ผมขอคำแนะนำในการตัดสินใจครับ

[hunter_kidz]

สวัสดีครับพี่ ๆ คือผมมีเรื่องนึงที่ไม่สามารถตัดสินใจได้อยากให้พี่ ๆ ช่วยชี้แนะผมด้วยว่าผมควรทำเช่นไร
เรื่องมีอยู่ว่าพอผมเรียนจบผมก็ทำงานแล้วก็อยากมีรถเหมือนคนอื่นเค้า พอทำงานได้ 1 ปีก็ออกรถมาขับ พอใช้มาได้ 2 ปี ผมรู้สึกว่าผมเก็บเงินไม่ได้เลยซักบาท ค่างวดก็ 10000 บาท
ค่าใช้จ่าย ค่าน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุง ฯลฯ เงินเดือนผมก็หมดพอดี โบนัสออกมาก็มาจ่ายค่าประกันภัยอะไรต่าง ๆ ผมก็เลยอยากตัดสินใจจะขายรถทั้ง ๆ ที่ยังผ่อนไม่หมดให้กับคนที่เค้ารับซื้อ แล้วก็จะมีส่วนต่างกลับมาประมาณ 200000 แล้วเงินเก็บต่อปีของผมก็จะมีมากขึ้นถึงปีละ 150000 บาทต่อปี พี่ ๆ เพื่อน ๆ คิดว่ายังไงครับ ที่ผมยอมจะขายรถขาดทุน ไม่ใช่เพราะว่าอยากเอามาลงทุนในหุ้นนะครับ คือผมพลาดที่ซื้อรถเร็วไปแล้วผมไม่มีเงินเก็บเลยครับ ผมมองไม่เห็นอนาคตเลยอีก 4-5 ปี ผมจะมีเงินเท่าไรนอกจากรถหนึ่งคัน ตอนนี้ผมคุยกะพ่อแม่แล้วครับแต่น้องกะแฟนก็ยังค้านอยู่ เค้าบอกว่าเดี๋ยวผมเอาเิงินไปเล่นหุ้นหมด แต่ผมก็สงสารแฟนครับเวลาไปไหนจากที่เคยขับรถไป รับ - ส่ง ก็ต้องนั่งรถเมล์ พี่ ๆ คิดว่าผมควรทำอย่างไรครับขายหรือไม่ขายดีครับ

[sakkaphan]

ผมจะเล่าอะไรให้ฟัง

พ่อแม่ของแฟนผม สมัยก่อนเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว อยากมีรถมาก เพราะมันดูเท่ห์ดูดี ดูมีฐานะ ทั้งที่เงินเดือนก็ไม่ได้สูงมาก ทำงานเป็นครูอยู่ที่ภูเก็ต และในเวลาเดียวกัน มีคนรู้จักคนนึงร้อนเงิน มีที่ดินอยู่ที่หาดป่าตอง จึงมาเสนอขายที่ดินเค้าบอกว่า จ่ายผ่อนก็ได้ เดือนละไม่กี่พันบาท ผมจำไม่ได้ว่าราคาที่ดินทั้งหมดเท่าไร แต่ตอนนั้นป่าตองยังไม่บูม น่าจะแค่หลักแสน พ่อแม่ของแฟนผมตัดสินใจไม่รับข้อเสนอ และเลือกนำเงินไปผ่อนรถแทน ใช้เวลาหลายปีกว่าจะผ่อนหมด

ตอนนี้ มูลค่าซากของรถโตโยต้าโคโลน่ารุ่นเก่าคั้นนั้น คือไม่เกินหนึ่งแสนบาท
ที่ดินที่มีคนเสนอขาย ณ หาดป่าตอง ปัจจุบัน เป็นเขตที่ดินที่แพงที่สุดแห่งหนึ่งในไทย ไร่ละ 10-80 ล้านบาท

เลือกเอาครับ

[pornchal]

ได้อย่างเสียอย่าง...
SAVE เงิน หรือ อยากสบาย..

ขายรถ เอาเงินมาเล่นหุ้น เจ้งหมด..
ไม่ได้ทั้งสบาย และเงิน

ขายรถ มีเงินเก็บ ในธนาคาร มีเงิน ไม่มีความสบาย...

ได้อย่างเสียอย่าง...

[ส.สลึง]

รถคันแรกจากเงินเดือนของผม
คือจักรยานครับ

แฮ่...

ใช้ขี่ไปกลับ ระหว่างที่ทำงาน
กับบ้านเช่า วันนึงๆ ก็ 14 กม. ครับ

ช่วงนั้นออมเงินเดือนละ 500 บาท
เงินเดือนเข้าเมื่อไหร่ รีบโยกเงินออกมาก่อนเลย
500 บาท
ไม่งั้นไม่มีเงินเก็บ พอเงินเดือนขึ้น
ก็ใช้จ่ายเท่าเดิมครับ แต่เพิ่มเงินเก็บเอา
จากเดือนละ 500 เป็น 1,000 เป็น 2,000 , ...

ขี่จนจักรยานพังครับ เปลี่ยนไป 2 คัน
ผมก็เลิกขี่ เลิกเช่าบ้าน แล้วย้ายไปนอนที่ออฟฟิศแทน
ประหยัดไปได้เยอะเลย

ปล.
ไม่ได้แนะนำอะไรครับ เล่าให้ฟังเฉยๆ
เหตุการณ์ผ่านมาสิบกว่าปีแล้วครับ

[Yaiba123]

ผมว่าทางเลือกมันไม่ได้มีแค่ ขายรถแล้วนั่งรถเมล์นะครับ ทำไมไม่มองหารถมือสองราคาถูกๆ คันละ แสนนิดๆ ติดแก๊สซักคัน เราไม่ได้เอาไว้ไปโชว์ใคร เราเอาไว้ใช้อำนวยความสะดวกให้เรา รถคันละุ6เจ็ดแสน กับรถคันละแสนกว่าบาทติดแก๊ส ก็ถึงที่หมายเหมือนกัน ความสะดวกก็ไม่ได้น้อยกว่ากันเท่าไหร่ครับ แฟนพี่ก็ไม่ต้องลำบากขึ้นรถเมล์ด้วยครับ

พี่บอกว่า พี่จะมีเงินส่วนต่าง 2แสนเข้าบัญชี ปีแรกพี่อาจจะลองนั่งรถเมล์ดูซักปีนึง แล้วดูว่าแฟนพี่และตัวพี่ลำบากแค่ไหน ถ้าทนได้ก็นั่งรถเมล์ต่อ ถ้าไม่ไหวจริงๆ พี่ก็เอาเงินเก็บระหว่างปีที่จะได้ 150000บาทไปหารถมือสองติดแก๊สใช้ซักคัน ก็น่าจะโอเคแล้วนะครับ

[luangrit]

ผมคิดว่ามันอยู่ที่คุณจะอธิบายเรื่องการลงทุนให้กับคนรอบข้างของคุณได้ดีแค่ไหน

ถ้าเค้าเห็นด้วยว่านี่คือการสร้างอนาคต สร้างความมั่นคง
มันก็ไม่ได้ยากอะไร ที่จะยอมลำบากก่อน เพื่อที่จะสบายขึ้น
ในวันข้างหน้า

คือผมเห็นด้วยนะครับที่จะทำอย่างนั้น
เพียงแต่คุณต้องลงทุนให้ดี รอบคอบ
และต้องพยายามทำให้เค้าเข้าใจ ในการลงทุนของคุณ

อีกอย่างนึงคือ ถ้าคุณไม่มีเงินสดเก็บไว้เลย
เมื่อถึงเวลาตลาดCrash คุณจะเอาเงินที่ไหนไปลงทุน
มันจะเสียโอกาสมากนะครับ

[pat4310]

อ่านในนสพ. วันไหนก็ไม่รู้เขาว่าค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับรถของชาวมะกันเฉลี่ยประมาณ 1/4 ของรายได้ครับ (เมืองไทยน่าจะเกินกว่านั้น เพราะรายได้ต่ำกว่า+รถราคาแพงกว่า)

ถ้าค่าใช้จ่่ายเกี่ยวกับรถในแต่ละเดือนสูงขนาดนั้น เป็นตัวดูดความมั่งคั่งชั้นดีเลยครับ เราทำงานเหนือยสายตัวแทบขาดเพื่อเลี้ยง บริษัทน้ำมัน บริษัทผลิตรถ บริษัทไฟแนนซ์็ ร้านประดับยนต์ ร้านล้างรถ ฯลฯ หรืออย่างไร

เอาเงินมาซื้อรถมือสองติดแก๊ซถูกๆ หรือไม่ก็จักรยาน หรือทนนั่งรถเมล์เอา หรือเดิน แล้วเอาส่วนต่างมาลงทุนเพิ่มเป็นทางเลือกที่ดีครับ

ป.ล. อ.สอนกีตาร์คลาสิคผมเคยเล่าให้ฟังว่า สมัยหนุ่มอ.เขาชอบกีต้าร์มากซ้อมเยอะไม่มีเวลาให้แฟน จนแฟนงอนยื่นข้อเสนอว่าจะเอากีต้าร์หรือแฟน อ.ผมบอกเลิกกับแฟนมาเล่นกีต้าร์ครับ

[saichon]

ถ้าเป็นผม..
ผมจะเลือกลำบากวันนี้ แล้วขอไปลุ้นสบายในวันหน้าครับ

[[v]]

ก่อนขายรถถามแฟนรึยัง เพราะอาจเลิกกันได้นะครับ คนที่เคยนั่งรถแต่วันนึงต้องไปนั่งรถเมล์ทำใจลำบากนะครับ ส่วนผมอยู่ที่เก่านั่งรถเมล์ไปทำงาน ขากลับเหนื่อยจากงาน รถติด ผมนอนได้ 1 งีบ ถ้าซื้อรถผมคงทำแบบนั้นไม่ได้ ยอมรับว่ามีความสุขมากเพราะถ้าทำงานกลับดึกก็โทรเรียกศูนย์ taxi มารับได้เบิกได้ แต่รถมันก็มีข้อดีตรงกันหมาเห่าได้กับเหตุฉุกเฉิน และของผมขึ้นBTS เร็วมากกว่า BTS ไปถึงที่ทำงาน 45 นาที ปั๊มนิ้วพอดีครับ ถ้าขับรถชั่วโมงขึ้นครับ ตอนนี้ก็ยังไม่มีรถครับ

[sakkaphan]

ก่อนขายรถถามแฟนรึยัง เพราะอาจเลิกกันได้นะครับ คนที่เคยนั่งรถแต่วันนึงต้องไปนั่งรถเมล์ทำใจลำบากนะครับ ส่วนผมอยู่ที่เก่านั่งรถเมล์ไปทำงาน ขากลับเหนื่อยจากงาน รถติด ผมนอนได้ 1 งีบ ถ้าซื้อรถผมคงทำแบบนั้นไม่ได้ ยอมรับว่ามีความสุขมากเพราะถ้าทำงานกลับดึกก็โทรเรียกศูนย์ taxi มารับได้เบิกได้ แต่รถมันก็มีข้อดีตรงกันหมาเห่าได้กับเหตุฉุกเฉิน และของผมขึ้นBTS เร็วมากกว่า BTS ไปถึงที่ทำงาน 45 นาที ปั๊มนิ้วพอดีครับ ถ้าขับรถชั่วโมงขึ้นครับ ตอนนี้ก็ยังไม่มีรถครับ

ถ้าแฟนช่วยผ่อน เป็นสินทรัพย์ร่วมกัน เราเอาไปขายแล้วทะเลาะถึงขั้นเลิกนี่พอเข้าใจ
แต่ถ้าเราผ่อนคนเดียว จ่ายคนเดียว แล้วพอจะขายแล้วแฟนบอกเลิกนี่ เป็นผมผมเลิกครับ ไปไกลๆเลยครับผู้หญิงพรรค์นี้

[airazoc]

สมัยผมทำงานแบบห้าวันต่อสัปดาห์ เคยมีเงินเดือนสองแสนกว่าบาท
ผ่อนรถสปอร์ท ใช้จ่ายไม่ยั้งมือ ผ่านไปแต่ละปี เงินเก็บแทบไม่มีครับ
ผมพูดได้เลยว่าถ้าย้อนกลับไปได้ ผมจะไม่ใช้เงินมือเติบแบบนั้นแน่ๆ
แต่เป็นโชคดีของผม ที่ได้ Picatos มาโปรดสัตว์ สอนการลงทุนให้ผมอย่างมากมาย
หลังจากนั้นผมก็ขายรถสปอร์ท หันมานั่งรถไฟฟ้า ลงทุนทำกิจการ และ
ลงทุนในหุ้น ถ้าจะใช้รถระยะยาวๆหน่อย ก็จะใช้บริการรถเช่าผ่านบริษัท สะดวกสบาย หักภาษีได้ด้วย
เอารถเล็กรถใหญ่ เลือกได้ตามจังหวะเวลา

ผมนำเงินที่เหลือจากการขายรถ และเงินเก็บแต่ละเดือนมาลงทุนอย่างมุ่งมั่นตามคำสอนอาจารย์
ถึงวันนี้ ผมสามารถซื้อรถแบบที่ผมขายไปได้ด้วยเงินปันผลด้วยซ้ำ(แต่ก็ไม่ได้ซื้ออยู่ดี ลงทุนหมด)
ไม่ต้องทำงานเพราะต้องทำอีกแล้ว การทำงานเพราะอยากทำไม่ใช่เพราะต้องทำ ชีวิตมีความสุขใจกว่ามากครับ

หากให้ผมแนะนำ ผมก็คงแนะนำให้ยอมผ่านความยากลำบากสักช่วงหนึ่งในชีวิต เพื่อให้ไม่ต้องลำบากอีกต่อไป
มากกว่าจะเห็นแก่ความเท่ห์ ความสบายระยะสั้น แล้วทำให้ต้องทำงานเพราะต้องทำ ไปอีกนาน
แต่ก็ขอให้ลงทุนอย่างระมัดระวังและมุ่งมั่นจริงๆ
อย่าลืมว่า " เงินมากขึ้นสองเท่าชีวิตเหมือนเดิมครับ บ้านหลังเดิม รถคันเดิม ข้าวกินได้เท่าเดิม
แต่ถ้าเงินหายไปครึ่งนึง ฟ้าหม่น ชีวิตเปลี่ยน" (เครดิต โยโย่ ผู้สอนประโยคนี้ให้ผม)

ขอให้ตัดสินใจอย่างรอบคอบครับ และอย่าลงทุนเกินตัว
ขอให้ประสบความสำเร็จและมีความสุขในการลงทุนครับ

[hunter_kidz]

ผมขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่ดีจากพี่ ๆ ทุกท่านนะครับซึ่งที่พี่ ๆ แนะนำมานั้นตรงกับใจที่ผมคิดไว้เลย คือผมยอมไม่มีรถแต่มีเงินเก็บ และนำมาลงทุนด้วยความระมัดระวัง และผมบอกกับตัวเองและพ่อแม่ว่าวันหน้าจะซื้อรถคนใหม่ให้พ่อกะแม่เอาให้ดีกว่าคันนี้อีก พ่อก็ดูจะโอเคแต่แม่ก็ตามใจผมแต่ผมรู้ดีว่าแม่ยอมไม่สบายจัยที่สุด

ส่วนเรื่องของแฟนคือแฟนผมมีประสบการณ์ตรงที่ว่าสมัยก่อนเมื่อแฟนผมเรียนอยู่ พ่อของแฟนเล่นหุ้นแล้วเจ๊งครับแทบไม่มีเิงินเก็บเลยทั้งแม่แฟนและแฟนผมเลยไม่ชอบเรื่องหุ้นครับ อีกอย่างผมก็อยากจะพิสูจน์เหมือนกันว่าถ้าผมไม่มีรถขับไปรับส่งแล้วเธอยังจะรักผมอยู่หรือเปล่า

ขอบคุณอีกครั้งนะครับที่แนะนำผม

[magicbank]

รถคันแรกจากเงินเดือนของผม
คือจักรยานครับ

แฮ่...

ใช้ขี่ไปกลับ ระหว่างที่ทำงาน
กับบ้านเช่า วันนึงๆ ก็ 14 กม. ครับ

ช่วงนั้นออมเงินเดือนละ 500 บาท
เงินเดือนเข้าเมื่อไหร่ รีบโยกเงินออกมาก่อนเลย
500 บาท
ไม่งั้นไม่มีเงินเก็บ พอเงินเดือนขึ้น
ก็ใช้จ่ายเท่าเดิมครับ แต่เพิ่มเงินเก็บเอา
จากเดือนละ 500 เป็น 1,000 เป็น 2,000 , ...

ขี่จนจักรยานพังครับ เปลี่ยนไป 2 คัน
ผมก็เลิกขี่ เลิกเช่าบ้าน แล้วย้ายไปนอนที่ออฟฟิศแทน
ประหยัดไปได้เยอะเลย

ปล.
ไม่ได้แนะนำอะไรครับ เล่าให้ฟังเฉยๆ
เหตุการณ์ผ่านมาสิบกว่าปีแล้วครับ

สุดยอดครับ ขอคารวะหนึ่งจอก

[airazoc]

ผมขออภัย ถ้าสิ่งที่ผมพูดนี้เหมือนมาขัดลาภ หรือ ขวางทางน้ำเชี่ยว
แต่ขอให้ระลึกให้หนักจริงๆนะครับ ว่าต้องลงทุนอย่างระมัดระวัง
อย่าลืมนะครับ พี่ๆ เพื่อนๆ ส่วนใหญ่ที่มาโพสให้ความเห็นไปในทางที่ให้ลงทุนนั้น
ส่วนใหญ่ ถ้าไม่ใช่ประสบความสำเร็จหลุดพ้นไปแล้ว ก็ อยู่ในช่วงที่ทำกำไรได้ดี
ต้องไม่ลืมคนอีกจำนวนมาก ที่ล้มหายตายจาก ต้องออกจากตลาดเพราะขาดทุน และไม่มีโอกาสมาโพสอีกแล้วด้วย
คิดถึงเรื่องเหล่านี้มากๆ ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนไม่ว่าจะหุ้น หรือ กิจการใดๆ
จะได้ไม่ทำอะไรโดยไม่ทันยั้งคิดแล้วมาเสียใจทีหลังนะครับ
และอย่าทำเพื่อลองใจแฟนเลยครับ อยากให้คุยกันด้วยความเข้าใจ
การลงทุนถึงจะมีความสุขนะครับ

ขอให้ประสบความสำเร็จครับ

[hunter_kidz]

ผมขออภัย ถ้าสิ่งที่ผมพูดนี้เหมือนมาขัดลาภ หรือ ขวางทางน้ำเชี่ยว
แต่ขอให้ระลึกให้หนักจริงๆนะครับ ว่าต้องลงทุนอย่างระมัดระวัง
อย่าลืมนะครับ พี่ๆ เพื่อนๆ ส่วนใหญ่ที่มาโพสให้ความเห็นไปในทางที่ให้ลงทุนนั้น
ส่วนใหญ่ ถ้าไม่ใช่ประสบความสำเร็จหลุดพ้นไปแล้ว ก็ อยู่ในช่วงที่ทำกำไรได้ดี
ต้องไม่ลืมคนอีกจำนวนมาก ที่ล้มหายตายจาก ต้องออกจากตลาดเพราะขาดทุน และไม่มีโอกาสมาโพสอีกแล้วด้วย
คิดถึงเรื่องเหล่านี้มากๆ ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนไม่ว่าจะหุ้น หรือ กิจการใดๆ
จะได้ไม่ทำอะไรโดยไม่ทันยั้งคิดแล้วมาเสียใจทีหลังนะครับ
และอย่าทำเพื่อลองใจแฟนเลยครับ อยากให้คุยกันด้วยความเข้าใจ
การลงทุนถึงจะมีความสุขนะครับ

ขอให้ประสบความสำเร็จครับ

ขอบคุณมากครับพี่ airazoc

[charonp]

ผมว่าเน้นไปที่ "ความสุข" ดีกว่านะครับ แบบไหน สุขกว่า ก็เลือกแบบนั้น

ชีวิตเราไม่ได้จะยืนยาวซักเท่าไร

อดทนลงทุนไป จะได้ใช้เมื่อไรก็ไม่รู้

ในหลวงท่านจึงทรงตรัส คำว่า เพียงพอ ไงครับ

[MrRobot]

ถ้าขายรถเเล้วเอาเงิน 2 เเสน มาลงทุนเเล้วเกิดขาดทุนเพราะเพราะเลือกหุ้นผิดหรือตลาดพาลงมา จะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไปจากนั้นครับตอบได้ไหม หรือถ้าเลือกถูกตัวมันขึ้นมากำไรคิดว่าจะทำไงต่อไป ขายเอาเงิน 2 เเสนออกมาซื้อรถมือ 2 ได้ไหม หรือทำอะไรต่อจากนี้ เเต่ละกรณีลองคิดว่ามันมีโอกาศเกิดเท่าไหร่ ต้องนานหรือเร็ว เเล้วถ้าเกิดขึ้นมันมีผลกระทบมากน้อยเเค่ไหน พี่ๆในนี้ที่เขาเเนะนำให้ลงทุนอาจจะไม่ถูกต้องเสมอไปนะครับ เพราะชีวิตไม่ใช่เเค่การลงทุนในตลาดหุ้นอย่างเดียว การลงทุนในครอบครัวก็ถือว่าเป็นการลงทุนอีกอย่าง ความสุขที่เเท้จริงคืดอะไรต้องลองชั่งเองครับ โชคดีครับ

[simplelife]

ผ่อนรถแบบที่ทำอยู่ เท่ากับทำงานไปจ่ายเลี้ยง "บริษัทโตโยต้า/ฮอนด้า" อนาคตอยู่ตรงไหน

สมมติว่าคุณต้องส่งค่างวด เดือนละหมื่นไปอีก 4 ปี สมมติว่าแทนที่คุณจะเอาเงินไปผ่อนรถ เอาเงินไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทนแค่ 10% ทบต้นต่อปี (สมมติว่าเป็น real return นะครับ คือผลตอบแทนลบด้วยเงินเฟ้อแล้ว) พอครบสี่ปีคุณจะได้เงินประมาณ 571,000 บาท ถ้าตอนนั้นคุณอายุ 27 ปี คุณไม่แตะเงินก้อนนี้ แต่ปล่อยไปลงทุนได้แค่ 10% ต่อปีเหมือนกัน ตอนคุณอายุ 60 ปี เงินห้าแสนกว่าบาทนี้จะกลายไปเป็นเงิน 13,000,000 บาท

พูดตรงๆแบบขวานผ่าซากเลยนะครับ ตอนแก่แฟนคนนี้ยังอยู่กับคุณหรือเปล่า น้องคุณจะเลี้ยงคุณเหรอ หรือคุณอยากจะทำงานงกๆเงิ่นๆหาเลี้ยงตัวเองตอนอายุ 60 เหรอครับ ถ้าเดินทางลำบากจริงๆ ต้องใช้รถจริงๆ เอาตังค์ไปหาซื้อรถมือสอง อย่าไปสนแต่ง อย่าไปล้างไปขัดมันมาก รถมีเอาไว้เดินทาง ไม่ได้มีไว้อวดครับ เก็บเงินไว้สำหรับอนาคตดีกว่าครับ

ขอให้โชคดีครับ

[untrataro25]

รถมือสองรุ่นเก่าๆ ราคาไม่แพงที่สภาพยัง ok พอจะใช้เป็นยานพาหนะได้
ผมว่าถ้าตั้งใจหา ยังพอหาได้อยู่นะครับ เผลอๆอาจไม่ต้องซื้อสด ผ่อนเอาเดือนละไม่กี่บาท

[canuseeme]

ผมเห็นด้วย กับหลายๆ ความเห็นนะครับ
แต่ เรื่อง เอา รถ มือสอง แทน นี่ โดย ส่วน ตัวผม ไม่แนะนำ อย่างรุนแรง

หากยัง อยากเดินทางสะดวก ก็ นั่งแท็กซี่ดีกว่า

ลองคำนวณดู ก็ได้ครับ ว่า ถ้า คุณเปลี่ยน มาเป็น รถเมล์ บ้าง แท็กซี่บ้าง ค่าใช้จ่ายที่เห็นชัดๆเท่าไร

ยิ่งถ้า คำนวณค่าเสีย โอกาส ด้วย นี่ ยิ่ง จะชัดเจน แต่ อันนี้ ก็แล้ว แต่ มุมมองและทัศนะคตินะครับ
ซึ่ง มุมมองที่เจอบ่อยก็ คือ
การเปรียบเทียบโดยนำเงิน ก้อนเดียวกันนั้นมาลงทุน(ซึ่งใน ที่นี้ ก็ มี เซียนได้อธิบายแล้ว)

ส่วนตัวผม จบ มา 10 กว่า ปีแล้ว ยังไม่มีรถเลย
ถ้าจะมีก็ได้ ไม่เกินความสามารถ แต่ เงินที่ลงทุน มัน ได้ ผลตอบแทน แบบ เร้าใจเหลือเกิน เลยเกิดอาการ เสียดายเงิน
ก่อนหน้านี้ก็ พยายามไม่มีแฟนนะครับ เพราะ มีแล้ว ก็ต้องเข้าใจ ผู้หญิง ด้วย รถ มันถูกมองเรื่องความปลอดภัยได้อีกมุม
ที่ พูดมาซะยาว เพื่อ บอกว่า แนวทาง รถมือสองผม ไม่เห้นด้วย นั่นเอง
(55555 แล้ว มันเกี่ยวกับที่พิมท์มั๊ย นี่เรา)

[patongpa]

มันต้องดูว่าทำงานไกลใกล้แค่ไหน ถ้าเดินทางลำบากก็สมควรมีรถ มือสองก็ได้ถ้ารถยังสภาพดี อีกอย่างคือความคิดจะเอาเงินมาเสี่ยงกับหุ้น คิดให้ดีก่อนว่าเราปาเป้าแม่นแค่ไหน หากพลาดเสียทั้งแฟนเสียทั้งหุ้นเลยนะ เงินมีน้อยก็อยู่แบบพอเพียงเหอะ ไม่ใช่ว่าทุกคนเข้ามาแล้วจะร่ำรวยเหมือนกันทุกคน

[Tamจัง]

จริงๆต้องถามว่า คุณมีรายได้เท่าไหร่ก่อนนะครับ
ประมาณเอาจากที่คุณเล่า คาดว่ามีเงินไม่ได้สูงมากนัก
คงจะผ่อนรถเกินตัวแน่ๆ ไม่ควรซื้อรถตั้งแต่แรกแล้วครับ
เพราะฉะนั้นการขายรถเป็นการตัดสินใจที่ดี

แต่... อย่าเอาเงินที่ขายได้ทั้งหมดไปลงทุน
เพราะอะไร... เพราะการที่คุณเคยสบายมาก่อนมีรถขับ
แต่กลับต้องขายรถเอาเงินมาลงทุน ทำให้เกิดความคาดหวังมาก
หากเงินลงทุนสูญไปหรือขาดทุน จะเกิดผลทางด้านจิตใจอย่างมาก
เช่น พ่อแม่แฟนก็จะบอกว่า บอกแล้วไงเล่นหุ้นเดี๋ยวก็ขาดทุน..ไม่น่าขายรถ

เพราะฉะนั้นแบ่งเงินอย่างน้อย 50% เก็บออมไว้ครับ ฝากประจำ ฝากอะไรไป
20%ไว้ใช้ฉุกเฉิน แล้วลงทุนสัก 30% ก็พอ

อยากลงทุนเพิ่มค่อยแบ่งมาจากเงินเหลือทุกๆเดือนเอาครับ

[hunter_kidz]

จริงๆต้องถามว่า คุณมีรายได้เท่าไหร่ก่อนนะครับ
ประมาณเอาจากที่คุณเล่า คาดว่ามีเงินไม่ได้สูงมากนัก
คงจะผ่อนรถเกินตัวแน่ๆ ไม่ควรซื้อรถตั้งแต่แรกแล้วครับ
เพราะฉะนั้นการขายรถเป็นการตัดสินใจที่ดี

แต่... อย่าเอาเงินที่ขายได้ทั้งหมดไปลงทุน
เพราะอะไร... เพราะการที่คุณเคยสบายมาก่อนมีรถขับ
แต่กลับต้องขายรถเอาเงินมาลงทุน ทำให้เกิดความคาดหวังมาก
หากเงินลงทุนสูญไปหรือขาดทุน จะเกิดผลทางด้านจิตใจอย่างมาก
เช่น พ่อแม่แฟนก็จะบอกว่า บอกแล้วไงเล่นหุ้นเดี๋ยวก็ขาดทุน..ไม่น่าขายรถ

เพราะฉะนั้นแบ่งเงินอย่างน้อย 50% เก็บออมไว้ครับ ฝากประจำ ฝากอะไรไป
20%ไว้ใช้ฉุกเฉิน แล้วลงทุนสัก 30% ก็พอ

อยากลงทุนเพิ่มค่อยแบ่งมาจากเงินเหลือทุกๆเดือนเอาครับ

ขอบคุณครับพี่tamจัง ผมยอมรับว่าผมพลาดตั้งแต่ออกรถเลยครับคือผมไม่ได้คิดหรือไม่รู้เรื่องการลงทุนเลยครับ ไม่คิดถึงอนาคตเลย พอจบมาก็อยากมีรถกับเค้าบ้างอยากเท่ห์อย่างไปไหนมาไหนสบาย ฯลฯ พอเวลาผ่านไปผมรู้สึกว่าผมคิดผิดไปจริงทั้ง ๆ รายได้ก็ไม่สูง ผมต้องนำเงินเดือนที่ผมหาได้มาให้รถ+น้ำมัน จนผมมองไม่เห็นอนาคตผมเลยครับ

[tum_H]

ผมก็เคยมีความคิดนี้เหมือนกันครับ
รู้สึกว่าในครอบครัวมีผมคนเดียวที่มีความคิดนี้ คนอื่นๆห้ามกันหมด ด้วยเหตุผล
คล้ายๆกันอะครับ

แต่สุดท้ายผมก็ตัดสินใจที่จะไม่ขาย เพราะตอนนี้ผมหาความสุขที่แท้จริง
ของตัวเองเจอแล้ว

พอมีรถขึ้นมาหนึ่งคัน ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมามากต่อเดือน โดนเฉพาะค่าการ
ท่องเที่ยว พอไปบ่อยๆขึ้น เงินเก็บที่เคยมี ก็หายไปหมด กลายเป็นเงินลงทุน
ที่ใส่เข้าไปต้องใช้เงินโบนัสแทน(ประมาณ 6 เท่าของเงินเดือน)

เลยกลับมานั่งคิดว่า ถ้าเราเอาเงินเหล่านั้นมาลงทุน จะได้ผลตอบแทน
มหาศาลขนาดไหน รถยนต์ขับไปเรื่อยๆมีแต่ค่าเสื่อม แล้วเราได้อะไรจาก
การมีรถ

คำตอบที่ได้คือ "ความสุขใจ"

การลงทุนของผมก็เหมือนๆกับทุกคนคือต้องการมีอิสระภาพทางการเงิน
แต่ในช่วงของการลงทุน เราเองก็อย่าลืมเติมความสุขให้กับชีวิตประจำวันด้วย
เพราะเป้าหมายที่แท้จริงของการลงทุนก็คือ ความสุขของชีวิตนั่นเอง

ผมจึงเปลี่ยนรูปแบบของการใช้ชีวิต จากการเดินทางท่องเที่ยว ทำบุญ ทุกอาทิตย์
เป็นเดือนละครั้งพร้อมกันหลายๆทริป หรือ วางแผนรวบยอดทีเดียว เพื่อเป็นการ
ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

ผลที่ออกมาก็คือ ค่าใช้จ่ายลดลงมากและเริ่มมีเงินเดือนเหลือ จนสามารถนำส่วนนี้
ไปลงทุน เพิ่มมูลค่าได้

ความสุขยังอยู่ แถม ต้นทุนลดลงด้วย การใช้ชิวิตก็ยังเหมือนเดิม

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ นิยามของคำว่าความสุขของแต่ละคน
สำคัญว่า เราลงทุนอย่างมีความสุขแล้วหรือยัง

[Possible]

" เงินมากขึ้นสองเท่าชีวิตเหมือนเดิมครับ บ้านหลังเดิม รถคันเดิม ข้าวกินได้เท่าเดิม
แต่ถ้าเงินหายไปครึ่งนึง ฟ้าหม่น ชีวิตเปลี่ยน" (เครดิต โยโย่ )

ชอบครับ แต่ถ้าผมมองเปรียบเทียบนะครับ สำหรับคนที่มีรถแล้ว

" การขับรถแพงๆ ไม่ได้ทำให้เราไปถึงเร็วขึ้นกว่าเดิม ได้แต่ความเท่ห์ และความสะดวกสบายเพิ่มนิดหน่อย
แต่ถ้าเคยขับรถ แล้วไม่มีรถ ความรู้สึกก็เปลี่ยนเยอะเหมือนกันนะครับ "

ขึ้นอยู่กับความรู้สึกส่วนบุคคล ว่า รับได้หรือไม่

แต่ถ้ามองกลางๆ มีรถไว้ใช้สักคันก็ดี อาจเป็นมือสอง ติดแก๊ส อย่างน้อยเราก็สะดวกในการเดินทาง
แถมลงทุนกับรถ ไม่เยอะด้วย สู้ๆ ครับ

[hunter_kidz]

ขอบคุณพี่ ๆ ทุกท่านมากนะครับสำหรับคำแนะนำดี ๆ มันช่างเป็นการตัดสินใจที่ยากยิ่งนัก

[bustedll]

ลองขับมอเตอร์ไซน์ ดีกว่าไหมพี่ ประหยัดกว่ามากและที่สำคัญซิกแซกในเมืองได้ง่ายกว่าด้วย

[whitesky]

ถ้าเป็นพี่ พี่ยอมลำบากในวันนี้เพื่อสบายในวันข้างหน้านะ การนั่งรถเมล์ไม่ใช่สิ่งน่าอาย หากเรายังไม่พร้อมที่จะลงทุนซื้อรถยนต์ส่วนตัว การมีรถส่วนตัวใช้ทำให้เราสบายก็จริงแต่ก็มีค่าใช้จ่ายตามมามากมายนอกจากค่าผ่อนรถแล้วก็ต้องมีค่าบำรุงรักษา ค่าน้ำมันหรือค่าแก๊สที่นับวันก็มีแต่ราคาจะสูงขึ้น และอย่าลืมว่าชีวิตคนเรานั้นไม่แน่นอน หากเราหรือคนในครอบครัวที่เรารับผิดชอบเกิดเจ็บป่วยและต้องจ่ายค่ารักษาในส่วนที่ประกันสุขภาพไม่จ่ายให้ คือต้องจ่ายเองบางส่วน เราจะมีเงินจ่ายได้หรือไม่ หรือหากโชคร้ายมีการเปลี่ยนแปลงในบริษัทที่เราทำงานทำให้เราต้องออกจากงาน เราจะดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างไรหากเราไม่มีเงินออมอยู่เลย ก่อนที่เราจะนำเงินไปลงทุนใดๆที่มีความเสี่ยง เราควรจะมีเงินสำรองไว้ใช้จ่ายในยามฉุกเฉินสักจำนวนหนึ่งก่อน จะไ่ด้ไม่เดือดร้อนหากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เงินสำรองส่วนนี้อาจจะฝากธนาคารไว้ทุกเดือนในรูปเงินฝากประจำแบบครบ24เดือนได้รับยกเว้นภาษี ก็ปลอดภัยดี ไม่มีความเสี่ยงและยังได้ดอกผลเป็นดอกเบี้ยไม่ต้องเสียภาษีอีกต่่างหาก นี่เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้นนะคะ และเมื่อมีเงินสำรองเก็บไว้ใช้แล้ว หากยังมีเงินเหลืออยู่อีก หากต้องการนำมาลงทุนในตลาดหุ้น ก็ต้องมีการศึกษาในกิจการที่เราจะไปลงทุนเสียก่อน พึงระลึกเสมอว่าเหรียญนั้นมี 2 ด้านเสมอ มีได้ก็มีเสีย อย่าตั้งความหวังไว้สูงว่าเมื่อเราซื้อหุ้นนั้นแล้ว หุ้นจะขึ้นกี่เท่าเหมือนที่คนอื่นได้ เพราะนั่นจะทำให้เราจิตตกเมื่อตลาดผันผวนะไม่เป็นดังที่เราคาดหวัง สำหรับคู่ชีวิต ก็ลองคุยกัน ถ้าเค้ารักเราจริงและมีเหตุผล ไม่ฟุ้งเฟ้อ ก็น่าจะเข้าใจและยอมลำบากกับเราได้ ในเมื่อเรายังไม่พร้อมที่นำเงินที่มีอยู่ไม่มากนักไปซื้อความสะดวกสบายก็น่าจะยอมเสียสละให้กันได้ บางครั้งการต้องลำบากด้วยกันก่อนก็ดีนะ เพราะทำให้เราเป็นคนสู้ชีวิต และเห็นคุณค่ากันเมื่อได้ดิบได้ดีหรือมีฐานะดีขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นเรื่องภายในครอบครัวของคุณที่จะเลือกทางเดินชีวิตว่าจะเลือกแบบใด ที่ทำได้ก็เพียงการให้แนวคิดจากประสบการณ์ของตัวเองเท่านั้น จงพอใจในสิ่งที่ตนมีและภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น เป็นกำลังใจให้ค่ะ

[Blueblood]

ทางสายกลางดีกว่าครับ อย่าตึงไปอย่าหย่อนไป ซื้อรถถูกๆสภาพดีๆสักคันแทนคันเก่าแล้วแบ่งส่วนนึงมาลงทุนครับ ถ้าเกิดขายรถไปแล้วแฟนต้องนั่งรถสาธารณะ แล้วแฟนเราโดนมิจฉาชีพทำร้ายร่างกาย เชื่อว่าความทุกข์ใจที่เราได้รับจะมากมายมหาศาลเอาเงินร้อยล้านมาแลกก็ไม่คุ้มครับ

[ส.สลึง]

มีรถ ก็ดี
ไม่มีรถ ก็ดี

ชีวิตคือการเลือกครับ