1 ล้านบาทแรกในชีวิต
-
- Verified User
- โพสต์: 152
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 391
ครบ 1ล้านแล้วค่ะ>< ลงทุนมา14เดือน. พอตเริ่มต้น 50000. ค่ะ. อาศัยเติมเงินมาเรื่อยๆๆไม่ได้เก่งอะไรแค่ฟลุ๊กค่ะ ยังคงลอกการบ้าน อยู่เลย><
............................................................................
Let it be, it shall pass
............................................................................
Let it be, it shall pass
Let it be, It shall pass..
catty
catty
- Skyforever
- Verified User
- โพสต์: 1203
- ผู้ติดตาม: 0
Re:
โพสต์ที่ 392
ล้านที่ 2 ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาที่ผ่านมาแล้วครับRocker เขียน:ถ้าได้ล้านที่ 2 แล้วมาตั้งกระทู้เล่าให้ฟังอีกนะครับ
เสี่ยยักษ์เคยบอกว่า ล้านแรกเป็นล้าน 2 ช่วงนี้ยากมาก แต่จากล้าน2ไป4ล้านเริ่มง่าย จาก 4 ไป 8 ยิ่งง่ายกว่า
จะรออ่านและเชื่อว่าคุณต้องทําได้ เป็นกําลังใจให้ครับ :D
ล้านที่ 2 นี้มาแล้วมาแบบมั่นคง เกินขึ้นมาเยอะกว่าที่หวังไว้ครับ
ยืนยันว่า 1 ล้านบาทแรกนั้นยากที่สุดครับ ยากจริงๆ โดยเฉพาะคนที่เงินเดือนไม่กี่หมื่นอย่างผม
จาก 0 เป็น 1 ล้านใช้เวลา 10 ปี ทั้งออมทั้งลงทุน แต่จาก 1 ล้านเป็น 2 ล้านนั้นแค่ปีเดียว เติมเงินเข้าไปประมาณ 2 แสน ถือว่ามาเร็วกว่าที่คิดมาก ซึ่งเดิมผมวางเป้าไว้ว่าจะต้องได้ล้านที่ 2 ภายในเวลาประมาณ 3 ปีหลังจากได้ล้านแรก แสดงว่าผมจะไปสู่ฝันได้เร็วขึ้นอีก 2 ปี
ใน 1 ปีที่ผ่านมานั้นผมได้กำไรหลักๆจากหุ้นเพียง 2 ตัวเท่านั้น พอร์ตผมไม่หวือหวานัก หลังจากพอร์ตทะลุ 1 ล้านบาทมาได้ พอร์ตผมก็แกว่งขึ้นแก่วงลงบ้างประมาณเกือบครึ่งปี อยู่ระหว่าง 1.1 ล้าน ถึง 1.3 ล้าน และไม่เคยหลุด 1 ล้านบาทเลย หุ้นที่ผมลงทุนนั้นเป็นหุ้นเติบโต ไม่เคยติดอันดับหุ้นซื้อขายสูงสุด เลือกเองโดยเลือกธุรกิจที่มีภูมิต้านทานต่อภาวะเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงพอสมควร เน้นถือแล้วสบายใจ โดยตั้งใจว่าจะถือไปตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะมีเหตุให้ปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนอย่างรุนแรง และหวังว่าจะได้โพสต์แชร์ประสบการณ์แบบเต็มๆหลังจากได้ 8 หลักมาแล้ว
หวังว่าจะได้ 8 หลักภายใน 5 ปี ข้างหน้าครับ สู้ๆๆ มาร่วมเดินทางไปสู่หลักกิโลต่อไปกัน
ชนะเพราะไม่คิดเอาชนะ กำไรเพราะไม่โลภ ลงทุนอย่างมีความสุขเพราะจิตใจอยู่เหนืออารมณ์ตลาด
"ทรัพย์ศฤงคารที่ได้มาอย่างเร่งร้อนจะยอบแยบลง แต่บุคคลที่ส่ำสมทีละเล็กละน้อยจะได้เพิ่มพูนขึ้น" สุภาษิต 13:11
"ทรัพย์ศฤงคารที่ได้มาอย่างเร่งร้อนจะยอบแยบลง แต่บุคคลที่ส่ำสมทีละเล็กละน้อยจะได้เพิ่มพูนขึ้น" สุภาษิต 13:11
-
- Verified User
- โพสต์: 63
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 394
ปีกว่าแล้ว. แวะมาอัพเดทครับqiwio เขียน:อยากจะเป็น vi กับเค้าบ้าง
ผมเพิ่งเรียนจบ ทำงานปีแรก เริ่มทำงาน เมษา 53 ตอนนี้ ธค 53
ตั้งเป้าแรก ในปีแรกที่ทำงาน จะเก็บให้ได้ หนึ่งล้าน
วันนี้สิ้นปีพอดี เป้าแรกพลาดไป เหลืออีกนิดหน่อย
แต่เป้าที่สอง หนึ่งล้านแรก เมื่อทำงานครบ หนึ่งปี คงไม่พลาด
เงินเดือน 100% เก็บไว้ลงทุน80% อีก 20% ไว้กินกับใช้จ่าย
พอดีกลับมาทำงานที่บ้าน ค่าใช้จ่ายเลยไม่เยอะมาก
กำลังอยากลงทุนในหุ้น เปิดพอร์ต ไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้เริ่มซื้อ ขาย
มีแต่ลงทุนในกองทุนรวม ได้กำไรเกือบ10%
เป็นเสตปแรก ถือว่า ได้มาสังเกตุ ตลาด ดูดัชนีบ้าง
ขั้นต่อไปก็คงเข้าห้องนี้บ่อยขึ้น
แล้วเริ่มเทรดกับเค้าบ้าง
ตอนนี้เปิดพอร์ตลงทุนแล้ว เทรดมาแล้วปีกว่าครับ
พอร์ตหุ้น1ล้าน. กองทุน 5แสน ส่วนใหญ่ เงินออมเติมใส่ซะมากกว่า
ผลตอบแทนที่ผ่านมายังไม่น่าพอใจครับ. 6-7%
เปิดจอ ดูกราฟทุกวันครับ. จะพยายามเปลี่ยนมาเปิด 56-1 ทุกวันอยู่คระบ
ตอนนี้ หัดอ่านงบการเงินอยู่. รอบหน้ามาใหม่. อาจจะอ่นงบคล่อง หรือวางมันไว้ตรงนี้ ไว้มาอัพเดทอีกทีครับ
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 396
มีใครที่ได้ล้านแรก แล้ว ได้ล้านที่ 2 บ้าง
เล่าให้ฟังหน่อยก็ดีนะครับ ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างหรือเปล่า
เล่าให้ฟังหน่อยก็ดีนะครับ ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างหรือเปล่า
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 397
รู้สึกว่า วุฒิภาวะทางอารมณ์และความสามารถในการลงทุน ก้าวตามไม่ทันกับ เงินที่กองอยู่ตรงหน้า ความกดดันในการลงทุนไม่เคยลดลงเลยระหว่างการได้ล้านที่ 1 หรือล้านที่ 2MO101 เขียน:มีใครที่ได้ล้านแรก แล้ว ได้ล้านที่ 2 บ้าง
เล่าให้ฟังหน่อยก็ดีนะครับ ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างหรือเปล่า
สิ่งที่ตามมาคือ ไม่มีล้านไหนที่รู้สึกว่ายากที่สุดอย่างที่หลายๆคนบ่นกันมา แต่รู้สึกว่า ทุกๆการเติบโตของเงินลงทุนนั้นยากและเสียว ไม่ว่าจะโตขึ้นไปเท่าใด หากเราเพลี่ยงพล้ำ สิ่งที่สร้างมาก็จะกลับสู่สามัญ
สิ่งหนึ่งที่ยากขึ้นไป คือเวลาที่เราต้องตัดสินใจลงเงินในหุ้นตัวนึงใน % ตามแผนที่กำหนด (แต่คิดเป็นตัวเงินแล้วอาจเท่ากับครึ่งพอร์ตของตอนที่เริ่มต้น) นั่นหมายความว่า เราต้องคิดอย่างถี่ถ้วนมากขึ้น บางตัวที่เคยซื้อได้ สภาพคล่องก็อาจไม่เหมาะกับพอร์ตเราในตอนนี้แล้ว
เราต่างตื่นขึ้นมาทุกวัน เพื่อสร้างผลงานให้ได้ เราควรรู้ว่า ในทุกวันมีอะไรที่ต้องทำเพื่อให้เกิดผลงาน หากการตื่นขึ้นมา ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลงาน เราก็ไม่สมควรที่จะตื่นขึ้นมาให้รกหูรกตาคนรอบข้าง
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 398
ใครขุดขึ้นมานิ
55 เพิ่งรู้ตัวว่าเกรียนเหมือนเดิม
แต่ก็มาไกลกว่าเดิมเยอะแฮะ
ไปๆมาพอร์ทโตขึ้นเยอะสงสัยใส่เงินเพิ่มเยอะ
แต่ concept ก็ยังเหมือนเดิม
survive first อยู่ให้นานๆ ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น
ยิ่งเงินก้อนใหญ่มากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งต้องเดินระวังมากขึ้น
55 เพิ่งรู้ตัวว่าเกรียนเหมือนเดิม
แต่ก็มาไกลกว่าเดิมเยอะแฮะ
ไปๆมาพอร์ทโตขึ้นเยอะสงสัยใส่เงินเพิ่มเยอะ
แต่ concept ก็ยังเหมือนเดิม
survive first อยู่ให้นานๆ ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น
ยิ่งเงินก้อนใหญ่มากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งต้องเดินระวังมากขึ้น
show me money.
-
- Verified User
- โพสต์: 2595
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 399
ขอมาเเจมกระทู้...ที่จะเป็นตำนานเเห่งเเรงบันดาลใจครับ
จากประสบการณ์ ผมว่าล้านเเรกยากที่สุดครับ....เเต่ไม่เครียด มันเป็นอารมณ์มุ่งมั่นมากกว่า
จากล้านที่ 1 มาล้านที่2 ยากคนละเเบบเพราะจะเริ่ม"หมกมุ่น"กับการหาความรู้ หาหุ้น(อ่าน56-1ในหุ้นที่สนใจ จนเหลือเวลานอนราว4-5ชม.ต่อวัน ทุกวัน) หาช่องทางกระจายการลงทุน ให้เงินทำงาน"หนักๆ"ใความเสี่ยงที่รับได้ นอกจากนี้ก็ทำงานเก็บเงินมากขึ้น เเทบจะไม่อยากจ่ายเงินเเม้เเต่บาทเดียว จากงานประจำเเละเรื่องลงทุน จนไม่เหลือเวลาให้คิดเรื่องอื่นเพราะเรามีความสุขมากๆกับ"ตัวเลข"ที่เพิ่มขึ้น "เป้าหมาย"มันเเทรกซึมอยู่ทุกรูขุมขน ความเครียดเเทบจะทำให้ได้หัว"ล้าน"มาเเบบถาวร
ล้านที่2-->ล้านที่ 3 มาง่ายกว่า มาเร็วเเละเเบบลืมๆ งงๆว่าเฮ้ยมาถึงเลข3เเล้วเหรอ ไม่หมกมุ่นขนาดล้านที่ 1-->2 เเต่ล้านที่ 3มาพร้อม"Office Syndrome"คือปวดหัวเมื่อใช้สายตากับคอมพิวเตอร์...ทำให้การก้าวสู่ล้านที่4 ต้องลดความหมกมุ่นกับ"หุ้น", Thaivi ลงไปโดยปริยาย ถึงเเม้ใจอยากจะทำเเต่ร่างกายชักไม่ไหว
พอมาถึงตรงนี้เลยมานั่งคิดว่า
-ถ้าเราป่วยเเล้วเเลกมาด้วยเงินล้านคุ้มไหม?
-มีซักกี่คนที่เตรียมว่าถ้าตายขึ้นมา พ่อเเม่หรือครอบครัวเราจะไปติดต่อใครเพื่อรับมรดกที่เราสร้างไว้เเละเงินไปกระจายอยู่ที่ไหนบ้าง?
นอกจากนี้ เเอบเสียดายที่ต้องเปลืองเงินไปกับค่าประกันชีวิตมากไปหน่อย(ผมจ่ายค่าประกันราว12%ของรายได้รวม) จริงๆเเล้วน่าจะเอาเงินตรงนี้มาเข้าPortลงทุนมากกว่า จะได้มีตัวเลขเพิ่มขึ้นเเละเงินมีโอกาสงอกเงยมากกว่า
เจอกันอีกทีในกระทู้นี้เมื่อรู้สึกว่า"พอ"(ผมตั้งไว้ที่8หลักเเละยืนยันไม่ขยายเป้าหมายเมื่อไปถึงครับ)ร่วมกับสุขภาพที่ดีครับ
จากประสบการณ์ ผมว่าล้านเเรกยากที่สุดครับ....เเต่ไม่เครียด มันเป็นอารมณ์มุ่งมั่นมากกว่า
จากล้านที่ 1 มาล้านที่2 ยากคนละเเบบเพราะจะเริ่ม"หมกมุ่น"กับการหาความรู้ หาหุ้น(อ่าน56-1ในหุ้นที่สนใจ จนเหลือเวลานอนราว4-5ชม.ต่อวัน ทุกวัน) หาช่องทางกระจายการลงทุน ให้เงินทำงาน"หนักๆ"ใความเสี่ยงที่รับได้ นอกจากนี้ก็ทำงานเก็บเงินมากขึ้น เเทบจะไม่อยากจ่ายเงินเเม้เเต่บาทเดียว จากงานประจำเเละเรื่องลงทุน จนไม่เหลือเวลาให้คิดเรื่องอื่นเพราะเรามีความสุขมากๆกับ"ตัวเลข"ที่เพิ่มขึ้น "เป้าหมาย"มันเเทรกซึมอยู่ทุกรูขุมขน ความเครียดเเทบจะทำให้ได้หัว"ล้าน"มาเเบบถาวร
ล้านที่2-->ล้านที่ 3 มาง่ายกว่า มาเร็วเเละเเบบลืมๆ งงๆว่าเฮ้ยมาถึงเลข3เเล้วเหรอ ไม่หมกมุ่นขนาดล้านที่ 1-->2 เเต่ล้านที่ 3มาพร้อม"Office Syndrome"คือปวดหัวเมื่อใช้สายตากับคอมพิวเตอร์...ทำให้การก้าวสู่ล้านที่4 ต้องลดความหมกมุ่นกับ"หุ้น", Thaivi ลงไปโดยปริยาย ถึงเเม้ใจอยากจะทำเเต่ร่างกายชักไม่ไหว
พอมาถึงตรงนี้เลยมานั่งคิดว่า
-ถ้าเราป่วยเเล้วเเลกมาด้วยเงินล้านคุ้มไหม?
-มีซักกี่คนที่เตรียมว่าถ้าตายขึ้นมา พ่อเเม่หรือครอบครัวเราจะไปติดต่อใครเพื่อรับมรดกที่เราสร้างไว้เเละเงินไปกระจายอยู่ที่ไหนบ้าง?
นอกจากนี้ เเอบเสียดายที่ต้องเปลืองเงินไปกับค่าประกันชีวิตมากไปหน่อย(ผมจ่ายค่าประกันราว12%ของรายได้รวม) จริงๆเเล้วน่าจะเอาเงินตรงนี้มาเข้าPortลงทุนมากกว่า จะได้มีตัวเลขเพิ่มขึ้นเเละเงินมีโอกาสงอกเงยมากกว่า
เจอกันอีกทีในกระทู้นี้เมื่อรู้สึกว่า"พอ"(ผมตั้งไว้ที่8หลักเเละยืนยันไม่ขยายเป้าหมายเมื่อไปถึงครับ)ร่วมกับสุขภาพที่ดีครับ
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
-
- Verified User
- โพสต์: 2141
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 401
ลงทุนอย่างมีความสุข ถ้าเครียดมาก อย่างอื่นจะล้านก่อนพอร์ตนะครับ eiei
M aterial catalyst
A ttitude & Perception
D isclipine
A ttitude & Perception
D isclipine
-
- Verified User
- โพสต์: 915
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 402
สำหรับผมเงินที่ได้งอกเงยจากการลงทุนยังเป็นแค่หลักแสน แต่เงินเก็บนะเกินล้านแล้ว
มาด้วยอะไรหลายๆอย่าง พอเงินเดือนเยอะขึ้น ก็พอมีเก็บได้มากขึ้น รวมถึงเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพด้วย
พอมีเงินได้ระดับหนึ่ง รู้สึกว่าความสามารถในการบริหารพอร์ทนั้นก้าวตามไม่ทันเงินครับ เลยเริ่มกลัวๆกล้าๆเหมือนกัน
มาด้วยอะไรหลายๆอย่าง พอเงินเดือนเยอะขึ้น ก็พอมีเก็บได้มากขึ้น รวมถึงเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพด้วย
พอมีเงินได้ระดับหนึ่ง รู้สึกว่าความสามารถในการบริหารพอร์ทนั้นก้าวตามไม่ทันเงินครับ เลยเริ่มกลัวๆกล้าๆเหมือนกัน
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 403
ผมครบล้านแล้ว ปีที่ผ่านมา แต่ ไม่อยากครบล้านที่2
เพราะ มันเป็นตัวแดง ครบล้าน
สอนบทเรียนหลายอย่างเลย
เลยต้องมาหมกหมุ่น ใหม่ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์อัปยศ เกิดขึ้นอีก
ใช้กระทู้นี้เตือนใจตัวเองไว้ละกัน
ยิ่งเงินก้อนใหญ่ขึ้น ยิ่งต้องระวังมากขึ้น
มั่วๆ เอามันเหมือนเคย ไม่คุ้มจริงๆ
เพราะ มันเป็นตัวแดง ครบล้าน
สอนบทเรียนหลายอย่างเลย
เลยต้องมาหมกหมุ่น ใหม่ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์อัปยศ เกิดขึ้นอีก
ใช้กระทู้นี้เตือนใจตัวเองไว้ละกัน
ยิ่งเงินก้อนใหญ่ขึ้น ยิ่งต้องระวังมากขึ้น
มั่วๆ เอามันเหมือนเคย ไม่คุ้มจริงๆ
show me money.
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1111
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 404
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ นั่นสิครับ น่าจะมีกระทู้ชื่อห้องประมาณนี้ด้วยนะ"ล้านหรือเกือบล้านครั้งแรกในชีวิต"multipleceilings เขียน:ลงทุนอย่างมีความสุข ถ้าเครียดมาก อย่างอื่นจะล้านก่อนพอร์ตนะครับ eiei
ผมนึกถึงช่วงนึงเมื่อประมาณปี2553 ตอนนั้นยังเคว้งคว้าง หาทางเดินของตัวเองไม่ได้ในเส้นทางลงทุน แต่ก็ยังลงทุนเต็มวงเงิน ทำให้เครียดมาก ประกอบกับอะไรหลายๆอย่างในช่วงนั้นพอดี ทำให้ความเครียดพอกพูนขึ้น จนถึงขั้นเป็นเส้นประสาทอักเสบเลยครับ ทรมาณมาก แล้วหน้าครึ่งนึงก็เบี้ยวเลย กินน้ำแล้วน้ำหกด้วย ปากไม่มีแรง ซึ่งมันเกิดจากความเครียด หาหมอวุ่นเชียว ดีนะกลับตัวทัน เลยแค่"เกือบล้าน" หลังจากนั้นรู้เลยว่าต้องตั้งอยู่ในความสุข ไม่เครียด หลังจากนั้นชีวิตดีขึ้นเยอะต่างกันราวฟ้ากับเหว ฮ่าๆๆ
ดีนะที่เส้นประสาทกินซะก่อน ไม่งั้นละก็ "ล้านแรก" ชัวร์ ฮ่าๆๆๆๆๆ
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
-
- Verified User
- โพสต์: 31
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 405
ฟังแล้วใช่เลย ยินดีด้วยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 409
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 407
มาขอลงทะเบียนอีกคนครับ
ในวัยเด็กครอบครัวลำบาก พ่อแม่ทำงานหนักมากแต่ก็ยังจน พอโตขึ้นจึงรู้ว่าเครื่องมือ(อาชีพ)ที่พ่อแม่ใช่ไม่มีวันลืมตาอ้าปากได้
บวกกับทำงานประจำที่หนักแต่ก็ได้เท่าเดิม จึงเริ่มมองหาเครื่องมือ(อาชีพ)ที่ทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิต(ไม่ใช่การงาน) โดยมองแบบอย่างคนที่ประสบความสำเร็จจากหลายอาชีพ จนมาจบที่การลงทุน
กำเงินเก็บทั้งชีวิตของเดินเข้าตลาดด้วยคำพูดที่ว่า "คนจนเล่นหวยคนรวยเล่นหุ้น"
จากหลักหมื่นปลาย --->1ล้านแรกอันแสนยากลำบากแท้ รวบรวมความมุ่งมั่นตั้ง4ปี
อดออม อดกั้นความอยาก หยุดสิ่งที่ต้องการทั้งหมด รวมแม้กระทั้ง"บ้าน"ที่อยากจะได้ใจจะขาด
แต่เมื่อเดินมาถูกทาง(VI)จาก 1 ลบ--->2ลบ.(นั้นช่างมาเร็วเกินคาด)
- สิ่งที่อยากได้"บ้าน" ก็ได้ซื้อ และจะโอนกลางเดือนนี้เพื่อลดหย่อนภาษีจากมาตรการบ้านหลังแรก และหยุดเติมเงินในพอร์ต นำมาผ่อนบ้านแทน
- ผมขอให้พ่อเกษียณอายุในวัย62ปี กลับไปทำตาม "ความฝันของท่าน" คือ การกลับไปเป็นชาวไร่-ชาวนา อยู่ ตจว.
ตั้งใจว่าปีหน้าจะสร้างบ้านหลังเล็กๆให้พร้อมกับติดตั้ง Solar cell ตอนนี้พึ่งขุดบ่อน้ำเสร็จ
- ส่วนแม่นั้นขอให้ท่านขายของอยู่เหมือนเดิม แล้วย้ายไปอยู่ด้วยกัน ซึ่งห่างกันเพียง 5กม.
- ส่วนบ้านหลังเก่าที่ทรุดโทรม เกินกว่าจะซ่อม+กับน้ำท่วมปีที่แล้ว(1.5ม) ตั้งใจจะขาย
สิ่งที่ผมเขียนมันอาจจะเป็นเรื่องธรรมดาของหลายๆท่าน แต่มันเป็นความฝันอันยิ่งใหญ่สำหรับผม
และอยากจะเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ร่วมทางฝันว่า "คุณมาถูกทางแล้ว" และหวังว่าจะเจอกันอีกในกระทู้10ลบ.แรกครับ
ในวัยเด็กครอบครัวลำบาก พ่อแม่ทำงานหนักมากแต่ก็ยังจน พอโตขึ้นจึงรู้ว่าเครื่องมือ(อาชีพ)ที่พ่อแม่ใช่ไม่มีวันลืมตาอ้าปากได้
บวกกับทำงานประจำที่หนักแต่ก็ได้เท่าเดิม จึงเริ่มมองหาเครื่องมือ(อาชีพ)ที่ทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิต(ไม่ใช่การงาน) โดยมองแบบอย่างคนที่ประสบความสำเร็จจากหลายอาชีพ จนมาจบที่การลงทุน
กำเงินเก็บทั้งชีวิตของเดินเข้าตลาดด้วยคำพูดที่ว่า "คนจนเล่นหวยคนรวยเล่นหุ้น"
จากหลักหมื่นปลาย --->1ล้านแรกอันแสนยากลำบากแท้ รวบรวมความมุ่งมั่นตั้ง4ปี
อดออม อดกั้นความอยาก หยุดสิ่งที่ต้องการทั้งหมด รวมแม้กระทั้ง"บ้าน"ที่อยากจะได้ใจจะขาด
แต่เมื่อเดินมาถูกทาง(VI)จาก 1 ลบ--->2ลบ.(นั้นช่างมาเร็วเกินคาด)
- สิ่งที่อยากได้"บ้าน" ก็ได้ซื้อ และจะโอนกลางเดือนนี้เพื่อลดหย่อนภาษีจากมาตรการบ้านหลังแรก และหยุดเติมเงินในพอร์ต นำมาผ่อนบ้านแทน
- ผมขอให้พ่อเกษียณอายุในวัย62ปี กลับไปทำตาม "ความฝันของท่าน" คือ การกลับไปเป็นชาวไร่-ชาวนา อยู่ ตจว.
ตั้งใจว่าปีหน้าจะสร้างบ้านหลังเล็กๆให้พร้อมกับติดตั้ง Solar cell ตอนนี้พึ่งขุดบ่อน้ำเสร็จ
- ส่วนแม่นั้นขอให้ท่านขายของอยู่เหมือนเดิม แล้วย้ายไปอยู่ด้วยกัน ซึ่งห่างกันเพียง 5กม.
- ส่วนบ้านหลังเก่าที่ทรุดโทรม เกินกว่าจะซ่อม+กับน้ำท่วมปีที่แล้ว(1.5ม) ตั้งใจจะขาย
สิ่งที่ผมเขียนมันอาจจะเป็นเรื่องธรรมดาของหลายๆท่าน แต่มันเป็นความฝันอันยิ่งใหญ่สำหรับผม
และอยากจะเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ร่วมทางฝันว่า "คุณมาถูกทางแล้ว" และหวังว่าจะเจอกันอีกในกระทู้10ลบ.แรกครับ
หลักการของการลงทุนแบบ VI คือการซื้อหุ้นที่มูลค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นไม่ว่าหุ้นนั้นจะเป็นหุ้นประเภทใดก็ตามควรจะได้รับการพิจารณาเหมือนๆกันในแง่ความคุ้มค่าเมื่อเปรียบเทียบกับราคาที่นักลงทุนจะจ่าย ...เครดิต อ.โจ ลูกอีสาน
- workart
- Verified User
- โพสต์: 312
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 409
คุณคือ ไอดอลผมเลยครับ คุณ CONAN
CONAN เขียน:มาขอลงทะเบียนอีกคนครับ
ในวัยเด็กครอบครัวลำบาก พ่อแม่ทำงานหนักมากแต่ก็ยังจน พอโตขึ้นจึงรู้ว่าเครื่องมือ(อาชีพ)ที่พ่อแม่ใช่ไม่มีวันลืมตาอ้าปากได้
บวกกับทำงานประจำที่หนักแต่ก็ได้เท่าเดิม จึงเริ่มมองหาเครื่องมือ(อาชีพ)ที่ทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิต(ไม่ใช่การงาน) โดยมองแบบอย่างคนที่ประสบความสำเร็จจากหลายอาชีพ จนมาจบที่การลงทุน
กำเงินเก็บทั้งชีวิตของเดินเข้าตลาดด้วยคำพูดที่ว่า "คนจนเล่นหวยคนรวยเล่นหุ้น"
จากหลักหมื่นปลาย --->1ล้านแรกอันแสนยากลำบากแท้ รวบรวมความมุ่งมั่นตั้ง4ปี
อดออม อดกั้นความอยาก หยุดสิ่งที่ต้องการทั้งหมด รวมแม้กระทั้ง"บ้าน"ที่อยากจะได้ใจจะขาด
แต่เมื่อเดินมาถูกทาง(VI)จาก 1 ลบ--->2ลบ.(นั้นช่างมาเร็วเกินคาด)
- สิ่งที่อยากได้"บ้าน" ก็ได้ซื้อ และจะโอนกลางเดือนนี้เพื่อลดหย่อนภาษีจากมาตรการบ้านหลังแรก และหยุดเติมเงินในพอร์ต นำมาผ่อนบ้านแทน
- ผมขอให้พ่อเกษียณอายุในวัย62ปี กลับไปทำตาม "ความฝันของท่าน" คือ การกลับไปเป็นชาวไร่-ชาวนา อยู่ ตจว.
ตั้งใจว่าปีหน้าจะสร้างบ้านหลังเล็กๆให้พร้อมกับติดตั้ง Solar cell ตอนนี้พึ่งขุดบ่อน้ำเสร็จ
- ส่วนแม่นั้นขอให้ท่านขายของอยู่เหมือนเดิม แล้วย้ายไปอยู่ด้วยกัน ซึ่งห่างกันเพียง 5กม.
- ส่วนบ้านหลังเก่าที่ทรุดโทรม เกินกว่าจะซ่อม+กับน้ำท่วมปีที่แล้ว(1.5ม) ตั้งใจจะขาย
สิ่งที่ผมเขียนมันอาจจะเป็นเรื่องธรรมดาของหลายๆท่าน แต่มันเป็นความฝันอันยิ่งใหญ่สำหรับผม
และอยากจะเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ร่วมทางฝันว่า "คุณมาถูกทางแล้ว" และหวังว่าจะเจอกันอีกในกระทู้10ลบ.แรกครับ
ความรู้เรายังด้อยเร่งศึกษา >-<"
-
- Verified User
- โพสต์: 29
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 410
มาแชร์ประสบการณ์ครับ
ล้านแรกผมใช้เวลาร่วม 5 ปี สาเหตุหลักๆ
1. ปีแรก กิเลศเยอะครับ ผมว่าคนที่ทำงานมีรายได้ใหม่ๆจะกิเลศเยอะอยากได้นู้นอยากได้นี่ ไม่ได้เก็บเงินเลย
2. หลงทางไปเก็งกำไรอยู่ 2 ปี ทั้งทองกองทุนต่างประเทศและหุ้น ดูกราฟเฝ้าจอทุกโอกาส เหนื่อยมาก
สรุป 3 ปีแรก ยอดเงินผมแทบไม่ขยับเลยครับ เงินที่เพิ่มได้มาจากการเติมเงินเข้าไปปีที่ 2-3 ถึงตอนนั้นมีเงินอยู่ 3 แสนได้
ชีวิตเปลี่ยน 2 ปีจากนี้ครับ ผมคิดทบทวนและเริ่มมมีคำถามกับแนวทางเทคนิคมากมาย และมาสนใจ VI
ปีแรกของแนวทาง VI ประหยัดสุดชีวิต รถมีแต่แทบไม่ขับ น้ำดื่มไม่ซื้อที่ออฟฟิตมีน้ำกดก็กดใส่ขวดเอาไม่ซื้อ อ่านๆๆแล้วก็อ่านครับ อ่านให้มากเท่าที่จะทำได้ บนรถ พักเที่ยง ปีแรกจาก 3 แสนมาได้ถึงประมาณ 8-9 แสนครับ แต่ส่วนมากเงินที่เพิ่มจะมาจากการออมและเติมเงินครับ
ปีที่ 2 ช่วงแรกๆของปี หุ้นที่ลงทุนไว้เริ่มแสดงพลังครับ พอร์ตผมทะลุ 1 ล้านทันที ดีใจมากครับ จากนั้นผมก็ตั้งหน้าตั้งตาออมและลงทุนต่อไป ไม่ได้สนใจตัวเลขในพอร์ตอีก จนเดือนก่อน ผมเช็คดูมันทะลุ 2 ล้านไปแล้ว งงเลย ล้านที่ 2 ผมใช้เวลาไม่ถึงปีดี ผมลอง simulate ดู มันเกิดจากการทบของเงินต้นครับ ผมกำไรหลักๆแค่ 2 ครั้งในรอบปีเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามผมเตือนตัวเองเสมอว่าปีนี้นั้นผิดปรกติมาก ที่ได้มานั้นดวงด้วยส่วนนึง
สรุปเราจำเป็นต้องมีศรัทธาในแนวทางที่ถูกต้องครับ ลงมือทำ พยามย่นระยะเวลาให้มากที่สุดโดยการประหยัดอดออม หาความรู้ศึกษาให้มาก โดยเฉพาะช่วงแรกของการลงทุน
สมการทบต้นมีแค่ไม่กี่ตัวแปร เราแค่มาคิดว่าจะปรับปรุงตัวแปรนั้นๆได้อย่างไร เช่นเพิ่มเงินต้น เพิ่มผลตอบแทน ต้องทำอย่างไร และเมื่อไม่เป็นไปตามที่คาดต้องทบทวนว่าเพราะอะไร เราพลาดตรงไหน จะได้ไม่พลาดอีกครับ ในทางกลับกันถ้ามันดี เราก็ต้องรู้ด้วยว่าเราทำอะไรลงไป
ล้านแรกผมใช้เวลาร่วม 5 ปี สาเหตุหลักๆ
1. ปีแรก กิเลศเยอะครับ ผมว่าคนที่ทำงานมีรายได้ใหม่ๆจะกิเลศเยอะอยากได้นู้นอยากได้นี่ ไม่ได้เก็บเงินเลย
2. หลงทางไปเก็งกำไรอยู่ 2 ปี ทั้งทองกองทุนต่างประเทศและหุ้น ดูกราฟเฝ้าจอทุกโอกาส เหนื่อยมาก
สรุป 3 ปีแรก ยอดเงินผมแทบไม่ขยับเลยครับ เงินที่เพิ่มได้มาจากการเติมเงินเข้าไปปีที่ 2-3 ถึงตอนนั้นมีเงินอยู่ 3 แสนได้
ชีวิตเปลี่ยน 2 ปีจากนี้ครับ ผมคิดทบทวนและเริ่มมมีคำถามกับแนวทางเทคนิคมากมาย และมาสนใจ VI
ปีแรกของแนวทาง VI ประหยัดสุดชีวิต รถมีแต่แทบไม่ขับ น้ำดื่มไม่ซื้อที่ออฟฟิตมีน้ำกดก็กดใส่ขวดเอาไม่ซื้อ อ่านๆๆแล้วก็อ่านครับ อ่านให้มากเท่าที่จะทำได้ บนรถ พักเที่ยง ปีแรกจาก 3 แสนมาได้ถึงประมาณ 8-9 แสนครับ แต่ส่วนมากเงินที่เพิ่มจะมาจากการออมและเติมเงินครับ
ปีที่ 2 ช่วงแรกๆของปี หุ้นที่ลงทุนไว้เริ่มแสดงพลังครับ พอร์ตผมทะลุ 1 ล้านทันที ดีใจมากครับ จากนั้นผมก็ตั้งหน้าตั้งตาออมและลงทุนต่อไป ไม่ได้สนใจตัวเลขในพอร์ตอีก จนเดือนก่อน ผมเช็คดูมันทะลุ 2 ล้านไปแล้ว งงเลย ล้านที่ 2 ผมใช้เวลาไม่ถึงปีดี ผมลอง simulate ดู มันเกิดจากการทบของเงินต้นครับ ผมกำไรหลักๆแค่ 2 ครั้งในรอบปีเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามผมเตือนตัวเองเสมอว่าปีนี้นั้นผิดปรกติมาก ที่ได้มานั้นดวงด้วยส่วนนึง
สรุปเราจำเป็นต้องมีศรัทธาในแนวทางที่ถูกต้องครับ ลงมือทำ พยามย่นระยะเวลาให้มากที่สุดโดยการประหยัดอดออม หาความรู้ศึกษาให้มาก โดยเฉพาะช่วงแรกของการลงทุน
สมการทบต้นมีแค่ไม่กี่ตัวแปร เราแค่มาคิดว่าจะปรับปรุงตัวแปรนั้นๆได้อย่างไร เช่นเพิ่มเงินต้น เพิ่มผลตอบแทน ต้องทำอย่างไร และเมื่อไม่เป็นไปตามที่คาดต้องทบทวนว่าเพราะอะไร เราพลาดตรงไหน จะได้ไม่พลาดอีกครับ ในทางกลับกันถ้ามันดี เราก็ต้องรู้ด้วยว่าเราทำอะไรลงไป
-
- Verified User
- โพสต์: 210
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 411
ผมเข้ามาแสดงตัวด้วยคับ
ขอเล่าย่อๆน่ะคับ
ผมลงทุนเริ่มแรกตั้งแต่6ปีที่แล้วสมัยเรียนปี2ด้วยเงินเริ่มต้น1หมื่นบาทจากการเก็บเดือนละ1พันบาทตอนปีหนึ่ง คนรอบข้าง ครอบครัว และเพื่อนฝูงบอกว่าบ้า แค่เงินหมื่นเดียวกำไรมันจะคุ้มกับค่าหนังสือที่ซื้อมาอ่านไหม กลับไปตั้งใจเรียนไป เสียเวลา เงียบคับ มวยวัดไม่มีคนสอน ไม่มีคนสนับสนุนคับ ได้แต่เพียงรายการmoney talk บทความดร.นิเวศน์ พี่สุมาอี้ พี่เทพ และmoney channel เป็นแสงสว่างปลายอุโมงค์
จากนั้นก็ลงทุนและเติมเงินมาเรื่อยๆคับ จบปีหกมีหลักแสนบาทคับ
หลังจบปีหกเริ่มทำงานได้ปีแรกหยุดลงทุนคับรอจังหวะมองว่าตอนนั้นหุ้นแพง ถูกเพื่อนๆที่เริ่มลงทุนดูถูกดูแคลนมาตลอดว่าลงทุนหุ้นยังไงไม่มีหุ้น เล่นเป็นไหม ก็เงียบคับบอกแค่หุ้นแพงอยู่
พอถึงจังหวะน้ำท่วมใหญ่ มหาอุทกภัย หุ้นตกไป800กว่าจุดจัดเต็มคับลงทุนทั้งหมดใน2สัปดาห์ เล่นหุ้นที่คนรอบข้างมองว่าเสี่ยงแต่ผมว่าไม่เสี่ยงจัดไปคับนิคมที่ถูกน้ำท่วม
โรงงานสร้างให้เช่าที่ถูกน้ำท่วม ผ่านไป1ปีและเติมเงินเพิ่มไปอีกเรื่อยๆทะลุ1ล้านบาทแรกมาตั้งแต่กลางๆปีแล้วคับ
อยากแชร์ประสบการณ์ว่า
-เมื่อคุณเริ่มต้นทำความฝันของคุณ ยิ่งมันใหญ่แค่ไหนคนรอบข้างก็มองว่าบ้ามากเท่านั้น
แต่เราเลือกได้คับ เราจะเลือกฟังเสียงคนรอบข้างและเก็บความฝันไว้ในลิ้นชัก หรือจะเลือกฟังเสียงหัวใจตัวเองแล้วทำในสิ่งที่ตัวเองรักคับ วันที่ผมเริ่มลงทุนผมไม่คิดว่าจะประสบความสำเร็จน่ะคับ มองแค่ว่าเราเลือกทำและเรียนรู้ในสิ่งที่เรารัก
-การลงทุนต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ สิ่งที่ยากไม่ไช่ความรู้หรือความเก่งอย่างที่คนอื่นคิดกันคับ แต่สิ่งที่ยากคือการที่เรามีความมานะ พยายาม ลงทุนต่อไปไม่ยอมแพ้แม้จะมีอุปสรรคเข้ามาคับ เพราะถ้าเราขาดทุนแล้วเลิกลงทุนไปเราก็ไม่ได้อะไรคับ แต่ถ้าเราแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดเรามีโอกาสแก้ตัวคับ
-ธรรมมะและความดีเรื่องใกล้ตัวที่คนอยากได้เงินมักไม่สนใจคับ ยิ่งคุณอยากได้เงินมากเท่าไร วิธีการก็จะเสี่ยงมากขึ้นทุกทีคับ แต่ถ้าคุณมองเหตุผล มองทางสายกลาง มองความพอเพียง ดูความเสี่ยงทั้งโอกาสได้และเสีย คุณจะได้ผลตอบแทนที่ดีและมั่นคงคับ
-การเริ่มต้นในแนวทางที่ถูกต้องจะนำไปสู่ผลที่ถูกต้อง ถ้าการเริ่มต้นของเราไม่ดี มองว่าการลงทุนเป็นการอยากได้เงินคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเม่าหรือจ้าว สุดท้ายมักจะไม่ทำให้รวยในระยะยาวคับ แต่ถ้าเรามองว่าเราดูธุรกิจเราเห็นคนทำงาน เห็นผู้บริหาร เห็นวงจรธุรกิจ มองมูลค่ากิจการออก จะประสบความสำเร็จในระยะยาวได้ดีกว่า เพราะเวลาเราซื้อหุ้นแล้ว ขายไม่ได้ยังคุ้มเลยคับ
-การลงทุนหุ้นไม่จำเป็นต้องถือหุ้นตามนักลงทุนหรือเซียนชื่อดัง เพราะคนเรามีจริตไม่เหมือนกัน จงเลือกลงทุนในหุ้นที่ถูกจริตเราและเป็แนวทางที่ถูกต้องจะมีความสุขมากกว่าและได้ผลตอบแทนที่ดีคับ
-หุ้นที่ดี หุ้นโกรท ไม่ไช่จะทำให้กำไรดีอย่างเดียว หุ้นทุกตัวย่อมมีมูลค่าของตัวเอง ถ้าเราประเมินมูลค่าหุ้นเป็น เราสามารถทำกำไรจากหุ้นธรรมดาที่ราคาถูกได้คับ
ขอเล่าย่อๆน่ะคับ
ผมลงทุนเริ่มแรกตั้งแต่6ปีที่แล้วสมัยเรียนปี2ด้วยเงินเริ่มต้น1หมื่นบาทจากการเก็บเดือนละ1พันบาทตอนปีหนึ่ง คนรอบข้าง ครอบครัว และเพื่อนฝูงบอกว่าบ้า แค่เงินหมื่นเดียวกำไรมันจะคุ้มกับค่าหนังสือที่ซื้อมาอ่านไหม กลับไปตั้งใจเรียนไป เสียเวลา เงียบคับ มวยวัดไม่มีคนสอน ไม่มีคนสนับสนุนคับ ได้แต่เพียงรายการmoney talk บทความดร.นิเวศน์ พี่สุมาอี้ พี่เทพ และmoney channel เป็นแสงสว่างปลายอุโมงค์
จากนั้นก็ลงทุนและเติมเงินมาเรื่อยๆคับ จบปีหกมีหลักแสนบาทคับ
หลังจบปีหกเริ่มทำงานได้ปีแรกหยุดลงทุนคับรอจังหวะมองว่าตอนนั้นหุ้นแพง ถูกเพื่อนๆที่เริ่มลงทุนดูถูกดูแคลนมาตลอดว่าลงทุนหุ้นยังไงไม่มีหุ้น เล่นเป็นไหม ก็เงียบคับบอกแค่หุ้นแพงอยู่
พอถึงจังหวะน้ำท่วมใหญ่ มหาอุทกภัย หุ้นตกไป800กว่าจุดจัดเต็มคับลงทุนทั้งหมดใน2สัปดาห์ เล่นหุ้นที่คนรอบข้างมองว่าเสี่ยงแต่ผมว่าไม่เสี่ยงจัดไปคับนิคมที่ถูกน้ำท่วม
โรงงานสร้างให้เช่าที่ถูกน้ำท่วม ผ่านไป1ปีและเติมเงินเพิ่มไปอีกเรื่อยๆทะลุ1ล้านบาทแรกมาตั้งแต่กลางๆปีแล้วคับ
อยากแชร์ประสบการณ์ว่า
-เมื่อคุณเริ่มต้นทำความฝันของคุณ ยิ่งมันใหญ่แค่ไหนคนรอบข้างก็มองว่าบ้ามากเท่านั้น
แต่เราเลือกได้คับ เราจะเลือกฟังเสียงคนรอบข้างและเก็บความฝันไว้ในลิ้นชัก หรือจะเลือกฟังเสียงหัวใจตัวเองแล้วทำในสิ่งที่ตัวเองรักคับ วันที่ผมเริ่มลงทุนผมไม่คิดว่าจะประสบความสำเร็จน่ะคับ มองแค่ว่าเราเลือกทำและเรียนรู้ในสิ่งที่เรารัก
-การลงทุนต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ สิ่งที่ยากไม่ไช่ความรู้หรือความเก่งอย่างที่คนอื่นคิดกันคับ แต่สิ่งที่ยากคือการที่เรามีความมานะ พยายาม ลงทุนต่อไปไม่ยอมแพ้แม้จะมีอุปสรรคเข้ามาคับ เพราะถ้าเราขาดทุนแล้วเลิกลงทุนไปเราก็ไม่ได้อะไรคับ แต่ถ้าเราแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดเรามีโอกาสแก้ตัวคับ
-ธรรมมะและความดีเรื่องใกล้ตัวที่คนอยากได้เงินมักไม่สนใจคับ ยิ่งคุณอยากได้เงินมากเท่าไร วิธีการก็จะเสี่ยงมากขึ้นทุกทีคับ แต่ถ้าคุณมองเหตุผล มองทางสายกลาง มองความพอเพียง ดูความเสี่ยงทั้งโอกาสได้และเสีย คุณจะได้ผลตอบแทนที่ดีและมั่นคงคับ
-การเริ่มต้นในแนวทางที่ถูกต้องจะนำไปสู่ผลที่ถูกต้อง ถ้าการเริ่มต้นของเราไม่ดี มองว่าการลงทุนเป็นการอยากได้เงินคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเม่าหรือจ้าว สุดท้ายมักจะไม่ทำให้รวยในระยะยาวคับ แต่ถ้าเรามองว่าเราดูธุรกิจเราเห็นคนทำงาน เห็นผู้บริหาร เห็นวงจรธุรกิจ มองมูลค่ากิจการออก จะประสบความสำเร็จในระยะยาวได้ดีกว่า เพราะเวลาเราซื้อหุ้นแล้ว ขายไม่ได้ยังคุ้มเลยคับ
-การลงทุนหุ้นไม่จำเป็นต้องถือหุ้นตามนักลงทุนหรือเซียนชื่อดัง เพราะคนเรามีจริตไม่เหมือนกัน จงเลือกลงทุนในหุ้นที่ถูกจริตเราและเป็แนวทางที่ถูกต้องจะมีความสุขมากกว่าและได้ผลตอบแทนที่ดีคับ
-หุ้นที่ดี หุ้นโกรท ไม่ไช่จะทำให้กำไรดีอย่างเดียว หุ้นทุกตัวย่อมมีมูลค่าของตัวเอง ถ้าเราประเมินมูลค่าหุ้นเป็น เราสามารถทำกำไรจากหุ้นธรรมดาที่ราคาถูกได้คับ
-
- Verified User
- โพสต์: 409
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 412
ขอบคุณครับ K. workart ที่ยกให้ผมเป็น Idol
หลักการของการลงทุนแบบ VI คือการซื้อหุ้นที่มูลค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นไม่ว่าหุ้นนั้นจะเป็นหุ้นประเภทใดก็ตามควรจะได้รับการพิจารณาเหมือนๆกันในแง่ความคุ้มค่าเมื่อเปรียบเทียบกับราคาที่นักลงทุนจะจ่าย ...เครดิต อ.โจ ลูกอีสาน
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 34
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 413
ขอบคุณที่แชร์เรื่องราวดีๆนะครับ อ่านแล้วรู้สึกดีมากครับ ผมเชื่อว่าถ้าคนที่กำลังท้อแล้วมีโอกาสได้อ่านกระทู้นี้น่าจะมีกำลังใจขึ้นเยอะ ขอบคุณมากครับ และขอแสดงความยินดีด้วย ขอให้มีมูลนิธิ 100 ล้านไวไวนะครับ
ผมชอบไอเดียที่ทำแผนออกมาว่าจะมีทรัพย์สินในแต่ละปีเท่าไหร่ จะได้กำไรปีละกี่% ส่วนตัวผมก็ทำเหมือนกันครับ พอเห็นตัวเลขแล้วก็รู้สึกว่าเส้นทางมันอยู่ไม่ไกลเกือนเอื้อม คิดแค่ว่าทำวันนี้ให้ดีที่สุดแล้วมันก็จะดีเอง ขอบคุณครับ กระทู้ดีๆแบบนี้ขออนุญาตนำไปแบ่งปันให้ให้คนอื่นอ่านนะครับ
^_^
ผมชอบไอเดียที่ทำแผนออกมาว่าจะมีทรัพย์สินในแต่ละปีเท่าไหร่ จะได้กำไรปีละกี่% ส่วนตัวผมก็ทำเหมือนกันครับ พอเห็นตัวเลขแล้วก็รู้สึกว่าเส้นทางมันอยู่ไม่ไกลเกือนเอื้อม คิดแค่ว่าทำวันนี้ให้ดีที่สุดแล้วมันก็จะดีเอง ขอบคุณครับ กระทู้ดีๆแบบนี้ขออนุญาตนำไปแบ่งปันให้ให้คนอื่นอ่านนะครับ
^_^
Road to Billion (เส้นทางสู่ความมั่งคั่ง)
http://www.facebook.com/roadtobillion
http://www.facebook.com/roadtobillion
-
- Verified User
- โพสต์: 343
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 417
โอครับ
รู้จักเวบนี้มานานแล้วครับส่วนใหญ่เข้ามาอ่านบทความของดร.นิเวศ ชอบมากเลยครับออกแนวปรัชญาดี ไม่เคยเข้าดูในเวบบอร์ดเลย จนวันนึงคลึกไปดูเล่นๆ อืมมันไม่เล่นอย่างที่คิดเลย คลังแสงแห่งความรู้เลย ใครเข้ามาศึกษาดีนำไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจลงทุนได้เลย ใครอยากรู้ ไม่เข้าใจตรงไหนพี่ๆใจดีก็รอให้คำตอบอยู่แล้ว ผมว่ามันเป็นนิสัยของ iv นะ ผมได้รู้จักหุ้นตอนเรียนอยู่ปีสองที่มอ.หาดใหญ่ (ที่เดียวกับพี่โจ>>ลูกอีสานเลย)จากการบังเอินไปยืมหนังสือจากห้องสมุดเขียนโดยปีเตอร์ ลินซ์ แต่จำไม่ได้แล้ว่าเรื่องอะไรแต่รู้ประทับใจ แล้วก็หาหนังสือแนวนี้ๆมาอ่านมันจะมีโซนของกลต. ที่เข้ามาสนับสนุนอยู่ในห้องสมุดพวกการออม การลงทุนอะไรประมาณนี้ว่างๆก็ยืมมาอ่าน ไม่ได้จึงจังอะไร แล้วก็เปิดport อืม ในพันทิปครับ อยากรู้ว่ามันขึ้นลงยังไงอ่านกระทุ้ บ้างสนใจครับอยากเล่นหุ้น แต่...น่าจะเหมือนหลายๆคนครับ ไม่มีเงิน จนทำงานพอจะมีเงินคุยกับเพื่อนมันก็บอกว่าตัวนี้ๆมีอินไซด์(เลยฝากมันไป)richกำลังมา(ใจผมอยากซื้อ 7-11) เอาเลยครับ ขาดทุนไป 60-70%แต่เงินไม่เยอะแค่หลักพันเลยให้มันขาย ซื้อโฮมโปร ตอนนีนำงานมา2ปีรู้สึกเก็บไม่ค่อยได้เลยมาลงทุนให้เพื่อนที่เป็นมาเก็ตติ้งเปิดportให้ ตอนนี้มีportเป็นของตัวเองแล้วเอาเงินเก็บ ค่าคอม โบนัสไปลงไว้แต่ยังไม่ได้เทรด มองๆอยู่รอให้คลื่นลมสงบ ยังงัยขอฝากเนื้อฝากตัวพี่ๆ(น้องที่มาก่อน)ทุกคนด้วยครับ ใครมีคำแนะนำดีจากประสบการณ์และความรู้ยินดีอย่างยิ่งครับ
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=41387
ข้างบนเป็นโพสแรกๆของผมตอนเริ่มสมัครสมาชิกใหม่ 30 มีนาคม 2010 (ตอนนั้นชื่อสมาชิก ONO111 แต่จำpassword ไม่ได้เลยสมัครใหม่)
ลงทุนเริ่มแรก 30,000 บาท เติมเงินเรื่อยๆ โบนัสบ้าง ค่าคอมบ้าง เก็บเงินฝากประจำเดือนละ 2,000 (ตอนนั้นเงินเดือน 16000 ) พอครบปีก็เอาเงินเข้าพอร์ท ระหว่างนั้นเงินที่เหลือจากใช้จ่าย ในแต่ละเดือน รวบรวบเข้าพอร์ท 3 เดือนครั้งได้ครั้งละประมาณ 20,000 เติมไปเรื่อยๆ ผมทำงานทีสมุย ค่าที่พักไม่มี รถ+น้ำมันใช้ของบริบัท
กินข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยวข้างทางเป็นประจำ ลงไปประมาณปีมีเงิน 2 แสน เห็นว่าเราน่าจะลงทุนเป็นแล้วจึงให้พี่สาวกู้เงินสหกรณ์ของราชการเพิ่มมาให้อีก 1แสน ดอกเบี้ย 6% ผ่อนเดือนละ 2,500 เงินที่เก็บเข้าพอร์ทและฝากประจำก็ทำเป็นปกติ เก็บเงินเติมเรื่อยๆ ตั้งเป้าว่าจะมีเงินล้านตอนอายุ 30 แต่ตอนนี้อายุ 28 ทำตามเป้าหมายแรกได้แล้ว
ต้องขอขอบคุณเว็บ thaivi มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ส่วนสาเหตุที่ผมทตามเป้าหมายได้น่าจะมาจาก
1.มีความเชื่อว่าแนวทางการลงทุนแบบ vi จะทำให้เรามีอิสระภาพทางการเงินได้ (ถึงผมจะไปยังไม่ถึงจุดนั้น)เพราะมีคนทำให้เราเห็นแล้วมากมาย ทั้ง อ.นิเวศน์ พี่โจ พี่YoYo ล้วนแล้วเป็นIdol
2.อ่านแนวคิดของคนที่ประสบความสำเร็จทั้งในเว็บ ไม่ว่าจะเป็นพี่โจ พี่โย ผมจะชอบมาก แต่ของคนอื่นผมก็อ่านหมดอ่านเรื่อยๆ มันจะทบต้นความรู้อย่างที่พี่โจบอก และหนังสือเกี่ยวกับการลงทุน ทั้งของ อ.นิเวศน์ ปีเตอร์ ลินซ์ พี่นรินทร์
คนอื่นๆรวบทั้งหนังสือที่ไม่เกี่ยวกับการลงทุน จากคนที่ไม่ค่อยอ่านหนังสือ คิดว่าการซื้อหนังสือเป็นของสิ้นเปลืองสมัยเรียน ปัจจุบันเวลาว่างๆก็จะอ่านหนังสือเรื่อยๆจบบ้างไม่จบบ้าง รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ก็มีทัศติที่ดีในการอ่านหนังสือขึ้นมากกว่าเมื่อก่อนมาก หนังสือในชั้นรวมๆไม่น่าต่ำกว่า 3-4 หมื่นบาท
3.ใช้จ่ายไม่ฟุ่มเฟือย ไม่ถึงประหยัด แต่ก็รู้จักใช้จ่าย ยับยั้งชั่งใจได้ ไม่รถยนต์คันแรก(มีแต่จักรยานคันแรก)ไม่มีบ้านหลังแรก น่าจะติดมาจากพ่อกับแม่ ที่ไม่ค่อยใช้จ่ายอะไรมากมาย เนื่องจากไม่ได้ร่ำรวยอะไร พ่อผมก็ทำสวนยาง แม่ก็ทำสวนยางกับขายขนมไทยขายตลาดนัดพอส่งลูก 4 คนจบปริญญาตรีทุกคน สำหรับบางคนอาจเป็นเรื่องธรรมดาที่จบโทจบเอกก็เห็นกันถมไป แต่สำหรับครอบครัวบ้านๆแบบผม ถือเป็นความภูมิใจอีกอย่างของพ่อแม่ผม
4.ลอกการบ้าน
5.สังเกตุจากรอบๆตัวหุ้นที่ได้กำไรมากๆหลายตัวได้จากการสังเกตุแล้วไปศึกษาต่อ ในร้อยหุ้นบ้าง set.or.th บ้าง หรือ ดูจากร้อยหุ้นแล้ว ไปใช้บริการ หรือไปด่อมๆมองบ้าง
รู้จักเวบนี้มานานแล้วครับส่วนใหญ่เข้ามาอ่านบทความของดร.นิเวศ ชอบมากเลยครับออกแนวปรัชญาดี ไม่เคยเข้าดูในเวบบอร์ดเลย จนวันนึงคลึกไปดูเล่นๆ อืมมันไม่เล่นอย่างที่คิดเลย คลังแสงแห่งความรู้เลย ใครเข้ามาศึกษาดีนำไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจลงทุนได้เลย ใครอยากรู้ ไม่เข้าใจตรงไหนพี่ๆใจดีก็รอให้คำตอบอยู่แล้ว ผมว่ามันเป็นนิสัยของ iv นะ ผมได้รู้จักหุ้นตอนเรียนอยู่ปีสองที่มอ.หาดใหญ่ (ที่เดียวกับพี่โจ>>ลูกอีสานเลย)จากการบังเอินไปยืมหนังสือจากห้องสมุดเขียนโดยปีเตอร์ ลินซ์ แต่จำไม่ได้แล้ว่าเรื่องอะไรแต่รู้ประทับใจ แล้วก็หาหนังสือแนวนี้ๆมาอ่านมันจะมีโซนของกลต. ที่เข้ามาสนับสนุนอยู่ในห้องสมุดพวกการออม การลงทุนอะไรประมาณนี้ว่างๆก็ยืมมาอ่าน ไม่ได้จึงจังอะไร แล้วก็เปิดport อืม ในพันทิปครับ อยากรู้ว่ามันขึ้นลงยังไงอ่านกระทุ้ บ้างสนใจครับอยากเล่นหุ้น แต่...น่าจะเหมือนหลายๆคนครับ ไม่มีเงิน จนทำงานพอจะมีเงินคุยกับเพื่อนมันก็บอกว่าตัวนี้ๆมีอินไซด์(เลยฝากมันไป)richกำลังมา(ใจผมอยากซื้อ 7-11) เอาเลยครับ ขาดทุนไป 60-70%แต่เงินไม่เยอะแค่หลักพันเลยให้มันขาย ซื้อโฮมโปร ตอนนีนำงานมา2ปีรู้สึกเก็บไม่ค่อยได้เลยมาลงทุนให้เพื่อนที่เป็นมาเก็ตติ้งเปิดportให้ ตอนนี้มีportเป็นของตัวเองแล้วเอาเงินเก็บ ค่าคอม โบนัสไปลงไว้แต่ยังไม่ได้เทรด มองๆอยู่รอให้คลื่นลมสงบ ยังงัยขอฝากเนื้อฝากตัวพี่ๆ(น้องที่มาก่อน)ทุกคนด้วยครับ ใครมีคำแนะนำดีจากประสบการณ์และความรู้ยินดีอย่างยิ่งครับ
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=41387
ข้างบนเป็นโพสแรกๆของผมตอนเริ่มสมัครสมาชิกใหม่ 30 มีนาคม 2010 (ตอนนั้นชื่อสมาชิก ONO111 แต่จำpassword ไม่ได้เลยสมัครใหม่)
ลงทุนเริ่มแรก 30,000 บาท เติมเงินเรื่อยๆ โบนัสบ้าง ค่าคอมบ้าง เก็บเงินฝากประจำเดือนละ 2,000 (ตอนนั้นเงินเดือน 16000 ) พอครบปีก็เอาเงินเข้าพอร์ท ระหว่างนั้นเงินที่เหลือจากใช้จ่าย ในแต่ละเดือน รวบรวบเข้าพอร์ท 3 เดือนครั้งได้ครั้งละประมาณ 20,000 เติมไปเรื่อยๆ ผมทำงานทีสมุย ค่าที่พักไม่มี รถ+น้ำมันใช้ของบริบัท
กินข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยวข้างทางเป็นประจำ ลงไปประมาณปีมีเงิน 2 แสน เห็นว่าเราน่าจะลงทุนเป็นแล้วจึงให้พี่สาวกู้เงินสหกรณ์ของราชการเพิ่มมาให้อีก 1แสน ดอกเบี้ย 6% ผ่อนเดือนละ 2,500 เงินที่เก็บเข้าพอร์ทและฝากประจำก็ทำเป็นปกติ เก็บเงินเติมเรื่อยๆ ตั้งเป้าว่าจะมีเงินล้านตอนอายุ 30 แต่ตอนนี้อายุ 28 ทำตามเป้าหมายแรกได้แล้ว
ต้องขอขอบคุณเว็บ thaivi มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ส่วนสาเหตุที่ผมทตามเป้าหมายได้น่าจะมาจาก
1.มีความเชื่อว่าแนวทางการลงทุนแบบ vi จะทำให้เรามีอิสระภาพทางการเงินได้ (ถึงผมจะไปยังไม่ถึงจุดนั้น)เพราะมีคนทำให้เราเห็นแล้วมากมาย ทั้ง อ.นิเวศน์ พี่โจ พี่YoYo ล้วนแล้วเป็นIdol
2.อ่านแนวคิดของคนที่ประสบความสำเร็จทั้งในเว็บ ไม่ว่าจะเป็นพี่โจ พี่โย ผมจะชอบมาก แต่ของคนอื่นผมก็อ่านหมดอ่านเรื่อยๆ มันจะทบต้นความรู้อย่างที่พี่โจบอก และหนังสือเกี่ยวกับการลงทุน ทั้งของ อ.นิเวศน์ ปีเตอร์ ลินซ์ พี่นรินทร์
คนอื่นๆรวบทั้งหนังสือที่ไม่เกี่ยวกับการลงทุน จากคนที่ไม่ค่อยอ่านหนังสือ คิดว่าการซื้อหนังสือเป็นของสิ้นเปลืองสมัยเรียน ปัจจุบันเวลาว่างๆก็จะอ่านหนังสือเรื่อยๆจบบ้างไม่จบบ้าง รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ก็มีทัศติที่ดีในการอ่านหนังสือขึ้นมากกว่าเมื่อก่อนมาก หนังสือในชั้นรวมๆไม่น่าต่ำกว่า 3-4 หมื่นบาท
3.ใช้จ่ายไม่ฟุ่มเฟือย ไม่ถึงประหยัด แต่ก็รู้จักใช้จ่าย ยับยั้งชั่งใจได้ ไม่รถยนต์คันแรก(มีแต่จักรยานคันแรก)ไม่มีบ้านหลังแรก น่าจะติดมาจากพ่อกับแม่ ที่ไม่ค่อยใช้จ่ายอะไรมากมาย เนื่องจากไม่ได้ร่ำรวยอะไร พ่อผมก็ทำสวนยาง แม่ก็ทำสวนยางกับขายขนมไทยขายตลาดนัดพอส่งลูก 4 คนจบปริญญาตรีทุกคน สำหรับบางคนอาจเป็นเรื่องธรรมดาที่จบโทจบเอกก็เห็นกันถมไป แต่สำหรับครอบครัวบ้านๆแบบผม ถือเป็นความภูมิใจอีกอย่างของพ่อแม่ผม
4.ลอกการบ้าน
5.สังเกตุจากรอบๆตัวหุ้นที่ได้กำไรมากๆหลายตัวได้จากการสังเกตุแล้วไปศึกษาต่อ ในร้อยหุ้นบ้าง set.or.th บ้าง หรือ ดูจากร้อยหุ้นแล้ว ไปใช้บริการ หรือไปด่อมๆมองบ้าง
-
- Verified User
- โพสต์: 5011
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 418
ขอบคุณมากๆครับสำหรับไอเดียดีๆมากมาย
-------------------------
คาถาหัวใจเศรษฐี
http://www.thorfun.com/story/view/UM_BVq7rWWkUABVf
-------------------------
คาถาหัวใจเศรษฐี
http://www.thorfun.com/story/view/UM_BVq7rWWkUABVf
- The Dark
- Verified User
- โพสต์: 209
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 419
ในที่สุด . . . ล้านบาทแรกในชีวิต
ก้าวเล็กๆ . . . ของอิสรภาพทางการเงิน
ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้แล้วครับ
หลังจากลงทุนมา 1 ปี 6 เดือน ด้วยแนวทางของ VI เริ่มตอนเดือน พ.ค. ปีก่อน
จากเงินต้นประมาณ 7 แสนที่ได้จากเงินเดือนกับเงินจากพ่อแม่ให้อีกนิดหน่อย
แล้วก็เติมเงินเข้าไปเรื่อยๆเกือบทุกเดือน เริ่มต้นจากการลงทุนผิดพลาด+ความรู้ยังน้อยแล้วมั่นใจเกิน
กะจะตีแตกด้วยการถือหุ้นเพียงตัวเดียว ทำให้พอร์ตนิ่งมาเกือบ 1 ปี
ลงไปเกือบ 20% แต่ไม่ได้ cut loss อาศัยการถือทน เพราะกิจการ+ผู้บริหารค่อนข้างเก่ง แต่จังหวะเข้าผิด
ไม่มี MOS จึงเป็นบทเรียนที่น่าจดจำ
เลยศึกษาเพิ่มเติม ร่วมกับเปลี่ยนกลยุทธมาถือหุ้นหลายๆกลุ่มประมาณ 4-5 ตัว เฉลี่ยไม่เกินตัวละ 30%
พบปะกลุ่มเพื่อนที่ดีทั้งใน ThaiVI และกลุ่มชมรมเน้นคุณค่าเชียงใหม่
วันนี้ก็ถึงเป้าหมายแรกแล้วครับ 1 ล้านบาทแรก
เป้าหมายต่อไปก็ 8 ครับ อีก 5 ปีเจอกัน ตอนนี้อายุ 27 ครับ
ก้าวเล็กๆ . . . ของอิสรภาพทางการเงิน
ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้แล้วครับ
หลังจากลงทุนมา 1 ปี 6 เดือน ด้วยแนวทางของ VI เริ่มตอนเดือน พ.ค. ปีก่อน
จากเงินต้นประมาณ 7 แสนที่ได้จากเงินเดือนกับเงินจากพ่อแม่ให้อีกนิดหน่อย
แล้วก็เติมเงินเข้าไปเรื่อยๆเกือบทุกเดือน เริ่มต้นจากการลงทุนผิดพลาด+ความรู้ยังน้อยแล้วมั่นใจเกิน
กะจะตีแตกด้วยการถือหุ้นเพียงตัวเดียว ทำให้พอร์ตนิ่งมาเกือบ 1 ปี
ลงไปเกือบ 20% แต่ไม่ได้ cut loss อาศัยการถือทน เพราะกิจการ+ผู้บริหารค่อนข้างเก่ง แต่จังหวะเข้าผิด
ไม่มี MOS จึงเป็นบทเรียนที่น่าจดจำ
เลยศึกษาเพิ่มเติม ร่วมกับเปลี่ยนกลยุทธมาถือหุ้นหลายๆกลุ่มประมาณ 4-5 ตัว เฉลี่ยไม่เกินตัวละ 30%
พบปะกลุ่มเพื่อนที่ดีทั้งใน ThaiVI และกลุ่มชมรมเน้นคุณค่าเชียงใหม่
วันนี้ก็ถึงเป้าหมายแรกแล้วครับ 1 ล้านบาทแรก
เป้าหมายต่อไปก็ 8 ครับ อีก 5 ปีเจอกัน ตอนนี้อายุ 27 ครับ
ถามไถ่โลกหล้า รักคือสิ่งใด
-
- Verified User
- โพสต์: 103
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 420
เพื่งเข้ามาอ่านครับ เก่งๆกันทุกคนเลย ผมจะจดจำเอาไว้เป็นแรงบันดาลใจครับ
ไม่เคยเล่นหุ้นมาก่อน จนกระทั่งเพื่อนคนนึงบอกว่า ควรลงทุนให้หุ้นบ้าง เพราะอาชีพแบบพวกเราทำงานหนัก ถึงเงินจะเยอะแต่บั้นปลายอาจจะไม่เหลืออะไร
ก็เริ่มอ่านหนังสือจากวันนั้นเรื่อยมา จนมาเจอแนวทาง VI และคิดว่าจะยึดทางนี้คับ แต่เพื่อนที่แนะนำให้เล่นหุ้นก็เป็นแนวเก็งกำไรระยะสั้น
รู้สึกว่า ตั้งแต่ศึกษาเรื่องนี้ และตั้งใจลงทุนในหุ้น รู้สึกว่าเงินแต่ละบาทมีค่ามาก และเปลี่ยนจากใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายมาเก็บเงินเอาไว้ลงทุนเมื่อพร้อมครับ
ไม่รู้ว่าจะได้มีเงินเป็นล้านอยู่ในพอร์ตเหมือนพี่ๆ หรือเปล่า แต่ก็รู้สึกดีใจที่มาพบแนวทาง VI ครับ
ไม่เคยเล่นหุ้นมาก่อน จนกระทั่งเพื่อนคนนึงบอกว่า ควรลงทุนให้หุ้นบ้าง เพราะอาชีพแบบพวกเราทำงานหนัก ถึงเงินจะเยอะแต่บั้นปลายอาจจะไม่เหลืออะไร
ก็เริ่มอ่านหนังสือจากวันนั้นเรื่อยมา จนมาเจอแนวทาง VI และคิดว่าจะยึดทางนี้คับ แต่เพื่อนที่แนะนำให้เล่นหุ้นก็เป็นแนวเก็งกำไรระยะสั้น
รู้สึกว่า ตั้งแต่ศึกษาเรื่องนี้ และตั้งใจลงทุนในหุ้น รู้สึกว่าเงินแต่ละบาทมีค่ามาก และเปลี่ยนจากใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายมาเก็บเงินเอาไว้ลงทุนเมื่อพร้อมครับ
ไม่รู้ว่าจะได้มีเงินเป็นล้านอยู่ในพอร์ตเหมือนพี่ๆ หรือเปล่า แต่ก็รู้สึกดีใจที่มาพบแนวทาง VI ครับ
ซาบิ ; ความงามที่ผ่านคุณค่าของกาลเวลา