เสาร์ พ.ค. 07, 2011 8:37 am | 0 คอมเมนต์
long141 เขียน: ตกลงได้เป็น หรือยัง คัรบ โชว์ หน่อยเร็ว
รู้สึก ยังไง เสียว ซาน หรือ เปล่า\.......
แต่ ผถห ใหญ่ ก็ ไปสั่ง คนนั้น คนนี้ ในบริษัทไม่ได้นิ ต้องเป็น กก ก่อน
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนอยู่ด้วยเสมอ"
ผมฝันเอาไว้ว่า "ผมอยากมีชื่อในเว็บ Settrade เอาไว้เปิดให้คุณแม่คุณพ่อดู"
หรือพูดอีกอย่าง คือ "ผมอยากมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทฯที่ดีและมีความมั่นคง"
เพราะคุณแม่ของผม ท่านเคยต่อว่าผมเอาไว้ว่า "ทำงานสิบกว่าปี ไม่เห็นเก็บเงินอะไรได้เป็นชิ้นเป็นอันซักอย่างเลย!!!"
ความฝันเล็กๆของผม จึงเริ่มต้นที่ "เงินสามแสนบาท"
ซึ่งเป็นเงินที่สะสมมาได้มาจากการทำงานมาตลอด 10 กว่าปี
ผมอายุ 36 ปี (จบ ป.ตรี วิศวะ KU52 และ ป.โท MBATechM เอแบค) เงินเดือนห้าหมื่นกว่าบาท
ระหว่างทางเดินของความฝันในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา...
"เงินเดือน และโบนัสของผม"...ถูกนำมาลงทุนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเงินต่างๆทั้งหมดที่พอจะหาได้
(ขายแหวนที่ไม่จำเป็นสำหรับผม ผมก็ทำมาแล้วอ่ะนะครับ 555+)
สรุปว่า รวมทั้งหมดทั้งก้อนแรกและก้อนที่เอามาเติมเพิ่มระหว่างทาง
รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1.5 ล้านบาท
จากการคำนวณในกระดาษ
ผมเคยเข้าใจว่า...ผมน่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 - 3 ปี ในการจะได้มีชื่อเป็น ผถห.ใหญ่ ในบริษัทฯหนึ่ง
แต่เนื่องจากสภาพตลาดอำนวยฯ...ทำให้ผมไปถึงเป้าหมายได้เร็วกว่าที่วางแผนไว้
(ผมอาจไม่ได้เก่งอะไรเลย แต่ตลาดมันอยู่ในช่วงกระทิงต่างหาก!!!)
รวมทั้งความโชคดีของผมที่ลงทุนในหุ้น Turnaround ที่ถูกตัว (อันนี้คงมีเรื่องฟลุ๊คผสมอยู่ด้วยอ่ะนะครับ)
การลงทุนในหุ้น "ต้องถูกตัว และถูกเวลาเท่านั้น"
ผิดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้เลย
"จำนวนหุ้นที่ผมซื้อ" จะแปรผันตรง(Direct Variation) กับ "ความมั่นใจในบริษัทฯ" ของผมเสมอ
กล่าวคือ...
มั่นใจน้อย...ก็ซื้อน้อย (แล้วค่อยๆติดตามผลประกอบการไปเรื่อยๆ)
มั่นใจมาก...ก็ซื้อมาก
แต่ถ้ามั่นใจสุดๆ...ก็ "ตีแตก" ทันทีครับ...
และการที่เราจะเข้าไปมีชื่อเป็น "ผู้ถือหุ้นใหญ่" นั้น...เราควรจะมั่นใจสุดๆเท่านั้น
สำหรับผมแล้ว...
ถ้าให้เวลาผม 1 ชม. แล้วให้ผมพูดถึงรายละเอียด และข้อดีข้อเสียของบริษัทฯที่ผมสนใจจะลงทุน
รวมทั้งให้พูดถึง "SWOT Analysis ของบริษัทฯ , ความเป็นมาในอดีต , สภาวะในปัจจุบัน และแนวโน้มกิจการในอนาคต"
รวมถึงวิศัยทัศน์ของผู้บริหาร
ถ้าผมยังพูดไม่ได้!!!...นั่นแปลว่า ผมอาจจะยังพร้อมที่จะตีแตกในบริษัทฯนั้นๆ(เพราะเราอาจจะยังไม่รู้จักมันดีพอ หรือมันอาจจะยังไม่น่าสนใจเพียงพอ)
2 บริษัทฯที่มีชื่อผมอยู่...
ผมสามารถเปิด RoadShow ให้กับใครก็ได้ที่สนใจจะรู้ข้อมูล ได้อย่างทันที
และผมก็พูดให้คนรอบข้างฟังบ่อยซะด้วยซิ (ยิ่งพูด ก็ยิ่งได้รับ Feedback หรือข้อมูลที่เราไม่เคยรู้มาก่อน)
1 ชั่วโมง ต่อหนึ่งบริษัทฯ ยังไม่รู้จะพอให้ผมพูดหรือเปล่าอ่ะนะครับ 555+
"2 บริษัทฯที่ผมลงทุนนั้น" ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมามากกว่า 200%ไปหมดแล้ว!!!
ดังนั้นกระทู้นี้จึงไม่ใช่การเชียร์หุ้น
มันเป็นเพียงแต่ "คนธรรมดาคนนึง...มานั่งเล่าความฝันของตัวเอง" ก็เท่านั้นจริงๆครับ
(^_^)
ปล.
1) แม้ว่า "การเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่(ของบริษัทฯที่ดีๆ)" จะเป็นความฝันหลักของผม แต่ผมก็มีความฝันรองอื่นๆเช่นกัน
ดังนั้น ถ้าผมมีเหตุจะต้องใช้เงิน ผมก็อาจจะต้องขายหุ้น และสละการเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ไป!!!
เพื่อความฝันรองของผม
มันก็คงเป็นธรรมดา และความจริงง่ายๆ...เช่นนั้นเอง
2) ผมเองก็กำลังพยายามหาบริษัทฯที่ 3 ต่อไปเช่นกัน
แต่ภาวะตลาดช่วงนี้ เริ่มหาหุ้นดีๆที่จะลงทุน ยากเต็มที...ว่าไหมครับ?