รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 พฤศจิกายน 2554 06:25:59 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 พ.ย.) หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ปรับลดการประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้แรงหนุนจากข่าวสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) และมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ยืนยันว่าจะยังไม่ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ แม้สหรัฐไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณได้ก็ตาม

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 53.59 จุด หรือ 0.46% ปิดที่ 11,493.72 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 4.94 จุด หรือ 0.41% ปิดที่ 1,188.04 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 1.86 จุด หรือ 0.07% ปิดที่ 2,521.28 จุด

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการจีดีพีไตรมาส 3 ครั้งที่ 2 เมื่อเวลา 20.30 น.ตามเวลาไทยเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า จีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัวในอัตรา 2% ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าการประมาณการครั้งแรกที่ 2.5% โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการที่ภาคเอกชนปรับลดสต็อกสินค้าคงคลัง

ทั้งนี้ ตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการคำนวณจีดีพี และยังเป็นข้อมูลที่มีผลกระทบต่อการประเมินวงจรทางธุรกิจและการขยายตัวของเศรษฐกิจด้วย ซึ่งหากสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจปรับตัวสูงขึ้น ก็ถือเป็นการส่งสัญญาณถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า ภาคธุรกิจอาจจะปรับลดสต็อกสินค้าคงคลังในอนาคตอันใกล้นี้ หากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงชะลอตัว

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยลบจากรายงานที่ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 3 เดือนของรัฐบาลสเปนพุ่งขึ้นแตะระดับ 5.1% ในการประมูลครั้งล่าสุดเมื่อวานนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการประมูลในเดือนต.ค.ที่ระดับ 2.3% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 6 เดือนพุ่งขึ้นแตะระดับ 5.2% จากการประมูลครั้งก่อนที่ระดับ 3.3% ซึ่งเป็นผลมาจากการที่นักลงทุนไม่มั่นใจว่ารัฐบาลสเปนชุดใหม่ภายใต้การนำของนายมาเรียโน ราฮอย จะสามารถลดยอดขาดดุลงบประมาณได้

นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากการที่คณะกรรมการร่วมระหว่างสองพรรคการเมืองของสหรัฐ หรือ Super Committee ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณลงมูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้าได้ ซึ่งหมายความว่าสหรัฐจะต้องปรับลดงบประมาณของโครงการต่างๆลงในวงกว้างโดยอัตโนมัติ

อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์และดัชนีอื่นๆในตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เนื่องจากตลาดขานรับข่าวที่ว่า เอสแอนด์พี และมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ยืนยันว่าจะไม่ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ แม้พรรครีพับลิกันและเดโมแครทไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องดังกล่าวก็ตาม นอกจากนี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ยืนกรานว่าเขาจะใช้สิทธิประธานาธิบดีในการคัดค้านความพยายามใดๆก็ตามที่จะทำให้รัฐบาลสหรัฐต้องปรับลดงบประมาณของโครงการต่างๆลงโดยอัตโนมัติ

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนมากขึ้นเมื่อกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ตัดสินใจอนุมัติการใช้เครื่องมือด้านการปล่อยกู้ครั้งใหม่ เพื่อช่วยเหลือประเทศสมาชิกที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้ยุโรปและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

หุ้นเน็ทฟลิกซ์ อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการวีดิโอออนไลน์ ดิ่งลง 5.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยแผนการระดมทุนเพิ่มมูลค่า 400 ล้านดอลลาร์ เพื่อชดเชยการขาดทุน

หุ้นแคมป์เบลล์ ซุป ซึ่งเป็นผู้ผลิตซุปและอาหารรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 5.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิลดลง 5% ส่วนหุ้นเมดทรอนิก ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ ดีดตัวขึ้น 4.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่งเกินคาด

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยรายได้ส่วนบุคคลเดือนต.ค.และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค. ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

ส่วนวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจเนื่องจากตลาดปิดทำการในวันพฤหัสบดีเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า ส่วนวันศุกร์ตลาดจะปิดทำการเร็วกว่าปกติ

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 พฤศจิกายน 2554 07:30:51 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 พ.ย.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 3 เดือนของสเปนพุ่งขึ้นอีกในการประมูลเมื่อวานนี้ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าวิกฤตหนี้ยุโรปอาจจะลุกลามไปยังสเปนและประเทศอื่นๆ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่สหรัฐปรับลดการประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3

ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 15.78 จุด แตะที่ 5206.82 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากผลการประมูลพันธบัตรครั้งล่าสุดของรัฐบาลสเปนเมื่อวานนี้บ่งชี้ว่า สเปนสามารถระดมทุนจากการประมูลขายพันธบัตรประเภท 3 เดือน และ 6 เดือนในวันนี้ได้ทั้งสิ้น 2.98 พันล้านยูโร หรือ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้ แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 3 เดือนพุ่งขึ้นแตะระดับ 5.1% จากการประมูลในเดือนต.ค.ที่ระดับ 2.3% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 6 เดือนพุ่งขึ้นแตะระดับ 5.2% จากการประมูลครั้งก่อนที่ระดับ 3.3%

ทั้งนี้ ต้นทุนการกู้ยืมของสเปนที่ยังคงปรับตัวสูงขึ้น สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินในอนาคตของสเปน

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ปรับลดการประมาณการจีดีพีไตรมาส 3 ครั้งที่ 2 ลงมาอยู่ที่ระดับ 2% ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าการประมาณการครั้งแรกที่ 2.5% ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกด้วย

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง รวมถึงหุ้นธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) ร่วงลง 5.8% และหุ้นลอยด์สร่วงลง 4.4% เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่า ธนาคารสองแห่งนี้อาจจะต้องระดมทุนเพิ่มเติม

หุ้นโธมัส คุ๊ก ซึ่งเป็นผู้ให้บริการการท่องเที่ยวรายใหญ่ของอังกฤษ ดิ่งลง 75% หลังจากมีข่าวว่าบริษัทกำลังเจรจากับสถาบันการเงินบางแห่งเพื่อขอเงินกู้

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ตลาดหุ้นยุโรป
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 พฤศจิกายน 2554 07:51:41 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ (22 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้สาธารณะ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลสเปนพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในการประมูลครั้งล่าสุดเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงไม่มากนัก เพราะตลาดได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่าสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) และมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ยืนยันว่าจะยังไม่ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ แม้สหรัฐไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณได้ก็ตาม

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.7% ปิดที่ 223.27 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 2870.68 จุด ลบ 24.26 จุด ดัชนี DAX ตลาดเยอรมนีปิดที่ 5537.39 ลบ 68.61 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5206.82 จุด ลบ 15.78 จุด

ตลาดหุ้นยุโรปอ่อนแรงลงหลังจากผลการประมูลพันธบัตรของรัฐบาลสเปนครั้งล่าสุดเมื่อวานนี้ระบุว่า รัฐบาลสเปนสามารถระดมทุนจากการประมูลขายพันธบัตรประเภท 3 เดือน และ 6 เดือนในวันนี้ได้ทั้งสิ้น 2.98 พันล้านยูโร หรือ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้ แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 3 เดือนพุ่งขึ้นแตะระดับ 5.1% จากการประมูลในเดือนต.ค.ที่ระดับ 2.3% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 6 เดือนพุ่งขึ้นแตะระดับ 5.2% จากการประมูลครั้งก่อนที่ระดับ 3.3%

สาเหตุที่ทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของสเปนยังคงปรับตัวสูงขึ้นนั้น มาจากการที่นักลงทุนยังไม่เชื่อมั่นว่ายูโรโซนจะสามารถแก้ไขวิกฤตหนี้ได้ และไม่มั่นใจในการใช้มาตรการรัดเข็มขัดของสเปน แม้พรรคการเมืองสายกลาง-ขวาของนายมาเรียโน ราฮอย ซึ่งได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปยืนยันว่าจะใช้มาตรการรัดเข็มขัดเพื่อลดการขาดดุลงบประมาณก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด หลังจากเอสแอนด์พี และมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ยืนยันว่าจะยังไม่ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ แม้สหรัฐไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณได้ก็ตาม

หุ้นกลุ่มธนาคารของยุโรปร่วงลง นำโดยหุ้นเด็กเซีย เอสเอ ดิ่งลง 8.1% หุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ของเยอรมนี ร่วงลง 4.2% และหุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ ร่วงลง 4.9% โดยปัจจัยที่ทำให้หุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ร่วงลงมาจากข่าวที่ว่า คอมเมิร์ซแบงก์อาจจะต้องเพิ่มทุนในระดับที่สูงเกินคาด เพื่อให้สอดคล้องกับกฎข้อบังคับของสหภาพยุโรป (อียู) ที่กำหนดว่าธนาคารพาณิชย์จะต้องดำรงเงินกองทุนหลักในระดับ 9% ของสินทรัพย์ภายในช่วงกลางปี 2555

หุ้นโนเกียร่วงลง 8.8% หลังจากบริษัททำยอดขายผลิตภัณฑ์ Lumia ได้น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม หุ้นแพนโดรา เอเอส ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอัญมณีรายใหญ่ของเดนมาร์ก พุ่งขึ้น 10% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาส 3 มูลค่า 341 ล้านโครน (62 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาด

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
Frankie
Verified User
โพสต์: 999
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขอบคุณครับ
We are new KIDS.
We don' t SMOKE.
ร่วมรณรงค์ต่อต้านการสูบบุหรี่
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ตลาดหุ้นฮ่องกง
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 พฤศจิกายน 2554 08:38:35 น.
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดตลาดร่วงลง 297.01 จุด หรือ 1.63% แตะที่ 17,954.48 จุดในวันนี้ (23 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ปรับลดการประมาณการจีดีพีไตรมาส 3 ครั้งที่ 2 ลงมาอยู่ที่ระดับ 2% ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าการประมาณการครั้งแรกที่ 2.5% ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกด้วย
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ตลาดหุ้นไทย
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 พฤศจิกายน 2554 08:41:43 น.
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะผันผวนและมีโอกาสปรับตัวลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังปัจจัยต่างๆยังดูเป็นเชิงลบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการประชุมคณะกรรมการร่วมระหว่างสองพรรคการเมืองของสหรัฐ หรือ Super Committee ที่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณ ขณะที่ปัญหาหนี้สินในยุโรปก็ยังกดดันอยู่

ด้านปัจจัยในประเทศนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิอย่างต่อเนื่องตลอด 6 วันทำการที่ผ่านมา ส่วนผลกระทบของเหตุการณ์น้ำท่วม ในเชิง fundamental ก็ยังไม่ได้สะท้อนตัวเลขความเสียหายสุดท้ายออกมา

พร้อมให้แนวรับ 950 จุด แนวต้าน 980 จุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 7

โพสต์

S&P ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของไทย แนวโน้มมีเสถียรภาพ
ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 พฤศจิกายน 2554 08:43:01 น.
สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือสกุลเงินต่างประเทศของไทยที่ระดับ 'BBB+/A-2' และคงอันดับความน่าเชื่อถือสกุลเงินบาทที่ระดับ 'A-/A-2' พร้อมกับให้แนวโน้มระยะยาวยังคงมีเสถียรภาพ
engineering
Verified User
โพสต์: 1
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ขอบคุณครับ :D :D :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 9

โพสต์

เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 พฤศจิกายน 2554 09:06:20 น.
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดตลาดวันนี้ขยับขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคอ่อนตัวลงหลังจากที่เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตบวก 0.11% เปิดที่ 2,415.20 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้นบวก 0.15% เปิดที่ 10,043.02 จุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน 2554 06:29:06 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (23 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าวิกฤตหนี้ยุโรปอาจลุกลามเข้าสู่เยอรมนีซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในยูโรโซน หลังจากรัฐบาลเยอรมนีไม่สามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมายในการเปิดประมูลขายพันธบัตรอายุ 10 ปีเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอของจีน และจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวสูงขึ้นในสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 236.17 จุด หรือ 2.05% ปิดที่ 11,257.55 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 26.25 จุด หรือ 2.21% ปิดที่ 1,161.79 จุด ดัชนี Nasdaq ดิ่งลง 61.20 จุด หรือ 2.43% ปิดที่ 2,460.08 จุด

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นอย่างหนักเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากเยอรมนีไม่สามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมายในการเปิดประมูลขายพันธบัตรอายุ 10 ปีวันนี้ ซึ่งถือเป็นสัญญาณว่า เศรษฐกิจเยอรมนีไม่สามารถต้านทานวิกฤตหนี้ยูโรโซนที่กำลังลุกลามไปทั่วภูมิภาคได้

ข้อมูลจากธนาคารกลางเยอรมนีเผยว่า ยอดประมูลพันธบัตรซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2564 อยู่ที่ 3.889 พันล้านยูโร (5.21 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ที่ 6 พันล้านยูโร (8.06 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) อยู่ถึง 35% อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลที่มากผิดปกติในตลาด ขณะที่อัตราผลตอบแทนในการประมูลขายพันธบัตรครั้งนี้อยู่ที่ 1.98%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอทั่วโลก โดย HSBC เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเบื้องต้น ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 48 จุดในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2552 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลว่า เศรษฐกิจจีนอาจจะทรุดตัวลงอย่างรุนแรง และยิ่งเพิ่มความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยของเศรษฐกิจทั่วโลก

ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 19 พ.ย.เพิ่มขึ้น 2,000 ราย สูระดับ 393,000 ราย ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 4 เดือน หลังจากที่ขยายตัวถึง 0.7% ในเดือนก.ย.

ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นเมื่อมีรายงานว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของเยอรมนีร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 47.9 จุดในเดือน พ.ย.ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 48.5 จุด และต่ำกว่าระดับ 50 จุดซึ่งเป็นเส้นชี้วัดการขยายตัวและการหดตัว

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงอย่างหนัก หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศว่าจะทำการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) ของสถาบันการเงินรายใหญ่สุด 31 แห่งในสหรัฐ รอบใหม่ในปีหน้า เพื่อกำหนดว่าธนาคารเหล่านี้มีฐานเงินทุนแข็งแกร่งพอที่จะต้านทานภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยรุนแรงได้หรือไม่

เฟดระบุว่า สถาบันการเงินที่มีทรัพย์สินมูลค่ามากกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์จะต้องเข้ารับการทดสอบ เพราะถือเป็นสถาบันการเงินที่มีความสำคัญในเชิงระบบตามที่กฎหมายปฏิรูปการเงินด็อด-แฟรงค์กำหนดไว้

ทั้งนี้ หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 4.3% ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดในบรรดาหุ้นธนาคารที่คำนวณในดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ขณะที่หุ้นซิตี้กรุ๊ปดิ่งลง 3.9% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลง 3.6% และหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ปรับตัวลง 1.7%

ส่วนหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน บริษัทพลังงานรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 4.1% และหุ้นอัลโค อิงค์ ร่วงลง 4.1% เช่นกัน หลังจากดัชนีภาคการผลิตของจีนหดตัวลงอย่างหนัก

*ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีที่ 24 พ.ย.เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า และตลาดจะปิดทำการเร็วกว่าปกติในการซื้อขายของวันศุกร์ที่ 25 พ.ย.

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ตลาดหุ้นลอนดอน
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน 2554 07:27:07 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อข่าวที่ว่ารัฐบาลเยอรมนีไม่สามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมายในการเปิดประมูลขายพันธบัตรอายุ 10 ปีเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังได้ฉุดหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงอย่างหนักด้วย

ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 67.04 หรือ 1.3% ปิดที่ 5,139.78 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า วิกฤตหนี้ยุโรปอาจจะลุกลามเข้าสู่เยอรมนีและฝรั่งเศส หลังจากเยอรมนีไม่สามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมายในการเปิดประมูลขายพันธบัตรอายุ 10 ปีเมื่อวานนี้ และหลังจากที่ฟิทช์ เรตติงส์ เตือนว่า ฝรั่งเศสมีความเสี่ยงที่จะถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือจากระดับ AAA หากวิกฤตหนี้ยูโรโซนลุกลามจนควบคุมไม่ได้

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) ร่วงลง 5.9% หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ดิ่งลง 3.1% และหุ้นลอยด์ แบงกิง กรุ๊ป ร่วงลง 2.5% หลังจากต้นทุนการรับประกันการผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลในยุโรปพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงหลังจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนร่วงลงสู่ระดับ 48 จุดในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2552 ขณะที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตของเยอรมนีร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 47.9 จุดในเดือน พ.ย.ซึ่งดัชนี PMI ของทั้งสองประเทศอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 จุดซึ่งเป็นเส้นชี้วัดการขยายตัวและการหดตัว

ทั้งนี้ หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วงลง 1.4% หุ้นริโอทินโตดิ่งลง 2.3% และหุ้นเวแดนตา รีซอสเซส ร่วงลง 2.7%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ตลาดหุ้นยุโรป
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน 2554 07:42:45 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (23 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการคลังของเยอรมนี หลังจากรัฐบาลเยอรมนีไม่สามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมายในการเปิดประมูลขายพันธบัตรอายุ 10 ปีเมื่อวานนี้

ดัชนี Stoxx 600 ร่วงลง 1.3% ปิดที่ 220.31 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 2822.43 จุด ลบ 48.25 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 5457.77 จุด ลบ 79.62 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5139.78 จุด ลบ 67.04 จุด

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปผันผวนอย่างหนัก หลังจากมีรายงานว่า เยอรมนีไม่สามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมายในการเปิดประมูลขายพันธบัตรอายุ 10 ปีเมื่อวานนี้ ซึ่งถือเป็นสัญญาณว่า เศรษฐกิจเยอรมนีไม่สามารถต้านทานวิกฤตหนี้ยูโรโซนที่กำลังลุกลามไปทั่วภูมิภาคได้

ข้อมูลจากธนาคารกลางเยอรมนีเผยว่า ยอดประมูลพันธบัตรซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2564 อยู่ที่ 3.889 พันล้านยูโร (5.21 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ที่ 6 พันล้านยูโร (8.06 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) อยู่ถึง 35% อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลที่มากผิดปกติในตลาด ขณะที่อัตราผลตอบแทนในการประมูลขายพันธบัตรครั้งนี้อยู่ที่ 1.98%

นอกจากนี้ ข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอของจีนและเยอรมนียังสร้างแรงกดดันให้กับตลาดหุ้นทั่วยุโรป โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนร่วงลงสู่ระดับ 48 จุดในเดือนพ.ย.ขณะที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตของเยอรมนีร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 47.9 จุดในเดือน พ.ย. โดยดัชนี PMI ของทั้งสองประเทศอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 จุดซึ่งเป็นเส้นชี้วัดการขยายตัวและการหดตัว

หุ้นโลจิคอลร่วงลง 4.2% หลังจากยูบีเอสได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงมาอยู่ที่ระดับ “underperform" จากระดับ “hold"

หุ้นฮัลฟอร์ด กรุ๊ป ร่วงลง 5.1% หลังจากนักวิเคราะห์หลายคนมองว่าโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจของฮัลฟอร์ดมีจำกัดมาก

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 13

โพสต์

นิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียว
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน 2554 07:50:33 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลง 135.89 จุด หรือ 1.63% แตะที่ 8,178.85 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2552 หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาทีในวันนี้ (24 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าวิกฤตหนี้ยุโรปอาจทวีความรุนแรงมากขึ้นหลังจากรัฐบาลเยอรมนีไม่สามารถประมูลขายพันธบัตรได้ตามเป้าหมายเม่อวานนี้

ธนาคารกลางเยอรมนีเผยว่า ยอดประมูลพันธบัตรซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2564 อยู่ที่ 3.889 พันล้านยูโร (5.21 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ที่ 6 พันล้านยูโร (8.06 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) อยู่ถึง 35% อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลที่มากผิดปกติในตลาด ขณะที่อัตราผลตอบแทนในการประมูลขายพันธบัตรครั้งนี้อยู่ที่ 1.98%
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน 2554 09:18:53 น.
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะอ่อนตัวลงในกรอบแคบ ทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค โดยปัจจัยลบทางยูโรโซนยังคงวนเวียนเข้ามาอยู่เรื่อยๆไล่มาตั้งแต่กรีซ อิตาลี สเปน และล่าสุดอาจลุกลามไปเยอรมนีซึ่งเป็นประเทศมีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในยูโรโซน หลังการประมูลขายพันธบัตรของรัฐบาลเยอรมนีไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าไหร่

ส่วนผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมในประเทศ นักวิเคราะห์ต่างๆก็เริ่มมีมุมมองเป็นลบมากขึ้น อย่างไรก็ตามมองว่าตลาดหุ้นไทยไม่น่าจะปรับตัวลงแรง เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนคาดว่าเหตุการณ์น้ำท่วมจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและพื้นฐานเศรษฐกิจไทยก็ยังมีความแข็งแกร่ง

พร้อมให้แนวรับ 970 จุด แนวต้าน 980 และ 985 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(23 พ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 11,257.55 จุด ลดลง 236.17 จุด(-2.05%)ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,161.79 จุด ลดลง 26.25 จุด(-2.21%)ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,460.08 จุด ลดลง 61.20 จุด(-2.43%)

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,270.16 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 96.17 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.84 ดอลลาร์ หรือ 1.88%

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์เช้านี้เปิดที่ 6.11 เหรียญฯ/บาร์เรล เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้(23 พ.ย.)ปิดที่ 5.39 เหรียญฯ/บาร์เรล

- แบงก์ชาติ จ่อหั่น จีดีพี ปีนี้แรงจากที่เคยประมาณการไว้ที่ 2.6% หลังสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงเกินคาด ฉุดเชื่อมั่นภาคธุรกิจ-บริโภค เผย กนง. เตรียมหาแนวทางป้องกันผลกระทบมากขึ้น ขณะที่ปีหน้าสถานการณ์หนี้ยุโรปส่อกดดันเศรษฐกิจไทยอีก "ประสาร" ชี้สินเชื่อคงค้างทั้งระบบพื้นที่น้ำท่วม 4 แสนล้านบาท มั่นใจไม่กระทบฐานะแบงก์ ด้าน "โฆสิต" ปรับจีดีพีปีนี้เหลือ1.3%

- เอสแอนด์พียืนยันอันดับความน่าเชื่อถือไทยมีเสถียรภาพ สบน.โอ่ ต่างชาติมองเห็นไทยมีมาตรการรับมือพิษเศรษฐกิจได้ คลัง-ธนาคารโลกนัดสรุปความเสียหายอุทกภัย ก่อนเสนอแผนฟื้นฟูให้รัฐบาล สศค.ยันเศรษฐกิจโต 2.6% แม้ถูกหั่นจีดีพี "ประสาร" ชี้ กนง.กลุ้มกำหนดนโยบายดอกเบี้ยท่ามกลางความเสี่ยง เอกชนจี้ "ยิ่งลักษณ์" ให้สัญญาน้ำไม่ท่วมเรียกเชื่อมั่น

- พิษน้ำท่วมกระทบโรงงาน 24 แห่งใน 4 จังหวัดหยุดกิจการประกาศเลิกจ้าง 6,702 คน ขณะที่สถานประกอบการ 11,296 แห่งเปิดกิจการ ลูกจ้างกลับเข้าทำงานแล้ว 245,441 คน นายจ้างอิเล็กฯ ซัดรัฐแก้ปัญหาช้ากระทรวงแรงงานยันคุมสถานการณ์เลิกจ้างได้ ด้าน สปส.ขยายเวลารับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานขึ้นทะเบียนออกไป 60 วัน

- คณะกรรมการกคฐ. เล็งของบฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งรถไฟ-วัด-สถานศึกษา-แหล่งน้ำ กว่า 1.2 หมื่นล้าน คาดเสนอครม.สัปดาห์หน้า ขณะที่กยน.ของบ 153 ล้านใช้ดำเนินการ ด้านกองทัพ ตั้งงบ 1.2 หมื่นล้านฟื้นฟูซ่อมบำรุงอาวุธ ยุทโธปกรณ์ เผย"ทัพฟ้า"สูญมากสุด 1 หมื่นล้าน

- ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ฯ คาดมีบ้านจมน้ำกว่า 1 ล้านหลังใน 7 จังหวัดที่ถูกน้ำท่วม เจ้าของบ้านเดี่ยวช้ำหนักต้องใช้เงินไม่น้อยกว่า 1 แสนบาทซ่อมแซมบ้าน ส่วนทาวน์เฮาส์เริ่มตั้งแต่หมื่นบาทจนถึงหลายหมื่นบาทขึ้นอยู่กับระดับความเสียหายของบ้าน

- บลจ.กรุงศรีหั่นกำไร บจ. ปีหน้าโต 10% รับผลกระทบน้ำท่วมใหญ่ เป้าดัชนีปี 55 อยู่ที่ 1,150 - 1,200 จุด หวังรัฐมีเมกะโปรเจคลงทุนเรื่องน้ำที่ชัดเจนออกมาเรียกความมั่นใจนักลงทุนต่างชาติ เชื่อถ้ามีส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและหุ้นไทยในระยะ 3 ปีข้างหน้า ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้ตลาดหุ้นไทย พร้อมมองเงินกองทุนประหยัดภาษีช่วงสิ้นปีจะลดลง เหตุประชาชนต้องใช้เงินแก้ไขปัญหาน้ำท่วม

--อินโฟเควสท์ โดย อาชวินท์ สุกสี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ตลาดหุ้นลอนดอนข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2554 06:22:24 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของอิตาลีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 7% เมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ขยับลงเพียงเล็กน้อยเนื่องจากตลาดได้แรงหนุนจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของอังกฤษที่ขยายตัวได้ดีขึ้นในไตรมาส 3

ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวลง 12.21 จุด ปิดที่ 5127.57 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่าวิกฤตหนี้ยุโรปอาจจะลุกลามไปยังประเทศอื่นๆของยูโรโซน หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ของรัฐบาลอิตาลีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 7% เมื่อวานนี้ อันเนื่องมาจากการที่นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ยังคงยืนกรานคัดค้านการออกพันธบัตรยูโร โดยย้ำว่าการออกพันธบัตรยูโรไม่วิธีการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะที่กำลังคุกลามยูโรโซนอยู่ในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนขยับลงเพียงเล็กน้อยเพราะได้แรงหนุนจากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษที่ระบุว่า จีดีพีไตรมาส 3 ของอังกฤษขยายตัว 0.5% จากไตรมาส 2 ที่ขยายตัวเพียง 0.1% เพราะได้แรงหนุนจากการที่ภาคเอกชนปรับเพิ่มสต็อกสินค้าคงคลัง ซึ่งช่วยชดเชยความอ่อนแอของตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค

หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ปรับตัวลง 0.5% หลังจากมีข่าวลือว่าเคท บอสต็อค เจ้าหน้าที่ระดับสูงของบริษัทอาจจะลาออกจากตำแหน่ง

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้นหลังจากราคาโลหะในตลาดลอนดอนปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเอ็กสตราต้า พุ่งขึ้น 1.7% หุ้นเวแดนตา รีซอสเซส ทะยานขึ้น 2.8% และหุ้นคาซัคมิส พุ่งขึ้น 2.4%

หุ้นโธมัส คุ๊ก ซึ่งเป็นผู้ให้บริการการท่องเที่ยวรายใหญ่ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 47% หลังจากมีรายงานว่าโธมัส คุ๊ก กำลังเจรจากับธนาคารบางแห่งเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 16

โพสต์

ตลาดหุ้นยุโรป
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2554 06:58:53 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) หลังจากนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ยังคงคัดค้านการออกพันธบัตรยูโร ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของเยอรมมนีและประเทศอื่นๆในยูโรโซนปรับตัวสูงขึ้น และทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ อย่าไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงในกรอบที่จำกัดเนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างเหนือความคาดหมายในเดือนพ.ย.

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.1% ปิดที่ 219.98 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 2822.25 จุด ลบ 0.18 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 5428.11 จุด ลบ 29.66 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5127.57 จุด ลบ 12.21 จุด

ตลาดหุ้นยุโรปอ่อนตัวลงหลังจากนางแมร์เคลได้กล่าวภายหลังการเข้าประชุมร่วมกับผู้นำฝรั่งเศสและ อิตาลีว่า เยอรมนียังคงไม่เห็นด้วยกับการออกพันธบัตรยูโรและไม่เห็นด้วยกับการผลักดันให้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีบทบาทมากขึ้นในการกู้วิกฤตยูโรโซน ซึ่งท่าทีแข็งกร้าวของผู้นำเยอรมนีได้บั่นทอนความหวังของนักลงทุนที่ว่าเยอรมนีจะเปิดทางให้มีการออกพันธบัตรยูโรร่วมกันหรือเปิดโอกาสให้อีซีบีดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

การคัดค้านการออกพันธบัตรยูโรของนางแมร์เคลส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของเยอรมนีและอิตาลีปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลอิตาลีที่ทะยานขึ้นเหนือระดับ 7% ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่า รัฐบาลอิตาลีอาจะต้องแบกรับภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงในกรอบที่จำกัดเนื่องจากตลาดได้แรงหนุนจากรายงานของสถาบัน Ifo ที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนี ซึ่งได้จากการสำรวจผู้บริหาร 7,000 ราย ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 106.6 จุดในเดือนพ.ย. จากระดับ 106.4 จุดของเดือนต.ค. สวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะลดลงแตะ 105.2 จุด

หุ้นธนาคารเด็กเซียทะยานขึ้นเกือบ 28% เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่าเบลเยียมจะยังคงเดินหน้าเจรจาข้อตกลงการให้ความช่วยเหลือเด็กเซีย

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 17

โพสต์

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียว
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2554 07:44:52 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดลดลง 26.99 จุด แตะที่ 8,138.19 จุดในวันนี้ (25 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินเยนเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ยังคงเดินหน้าคัดค้านการออกพันธบัตรยูโร

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า สกุลเงินยูโรร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 102.72 เยน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในการซื้อขายที่ตลาดลอนดอนนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนต.ค. หลังจากมีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีเยอรมนียังคงไม่เห็นด้วยกับการออกพันธบัตรยูโรและไม่เห็นด้วยกับการผลักดันให้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีบทบาทในการกู้วิกฤตยูโรโซน

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนบางกลุ่มเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากดัชนีนิกเกอิร่วงลงติดต่อกันในช่วง 4 วันทำการที่ผ่านมา
ภาพประจำตัวสมาชิก
pong16
Verified User
โพสต์: 33
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ขอบคุณมากครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 19

โพสต์

หุ้นสหรัฐฯ ดิ่งลงเป็นวันที่ 4 ขณะราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ บวก 86 เซนต์ ด้านราคาตลาดทองคำนิวยอร์ก ลดลง 5 ดอลลาร์



ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา ยังคงดิ่งลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน หลังนักลงทุนเทขายหุ้นอย่างหนัก เนื่องจากพบว่า เยอรมันขายพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ได้เพียง 3,600 ล้านยูโรเท่านั้น ขณะที่ฟิตช์ บริษัทจัดอันดับ
ความน่าเชื่อถือ เพิ่งประกาศลดระดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกส ลงสู่ระดับย่ำแย่ ส่งผลให้วิกฤติหนี้ยูโรโซน ซ้ำเติมลงหนักเข้าไปอีก

ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 236.17 จุด หรือ 2.05 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 11,257.55 จุด ดัชนีแนสแดค ลดลง 61.2 จุด หรือ 2.43 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 2,460.08 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี ลดลง 26.25 จุด หรือ 2.21 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 1,161.79 จุด

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ ปิดที่ 97.03 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในช่วงบ่ายของการซื้อขาย และเนื่องด้วยเป็นวันหยุดในนิวยอร์ก ทางตลาดจึงจะไม่มีการแถลงราคาปิดออกมา

Link : http://www.innnews.co.th/หุ้นUSร่วง-4วั ... 25_02.html
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 20

โพสต์

ตลาดหุ้นยุโรป
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2554 06:38:07 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ภาคธนาคารอาจจะเข้ามามีส่วนในการแบกรับภาระหนี้ของประเทศยูโรโซนน้อยลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่าผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศสยืนยันว่าจะสนับสนุนอิตาลีซึ่งเป็นประเทศที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของยูโรโซน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ดีดตัวขึ้น 0.7% ปิดที่ 221.54 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 2,856.97 จุด เพิ่มขึ้น 34.72 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 5,492.87 จุด เพิ่มขึ้น 64.76 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,164.65 จุด เพิ่มขึ้น 37.08 จุด

ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า ประเทศต่างในกลุ่มยูโรโซนกำลังพิจารณาเรื่องการดึงภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทในการแบกรับภาระหนี้ของยูโรโซนน้อยลง และจากข่าวที่ว่านางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และนายนิโคลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศสกล่าวภายหลังจากการประชุมร่วมกันนายรักฐมนตรีมาริโอ มอนติของอิตาลีว่า ทั้งสองประเทศจะให้การสนับสนุนอิตาลี เพราะหากปล่อยให้อิตาลีผิดนัดชำระหนี้ก็จะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของยูโรโซนด้วย

หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยหุ้นรอยัล ดัท เชลล์ หุ้นโททาล และหุ้นสแตท ออยล์ พุ่งขึ้นกว่า 1.5% ส่วนหุ้นแอ็กซา ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่สุดของฝรั่งเศส ดีดตัวขึ้น 1.7% หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นแอ็กซา

หุ้นโธมัส คุ๊ก ซึ่งเป็นผู้ให้บริการการท่องเที่ยวรายใหญ่ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 10% หลังจากหนังสือพิมพ์เดลี่ เทเลกราฟท์รายงานว่า ธนาคารหลายแห่งซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของโธมัส คุ๊ก เตรียมขยายวงเงินกู้ให้กับทางบริษัทอีก 100 ล้านปอนด์ หรือ 155 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารของอิตาลีร่วงลงหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของอิตาลีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 7% โดยหุ้นบังคา มอนเต เดอ ปาชี เดอ เซียนา ดิ่งลง 1.2% และหุ้นบังคา ป๊อปปูเลร์ ร่วงลง 3%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 21

โพสต์

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2554 07:45:47 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวพุ่งขึ้น 117.79 จุด หรือ 1.44% แตะที่ 8,277.80 จุดหลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาทีในวันนี้ (28 พ.ย.) หลังจากหนังสือพิมพ์ La Stampa ของอิตาลีรายงานว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กำลังเตรียมจัดหาเงินกู้มูลค่า 6 แสนล้านยูโร หรือ 7.94 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับอิตาลี ในกรณีที่ปัญหาหนี้ของอิตาลีทวีความรุนแรงจนไม่อาจควบคุมได้

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินเยนเมื่อเทียบกับยูโร ซึ่งช่วยพยุงหุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมส่งออกของญี่ปุ่นดีดตัวขึ้นในช่วงเช้านี้ด้วย สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 22

โพสต์

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2554 09:01:03 น.
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นตามกระแสข่าวว่ากองทุนไอเอ็มเอฟเตรียมเงินให้ประเทศอิตาลีกู้ยืมเป็นเงิน 30% ของวงเงินหนี้ ซึ่งเกินกว่าวงเงินที่ครบกำหนดชำระทำให้เกิดผลดีด้านจิตวิทยาการลงทุนโดยดัชนีดาวน์โจนล่วงหน้า บวกถึง 150 จุด และตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดบวกถึง 2%

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยเมื่อวันศุกร์ปรับลดลงมาค่อนข้างแรงดังนั้นคงมีการรีบาวน์ขึ้นมาทางเทคนิค แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องระมัดระวังเพราะว่ายังคงเป็นเพียงกระแสข่าวปัญหาหนี้ยุโรปยังคงน่ากังวล

สำหรับกรอบการลงทุนให้แนวรับ 950 จุด แนวต้าน 980 จุด
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 23

โพสต์

ตลาดหุ้นยุโรป
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2554 15:49:44 น.
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า บรรดาผู้นำยุโรปจะเพิ่มความพยายามในการควบคุมวิกฤตหนี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 1.5% แตะ 224.89 จุด เมื่อเวลา 8.29 น.ตามเวลาท้องถิ่นในลอนดอน

หุ้นกลุ่มแบงก์ปรับตัวขึ้น หลังจากที่มีรายงานว่า กองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรปอาจจะค้ำประกันพันธบัตรในสัดส่วนถึง 30% ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองและพลังงานปรับตัวขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ หลังจากที่ยอดขายช่วงวันขอบคุณพระเจ้าในสหรัฐดีดตัวขึ้น ขณะที่หุ้นเด็กเซียปรับตัวขึ้น

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 24

โพสต์

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 29 พฤศจิกายน 2554 06:18:08 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเกือบ 3% เมื่อคืนนี้ (28 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่ายอดค้าปลีกในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้าของสหรัฐ พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และจากข่าวที่ว่าผู้นำยูโรโซนเตรียมใช้มาตรการยับยั้งวิกฤตหนี้สาธารณะ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 291.23 จุด หรือ 2.59% ปิดที่ 11,523.01 จุด ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 33.88 จุด หรือ 2.92% ปิดที่ 1,192.55 จุด ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 85.83 จุด หรือ 3.52% ปิดที่ 2,527.34 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง หลังจากสหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติของสหรัฐ (NRF) เปิดเผยว่า ตัวเลขค้าปลีกในช่วงสุดสัปดาห์หลังวันขอบคุณพระเจ้าปีนี้ ปรับตัวขึ้น 16% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทำสถิติสูงสุดที่ 5.24 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะยอดขายเสื้อผ้าและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ ขณะที่ยอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 398.62 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 365.34 ดอลลาร์ในปีที่แล้ว NRF รายงานโดยอ้างอิงจากผลสำรวจที่จัดทำโดย BIGresearch

ด้านบริษัทวิจัย คอมสกอร์ เปิดเผยว่า ยอดขายทางออนไลน์ในวัน Black Friday หรือวันศุกร์หลังวันขอบคุณพระเจ้า ทะยานขึ้น 26% สู่ระดับ 816 ล้านดอลลาร์ และพุ่ง 18% แตะ 479 ล้านดอลลาร์ในวันขอบคุณพระเจ้า

ขณะที่ผลวิจัยซึ่งจัดทำโดย ShopperTrak ซึ่งเป็นผู้ให้บริการนับจำนวนคนเดินเข้า-ออกห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลีก ระบุว่า ยอดขายในวัน Black Friday ปีนี้ เพิ่มขึ้น 6.6% จากวันเดียวกันนี้ในปีที่แล้ว แตะ 1.14 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่จำนวนผู้ที่เดินเข้า-ออกร้านค้าปลีก เพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบกับวัน Black Friday ในปี 2553

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า บริษัท ไซเบอร์ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกทางออนไลน์คาดการณ์ว่า ยอดขายของบริษัทจะปรับตัวขึ้นแข็งแกร่ง เนื่องจากผู้บบริโภคเริ่มหันมาสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์มากขึ้น

ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้แรงหนุนจากรายงานของหนังสือพิมพ์ Welt am Sonntag ของเยอรมนีที่ระบุว่า นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมี และนายนิโคลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กำลังหารือกันเกี่ยวกับแนวทางการคุมเข้มวินัยด้านการคลังของประเทศในกลุ่มยูโรโซน ขณะที่นายวูล์ฟกัง ชูเบิล รมว.คลังเยอรมนีได้ออกมาเรียกร้องให้มีการปรับเปลี่ยนสนธิสัญญาเพื่อคุมเข้มวินัยด้านงบประมาณของสมาชิกยูโรโซนเช่นกัน ซึ่งความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่การประชุมสุดยอดผู้นำสหรัฐและสหภาพยุโรปจะมีขึ้นที่กรุงวอชิงตัน

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 (QE3) ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่การซื้อหลักทรัพย์ที่มีสินเชื่อบ้านเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน (MBS)

หุ้นกลุ่มทรัพยากรทะยานขึ้นตามราคาโลหะในตลาดโลก โดยหุ้นอัลโค อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตแร่อลูมินัมรายใหญ่สุดของสหรัฐ พุ่งขึ้น 5.7% หุ้นฟรีพอร์-แมคมอร์แกน คอปเปอร์ แอนด์ โกลด์ พุ่งขึ้น 6.3% และหุ้นโมลีคอร์ป ทะยานขึ้น 14%

หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX พุ่งขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยหุ้นซันคอร์ เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 4.3% หุ้นมาราธอน ออยล์ พุ่งขึ้น 5.4% และหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 3.1%

หุ้นเจพีมอร์แกน พุ่งขึ้น 2.4% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 2.3%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.3% สู่ระดับ 307,000 ยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 5 เดือน อย่างไรก็ตาม ราคากลางของบ้านใหม่ในเดือนต.ค.ปรับตัวลดลง 0.5%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์จะเปิดเผยราคาบ้านเดือนก.ย. และคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนพ.ย.

วันพุธ ADP Employer Services เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนพ.ย., ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยตัวเลขที่ปรับทบทวนสำหรับประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วยประจำไตรมาส 3, สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนต.ค. และเฟดเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book

วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย. ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 25

โพสต์

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดพุ่ง 148.11 จุด จากความหวังยุโรปคุมวิกฤตหนี้
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 29 พฤศจิกายน 2554 07:38:17 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อคืนนี้ (28 พ.ย.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มธนาคาร เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าผู้นำยุโรปจะสามารถหาแนวทางในการควบคุมวิกฤตหนี้ได้ และจะช่วยหนุนผลประกอบการของภาคเอกชนให้ฟื้นตัวขึ้นด้วย

ดัชนี FTSE พุ่งขึ้น 148.11 จุด หรือ 2.9% ปิดที่ 5,312.76 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนได้รับปัจจัยหนุนจากข่าวที่ว่าผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศสกำลังหาแนวทางในการประสานนโยบายการคลังของประเทศสมาชิกยูโรโซนเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็วและแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะคุมเข้มวินัยด้านการคลังของประเทศในกลุ่มยูโรโซน ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้ตลาดคาดหวังว่า ผู้นำยุโรปจะสามารถควบคุมการลุกลามของวิกฤตหนี้ได้

หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุด โดยหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ พุ่งขึ้น 5.3% หุ้นธนาคาร HSBC ดีดตัวขึ้น 4.6% หุ้นธนาคารลอยด์ แบงกิง กรุ๊ป พุ่งขึ้น 2.1% และหุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส พุ่งขึ้น 7.8%

หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX พุ่งขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 สัปดาห์ อันเนื่องมาจากสถานการณ์ตึงเครียดในซีเรีย โดยหุ้นบีพีพุ่งขึ้น 2.9% และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ดีดตัวขึ้น 1.8%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 26

โพสต์

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: คาดยุโรปคุมวิกฤตหนี้ได้ หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่ง
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 29 พฤศจิกายน 2554 07:53:58 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อคืนนี้ (28 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคาดหวังว่าผู้นำยุโรปจะสามารถควบคุมวิกฤตหนี้ได้ หลังจากมีรายงานว่าผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศสกำลังหาแนวทางการคุมเข้มวินัยด้านการคลังของประเทศในกลุ่มยูโรโซน

ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 3.8% ปิดที่ 229.84 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 5745.33 จุด พุ่งขึ้น 252.46 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3012.93 จุด พุ่งขึ้น 155.96 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5312.76 จุด พุ่งขึ้น 148.11 จุด

ตลาดหุ้นยุโรปทะยานขึ้นหลังจากหนังสือพิมพ์ Welt am Sonntag ของเยอรมนีรายงานว่า ผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศสกำลังหาแนวทางในการประสานนโยบายการคลังของประเทศสมาชิกยูโรโซนเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็วและแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะคุมเข้มวินัยด้านการคลังของประเทศในกลุ่มยูโรโซน ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้ตลาดคาดหวังว่า ผู้นำยุโรปจะสามารถควบคุมการลุกลามของวิกฤตหนี้ได้

หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง โดยหุ้นคอมเมิร์ซ แบงก์ พุ่งขึ้น 1.4% หุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ ดีดตัวขึ้น 10% หุ้นแบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ พุ่งขึ้น 6.4% ส่วนหุ้นธนาคารเด็กเซีย พุ่งขึ้น 15% และหุ้นธนาคารเคบีซี ของเบลเยียม ทะยานขึ้น 14%

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่และหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นหลังจากราคาโลหะพื้นฐานในตลาดลอนดอนทะยานขึ้น และราคาน้ำมันดิบ NYMEX พุ่งขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 สัปดาห์ โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 4.4% หุ้นริโอทินโต พุ่งขึ้นกว่า 4%

หุ้นโธมัส คุ๊ก ซึ่งเป็นผู้ให้บริการการท่องเที่ยวรายใหญ่ของยุโรป ทะยานขึ้น 21% หลังจากธนาคารหลายแห่งตกลงที่จะจัดหาเงินกู้มูลค่า 200 ล้านปอนด์ หรือ 311 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับโธมัส คุ๊ก

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 27

โพสต์

ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิเปิดบวก 83.52 จุดหลังดาวโจนส์ทะยาน
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 29 พฤศจิกายน 2554 08:05:22 น.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดบวก 83.52 จุด แตะที่ 8,371.01 จุดในวันนี้ (29 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังจากมีรายงานว่ายอดค้าปลีกในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้าของสหรัฐ พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า รัฐมนตรีคลังจาก 17 ชาติสมาชิกยูโรโซนจะออกมาตรการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป ในระหว่างการประชุมวันนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 28

โพสต์

ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง: แรงซื้อหนุนฮั่งเส็งเปิดตลาดพุ่ง 187.29 จุด
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 29 พฤศจิกายน 2554 08:29:20 น.
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดตลาดพุ่งขึ้น 187.29 จุด หรือ 1.04% แตะที่ 18,225.10 จุดในวันนี้ (29 พ.ย.) เพราะได้ปัจจัยบวกจากแรงซื้อเก็งกำไร

ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวไปในทิศทางเดียวกันตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปที่ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ หลังจากมีรายงานว่า ผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศสกำลังหาแนวทางในการประสานนโยบายการคลังของประเทศสมาชิกยูโรโซนเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็วและแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะคุมเข้มวินัยด้านการคลังของประเทศในกลุ่มยูโรโซน
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 29

โพสต์

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์บวก 32.62 จุดรับความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 30 พฤศจิกายน 2554 06:22:25 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) ซึ่งเป็นการปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ หลังจากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ย. นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลอิตาลีสามารถระดมทุนด้วยการขายพันธบัตรได้มากเกือบเท่าเป้าหมายสูงสุดที่กำหนดไว้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 32.62 จุด หรือ 0.28% แตะที่ 11,555.63 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 2.64 จุด หรือ 0.22% แตะที่ 1,195.19 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดลบ 11.83 จุด หรือ 0.47% แตะที่ 2,515.51 จุด

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นขานรับรายงานของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐ พุ่งขึ้นสู่ระดับ 56 จุดในเดือนพ.ย. จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 40.9 จุด มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 44.0 ในเดือนพ.ย. เนื่องจากผู้บริโภคมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อสภาวะเศรษฐกิจและการจ้างงานในปัจจุบัน ซึ่งทำให้ผู้บริโภคเริ่มจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า รัฐบาลอิตาลีสามารถระดมทุนจากการประมูลพันธบัตรชุดใหม่ครั้งที่ 3 เมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยได้ทั้งสิ้น 7.5 พันล้านยูโร ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ที่ 8 พันล้านยูโร โดยพันธบัตรอายุ 3 ปีมียอดสั่งจองมากกว่าจำนวนพันธบัตรที่นำออกจำหน่ายถึง 1.5 เท่า

องค์กรเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) ได้ออกมาขานรับผลการประมูลพันธบัตรในครั้งนี้ว่า ถือเป็นขั้นตอนหนึ่งในการลดยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลอิตาลีภายใต้การนำของนายมาริโอ มอนติ และเป็นหนึ่งในมาตรการปฏิรูปโครงสร้างตามที่อิตาลีได้ให้สัญญาไว้กับสหภาพยุโรป (อียู)

อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน ซึ่งส่งผลให้ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ สวนทางกับดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์และ S&P 500 เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อรายงานของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ที่ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านใน 20 เขตเมืองของสหรัฐ ร่วงลงอย่างเหนือความคาดหมาย 0.6% ในเดือนก.ย.

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้ดูดซับสภาพคล่องออกจากระบบการเงินของยุโรปเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1.942 แสนล้านยูโร แม้ยังต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 2.035 แสนล้านยูโรก็ตาม

หุ้นเอ็กซอน โมบิล ดีดตัวขึ้น 1.4% หลังจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ ขณะที่หุ้นยาฮู อิงค์ พุ่งขึ้น 2.3% หลังจากมีรายงานว่า บริษัทโธมัส เอช ลี พาร์ทเนอร์ กำลังพิจารณาเสนอซื้อหุ้นของยาฮู ส่วนหุ้นฮิวเล็ต-แพคการ์ด (HP) ปรับตัวขึ้น 1.4% หลังจากนักวิเคราะห์ของรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้น HP

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มการเงินร่วงลง โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดิ่งลง 3.2% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในบรรดาหุ้นกลุ่มธนาคารที่คำนวณในดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ขณะที่หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ร่วงลง 2.1% และหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ร่วงลง 3.6%

หุ้นเอเอ็มอาร์ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ส ทรุดฮวบลง 84% หลังจากมีรายงานว่า เอเอ็มอาร์ คอร์ป ได้ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์สินจากการล้มละลายต่อศาลในเมืองแมนฮัทตัน ภายหลังจากที่บริษัทไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการลดต้นทุนแรงงานร่วมกับกลุ่มนักบินได้

ขณะที่หุ้นสายการบินคู่แข่งอย่าง ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 6.3% และหุ้นเดลตา แอร์ไลน์ส ดีดตัวขึ้น 5% ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าสายการบินรายใหญ่ทั้ง 2 แห่งนี้จะได้ประโยชน์จากการที่เอเอ็มอาร์ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์สินจากการล้มละลาย

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ ADP Employer Services เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนพ.ย., ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยตัวเลขที่ปรับทบทวนสำหรับประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วยประจำไตรมาส 3, สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนต.ค. และเฟดเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book

วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย. ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: รายงานตลาดหุ้นเช้านี้

โพสต์ที่ 30

โพสต์

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่บวก 24.24 จุดขณะตลาดจับตาประชุมรมว.คลังยูโรโซน
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 30 พฤศจิกายน 2554 07:24:37 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อผลการประมูลพันธบัตรของรัฐบาลอิตาลี พร้อมกับจับตาดูผลการประชุมเกี่ยวกับการควบคุมวิกฤตหนี้ของรมว.คลังยูโรโซนซึ่งมีขึ้นที่กรุงบรัสเซลส์

ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 24.24 จุด หรือ 0.5% แตะที่ 5,337 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนขานรับผลการประมูลพันธบัตรของรัฐบาลอิตาลี โดยเมื่อวานนี้ตามเวลาไทย รัฐบาลอิตาลีสามารถระดมทุนจากการประมูลพันธบัตรชุดใหม่ครั้งที่ 3 ได้ทั้งสิ้น 7.5 พันล้านยูโร ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ที่ 8 พันล้านยูโร

นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมรมว.คลังยูโรโซนซึ่งจัดขึ้นที่กรุงบรัสเซลส์ โดยมีการคาดการณ์ว่าที่ประชุมจะเร่งหาแนวทางควบคุมปัญหาหนี้สาธารณะและฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดการเงิน นอกจากนี้คาดว่า ที่ประชุมจะหารือกันเกี่ยวกับการใช้เงินในกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) มาใช้ในการรับประกันตราสารหนี้ของรัฐบาลในยูโรโซน

หุ้นแรนโกลด์ รีซอสเซส ซึ่งเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 5.8% หลังจากนักวิเคราะห์ของอินเวสเทคได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกลาว

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงหลังจากราคาโลหะพื้นฐานในตลาดลอนดอนร่วงลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน ปรับตัวลง 0.4% หุ้นริโอทินโตปรับตัวลง 0.8% และหุ้นอันโตฟากัสตาร่วงลง 0.9%

ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้นลอยด์ แบงกิง ร่วงลง 2.1% หุ้นเอชเอสบีซี ปรับตัวลง 0.5% และหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) ดิ่งลง 1.1%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--
โพสต์โพสต์