ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี
โพสต์ที่ 1
สวัสดีชาวไอวี ทุกท่านครับ
เห็นมีหลายท่านครับ ก็สำหรับชางวีไอที่สนใจเรื่องการ invert นะครับ
Invert ก็สั้นง่ายๆว่า IV นะครับ ไม่ต้องเขียนให้ยาว
ครับ......
ช่วงบ่ายๆ ผมปิดร้านขายหมูทอดพันโล
มานั่งคิดว่าจะป้อนข้อมูลบันทึกอะไรบ้างในกระทู้
ประสบการณ์ไอวี มีตลอดทั้งวันละครับ
อย่างที่ร้าน
ร้านนี้เปิดแปดโมงเช้า ประมาณ เที่ยงกว่า ก็ขายหมดแล้วครับ
เด็กในร้านถามผมว่า ทำไมไม่ลงหมูเพิ่มกว่านี้
ผมตอบว่า ขายทำไมให้มาก ยิ่งขายมาก ผมยิ่งขาดทุน
ตอบประมาณนั้น ไม่ทราบว่าเข้าใจไหม
ผมขายข้าว + หมูทอด + ไข่เป็ดต้ม+ผักสด = เพียง 25 เท่านั้นเองครับ
"ยิ่งขายมาก ยิ่งขาดทุนซิครับ"
ผมตอบไปอย่างนั้น คนมากินน้อยๆ ผมกลับดีใจ
แต่ยิ่งยากให้กินกันน้อย คนกลับมากินกันเยอะขึ้น
นั่นละเคล้ดลับของผมครับ
ผมไม่บอกหมดว่า ผม invert ทุกอย่างจนเคยชินและยากกว่าที่คนอื่นจะเข้าใจได้
สำหรับผมแล้ว ยากให้ขาดทุน แต่กลับกำไร
สำหรับคนอื่นแล้ว ยิ่งยากกำไร แต่ต้องขาดทุน
สองสามปีนี้ หลักการ VI นั้นหลายบริษัทใช้การ invert ทำตัวเองให้เป็นบริษัท VI
เพื่อให้นักลงทุน VI มาซื้อหุ้นของเขา เขาขายหุ้น เขาก็มองว่าพวกเราเป็นลูกค้าของเขา
พวกเราก็อย่าลืมมิงกลับกันว่า พวกเขาก็เป็นพ่อค้าขายหุ้น
ซื้ออะไร ก็ให้ระวังดีๆ มองคุณภาพ มองราคาให้ดี ว่าคุ้มไหม
เพียงแต่ราคาหุ้น ไม่เหมือนราคาของอื่นๆ
ราคาหุ้นมันมีคนแย่งซื้อและแย่งขาย
ทำราวกลับว่า สินค้าในตลาดหุ้นเปิดวางขายในวันน้ำท่วมกรุงเทพทุกวัน
ของขาดตลาด คนแย่งกันซื้อ ราคาถีบตัวสูงขึ้น
ให้มองดีๆ ความจริงมันไม่เป้นอย่างนั้น
เราอาจกำลังถูกหลอกอยู๋ก็เป็นไปได้
ใครหลอกหรือครับ
อ้าว.... ก็ตัวเราเองหลอกตัวเองนี่ละครับ
ถ้ายังไม่รู็ตัว ก็ให้อ่านในกระทู็นี้บ่อยๆ
แล้วท่านจะไอวีอีโก้ของตัวเองเป็น
ถ้าไม่เข้าใจ ผมยกตัวอย่าง..............
ความจำระยะสั้นผมมีปัญหาอย่างมาก
วางพวงกุญแจบ้าน รถ ร้าน หายไป ไม่ทราบ วางตรงไหน
วางอะไรไว้ตรงไหน ก็จำไม่ได้ มีปัญหามาก ๆ ครับ
ก็ได้เวลาไอวีละครับ ผมก็ไอวีตัวเอง ถามตัวเองว่า อะไรที่วางแล้วผมจำได้มากที่สุด
อะไรที่วางตรงไหน ผมก็จะหาเจอ
คำตอบคือ กางเกงในของลูกสาวหกขวบครับ
เขาถอดวางตรงไหน ผมก็สะดุดตาเป็นพิเศษ
ผมก็จะบ่นทุกครั้ง บางทีไปใส่ในตู้เย็น
เหตุผลคือ เขาชอบแย่ให้ผมโกรธ
เพราะผมบอกว่า ถ้าทำให้พ่อโกรธได้ พ่อจะให้ตังค์
แค่บ่นก็จะเสียตังให้เขาแล้วครับ
เขาทราบว่าผมแพ้ทางกางเกงในของเขา
ผมก็ invert โดยการเอากางเกงในของลูกสาวมาทำพวงกุญแจครับ
คราวนี้ได้ผม ไม่วางวางกุญแจตรงไหน ผมก็หาเจอครับ
การไอวีอีโก้ของตัวผมเองนั้นมีประโยชน์ในชีวิตกับผมอย่างมาก
ผมไม่ทราบว่าท่านอื่นจะเข้าใจไหม
มันคุ้มๆ มากครับ ขนาดที่ว่าผมอยากตื่นขึ้นมาทุกวัน
เพื่อมาเปิดร้านขายหมูทอดพันโลให้กับคนรายได้น้อยๆ ได้กินกันครับ
ความสุขผมคือการให้คืนกับสังคม
พี่มนกับพี่โจเคยช่วยผมยามยากลำบาก
พระคุณทั้งสองยิ่งใหญ่จริงๆครับ
ขอบคุณครับพี่ที่สอนผมให้รู็จักการให้มากกว่าการรับครับ
เห็นมีหลายท่านครับ ก็สำหรับชางวีไอที่สนใจเรื่องการ invert นะครับ
Invert ก็สั้นง่ายๆว่า IV นะครับ ไม่ต้องเขียนให้ยาว
ครับ......
ช่วงบ่ายๆ ผมปิดร้านขายหมูทอดพันโล
มานั่งคิดว่าจะป้อนข้อมูลบันทึกอะไรบ้างในกระทู้
ประสบการณ์ไอวี มีตลอดทั้งวันละครับ
อย่างที่ร้าน
ร้านนี้เปิดแปดโมงเช้า ประมาณ เที่ยงกว่า ก็ขายหมดแล้วครับ
เด็กในร้านถามผมว่า ทำไมไม่ลงหมูเพิ่มกว่านี้
ผมตอบว่า ขายทำไมให้มาก ยิ่งขายมาก ผมยิ่งขาดทุน
ตอบประมาณนั้น ไม่ทราบว่าเข้าใจไหม
ผมขายข้าว + หมูทอด + ไข่เป็ดต้ม+ผักสด = เพียง 25 เท่านั้นเองครับ
"ยิ่งขายมาก ยิ่งขาดทุนซิครับ"
ผมตอบไปอย่างนั้น คนมากินน้อยๆ ผมกลับดีใจ
แต่ยิ่งยากให้กินกันน้อย คนกลับมากินกันเยอะขึ้น
นั่นละเคล้ดลับของผมครับ
ผมไม่บอกหมดว่า ผม invert ทุกอย่างจนเคยชินและยากกว่าที่คนอื่นจะเข้าใจได้
สำหรับผมแล้ว ยากให้ขาดทุน แต่กลับกำไร
สำหรับคนอื่นแล้ว ยิ่งยากกำไร แต่ต้องขาดทุน
สองสามปีนี้ หลักการ VI นั้นหลายบริษัทใช้การ invert ทำตัวเองให้เป็นบริษัท VI
เพื่อให้นักลงทุน VI มาซื้อหุ้นของเขา เขาขายหุ้น เขาก็มองว่าพวกเราเป็นลูกค้าของเขา
พวกเราก็อย่าลืมมิงกลับกันว่า พวกเขาก็เป็นพ่อค้าขายหุ้น
ซื้ออะไร ก็ให้ระวังดีๆ มองคุณภาพ มองราคาให้ดี ว่าคุ้มไหม
เพียงแต่ราคาหุ้น ไม่เหมือนราคาของอื่นๆ
ราคาหุ้นมันมีคนแย่งซื้อและแย่งขาย
ทำราวกลับว่า สินค้าในตลาดหุ้นเปิดวางขายในวันน้ำท่วมกรุงเทพทุกวัน
ของขาดตลาด คนแย่งกันซื้อ ราคาถีบตัวสูงขึ้น
ให้มองดีๆ ความจริงมันไม่เป้นอย่างนั้น
เราอาจกำลังถูกหลอกอยู๋ก็เป็นไปได้
ใครหลอกหรือครับ
อ้าว.... ก็ตัวเราเองหลอกตัวเองนี่ละครับ
ถ้ายังไม่รู็ตัว ก็ให้อ่านในกระทู็นี้บ่อยๆ
แล้วท่านจะไอวีอีโก้ของตัวเองเป็น
ถ้าไม่เข้าใจ ผมยกตัวอย่าง..............
ความจำระยะสั้นผมมีปัญหาอย่างมาก
วางพวงกุญแจบ้าน รถ ร้าน หายไป ไม่ทราบ วางตรงไหน
วางอะไรไว้ตรงไหน ก็จำไม่ได้ มีปัญหามาก ๆ ครับ
ก็ได้เวลาไอวีละครับ ผมก็ไอวีตัวเอง ถามตัวเองว่า อะไรที่วางแล้วผมจำได้มากที่สุด
อะไรที่วางตรงไหน ผมก็จะหาเจอ
คำตอบคือ กางเกงในของลูกสาวหกขวบครับ
เขาถอดวางตรงไหน ผมก็สะดุดตาเป็นพิเศษ
ผมก็จะบ่นทุกครั้ง บางทีไปใส่ในตู้เย็น
เหตุผลคือ เขาชอบแย่ให้ผมโกรธ
เพราะผมบอกว่า ถ้าทำให้พ่อโกรธได้ พ่อจะให้ตังค์
แค่บ่นก็จะเสียตังให้เขาแล้วครับ
เขาทราบว่าผมแพ้ทางกางเกงในของเขา
ผมก็ invert โดยการเอากางเกงในของลูกสาวมาทำพวงกุญแจครับ
คราวนี้ได้ผม ไม่วางวางกุญแจตรงไหน ผมก็หาเจอครับ
การไอวีอีโก้ของตัวผมเองนั้นมีประโยชน์ในชีวิตกับผมอย่างมาก
ผมไม่ทราบว่าท่านอื่นจะเข้าใจไหม
มันคุ้มๆ มากครับ ขนาดที่ว่าผมอยากตื่นขึ้นมาทุกวัน
เพื่อมาเปิดร้านขายหมูทอดพันโลให้กับคนรายได้น้อยๆ ได้กินกันครับ
ความสุขผมคือการให้คืนกับสังคม
พี่มนกับพี่โจเคยช่วยผมยามยากลำบาก
พระคุณทั้งสองยิ่งใหญ่จริงๆครับ
ขอบคุณครับพี่ที่สอนผมให้รู็จักการให้มากกว่าการรับครับ
- oatty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2444
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี
โพสต์ที่ 2
อ่านเรื่อย ๆ สุดท้าย พี่โหน่ง จิตไม่ว่าง
ว่าแต่พี่มี target to be จิตว่าง มั้ย ? หรือว่า จริง ๆ แล้วมันเป็น IV อีกอันหนึ่ง
ว่าแต่พี่มี target to be จิตว่าง มั้ย ? หรือว่า จริง ๆ แล้วมันเป็น IV อีกอันหนึ่ง
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี
โพสต์ที่ 3
Do I have any target to be "จิตว่าง"?
Exactly, that is a very good point krab, Khun Oatty krab.
Unfortunately, I'm still learning to that lesson at the time krab.
I shouldn't be krab.
I would rather attribute my own success to having both conviction about my "จิตไม่ว่าง" feeling and ability to invertly act on them quickly.
That is more critical than "จิตว่าง" krab.
My own thought krab, the biggest misconception is the widespread belief that it is an ultimate target to make a "จิตว่าง" living in life. I think most of those who search for "จิตว่าง" are bound to be disappointed. I don't force myself to be จิตว่าง. I never want to be จิตว่าง.
จิตว่างต่างหากที่มาหาผมเอง
อยู๋ที่ว่า ผมจะสนใจมันหรือไม่
ผมไม่เคยสนใจมันเลยครับ
ผมไม่สนใจภาวะที่จะมีจิตว่างเลย
มันจะมาตอนผมลืมนึกถึงมันเสมอครับ
จิตว่าง always come to me when I always think of จิตไม่ว่าง krab.
Exactly, that is a very good point krab, Khun Oatty krab.
Unfortunately, I'm still learning to that lesson at the time krab.
I shouldn't be krab.
I would rather attribute my own success to having both conviction about my "จิตไม่ว่าง" feeling and ability to invertly act on them quickly.
That is more critical than "จิตว่าง" krab.
My own thought krab, the biggest misconception is the widespread belief that it is an ultimate target to make a "จิตว่าง" living in life. I think most of those who search for "จิตว่าง" are bound to be disappointed. I don't force myself to be จิตว่าง. I never want to be จิตว่าง.
จิตว่างต่างหากที่มาหาผมเอง
อยู๋ที่ว่า ผมจะสนใจมันหรือไม่
ผมไม่เคยสนใจมันเลยครับ
ผมไม่สนใจภาวะที่จะมีจิตว่างเลย
มันจะมาตอนผมลืมนึกถึงมันเสมอครับ
จิตว่าง always come to me when I always think of จิตไม่ว่าง krab.
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี
โพสต์ที่ 4
ผมพึ่งพูดทางมื่อถือกับเพื่อนท่านหนึ่งที่เป็นหมอเกี่ยวกับบริษัทที่เขาลงทุนอยู๋
คุยกันดีๆ เสียงเริ่มเบาลงจนเหมือนกระซิบคุย
ผมเลยบอกว่า สัญญาณไม่ดี วางก่อนก้แล้วกัน
เพื่อนผมบอกว่า เมียมา เมียมา ให้รู็ว่าเล่นหุ้นไมได้
ผมเลยตอบว่า อย่างนี้ต้องยิ่งให้เมียรู้ รีบบอกเมียเลย
เอาชนะความกลัวเมียจะรู็ความจริงทั้งหมดให้ได้ก่อน
ถ้าไม่คุยกัน ยังมีความกลัวอย่างนี้ จะเอาอะไรไปสู็กับความกลัวอื่นๆ ในตลาดหุ้น
ผมบอกว่า อย่าลงทุนเลย อย่างนี้ ไม่ช้า จะหมดทั้งเงิน หมดทั้งเมีย
มันเลยบอกว่า ไม่เป้นไร ไปถามเพื่อนผมอีกคนก็ได้
เป็นงั้นไปครับ
เรื่องการลงทุนนั้น ไม่ใช่เรื่องของความฉลาดทางสมองเลย
ทางอารมณ์ต่างหากครับ
ผมเห็นเว็บนี้ในยุคหลัง เทไปทางความรู้เรื่องการเลือกหุ้นหมด
ผมไม่เห็นด้วยครับ เลือกหุ้นสำคัญแค่สามสิบส่วนเท่านั้น
อีกสามสิบเรื่องการบริหารเงิน และสี่สิบคือการจัดการกับอารมณ์ของตนเอง
My advice for ivvi ( the word stand for inverted value investor ),
it is not a matter of intelligence krab.
I have seen people with good trading skill failed,
and I have withness those without any previous investing experience succeed krab.
The main thing is that every trader has to be honest about your weaknessese
and know how to invert them krab.
If you can't learn to quit your weaknesses, your weaknesses are going to quit you krab.
Rise high, but aim low krab.
คุยกันดีๆ เสียงเริ่มเบาลงจนเหมือนกระซิบคุย
ผมเลยบอกว่า สัญญาณไม่ดี วางก่อนก้แล้วกัน
เพื่อนผมบอกว่า เมียมา เมียมา ให้รู็ว่าเล่นหุ้นไมได้
ผมเลยตอบว่า อย่างนี้ต้องยิ่งให้เมียรู้ รีบบอกเมียเลย
เอาชนะความกลัวเมียจะรู็ความจริงทั้งหมดให้ได้ก่อน
ถ้าไม่คุยกัน ยังมีความกลัวอย่างนี้ จะเอาอะไรไปสู็กับความกลัวอื่นๆ ในตลาดหุ้น
ผมบอกว่า อย่าลงทุนเลย อย่างนี้ ไม่ช้า จะหมดทั้งเงิน หมดทั้งเมีย
มันเลยบอกว่า ไม่เป้นไร ไปถามเพื่อนผมอีกคนก็ได้
เป็นงั้นไปครับ
เรื่องการลงทุนนั้น ไม่ใช่เรื่องของความฉลาดทางสมองเลย
ทางอารมณ์ต่างหากครับ
ผมเห็นเว็บนี้ในยุคหลัง เทไปทางความรู้เรื่องการเลือกหุ้นหมด
ผมไม่เห็นด้วยครับ เลือกหุ้นสำคัญแค่สามสิบส่วนเท่านั้น
อีกสามสิบเรื่องการบริหารเงิน และสี่สิบคือการจัดการกับอารมณ์ของตนเอง
My advice for ivvi ( the word stand for inverted value investor ),
it is not a matter of intelligence krab.
I have seen people with good trading skill failed,
and I have withness those without any previous investing experience succeed krab.
The main thing is that every trader has to be honest about your weaknessese
and know how to invert them krab.
If you can't learn to quit your weaknesses, your weaknesses are going to quit you krab.
Rise high, but aim low krab.
- oatty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2444
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี
โพสต์ที่ 5
เวบนี้เน้นไปที่หลักการในการเลือกหุ้น ซึ่งถือว่าเป็นพี้นฐานในการลงทุนครับ ส่วนใครจะไปต่อยอดแนวทางอะไรก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละคน พี่โหน่งมีสิทธิ์เต็มร้อยในการไม่เห็นด้วย จะเห็นได้ว่าส่วนมากเป็นนักลงทุนหน้าใหม่ ๆ ที่เข้ามา ส่วนหน้าเก่าก็คอยอ่านหรือถอยฉากไปก็มี มีส่วนหนึ่งที่ยังคงอยู่เพราะต้องการให้ความรู้หรือเอาความเห็นจากคนใหม่ ๆ เหมือนกัน
ส่วน money management และการบริหารจัดการกับอารมณ์นี่เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลอีกเหมือนกัน ประสบการณ์และเวลาเท่านั้นที่จะสั่งสอนพวกเขาได้ ยิ่งคนรุ่นใหม่ ๆ ไม่ค่อยเชื่ออะไรง่าย ๆ แม้ว่าจะอ่านตำราหรือตำนานความสำเร็จ/ล้มเหลวของคนอื่นมาเท่าไหร่ก็ตาม แต่ถ้าไม่เจอด้วยตัวเองมักไม่ค่อยจำ
ดังนั้นการที่จะบอกให้คนอื่น IV ทำได้เต็มที่เลยครับ แต่คนอื่นจะทำตามหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
หลักการต่าง ๆ ผมว่ามีอยู่ครบในเวบนี้ แต่เท่าที่เห็นในปัจจุบันมักมาตั้งกระทู้ถามเรื่องเดิม ๆ ที่เคยเกิดมาแล้ว โดยที่ไม่ยอมไปอ่านกระทู้เก่า ๆ เลย
ส่วน money management และการบริหารจัดการกับอารมณ์นี่เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลอีกเหมือนกัน ประสบการณ์และเวลาเท่านั้นที่จะสั่งสอนพวกเขาได้ ยิ่งคนรุ่นใหม่ ๆ ไม่ค่อยเชื่ออะไรง่าย ๆ แม้ว่าจะอ่านตำราหรือตำนานความสำเร็จ/ล้มเหลวของคนอื่นมาเท่าไหร่ก็ตาม แต่ถ้าไม่เจอด้วยตัวเองมักไม่ค่อยจำ
ดังนั้นการที่จะบอกให้คนอื่น IV ทำได้เต็มที่เลยครับ แต่คนอื่นจะทำตามหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
หลักการต่าง ๆ ผมว่ามีอยู่ครบในเวบนี้ แต่เท่าที่เห็นในปัจจุบันมักมาตั้งกระทู้ถามเรื่องเดิม ๆ ที่เคยเกิดมาแล้ว โดยที่ไม่ยอมไปอ่านกระทู้เก่า ๆ เลย
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี
โพสต์ที่ 6
ที่ไม่ยอมไปตั้งถามกันใหม่
มันมีเหตุผล ก็ตัวกรูไงครับ 555
สิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการถามกระทู้คือ "ชื่อ" ของพวกเขาต่างหากครับ
ชื่อที่ได้ขึ้นกระดานแล้วมีคนสนใจเข้ามาตอบ
ความรู็สึกนี้เหมื่อนพวกเขาเป็นดวงอาทิตย์และทุกความเห้นหมุนรอบตัวเขา
เขาโพสตั้งถามเพราะ ทำให้พวกเขาเป็นคนสำคัญขึ้นมา
ตัวกรู ไงครับที่พวกเขาไม่ได้รับจากชีวิตจริง
ผมคิดว่าคุณโอ๊ตคงเข้่าใจดี เพราะมองอารมณ์ตัวเองมานาน
มันมีเหตุผล ก็ตัวกรูไงครับ 555
สิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการถามกระทู้คือ "ชื่อ" ของพวกเขาต่างหากครับ
ชื่อที่ได้ขึ้นกระดานแล้วมีคนสนใจเข้ามาตอบ
ความรู็สึกนี้เหมื่อนพวกเขาเป็นดวงอาทิตย์และทุกความเห้นหมุนรอบตัวเขา
เขาโพสตั้งถามเพราะ ทำให้พวกเขาเป็นคนสำคัญขึ้นมา
ตัวกรู ไงครับที่พวกเขาไม่ได้รับจากชีวิตจริง
ผมคิดว่าคุณโอ๊ตคงเข้่าใจดี เพราะมองอารมณ์ตัวเองมานาน
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี
โพสต์ที่ 8
On Friday night krab, วันศุกร์ใกล้คริสมาสแล้ว
แป๊ปเดียว 365 ปีอีกแล้ว
ผมจะใช้เวลาช่วงกลางคืนวันศุกร์อย่างนี้นั่งนึกอะไรบางอย่าง
และอยูกับตัวเองให้มากที่สุดครับ บางท่านออกไปข่างนอกใช่ไหมครับ
นี่ไอวีชาวบ้านอีกแล้ว 55555
โอเคครับ ผมทำอะไรบ้าง เช่น
ตลาดหุ้นอาทิตย์นี้เป็นอย่างไร เปลี่ยนไปหรือไม่
คนที่เทรดในตลาดหุ้นเป้นอย่างไร อะไรทำให้พวกเขาเปลี่ยน
พวกเขาทำให้ตลาดมีลักษณะใดและเปลี่ยนไปหรือไม่
อาทิตย์หน้า จะเทรดตลาดไหน คนที่จะเทรดตลาดนั้นเป้นใคร
ตลาดกลุ่มนั้นจะเปลี่ยนไปเพราะอะไร คนซื้อ/คนขาย คือคนกลุ่มไหน
ตลาดเป้นแบบไหนมองไม่ยากหรอกครับ
แต่ละกลุ่มจะเป็นแบบไหน ขึ้นอยู่กับคน
ขึ้นกับว่าคนที่เทรดหุ้นตัวนั้นเป้นใครและมีลักษณะนิสัยและบุคคลิกในการเทรดอย่างไร
อย่างกลุ่มคนที่เทรดหุ้นพลังงานกับคนที่เทรดกลุ่มอสังหามันก็ไม่เหมือนกันนะครับ
Stock is a reflection of the people who trade it krab.
ประเมิณตลาดได้แล้ว ผมจะย้อนถามตัวเองว่า
บุคคลิกไสต์ในการเทรดของผมเปลี่ยนไปหรือไม่
ที่สำคัญครับ
ทั้งตลาดและนิสัยของผมต้อง match กันเสมอครับ
ตอ่ไปก็กำหนดวงเงิน capitalization ผมจะถามตัวเองเสมอว่า
ถ้า loss เงินนี้หมดเลย ผมจะเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง
ผมจะหลับตา ขาดทุนหมดเลย
เงินที่ลงอาทิตย์หน้าหายไปหมดเลย
แล้วผมจะสังเกตลมหายใจตัวเองครับ
อีโก้ผมหลอกผมได้
แต่ลมหายใจมันไม่เคยหลอกผม
สั้น ยาว เร็ว ช้า ลีก บาง
ดูว่าลมหายใจเป้นแบบไหน
ก็สามารถทราบว่าแนวโน้มอารมณ์ของเราจะเป้นอย่างไรได้อย่างแม่นยำครัีบ
เช่น ถ้าขับรถตามคันหน้าที่ขับช้า
ผมจะทราบก่อนเสมอว่า ผมจะมีอารมณ์แบบไหนในตอนนั้น
โกรธ เสียใจ ดีใจ เศร้า หรือ รู้สีกอย่างไร
โดยแค่สังเกตจังหวะการหายใจของตัวเองเท่านั้นครับ
ถ้าถามว่า ผมยังมีโกรธ กลัว ตื่นเต้น เสียใจ ดีใจ อิจฉา หงี่ หรือไม่
ทุกอย่างมีหมดในตัวผมละครับ แต่ไม่เอาครับ
พื้นฐานของการแยกอารมณ์ออกจากตัวของเรานั้น
อยู่ที่ลมหายใจของเราเอง
อย่างเวลาเขียน ผมจะกลั้นหายใจ แสดงว่าผมกำลังใช้ความคิดบางอย่าง
ลมหายใจเข้าจะสั้นหนักและลมออกจะสั้นหนัก
แสดงว่าผมอยู๋ใน zone ที่กำลังจะโกรธได้
ถ้าลมมาอย่างนี้ ผมก็จะไอวีลมหายใจตัวเองทันทีครับ
หายใจเข้ายาวๆ หายใจออกยาวๆ
อารมณ์โกรธมันก็หายไปเอง
ถ้าลมเข้าจะบางสั้นและออกบางยาว แสดงว่าผมกำลังง่วง
ผมจะไอวีเหมือนเดิมครับ
หายใจเข้ายาวๆ หายใจออกยาวๆ
อารมณ์ต่างๆ มันก็จะหายไปเองครับ
เวลาก่อนเทรด ผมจะจินตนาการถึงเหตุการณ์ต่างๆ
ผมจะเข้าซื้อขายโดยกด order แบบไหน
แบบใส่เงินเข้าออกทีละช๊อต หรือ แบบเข้าออกทั้งก้อน
ขาดทุนเท่าใดถึงออก กำไรเท่าใดถึงออก
หลังจากคิดเรื่องพวกนี้แล้ว
ผมจะมองว่าลมหายใจตัวเองเป็นอย่างไร อยู๋ใน mode ไหน
comfortable zone หรือไม่
ถ้าลมหายใจเข้าออกของผมผิดเพี้ยนไปจากปกติคือ ลึก เบาและยาว
ผมจะไม่เทรดเลยจนกว่าจะนึกภาพให้ชัดเจนมากขึ้น
ถ้าทำไม่ได้ แสดงว่า มีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับอารมณ์ของผมในวันนั้นแล้ว
อะไรบางอย่างที่ติดค้างในใจและรบกวนผมอยู๋
ผมจะหยุดเทรดทันทีครับ และหาสาเหตุว่าทำไมครับ
เหมือนครั้งหนึ่ง ผมทะเลาะกับเมีย
และกำหนดให้ลมหายใจเข้า comfortable zone ไม่ได้
ทั้งอาทิตย์นั้น อะไรที่ Fund Manager ห้ามทำ ผมทำหมดเลย
ผมขาดทุนตลอดทั้งอาทิตย์เลยครับ
แป๊ปเดียว 365 ปีอีกแล้ว
ผมจะใช้เวลาช่วงกลางคืนวันศุกร์อย่างนี้นั่งนึกอะไรบางอย่าง
และอยูกับตัวเองให้มากที่สุดครับ บางท่านออกไปข่างนอกใช่ไหมครับ
นี่ไอวีชาวบ้านอีกแล้ว 55555
โอเคครับ ผมทำอะไรบ้าง เช่น
ตลาดหุ้นอาทิตย์นี้เป็นอย่างไร เปลี่ยนไปหรือไม่
คนที่เทรดในตลาดหุ้นเป้นอย่างไร อะไรทำให้พวกเขาเปลี่ยน
พวกเขาทำให้ตลาดมีลักษณะใดและเปลี่ยนไปหรือไม่
อาทิตย์หน้า จะเทรดตลาดไหน คนที่จะเทรดตลาดนั้นเป้นใคร
ตลาดกลุ่มนั้นจะเปลี่ยนไปเพราะอะไร คนซื้อ/คนขาย คือคนกลุ่มไหน
ตลาดเป้นแบบไหนมองไม่ยากหรอกครับ
แต่ละกลุ่มจะเป็นแบบไหน ขึ้นอยู่กับคน
ขึ้นกับว่าคนที่เทรดหุ้นตัวนั้นเป้นใครและมีลักษณะนิสัยและบุคคลิกในการเทรดอย่างไร
อย่างกลุ่มคนที่เทรดหุ้นพลังงานกับคนที่เทรดกลุ่มอสังหามันก็ไม่เหมือนกันนะครับ
Stock is a reflection of the people who trade it krab.
ประเมิณตลาดได้แล้ว ผมจะย้อนถามตัวเองว่า
บุคคลิกไสต์ในการเทรดของผมเปลี่ยนไปหรือไม่
ที่สำคัญครับ
ทั้งตลาดและนิสัยของผมต้อง match กันเสมอครับ
ตอ่ไปก็กำหนดวงเงิน capitalization ผมจะถามตัวเองเสมอว่า
ถ้า loss เงินนี้หมดเลย ผมจะเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง
ผมจะหลับตา ขาดทุนหมดเลย
เงินที่ลงอาทิตย์หน้าหายไปหมดเลย
แล้วผมจะสังเกตลมหายใจตัวเองครับ
อีโก้ผมหลอกผมได้
แต่ลมหายใจมันไม่เคยหลอกผม
สั้น ยาว เร็ว ช้า ลีก บาง
ดูว่าลมหายใจเป้นแบบไหน
ก็สามารถทราบว่าแนวโน้มอารมณ์ของเราจะเป้นอย่างไรได้อย่างแม่นยำครัีบ
เช่น ถ้าขับรถตามคันหน้าที่ขับช้า
ผมจะทราบก่อนเสมอว่า ผมจะมีอารมณ์แบบไหนในตอนนั้น
โกรธ เสียใจ ดีใจ เศร้า หรือ รู้สีกอย่างไร
โดยแค่สังเกตจังหวะการหายใจของตัวเองเท่านั้นครับ
ถ้าถามว่า ผมยังมีโกรธ กลัว ตื่นเต้น เสียใจ ดีใจ อิจฉา หงี่ หรือไม่
ทุกอย่างมีหมดในตัวผมละครับ แต่ไม่เอาครับ
พื้นฐานของการแยกอารมณ์ออกจากตัวของเรานั้น
อยู่ที่ลมหายใจของเราเอง
อย่างเวลาเขียน ผมจะกลั้นหายใจ แสดงว่าผมกำลังใช้ความคิดบางอย่าง
ลมหายใจเข้าจะสั้นหนักและลมออกจะสั้นหนัก
แสดงว่าผมอยู๋ใน zone ที่กำลังจะโกรธได้
ถ้าลมมาอย่างนี้ ผมก็จะไอวีลมหายใจตัวเองทันทีครับ
หายใจเข้ายาวๆ หายใจออกยาวๆ
อารมณ์โกรธมันก็หายไปเอง
ถ้าลมเข้าจะบางสั้นและออกบางยาว แสดงว่าผมกำลังง่วง
ผมจะไอวีเหมือนเดิมครับ
หายใจเข้ายาวๆ หายใจออกยาวๆ
อารมณ์ต่างๆ มันก็จะหายไปเองครับ
เวลาก่อนเทรด ผมจะจินตนาการถึงเหตุการณ์ต่างๆ
ผมจะเข้าซื้อขายโดยกด order แบบไหน
แบบใส่เงินเข้าออกทีละช๊อต หรือ แบบเข้าออกทั้งก้อน
ขาดทุนเท่าใดถึงออก กำไรเท่าใดถึงออก
หลังจากคิดเรื่องพวกนี้แล้ว
ผมจะมองว่าลมหายใจตัวเองเป็นอย่างไร อยู๋ใน mode ไหน
comfortable zone หรือไม่
ถ้าลมหายใจเข้าออกของผมผิดเพี้ยนไปจากปกติคือ ลึก เบาและยาว
ผมจะไม่เทรดเลยจนกว่าจะนึกภาพให้ชัดเจนมากขึ้น
ถ้าทำไม่ได้ แสดงว่า มีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับอารมณ์ของผมในวันนั้นแล้ว
อะไรบางอย่างที่ติดค้างในใจและรบกวนผมอยู๋
ผมจะหยุดเทรดทันทีครับ และหาสาเหตุว่าทำไมครับ
เหมือนครั้งหนึ่ง ผมทะเลาะกับเมีย
และกำหนดให้ลมหายใจเข้า comfortable zone ไม่ได้
ทั้งอาทิตย์นั้น อะไรที่ Fund Manager ห้ามทำ ผมทำหมดเลย
ผมขาดทุนตลอดทั้งอาทิตย์เลยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี
โพสต์ที่ 9
สวัสดีครับ คริสมาสอีฟแล้วนะครับ
ตีสามเช้า ผมไปตลาด คุยกับเจ้าของร้านอาหารสามเจ้า
แถวเกษตร นวมินทร์ ยอดขายตกทุกร้าน
ร้านลาดหน้าเคยปิดสามทุ่ม ตอนนี้หกโมงก็เงียบแล้ว
ฟันธงเหมือนกันหมด คนกินประหยัดขึ้น
ผมดูใครคาดการณ์ตลาดตหุ้นในปีหน้าแล้ว อดหัวเราะไมได้ครับ
ไม่มีใครทราบหรอกครับ ขี้โม้ทั้งนั้น
ตลาดช่วงสามเดือน เหมือนจะเห้นเทรนบางอย่าง
พอหุ้นตกลงหนัก ๆ มีเด้งกลับทุกครั้ง
สำหรับเมเนเจอร์ พวกผมไม่เคยคาดหวังกับตลาดไปล่วงหน้าเลย
มีแต่ว่าจะทำอย่างไรถ้าตลาด bearish ตกลงไป หรือ ทำอย่างไรเมื่อตลาด bullish ขึ้น
พูดอีกอย่างพวกผมไม่เคย anticipate market
สิ่งที่สำคัญกว่าคือ to react to the market with a plan krab.
เมเนเจอร์หน้าใหม่ท่านหนึ่งรอแนวโน้มให้ตกลงก่อน แล้วค่อยเข้า long
ถ้าไม่เป็นอย่างที่เขาคิด เขาก็นั่งเฉยมีอการฮัมดรำไปครับ
ผมบอกเขาให้เปลี่ยน ถ้าตลาดไม่มีแนวโน้มที่จะ long ก็ให้ invert โดยการ short ไปเลย
แต่การ short หุ้นต้องมี catalysts เสมอ นั่นเป้นเคล็ดลับของการ short ที่ขาดไมได้ครับ
พอร์ตที่เขาดูแลอยู๋โตขึ้นมากหลักจากคำแนะนำของผม
การลงทุนนั้นต้องมีสามมิติ คือ long short margin
กลยุทธ์ของเขาเน้นไปทาง value investing
จุดอ่อนของการลงทุนแนวนี้คือ มัน flat มากเกินไป และมีความยึดหยุ่นน้อย
ก่อนหน้าานั้น ในความคิดของเขา เมื่อตลาดตกลง bearish มันหมายถึง การ correction
และเป้นโอกาสในการซื้อหุ้น แต่การ correction ก็อาจลงไปมากกว่าระดับที่เขาซื้อเข้าพอร์ตได้เสมอ
และนั่นเป็นความผิดพลาดของนักลงทุนเน้นคุณค่าที่ผมพบมากที่สุด
ภาษาที่เขาใช้มันสะท้อนมุมมองที่มีต่อตลาดตลอดเวลา
"correction ครับพี่"
"มันอาจเป้น downtrend ก็ได้"
ทุกอย่างมันมีสองด้านเสมอ อย่าคาดหวังตลาด
ถ้าไม่แน่ใจ ให้ลงทุนน้อยๆ แต่อย่าออกจากตลาด
แยกออกจากตลาดเมื่อใด ก็จับอารมณ์ตลาดไม่เป็นแล้ว
ตลาดก็คือคนที่เล่นมันครับ
สิ่งที่เรามองตลาดมันสะท้อนมาจากความคิดของเราทั้งนั้น
ไม่ใช่ความจริงที่ปรากฏของตลาดเลย คิดไปเองจากอคติตัวเองทั้งนั้น
น้องท่านี้ เขาโชคดีที่ยอมรับจุดอ่อนที่ลึกที่สุดของนักลงทุนในข้อนี้
ซึ่งผมชื่นชม เพราะน้อยๆคนจะยอมรับว่าตัวเองนั้นผิดตลอดเวลา
มีน้อยๆ จริงๆ ครับ และใครทำได้ ก็ได้รางวัลอันงดงามไป
พอร์ตทั้งปีเขาโตกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ
ตีสามเช้า ผมไปตลาด คุยกับเจ้าของร้านอาหารสามเจ้า
แถวเกษตร นวมินทร์ ยอดขายตกทุกร้าน
ร้านลาดหน้าเคยปิดสามทุ่ม ตอนนี้หกโมงก็เงียบแล้ว
ฟันธงเหมือนกันหมด คนกินประหยัดขึ้น
ผมดูใครคาดการณ์ตลาดตหุ้นในปีหน้าแล้ว อดหัวเราะไมได้ครับ
ไม่มีใครทราบหรอกครับ ขี้โม้ทั้งนั้น
ตลาดช่วงสามเดือน เหมือนจะเห้นเทรนบางอย่าง
พอหุ้นตกลงหนัก ๆ มีเด้งกลับทุกครั้ง
สำหรับเมเนเจอร์ พวกผมไม่เคยคาดหวังกับตลาดไปล่วงหน้าเลย
มีแต่ว่าจะทำอย่างไรถ้าตลาด bearish ตกลงไป หรือ ทำอย่างไรเมื่อตลาด bullish ขึ้น
พูดอีกอย่างพวกผมไม่เคย anticipate market
สิ่งที่สำคัญกว่าคือ to react to the market with a plan krab.
เมเนเจอร์หน้าใหม่ท่านหนึ่งรอแนวโน้มให้ตกลงก่อน แล้วค่อยเข้า long
ถ้าไม่เป็นอย่างที่เขาคิด เขาก็นั่งเฉยมีอการฮัมดรำไปครับ
ผมบอกเขาให้เปลี่ยน ถ้าตลาดไม่มีแนวโน้มที่จะ long ก็ให้ invert โดยการ short ไปเลย
แต่การ short หุ้นต้องมี catalysts เสมอ นั่นเป้นเคล็ดลับของการ short ที่ขาดไมได้ครับ
พอร์ตที่เขาดูแลอยู๋โตขึ้นมากหลักจากคำแนะนำของผม
การลงทุนนั้นต้องมีสามมิติ คือ long short margin
กลยุทธ์ของเขาเน้นไปทาง value investing
จุดอ่อนของการลงทุนแนวนี้คือ มัน flat มากเกินไป และมีความยึดหยุ่นน้อย
ก่อนหน้าานั้น ในความคิดของเขา เมื่อตลาดตกลง bearish มันหมายถึง การ correction
และเป้นโอกาสในการซื้อหุ้น แต่การ correction ก็อาจลงไปมากกว่าระดับที่เขาซื้อเข้าพอร์ตได้เสมอ
และนั่นเป็นความผิดพลาดของนักลงทุนเน้นคุณค่าที่ผมพบมากที่สุด
ภาษาที่เขาใช้มันสะท้อนมุมมองที่มีต่อตลาดตลอดเวลา
"correction ครับพี่"
"มันอาจเป้น downtrend ก็ได้"
ทุกอย่างมันมีสองด้านเสมอ อย่าคาดหวังตลาด
ถ้าไม่แน่ใจ ให้ลงทุนน้อยๆ แต่อย่าออกจากตลาด
แยกออกจากตลาดเมื่อใด ก็จับอารมณ์ตลาดไม่เป็นแล้ว
ตลาดก็คือคนที่เล่นมันครับ
สิ่งที่เรามองตลาดมันสะท้อนมาจากความคิดของเราทั้งนั้น
ไม่ใช่ความจริงที่ปรากฏของตลาดเลย คิดไปเองจากอคติตัวเองทั้งนั้น
น้องท่านี้ เขาโชคดีที่ยอมรับจุดอ่อนที่ลึกที่สุดของนักลงทุนในข้อนี้
ซึ่งผมชื่นชม เพราะน้อยๆคนจะยอมรับว่าตัวเองนั้นผิดตลอดเวลา
มีน้อยๆ จริงๆ ครับ และใครทำได้ ก็ได้รางวัลอันงดงามไป
พอร์ตทั้งปีเขาโตกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4214
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี
โพสต์ที่ 10
ช่วยขยายความหน่อยตรงนี้หน่อยครับhumdrum เขียน:ผมบอกเขาให้เปลี่ยน ถ้าตลาดไม่มีแนวโน้มที่จะ long ก็ให้ invert โดยการ short ไปเลย แต่การ short หุ้นต้องมี catalysts เสมอ นั่นเป้นเคล็ดลับของการ short ที่ขาดไมได้ครับ
กราฟที่มองไม่เห็นกับกราฟที่มองเห็น
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี
โพสต์ที่ 11
I always go short stocks because of a catalyst krab.
The first thing is whether the catalyst still applies krab.
One thing I like to do is to pair up with another fund manager krab.
I go short because I want to invert stocks I go long. Normally, I always invert my minds and put it into many perspectives.
Shorting game is not a pefect game krab and I need to invert myself by setting another sounding trader who would say " Why are u shorting man ? U are wrong man"
There are needs for many ckecks and many balances, as opposed to being in my own world of going long krab.
Our livelihood depends on each other krab.
เหมือนขาวก็ต้องการดำ
ดำก็ต้องการขาว
ไม่มีดำก็ไม่มีขาว
ไม่มีขาวก็ไม่มีดำ
ไมมีกำไรก็ไม่มีขาดทุน
ไม่มี long ก็ไม่มี short
มี long เมื่อใดก็มี short เมื่อนั้น
That is what trading is all about krab.
The first thing is whether the catalyst still applies krab.
One thing I like to do is to pair up with another fund manager krab.
I go short because I want to invert stocks I go long. Normally, I always invert my minds and put it into many perspectives.
Shorting game is not a pefect game krab and I need to invert myself by setting another sounding trader who would say " Why are u shorting man ? U are wrong man"
There are needs for many ckecks and many balances, as opposed to being in my own world of going long krab.
Our livelihood depends on each other krab.
เหมือนขาวก็ต้องการดำ
ดำก็ต้องการขาว
ไม่มีดำก็ไม่มีขาว
ไม่มีขาวก็ไม่มีดำ
ไมมีกำไรก็ไม่มีขาดทุน
ไม่มี long ก็ไม่มี short
มี long เมื่อใดก็มี short เมื่อนั้น
That is what trading is all about krab.
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี
โพสต์ที่ 12
Merry Christmas krab,
ของขวัญซินะครับวันนี้ ดูหนังซานตาบริหารโรงงานจัดการกับการทำของขวัญ
จัดการกับ logistics ผมมองกลับกันซานตามี plan นักลงทุนก็มี plan เช่นกัน
อย่างผมจะเข้าซื้อตอนไหน ออกตอนไหน กำไรเท่าใดถึงออก
ซื้อจากใคร ขายให้ใคร ค่าใช้จ่ายในการซื้อหุ้นเท่าใด
package หุ้นที่จะขายเป้นอย่างไร
ติดโบว์หรือว่าริบบิ้นอย่างไรให้ดึงดูดใจคนซื้อ
รายจ่าย รายรับ ลงบัญชีให้ชัดเจน
การซื้อหุ้นของนักลงทุนก็ทำให้เหมือนการ run business เช่นกัน
ให้ลองคิดกลับกันนะครับ ถ้านักลงทุนไปขอสินเชื่อจากแบงค์ 1 ล้าน
ทางแบงค์จะถามว่าเรามี plan การลงทุนอย่างไรบ้างเพื่อที่จะปล่อยสินเชื่อให้กับเราไปลงทุน
ถ้าเรามองอย่างนี้ การลงทุนก็ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะทำได้ง่ายๆ
การทำธุรกิจไม่ง่ายเหมือนกัน ไม่ว่าอาชีพใด หมอ ทนาย วิศวะ
ไม่ใช่เรียนจบมาแล้วเก่งได้เลย ทุกอาชีพต้องใช้เวลาในการสะสมทักษะที่จำเป็น
สำหรับการลงทุนในห้าปีแรกของผมนั้น ผมแถบไมได้กำไรเลย
เวลานั้นเป็นเวลาแห่งการสั่งสมประสบการณ์ที่มีค่า
เวลาใครมาถามผมว่าจะเป็นนักลงทุนอาชีพใช้เวลานานไหม
ห้าปี ผมจะตอบอย่างนั้น สิบสองชั่วโมงต่อวันหกวันต่ออาทิตย์และบวกทักษะอีกอย่าง
"ทักษะอะไรหรือครับ"
U must be willing to lose money inorder to make money krab.
ของขวัญซินะครับวันนี้ ดูหนังซานตาบริหารโรงงานจัดการกับการทำของขวัญ
จัดการกับ logistics ผมมองกลับกันซานตามี plan นักลงทุนก็มี plan เช่นกัน
อย่างผมจะเข้าซื้อตอนไหน ออกตอนไหน กำไรเท่าใดถึงออก
ซื้อจากใคร ขายให้ใคร ค่าใช้จ่ายในการซื้อหุ้นเท่าใด
package หุ้นที่จะขายเป้นอย่างไร
ติดโบว์หรือว่าริบบิ้นอย่างไรให้ดึงดูดใจคนซื้อ
รายจ่าย รายรับ ลงบัญชีให้ชัดเจน
การซื้อหุ้นของนักลงทุนก็ทำให้เหมือนการ run business เช่นกัน
ให้ลองคิดกลับกันนะครับ ถ้านักลงทุนไปขอสินเชื่อจากแบงค์ 1 ล้าน
ทางแบงค์จะถามว่าเรามี plan การลงทุนอย่างไรบ้างเพื่อที่จะปล่อยสินเชื่อให้กับเราไปลงทุน
ถ้าเรามองอย่างนี้ การลงทุนก็ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะทำได้ง่ายๆ
การทำธุรกิจไม่ง่ายเหมือนกัน ไม่ว่าอาชีพใด หมอ ทนาย วิศวะ
ไม่ใช่เรียนจบมาแล้วเก่งได้เลย ทุกอาชีพต้องใช้เวลาในการสะสมทักษะที่จำเป็น
สำหรับการลงทุนในห้าปีแรกของผมนั้น ผมแถบไมได้กำไรเลย
เวลานั้นเป็นเวลาแห่งการสั่งสมประสบการณ์ที่มีค่า
เวลาใครมาถามผมว่าจะเป็นนักลงทุนอาชีพใช้เวลานานไหม
ห้าปี ผมจะตอบอย่างนั้น สิบสองชั่วโมงต่อวันหกวันต่ออาทิตย์และบวกทักษะอีกอย่าง
"ทักษะอะไรหรือครับ"
U must be willing to lose money inorder to make money krab.
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี
โพสต์ที่ 13
ขอปรึกษาอะไรเครียดๆซักอย่างนะครับ ว่า...
ทำไมถึงมีบางคนไม่ค่อยปลื้ม "ภาววิทย์ กลิ่นประทุม" หล่ะครับ???
...ส่วนตัวแล้ว "งง" ครับ
http://tmf.voicetv.co.th/2011/content/24868.html
ทำไมถึงมีบางคนไม่ค่อยปลื้ม "ภาววิทย์ กลิ่นประทุม" หล่ะครับ???
...ส่วนตัวแล้ว "งง" ครับ
http://tmf.voicetv.co.th/2011/content/24868.html
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1111
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี
โพสต์ที่ 14
ผมว่าเค้าเป็น นักพูด ครับ ไม่ใช่นักลงทุนpak เขียน:ขอปรึกษาอะไรเครียดๆซักอย่างนะครับ ว่า...
ทำไมถึงมีบางคนไม่ค่อยปลื้ม "ภาววิทย์ กลิ่นประทุม" หล่ะครับ???
...ส่วนตัวแล้ว "งง" ครับ
http://tmf.voicetv.co.th/2011/content/24868.html
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี
โพสต์ที่ 15
ผมไม่รู้จักเลยครับ เคยเห็นหนังสือ แต่ก็ไม่เคยอ่านครับ
ผมไม่อ่านหนังสือนานแล้ว บทความต่างๆ ก็ไม่ได้อ่านนานแล้ว
แต่ผมอ่านตัวเองทั้งวัน
ถ้าเป็นผม ผมไม่ชอบใคร นั่นเป็นเรื่องดี
ดีที่ต้องถามตัวเองว่าไม่ชอบเพราะอะไร
มองหา ego ที่ทำให้เราไม่ชอบเขาให้เจอ
เจอแล้วก็มอง ego ของเราตัวนั้น
จดบันทึก ego ตัวนั้นไว้ แล้วมองหาแนวโน้ม
ดูซิว่าถ้าอนาคตเราไปเจอคนที่มีนิสัยเหมือนคนที่เราไม่ชอบ
สมมุติว่าเป้นนาย X แล้ว X ไปคล้ายนาย A มาก
เราจะไม่ชอบเขาไหม
คุณ pak มี ego ที่ทำให้ไม่ชอบคนคนนั้นอยู่
หา ego ให้เจอ แล้ว manage ego ให้ได้
ผมยกตัวอย่าง ผมทำอะไรเร็ว ไม่ชอบคนทำอะไรช้า
เวลาเจอคนช้า ผมจะรู็ตัวเองก่อนที่อารมณ์บางอย่างจะออกมา
อารมณ์รำคาญนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาตื
แต่เกิดเพราะ Ego ของผมตัวหนึ่งที่ติดตัวมานานตั้งแต่ยังเด็ก ๆ แล้ว
ไม่ขอพูดแล้วกันครับ ถ้าเจอคนขับช้า ผมไม่รำคาญอีกแล้ว
ผม invert ทันทีครับ ขับช้าดีแล้ว ปลอดภัยดี
ในรถมีคนท้องนั่งอยู๋อย่าขับเร็วนะถูกแล้ว
ผมจะมองออกไปนอกตัวเลย
การที่เราไม่ชอบใคร ไม่ใช่เพราะเขาคิดไม่เหมือนเราครับ
แต่เพราะพื้นฐานของแต่ละคนนั้นต่างกัน
บุคคลิกเขามาลงทุนเป้นอย่างนั้น เพราะประสบการณ์ในด้านทำธุรกิจเขาเป้นอย่างนั้น
แยกอารมณ์ให้ออก มองหาจุดอ่อนของเขาให้เจอ
ถ้าเขาเป้นเซียนจริง เขาจะไม่ออกสื่อบอกวิธีหากินกับใครเลย
เขาอาจมีเจตนาอย่างอื่นอยู๋ที่ถูกชักนำโดย ego ของเขา
และ ego ตัวนี้ละครับ
ไม่ว่าของท่านหรีอของคนที่ท่านไม่ชอบ
มันน่ากลัวมากครับ ถ้าไม่รู็จักควบคลุมมันครับ ^O-O^
ผมไม่อ่านหนังสือนานแล้ว บทความต่างๆ ก็ไม่ได้อ่านนานแล้ว
แต่ผมอ่านตัวเองทั้งวัน
ถ้าเป็นผม ผมไม่ชอบใคร นั่นเป็นเรื่องดี
ดีที่ต้องถามตัวเองว่าไม่ชอบเพราะอะไร
มองหา ego ที่ทำให้เราไม่ชอบเขาให้เจอ
เจอแล้วก็มอง ego ของเราตัวนั้น
จดบันทึก ego ตัวนั้นไว้ แล้วมองหาแนวโน้ม
ดูซิว่าถ้าอนาคตเราไปเจอคนที่มีนิสัยเหมือนคนที่เราไม่ชอบ
สมมุติว่าเป้นนาย X แล้ว X ไปคล้ายนาย A มาก
เราจะไม่ชอบเขาไหม
คุณ pak มี ego ที่ทำให้ไม่ชอบคนคนนั้นอยู่
หา ego ให้เจอ แล้ว manage ego ให้ได้
ผมยกตัวอย่าง ผมทำอะไรเร็ว ไม่ชอบคนทำอะไรช้า
เวลาเจอคนช้า ผมจะรู็ตัวเองก่อนที่อารมณ์บางอย่างจะออกมา
อารมณ์รำคาญนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาตื
แต่เกิดเพราะ Ego ของผมตัวหนึ่งที่ติดตัวมานานตั้งแต่ยังเด็ก ๆ แล้ว
ไม่ขอพูดแล้วกันครับ ถ้าเจอคนขับช้า ผมไม่รำคาญอีกแล้ว
ผม invert ทันทีครับ ขับช้าดีแล้ว ปลอดภัยดี
ในรถมีคนท้องนั่งอยู๋อย่าขับเร็วนะถูกแล้ว
ผมจะมองออกไปนอกตัวเลย
การที่เราไม่ชอบใคร ไม่ใช่เพราะเขาคิดไม่เหมือนเราครับ
แต่เพราะพื้นฐานของแต่ละคนนั้นต่างกัน
บุคคลิกเขามาลงทุนเป้นอย่างนั้น เพราะประสบการณ์ในด้านทำธุรกิจเขาเป้นอย่างนั้น
แยกอารมณ์ให้ออก มองหาจุดอ่อนของเขาให้เจอ
ถ้าเขาเป้นเซียนจริง เขาจะไม่ออกสื่อบอกวิธีหากินกับใครเลย
เขาอาจมีเจตนาอย่างอื่นอยู๋ที่ถูกชักนำโดย ego ของเขา
และ ego ตัวนี้ละครับ
ไม่ว่าของท่านหรีอของคนที่ท่านไม่ชอบ
มันน่ากลัวมากครับ ถ้าไม่รู็จักควบคลุมมันครับ ^O-O^
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี
โพสต์ที่ 16
เวลาอ่านงานวิเคราะห์ของ thanachart เกี่ยวกับบริษัทต่างๆ
เขาจะแทรกตรงท้ายว่า risks of assumption ของเขาคืออะไร
สิ่งที่เขาคาดการณ์เอาไว้จะพลิกกลับจากดำเป้นขาวจากขาวเป้นดำได้ เพราะอะไร
เขากำลังทำอะไรอยู๋หรือครับ กำลังจับผิดตัวเองครับ
โบรกมองความเสี่ยงไม่ใช่เรื่องการลงทุนอย่างเดียว
แต่มองที่นักวิเคราะห์ที่มองบริษัทอยู่ด้วย
ถึงระดับนี้ ถือว่า สุดยอดของการวิเคราะห์ คือ กล้ามอง drawdown ของตัวเอง
และประกาศให้คนอื่นระวังไว้
เวลาเทรด fund manager ต้องมอง drawdowns จนเป้นเรื่องปกติ
ไม่ใช่ปกติซิครับ มองเป้นอาชีพ
ซึ่งมันจะเป็นตัววัดว่า ต่างจากมือใหม่อย่างไร
แปลว่าอะไรหรือครับ ไอ้ "ดอดาว" นี้
ดอดาวตัวนี้ ในความหมายผมกับเพื่อนเทรดเดอร์คนอื่นต่างกันครับ
ผมเคยเปรียบเทียบมาแล้ว
สำหรับ fund manager มื่ออาชีพ ไม่ใช่เรื่อง ego เหมือน amateur
แต่ผู้ดูดวิญญาณ ที่จะทำให้ผม shut down positions ในวันนั้นทั้งหมด
คือ เรื่อง ความเจ็บป่วยของคนในครอบครัว
และจะมีผลต่อสมาธิในการเทรดของผมอย่างแน่นอน
ทุกท่านมี ดอยาว เอ้ย ดอดาว หมดละครับ
หาให้เจอมันคืออะไร ยอมรับมันซะ
เวลาเกิดขึ้นจริงๆ จะได้ไม่ panic ครับ
และมีสติในการรับมื่อกับปัญหาต่างๆ ที่เราเห้นมันล่วงหน้าไว้แล้วครับ
เขาจะแทรกตรงท้ายว่า risks of assumption ของเขาคืออะไร
สิ่งที่เขาคาดการณ์เอาไว้จะพลิกกลับจากดำเป้นขาวจากขาวเป้นดำได้ เพราะอะไร
เขากำลังทำอะไรอยู๋หรือครับ กำลังจับผิดตัวเองครับ
โบรกมองความเสี่ยงไม่ใช่เรื่องการลงทุนอย่างเดียว
แต่มองที่นักวิเคราะห์ที่มองบริษัทอยู่ด้วย
ถึงระดับนี้ ถือว่า สุดยอดของการวิเคราะห์ คือ กล้ามอง drawdown ของตัวเอง
และประกาศให้คนอื่นระวังไว้
เวลาเทรด fund manager ต้องมอง drawdowns จนเป้นเรื่องปกติ
ไม่ใช่ปกติซิครับ มองเป้นอาชีพ
ซึ่งมันจะเป็นตัววัดว่า ต่างจากมือใหม่อย่างไร
แปลว่าอะไรหรือครับ ไอ้ "ดอดาว" นี้
ดอดาวตัวนี้ ในความหมายผมกับเพื่อนเทรดเดอร์คนอื่นต่างกันครับ
ผมเคยเปรียบเทียบมาแล้ว
สำหรับ fund manager มื่ออาชีพ ไม่ใช่เรื่อง ego เหมือน amateur
แต่ผู้ดูดวิญญาณ ที่จะทำให้ผม shut down positions ในวันนั้นทั้งหมด
คือ เรื่อง ความเจ็บป่วยของคนในครอบครัว
และจะมีผลต่อสมาธิในการเทรดของผมอย่างแน่นอน
ทุกท่านมี ดอยาว เอ้ย ดอดาว หมดละครับ
หาให้เจอมันคืออะไร ยอมรับมันซะ
เวลาเกิดขึ้นจริงๆ จะได้ไม่ panic ครับ
และมีสติในการรับมื่อกับปัญหาต่างๆ ที่เราเห้นมันล่วงหน้าไว้แล้วครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี
โพสต์ที่ 18
เวลาคนอื่นโพส ผมมักอ่านเขาไปในตัวด้วย
การอ่านใจตัวเองนานๆ นั้น
สิ่งที่มาเองคือการอ่านใจคนอื่นออกไปด้วย
ใจตัวนี้ ไม่ได้หมายความว่าผมอ่านอนาคตเขาออก
ผมกำลังอ่าน ego ของคนที่ตอบกระทู้
เพียงภาษาและอารมณ์ที่เขาแสดงออกในโพสของเขา
ผมก็อ่าน ego ของเขาออกบางส่วนได้
ถ้าผมไม่โดน tricked นะครับ
คุณดำพูดน้อย ระวังทั้งอารมณ์ตัวเองและภาษาที่ใช้
ผมเดาว่าคุณดำอายุเลยห้าสิบแล้ว
คุณดำใช้ชื่อ login ว่า ดำ ซึ่งมีความหมายไปในทางลบ
แสดงว่า คุณดำ เป็นคนถ่อมตัว ไม่ชอบอยู๋ในที่แจ้ง
ไม่ชอบเป้นจุดสนใจของคนหมู่มากและรักสันโดษ
ทำไมคุณดำถึงคิดว่าคนที่ประสบความสำเร็จแล้ว
อย่างอดีตนายกทักษิณถึงลงมาเล่นการเมือง
Ego ส่วนที่ลึกทีสุดสำหรับมนุษย์ก็คือ การเป็นคนสำคัญ
หรือ พูดอีกอย่างคือ ความต้องการการยอมรับจากสังคมนั่นเองครับ
เซียนที่คุณดำเห้นออกสื่อยังเอาชนะตัวเองในข้อนี้ไม่ได้
ยังหลงวนเวียนใน ego ของตัวเองครับ ^O-O^
การอ่านใจตัวเองนานๆ นั้น
สิ่งที่มาเองคือการอ่านใจคนอื่นออกไปด้วย
ใจตัวนี้ ไม่ได้หมายความว่าผมอ่านอนาคตเขาออก
ผมกำลังอ่าน ego ของคนที่ตอบกระทู้
เพียงภาษาและอารมณ์ที่เขาแสดงออกในโพสของเขา
ผมก็อ่าน ego ของเขาออกบางส่วนได้
ถ้าผมไม่โดน tricked นะครับ
คุณดำพูดน้อย ระวังทั้งอารมณ์ตัวเองและภาษาที่ใช้
ผมเดาว่าคุณดำอายุเลยห้าสิบแล้ว
คุณดำใช้ชื่อ login ว่า ดำ ซึ่งมีความหมายไปในทางลบ
แสดงว่า คุณดำ เป็นคนถ่อมตัว ไม่ชอบอยู๋ในที่แจ้ง
ไม่ชอบเป้นจุดสนใจของคนหมู่มากและรักสันโดษ
ทำไมคุณดำถึงคิดว่าคนที่ประสบความสำเร็จแล้ว
อย่างอดีตนายกทักษิณถึงลงมาเล่นการเมือง
Ego ส่วนที่ลึกทีสุดสำหรับมนุษย์ก็คือ การเป็นคนสำคัญ
หรือ พูดอีกอย่างคือ ความต้องการการยอมรับจากสังคมนั่นเองครับ
เซียนที่คุณดำเห้นออกสื่อยังเอาชนะตัวเองในข้อนี้ไม่ได้
ยังหลงวนเวียนใน ego ของตัวเองครับ ^O-O^
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4214
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี
โพสต์ที่ 19
คนทั่วไปก็มี ego กันทั้งนั้นแหละครับ จะมากน้อยว่ากันไป ผมก็มี คุณโหน่งเองก็มี (ไม่งั้นคงไม่มาโพสต์กันอยู่นี่หรอก)
การอ่านคนอื่น ก่อนหน้านี้ผมก็เคยพยายามทำ แบบ "เอาใจเขามาใส่ใจเรา" แต่ตอนนี้พยายามเลิกแล้ว
เอาเวลามาอ่านใจตัวเองดีกว่า สนใจคนอื่นไปก็เท่านั้น อ่านใจตัวเองยังไม่แน่ไม่นอน นับประสาอะไรกับใจคนอื่น
อ้อ... แล้วผมยังไม่ 50 นะครับ ยังไม่ใกล้ด้วย ถ้าถึงหลัก 5 เมื่อไหร่ ถ้าเว็บนี้ยังอยู่ แล้วผมก็ยังเข้ามาอยู่ จะขอลองเปลี่ยน log in เป็น "ลุงดำ" แล้วกันครับ
การอ่านคนอื่น ก่อนหน้านี้ผมก็เคยพยายามทำ แบบ "เอาใจเขามาใส่ใจเรา" แต่ตอนนี้พยายามเลิกแล้ว
เอาเวลามาอ่านใจตัวเองดีกว่า สนใจคนอื่นไปก็เท่านั้น อ่านใจตัวเองยังไม่แน่ไม่นอน นับประสาอะไรกับใจคนอื่น
อ้อ... แล้วผมยังไม่ 50 นะครับ ยังไม่ใกล้ด้วย ถ้าถึงหลัก 5 เมื่อไหร่ ถ้าเว็บนี้ยังอยู่ แล้วผมก็ยังเข้ามาอยู่ จะขอลองเปลี่ยน log in เป็น "ลุงดำ" แล้วกันครับ
กราฟที่มองไม่เห็นกับกราฟที่มองเห็น
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี
โพสต์ที่ 20
ไม่รู็ทำไม ผมถึงนึกว่าคนที่โพสนี้เป็นผู้หญิงไปได้
5555555 สงสัยผมคงติ้งต้องไปแล้ว
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับ
หลายปีก่อน ผมไปกราบหลวงปู่แหวน
ท่านเคยบอกว่า
"ที่ไหนมีคนเยอะ อย่าไป จะมีอันตรายมาก"
เวลาผมคิดถึงตลาดหุ้น ผมมีคำสอนของท่านในใจเสมอครับ
For 2012, wish u tremendous upside potentials of love and luck opportunites krab.
5555555 สงสัยผมคงติ้งต้องไปแล้ว
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับ
หลายปีก่อน ผมไปกราบหลวงปู่แหวน
ท่านเคยบอกว่า
"ที่ไหนมีคนเยอะ อย่าไป จะมีอันตรายมาก"
เวลาผมคิดถึงตลาดหุ้น ผมมีคำสอนของท่านในใจเสมอครับ
For 2012, wish u tremendous upside potentials of love and luck opportunites krab.
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี
โพสต์ที่ 21
สวัสดีครับ เทรดไปเทรดมาครบปี
เห็นนักข่าวเขามีฉายา
อ่านแล้วอดยิ้มไปไม่ได้ครับ
บันทึกประจำวันเอามาทบทวนบางอย่างไม่คิดว่าจะเขียนเอง
อย่างเช่น ผมลงบันทึกว่า
ไม่มีกลยุทธ์การลงทุนแบบไหนที่ใช้ได้ทุกสถานการณ์
ความยึดหยุ่นของกลยุทธ์ต่างหากที่ต้องใช้ให้เป็น
แล้วเอา perfomances ปลายปีมาวัดกัน
ไม่รู็ว่าเพื่อนคนหนึ่งที่ถือหุ้นสองวันก็ถือว่า long term แล้ว จะเป็นอย่างไรบ้าง
แต่เขาปรับตามลักษณะนิสัยการเทรดของเขา
จะว่าไปแล้ว เขารู้จุดอ่อนของตัวเองที่ยอมรับเรื่องการขาดทุนไม่ได้
เทรดสั้นและ take small profits ตามลิมิต personal's talent ของเขา
อีกคนหนึ่งถือสองเดือนแต่ถือว่า short term
ต่างกันจริงๆ แต่สองคนนี้กับเป็นเพื่อน talk กันได้ดีทีเดียว
พอถึงระดับอาชีพแล้ว พวกเราไม่ได้ เทรด stocks กันแล้ว
พวกเรา trade against risks
trade against Mr. Market
trade against จิตวิทยาของตลาด
ส่วนผมจัดเป็นประเภท
trade against our own personalities
trade against our weakness
trade against ego ของตัวเองครับ
เห็นนักข่าวเขามีฉายา
อ่านแล้วอดยิ้มไปไม่ได้ครับ
บันทึกประจำวันเอามาทบทวนบางอย่างไม่คิดว่าจะเขียนเอง
อย่างเช่น ผมลงบันทึกว่า
ไม่มีกลยุทธ์การลงทุนแบบไหนที่ใช้ได้ทุกสถานการณ์
ความยึดหยุ่นของกลยุทธ์ต่างหากที่ต้องใช้ให้เป็น
แล้วเอา perfomances ปลายปีมาวัดกัน
ไม่รู็ว่าเพื่อนคนหนึ่งที่ถือหุ้นสองวันก็ถือว่า long term แล้ว จะเป็นอย่างไรบ้าง
แต่เขาปรับตามลักษณะนิสัยการเทรดของเขา
จะว่าไปแล้ว เขารู้จุดอ่อนของตัวเองที่ยอมรับเรื่องการขาดทุนไม่ได้
เทรดสั้นและ take small profits ตามลิมิต personal's talent ของเขา
อีกคนหนึ่งถือสองเดือนแต่ถือว่า short term
ต่างกันจริงๆ แต่สองคนนี้กับเป็นเพื่อน talk กันได้ดีทีเดียว
พอถึงระดับอาชีพแล้ว พวกเราไม่ได้ เทรด stocks กันแล้ว
พวกเรา trade against risks
trade against Mr. Market
trade against จิตวิทยาของตลาด
ส่วนผมจัดเป็นประเภท
trade against our own personalities
trade against our weakness
trade against ego ของตัวเองครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี
โพสต์ที่ 23
Morning krab,
I just read Jim Rogers's Quotation:
"I don’t know any way to short either Harvard or Stanford."
Rogers said that he sees bubbles everywhere including American tertiary educations and European football teams. But that he doesn't know a way to short either of those. Instead he is going to short the U.S. government bond market.
I agree with him millionly krab; there are certain things in life I can't find ways to short them profitly. Of those are my country, my family, my friends, and adding in the trading lists: either of CPF and BGH.
I just read Jim Rogers's Quotation:
"I don’t know any way to short either Harvard or Stanford."
Rogers said that he sees bubbles everywhere including American tertiary educations and European football teams. But that he doesn't know a way to short either of those. Instead he is going to short the U.S. government bond market.
I agree with him millionly krab; there are certain things in life I can't find ways to short them profitly. Of those are my country, my family, my friends, and adding in the trading lists: either of CPF and BGH.
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี
โพสต์ที่ 25
Sawasdee krab,
The last day of my ego work in the market battle field.
Once asked by a trainee how to deal with emotions involved.
If I decide to do something, anything, everything, I become myself determined to either succeed or fail, regardless of ego obstacles.
Most people have only the winning attitudes.
I have both.
Losing is a mirror of winning.
Why ignore the downside?
I don't worry about any surprising upsides.
I confidently put up my mind to the downside complications and I have never grew out to be downsided.
That is a big different, extraordinary diferrent from other traders krab.
The last day of my ego work in the market battle field.
Once asked by a trainee how to deal with emotions involved.
If I decide to do something, anything, everything, I become myself determined to either succeed or fail, regardless of ego obstacles.
Most people have only the winning attitudes.
I have both.
Losing is a mirror of winning.
Why ignore the downside?
I don't worry about any surprising upsides.
I confidently put up my mind to the downside complications and I have never grew out to be downsided.
That is a big different, extraordinary diferrent from other traders krab.
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4214
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี
โพสต์ที่ 26
ที่จริงเรื่องนี้ทั้งบัฟเฟตต์ ทั้งโซรอส ก็เน้นนะ เป็นกฎข้อแรกที่สำคัญที่สุดด้วยซ้ำ คือ รักษาเงินต้นไว้ให้ได้humdrum เขียน:Why ignore the downside?
I don't worry about any surprising upsides.
I confidently put up my mind to the downside complications and I have never grew out to be downsided.
That is a big different, extraordinary diferrent from other traders krab.
กราฟที่มองไม่เห็นกับกราฟที่มองเห็น
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี
โพสต์ที่ 27
Fund manager มอง รัฐ
ฉายาใหม่ "รัฐบาลเอาอยู่" ผมเห็นในข่าวครับ
คนไทยพื้นฐานนิสัยแก้ปัญหา downside ไม่เก่ง
ไม่ชินและไม่ยอมรับด้วย
ดูที่ละคร drama ในไทยตอนนี้
มันสะท้อนว่าผู้จัดละครเขามองตลาดคนดูอย่างไร
เมืองไทยมัน illusion มาก ๆ
ประเทศนี้ แก้ปัญหากันด้วย music video
เรื่องเงินเฟ้อใครตามข่าวล่าสุด
ปรับให้ตามความเป็นจริงดีแล้ว
ตอนนี่เงินเฟ้อมันเป้นตัวเลข faked ทั้งนั้น
เพราะไม่สะท้อนราคาน้ำมันและราคาสินค้าเกษตรที่ปรับขึ้นมาก
เหตุผลรัฐคือกลัวคนตื่นตะหนก
เขามองจิตวิทยาฝูงชนมากเกินไป
คนไทยต้องยอมรับความจริง
ว่าพวกเรา suck มากกับการรับมือกับวิกฤตต่างๆ
ทั้งๆ ที่คนไทยควรจะเก่งกว่าชาติใดในโลก
ในเรื่องการจัดการกับ ความไม่แน่นอน
ด้วยคำสอนของพระพุทธองค์นั่นเองครับ
"ทุกข์คือสิ่งประเสริฐ"
รัฐกลับเอามือปิดทุกข์
ปล่อยให้คนไทยเจอทุกข์และเรียนรู็ที่จะรับมือกันมันอย่างกล้าหาญ
และปล่อยศักยภาพของเราออกมาอย่างเต็มที่
ผมกลับชอบที่เวลาเจอทุกข์
ทุกข์สอนเราได้มากกว่าความสุข
คนไทยจะพัฒนาได้เองเพราะกล้ารับมื่อกับทุกข์
ไม่ใช่พัฒนาเพราะคนญึ่ปุ่นเหมือนในตอนนี
ผมนับถือพวกเขาเพราะคนของเขารับมื่อกับทุกข์ได้เก่งมาก
คิดถึงบรรพบุรุษของพวกเราคนไทยที่ต่อสู้ในอดีต
คนไทยสมัยก่อนกล้าหาญมากที่จะเจอกับความทุกข์
I would manage and hedge ทุกข์ rather than หนีมันครับ
ฉายาใหม่ "รัฐบาลเอาอยู่" ผมเห็นในข่าวครับ
คนไทยพื้นฐานนิสัยแก้ปัญหา downside ไม่เก่ง
ไม่ชินและไม่ยอมรับด้วย
ดูที่ละคร drama ในไทยตอนนี้
มันสะท้อนว่าผู้จัดละครเขามองตลาดคนดูอย่างไร
เมืองไทยมัน illusion มาก ๆ
ประเทศนี้ แก้ปัญหากันด้วย music video
เรื่องเงินเฟ้อใครตามข่าวล่าสุด
ปรับให้ตามความเป็นจริงดีแล้ว
ตอนนี่เงินเฟ้อมันเป้นตัวเลข faked ทั้งนั้น
เพราะไม่สะท้อนราคาน้ำมันและราคาสินค้าเกษตรที่ปรับขึ้นมาก
เหตุผลรัฐคือกลัวคนตื่นตะหนก
เขามองจิตวิทยาฝูงชนมากเกินไป
คนไทยต้องยอมรับความจริง
ว่าพวกเรา suck มากกับการรับมือกับวิกฤตต่างๆ
ทั้งๆ ที่คนไทยควรจะเก่งกว่าชาติใดในโลก
ในเรื่องการจัดการกับ ความไม่แน่นอน
ด้วยคำสอนของพระพุทธองค์นั่นเองครับ
"ทุกข์คือสิ่งประเสริฐ"
รัฐกลับเอามือปิดทุกข์
ปล่อยให้คนไทยเจอทุกข์และเรียนรู็ที่จะรับมือกันมันอย่างกล้าหาญ
และปล่อยศักยภาพของเราออกมาอย่างเต็มที่
ผมกลับชอบที่เวลาเจอทุกข์
ทุกข์สอนเราได้มากกว่าความสุข
คนไทยจะพัฒนาได้เองเพราะกล้ารับมื่อกับทุกข์
ไม่ใช่พัฒนาเพราะคนญึ่ปุ่นเหมือนในตอนนี
ผมนับถือพวกเขาเพราะคนของเขารับมื่อกับทุกข์ได้เก่งมาก
คิดถึงบรรพบุรุษของพวกเราคนไทยที่ต่อสู้ในอดีต
คนไทยสมัยก่อนกล้าหาญมากที่จะเจอกับความทุกข์
I would manage and hedge ทุกข์ rather than หนีมันครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี
โพสต์ที่ 28
Facebook : Korn Chatikavanij
ขออีกทีเรื่องเศรษฐกิจครับ ต้องเขียน เพราะแนวคิดรัฐบาล อันตรายจริงๆ
การอนุมัติในหลักการให้กู้ยืมเงิน
350,000ล้านบาทเพื่อแก้ไขปัญหานำ้ท่วมนั้น
เป็นไปตามที่ผมเคยเขียนไว้ว่ารัฐบาลเพื่อไทยสุดท้ายก็จะกู้และจะเป็นการกู้ที่ไร้หลักการด้วย
รัฐบาลต้องชี้แจงว่า
1. ทำไมถึงคัดค้านหลักการ ไทยเข้มแข็ง
และต่อว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์เรื่องการกู้ยืม แต่เวลาผ่านไปเพียง 4
เดือนรัฐบาลนี้อนุมัติการกู้ยืมไปแล้ว 750,000ล้านบาท
ไม่นับรวมหนี้นอกงบประมาณที่กองทุนนำ้มัน ฯลฯ
2. ทำไมต้องใช้เงินนอกระบบงบประมาณ
โครงการสาธารณูประโภคขนาดใหญ่เหล่านี้ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ
ไม่ได้เป็นการชำระเงินงวดเดียวทันที
3. จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีข้อมูลว่าจะใช้เงินทำอะไร แต่ปรากฎว่าอนุมัติเงินแล้ว
ส่วนที่รองนายกฯกิติรัตน์อ้างว่าต้องผลักภาระหนี้ของรัฐบาลไปให้แบงก์ชาตินั้น
รัฐบาลต้องคิดให้รอบคอบว่ามีสิทธิทำได้หรือไม่
และจะส่งผลอย่างไรกับแบงก์ชาติ
ส่วนเจ้าหนี้รัฐบาลที่ถืิอพันธบัตรอยู่จะบังคับให้เขาเปลี่ยนไปเป็นเจ้าหนี้แบงก์ชาติได้อย่างไร
แบงก์ชาติไม่มีรายได้เหมือนรัฐบาล
เมื่อถึงเวลาใช้หนี้ก็ต้องพิมพ์เงินมาจ่าย ระบบการเงินจะเป็นอย่างไร
แม้แต่จะแก้กฎหมายให้แบงก์ชาติปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยตำ่(soft
loan)เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจก็ต้องคิดให้ดี
ปัจจุบันรัฐบาลมีธนาคารรัฐเป็นเครื่องมืออยู่แล้ว
และแบงก์ชาติก็ต้องปล่อยกู้ผ่านธนาคารเหล่านี้อยู่ดี
ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลมักจะร้องขอให้แบงก์ชาติมาช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
ท่านต้องตระหนักว่าต่างคนต่างหน้าที่ครับ
แบงก์ชาติไม่มีหน้าที่ทำงานแทนรัฐบาล และในฐานะผู้มีอำนาจพิมพ์เงินได้
เขามาเป็นเครื่องมือรัฐบาลเมื่อใด นับถอยหลังเศรษฐกิจไทยได้ทันที
Prevailing his idea will reflect my assumption that SET stock's price movements will implicit pressure to bearish blueprint. The propability of SET's intrinsic uncertainty will be increased by any specificed amount of printing bath money. Wellcome to Zimbabwe krab!
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี
โพสต์ที่ 29
วันนี้ผมไปดูรูปเก่าๆ เห้นรูปนี้
ใช้เทคติคการอินเวิด
เดิมทีพี่เขาเป้นคนอารมณ์ร้อน พี่ท่านเลยอินเวิดตัวเอง
ด้วยการไว้เล็บยาวที่มือ ดูจากรูปน่าจะถนัดซ้ายครับ
หลังจากไว้เล็บ ก็เปลี่ยนเป็นคนใจเย็นไปด้วย
โอเคเลยครับ เทคติคอาจไม่เร้าใจ แต่ผลที่ได้ถือว่าตามเป้า
พี่ท่านละตัวกรูได้สำเร็จ
ผมชอบขับรถเร็ว หาวิธีละตัวกรูอยู่นาน
เมื่อวานเอาป้าย "มื่อใหม่หัดขับ" มาแปะท้ายรถ
ได้ผลครับ ผมกลายเป้นคนขับรถช้าไปแล้ว
ผมอ่านตัวเองว่าเพราะอะไรถึงเปลี่ยนพฤติกรรมการขับเร็วเป้นช้าลง
เพียงแค่สติกเกอร์ใบเดียวได้
อ่านอยู๋นาน อ่านตัวเองไม่ออก
เมื่อคืน นอนนึกตั้งนาน
มันทำให้ผมไปสัญญากับชาวโลกทางอ้อมนั่นเอง
เทคติคการสัญญากับชาวโลกนั้น ดีไม่ดีไม่ทราบครับ
แต่ใช้ได้ดีกับผมและลูกน้องในการบริหารกองทุนเช่นกัน
ปีนี้พึ่งต้นปี เวลาตั้งเป้าหมายผลตอบแทน อย่าไปตั้งเป้าคนเดียว
ผมจะบอกให้ลูกน้องประกาศให้คนอื่นได้รับรู็
อย่างเช่น ปีนี้ผมถามลูกน้องทุกคนว่า ปีนี้สัญญากับผมได้หรือไม่ว่า
จะทำให้ผลตอบแทนถึงร้อยเปอร์เซ็นต์
ไม่มีใครกล้าสัญญาเลย
การสัญญากับตัวเองนั้น เรามักจะละเลยวินัยและแพ้ต่ออคติตัสเองได้ง่าย
แต่การบอกต่อชาวโลกจะทำให้เราอยู๋ในสภาวะที่ไม่สบายกายสบายใจเอาอย่างมาก
แบกความคาดหวังของคนอื่นไม่ง่ายเลย
แต่ถ้าเราหาวิธีและเทคติคการอินเวิดความผิดหวังของคนอื่นได้
การเรียนรู้ที่จะแบกความกดดันต่างๆ เป็นประสบการณ์เรียนรู็ที่สุดยอดอย่างมาก
อย่างน้อย มันทำให้เราตั้งใจมากกว่าเดิมและดิ้นรนดึงศักยภาพของตัวเองออกมาใช้มากขึ้น
เหมือนอย่าง Benjamin Fraklin ว่าไว้ครับ
No pain no gain
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมชาววีไอที่เป็นชาวไอวี
โพสต์ที่ 30
วันนี้นั่งมอเตอไซค์
ปวดขี่ ทรมานมาก
ท้องเสียตั้งแต่เมื่อคืน
ตอนติดไฟแดง อุเม่พลันมองไปเห็นตูดใคร
มองเห้นผู้หญิงนั่งหัวเราะคนเดียวตรงสี่แยก
หันหลังให้ผม ผมเห็นเธอใส่กางเกงตูดขาด
ผมมองอยู๋นานครับ มองที่ตูดของเธอละครับ
เดินแล้วชี้ไปที่ตูดตัวเอง ใครผ่านมาก็หัวเราะ
ฉันสบายใจ ไม่อายใคร
ผมก็คิดได้ว่า นี่ซิคนจริง อย่างที่ทางธรรมเขาว่าไว้
ใจเป้นใหญ่ นี่เขาไม่อายใคร ตูดเป็นเรื่องรอง
ถ้าเป็นท่านอื่น พอตูดขาด ไม่กล้าเดินไปไหนแล้ว
รีบหาอะไรมาปิดตูด คนอื่นเห็นตูดเป็นใหญ่กันหมด
ปวดขี่บนมอไซค์ ตดมันส์จริงๆ
ผ่านโรงพยาบาล พอนึกขึ้นได้ว่า
คนที่ใจสำคัญอยู๋ในนั้นกันต่างหาก หาได้อยู๋ในวัดเลย
ความจริงคนที่ถือว่าใจเป็นใหญ่ที่แท้จริงและไม่สนใจตูด
มีมากมายในกรุงเทพ แต่เป็นคนบ้าในโรงพยาบาลกันหมด
แต่ผมว่า คนพวกนี้ซิที่ถือว่าใจเป้นใหญ่ที่แท้จริง
ใจอยากหัวเราะ ใจอยากพูดคนเดียวก็ทำไป
ผมไม่เคยเห้นพระที่ไหนเดินบิณทบาตร
สบงตูดขาดแล้วกล้าใส่เดิน
ผ่านวัด พลันนึกได้
ที่เทศน์กันหลายท่านว่าใจเป็นใหญ่
ทุกอย่างล้วนอยู๋ที่ใจ
สบงตูดขาด ท่านอย่าเย็บก็แล้วกัน
ลงจากมอเตอร์ไซค์ มาต่อรถไฟใต้ดิน
ทั้งที่นั่งรถไฟ ชั้นหนึ่ง สองสาม
ก็ต่างกันที่ความสบายตูดกันทั้งนั้น
อย่าว่าแต่ราคาที่นั่งบนเครื่องบิน
ที่นั่งรถยนตร์ยูโรปกับรถญี่ปุ่น
ก็ต่างกันที่ความลำบากของตูดอย่างเห้นได้ชัด
ราคาต่างกันก็เพราะสบายตูดทั้งนั้น
ซื้อมากี่ล้านก็เอามาให้ตูดนั่ง
นี่ตูดสำคัญกว่าใจแน่ๆ
นั่งเจ็บตูดก็ไม่สบายใจแล้ว
ตูดเป็นใหญ่หรือใจเป็นใหญ่กันแน่
ยิ่งมีเงิน มีอำนาจ
เก้าอี้นั่งก็ยิ่งสบายตูดไปด้วย
กลับถึงบ้าน วิ่งเข้าห้องน้ำแถบไม่ทัน
ผมจึงขอลงความเห้นว่า
ตุดเป็นใหญ่แน่ๆ 55555
ปวดขี่ ทรมานมาก
ท้องเสียตั้งแต่เมื่อคืน
ตอนติดไฟแดง อุเม่พลันมองไปเห็นตูดใคร
มองเห้นผู้หญิงนั่งหัวเราะคนเดียวตรงสี่แยก
หันหลังให้ผม ผมเห็นเธอใส่กางเกงตูดขาด
ผมมองอยู๋นานครับ มองที่ตูดของเธอละครับ
เดินแล้วชี้ไปที่ตูดตัวเอง ใครผ่านมาก็หัวเราะ
ฉันสบายใจ ไม่อายใคร
ผมก็คิดได้ว่า นี่ซิคนจริง อย่างที่ทางธรรมเขาว่าไว้
ใจเป้นใหญ่ นี่เขาไม่อายใคร ตูดเป็นเรื่องรอง
ถ้าเป็นท่านอื่น พอตูดขาด ไม่กล้าเดินไปไหนแล้ว
รีบหาอะไรมาปิดตูด คนอื่นเห็นตูดเป็นใหญ่กันหมด
ปวดขี่บนมอไซค์ ตดมันส์จริงๆ
ผ่านโรงพยาบาล พอนึกขึ้นได้ว่า
คนที่ใจสำคัญอยู๋ในนั้นกันต่างหาก หาได้อยู๋ในวัดเลย
ความจริงคนที่ถือว่าใจเป็นใหญ่ที่แท้จริงและไม่สนใจตูด
มีมากมายในกรุงเทพ แต่เป็นคนบ้าในโรงพยาบาลกันหมด
แต่ผมว่า คนพวกนี้ซิที่ถือว่าใจเป้นใหญ่ที่แท้จริง
ใจอยากหัวเราะ ใจอยากพูดคนเดียวก็ทำไป
ผมไม่เคยเห้นพระที่ไหนเดินบิณทบาตร
สบงตูดขาดแล้วกล้าใส่เดิน
ผ่านวัด พลันนึกได้
ที่เทศน์กันหลายท่านว่าใจเป็นใหญ่
ทุกอย่างล้วนอยู๋ที่ใจ
สบงตูดขาด ท่านอย่าเย็บก็แล้วกัน
ลงจากมอเตอร์ไซค์ มาต่อรถไฟใต้ดิน
ทั้งที่นั่งรถไฟ ชั้นหนึ่ง สองสาม
ก็ต่างกันที่ความสบายตูดกันทั้งนั้น
อย่าว่าแต่ราคาที่นั่งบนเครื่องบิน
ที่นั่งรถยนตร์ยูโรปกับรถญี่ปุ่น
ก็ต่างกันที่ความลำบากของตูดอย่างเห้นได้ชัด
ราคาต่างกันก็เพราะสบายตูดทั้งนั้น
ซื้อมากี่ล้านก็เอามาให้ตูดนั่ง
นี่ตูดสำคัญกว่าใจแน่ๆ
นั่งเจ็บตูดก็ไม่สบายใจแล้ว
ตูดเป็นใหญ่หรือใจเป็นใหญ่กันแน่
ยิ่งมีเงิน มีอำนาจ
เก้าอี้นั่งก็ยิ่งสบายตูดไปด้วย
กลับถึงบ้าน วิ่งเข้าห้องน้ำแถบไม่ทัน
ผมจึงขอลงความเห้นว่า
ตุดเป็นใหญ่แน่ๆ 55555