คนจน-คนรวย คิดต่างกันยังไง?

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
dome@perth
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4740
ผู้ติดตาม: 0

คนจน-คนรวย คิดต่างกันยังไง?

โพสต์ที่ 31

โพสต์

[quote="leaderinshadow"]

ผมเองก็อ่านแล้วก็ไม่เห็นรู้สึกอะไร ทั้งๆที่สมัยตอนเรียนมหาลัย
ผมเนี่ยแหละ นักเรียนทุนยากจน ของมหาลัยเลย
จน ถึงขั้นที่ไปขอทุนอะไร ก็ได้ ทั้งทุนยากจนของคณะ และของมหาวิทยาลัย
จนตอนนั้น ผมได้รับตำแหน่ง ยาจกรุ่น ไปครอง
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง
"
ภาพประจำตัวสมาชิก
san
Verified User
โพสต์: 1675
ผู้ติดตาม: 0

คนจน-คนรวย คิดต่างกันยังไง?

โพสต์ที่ 32

โพสต์

พูดถึง  รวย .... จน    นิยามยาก  ไม่ยาก  ก็คนคิดต่างกันนะครับ

พูด ถึง  พอ .... ไม่พอ  อาจจะทำความเข้าใจได้ง่ายกว่ามังครับ

ใครที่เคยจน มาถึงตอนนี้ไม่จนแล้ว   ก็อย่าลืมอดีต  อย่าน้ำใจ เผื่อแผ่คนที่ยังยากจนอยู่ด้วยนะครับ

ใครที่รวยอยู่แล้ว  ก็ขอให้มีน้ำใจ  เห็นใจคนจนครับ  ท่านจะได้รวยมากๆขึ้นไป  อย่างน้อยท่านก็รวยน้ำใจมากขึ้นนะครับ

ใครที่พอแล้ว  ยินดีด้วยนะครับ

ใครที่ยังไม่พอ ก็ดิ้นกันไป

ส่วนใหญ่ในเวบนี้ แบบไหนว่า  อิอิอิ

ผมเองก็บางวันก็พอ  บางวันก็ไม่พอมังครับ

555
ขอบคุณ รุ่นพี่ๆ รุ่นน้องๆ ครูบา อาจารย์ ในนี้ ที่แนะนำเรื่อง วิธีการลงทุนที่ดี นะครับ
อ. โจ กับ พี่พอใจ ยังเป็นขวัญใจ เสมอครับ
วันนี้ อ. โจ ได้ลง นสพ ด้วย .....อิอิอิ
ภาพประจำตัวสมาชิก
san
Verified User
โพสต์: 1675
ผู้ติดตาม: 0

คนจน-คนรวย คิดต่างกันยังไง?

โพสต์ที่ 33

โพสต์

คิดถึงเพื่อน เมื่อ 20 กว่าปีก่อน
นักเรียนทุนยากจน  แต่ไปอยู่ในวง  แรนด้อม

อาจารย์มาจับ ในห้อง  ชมรมฯ
เห็นแล้ว  ได้แต่ส่ายหัว  ไหนว่ายากจนไง
เพื่อนบอกว่า เพราะว่ายากจนเลยต้องมาดิ้นรนเล่น แรนด้อม
อาจารย์สงสารผมเถอะ
555

วัยนี้   .....คิดถึงเพื่อน  มากขึ้นทุกที
555
ขอบคุณ รุ่นพี่ๆ รุ่นน้องๆ ครูบา อาจารย์ ในนี้ ที่แนะนำเรื่อง วิธีการลงทุนที่ดี นะครับ
อ. โจ กับ พี่พอใจ ยังเป็นขวัญใจ เสมอครับ
วันนี้ อ. โจ ได้ลง นสพ ด้วย .....อิอิอิ
guyver
Verified User
โพสต์: 52
ผู้ติดตาม: 0

คนจน-คนรวย คิดต่างกันยังไง?

โพสต์ที่ 34

โพสต์

ก็จริงบ้าง แต่บางอันก็คิดเองไปหน่อย

คนจนก็มีข้อดีครับ ลองดูน่ะครับอันนี้เป็นการวิจัยระหว่างนิสัยคนจนกับคนรวย
อ่าน
http://www.economist.com/node/16690659

Wealth, poverty and compassion
The rich are different from you and me
They are more selfish
Jul 29th 2010


LIFE at the bottom is nasty, brutish and short. For this reason, heartless folk might assume that people in the lower social classes will be more self-interested and less inclined to consider the welfare of others than upper-class individuals, who can afford a certain noblesse oblige. A recent study, however, challenges this idea. Experiments by Paul Piff and his colleagues at the University of California, Berkeley, reported this week in the Journal of Personality and Social Psychology, suggest precisely the opposite. It is the poor, not the rich, who are inclined to charity.

In their first experiment, Dr Piff and his team recruited 115 people. To start with, these volunteers were asked to engage in a series of bogus activities, in order to create a misleading impression of the purpose of the research. Eventually, each was told he had been paired with an anonymous partner seated in a different room. Participants were given ten credits and advised that their task was to decide how many of these credits they wanted to keep for themselves and how many (if any) they wished to transfer to their partner. They were also told that the credits they had at the end of the game would be worth real money and that their partners would have no ability to interfere with the outcome.

A week before the game was run, participants were asked their ethnic backgrounds, sex, age, frequency of attendance at religious services and socioeconomic status. During this part of the study, they were presented with a drawing of a ladder with ten rungs on it. Each rung represented people of different levels of education, income and occupational status. They were asked to place an X on the rung they felt corresponded to where they stood relative to others in their own community.

The average number of credits people gave away was 4.1. However, an analysis of the results showed that generosity increased as participants assessment of their own social status fell. Those who rated themselves at the bottom of the ladder gave away 44% more of their credits than those who put their crosses at the top, even when the effects of age, sex, ethnicity and religiousness had been accounted for.


The prince and the pauper

In follow-up experiments, the researchers asked participants to imagine and write about a hypothetical interaction with someone who was extremely wealthy or extremely poor. This sort of storytelling is used routinely by psychologists when they wish to induce a temporary change in someones point of view.

In this case the change intended was to that of a higher or lower social class than the individual perceived he normally belonged to. The researchers then asked participants to indicate what percentage of a persons income should be spent on charitable donations. They found that both real lower-class participants and those temporarily induced to rank themselves as lower class felt that a greater share of a persons salary should be used to support charity.

Upper-class participants said 2.1% of incomes should be donated. Lower-class individuals felt that 5.6% was the appropriate slice. Upper-class participants who were induced to believe they were lower class suggested 3.1%. And lower-class individuals who had been psychologically promoted thought 3.3% was about right.

A final experiment attempted to test how helpful people of different classes are when actually exposed to a person in need. This time participants were primed with video clips, rather than by storytelling, into more or less compassionate states. The researchers then measured their reaction to another participant (actually a research associate) who turned up late and thus needed help with the experimental procedure.

In this case priming made no difference to the lower classes. They always showed compassion to the latecomer. The upper classes, though, could be influenced. Those shown a compassion-inducing video behaved in a more sympathetic way than those shown emotionally neutral footage. That suggests the rich are capable of compassion, if somebody reminds them, but do not show it spontaneously.

One interpretation of all this might be that selfish people find it easier to become rich. Some of the experiments Dr Piff conducted, however, sorted people by the income of the family in which the participant grew up. This revealed that whether high status was inherited or earned made no differenceso the idea that it is the self-made who are especially selfish does not work. Dr Piff himself suggests that the increased compassion which seems to exist among the poor increases generosity and helpfulness, and promotes a level of trust and co-operation that can prove essential for survival during hard times.
nut776
Verified User
โพสต์: 3350
ผู้ติดตาม: 0

คนจน-คนรวย คิดต่างกันยังไง?

โพสต์ที่ 35

โพสต์

สำหรับผมต่างกันตรง

คนรวยมักชอบดูถูกคนอื่น
คนจนมักไม่ดูถูกคนอื่น
show me money.
DemonInvesting
Verified User
โพสต์: 805
ผู้ติดตาม: 0

Re: คนจน-คนรวย คิดต่างกันยังไง?

โพสต์ที่ 36

โพสต์

คนอุดร เขียน:คนจน-คนรวย คิดต่างกันยังไง?
คนจนขอทาน
คนจน คิดว่า...
ฉันถูกลิขิตให้เป็นอย่างนี้
คิดแค่อยากรวย
คิดการเล็ก
มุ่งสนใจไปที่อุปสรรค
เกลียดคนร่ำรวยและคนที่ประสบคววามสำเร็จ ..........
พวกคุณคิดแบบไหน? แต่ทุกคนอยากเป็นคนรวยแต่...
ผมอ่านแล้วก็รู้สึกว่าคนเขียนมีอคติต่อคนยากจนน่ะ ...เพราะคนจน ... ไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องคิดอย่างข้างต้น เพราะคนบางคนยากจนเพราะถูกคนบางกลุ่มในสังคมเอารัดเอาเปรียบก็เยอะ ขาดโอกาสก็มาก ลองนึกถึงชาวแอฟริกาที่เกิดกลางทะเลทรายที่เต็มไปด้วยสงครามกลางเมือง ... ดังนั้นจริงอยู่ที่ว่าความคิดดังกล่าวอาจนำพามาซึ่งความยากจน หรือ ไม่อาจแสวงหาความร่ำรวย แต่ไม่ใช่ว่าคนจนจะต้องคิดอย่างนั้น ... และ คนรวย ก็ไม่ใช่ว่าจะคิดอย่างข้างต้น เพราะอย่างที่หลายท่านได้กล่าวมาแล้วว่าคนหลายคนก็รวยเพราะถูกบังคับให้รวย เกิดมารวยช่วยไม่ได้ ....

ถ้าจะให้ถูกควรจะเปลี่ยนเป็นว่า ทัศนคติที่นำมาซึ่งความร่ำรวย/นำมาซึ่งความยากจน .... จะฟังดูสมเหตุสมผลกว่า
ถึงตลาดจะฟูมฟายมากแค่ไหน ก็ยินดียืมไหล่ให้เธอซบ ยืมอกให้เธอซับน้ำตา
Boyadvance
Verified User
โพสต์: 495
ผู้ติดตาม: 0

คนจน-คนรวย คิดต่างกันยังไง?

โพสต์ที่ 37

โพสต์

ผมว่าถ้าเปลี่ยน ความดีเป็นเงินได้ คงจะดีไม่น้อย
ใครๆ จะได้อยากมีความดีเยอะ เหมือนมีเงิน  :D
ต.หยวนเปียว
Verified User
โพสต์: 1688
ผู้ติดตาม: 0

คนจน-คนรวย คิดต่างกันยังไง?

โพสต์ที่ 38

โพสต์

คนจนคิดว่าทำไงให้จนน้อยลง
คนรวยคิดว่าทำไงให้รวยขึ้น


:lol:  คิดต่างกันไหมเนี่ย  แต่ไม่ใช่ทุกคนดอกนะ
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
pak
Verified User
โพสต์: 5659
ผู้ติดตาม: 0

Re: คนจน-คนรวย คิดต่างกันยังไง?

โพสต์ที่ 39

โพสต์

...เมื่อมีผู้ชนะก็ต้องมีผู้แพ้ แล้วในที่สุดใครล่ะจะเป็นผู้พ่ายแพ้อย่างแท้จริง

ผู้ชนะ ก็มักจะกระหยิ่มยิ้มย่อง หารู้ไม่ว่าชัยชนะมักมีความประมาทตามติดอยู่ทุกฝีก้าวเหมือนเงาตามตัว

ความลำพองใจในชัยชนะยังส่งเสริมอัตตาให้เติบใหญ่จนไม่ฟังเสียงท้วงติงจากใคร จนกว่าจะถึงวันหนึ่งซึ่งเจ้าตัวจะได้ตระหนักง่าสถานะของการเป็นผู้ชนะก็ไม่ได้จีรังยั่งยืน

ทางฝ่าย ผู้แพ้ ก็เอาแต่ก่นด่าชะตากรรมและคร่ำครวญเสียใจ ทั้งๆ ที่การเป็นผู้แพ้ก็มีแง่มุมที่ดีอยู่ด้วย คือช่วยให้ได้บทเรียนที่ล้ำค่าของชีวิต

ถ้ารู้จักคิดวิเคราะห์ด้วยสติปัญญา สงบอารมณ์ที่พลุ่งพล่านใช้การพ่ายแพ้แต่หนหลังเป็นพลังผลักดันให้ลุกขึ้นสู้ใหม่ คราวนี้ถ้าตั้งตัวได้ก็จะห่างไกลจากความประมาทและจะเป็นผู้ที่ไม่แพ้อีก

....

โลกของเรารุ่มร้อนวุ่นวายมาหลายพันปีถึงขั้นเข่นฆ่าทำสงครามกันจนเสียชีวิตและทรัพย์สินไปมากมาย ก็เพราะใฝ่หาแต่ชัยชนะ

โลกจะรุ่งเรืองและมีสันติสุขยิ่งขึ้นได้ไม่ยาก ขอเพียงพวกเราเปลี่ยนเป้าหมายจากการพยายามจะเป็นผู้ชนะมาเป็นผู้ไม่แพ้ก้เพียงพอแล้ว

(ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์/ คำนำจาก "เรียนรู้จากผู้แพ้)
--------------------------------------------------------------------------------------

ข้อแตกต่างระหว่างผู้แพ้หรือผู้ชนะ

ผู้ชนะ : เมื่อพบว่ามีข้อผิดพลาด จะพูดว่า ฉันทำผิดเอง
ผู้แพ้ : เมื่อพบข้อผิดพลาด จะพูดว่า ไม่ใช่ความผิดของฉัน

ผู้ชนะ : จะทำงานหนักกว่าปกติ และมีเวลามากกว่าผู้แพ้
ผู้แพ้ : จะทำงานแบบยุ่งทั้งวัน โดยที่ไม่คิดว่างานไหน ควรทำก่อนทำหลัง

ผู้ชนะ : จะเผชิญหน้ากับปัญหาและลงมือแก้ไขปัญหานั้น
ผู้แพ้ : จะทำในทางตรงข้าม หลีกเลี่ยงปัญหา

ผู้ชนะ : จะลงมือทำงานให้ปรากฎผลงานขึ้น
ผู้แพ้ : จะให้แต่คำสัญญา คือมีแต่ลมปาก แต่ไม่ลงมือ

ผู้ชนะ : จะพูดว่า ฉันทำได้ดี แต่ยังไม่ดีเท่ากับที่ฉันต้องการ
ผู้แพ้ : จะพูดว่า ยังมีคนอื่นอีกหลายคนที่มีผลงานแย่กว่าตัวเขา

ผู้ชนะ : จะตั้งใจฟัง แล้วทำความเข้าใจ และ สามารถตอบสนองได้
ผู้แพ้ : จะรออย่างเดียว โดยไม่ฟัง ไม่ทำความเข้าใจสิ่งที่คนอื่นพูด รอจนกว่าจะถึงคิวที่จะได้พูดเรื่องของตัวเอง

ผู้ชนะ : จะยอมรับ นับถือคนที่มีความสามารถเหนือกว่า และจะเรียนรู้จากคนเหล่านั้น
ผู้แพ้ : จะทำในทางตรงข้าม และจะพยามายามหาข้อผิดพลาดของคนที่เหนือกว่าเขา

ผู้ชนะ : จะมีความรับผิดชอบ ไม่เพียงแต่งานที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น จะช่วยคิดให้องค์กรประสบความสำเร็จ
( ไม่ใช่ไปก้าวก่ายงานคนอื่นนะ )
ผู้แพ้ : จะไม่กล้าที่จะช่วยเหลือคนอื่น และ มักจะพูดว่า ฉันไม่ว่าง กำลังทำงานของฉันอยู่

ผู้ชนะ : ต้องมีวิธีที่จะทำให้ดีขึ้นได้เสมอ
ผู้แพ้ : จะพูดว่า นี่คือหนทางเดียวที่ทำได้

ผู้ชนะ : จะแบ่งปันบทความนี้ไปยังเพื่อนๆของเขา
ผู้แพ้ : จะเก็บบทความนี้เอาไว้ เพราะว่าเขาไม่มีเวลาที่จะแบ่งปันไปให้คนอื่น


http://wemahidol.mahidol.ac.th/comm/spa ... blog&id=30
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
ภาพประจำตัวสมาชิก
chukieat30
Verified User
โพสต์: 3531
ผู้ติดตาม: 0

Re: คนจน-คนรวย คิดต่างกันยังไง?

โพสต์ที่ 40

โพสต์

pak เขียน:...เมื่อมีผู้ชนะก็ต้องมีผู้แพ้ แล้วในที่สุดใครล่ะจะเป็นผู้พ่ายแพ้อย่างแท้จริง

ผู้ชนะ ก็มักจะกระหยิ่มยิ้มย่อง หารู้ไม่ว่าชัยชนะมักมีความประมาทตามติดอยู่ทุกฝีก้าวเหมือนเงาตามตัว

ความลำพองใจในชัยชนะยังส่งเสริมอัตตาให้เติบใหญ่จนไม่ฟังเสียงท้วงติงจากใคร จนกว่าจะถึงวันหนึ่งซึ่งเจ้าตัวจะได้ตระหนักง่าสถานะของการเป็นผู้ชนะก็ไม่ได้จีรังยั่งยืน

ทางฝ่าย ผู้แพ้ ก็เอาแต่ก่นด่าชะตากรรมและคร่ำครวญเสียใจ ทั้งๆ ที่การเป็นผู้แพ้ก็มีแง่มุมที่ดีอยู่ด้วย คือช่วยให้ได้บทเรียนที่ล้ำค่าของชีวิต

ถ้ารู้จักคิดวิเคราะห์ด้วยสติปัญญา สงบอารมณ์ที่พลุ่งพล่านใช้การพ่ายแพ้แต่หนหลังเป็นพลังผลักดันให้ลุกขึ้นสู้ใหม่ คราวนี้ถ้าตั้งตัวได้ก็จะห่างไกลจากความประมาทและจะเป็นผู้ที่ไม่แพ้อีก

....

โลกของเรารุ่มร้อนวุ่นวายมาหลายพันปีถึงขั้นเข่นฆ่าทำสงครามกันจนเสียชีวิตและทรัพย์สินไปมากมาย ก็เพราะใฝ่หาแต่ชัยชนะ

โลกจะรุ่งเรืองและมีสันติสุขยิ่งขึ้นได้ไม่ยาก ขอเพียงพวกเราเปลี่ยนเป้าหมายจากการพยายามจะเป็นผู้ชนะมาเป็นผู้ไม่แพ้ก้เพียงพอแล้ว

(ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์/ คำนำจาก "เรียนรู้จากผู้แพ้)
--------------------------------------------------------------------------------------

ข้อแตกต่างระหว่างผู้แพ้หรือผู้ชนะ

ผู้ชนะ : เมื่อพบว่ามีข้อผิดพลาด จะพูดว่า ฉันทำผิดเอง
ผู้แพ้ : เมื่อพบข้อผิดพลาด จะพูดว่า ไม่ใช่ความผิดของฉัน

ผู้ชนะ : จะทำงานหนักกว่าปกติ และมีเวลามากกว่าผู้แพ้
ผู้แพ้ : จะทำงานแบบยุ่งทั้งวัน โดยที่ไม่คิดว่างานไหน ควรทำก่อนทำหลัง

ผู้ชนะ : จะเผชิญหน้ากับปัญหาและลงมือแก้ไขปัญหานั้น
ผู้แพ้ : จะทำในทางตรงข้าม หลีกเลี่ยงปัญหา

ผู้ชนะ : จะลงมือทำงานให้ปรากฎผลงานขึ้น
ผู้แพ้ : จะให้แต่คำสัญญา คือมีแต่ลมปาก แต่ไม่ลงมือ

ผู้ชนะ : จะพูดว่า ฉันทำได้ดี แต่ยังไม่ดีเท่ากับที่ฉันต้องการ
ผู้แพ้ : จะพูดว่า ยังมีคนอื่นอีกหลายคนที่มีผลงานแย่กว่าตัวเขา

ผู้ชนะ : จะตั้งใจฟัง แล้วทำความเข้าใจ และ สามารถตอบสนองได้
ผู้แพ้ : จะรออย่างเดียว โดยไม่ฟัง ไม่ทำความเข้าใจสิ่งที่คนอื่นพูด รอจนกว่าจะถึงคิวที่จะได้พูดเรื่องของตัวเอง

ผู้ชนะ : จะยอมรับ นับถือคนที่มีความสามารถเหนือกว่า และจะเรียนรู้จากคนเหล่านั้น
ผู้แพ้ : จะทำในทางตรงข้าม และจะพยามายามหาข้อผิดพลาดของคนที่เหนือกว่าเขา

ผู้ชนะ : จะมีความรับผิดชอบ ไม่เพียงแต่งานที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น จะช่วยคิดให้องค์กรประสบความสำเร็จ
( ไม่ใช่ไปก้าวก่ายงานคนอื่นนะ )
ผู้แพ้ : จะไม่กล้าที่จะช่วยเหลือคนอื่น และ มักจะพูดว่า ฉันไม่ว่าง กำลังทำงานของฉันอยู่

ผู้ชนะ : ต้องมีวิธีที่จะทำให้ดีขึ้นได้เสมอ
ผู้แพ้ : จะพูดว่า นี่คือหนทางเดียวที่ทำได้

ผู้ชนะ : จะแบ่งปันบทความนี้ไปยังเพื่อนๆของเขา
ผู้แพ้ : จะเก็บบทความนี้เอาไว้ เพราะว่าเขาไม่มีเวลาที่จะแบ่งปันไปให้คนอื่น


http://wemahidol.mahidol.ac.th/comm/spa ... blog&id=30

โดนใจมากครับ +1
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ

หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
sirimethagul
Verified User
โพสต์: 320
ผู้ติดตาม: 0

Re: คนจน-คนรวย คิดต่างกันยังไง?

โพสต์ที่ 41

โพสต์

ผมเองก็เป็นลูกคนจนคนหนึ่ง
จนแม้กระทั่งไข่ต้มฟองเดียวกินกันพี่น้อง 3 คน
แม้แต่กระทั่ง กินข้าวคลุกน้ำปลา
หลังเลิกเรียนต้องมารับจ้างขุดดิน
เสื้อผ้าหนังสือเรียน ก็ไม่เคยมีของใหม่ รับบริจาคจากผู้ใจบุญ
มุมมองของลูกคนจนอย่างหนึ่ง บางครั้งเรามองไม่เห็นเลยว่าเราจะมีชีวิตต่อไปอย่างไร
ดำเนินชีวิตยังไง หาวันหนึ่งกินวันหนึ่ง เพื่อความอยู่รอด
แต่ในความจนของผมตอนเด็กๆ ผมก็ยังอิจฉาลูกคนจนใกล้ๆ บ้านที่เขาแทบไม่ต้อง
ตื่นเช้ามาจูงควายใส่แอกไปไถนา ก่อนไปโรงเรียน เลิกเรียนต้องมาช่วยเกี่ยวข้าว
ซึ่งเป็นช่วงทรมารที่สุดในชีวิต เพราะเราเฝ้าอิจฉาลูกคนจนอีกคนที่พ่อแม่ไม่บังคับ
อยากให้ลูกสบาย (มองย้อนกลับไปถ้าเราเป็นแบบคนนั้น เราคงไม่มีวันนี้)พอเจอลูกคนรวยยิ่งอิจฉาเขาไปอีก
แต่ด้วยเป็นคนสู้ชีวิตของแม่ผม ท่านยอมลำบากเพื่อแค่ให้ลูกได้เรียน
ท่านทำงานเป็นแม่บ้านที่ต่างประเทศ เป็นเวลา 10 กว่าปี เพื่อที่จะให้ลูกได้เรียนจบปริญญาตรีทั้ง 3 คน ซึ่งผมมองว่า "คนจนบางครั้งเขาไม่ได้คิดอะไรต่างจากคนรวยหรอก"
แต่ความฝัน พื้นฐานสังคม การเรียนรู้ โลกทัศน์ ข่าวสารข้อมูลที่เขาได้รับมันไม่ถูกต้อง
ทัศนะคติจึงไม่ถูกต้อง ดังพี่ leaderinshadow พูดไว้
การที่คนจน จะเปลี่ยนสถานะเป็นคนรวย ได้นั้น

ทัศนคติ เป็นจุดเริ่มต้นครับ
ตามด้วยความคิด กับการพัฒนาตนเอง
และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การลงมือทำ

เพราะการลงมือทำ คือตัวแบ่งแยกระหว่าง คนเพ้อฝัน กับ คนที่มีความมุ่งมั่งอย่างแท้จริง

ถ้าผมไม่ได้เรียนหนังสือ เรื่องพวกนี้ก็เป็นเรื่องห่างไกลครับ อีกอย่างกัลยาณมิตร ที่ดีเป็นอีกแรงหนึ่งที่จะช่วยพลักดันเราครับ
ผมเองก็หวังว่าตัวเองจะพอมีเงินก้อนหนึ่ง ในช่วงชีวิตหนึ่ง เพื่อจะทำอะไรบางอย่างให้กับเด็กน้อยตามชนบท ที่ด้อยโอกาสเหล่านั้น อย่างน้อยก็ทำให้พวกเขาเห็นโอกาสตัวเองขึ้นมาบ้าง ไม่มาก ก็น้อย
เพราะบางทีเงินที่มากไปก็ใช่จะมีความสุข เสมอไป
ไม่ต้องบินให้สูงอย่างใครเข​า…
จงบินเอาเท่าที่เราจะบินไหว
ท่าที่บินไม่จำเป็นต้องเหมื​อนใค­ร
แค่บินไปให้ถึงฝัน เท่านั้นพอ :)
ภาพประจำตัวสมาชิก
chukieat30
Verified User
โพสต์: 3531
ผู้ติดตาม: 0

Re:

โพสต์ที่ 42

โพสต์

leaderinshadow เขียน:
คนจน-คนรวย คิดต่างกันยังไง?
งั้นแก้เป็นแบบนี้ดีกว่า
คนที่กำลังจะรวยขึ้น กับ คนที่จะจนลง คิดต่างกันยังไง?

เราพูดถึงวิธีคิด และ ทัศนคติ เพื่อเป็นข้อเตือนใจกันดีกว่าครับ

อย่ามองว่าเป็นการดูถูก ดูแคลนกันเลย

ผมเองก็อ่านแล้วก็ไม่เห็นรู้สึกอะไร ทั้งๆที่สมัยตอนเรียนมหาลัย
ผมเนี่ยแหละ นักเรียนทุนยากจน ของมหาลัยเลย
จน ถึงขั้นที่ไปขอทุนอะไร ก็ได้ ทั้งทุนยากจนของคณะ และของมหาวิทยาลัย
จนตอนนั้น ผมได้รับตำแหน่ง ยาจกรุ่น ไปครอง  :|

ตอนเรียนมหาลัย คุณแม่ผม ก็ไม่มีเงินส่งเรียน หรือ ส่งค่าขนมให้
ต้องขอทุน + คุณอาช่วย Support
ตอนอยู่มหาลัย ก็ไปเป็น TA ช่วยอาจารย์  + ทำงาน Partime เก็บเงิน
หรือตอนมีกิจกรรมอะไร ก็จะไปช่วยตลอด ไม่ใช่เพื่อหาประสบการณ์นะครับ
แต่เพื่อ เอาข้าวฟรี  :cry:
ตอนนั้น ต้องประหยัดค่าใช้จ่ายทุกอย่างๆจริง

แต่เพราะการลงทุนเนี่ยแหละที่เปลี่ยนชีวิตผมไปอย่างสิ้นเชิง
ผมอาศัยเงินที่เก็บออมสมัยประถม มาลงทุน บวกเงินที่เหลือใส่เข้าไปเรื่อยๆ

พอพอร์ตทะลุหลักล้าน ผมก็ กู้มาร์จิน อัดเข้าไปอีก
ตอนนี้ คิดว่า เงิน 9 หลัก ก็น่าจะได้เห็นก่อนสิ้นปีนี้ (หักหนี้แล้ว)

ผมกล้าพูดเลยว่า ผมเริ่มจากเด็กจนๆ คนนึง จนกระทั่งได้มีเงินล้าน ก็เพราะมีทัศนคติ ต่างจากคนอื่นเนี่ยหละครับ

โดยเฉพาะทัศนคติ ที่เจ้าของกระทู้นำมา โพส
นั้นแหละครับ คือ จุดเปลี่ยนของคนจนๆ คนๆนึง


เยี่ยมครับ

คนจน จนลงเพราะ ไม่ตกผลึก การลงทุน รู้ทีหลัง คิดทีหลัง ไม่มีวิชั่นและความรู้ในธุรกิจ

ไม่เข้าหาคนที่เค้าประสบความสำเร็จ ปิดกั้นความสำเร็จของคนอื่น ดูถูกแนวคิดคนอื่น

คนรวย รวยขึ้นเพราะ ตกผลึกมากขึ้น กิจการอะไรไม่รู้ ก้ไปถามผู้รู้ กิจการที่รู้ก้หมั่นหา

ความรู้ ใช้ชีวิตแบบเต็มที่ (กับของคุณภาพดี ที่อาจจะไม่ต้องแพงและหรู)

หมั่นทบทวนตัวเอง ไม่โทษคนอื่น ค้นหาสไตล์ของตัวเอง

ที่สำคัญ คนรวยจริง ไม่ดูถูกคนอื่น และไม่จำเป็นว่า แต่งตัวธรรมดา ดูเนิสๆ จะไม่รวย

นักลงทุนท่านนึงที่ผมเคารพ และสั่งสอนเรื่องการลงทุน มีพอรท์ระดับ9หลัก โดยไม่เคย

ใช้มาจิ้นท์เล่นสักครั้ง ก้ไม่ได้แต่งตัวหรูฟู่ฟ่า ไม่ได้ดูถูกคนอื่น และ ก้ยังใช้ชีวิตแบบบ้านๆ


จะรวยหรือจะจน มันขึ้นกับการตกผลึกและมุมมองในแนวคิดการลงทุน
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ

หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
Financeseed
Verified User
โพสต์: 1304
ผู้ติดตาม: 0

Re:

โพสต์ที่ 43

โพสต์

leaderinshadow เขียน:การที่คนจน จะเปลี่ยนสถานะเป็นคนรวย ได้นั้น

ทัศนคติ เป็นจุดเริ่มต้นครับ
ตามด้วยความคิด กับการพัฒนาตนเอง
และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การลงมือทำ

เพราะการลงมือทำ คือตัวแบ่งแยกระหว่าง คนเพ้อฝัน กับ คนที่มีความมุ่งมั่งอย่างแท้จริง

เงื่อนไขสุดท้าย คือ เวลา และ ความอดทนครับ
ต้องอดทน และมีความแน่วแน่ ต่อเป้าหมายที่ตั้งใจไว้

ไม่ท้อ หรือ หยุด ระหว่างทาง
เพราะถ้าหยุด หรือไม่พยายามต่อไป ก็ไปไม่ฝั่งฝันนะครับ ..
ชอบครับ :D
มองวิกฤต หาโอกาส
http://link-seed.blogspot.com/
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: คนจน-คนรวย คิดต่างกันยังไง?

โพสต์ที่ 44

โพสต์

เอาชนะตัวเอง
ภาพประจำตัวสมาชิก
picatos
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3227
ผู้ติดตาม: 4

Re: คนจน-คนรวย คิดต่างกันยังไง?

โพสต์ที่ 45

โพสต์

...
"อาตมามีคำถามที่ถามตัวเองว่า ใครกันที่รวยที่สุด ต้องบอกเลยว่าพระ ทำไมพระจึงรวยที่สุด เพราะภาชนะของพระมันเล็ก มันจึงเต็มตลอดเวลา มันเต็มด้วยปัจจัยสี่พื้นฐาน มันจึงรวยและเต็มตลอด ขณะที่ฆราวาส ใส่ไม่เคยพอ พอใส่ไม่เคยพอ มันจึงไม่เคยเต็ม คุณจะรวยพันล้าน แสนล้าน คุณก็มีแค่สิบเปอร์เซ็นต์เอง แต่ของเขามันเต็มตลอด พระจึงเป็นโครงสร้างที่มหัศจรรย์มากในพระพุทธศาสนา"...

เห็นหัวข้อกระทู้ แล้วคิดถึงบทสัมภาษณ์นี้ในกรุงเทพธุรกิจ ชื่อบทความว่า ดับไฟด้วยสติ บทสัมภาษณ์ พระพุทธา ฐิตโพธิ ซึ่งสอดคล้องกับพระพุทธพจน์ว่า

อโรคยา ปรมา ลาภา ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ
สันตุฏฐี ปรมัง ธนัง ความสันโดษ(พอใจ) เป็นทรัพย์อย่างยิ่ง
วิสาสา ปรมา ญาตี ความคุ้นเคยเป็นญาติอย่างยิ่ง
นิพพานัง ปรมัง สุขัง นิพพาน(ความสงบเย็น)เป็นสุขอย่างยิ่ง


รวย/จน แค่เปลี่ยนทัศนคติได้ในชั่วพริบตาเดียว จากจนจะกลายเป็นรวยอย่างยิ่งในทันที
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
Montri M.
Verified User
โพสต์: 105
ผู้ติดตาม: 0

Re: คนจน-คนรวย คิดต่างกันยังไง?

โพสต์ที่ 46

โพสต์

Credit by ศิษย์ซุนวู Pantip.com
ไขสูตรลับ... เศรษฐี : ชีวิต_ฅนละขั้ว... Rich_Dad , Poor_Dad
Http:// MLMMyBiz.WordPress.Com
สรุป เนื้อหา พ่อรวยสอนลูก (Rich Dad Poor Dad) โดย Robert Kiyosaki #1
พ่อแท้ๆ ของผู้เขียน มีตำแหน่งเป็น อธิบดีกรมการศึกษาของรัฐ_ฮาวาย ในหนังสือผู้เขียนเรียกว่า Poor Dad , ผู้เขียน
มีเพื่อนที่สนิทมาก ตั้งแต่เด็กๆ ชื่อ ไมค์ & พ่อของไมค์เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในกิจการหลายๆ อย่าง จนมีอาณา
จักรที่ใหญ่โต ในหนังสือผู้เขียนเรียกว่า Rich Dad

ตอนที่1 พ่อรวย – พ่อจนๆ
พ่อทั้ง2 ของผู้เขียน ต่างก็เป็นคนดี + มีผู้เคารพนับถือมาก แต่มีคำสอนเรื่องการดำรงชีวิตที่แตกต่างกัน… สุดขั้ว , ผู้ -
เขียน ได้รับฟังคำสอนที่แตกต่างกันทั้ง 2ด้าน ตั้งแต่อายุ 9ขวบ ทำให้ผู้เขียนต้องรู้จักวิเคราะห์พิจารณาในคำสอน ตั้งแต่เด็ก

พ่อรวย : การขาดเงิน เป็นบ่อเกิดแห่งความชั่วร้าย VS พ่อจนๆ : ความรักเงิน เป็นบ่อเกิดแห่งความชั่วร้าย
พ่อรวย : ภาษีทำโทษคนขยัน ให้รางวัลคนขี้เกียจ VS พ่อจนๆ : คนรวยควรเสียภาษีมากๆ เพื่อช่วยคนจน
พ่อรวย : เรียนมากๆ จะได้ซื้อบริษัทที่มั่นคง VS พ่อจนๆ : เรียนมากๆ จะได้ทำงานกับบริษัทที่มั่นคง
พ่อรวย : พ่อต้องรวย เพราะพ่อมีลูก VS พ่อจนๆ : พ่อไม่รวย เพราะพ่อมีลูก
พ่อรวย : ต้องรู้จักวิธีจัดการกับ... ความเสี่ยง VS พ่อจนๆ : เรื่องเงินทองต้อง ปลอดภัยไว้ก่อน
พ่อรวย : บ้าน เป็นหนี้สินที่ใหญ่ที่สุด & ไม่ใช่การลงทุน VS พ่อจนๆ : บ้าน เป็นการลงทุน & ทรัพย์สินที่ใหญ่สุด


พ่อรวย : ชำระหนี้เป็นอันดับ… สุดท้าย VS พ่อจนๆ : ชำระหนี้เป็น… อันดับแรก
พ่อรวย : ใช้ทุกบาททุกสตางค์ เพื่อการลงทุน VS พ่อจนๆ : ประหยัดทุกบาททุกสตางค์ เพื่อสะสม
พ่อรวย : สอนวิธีเขียนแผนธุรกิจอย่างไร จึงจะสร้างงาน VS พ่อจนๆ : สอนวิธีเขียนประวัติส่วนตัว? จึงได้ งานทำ
พ่อรวย : คนรวย เขาไม่ทำกันอย่างนั้นหรอก VS พ่อจนๆ : ชาตินี้ ไม่มีวันรวยแน่
พ่อรวย : เงิน คืออำนาจ VS พ่อจนๆ : เงิน ไม่ใช่สิ่งสำคัญ
พ่อรวย : เรียน เพื่อรู้วิธีใช้เงินทำงานให้เรา VS พ่อจนๆ : เรียน เพื่อทำงานให้ได้เงินเดือนสูงๆ
พ่อรวย : เงิน ทำงานให้พ่อ VS พ่อจนๆ : พ่อ ไม่ทำงานเพื่อเงิน

ตอนที่2 บทเรียนที่ 1 : คนรวย ไม่ทำงาน เพื่อ… เงิน
ผู้เขียนได้รู้จักกับ พ่อของไมค์ & ขอร้องให้สอน… วิธีหาเงิน
“ อย่าให้อารมณ์เป็นตัวกำหนดการกระทำ รับรู้ความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้ แต่ต้องใช้สมองกำหนดการกระทำ “
“ ถ้าเธออยากทำงานเพื่อเงิน เธอไปเรียนเอาที่โรงเรียน แต่ถ้าอยากเรียนวิธีใช้เงินทำงานให้เรา ฉันจะสอน “
“ การเรียนรู้วิธีใช้เงินทำงาน เป็นวิชาที่ต้องเรียนกันชั่วชีวิต “ , “ การขาดเงินนั้น แย่พอๆ กับการผูกติดกับเงินนั่นแหละ “

“ ต้องหางานทำให้ได้ ”
“ ฉันจะสอนให้เธอเป็นนาย ไม่ใช่เป็นทาสของเงิน ”
“ ที่สุดแล้วเราทุกคนเป็นลูกจ้าง แต่ในระดับที่แตกต่างกัน “
“ ถ้าเราควบคุมความต้องการได้ เราจะมีเวลาคิดไตร่ตรองมากขึ้น “
“ ความเขลาไม่ใส่ใจเรื่องเงิน ทำให้เกิดความกลัวและความโลภ “
“ ฉันอยากให้เธอหลีกเลี่ยงกับดัก ซึ่งถูกสร้างขึ้นด้วยความกลัวและความโลภ “
“ หลายคนตั้งตารอวันเงินเดือนออก รอวันเงินเดือนขึ้น เพราะความกลัวและความต้องการ “
“ เราควรมีชีวิตอยู่ด้วยความหวัง ความฝันและความสุข ไม่ใช่นอนก่ายหน้าผากกังวลว่าจะมีเงินให้ใช้ครบเดือนหรือไม่ “
“ จำไว้ว่าการได้งานทำคือการแก้ปัญหาระยะสั้น ทุกคนคิดแค่วันเงินเดือนออก ปล่อยให้เงินมีอำนาจเหนือชีวิต พวกเขา
จึงมีลักษณะคล้ายกันคือตื่นแต่เช้าไปทำ งาน ไม่เคยหยุดคิดเลยว่า ‘มีวิธีอื่นที่ดีกว่ามั้ย’ “

ความคิด ที่มาจาก… อารมย์ : ที่ได้ยินบ่อยๆ
“ คนรวยขี้โกง “ , “ ทุกคนต้องทำงาน “ , “ ฉันชอบงานนี้เพราะมั่นคง “ , ผมควรจะได้ขึ้นเงินเดือน มิฉะนั้น จะลาออก
ความคิด ที่ใช้… สมอง :
“ ฉันมองข้ามอะไรไปหรือเปล่า “

ตอนที่3 บทเรียนที่2 : ทำไม ต้องรู้เรื่อง… เงินๆ ทองๆ
“ การมีเงินมากๆ นั้น ไม่สำคัญเท่ากับ การรู้จักวิธีรักษาเงินให้อยู่กับเรา… ตลอดไป “
“ พ่อจนจะเน้นให้อ่านมากๆ พ่อรวย จะบอกให้เรียน… เรื่องเงิน “
* กฏข้อที่1 ต้องรู้ว่า อะไรคือ… ทรัพย์สิน VS อะไรคือ… หนี้สิน *
“ ทรัพย์สินคือเงิน… ใส่กระเป๋า หนี้สินคือเงิน… ออกจากกระเป๋า “
“ ถ้าอยากรวย ต้องอ่านให้เข้าใจตัวเลข & คำอธิบาย… เบื้องหลัง นั้น “
“ คนรวยเพิ่มทรัพย์สิน VS คนชั้นกลางเพิ่มหนี้สิน โดยเข้าใจว่า เป็นทรัพย์สิน “

การหมุนเวียนของ กระแสเงินสดๆ ของ… คนรวย
รายได้ = ดอกเบี้ย , เงินปันผล , ค่าเช่า , ค่าลิขสิทธิ์ , ... VS รายจ่าย = ......
ทรัพย์สิน = หุ้น , ตั๋วสัญญาใช้เงิน , พันธบัตร , อสังหาฯ , ทรัพย์สินทางปัญญา , ... VS หนี้สิน = ......

พ่อของไมค์ ไม่ใช่... นักวิชาการ แต่ความรู้เรื่อง... การเงิน ทำให้เขาเป็น นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
“ คนที่ฉลาด ต้องรู้จักจ้าง คนที่ฉลาดกว่า มาเป็น... ลูกจ้าง “
โรงเรียนมีไว้ ผลิตลูกจ้างที่ดี ไม่ได้มีไว้ ผลิตนายจ้าง , พ่อจนๆ ว่า บ้านเป็นทรัพย์สิน VS พ่อรวย ว่า บ้านเป็นหนี้สิน
เครื่องวัดฐานะ… ทางการเงิน คือ ถ้าเราหยุดทำงานวันนี้ เราจะมีเงินประทังชีวิตต่อไป อีกนานเท่าใด?
เป้าหมายชีวิตของผม คือ การมีอิสระจาก… ภาระทางการเงิน ทั้งปวง
สมมติว่า ผมมีทรัพย์สิน ที่ทำเงินเดือนละ 2,000 & ค่าใช้จ่ายเดือนละ 2,000
>>> ผมสามารถอยู่ได้ โดยไม่ต้องพึ่ง… เงินเดือน 30วัน
* ขั้นต่อไป คือ การนำรายได้จากทรัพย์สิน กลับไปลงทุนใน… ช่องหนี้สิน เพื่อขยายขนาด… ช่องทรัพย์สิน ให้โตขึ้น

ตอนที่4 บทเรียนที่3 : เพิ่ม ทรัพย์สิน – ทำธุรกิจ ของ ตนเอง
เรย์ คร๊อก ผู้ก่อตั้งร้าน Mc Donald เล่าให้นักศึกษา ป.โท คณะบริหารธุรกิจ ม.ออสติน ว่า ตามแผนธุรกิจแล้วเขาขาย
Franchise ของ Mc. แต่มีเงื่อนไขที่ระบุถึง ทำเลที่เหมาะสมด้วย ดังนั้นคนที่ซื้อ Franchise ไป จะต้องซื้อทำเลทอง ด้วย
นั่นคือ เรย์ ทำธุรกิจอสังหาฯ นั่นเอง
ถ้าไม่เอารายได้ มาซื้อทรัพย์สิน คุณก็จะยังคง ไม่มีความมั่นคงทางการเงิน อยู่ต่อไป
รากฐานของคนชั้นกลาง คือ ไม่… กล้าเสี่ยง >> ทำให้ยึดติดอยู่กับเงินเดือน & งานที่ทำอย่างเหนียวแน่น เพราะที่
นั่นเขารู้สึกว่า ‘ปลอดภัย’
หลายคน ไม่เคยคิดถึง ข้อแตกต่างระหว่าง ‘อาชีพ’ & ‘ธุรกิจ’ , คำถาม ‘คุณทำธุรกิจอะไร’ ‘คุณทำอาชีพอะไร’

ทรัพย์สิน ที่ผม แนะนำให้คุณสนใจ ไขว่คว้า & สอนลูกหลาน ให้รู้จัก ดังนี้ :-
1. ธุรกิจที่ผมไม่ต้องนั่งเฝ้า เป็นเจ้าของแต่มีคนมาจัดการให้ดำเนินกิจการไปได้
2. หุ้น , 3. พันธบัตร , 4. กองทุนรวม , 5. อสังหาฯ , 6. ตั๋วเงิน ,
7. ค่าลิขสิทธิ์จากเพลง จากงานแต่งหนังสือ จากงานแปล จากสิทธิบัตรต่างๆ
8. สิ่งอื่นที่มีมูลค่า สามารถสร้างรายได้ หรือ เพิ่มมูลค่า ด้วยตัวมันเอง

ผมแนะนำให้คุณทำงานประจำไป แล้วค่อยๆ สร้างธุรกิจด้วยการลงทุนในทรัพย์สินที่สร้างรายได้ ทุกบาท_ทุกสตางค์ที่
ใส่ลงใน… ช่องทรัพย์สิน จงอย่าให้… ไหลออกมา ให้เงินนั้น ทำงานให้คุณ
จงมุ่งมั่นทำงานประจำให้เต็มที่ พร้อมๆ กับสร้าง… ช่องทรัพย์สินของคุณ ให้ใหญ่โตขึ้น
คนรวยซื้อความสบายทีหลัง VS แต่ๆๆ คนชั้นกลาง มักซื้อความสบายก่อน
คนรวยจะสร้าง… ช่องทรัพย์สิน ให้ใหญ่โตพอที่จะ… สร้างรายได้ กลับคืนมา จึงนำรายได้นั้น ไปซื้อความสบาย อีกที

สรุป เนื้อหา พ่อรวยสอนลูก(Rich Dad Poor Dad) โดย Robert Kiyosaki #2

ตอนที่5 บทเรียนที่4 : ภาษี & ประโยชน์ ของ… นิติบุคคล
บริษัทเสียภาษีในอัตราที่ ต่ำกว่า… บุคคลธรรมดา แล้วรายจ่ายบางอย่างได้รับการ… ยกเว้นภาษี ด้วย
ทุกครั้ง ที่ผมจัดสัมมนาเพื่อถ่ายทอดความรู้ จะกล่าวถึงหลักสำคัญของไหวพริบ_ทางการเงิน 4อย่าง ดังนี้
1. ความรู้ทางบัญชี – อ่าน งบการเงิน… ให้เป็น
2. ความรู้เกี่ยวกับการลงทุน – ศิลปะของการใช้… เงิน_ทำงาน
3. ความเข้าใจตลาด – อุปสงค์ & อุปทาน ในตลาด
4. ความรู้เรื่องกฎหมาย

คนรวยที่มีบริษัท มักทำดังนี้ >> 1) รายได้ –> 2) รายจ่าย –> 3) เสียภาษี
ส่วนลูกจ้างของบริษัท มักทำดังนี้ >> 1) รายได้ –> 2) เสียภาษี –> 3) รายจ่าย

ตอนที่6 บทเรียนที่-5 : วิธีทำเงิน ของ… คนรวย
ถ้าจะเก่งเรื่องเงิน คุณต้อง มีทั้งความรู้ & ความกล้า
ในชีวิตจริง คนกล้า มักจะประสบความสำเร็จ ไม่ใช่คนที่มีแต่ความฉลาด !!!
ถ้าคุณมีความรู้ เรื่อง... เงิน คุณก็มีโอกาสจะเจริญ ไปอีกไกล แต่ๆๆ ถ้าคุณไม่รู้ โลกนี้จะเป็นโลกที่น่ากลัวสำหรับคุณ
เมื่อ 300ปีก่อน เจ้าของที่ดินคือ เจ้าของขุมทรัพย์ , ต่อมาเปลี่ยนเป็น เจ้าของโรงงาน & การผลิต , ในปัจจุบัน เป็นยุค
ของการสื่อสารข้อมูล_ไร้พรมแดน ใครมึขอมูลมากที่สุด &ทันสมัยที่สุด คือ เจ้าของขุมทรัพย์
เกมส์_กระแสเงินสดๆ ช่วยให้ผู้เล่นรู้จักวิเคราะห์ทางเลือก เช่น ถ้าหยิบได้เรือ หมายถึง คุณต้องมีหนี้สินเพิ่มขึ้น จาก -
การซื้อเรือนั้นมา คำถมคือ ‘แล้วคุณจะทำอย่างไร’
ผมดูคนเล่นเกมส์ มากว่า 1,000คน ส่วนมากคนที่ออกจาก ‘สนามแข่งหนู’ ได้สำเร็จ & เร็วที่สุด คือ คนที่มีพื้นฐาน -
ความเข้าใจเรื่องตัวเลข & มีความคิดสร้างสรรค์ เขาสามารถมองเห็น ตัวเลือกต่างๆ ได้ในทันที

เงินเล็กน้อย ย่อมกลายเป็น… เงินก้อนใหญ่ได้ ถ้าคุณมีไหวพริบ_ทางการเงิน ซึ่ง ไหวพริบฯ ประกอบด้วย ทักษะ 4
ข้อใหญ่ๆ ดังนี้ :-
1] ความเข้าใจ & ความสามารถในการอ่านตัวเลข
2] กลยุทธ์ในการลงทุน – ศิลปะในการใช้เงินทำงาน
3] การตลาด – อุปสงค์ & อุปทาน
4] กฎหมาย & กฎเกณฑ์ – ความรู้ความเข้าใจเรื่องกฎระเบียบทางบัญชี
อย่าลืมเอากฎหมายเรื่อง… ภาษี มาใช้ให้มากที่สุด
มีนักลงทุนอยู่ 2ประเภท พวกแรกชอบลงทุนแบบตรงไป)ตรงมา , อีกพวกชอบพลิกแพลง… สร้างสรรค์
กว่าจะเป็นนักลงทุนประเภทชอบ… สร้างสรรค์ ได้ จะต้องหมั่นฝึกฝน นานวัน ด้วยทักษะต่างๆ ดังนี้
1] ทำอย่างไร จงจะมองเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น
2] ทำอย่างไร จึงจะได้เงินมาทำทุนโดยไม่ต้องกู้ธนาคาร
3] ทำอย่างไร จึงจะได้คนฉลาดมาเป็นลูกจ้าง

ตอนที่7 บทเรียนที่6 : ทำงาน เพื่อ... เรียนรู้ – อย่าๆๆ ทำงาน เพื่อ… เงิน
ผมอยากแนะนำให้คุณทำงาน เพื่อ… ประสบการณ์ & การเรียนรู้ ที่คุณจะได้รับ มากกว่า เพื่อผลฯที่เป็น… ตัวเงิน
& ให้มองไปข้างหน้าว่า คุณยังขาดทักษะด้านใด แล้วเสาะแสวงหา เพิ่มเติม
สำหรับคนที่ลังเลใจว่า จะออกแรงแสวงหาทักษะใหม่ๆ ดีหรือไม่? ผมอยากให้คิดถึงเวลาที่คุณไปออกกำลังกาย
ตอนที่ยากที่สุด คือ การตัดสินใจว่า ‘จะไปดีหรือไม่?’ ถ้าผ่านจุดนี้ไปได้แล้ว ที่เหลือสบายมาก ระหว่างออกกำลังกาย
คุณจะรู้สึกมีความสุข มีความภูมิใจในตัวเอง & เมื่อออกกำลังกายเสร็จ คุณจะรูสึกดีใจที่ได้… ตัดสินใจถูกต้อง

ตอนที่8 ฟันฝ่า… อุปสรรค์
แม้ว่า จะมีความรู้ & ไหวพริบทางการเงิน แต่บางคนก็ยัง ไม่ประสบความสำเร็จ + ไม่สามารถทำให้.. ช่องทรัพย์สิน
โตขึ้น เพื่อเพิ่มกระแสเงินสดๆ ให้มากพอได้ สาเหตุส่วนใหญ่มาจาก :-
1] ความกลัว , 2] ความคิดด้านลบ(-) , 3] ความขี้เกียจ , 4] นิสัย & 5] ความหยิ่งทะนงตน

สาเหตุข้อที่1 : ต้องเอาชนะความกลัว ว่าจะต้อง… เสียเงิน
ถ้ามีเงินน้อย แต่อยากรวย สิ่งที่คุณต้องทำคือ ‘Focus’
สาเหตุข้อที่2 : ขจัดความคิด ด้านลบ (-)
ความกลัวโดยไม่มีเหตุผล ทำให้เรากลายเป็นคนที่มองเห็นแต่… ข้อเสีย

สาเหตุข้อที่3 : ความขี้เกียจ
พ่อรวย สอนให้พูดว่า ‘ทำอย่างไรจึงจะซื้อได้’ ห้ามๆๆ พูดว่า ‘ไม่มีปัญญาซื้อ’
คำว่า ‘ไม่มีปัญญา’ จะก่อให้เกิด ความรู้สึก… เศร้าหมอง
คำว่า ‘ทำอย่างไร’ สร้างความกระตือรือร้น , ความตื่นเต้น ต้องคิด เพื่อหา… คำตอบ
หากปราศจาก… กิเลศ ขาดความต้องการที่จะสร้างชีวิตให้ดีขึ้น โลกจะพัฒนาได้อย่างไร?
คราวนี้ เมื่อใดที่คุณพบว่า ตนเองกำลังหลีกเลี่ยงสิ่งที่ควรกระทำ ก็ให้ถามตัวเองว่า ‘แล้วเราจะได้อะไร จากการกระทำ
นี้บ้าง’ เติมความอยากลงไป… สักนิด จะได้ขจัดเอาความขี้เกียจออกไป จากตัวคุณ ได้

สาเหตุข้อที่4 อุปนิสัย
พ่อจนๆ มักจ่ายเงินให้คนอื่นก่อน เหลือเท่าไรจึงให้ตัวเอง
พ่อรวย สอนว่า ควรจ่ายให้ตัวเองก่อน ทีนี้ก็จะมีความกดดันที่จะต้องหาเงินมาจ่ายภาษี & เจ้าหนี้ทั้งหลาย ให้ได้
ความกดดันนี้ จะทำให้คุณคิดหาแหล่งรายได้เพิ่มขึ้น & ทำทุกวิถีทาง ที่จะไม่ให้ เจ้าหนี้มาโวยวาย ใส่หน้าคุณ ได้
ถ้าจ่ายให้ตัวเองหลังสุด ไม่มีความกดดัน ก็จริง แต่จะไม่มีอะไรเหลือเลย

สาเหตุข้อที่5 : ความหยิ่ง_ทะนงตน
ความรู้ทำให้ได้เงิน ความไม่รู้ทำให้เสียเงิน , ขวนขวาย หาความรู้จากหนังสือ หรือ จากผู้มีประสบการณ์ในเรื่องนั้นๆ

ตอนที่9 เริ่มต้น... อย่างไรดี บัญญัติ 10ประการ ที่จะช่วยให้คุณ… มีพลัง
1] พลังใจ: เพื่อจะเอาชนะ… ความจริง ที่ขวางหน้า
หลายคนอยากรวย แต่เมื่อหันมามองความจริง_เขากลับท้อแท้ & คิดว่า คงเป็นไปไม่ได้ เป็นลูกจ้างไปวันๆ ง่ายกว่า
ถ้าพลังความอยากของคุณ ยังไม่แรงกล้าพอ หนทางแห่งความเป็นจริง ก็ยังอีกยาวไกล
ถ้าคุณขาดพลัง + ขาดความมุ่งมั่น อะไรๆ ในชีวิต ก็กลายเป็นเรื่องยากไปหมด

2] เสรีภาพในการเลือก
เมื่อมีเงินอยู่ในมือ คุณมีสิทธิ์ที่จะเลือกอนาคตของคุณว่า จะเป็นคนรวย , ชั้นกลาง หรือ คนจน
นิสัยการใช้เงิน สะท้อนให้เห็นตัวตนของเรา คนจนใช้เงินอย่าง… ไม่ฉลาด
หลายครอบครัวสูญเสียทรัพย์สิน เมื่อตกมาถึง… รุ่นลูก เพราะไม่เคยสอนให้ลูกหลาน รู้จักวิธีดูแลรักษา
คนจำนวนมาก เลือกที่จะ… ไม่รวย ส่วนใหญ่คิดว่า กว่าจะรวยเป็นเรื่องยุ่งยากเกินไป สำหรับเขา

มักชอบพูดว่า ‘ฉันไม่สนเรื่องเงินๆ ทองๆ หรอก’ ‘ไม่เห็นอยากรวยเลย’ ‘จะคิดให้ปวดหัวทำไม อายุยังน้อยแค่นี้’
‘ผมให้แฟนดูแลเรื่องเงิน ผมไม่ยุ่งหรอกครับ’
คำพูดเหล่านั้น ทำให้คุณสูญเสียประโยชน์ 2อย่าง คือ เวลา & การเรียนรู้
คุณมีสิทธิ์เลือกใช้เวลา , ใช้เงิน & ใช้สมอง อย่างไรก็ได้ , ไม่มีเงิน ใช่ว่า คุณจะต้องหยุด การแสวงหาความรู้
คนที่คิดว่า ตนเองฉลาดแล้ว + เก่งแล้ว มองอีกมุมหนึ่งคือ คนที่ไม่กล้าเสี่ยง กลัว… ความผิดพลาด
คนฉลาดที่แท้จริง มักชอบฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ด้วยใจที่… เปิดกว้าง พร้อมที่จะนำความคิดจากหลายๆ ด้าน มา
วิเคราะห์ประกอบเป็นความคิดใหม่ๆ ที่มีประโยชน์

3] เลือกคบเพื่อนด้วยความระมัดระวัง
เพื่อนที่เป็นกลุ่มคนมีเงิน มักคุยแต่ เรื่องเงินๆ ทองๆ , เรื่องการลงทุน , เรื่องเศรษฐกิจ
ในกรณีที่คุณเล่นหุ้น บางครั้งก็จะมีข้อมูลวงในจากการพูดคุยกับเพื่อนกลุ่มนี้
ในธุรกิจที่ประสบผลสำเร็จ หลักสำคัญที่ต้องจำไว้คือ คุณต้องมีความมั่นใจในตนเอง โดยไม่โอนอ่อนผ่อนตาม เสียง-
ข้างมาก กว่าจะเป็นข่าวหน้าหนึ่ง คนอื่นก็เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ไปจน หมดแล้ว

4] สร้างสูตรและเรียนสูตรใหม่ๆ: ประโยชน์จากการเรีนยให้เร็วที่สุด
สูตรเดียวที่สอนเกี่ยวกับ… เรื่องเงิน ในโรงเรียน คือ ‘ทำงานเพื่อเงิน’
ในสังคม ปัจจุบัน ความได้เปรียบไม่ได้อยู่ที่คุณรู้อะไร แต่ๆๆ อยู่ที่คุณเรียนรู้สูตรใหม่ๆ ได้เร็วแค่ไหน

สรุป เนื้อหา เงิน… 4ด้าน Cashflow Quadrant โดย Robert Kiyosaki

เคยสงสัยไหมครับว่า ทำไมคนบางคนถึงรวยขึ้น & มีเวลามากขึ้น ในการที่จะทำสิ่งที่ตัวเองชอบ , สิ่งที่ตัวเองรัก หรือ
มีเวลาให้ครอบครัวมากขึ้น ในขณะที่บางคนอาจมีฐานะดีขึ้น แต่ต้อง ทำงานหนัก หามรุ่ง_หามค่ำ , เครียด & ไม่มีความสุข
แย่ยิ่งกว่านั้น คนบางคนทำงานหนักชั่วชีวิต & จบลงด้วยหนี้สิน… รุงรัง , ทำไมบางคนตกอยู่ในสภาพ เช่นนั้น & จะหลุด -
จากสภาพนั้นได้อย่างไร

คำว่า เงิน 4ด้าน หมายถึง ที่มาของ… รายได้ ของคน 4ประเภท ได้แก่
1) E (Employee) - ลูกจ้าง , 2) S (Self-employed) - ธุรกิจส่วนตัว
3) B (Business Owner) - เจ้าของกิจการ , 4) I (Investor) - นักลงทุน

ถ้าเราเขียนกากบาท ลงเพื่อแบ่งคนทั้ง4 ออก ก็จะแบ่งคน ทั้ง4 ออกเป็นดังนี้ คือ “คนด้านซ้าย” ได้แก่ พวก E กับ S
และ “คนด้านขวา” ได้แก่ พวก B กับ I
ค่านิยม , นิสัย & ความคิด ของคนด้านซ้าย ทำไมจึงแตกต่างจาก... คนด้านขวา & ท้ายสุด จะบอกวิธีการที่จะสอน
ให้เราก้าวข้ามจากการเป็นคนด้านซ้าย ไปสู่… คนด้านขวา & สำหรับคนที่อยู่ด้านขวาอยู่แล้ว คุณจะรู้ว่า คนด้านขวา ก็มีอีก -
หลายระดับ วิธีคิดของคนด้านซ้ายต่างจาก… คนด้านขวา อย่างไร นิทานเรื่องหนึ่งในหนังสือเล่มนี้จะอธิบายเรื่องนี้ได้ เป็น -
อย่างดี

Ex.1 ตัวอย่างรูปธรรม ที่ให้คติ & สนุกควบคู่กันไปคือ เรื่องในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง เป็นหมู่บ้าน จะขาดน้ำ_หากฝนไม่ตก
กก.หมู่บ้าน จึงประกาศหาคนรับจ้างขนส่งน้ำ มาให้คนในหมู่บ้านใช้ , ชายหนุ่ม 2คน เสนอตัวรับทำงานนี้ กก. ตกลงทำ -
สัญญากับชายทั้ง2 โดยหวังว่า เขา 2คน จะได้แข่งขันกัน… ทำงาน & รักษาราคา

1.1 เอ็ด… ชายคนแรก รีบวิ่งไปซี้อกระป๋องตักน้ำมา 2ใบ แล้วเริ่มตักน้ำจากลำธารมาใส่ถังคอนกรีต ให้คนในหมู่บ้าน -
ไว้ใช้ในทันที ทุกๆ เช้า เขาจะรีบตื่นก่อนคนอื่นๆ เพื่อดูแลให้มีน้ำในถังเพียงพอ สำหรับ คนในหมู่บ้าน
1.2 บิล... อีกคน ที่ได้รับงานนี้ หายตัวไปเป็นเดือน ปล่อยให้เอ็ด_ดีใจ ในช่วงแรก เขาไปเตรียมเขียนแผนธุรกิจ จัดตั้ง -
บริษัทหาผู้ร่วมทุน จ้างผจก. & กลับมาพร้อมTeam_งานก่อสร้าง ใน 6เดือนต่อมา & ใช้เวลา 1ปี สร้างท่อน้ำ Stainless -
ขนาดใหญ่ เชื่อมต่อระหว่างลำธารเข้าหมู่บ้าน , ในงานวันเปิด ท่อขนส่งน้ำ บิล ประกาศว่า น้ำของเขาสะอาดกว่าน้ำของเอ็ด
& สามารถทำให้ทุกคน มีน้ำใช้ตลอด 24ชม. & ทุกๆ วัน

สุดท้าย บิล ประกาศว่า เขาจะเก็บค่าน้ำถูกกว่า… เอ็ด 75% โดยที่ทุกคนจะได้น้ำ… คุณภาพดีกว่า สิ้นเสียง.. บิล -
ทุกคนปรี่กันเข้าไป ที่ก็อกน้ำจาก ท่อที่ บิลสร้าง
มากกว่านั้น บิล ปรับปรุงแผนธุรกิจเพื่อนำน้ำ มากด้วยคุณภาพ , ปริมาณ , สะอาด แต่ราคาย่อมเยา ไปเสนอให้แก่
หมู่บ้านอื่น เขาคิดเงิน แค่ถังละ Penny เดียว
น้ำไหลจากลำธาร สู่… แต่ละครัวเรือน ทุกวี่_ทุกวัน โดยที่ บิล ไม่ต้องไปทำงานเลย แต่เงินก็ไหลเข้าบัญชีของเขา
อย่างสม่ำเสมอ ขณะที่ เอ็ด_ต้องทำงานหนักต่อมาตลอดชีวิต พร้อมปัญหาการเงินที่… อยู่คู่กับเขา จนวาระสุดท้าย

แล้วคุณเคยถามตัวเองหรือไม่ว่า… กำลังสร้างท่อ หรือ ลากถัง? อ่านเรื่องนี้แล้วบอกว่า รู้สึก… ตื่นขึ้น & เข้าใจว่า
ตัวเองนั้นไม่ต่างกับ “หนู_ถีบจักร” อยู่ & กำลังพยายาม นำตัวออกมาจาก สภาพนั้น
- จงใช้ชีวิตในแต่ละวันของคุณ ดุจดังว่ามันเป็นวันสุดท้ายของชีวิต
- อย่าเสียเวลาเพื่อเติมเต็มชีวิตผู้อื่น อย่าติดกับดักของกฎเกณฑ์ที่ไม่มีข้อพิสูจน์ ซึ่งขึ้นอยู่กับผลของความคิดของคนอื่น
- จงกล้าที่จะทำตามหัวใจและสัญชาติญาณของคุณ

สตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs)
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: คนจน-คนรวย คิดต่างกันยังไง?

โพสต์ที่ 47

โพสต์

เห็นข้างบน signature
อันนี้แจ่มที่สุดตั้งแต่อ่านมาครับ

-จงใช้ชีวิตในแต่ละวันของคุณ ดุจดังว่ามันเป็นวันสุดท้ายของชีวิต
- อย่าเสียเวลาเพื่อเติมเต็มชีวิตผู้อื่น อย่าติดกับดักของกฎเกณฑ์ที่ไม่มีข้อพิสูจน์ ซึ่งขึ้นอยู่กับผลของความคิดของคนอื่น
- จงกล้าที่จะทำตามหัวใจและสัญชาติญาณของคุณ

สตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs)