แต่ขาดการจัดการที่ดี ขาดการเชื่อมโยง ซึ่งหากภาครัฐ-เอกชนตื่นตัวกัน เร่งสร้างท่อน้ำเชื่อมโยงแหล่งน้ำต่างๆ เช่น อ่างประแสร์ แม่น้ำบางปะกง อ่างดอกกราย อ่างหนองปลาไหล หนองค้อ บางพระ ฯลฯ น้ำก็จะมีอย่างเพียงพอ
"ที่ผ่านมา กรมชลประทานกับอีสท์ วอเตอร์ ไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการสร้างท่อส่งน้ำ ที่จะเชื่อมโยงอ่างประแสร์ไปดอกกราย และการสร้างท่อน้ำจากแม่น้ำบางปะกง เงินลงทุนโครงการละกว่า 2,000 ล้านบาท จึงทำให้เรื่องล่าช้ามานานนับปี และหากมีการเปิดให้เกิดการบริการน้ำดิบเพื่ออุตสาหกรรมมีการแข่งขัน จากที่ปัจจุบันมีอีสท์ วอเตอร์ เพียงรายเดียว ก็น่าจะทำให้เกิดการแข่งขันด้านการบริการที่ดีขึ้น" นายสวัสดิ์ กล่าว
นายสวัสดิ์ กล่าวว่า บริษัทเหล็กในเครือไม่มีปัญหาขาดแคลนน้ำแต่อย่างใด เนื่องจากมีการศึกษาเรื่องแหล่งน้ำ และวางแผนขุดบ่อน้ำไว้จนเพียงพอ อย่างไรก็ตาม ความจริงแล้วการวางแผนเชื่อมโยงท่อน้ำในภาคตะวันออกนั้น นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ศึกษาและดำเนินการมาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว แต่น่าเสียดายที่ไม่มีการสานต่อ จนเกิดปัญหาความเสียหายในวันนี้
มิตซูบิชิรอมาตรการประชุมร่วมนิคม
นายชัชรินทร์ วงศ์สงวน ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิ ซึ่งมีโรงงานหลักอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง กล่าวว่า ผลกระทบของปัญหาน้ำที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน เนื่องจากต้องรอการประชุมร่วมกับ นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ที่ได้เชิญตัวแทนผู้ประกอบการโรงงานในนิคมเข้าร่วมประชุมหารือช่วงบ่ายวานนี้ (22 มิ.ย.) โดยให้แต่ละโรงงานนำเสนอรายละเอียดการใช้น้ำมาว่าเป็นอย่างไร จากนั้นทางนิคมก็จะนำไปใช้ในการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งเชื่อว่าจะไม่สร้างผลกระทบโดยรวมมากนัก
ทั้งนี้ สำหรับภาคการผลิตรถยนต์โดยทั่วไป จะใช้น้ำเป็นองค์ประกอบไม่มากนัก โดยส่วนที่จะต้องใช้งานหลักๆคือ โรงงานสี และส่วนทดสอบคุณภาพการรั่วซึมของตัวถังเท่านั้น
สำหรับโรงงานมิตซูบิชิ มีกำลังการผลิตเต็มที่ประมาณ 1 หมื่นคัน/เดือน ปัจจุบันทำการผลิตรถยนต์นั่ง แลนเซอร์ และรถปิกอัพ สตราดา สำหรับป้อนตลาดในประเทศและส่งออก
ไทยซัมมิท เตรียมสำรองน้ำรับวิกฤติ
นายสาโรจน์ วสุวานิช รองประธาน และประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท ไทยซัมมิท ฮาร์เนส ในเครือไทยซัมมิท กรุ๊ป ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ กล่าวว่า ถ้าปัญหาขาดแคลนน้ำยังไม่ได้รับการแก้ไข เท่าที่ประเมินเบื้องต้น คาดว่า น้ำที่มีอยู่ตอนนี้น่าจะใช้ไปได้จนถึงสิ้นเดือนนี้เท่านั้น และตอนนี้ได้เตรียมแท็งก์ขนาดใหญ่สำหรับกักเก็บน้ำไว้แล้วกว่า 120,000 ลิตร เพื่อรับวิกฤติที่จะเกิดขึ้น ซึ่งน้ำปริมาณขนาดนี้สามารถใช้ในโรงงานทั้ง 6 บริษัทของไทยซัมมิท ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ได้ประมาณ 2 วันเท่านั้น โดยวิธีการแก้ปัญหาคงทำด้วยการลำเลียงน้ำด้วยรถบรรทุกน้ำเข้ามาเก็บไว้ในทุกๆ วัน
โรงงานทั้ง 6 แห่งของไทยซัมมิท ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ได้แก่ บริษัท ไทยซัมมิท ฮาร์เนส จำกัด บริษัทไทยซัมมิท เทป จำกัด บริษัท ไทยซัมมิท คอนเนคเตอร์ จำกัด บริษัท ไทยซัมมิท มิตซูบะ จำกัด บริษัท ไทยซัมมิท แหลมฉบัง จำกัด และบริษัท ไทยซัมมิท พีเคเค จำกัด ทั้งหมดล้วนแต่เป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ และอุปสงค์ในการใช้น้ำของโรงงานนั้นจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอุปโภค-บริโภค และการระบายความร้อนของเครื่องจักรอุตสาหกรรม คิดเป็นสัดส่วนทั้งหมด 2% ของวัตถุดิบโดยรวม ถึงแม้ว่าจะเป็นสัดส่วนที่น้อยแต่ก็เป็นสัดส่วนที่จำเป็นอย่างมากในกระบวนการผลิตสินค้า และตอนนี้ทางไทยซัมมิทก็กำลังเตรียมที่จะสต็อกน้ำไว้ล่วงหน้าแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 121
- ผู้ติดตาม: 0
Water crisis
โพสต์ที่ 2
ตอนนี้แทบทุกโรงงานในนิคมมาบตาพุต ลดกำลังการผลิตแล้วนะครับ"ผู้ประกอบการเข้าใจผิด วันนี้ผมได้อ่านหนังสือพิมพ์ที่มีข่าวคุณบัณฑิต ทวีคงคา เลขาธิการกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ต้องเข้าใจว่า ทั้งกระทรวงเกษตรฯ และอีสท์วอเตอร์ รายงานว่าน้ำพอเพียงไม่ต้องห่วง ยืนยันได้เลยไม่มีปัญหา และไม่ต้องนำเข้าสินค้าบางตัวจากต่างประเทศเข้ามา เพื่อทดแทนการผลิตที่หายไป ขอบอกว่า น้ำพอผลิตสินค้าในประเทศได้แน่นอน วันนี้น้ำมีแล้ว จากเดิมที่ทุกคนทำท่าวิตกว่าจะขาดแคลนน้ำ วันนี้น้ำที่มีอยู่ สามารถใช้ได้อย่างสบายๆ 2 เดือน ตอนนี้มีการทำฝนเทียม มีน้ำไหลสู่อ่างมากพอสมควร คนไปเข้าใจกันเองว่าจะไม่มีน้ำใช้ ตอนนี้มีเต็มหมดแล้ว ให้ใช้เต็มที่แล้วจะหาน้ำเติมให้" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
ผมว่าคนใน web นี้ เป็นคนในวงการนี้หลายคนน่าจะรู้ดี
-
- Verified User
- โพสต์: 121
- ผู้ติดตาม: 0
Water crisis
โพสต์ที่ 3
ทำไม ท่านนายก ถึงรับข้อมูลผิดๆ มา หรือว่าคนใกล้ตัวเป็นพิษครับ
ผมยังคุยกับเพื่อนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เลยว่า ถ้าท่านนายกรู้เรื่องน้ำเมื่อไหร่
รมต. ที่เกี่ยวข้อง, ผู้ว่าการนิคม, ผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องโดนเฉ่งแน่นนอน
แต่ทั้งคุณสุดารัตน์ คุณพินิจ คุณวัฒนา พูดเหมือนกันหมดว่าน้ำพอ
แล้วโรงงานต่างๆ จะลดกำลังการผลิตทำไม ทำไม
แม้แต่ปูนซีเมนต์ไทย ยังออกมาพูดเลย
นักลงทุนต่างชาติที่ไหนจะมาครับเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยย
เศร้าครับ ผมรู้สึกผิดหวังกับรัฐบาลชัดนี้มากเลย
ผมยังคุยกับเพื่อนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เลยว่า ถ้าท่านนายกรู้เรื่องน้ำเมื่อไหร่
รมต. ที่เกี่ยวข้อง, ผู้ว่าการนิคม, ผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องโดนเฉ่งแน่นนอน
แต่ทั้งคุณสุดารัตน์ คุณพินิจ คุณวัฒนา พูดเหมือนกันหมดว่าน้ำพอ
แล้วโรงงานต่างๆ จะลดกำลังการผลิตทำไม ทำไม
แม้แต่ปูนซีเมนต์ไทย ยังออกมาพูดเลย
นักลงทุนต่างชาติที่ไหนจะมาครับเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยย
เศร้าครับ ผมรู้สึกผิดหวังกับรัฐบาลชัดนี้มากเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
Water crisis
โพสต์ที่ 5
ใครบางคนตอนนี้น่ะตัวเหม็นน้ำลายมั่กๆครับ มีแต่กลิ่นน้ำลาย ยังคิดว่าเป็นน้ำหอม 

มนุษย์เห่อลูก :lol:
http://tyakon.multiply.com
http://tyakon.multiply.com
-
- Verified User
- โพสต์: 185
- ผู้ติดตาม: 0
Water crisis
โพสต์ที่ 6
บางทีการสร้างความเชื่อมั่น ด้วยการพูดไม่ตรงกับความเป็นจริง
อาจจําเป็นต้องพูดมังครับเผื่อคนอื่นไม่รู้
อาจจําเป็นต้องพูดมังครับเผื่อคนอื่นไม่รู้