ความเข้าใจผิดของคนบางคน

[blueplanet]

1.แมวขาวหรือดำไม่สำคัญขอให้จับหนูได้
จริงๆแล้ว เราควรศึกษาให้มากและสรุปว่า แมวขาว หรือดำ สีไหน
จับหนูเก่งกว่ากัน ถ้า สีดำจับเก่งกว่า และจุดประสงค์ของการเลี้ยง
แมวคือจับหนู เราควรเลี้ยงแมวสีดำเท่านั้น
2.แบ่งแยกการเล่นหุ้น มือใหม่เล่นแบบนึงมือเก่าเล่นอีกแบบ
ผมว่า หาวิธีการเล่นหุ้นที่ดีที่สุด แล้วเล่นไปตามนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นมือเก่าหรือมือใหม่
3.การลงทุน(เล่นหุ้น) หาวิธีและเล่นให้เหมาะสมกับจริตของตัวเอง
ผมว่าไร้สาระ เราต้องหาวิธีที่ดีที่สุด และเล่นไปตามนั้น ไม่ว่าเราจะเป็นคนจริตแบบไหน
คือคนแบบไหน ก็เล่นหุ้นวิธีที่ดีที่สุดแบบเดียวกัน
4.เมื่อเล่นหุ้นและกำไรแล้ว(ไม่รู้ว่ามากหรือน้อย) ก็ใช้รูปแบบการเล่นหุ้นแบบเดิม
ศึกษาให้มาก เราต้องพฒนาไปเรื่อยๆ เล่นให้ดีกว่าเดิม อย่าพอใจอะไรง่ายๆ

[picatos]

อะไรคือวิธีเล่นหุ้นที่ดีที่สุดของพี่ครับ?

ใช้แล้วประสบความสำเร็จขนาดไหนบ้างครับ?

เผื่อจะเอาไปเป็นไอเดียในการลงทุน

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

[multipleceilings]

1.แมวขาวหรือดำไม่สำคัญขอให้จับหนูได้
จริงๆแล้ว เราควรศึกษาให้มากและสรุปว่า แมวขาว หรือดำ สีไหน
จับหนูเก่งกว่ากัน ถ้า สีดำจับเก่งกว่า และจุดประสงค์ของการเลี้ยง
แมวคือจับหนู เราควรเลี้ยงแมวสีดำเท่านั้น
2.แบ่งแยกการเล่นหุ้น มือใหม่เล่นแบบนึงมือเก่าเล่นอีกแบบ
ผมว่า หาวิธีการเล่นหุ้นที่ดีที่สุด แล้วเล่นไปตามนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นมือเก่าหรือมือใหม่
3.การลงทุน(เล่นหุ้น) หาวิธีและเล่นให้เหมาะสมกับจริตของตัวเอง
ผมว่าไร้สาระ เราต้องหาวิธีที่ดีที่สุด และเล่นไปตามนั้น ไม่ว่าเราจะเป็นคนจริตแบบไหน
คือคนแบบไหน ก็เล่นหุ้นวิธีที่ดีที่สุดแบบเดียวกัน
4.เมื่อเล่นหุ้นและกำไรแล้ว(ไม่รู้ว่ามากหรือน้อย) ก็ใช้รูปแบบการเล่นหุ้นแบบเดิม
ศึกษาให้มาก เราต้องพฒนาไปเรื่อยๆ เล่นให้ดีกว่าเดิม อย่าพอใจอะไรง่ายๆ

น่าจะชื่อกระทู้ "ความเข้าใจผิดของผม"

[dragonrider]

1.แมวขาวหรือดำไม่สำคัญขอให้จับหนูได้
จริงๆแล้ว เราควรศึกษาให้มากและสรุปว่า แมวขาว หรือดำ สีไหน
จับหนูเก่งกว่ากัน ถ้า สีดำจับเก่งกว่า และจุดประสงค์ของการเลี้ยง
แมวคือจับหนู เราควรเลี้ยงแมวสีดำเท่านั้น
2.แบ่งแยกการเล่นหุ้น มือใหม่เล่นแบบนึงมือเก่าเล่นอีกแบบ
ผมว่า หาวิธีการเล่นหุ้นที่ดีที่สุด แล้วเล่นไปตามนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นมือเก่าหรือมือใหม่
3.การลงทุน(เล่นหุ้น) หาวิธีและเล่นให้เหมาะสมกับจริตของตัวเอง
ผมว่าไร้สาระ เราต้องหาวิธีที่ดีที่สุด และเล่นไปตามนั้น ไม่ว่าเราจะเป็นคนจริตแบบไหน
คือคนแบบไหน ก็เล่นหุ้นวิธีที่ดีที่สุดแบบเดียวกัน
4.เมื่อเล่นหุ้นและกำไรแล้ว(ไม่รู้ว่ามากหรือน้อย) ก็ใช้รูปแบบการเล่นหุ้นแบบเดิม
ศึกษาให้มาก เราต้องพฒนาไปเรื่อยๆ เล่นให้ดีกว่าเดิม อย่าพอใจอะไรง่ายๆ

ข้อ 1
แมวจับหนูเก่งไม่เก่ง มันไม่ได้อยู่ที่สีอะไรนี่ครับ การอุปมาอุปไมย เค้าก็มีความหมายอย่างนั้น
แต่คุณก็ยังไปยึดติดกับสีอีก

ข้อ 2 การลงทุนในหุ้นไม่มีวิธีที่ดีที่สุดครับ เพราะ ตัวแปรมันมีมากกว่า 1 ที่สามารถทำให้ผลตอบแทน
มีความผันผวนได้ วิธีนึงอาจดีที่สุดในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น

ข้อ 3 นักกอล์ฟ เรียนตำราเดียวกัน วงสวิงยังต่างกันเลยครับ เพราะ สรีระร่างกายต่างกัน
การลงทุนในหุ้น หากจริตต่างกัน กลยุทธในการลงทุนที่เหมาะสมกับจริตย่อมให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า

ข้อ 4 การลงทุน หากมีประสบการณ์มากขึ้น นักลงทุนที่ดีก็น่าจะวิวัฒนาการตัวเองในการเลือกหุ้น
และ เลือกจังหวะเวลาในการเข้าลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดี

[simplelife]

แล้วถ้าแมวมันจับไม่เก่ง แต่หนูมันมีอยู่ช่วงนึงผิดปกติ ชอบวิ่งมาให้แมวจับหละ

แล้วเราก็ดันไปมองแต่อย่างนั้น ว่าเห็นไหมแมวตัวนี้ก็จับหนูได้ เราจะใช้แมวตัวนี้จับหนูตลอดไป ทั้งๆที่มันจับมาได้เพราะมันฟลุ๊ก ไม่ได้มีหลักการในการจับอะไร แต่หนูมันมาเข้าปากเองหล่ะ

[สาวกเซเลบ]

ซาหวัดดีฮัฟเพื่อนพ้องน้องพี่ สาวกหายไปนานมาก ช่วงที่ผ่านมาต้องเดินทางไปมาหลายที่ เลยไม่มีเวลามาตามบรรดาเหล่าท่านพี่เซเลบของสาวกว่ายังอยู่ดีมีสุขหรือเปล่าเอ่ย

ได้เจอกระทู้ที่เนื้อหาแบบนี้สาวกเลยต้องรีบเข้ามาดู เผื่อจะเจอพี่ ๆ ขวัญใจสาวกอยู่บ้างก็ไม่ผิดหวังจริง ๆ อะฮิ อะฮิ

เออ คำถามนี้น่าคิดนะ แมวจับหนูสีอะไรดีสุด วิธีการเล่นหุ้นแบบไหนดีสุด น่าคิดนะ ไอเดียบรรเจิดดีออกสาวกว่า ...

ถ้าเราเจอ "จอกศักดิ์สิทธิ์" แห่งการเล่นหุ้น หรือกระบี่อิงฟ้าดาบฆ่ามังกร เป็นหนึ่งในใต้หล้าแห่งยุทธจักรการลงทุนจะดีมิใช่น้อย สาวกจะได้หามาครอบครอง กลายเป็นเซเลบหนึ่งเดียวเสียเอง ไม่ต้องคอยตามใครอีก

ปัญหาที่สาวกสงสัยคือ เอ๊ะ เราจะเอาอะไรมาวัด วัดยังไง นานแค่ไหนดีหนอ กี่เด้งในกี่ปี หรือผลตอบแทนทบต้นนานแค่ไหน หรือเอาเป็นตัวเงินกันไปเลย ขุดกันขึ้นมาอวดให้หมดท้องพระคลัง จะรวมจิ้นไหม เอา futures ด้วยปะ แล้วนับ w กะ dw ได้ไหมนะ

สิ่งที่สาวกงงงวยอยู่คือ แทนที่เรามัวแต่มานั่งคิดหาแมวสุดยอดในใต้หล้าเพื่อมาจับหนู กว่าจะหาเจอ หนูมันมิโดนแมวข้างถนนไล่จับไปหมดแล้วเหรอ จะเสียเวลาหาซักกี่ปีดี

แล้วเกิดเราหาได้แล้วจริง ๆ แมวนี้เป็นโคตรแห่งแมวในโลกใต้ฟ้าสีครามอันนี้ เราสุดแสนจะภูมิใจ แล้วอยู่มาวันหนึ่งมาพบว่า แท้จริงแล้วมีแมวดาวอังคาร จับหนูเก่งกว่าแมวบนดาวของเราสิบเท่า จะว่าไง ยิ่งไปกว่านั้น มีแมวต่างกาแลกซี่ จับหนูเก่งกว่าแมวดาวอังคารอีกพันเท่า ... เราจะต้องไล่ล่าแมวต่างกาแลกซี่ด้วยไหม

คิดมากไป สาวกปวดหัวอ่ะ หาคำตอบไม่ได้ซักที ... ลงท้ายสาวกเลยขอเลี้ยงแมวบ้าน ๆ ของสาวกนี่แหละ จับได้มากได้น้อยไม่เป็นไร เพราะสาวกไม่กลัวได้หนูน้อยกว่าคนอื่นหรอกนะ สาวกกลัวไม่มีหนูให้จับมากกว่า ใครพอใจจะไล่ล่าแมวดาวอังคาร หรือแมวแห่งจักรวาล ก็เชิญตามสบาย สาวกไม่ขอไปแข่งด้วยหรอก

--------------------------------
จะซ้ายทีขวาที มุมเงยมุมช้อน มันวอนให้เผลอตัว
จะเฉยอยู่ก็กลัว เดี๋ยวใครมาซิวไปซะ ....

[sakkaphan]

โอ้ กระทู้พี่blueนี่สุดยอดทุกกระทู้เลยแฮะ

ผมว่า คำถามพี่บลูนี่ น่าจะต้องเอาประสบการณ์ของแต่ละคนมาแชร์กันหน่อย พี่บลูจะได้เห็นภาพ

เริ่มที่ผมแล้วกันครับ พี่บลูครับ ผมขอแสดงความเห็นจากประสบการณ์มั่งนะครับ

ข้อ 2 ตอนเริ่มเล่น ผมมือใหม่ ผมเล่นแบบมือเก๋า คือ ซัดตัวเดียว100 เปอร์เซนต์
ผลคือเละเทะไม่มีชิ้นดี เนื่องจากความรู้น้อย ประสบการณ์ก็ด้อย
สักพัก ผมเริ่มมือความรู้มากขึ้น ประสบการณ์เยอะขึ้น ผมกลับเล่นแบบมือใหม่ กระจายความเสี่ยงเยอะเพราะกลัวเนื่องจากเจ๊งจากตอนแรก
ผลคือผลตอบแทนไม่ดีเท่าไร
สุดท้าย ผมก็รู้สึกว่า ผมมีความรู้มากพอที่จะมั่นใจในการที่จะเน้นหนักในตัวที่ศึกษาแล้วมั่นใจจริงๆ ดังนั้น ผมคิดว่าผมเป็นมือเก่าแล้วและก็เก๋าพอตัว ก็เริ่มเล่นแบบมือเก่า
ผลคือผลตอบแทนดีกว่าที่คิดไว้มาก
......

ข้อ 3 นี่ ผมว่าจริงๆความหมายที่เค้าพูดกันแบบนั้นก็คล้ายๆข้อ2 แต่อาจแตกต่างตรงที่ว่า มันขึ้นอยู่กับความรู้หรือเทคนิคเฉพาะคนด้วย.........พี่บลูครับ สืบเนื่องจากข้อ 2 ผมมีความรู้ในสาขาเฉพาะทางเล็กน้อย และผมนำความรู้เฉพาะทางเล็กๆนี้มาใช้ เช่น เรื่องคน ผมให้ความสำคัญกับเรื่องนโยบายในการmangaeคน และขวัญกำลังใจของคนในองค์กรมาก(ซึ่งก็สืบเนื่องมาจากด้านที่เรียนรู้จากอาจารย์ในคณะวิศวะที่เก่งบริหารคน) โอเคด้านนี้ก็อาจไม่เฉพาะทางเท่าไร(แต่เท่าที่สังเกตในthaiviคุยด้านนี้น้อย เวลาคุยพื้นฐานจะคุยเรื่องmodelธุรกิจมากก่วา) และอีกเรื่องหนึ่งคือ ความรู้ด้าน logistic โดยเฉพาะด้านการmanage inventory... และผมนำมาใช้ในการเฟ้นหาบริษัทที่ผมจะลงทุน...
วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับผมที่ทำให้ผมได้ผลตอบแทนที่ดี

ถ้างั้นผมบอกพี่งี้นะครับ วิธีที่ดีที่สุดสำหรับผม คืออย่างที่ผมบอก 2 ข้อข้างบน งั้นพี่ทำตามผมเพราะผมพบแล้วว่ามันดีที่สุด ให้ผลตอบแทนที่ดี.... พี่ซื้อสักตัวที่มั่นใจที่สุดคิดเป็นเปอร์เซนต์เกิน 50 เปอร์เซนต์ของพอร์ตนะครับ แล้วก็ที่เหลือก็กระจายอีกเล็กน้อยๆ3-4ตัวป้องกันความเสี่ยง แล้วก็เวลาเฟ้นหาบริษัทโดยใช้ความรู้ด้านโลจิสติก ด้านinventory managementด้วยนะครับ....

พี่จะทำตามผมมั้ยครับ?
ถ้าผมบอกให้พี่ทำตามเนี่ย พี่ว่ามันฟังดูmake sense มั้ยครับ?


เอ่ออ... ว่าแต่ ทำไม ดร.นิเวศน์หรือบัฟเฟต ไม่เห็นทำเหมือนผมเลยหว่า....จะว่าไปแล้ววิธีนี้มันก็สำเร็จสำหรับผมซะด้วยสิ..... ผมคงเข้าใจผิดไปจริงๆ ไม่เป็นไร ผมยอมเข้าใจผิดต่อไปก็แล้วกันครับถ้ามันทำให้ผมได้เป็นเจ้าของบริษัทดีๆ

[nut776]

แต่ละท่าน ออกตัวแรงดีคับ
ชอบของพี่หลายลิ่งหลายเด้งอ่านแล้วฮาอย่างแรง

สำหรับคุณ picatos ผมย้อนกลับไปอ่านตอนคุณตี่เก็บ svi
ทำให้รู้ว่า ขนาดตัวผมปัจจุบัน ยังมีความรู้ไม่ได้เท่าขี้ล็บคุณตี่เมื่อ7ปีก่อนเลย
ตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงว่าคุณตี่เทพแต่ไหน

ส่วนเรื่องวิธีลงทุน ผมว่า มันก็คงต้องวิวัฒนาการไปเรื่อยๆในคนหนึ่ง
ตามประสพการและความรู้ หรือแม้แต่ขนาดของพอร์ท
อาจจะยึดติดวิธีเดิมๆตลอดไปไม่ได้
ผมดูจากดร.จิเวศน์ สมัยก่อนแนวคิดวิธีการก็ไม่เหมือนเดิมอะคับ

[Yaiba123]

3.การลงทุน(เล่นหุ้น) หาวิธีและเล่นให้เหมาะสมกับจริตของตัวเอง
ผมว่าไร้สาระ เราต้องหาวิธีที่ดีที่สุด และเล่นไปตามนั้น ไม่ว่าเราจะเป็นคนจริตแบบไหน
คือคนแบบไหน ก็เล่นหุ้นวิธีที่ดีที่สุดแบบเดียวกัน

ผมว่าข้อนี้ไม่ถูกต้องอย่างที่สุดครับ ต่อให้วิธีนั้นได้ผลดีที่สุด แต่มันไม่ถูกกับจริตของตัวเอง มันจะกลายเป็นการลงทุนที่ไม่มีความสุขครับ ถ้าทำแล้วไม่มีความสุข เป็นผม ผมยอมลดผลตอบแทนให้น้อยลง แต่ผมมีความสุขกับการลงทุนดีกว่าครับ สมมติว่ามีนักกายกรรมบอกว่า วิธีลงทุนที่ได้ผลดีที่สุดคือ ต้องตีลังการะหว่างซื้อหุ้น ปิดตาข้างนึงอ่านงบ เจอแบบนี้ต่อให้เป็นวิธีที่ดีที่สุด ผมก็ไม่อยากทำครับ เพราะผมไม่ใช่นักกายกรรมตีลังกาไม่เป็นครับ เผลอๆแทนที่จะประสบความสำเร็จ คอผมอาจจะหักก่อนที่จะประสบความสำเร็จก็ได้ครับ

[ดำ]

จขกท.ตั้งใจล่อเป้ารึเปล่า กระทู้พลีชีพ

[varintorn]

จขกท.ตั้งใจล่อเป้ารึเปล่า กระทู้พลีชีพ

หรือต้องการคะแนน

[koh]

น่าจะMOVEไปห้องนั่งเล่นนะ

[Jazzman]

ผม เป็นแฟนพันธ์ แท้ พี่ Blue เลยนะ 55+
ถ้าไม่คิดมาก อาจจะเป็นกระทู้พรีชีพก็ได้ โพสอะไรที่มันขัดๆๆ ในบอร์ดบ้าง ได้เก็บไปคิดดีนะครับ

[แมงเม่าสายลม]

กระทู้พี่บลูสุดยอดเลย ... ฮะ
เป็นกระทุ้ที่ทำให้หลายคนที่เงียบๆออกมาให้ทรรศนะ ได้
ถ้าเป็นความตั้งใจของพี่ ผมว่าพี่เก่งอะ

ไอเดียร์นี้ผม ชอบข้อ 2 แต่เพิ่มคำว่า"ที่ตรงจริต" กับข้อ 4 แบบไม่เพิ่มอะไร

ข้อ 1 กับ 3 ผมว่าแล้วแต่คน บางคนปรับตัวเองเพื่อผล (ซึ่งผมว่ามีอยู่จริงๆ)
บางคนเอาตัวเองสบายใจ ผล รองลงมา(แต่ไม่ขี้เหร่)

[Teerasak Boonrat]

4.เมื่อเล่นหุ้นและกำไรแล้ว(ไม่รู้ว่ามากหรือน้อย) ก็ใช้รูปแบบการเล่นหุ้นแบบเดิม
ศึกษาให้มาก เราต้องพฒนาไปเรื่อยๆ เล่นให้ดีกว่าเดิม อย่าพอใจอะไรง่ายๆ

ถ้าศึกษามากๆ จะพบว่าเราจะพัฒนามากขึ้น รูปแบบการลงทุนอาจจะไม่เหมือนเดิมแล้วก็ได้ครับ

ผมเองอยากลงทุนแค่ตัวเดียว นอนกอดยาว เป็นเจ้าของบริษัท แต่ยังทำไม่ได้เพราะยังไม่แน่ใจยังไม่เก่งพอ ก็ต้องกระจายไปหลายๆ ตัวและเรียนรู้กันไป

[blueplanet]

1.แมวขาวหรือดำไม่สำคัญขอให้จับหนูได้
ประโยคนี้มาจากเติ้งเสี่ยวผิง ความหมายคือวิธีการไม่สำคัญ
ขอให้ผลลัพธุ์ดี ซึ่งผิด สิ่งที่ถูกต้องคือวิธีการต้องถูกต้องแล้วผลลัพธุ์
ก็จะดีตาม(อิทัปปัจจยตา) ถ้าเข้าใจศาสนาพุทธ จะเข้าใจเรื่องนี้ดี
เมื่อก่อน เราเน้นที่สินค้ามีคุณภาพได้มาตราฐาน แต่ คนรู้จริงรู้ว่า
ขั้นตอนการผลิตต้องถูกต้องก่อน สินค้าจึงจะได้มาตราฐาน (เน้นขบวนการผลิต
ที่ได้มาตราฐาน)
2.แบ่งแยกการเล่นหุ้น มือใหม่เล่นแบบนึงมือเก่าเล่นอีกแบบ
เท่าที่ผมเห็น ในการวิ่ง 100 เมตร นักวิ่งโอลิมปิค นักวิ่งเอเชี่ยนเกม นักวิ่งซีเกม
นักวิ่งกีฬาเขต นักวิ่งโรงเรียนเทศบาล ท่าทางการวิ่ง การออกสตาร์ท การวางมือ
มันก็เหมือนๆกัน ฝึกในท่าทางที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
3.ถ้าจริตเราทำให้มีท่าวิ่งที่เหมาะสมไม่ได้ สิ่งที่ต้องทำคือปรับปรุงพัฒนาจนมีท่าวิ่งที่
ถูกต้องไม่ใช่วิ่งตามความเคยชิน และอ้างว่าเรามีธรรมชาติแบบนี้
4.วิธีการเล่นหุ้นของเรา ในปัจจุบัน อย่าคิดว่ามันดีแล้ว หาความรู้ไปเรื่อยๆจะเห็นว่า
เราทำได้ดีกว่าเก่า
ผมอ่านความเห็นบางคน เชื่อว่า การถือหุ้นตัวเดียว ต้องเป็นคนที่มีความรู้ตกผลึก
ต้องเก่งจริงๆ ศึกษามาอย่างรอบครอบ ผมบอกเลยว่าไม่จริง คนที่ถือหุ้นตัวเดียว
เป็นคนขี้เกียจ ความรู้น้อย ฉลาดน้อย และโลภมาก (kelly formular
หลักการคำนวณหาปริมาณเงินที่จะพนัน ตามโอกาสทีจะชนะ แต่อย่างไรก็จะไม่พนันจนหมดตัวในเกมเดียว)

[nut776]

ผมเห็นคนที่ฉลาด ขยัน เก่ง ถือตัวเดียว ก็มีนะคับ
ยุทธจักรกว้างใหญ่ จอมยุทธฝึกกระบวนท่าต่างจากเรา
ไม่ได้หมายความว่าเค้าไม่ฝึกฝนอย่างหนักอะคับ

โป้ว อั้งเสาะ มันฝึกท่าชัก (กระบี่)อย่างเดียว
ยังเป็นผู้เยี่ยมยุทธได้เลยคับ

[picatos]

...
ผมอ่านความเห็นบางคน เชื่อว่า การถือหุ้นตัวเดียว ต้องเป็นคนที่มีความรู้ตกผลึก
ต้องเก่งจริงๆ ศึกษามาอย่างรอบครอบ ผมบอกเลยว่าไม่จริง คนที่ถือหุ้นตัวเดียว
เป็นคนขี้เกียจ ความรู้น้อย ฉลาดน้อย และโลภมาก
...

ถูกใจครับพี่ ผมเคยถือหุ้นตัวเดียวทั้งพอร์ต นิสัยและความสามารถผมเป็นอย่างที่พี่บอกจริงๆ ครับ

ถ้าจะเพิ่มอีกนิดให้ตรงกับนิสัยผมก็ หน้าใหญ่ เห็นแก่ตัว และไม่รับฟังความคิดเห็นคนอื่นด้วยครับพี่

[dragonrider]

1.แมวขาวหรือดำไม่สำคัญขอให้จับหนูได้
ประโยคนี้มาจากเติ้งเสี่ยวผิง ความหมายคือวิธีการไม่สำคัญ
ขอให้ผลลัพธุ์ดี ซึ่งผิด สิ่งที่ถูกต้องคือวิธีการต้องถูกต้องแล้วผลลัพธุ์
ก็จะดีตาม(อิทัปปัจจยตา) ถ้าเข้าใจศาสนาพุทธ จะเข้าใจเรื่องนี้ดี
เมื่อก่อน เราเน้นที่สินค้ามีคุณภาพได้มาตราฐาน แต่ คนรู้จริงรู้ว่า
ขั้นตอนการผลิตต้องถูกต้องก่อน สินค้าจึงจะได้มาตราฐาน (เน้นขบวนการผลิต
ที่ได้มาตราฐาน)
2.แบ่งแยกการเล่นหุ้น มือใหม่เล่นแบบนึงมือเก่าเล่นอีกแบบ
เท่าที่ผมเห็น ในการวิ่ง 100 เมตร นักวิ่งโอลิมปิค นักวิ่งเอเชี่ยนเกม นักวิ่งซีเกม
นักวิ่งกีฬาเขต นักวิ่งโรงเรียนเทศบาล ท่าทางการวิ่ง การออกสตาร์ท การวางมือ
มันก็เหมือนๆกัน ฝึกในท่าทางที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
3.ถ้าจริตเราทำให้มีท่าวิ่งที่เหมาะสมไม่ได้ สิ่งที่ต้องทำคือปรับปรุงพัฒนาจนมีท่าวิ่งที่
ถูกต้องไม่ใช่วิ่งตามความเคยชิน และอ้างว่าเรามีธรรมชาติแบบนี้
4.วิธีการเล่นหุ้นของเรา ในปัจจุบัน อย่าคิดว่ามันดีแล้ว หาความรู้ไปเรื่อยๆจะเห็นว่า
เราทำได้ดีกว่าเก่า
ผมอ่านความเห็นบางคน เชื่อว่า การถือหุ้นตัวเดียว ต้องเป็นคนที่มีความรู้ตกผลึก
ต้องเก่งจริงๆ ศึกษามาอย่างรอบครอบ ผมบอกเลยว่าไม่จริง คนที่ถือหุ้นตัวเดียว
เป็นคนขี้เกียจ ความรู้น้อย ฉลาดน้อย และโลภมาก (kelly formular
หลักการคำนวณหาปริมาณเงินที่จะพนัน ตามโอกาสทีจะชนะ แต่อย่างไรก็จะไม่พนันจนหมดตัวในเกมเดียว)

ดีครับ ได้ถกอะไรที่มันนอกกรอบบ้าง
ข้อ 1 ปัญหาคือ อะไร คือ ถูก อะไรคือผิด การลงทุนเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์
ศาสตร์อาจมีถูก มีผิด แต่ศิลป์ไม่มีผิดมีถูก ที่คุณบอกว่าถูก ผมคิดว่าถูกครึ่งเดียว ^^
ข้อ 2 การวิ่ง 100 เมตร ทุกคนวิ่งระยะทางเท่ากัน วิ่งพร้อมกัน แต่ทำไมไม่ถึงเส้นชัยพร้อมกัน
ลองเปรียบเทียบวิ่งระยะกลาง ระยะไกล ดูสิครับ แล้วจะเข้าใจว่า มันไม่ใช่ท่าทางการวิ่ง มันเป็น
แผนการวิ่งที่เหมาะกับลักษณะของนักวิ่งแต่ละคนต่างหากที่ทำให้ชนะ
ข้อ 3 คุณเปรียบเทียบนักวิ่งอาชีพ กับ คนที่ไม่ได้วิ่งอาชีพ ก็เหมือนเปรียบเทียบนักลงทุนที่
รู้ว่ากำลังลงทุนอะไร เพราะอะไร กับ นักเล่นหุ้นที่ไม่รู้อะไรในหุ้นนอกจากราคา ถ้าอย่างนั้นก็
เห็นด้วยครับ แต่ถ้าพูดถึงจริต ผมว่ามันไม่ใช่นะ
ข้อ 4 คิดว่ามีทั้ง 2 แบบ แต่ถือตัวเดียวตลอดเวลาผมว่าไม่มีนะ ถ้าถือตัวเดียวบางเวลาอาจจะมี
และมีเหตุผลร้อยแปด สรุปไม่ได้ว่า ฉลาด รอบคอบ หรือ โง่ ขี้เกียจ

[sakkaphan]

ผมรู้สึกเสียดายเวลาจัง รู้สึกว่าพูดไปพี่ก็ไม่เข้าใจ พี่ก็คงรู้สึกว่าผมนี่โง่ไม่เข้าใจที่พี่พูดเหมือนกัน
เอาเป็นว่าต่างคนต่างเข้าใจไปตามที่ตนคิดแล้วกันครับ
ยังไงก็ตาม ผมก็รู้สึกชอบพี่นะครับ ฮ่าๆๆ

[nut776]

...
ผมอ่านความเห็นบางคน เชื่อว่า การถือหุ้นตัวเดียว ต้องเป็นคนที่มีความรู้ตกผลึก
ต้องเก่งจริงๆ ศึกษามาอย่างรอบครอบ ผมบอกเลยว่าไม่จริง คนที่ถือหุ้นตัวเดียว
เป็นคนขี้เกียจ ความรู้น้อย ฉลาดน้อย และโลภมาก
...

ถ้าคุณตี่


ถูกใจครับพี่ ผมเคยถือหุ้นตัวเดียวทั้งพอร์ต นิสัยและความสามารถผมเป็นอย่างที่พี่บอกจริงๆ ครับ

ถ้าจะเพิ่มอีกนิดให้ตรงกับนิสัยผมก็ หน้าใหญ่ เห็นแก่ตัว และไม่รับฟังความคิดเห็นคนอื่นด้วยครับพี่

ถ้าคุณตี่เป็นแบบนี้ ผมก็เดนคนแล้วคับ
ได้ขี้เล็บคุณตี่ ผมก็ดีใจแล้วคับ

[multipleceilings]

1.แมวขาวหรือดำไม่สำคัญขอให้จับหนูได้
ประโยคนี้มาจากเติ้งเสี่ยวผิง ความหมายคือวิธีการไม่สำคัญ
ขอให้ผลลัพธุ์ดี ซึ่งผิด สิ่งที่ถูกต้องคือวิธีการต้องถูกต้องแล้วผลลัพธุ์
ก็จะดีตาม(อิทัปปัจจยตา) ถ้าเข้าใจศาสนาพุทธ จะเข้าใจเรื่องนี้ดี
เมื่อก่อน เราเน้นที่สินค้ามีคุณภาพได้มาตราฐาน แต่ คนรู้จริงรู้ว่า
ขั้นตอนการผลิตต้องถูกต้องก่อน สินค้าจึงจะได้มาตราฐาน (เน้นขบวนการผลิต
ที่ได้มาตราฐาน)
2.แบ่งแยกการเล่นหุ้น มือใหม่เล่นแบบนึงมือเก่าเล่นอีกแบบ
เท่าที่ผมเห็น ในการวิ่ง 100 เมตร นักวิ่งโอลิมปิค นักวิ่งเอเชี่ยนเกม นักวิ่งซีเกม
นักวิ่งกีฬาเขต นักวิ่งโรงเรียนเทศบาล ท่าทางการวิ่ง การออกสตาร์ท การวางมือ
มันก็เหมือนๆกัน ฝึกในท่าทางที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
3.ถ้าจริตเราทำให้มีท่าวิ่งที่เหมาะสมไม่ได้ สิ่งที่ต้องทำคือปรับปรุงพัฒนาจนมีท่าวิ่งที่
ถูกต้องไม่ใช่วิ่งตามความเคยชิน และอ้างว่าเรามีธรรมชาติแบบนี้
4.วิธีการเล่นหุ้นของเรา ในปัจจุบัน อย่าคิดว่ามันดีแล้ว หาความรู้ไปเรื่อยๆจะเห็นว่า
เราทำได้ดีกว่าเก่า
ผมอ่านความเห็นบางคน เชื่อว่า การถือหุ้นตัวเดียว ต้องเป็นคนที่มีความรู้ตกผลึก
ต้องเก่งจริงๆ ศึกษามาอย่างรอบครอบ ผมบอกเลยว่าไม่จริง คนที่ถือหุ้นตัวเดียว
เป็นคนขี้เกียจ ความรู้น้อย ฉลาดน้อย และโลภมาก (kelly formular
หลักการคำนวณหาปริมาณเงินที่จะพนัน ตามโอกาสทีจะชนะ แต่อย่างไรก็จะไม่พนันจนหมดตัวในเกมเดียว)

พี่บลูครับนอกเรื่องนิดนึง พี่รู้จัก รพ. ศรีธัญญา หรือป่าวครับ

ผมแนะนำให้พี่

แต่ไม่ได้ให้ซื้อหุ้นเค้านะครับ

[Laziale]

4.วิธีการเล่นหุ้นของเรา ในปัจจุบัน อย่าคิดว่ามันดีแล้ว หาความรู้ไปเรื่อยๆจะเห็นว่า
เราทำได้ดีกว่าเก่า
ผมอ่านความเห็นบางคน เชื่อว่า การถือหุ้นตัวเดียว ต้องเป็นคนที่มีความรู้ตกผลึก
ต้องเก่งจริงๆ ศึกษามาอย่างรอบครอบ ผมบอกเลยว่าไม่จริง คนที่ถือหุ้นตัวเดียว
เป็นคนขี้เกียจ ความรู้น้อย ฉลาดน้อย และโลภมาก (kelly formular
หลักการคำนวณหาปริมาณเงินที่จะพนัน ตามโอกาสทีจะชนะ แต่อย่างไรก็จะไม่พนันจนหมดตัวในเกมเดียว)

ไม่เคยถือหุ้นตัวเดียว แต่มีพี่ที่เคารพถือหุ้นตัวเดียวมาหลายคนแล้ว และท่านเหล่านันยังคงใฝ่รู้ ศึกษาหุ้นตัวอื่นอยู่ตลอดเวลา และรู้จักหุ้นมากมายแม้จะไม่ได้ถือ เพราะเผื่อมีโอกาสเมื่อไหร่จึงหาโอกาสปรับพอร์ต และที่ถือตัวเดียวเข้าใจว่าหุ้นตัวอื่นที่ได้ศึกษาเมื่อนำมาเปรียบเทียบแล้วก็ไม่ได้ดีไปกว่าตัวที่ถืออยู่ จึงยังคงถือตัวเดียวต่อไป และรอโอกาสใหม่ๆเข้ามา
การที่คุณแสดงความเห็นว่าคนถือหุ้นตัวเดียวขี้เกียจ รู้น้อย ฉลาดน้อย โลภมาก หมายความว่าคุณนั้นโลกแคบ และไม่รู้จักเปิดใจในทัศนะคติและแนวทางของผู้อื่น การแสดงความเห็นตามความคิดของคนอย่างคุณนั้นทำได้ก็จริงเพราะนี่เป็นสังคมเปิด แต่การโจมตีคนที่คุณไม่เห็นด้วย ด้วยคำที่คุณสื่อออกมานั้นเป็นสิ่งแสดงให้เห็นว่าคนมีการศีกษาไม่ควรสื่อออกมาแบบนี้ครับ

[nut776]

ใจเย็นคับพี่น้อง
เด๋วดราม่า คุณบลู จะน้อยใจออกจากบอร์ด

[pak]

ลองดูโหมโรงในแง่มุมของ "ความรู้" พบว่าโครงเรื่องแสดงการเติบโตทางปัญญาของ "ศร" จากคนระนาดที่ลำพองในฝีมือของตน จนพบหนทางที่เป็นทางเฉพาะของตน (ทางใครก็ทางมัน) แล้วพบความหมายที่แท้ของดนตรี (คือความงามที่ไม่มุ่งแพ้ชนะ) แล้วก็พบว่าแท้ที่จริงแล้วดนตรีดีเป็นศิลป์สมบัติที่ควรรักษาไว้ส่งต่อไปใครคนรุ่นหลัง


ภาพยนต์ดนตรีไทยที่ยังตราตรึงใจ : โหมโรง(The Overture)
21/06/2011 View: 2,156
ที่มา : http://www.kru1.com/index.php?mo=3&art=607255

หากพูดถึงภาพยนต์ไทยที่เกี่ยวกับดนตรีไทยในสมัยนี้ น้อยคนที่จะไม่รู้จักชื่อ “โหมโรง” ที่ผู้เขียนนำภาพยนตร์นี้มาเขียนบทความในปีพ.ศ. ๒๕๕๔ นี้ ทั้งๆที่ภาพยนต์เรื่องนี้ฉายมาตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๔๗ ไม่ใช่ผู้เขียนจะนำหนังมาโปรโมตใหม่ แต่จะนำเอาแง่คิดในมุมหนึ่งมาสะท้อนสู่ผู้อ่านทุกคน

ภาพยนต์โหมโรงกำกับโดยคุณอิทธิสุนทร วิชัยลักษณ์ และตัวแสดงนำหลักที่ดำเนินเรื่องคือคุณอนุชิต สุพันธุ์พงษ์ และคุณณรงค์ฤทธิ์ โตสง่า(ครูปองของนักดนตรีไทย) เรื่องราวนำมาจากชีวิตจริงของครูหลวงประดิษฐ์ไพเราะ(ศร ศิลปบรรเลง) ครูผู้เป็นเอกทางระนาดที่มีชื่อที่สุดในยุครัตนโกสินทร์นี้ก็ว่าได้(ผู้เขียน)

ชีวิตของครูหลวงประดิษฐ์ไพเราะ(ศร ศิลปบรรเลง)เติบโตมาท่ามกลางวงปี่พาทย์ โดยมีครูสินผู้เป็นพ่อถ่ายทอดวิชาความรู้ทางดนตรี จนเมื่อนายศร(ชื่อครูในขณะนั้น)อายุได้ ๑๙ ปี ท่านได้แสดงฝีมือระนาดเอกเป็นที่พอพระทัยสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุ์วงศ์วรเดชเป็นอย่างมาก จึงทรงให้นายศรเข้ามารับใช้ในวังบูรพาภิรมย์ ทำหน้าที่เป็นมือระนาดเอกประจำวง และทรงจัดหาครูแปลกซึ่งเป็นครูที่มีฝีมือเลื่องลือในยุคนั้นมาสอน ทำให้นายศรมีฝีมือกล้าแข็งขึ้นในสมัยนั้นไม่มีใครมีฝีมือเทียบเท่าได้เลย

ในช่วงสมัยรัชกาลที่ ๕ นั้น แต่ละวังก็มีการตั้งวงปี่พาทย์กันมากมาย แต่ละวงจะจัดหาครูดีมีชื่อเสียงมาสอนนักดนตรีในสังกัดตน วงปี่พาทย์ที่มีชื่อเสียงในช่วงนั้นเช่น วงปี่พาทย์วังบางขุนพรหม วงปี่พาทย์วังบูรพาภิรมย์ วงวังบ้านหม้อฯลฯ วันดีคืนดีก็นำวงดนตรีแต่ละวงมาประชันฝีไม้ลายมือกันเป็นที่สำราญระหว่างเจ้านายด้วยกัน

เหตุการณ์หนึ่งที่เป็นที่กล่าวขานในวงการดนตรีไทยมาจนถึงปัจจุบันคือ การประชันระนาดเอกระหว่างนายแช่มและนายศร นายแช่มซึ่งต่อมาเป็นพระยาเสนาะดุริยางค์(แช่ม สุนทรวาทิน)นั้น เป็นผู้ที่เติบโตมาท่ามกลางเสียงปี่พาทย์เช่นเดียวกับนายศร ด้วยความที่ครูช้อยผู้เป็นบิดานายแช่ม(และเป็นครูของนายแปลก) ถ่ายทอดวิชาความรู้จนแกร่งกล้า ทำให้ท่านได้เป็นนักดนตรีในวังบ้านหม้อของเจ้าพระยาเทเวศวงศ์วิวัฒน์ตั้งแต่อายุประมาณ ๑๒ ปี วังบ้านหม้อในยุคนั้นเป็นที่ทำการของกรมมหรสพ เป็นแหล่งรวบรวมผู้มีฝีมือทางขับร้องฟ้อนรำเปรียบเสมือนกรมศิลป์ในปัจจุบัน ขุนอินในภาพยนต์ที่ประชันฝีมือกับนายศรนั้นก็คือ นายแช่ม นี่เอง

การประชันระนาดเอกระหว่างนายแช่มกับครูศรในครั้งนั้น เป็นที่ลำบากใจของนายศรมาก เพราะนายแช่มอายุมากกว่า มีชื่อเสียงเลื่องลือ อีกทั้งครูแปลกก็เป็นศิษย์ครูช้อย(บิดานายแช่ม)ด้วย นายศรจึงต้องให้ความเคารพนายแช่มเช่นกัน แต่ด้วยคำสั่งของเจ้านาย นายศรจึงต้องได้มาประลองกับนายแช่มในวันนั้น

การประลองในวันนั้นตีจนจบไปหลายเพลงแล้วก็ไม่รู้ผลแพ้ชนะ เพราะต่างคนก็มีดีของตน จนสุดท้ายต้องมาตัดสินด้วยเพลงเชิดต่อตัว ซึ่งเพลงเชิดนี้มีอยู่หลายตอน ผู้ตีระนาดต้องมีความไหว กำลังมาก จึงจะตีได้จนจบ มือไม่ตายกลางคันเสียก่อน ว่ากันว่าวันนั้นนายแช่มตีระนาดแบบสุขุม เสียงหนักแน่น แรงดีไม่มีตก สมเป็นผู้ใหญ่ แต่นายศรอาศัยความเป็นวัยรุ่น โลดโผน ใช้เทคนิคพลิกแพลง พลิ้วไหว จนนายแช่มรับความเร็วไม่ทันเกิดอาการมือตาย(มือเกร็งจนตีต่อไปไม่ได้)

เหตุการณ์ในวันนั้นแม้จะทำให้นายศรมีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่ว แต่อีกด้านหนึ่งนายศรก็รู้สึกกังวลใจ ไม่สบายใจ กับสิ่งที่ได้ทำลงไป ท่านจึงได้ทำการขอขมาต่อระนาดรุ่นพี่อย่างนายแช่ม ในทุกคราที่นายศรกล่าวถึงนายแช่มท่านจะยกย่องเชิดชูนายแช่มเสมอ ในฐานะเป็นรุ่นพี่ เป็นครู เป็นศิษย์ร่วมสำนัก เป็นผู้ที่สมควรเอาเป็นแบบอย่าง

นายศรต่อมาก็ได้รับความดีความชอบจนตำแหน่งสุดท้ายของท่านคือ หลวงประดิษฐ์ไพเราะ(ศร ศิลปบรรเลง)ส่วนนายแช่มนั้นหลังจากประชันในวันนั้นท่านก็ได้หันไปมุ่งเอาดีทางด้านการเป่าปี่และขับร้อง จนเป็นที่เลื่องลือว่าทางปี่และทางร้องของครูแช่มดีจนหาใครเทียบยากนัก ความดีความชอบของนายแช่มทำให้ท่านมีตำแหน่งสุดท้ายคือ พระยาเสนาะดุริยางค์(แช่ม สุนทรวาทิน) และครูทั้งสองนี้ก็มีลูกศิษย์ลูกหาเป็นหลักสำคัญของวงการดนตรีไทยตราบจนปัจจุบัน

ผู้อ่านจะเห็นได้ว่า คนในอดีตนั้นแม้จะสู้ ก็สู้ด้วยวิชาความรู้ ความสามารถอันแท้จริง มีศักดิ์ศรี แพ้และชนะไม่สำคัญ การจะอยู่ร่วมกันต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน ผู้เขียนเห็นว่าคนในสังคมไทยปัจจุบันหาได้ยากแล้ว คนสมัยนี้มุ่งแต่เอาชนะกันจนลืมเหตุ ลืมผล ยอมชนะแม้ต้องเสียเกียรติและศักดิ์ศรี ผู้อ่านและนักดนตรีได้อ่านบทความนี้แล้ว คงต้องกลับมาตระหนักคิดและเอาแบบอย่างบรมครูทั้งสองท่านนี้กันเถิด

ด้วยความเคารพบรมครูทั้งสองอย่างสุดซึ้ง

[pak]

เพลงจีนตอกไม้

เพลงคำหวาน

[กาละมัง]

หากเราเป็นนักกีฬา ก็ต้องถามว่าต้องการเป็นนักกีฬาอะไรและระดับไหน เราก็ต้องดูทักษะของเราว่าจะเลือกเล่นกีฬาอะไร ละเป็นเพียงเพื่อผ่อนคลายสนุก ๆ หรือต้องการเป็นนักกีฬาสมัครเล่น นักกีฬาระดับเขต ระดับชาติ ระดับโลก เป้าหมายอย่างไร เราย่อมต้องอุทิศแรงกาย แรงใจ การมีเทคนิคและการฝึกฝนที่ต่างกัน

การเป็นนักลงทุนก็เช่นเดียวกัน ผมว่าเป้าหมายการลงทุนแต่ละคนก็ต่างกัน เราก็จะจริงจังต่างกัน เราอาจไม่ได้ต้องการเป็นถึงจอมยุทธ ขอเพียงท่องอยู่ในยุทธภพได้อย่างมีความสุขก็พอ

เราจะเข้าใจอะไรผิดหรือไม่ คงวัดยาก ขอเพียงเราตอบโจทย์ตนเองได้ก็พอ ส่วนในเวบนี้เราต่างสามารถออกความเห็นที่สุจริตอย่างไรก็ได้ เราก็ต้องเปิดใจรับฟังเสียงแย้งที่สุจริตใจเช่นกัน เราก็จะร่วมพัฒนาตนเอง และเวบของเราได้

[สาวกเซเลบ]

ได้อ่านคำตอบของพี่ดาวเคราะห์แล้ว สาวกชักอยากเห็นแมวระดับกาแลกซี่ของพี่จังเลย อยากรู้ว่าจะไร้เทียมทานขนาดไหน
ถ้าหาแมวตัวนั้นได้ สาวกขอชมเป็นบุญตาหน่อยนะครับ ขอดูหนูที่จับได้ เอ้ย พอร์ทระดับเทพจักรวาลของพี่ก็ได้ ว่ามันจะเยี่ยมยุทธ์แค่ไหน สาวกเอาใจช่วย

ตอนนี้สาวกไล่จับหนูด้วยแมวบ้าน ๆ ของสาวกไปก่อนแระ จับกันไม่ทันเลย แมวในสนามก็เยอะจัด

ได้เมื่อไหร่อย่าลืมเอามาอวดน้า นานแค่ไหนสาวกก็จะรอ

-------------------------
ก็เป็นเพียงแต่ฝันละเมอ ..... ไม่รู้ว่าจะได้เจอวันไหน

[picatos]

...
ผมอ่านความเห็นบางคน เชื่อว่า การถือหุ้นตัวเดียว ต้องเป็นคนที่มีความรู้ตกผลึก
ต้องเก่งจริงๆ ศึกษามาอย่างรอบครอบ ผมบอกเลยว่าไม่จริง คนที่ถือหุ้นตัวเดียว
เป็นคนขี้เกียจ ความรู้น้อย ฉลาดน้อย และโลภมาก
...

ถ้าคุณตี่


ถูกใจครับพี่ ผมเคยถือหุ้นตัวเดียวทั้งพอร์ต นิสัยและความสามารถผมเป็นอย่างที่พี่บอกจริงๆ ครับ

ถ้าจะเพิ่มอีกนิดให้ตรงกับนิสัยผมก็ หน้าใหญ่ เห็นแก่ตัว และไม่รับฟังความคิดเห็นคนอื่นด้วยครับพี่

ถ้าคุณตี่เป็นแบบนี้ ผมก็เดนคนแล้วคับ
ได้ขี้เล็บคุณตี่ ผมก็ดีใจแล้วคับ

คุณ nut776 ผมไม่มีเจตนาจะไปกระทบกระเทียบใครนะครับ ต้องขออภัยด้วยถ้าหากคำพูดของผมทำให้คุณ nut776 รู้สึกแย่

คือ ผมอ่านที่พี่ blueplanet พูดแล้วมาพิจารณาตัวเองถึงข้อเสียต่างๆ แล้วเห็นว่าเป็นเช่นนั้นจริง ข้อเสียสุดๆ ของตัวผมจะเป็นเรื่อง มานะ ทิฏฐิ ลุ่มหลงในตัวตน ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่ดีและผมพยายามขัดเกลาตัวเองอยู่ ส่วนเรื่องขี้เกียจนี่ถ้าคิดในเรื่องการลงทุนก็เห็นว่าจริง เพราะ เหตุของการลงทุนของผมก็เกิดจากความขี้เกียจ ขี้เกียจทำงาน ดังนั้นในการลงทุน พอประสบความสำเร็จจุดหนึ่ง ผมจึงเข้าสู่โหมดขี้เกียจมาก แทบจะไม่ได้อ่านข่าว ตามหุ้นอะไรสักเท่าไหร่ พอเราขี้เกียจ ความรู้ก็น้อย และฉลาดน้อยจริงๆ ข้อมูลความรู้ก็มีแต่ของเก่าๆ เรียกว่าเก็บของเก่ากิน ไม่พยายามที่จะขยาย circle of competence ส่วนเรื่องที่ถือหุ้นตัวเดียวใช้มาร์จิ้น เหตุก็เกิดจากความโลภมากของผมอีกนั่นเอง

ดังนั่นคำวิพากษ์วิจารณ์ของพี่ blueplanet ผมจึงขอน้อมรับไว้อย่างดุษฎี และช่วงเพิ่มเต็มข้อเสียที่ร้ายกาจสุดๆ ของตัวเอง เพื่อจะได้ย้ำเตือนลงไปในจิต จะได้รีบแก้ไขได้ทันกาล

ประเด็นนึงของข้อเสียของผม คือ มานะทิฎฐิ ซึ่งเกิดจากการเปรียบเทียบว่าเราดีกว่าคนอื่น เสมอกับคนอื่น ด้อยกว่าคนอื่น ซึ่งไม่ว่าจะเปรียบเทียบอย่างไร ผมว่ามันก็ไม่ดีทั้งนั้น เราควรที่จะรู้ตัวของเราเองว่าตอนนี้เรามีกุศล มีอกุศลอะไร และพยายามขจัดอกุศลโดยไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับคนอื่นจะดีที่สุด

ขออภัยคุณ nut776 อีกครั้งนะครับ หากทำให้ขุ่นข้องหมองใจ

[picklife]

...
ผมอ่านความเห็นบางคน เชื่อว่า การถือหุ้นตัวเดียว ต้องเป็นคนที่มีความรู้ตกผลึก
ต้องเก่งจริงๆ ศึกษามาอย่างรอบครอบ ผมบอกเลยว่าไม่จริง คนที่ถือหุ้นตัวเดียว
เป็นคนขี้เกียจ ความรู้น้อย ฉลาดน้อย และโลภมาก
...

ถ้าคุณตี่


ถูกใจครับพี่ ผมเคยถือหุ้นตัวเดียวทั้งพอร์ต นิสัยและความสามารถผมเป็นอย่างที่พี่บอกจริงๆ ครับ

ถ้าจะเพิ่มอีกนิดให้ตรงกับนิสัยผมก็ หน้าใหญ่ เห็นแก่ตัว และไม่รับฟังความคิดเห็นคนอื่นด้วยครับพี่

ถ้าคุณตี่เป็นแบบนี้ ผมก็เดนคนแล้วคับ
ได้ขี้เล็บคุณตี่ ผมก็ดีใจแล้วคับ

ผมขอเป็นขี้เล็กนิ้วก้อยเท้าซ้ายก็ยังดีครับ555+
ได้มีโอกาสได้ฟังแนวคิดของพี่ตี่ในงานFinancal Project สุดยอดครับ