ดอลล่าร์/บาท ทะลุ 41 ขึ้นไปแล้วครับ ส่งออกเมกาเตรียมเฮ

[CK]

สดๆ ร้อนๆ เมื่อกี้นี้เอง

ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ส่งมอบเดือนหน้า ก็อยู่ที่ 56.7 แล้ว

ดัชนี Baltic Dry Index อยู่ที่ 2,586 ลดจากสูงสุดที่ 6,200 กว่าๆ
ตอนต้นปี กำลังจะไปทดสอบ year low ของปีที่แล้ว

หุ้นส่งออกน่าจะมีเฮนะครับ

[buglife]

เฮ เฮ เฮ ด้วย ... โฮ :lovl:

[moo]

ส่งออก กลุ่มไหนครับพี่ CK
จะขอร่วมเฮด้วยคน

[นอกกรอบ]

Baltic Dry Index คืออะไรเหรอคับ

[CK]

Baltic Dry Index เป็นดัชนีค่าระวางเรือในเส้นทางยุโรปครับ
size น่าจะใกล้เคียงกับเรือตู้ RCL ...

ผมมีแต่ส่งออกเป็น EUR :lovl: เลยไม่ได้ประโยชน์จาก USD แข็งเท่าไหร่
ส่วนหุ้นนำเข้าดันเป็น USD :lovl: ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่

[adi]

ผมว่าจะเท่าไหร่ก็ได้ แต่ขอให้นิงๆหน่อย อย่างนี้ค้าขายยากเหลือเกิน

[คัดท้าย]

Baltic Dry Index เป็นดัชนีค่าระวางเรือในเส้นทางยุโรปครับ
size น่าจะใกล้เคียงกับเรือตู้ RCL ...

ผมมีแต่ส่งออกเป็น EUR :lovl: เลยไม่ได้ประโยชน์จาก USD แข็งเท่าไหร่
ส่วนหุ้นนำเข้าดันเป็น USD :lovl: ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่

คุณ roadtrip โพสต์ไว้ในสินธร ครับ BDI เห็นแล้วเสียว .. แต่ก็น่าจะดีกับส่งออก

[นอกกรอบ]

ค่าระวางเรือลง น่าจะแปลว่า เศรษฐกิจไม่ดีสิครับ เกี่ยวมั้ย

[tanasombat]

Baltic Dry Index เป็นดัชนีค่าระวางเรือในเส้นทางยุโรปครับ
size น่าจะใกล้เคียงกับเรือตู้ RCL ...

แล้วจะมีผลกับ PSL TTA หรือเปล่าครับ เพราะว่าเป็นเรือเทกอง สงสัย????

[คนเรือ VI]

อย่างที่คาดกันไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วครับ ค่าระวางเรือคงจะลงมา รับข่าวเรือ super post panamax เข้าประจำการ ตอนนี้เหล็ก ยิ่งถูก ยิ่งหาง่าย เส้นทางยุโรปก็น่าจะโดนก่อนเพื่อนครับ

PTL อาจได้ผลประโยชน์
ชิปที่ใช้กับ เครื่องไฟฟ้า อาจได้ประโยชน์

กุ้ง ไปอเมริกา อาจได้ประโยชน์ 2 เด้ง
RCL ที่เพิ่งเปิดสายยุโรปคงได้ รับ impact แต่ถ้าvolume สินค้าเพิ่มขึ้น ธุรกิจ feedering น่าจะยังช่วยได้บ้าง

[สุมาอี้]

เมื่อคืนดูช่องตลท.ของไททีวี มีสัมภาษณ์นักเศรษฐศาสตร์ของ สแตนดาร์ด ชาร์ตเตอร์คนหนึ่ง น่าเสียดายที่ผมจำชื่อเธอไม่ได้ แต่เธอเป็นคนที่อธิบายเรื่องการไหลเข้าออกของเงินทุนได้กระจ่างมากๆ

เธอบอกว่า 5 ปีที่ผ่านมา บัญชีทุนของไทยติดลบตลอดเพราะต้องทยอยใช้หนี้ต่างประเทศคืน (ผลพวงวิกฤตเศรษฐกิจ) แต่บัญชีเดินสะพัดเป็นบวกอย่างมากเพราะค่าเงินที่อ่อนลงเกือบเท่าตัวทำให้ส่งออกได้ดี หักลบกันแล้วเงินจึงไหลเข้าประเทศทุกปี
ส่งผลให้ทุนสำรองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำให้มีเงินไหลเข้ามาในระบบเศรษฐกิจมากทำให้สภาพคล่องล้นระบบ ดอกเบี้ยแบงก์ไม่ขึ้น

แต่ 5 ปีต่อจากนี้ไป เราต้องลงทุนเมกะโปรเจ็คต้องใช้เงินมหาศาล ต้องกู้เงินต่างประเทศเพิ่ม และต้องนำเข้าวัตถุดิบในการก่อสร้างซึ่งไม่มีในประเทศ ดังนั้นในช่วง 5 ปีนี้จะเห็นค่าเงินบาทอ่อนลงอย่างมาก บัญชีเดินสะพัดจะขาดดุล บัญชีทุนจะเป็นบวกแต่สุทธิแล้วเงินทุนน่าจะไหลออก เงินทุนสำรองจะลดลง สภาพคล่องในแบงก์จะหายไป ดอกเบี้ยแบงก์จะเพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่เคยคิดกันไว้ ทั้งหมดนี้นับเป็นการอดเปรี้ยวไว้กินหวาน เพราะเมื่อเมกะโปรเจ็คเสร็จในอีก 5 ปีข้างหน้า ไทยจะกลับมาดีใหม่เพราะต่างชาติจะสนใจลงทุนมากขึ้น เนื่องจากการคมนาคมที่สะดวกและต้นทุนขนส่งของประเทศที่ลดต่ำลง

[โป้ง]

CM ตอนค่าเงินอ่อน ธุรกิจไปรุ่งนะครับ

กับพวก elec.

[M149]

ถ้าจะรุ่งก็คงยังไม่ส่งผลในช่วงเวลาอันใกล้นี้หรอกครับ จะส่งผลก็น่าจะซักไตรมาศ3ไปแล้ว เหตุเพราะทฤษฎี J-curve effect ครับ