มือใหม่ พึ่งเปืดพอร์ต 20+ อิอิอิ
-
- Verified User
- โพสต์: 61
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ พึ่งเปืดพอร์ต 20+ อิอิอิ
โพสต์ที่ 2
ผมแนะนำว่า ทำการบ้านเองซักหน่อยดีกว่าครับ พอให้เข้าใจว่าหลักการลงทุนเชิง VI เป็นอย่างไร อ่านจากห้องมือใหม่นี่แหละครับ
จากนั้นก็เลือกกลุ่มอุตสาหกรรม(ผมไม่แนะนำว่าถามชื่อหุ้นตรงๆครับ)ที่เราทำการบ้านไว้แล้ว ว่าคุณมองว่ามันเป็นแบบนี้ๆ เพราะอย่างนี้ๆ
แล้วคิดว่ามันจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วขอความคิดเห็นจากสมาชิกท่านอื่น เพื่อประกอบการตัดสินใจ
ผมเชื่อว่าทำแบบนี้แล้ว เดี๋ยวพี่ๆ อาๆ ลุงๆ จะเข้ามาช่วยตอบเองครับ ได้ข้อมูลดีๆเพียบ แล้วคุณก็จะรู้ว่าคุณควรเลือกหุ้นตัวไหน
ถามเข้ามาทื่อๆแบบนี้ บ้านนี้ไม่ใช่โบรคเกอร์แนะนำหุ้นน่ะครับ ไม่มีใครกล้ามาเคาะหุ้นให้แน่ครับ
ไม่มีใครที่โตมาได้จากการลงทุนด้วยการขอชื่อหุ้นอย่างแน่นอนครับ ต้องลงมือลุยเองครับ
ปล.ถ้าคุณไปตั้งคำถามนี้ในเวปอื่นอีกหลายที่ คุณอาจเจอชื่อหุ้นที่มีคนแนะนำมาอย่างน้อยก็ 30 ตัวครับ แล้วคุณจะเลือกยังไงล่ะครับ
จากนั้นก็เลือกกลุ่มอุตสาหกรรม(ผมไม่แนะนำว่าถามชื่อหุ้นตรงๆครับ)ที่เราทำการบ้านไว้แล้ว ว่าคุณมองว่ามันเป็นแบบนี้ๆ เพราะอย่างนี้ๆ
แล้วคิดว่ามันจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วขอความคิดเห็นจากสมาชิกท่านอื่น เพื่อประกอบการตัดสินใจ
ผมเชื่อว่าทำแบบนี้แล้ว เดี๋ยวพี่ๆ อาๆ ลุงๆ จะเข้ามาช่วยตอบเองครับ ได้ข้อมูลดีๆเพียบ แล้วคุณก็จะรู้ว่าคุณควรเลือกหุ้นตัวไหน
ถามเข้ามาทื่อๆแบบนี้ บ้านนี้ไม่ใช่โบรคเกอร์แนะนำหุ้นน่ะครับ ไม่มีใครกล้ามาเคาะหุ้นให้แน่ครับ
ไม่มีใครที่โตมาได้จากการลงทุนด้วยการขอชื่อหุ้นอย่างแน่นอนครับ ต้องลงมือลุยเองครับ
ปล.ถ้าคุณไปตั้งคำถามนี้ในเวปอื่นอีกหลายที่ คุณอาจเจอชื่อหุ้นที่มีคนแนะนำมาอย่างน้อยก็ 30 ตัวครับ แล้วคุณจะเลือกยังไงล่ะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ พึ่งเปืดพอร์ต 20+ อิอิอิ
โพสต์ที่ 3
เป็นกระทู้ที่ไม่มีคำถาม
คนอยากตอบอย่างผม
หมดปัญญาที่จะต่อความยาว
คนอยากตอบอย่างผม
หมดปัญญาที่จะต่อความยาว
Blueplanet
-
- Verified User
- โพสต์: 20
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ พึ่งเปืดพอร์ต 20+ อิอิอิ
โพสต์ที่ 4
ผมอ่านแล้วงงครับ ขออภัยด้วย996gt3 เขียน:ผมแนะนำว่า ทำการบ้านเองซักหน่อยดีกว่าครับ พอให้เข้าใจว่าหลักการลงทุนเชิง VI เป็นอย่างไร อ่านจากห้องมือใหม่นี่แหละครับ
จากนั้นก็เลือกกลุ่มอุตสาหกรรม(ผมไม่แนะนำว่าถามชื่อหุ้นตรงๆครับ)ที่เราทำการบ้านไว้แล้ว ว่าคุณมองว่ามันเป็นแบบนี้ๆ เพราะอย่างนี้ๆ
แล้วคิดว่ามันจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วขอความคิดเห็นจากสมาชิกท่านอื่น เพื่อประกอบการตัดสินใจ
ผมเชื่อว่าทำแบบนี้แล้ว เดี๋ยวพี่ๆ อาๆ ลุงๆ จะเข้ามาช่วยตอบเองครับ ได้ข้อมูลดีๆเพียบ แล้วคุณก็จะรู้ว่าคุณควรเลือกหุ้นตัวไหน
ถามเข้ามาทื่อๆแบบนี้ บ้านนี้ไม่ใช่โบรคเกอร์แนะนำหุ้นน่ะครับ ไม่มีใครกล้ามาเคาะหุ้นให้แน่ครับ
ไม่มีใครที่โตมาได้จากการลงทุนด้วยการขอชื่อหุ้นอย่างแน่นอนครับ ต้องลงมือลุยเองครับ
ปล.ถ้าคุณไปตั้งคำถามนี้ในเวปอื่นอีกหลายที่ คุณอาจเจอชื่อหุ้นที่มีคนแนะนำมาอย่างน้อยก็ 30 ตัวครับ แล้วคุณจะเลือกยังไงล่ะครับ
- py106
- Verified User
- โพสต์: 296
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ พึ่งเปืดพอร์ต 20+ อิอิอิ
โพสต์ที่ 5
เข้าใจว่าเค้าตอบ จขกท นะครับ แต่ post ของ จขกท มันโดนติดลบมโหฬาร จนแบนแต๋ไป... เลยดูเหมือนเค้าเป็น จขกท แต่จริงๆ ไม่ใช่...sumrarnde เขียน:ผมอ่านแล้วงงครับ ขออภัยด้วย996gt3 เขียน:ผมแนะนำว่า ทำการบ้านเองซักหน่อยดีกว่าครับ พอให้เข้าใจว่าหลักการลงทุนเชิง VI เป็นอย่างไร อ่านจากห้องมือใหม่นี่แหละครับ
จากนั้นก็เลือกกลุ่มอุตสาหกรรม(ผมไม่แนะนำว่าถามชื่อหุ้นตรงๆครับ)ที่เราทำการบ้านไว้แล้ว ว่าคุณมองว่ามันเป็นแบบนี้ๆ เพราะอย่างนี้ๆ
แล้วคิดว่ามันจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วขอความคิดเห็นจากสมาชิกท่านอื่น เพื่อประกอบการตัดสินใจ
ผมเชื่อว่าทำแบบนี้แล้ว เดี๋ยวพี่ๆ อาๆ ลุงๆ จะเข้ามาช่วยตอบเองครับ ได้ข้อมูลดีๆเพียบ แล้วคุณก็จะรู้ว่าคุณควรเลือกหุ้นตัวไหน
ถามเข้ามาทื่อๆแบบนี้ บ้านนี้ไม่ใช่โบรคเกอร์แนะนำหุ้นน่ะครับ ไม่มีใครกล้ามาเคาะหุ้นให้แน่ครับ
ไม่มีใครที่โตมาได้จากการลงทุนด้วยการขอชื่อหุ้นอย่างแน่นอนครับ ต้องลงมือลุยเองครับ
ปล.ถ้าคุณไปตั้งคำถามนี้ในเวปอื่นอีกหลายที่ คุณอาจเจอชื่อหุ้นที่มีคนแนะนำมาอย่างน้อยก็ 30 ตัวครับ แล้วคุณจะเลือกยังไงล่ะครับ
กระทู้นี้ 20+ จริงๆ เอ๊ะ... หรือควรจะเป็น 20- มากกว่านะ
แวะไปเยี่ยมเยียนกันได้ครับ ^^
http://py106travel.blogspot.com
http://py106travel.blogspot.com
-
- Verified User
- โพสต์: 803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ พึ่งเปืดพอร์ต 20+ อิอิอิ
โพสต์ที่ 6
ผิดห้องครับ admin ช่วยย้ายได้รึเปล่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 408
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ พึ่งเปืดพอร์ต 20+ อิอิอิ
โพสต์ที่ 8
งั้นผมขอถามแทนละกันนะครับ
ผมอยากทราบวิธีการ valuation อ่ะครับ เนื่องจากการไปหาข้อมูลมานั้นมีหลายวิธีมาก ซึ่งแต่ละวิธีก็เหมาะกับกลุ่มธุรกิจนั้นๆ จึงอยากจะทราบว่าพี่ๆใช้สูตรไหนกับกลุ่มธุรกิจไหนครับ
มูลค่าหุ้น = EPS(8.5 + 2 x G)
มูลค่าหุ้น = กำไรต่อหุ้นx(8.5+(2xROE))
มูลค่าหุ้น = dividend per share /(growth rate - discount rate) ไม่ทราบว่า discount rate หายังไงครับ
มูลค่าหุ้น = EPS x PE
อาหาร
ยานยนต์
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน
อิเล็คทรอนิคส์
สิ่งพิมพ์
modern trade
ธนาคาร
รบกวนชี้แนะด้วยนะครับ
ผมอยากทราบวิธีการ valuation อ่ะครับ เนื่องจากการไปหาข้อมูลมานั้นมีหลายวิธีมาก ซึ่งแต่ละวิธีก็เหมาะกับกลุ่มธุรกิจนั้นๆ จึงอยากจะทราบว่าพี่ๆใช้สูตรไหนกับกลุ่มธุรกิจไหนครับ
มูลค่าหุ้น = EPS(8.5 + 2 x G)
มูลค่าหุ้น = กำไรต่อหุ้นx(8.5+(2xROE))
มูลค่าหุ้น = dividend per share /(growth rate - discount rate) ไม่ทราบว่า discount rate หายังไงครับ
มูลค่าหุ้น = EPS x PE
อาหาร
ยานยนต์
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน
อิเล็คทรอนิคส์
สิ่งพิมพ์
modern trade
ธนาคาร
รบกวนชี้แนะด้วยนะครับ
- erickiros
- Verified User
- โพสต์: 415
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ พึ่งเปืดพอร์ต 20+ อิอิอิ
โพสต์ที่ 9
สูตรต่างๆที่ charonp ยกมาเนี่ยไม่ได้บังคับเรื่องหมวดธุรกิจ แต่ต้องสนใจสภาพการเติบโตของแต่ละธุรกิจ
หากธุรกิจไหนมีโอกาสเติบโตก็ใช้สูตร Growth ของเฉพาะธุรกิจ
หากธุรกิจไหนโตตามเศรษฐกิจก็ใช้สูตรปันผล ซึ่ง Growth ของสูตรนี้เป็นการเติบโตของทั้งระบบเศรษฐกิจ
แต่ถ้าขี้เกียจเอาง่ายๆก็ใช้ PE * EPS ก็ได้ PE ก็ลองเล็งกะคร่าวๆกับธุรกิจอื่นๆหรือบริษัทอื่นๆ
เช่น ธุรกิจในหมวดเดียวกันบริษัทที่เราสนใจแข็งแกร่งบริษัทอื่นไหม
ถ้าบริษัทเราแข็งแกร่งกว่าแต่ PE ต่ำกว่า มันก็เริ่มน่าสนใจแล้ว ก็ไปสืบดูเรื่องราวอื่นๆต่อไป
หากธุรกิจไหนมีโอกาสเติบโตก็ใช้สูตร Growth ของเฉพาะธุรกิจ
หากธุรกิจไหนโตตามเศรษฐกิจก็ใช้สูตรปันผล ซึ่ง Growth ของสูตรนี้เป็นการเติบโตของทั้งระบบเศรษฐกิจ
แต่ถ้าขี้เกียจเอาง่ายๆก็ใช้ PE * EPS ก็ได้ PE ก็ลองเล็งกะคร่าวๆกับธุรกิจอื่นๆหรือบริษัทอื่นๆ
เช่น ธุรกิจในหมวดเดียวกันบริษัทที่เราสนใจแข็งแกร่งบริษัทอื่นไหม
ถ้าบริษัทเราแข็งแกร่งกว่าแต่ PE ต่ำกว่า มันก็เริ่มน่าสนใจแล้ว ก็ไปสืบดูเรื่องราวอื่นๆต่อไป
ว่างๆแวะไปเยี่ยมชม blog ของซันได้นะคะ Economics Blog
เนื้อหาของบล็อกนี้จะเกี่ยวกับการนำทฤษฎีเศรษฐศาสตร์มาอธิบายเรื่องราวต่างๆค่ะ
เนื้อหาของบล็อกนี้จะเกี่ยวกับการนำทฤษฎีเศรษฐศาสตร์มาอธิบายเรื่องราวต่างๆค่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 408
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ พึ่งเปืดพอร์ต 20+ อิอิอิ
โพสต์ที่ 10
ถ้าเป็นแบบนี้ ผมจะยกตัวอย่าง กลุ่ม ยานยนต์ นะครับ ตอนนี้ผมประเมินว่ายอดขายคงจะลดลงจากน้ำท่วม แสดงว่าไม่มี growth ผมจึงไปใช้สูตรปันผล แต่ปรากฎว่าค่าที่ได้ออกมานั้น ค่ามัน over value หลายเท่าเลยครับerickiros เขียน:สูตรต่างๆที่ charonp ยกมาเนี่ยไม่ได้บังคับเรื่องหมวดธุรกิจ แต่ต้องสนใจสภาพการเติบโตของแต่ละธุรกิจ
หากธุรกิจไหนมีโอกาสเติบโตก็ใช้สูตร Growth ของเฉพาะธุรกิจ
หากธุรกิจไหนโตตามเศรษฐกิจก็ใช้สูตรปันผล ซึ่ง Growth ของสูตรนี้เป็นการเติบโตของทั้งระบบเศรษฐกิจ
แต่ถ้าขี้เกียจเอาง่ายๆก็ใช้ PE * EPS ก็ได้ PE ก็ลองเล็งกะคร่าวๆกับธุรกิจอื่นๆหรือบริษัทอื่นๆ
เช่น ธุรกิจในหมวดเดียวกันบริษัทที่เราสนใจแข็งแกร่งบริษัทอื่นไหม
ถ้าบริษัทเราแข็งแกร่งกว่าแต่ PE ต่ำกว่า มันก็เริ่มน่าสนใจแล้ว ก็ไปสืบดูเรื่องราวอื่นๆต่อไป
แต่ในขณะเดียวกันใช้ PE*EPS ค่าที่ได้ออกมาก็ over value มากเช่นกัน
ซึ่งจากการประเมินของผมนั้นผมว่า fair value จากสองสูตรดังกล่าวนั้น ไม่น่าจะถูกต้องมากนัก
ไม่ทราบว่าผมคิดแบบนี้ถูกหรือไม่ครับ
อีกอย่างการประเมิน growth นั้นประเมินจากกำไรที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ใช่หรือไม่ ครับ
ขอบคุณครับ
- erickiros
- Verified User
- โพสต์: 415
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ พึ่งเปืดพอร์ต 20+ อิอิอิ
โพสต์ที่ 11
EPS ต้องใช้เป็นค่าเฉลี่ย ยิ่งมีข้อมูลเก่าๆเยอะยิ่งดี
ส่วนสูตร PE ถ้าเราให้มากกว่าตลาดให้ในปัจจุบันมันก็ Over Value แน่ๆอยู่แล้ว
ส่วนสูตรปันผลน่าจะใช้กับบริษัทดำเนินธุรกิจไปเรื่อยๆไม่มีทางล้มหายตายจากและไม่โตไปกว่านี้แล้ว
(ต้องเป็นจำนวนเงินปันผลเฉลี่ย ยิ่งมีข้อมูลย้อนหลังเยอะยิ่งดีเหมือน EPS)
จริงๆสูตรนี้เป็นสูตร discount ของช่วงระยะเวลาอนันต์ (เวลาไม่สิ้นสุด) ฉะนั้นมูลค่าหุ้น Over ก็ไม่ค่อยแปลก
การใช้ค่าล่าสุดเพียงปีเดียวอาจทำให้ได้ค่ามากเกินไปหรือน้อยเกินไปก็ได้
เพราะในปีนั้นอาจเกิดเหตุการณ์พิเศษที่ทำให้กำไรสูงมากหรือขาดทุนสูงมากก็ได้
เราต้องคาดการณ์ว่าต่อไปธุรกิจที่เราจะลงทุนจะเติบโตไปได้ไกลแค่ไหน เติบโตประมาณปีล่ะเท่าไหร่
จริงๆมันไม่มีวิธีประเมินมูลค่าหุ้นที่แท้จริงได้สมบูรณ์หรอก ใช้วิธีง่ายๆแต่คำนึงถึงเหตุการณ์ให้รอบคอบจะดีกว่า
เช่นถ้ากำไรมันเพิ่มเท่านี้ ต้นทุนขายและบริหารเพิ่มเท่านั้น ฯลฯ จะทำให้มูลค่าหุ้นเป็นเท่าไหร่
การประเมินมูลค่าจะได้ออกมาเป็นช่วง มีกรณีดีสุด เลวร้ายที่สุด และปกติ
ส่วนสูตร PE ถ้าเราให้มากกว่าตลาดให้ในปัจจุบันมันก็ Over Value แน่ๆอยู่แล้ว
ส่วนสูตรปันผลน่าจะใช้กับบริษัทดำเนินธุรกิจไปเรื่อยๆไม่มีทางล้มหายตายจากและไม่โตไปกว่านี้แล้ว
(ต้องเป็นจำนวนเงินปันผลเฉลี่ย ยิ่งมีข้อมูลย้อนหลังเยอะยิ่งดีเหมือน EPS)
จริงๆสูตรนี้เป็นสูตร discount ของช่วงระยะเวลาอนันต์ (เวลาไม่สิ้นสุด) ฉะนั้นมูลค่าหุ้น Over ก็ไม่ค่อยแปลก
การใช้ค่าล่าสุดเพียงปีเดียวอาจทำให้ได้ค่ามากเกินไปหรือน้อยเกินไปก็ได้
เพราะในปีนั้นอาจเกิดเหตุการณ์พิเศษที่ทำให้กำไรสูงมากหรือขาดทุนสูงมากก็ได้
เราต้องคาดการณ์ว่าต่อไปธุรกิจที่เราจะลงทุนจะเติบโตไปได้ไกลแค่ไหน เติบโตประมาณปีล่ะเท่าไหร่
จริงๆมันไม่มีวิธีประเมินมูลค่าหุ้นที่แท้จริงได้สมบูรณ์หรอก ใช้วิธีง่ายๆแต่คำนึงถึงเหตุการณ์ให้รอบคอบจะดีกว่า
เช่นถ้ากำไรมันเพิ่มเท่านี้ ต้นทุนขายและบริหารเพิ่มเท่านั้น ฯลฯ จะทำให้มูลค่าหุ้นเป็นเท่าไหร่
การประเมินมูลค่าจะได้ออกมาเป็นช่วง มีกรณีดีสุด เลวร้ายที่สุด และปกติ
ว่างๆแวะไปเยี่ยมชม blog ของซันได้นะคะ Economics Blog
เนื้อหาของบล็อกนี้จะเกี่ยวกับการนำทฤษฎีเศรษฐศาสตร์มาอธิบายเรื่องราวต่างๆค่ะ
เนื้อหาของบล็อกนี้จะเกี่ยวกับการนำทฤษฎีเศรษฐศาสตร์มาอธิบายเรื่องราวต่างๆค่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 408
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ พึ่งเปืดพอร์ต 20+ อิอิอิ
โพสต์ที่ 17
พี่ ส.สลึงครับ ถ้าประเมินมูลค่าได้ไม่แม่นยำ เราจะทราบ margin of safety ได้อย่างไรครับส.สลึง เขียน:ผมว่าหัวใจของ vi ไม่ใช่การประเมินมูลค่าได้แม่น
แต่เป็นเรื่องของการนำ margin of safety ไปใช้มากกว่า
ผมมีปัญหาเรื่องนี้อยู่มาก คือไม่ทราบว่า หุ้นที่ดูอยู่นั้น ราคาตอนนี้ถูกหรือแพง อ่ะครับ ถ้าถูกแล้ว margin of safety เท่าไร ถ้าแพงมัน over value กี่เปอร์เซ็นต์
ปัญหาที่มักจะเจอสำหรับ vi คือขายหมูใช่ไหมครับ ผมพยายามจะกำจัดคำนี้ออกไปครับ
แต่ทั้งที่ในใจก็รู้อยู่เสมอว่า ของถูกย่อมมีถูกกว่า ของแพงย่อมมีแพงกว่า
รบกวนชี้แนะด้วยครับ ขอบคุณครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ พึ่งเปืดพอร์ต 20+ อิอิอิ
โพสต์ที่ 18
ผมไม่ได้หมายความว่าความเห็นของผมมันถูกหรอกครับ
อย่างในเรื่องการหามูลค่าหุ้น ส่วนตัวผมคิดว่ามันไม่ใช่ถูก 100 %
หรือผิด 100 % มันเป็นศิลปะ จะทำให้มันเทาๆ ด่างๆ ก็ได้
ขึ้นกับความรู้ ประสบการณ์ของแต่ละคน อย่าไปคิดมาก
ขออนุญาตพากลับไปห้องเรียนวิชาคณิตศาสตร์สมัยที่เรายังเป็นเด็ก
เรามักเคยชินกับการหาคำตอบที่มีแค่คำตอบเดียว
สรุปง่ายๆ ถ้าหาคำตอบไม่ได้ตามเฉลย นั่นก็คือ ผิด
ทีนี้ลองเปลี่ยนไปเป็นวิชาศิลปะบ้าง อาจารย์บอกให้นักเรียนทุกคน
วางรูปต้นไม้ พลางชี้ไปที่ต้นไม้ต้นหนึ่ง ประเด็นที่ผมสนใจคือ
จำเป็นหรือเปล่าว่าเด็กนักเรียนทุกคนต้องวางได้เหมือนกันครับ
อย่างในเรื่องการหามูลค่าหุ้น ส่วนตัวผมคิดว่ามันไม่ใช่ถูก 100 %
หรือผิด 100 % มันเป็นศิลปะ จะทำให้มันเทาๆ ด่างๆ ก็ได้
ขึ้นกับความรู้ ประสบการณ์ของแต่ละคน อย่าไปคิดมาก
ขออนุญาตพากลับไปห้องเรียนวิชาคณิตศาสตร์สมัยที่เรายังเป็นเด็ก
เรามักเคยชินกับการหาคำตอบที่มีแค่คำตอบเดียว
สรุปง่ายๆ ถ้าหาคำตอบไม่ได้ตามเฉลย นั่นก็คือ ผิด
ทีนี้ลองเปลี่ยนไปเป็นวิชาศิลปะบ้าง อาจารย์บอกให้นักเรียนทุกคน
วางรูปต้นไม้ พลางชี้ไปที่ต้นไม้ต้นหนึ่ง ประเด็นที่ผมสนใจคือ
จำเป็นหรือเปล่าว่าเด็กนักเรียนทุกคนต้องวางได้เหมือนกันครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ พึ่งเปืดพอร์ต 20+ อิอิอิ
โพสต์ที่ 19
นักเรียนบางคนอาจจะวาดแค่ต้นไม้
นักเรียนบางคนอาจจะวาดต้นไม้ทั้งต้นแถมรากให้อาจารย์อีก
ของแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู มองไม่เห็นแต่ก็จิตนาการได้ว่ามี
นักเรียนบางคนอาจจะวาดแกะลายละเอียดไปจนถึงลวดลายของกิ่งใบ และเปลือกไม้
ฯลฯ
และที่แน่ๆ
ต้นไม้ต้นเดียวกัน แค่นักเรียนเปลี่ยนมุมมอง
ภาพต้นไม้ที่เห็นในแต่ละมุมก็ไม่เหมือนกัน
นักเรียนบางคนอาจจะวาดต้นไม้ทั้งต้นแถมรากให้อาจารย์อีก
ของแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู มองไม่เห็นแต่ก็จิตนาการได้ว่ามี
นักเรียนบางคนอาจจะวาดแกะลายละเอียดไปจนถึงลวดลายของกิ่งใบ และเปลือกไม้
ฯลฯ
และที่แน่ๆ
ต้นไม้ต้นเดียวกัน แค่นักเรียนเปลี่ยนมุมมอง
ภาพต้นไม้ที่เห็นในแต่ละมุมก็ไม่เหมือนกัน
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ พึ่งเปืดพอร์ต 20+ อิอิอิ
โพสต์ที่ 20
ถ้าจะเปรียบธุรกิจเป็นดั่งต้นไม้
ผมก็เหมือนเด็กนักเรียน
ที่ถูกคุณครูสั่งให้ไปวาดภาพต้นไม้ต้นนั้นมาเป็นการบ้าน
ผมก็แค่ดูต้นไม้มันหลายๆ มุม
แล้วก็ใช้ประสบการณ์ของผม
จากที่เคยวาดเขียดวาดอึ่งมาใช้ในการวาดรูป
เหมือนการหามูลค่ากิจการ
มันมีหลายวิธี
ก็คล้ายๆ ว่าเราก็ดูมันหลายๆ มุม
ประเด็นคือกิจการที่เรากำลังดูอยู่
มันมีมุมที่น่าสนใจ หรือเปล่า ?
ผมก็เหมือนเด็กนักเรียน
ที่ถูกคุณครูสั่งให้ไปวาดภาพต้นไม้ต้นนั้นมาเป็นการบ้าน
ผมก็แค่ดูต้นไม้มันหลายๆ มุม
แล้วก็ใช้ประสบการณ์ของผม
จากที่เคยวาดเขียดวาดอึ่งมาใช้ในการวาดรูป
เหมือนการหามูลค่ากิจการ
มันมีหลายวิธี
ก็คล้ายๆ ว่าเราก็ดูมันหลายๆ มุม
ประเด็นคือกิจการที่เรากำลังดูอยู่
มันมีมุมที่น่าสนใจ หรือเปล่า ?
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ พึ่งเปืดพอร์ต 20+ อิอิอิ
โพสต์ที่ 21
ประสบการณ์หาได้ไม่ยากครับ
ขออนุญาตพากลับไปที่การบ้าน
ที่อาจารย์วิชาศิลปะสั่งให้ไปวาดต้นไม้
เชื่อไหมครับว่าเราไม่จำเป็นต้องเคยเห็นต้นไม้
ต้นที่อาจารย์บอกให้วาดเลย
เราก็สามารถวาดรูปต้นไม้ต้นนั้นได้ครับ
ขออนุญาตพากลับไปที่การบ้าน
ที่อาจารย์วิชาศิลปะสั่งให้ไปวาดต้นไม้
เชื่อไหมครับว่าเราไม่จำเป็นต้องเคยเห็นต้นไม้
ต้นที่อาจารย์บอกให้วาดเลย
เราก็สามารถวาดรูปต้นไม้ต้นนั้นได้ครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ พึ่งเปืดพอร์ต 20+ อิอิอิ
โพสต์ที่ 22
เชื่อไหมครับว่ามีเด็กนักเรียนบางคน
เอารูปต้นไม้ที่เพื่อวาดเสร็จแล้วมาลอก
ในขณะที่มีเด็กนักเรียนบางคน
ทั้งๆ ที่ไม่เคยวาดภาพเลย
กลับสนอกสนใจเพื่อนคนอื่นๆ
ว่าเขาวาดภาพต้นไม้ต้นนั้นได้อย่างไร
จากนั้นก็เริ่มลงมือวาดตามเพื่อนเลย
เอารูปต้นไม้ที่เพื่อวาดเสร็จแล้วมาลอก
ในขณะที่มีเด็กนักเรียนบางคน
ทั้งๆ ที่ไม่เคยวาดภาพเลย
กลับสนอกสนใจเพื่อนคนอื่นๆ
ว่าเขาวาดภาพต้นไม้ต้นนั้นได้อย่างไร
จากนั้นก็เริ่มลงมือวาดตามเพื่อนเลย
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ พึ่งเปืดพอร์ต 20+ อิอิอิ
โพสต์ที่ 23
ผมชอบมองอะไรที่มัน...
B2B ครับ คือ Back to Basic
อย่างวิธีการหามูลค่าหุ้น หนังสือมีเยอะแยะแล้วครับ
ไปอ่านเอาเองแล้วกันครับ ไม่ขอพูดถึง
สำหรับคำแนะนำเพิ่มเติม ผมคิดว่า...
เราจะประเมินมูลค่ากิจการได้
ก็ต่อเมื่อเราเข้าใจธุรกิจนั้นดีพอสมควร
ตามนี้เลยครับ
เพียงแค่ให้เราได้คำตอบ
มันก็ต้องสมเหตุสมผลหน่อย
ของแบบนี้มันก็ต้องเรียนรู้กันไปครับ
B2B ครับ คือ Back to Basic
อย่างวิธีการหามูลค่าหุ้น หนังสือมีเยอะแยะแล้วครับ
ไปอ่านเอาเองแล้วกันครับ ไม่ขอพูดถึง
สำหรับคำแนะนำเพิ่มเติม ผมคิดว่า...
เราจะประเมินมูลค่ากิจการได้
ก็ต่อเมื่อเราเข้าใจธุรกิจนั้นดีพอสมควร
ตามนี้เลยครับ
นึกออกไหม เราคงไม่ใส่ตัวแปรสงเดชTanukicho เขียน:ลงทุนในสิ่งที่เราเข้าใจ...
เพียงแค่ให้เราได้คำตอบ
มันก็ต้องสมเหตุสมผลหน่อย
ของแบบนี้มันก็ต้องเรียนรู้กันไปครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ พึ่งเปืดพอร์ต 20+ อิอิอิ
โพสต์ที่ 24
Margin of Safety ก็เช่นเดียวกันครับ
Back to Basic
คือผมมองว่า MOS คืออะไรก็ตามแต่...
ที่ช่วยให้เราปลอดภัยจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดครับ
ทั้งเชิงคุณภาพ และเชิงปริมาณ
ซึ่งมันก็แล้วแต่บุคคลอีกครับ
MOS ของแต่ละคนก็คิดต่างกัน
Back to Basic
คือผมมองว่า MOS คืออะไรก็ตามแต่...
ที่ช่วยให้เราปลอดภัยจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดครับ
ทั้งเชิงคุณภาพ และเชิงปริมาณ
ซึ่งมันก็แล้วแต่บุคคลอีกครับ
MOS ของแต่ละคนก็คิดต่างกัน
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ พึ่งเปืดพอร์ต 20+ อิอิอิ
โพสต์ที่ 25
เรื่องถูกแพง บางทีผมว่ามันก็ขึ้นอยู่กับความพอใจครับcharonp เขียน:...ผมมีปัญหาเรื่องนี้อยู่มาก คือไม่ทราบว่า หุ้นที่ดูอยู่นั้น ราคาตอนนี้ถูกหรือแพง อ่ะครับ ถ้าถูกแล้ว margin of safety เท่าไร ถ้าแพงมัน over value กี่เปอร์เซ็นต์...
คำว่า พอใจ ที่ผมว่า คือ หุ้นที่เราเลือก เป็นทางเลือกที่ดีกว่า
ทางเลือกอื่นที่เรามีจริงๆ ณ ตอนนี้ของเราหรือเปล่า ?
(ไม่จำเป็นต้องเป็นหุ้น)
เพราะถ้าแม้แต่ตัวเราเองยังบอกไม่ได้ ว่าหุ้นที่เราเลือกลงทุน
เป็นทางเลือกที่ดีจริงหรือเปล่า ?
ผมคิดว่าการลงทุนครั้งนี้ไม่มี MOS เลยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 408
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ พึ่งเปืดพอร์ต 20+ อิอิอิ
โพสต์ที่ 26
ขอบคุณครับ พี่ ส.สลึง ที่ทำให้ผมมองการลงทุนเป็นศิลปะ
เพราะทั้งชีวิตของผมที่ผ่านมาค่อนข้างเป็นคณิตศาสตร์มาตลอด
แต่เท่าที่ผมเข้าใจนั้น ศิลปะ นั้นไม่มีถูกผิด ถ้าเราเอามาประยุกต์กับการลงทุนนั้นเราจะสามารถไปได้ถูกทางหรือไม่
ส่วนตัวนั้นมองว่า คณิตศาสตร์นั้นก็เปนส่วนสำคัญที่ช่วยชี้แนวทางว่าเรามาถูกต้อง
หรือเปรียบเทียบว่า ต้นไม้นั้นมีการเติบโตอย่างชัดเจน ซึ่งการเติบโตนั้นบางคนก็ชอบ บางคนก็ไม่ชอบ ก็จะให้มูลค่าของต้นไม้ต้นนี้ไม่เท่ากัน ดังนั้น ความถูกแพง อยู่ที่ใจของใครคนนั้นใช่มั้ยครับ
ดังนั้นการเลือกที่จะเลี้ยงดูต้นไม้ ควรเลือกต้นไม้ ที่มีแนวโน้มเติบโต ให้ดอก ให้ผล
เพราะแม้ว่าต้นไม้นั้นจะแพง แต่ถ้ามีการเติบโต ก็ย่อมคุ้มค่ากับการใส่ปุ๋ย
ผมสรุปแบบนี้ พอได้หรือไม่ครับพี่ ส.สลึง
เพราะทั้งชีวิตของผมที่ผ่านมาค่อนข้างเป็นคณิตศาสตร์มาตลอด
แต่เท่าที่ผมเข้าใจนั้น ศิลปะ นั้นไม่มีถูกผิด ถ้าเราเอามาประยุกต์กับการลงทุนนั้นเราจะสามารถไปได้ถูกทางหรือไม่
ส่วนตัวนั้นมองว่า คณิตศาสตร์นั้นก็เปนส่วนสำคัญที่ช่วยชี้แนวทางว่าเรามาถูกต้อง
หรือเปรียบเทียบว่า ต้นไม้นั้นมีการเติบโตอย่างชัดเจน ซึ่งการเติบโตนั้นบางคนก็ชอบ บางคนก็ไม่ชอบ ก็จะให้มูลค่าของต้นไม้ต้นนี้ไม่เท่ากัน ดังนั้น ความถูกแพง อยู่ที่ใจของใครคนนั้นใช่มั้ยครับ
ดังนั้นการเลือกที่จะเลี้ยงดูต้นไม้ ควรเลือกต้นไม้ ที่มีแนวโน้มเติบโต ให้ดอก ให้ผล
เพราะแม้ว่าต้นไม้นั้นจะแพง แต่ถ้ามีการเติบโต ก็ย่อมคุ้มค่ากับการใส่ปุ๋ย
ผมสรุปแบบนี้ พอได้หรือไม่ครับพี่ ส.สลึง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ พึ่งเปืดพอร์ต 20+ อิอิอิ
โพสต์ที่ 27
ไม่มีข้อสรุปครับ แต่จะมาเล่าต่อ
เกี่ยวกับ MOS
บางครั้งผมคิดเล่นๆ ก็จะเอาตัวเลขมาดู
(อาจจะใช้ข้อมูลในอดีต หรือถ้าขยันหน่อย
ก็ทำการบ้านกะข้อมูลอนาคตเอา)
แล้วก็ดีดมูลค่าออกมากเลย
จากนั้นก็หักส่วนที่เป็น MOS ออกไป
บางครั้งก็ใช้ 20% บ้าง 30 %บ้าง
ไม่มีเหตุผล เพราะคิดเล่นๆ
แต่ถ้าเกิดราคาในกระดาน ณ ตอนนี้ต่ำกว่า
หรือใกล้เคียง ก็อาจจะไปแกะข้อมูล
ทำการบ้านเพิ่ม อันนี้ก็สไตล์หนึ่ง
ในแง่ MOS เชิงคุณภาพ ส่วนตัวคิดว่า
ธุรกิจแต่ละประเภทมันปลอดภัยไม่เท่ากัน
บางธุรกิจมันปลอดภัยในตัวของมันเอง
บางธุรกิจมันก็ไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่
ถ้าขยันๆ หน่อยก็หาหนังสือประเภท
บริหารธุรกิจมากอ่าน
พวกงบการเงินด้วย อ่านให้รู้ครับ
ไม่ต้องถึงกับอ่านแล้วต้องไปทำบัญชีได้
อ่านแค่พอสามารถเอาไปใช้ได้ว่า
ธุรกิจแต่ละตัวที่เราหยิบมา
มีจุแข็งตรงไหน อ่านตรงไหน
ควรเผื่อ MOS มาก หรือ MOS น้อยเท่าไหร่
แน่นอนครับว่าเผื่อ MOS มากๆ น่ะดี
แต่บางครั้งเผื่อ MOS มากไป
จนทำให้เราเลยแทบไม่มีโอกาสซื้อธุรกิจดีๆ เลย
ทั้งหมดที่เล่ามา มันคือภาพๆ นึง
ถ้าเราไม่รู้จักต้นไม้ เราคงวาดต้นไม้ไม่ได้จริงไหมครับ
ดูหลายๆ มุมได้ยิ่งดี
หุ้นหนึ่งตัว ผมก็ไม่ได้มองมุมเดียว
ผมมักจะตั้งสมมุติฐานหลายๆ อย่าง
เช่น Growth ใน 3 ปี 5 ปีข้างหน้า จะเป็นอย่างไร
แล้วถ้าเขาทำไม่ได้ละ ภาพที่เราเห็นจะเป็นอย่างไร
เฮ้ย.. ราคาขนาดนี้แพงไป รอก่อน
อ้อ.. ราคานี้น่าสนใจ แต่ก็ไม่ถูก
มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่าหรือเปล่า ? ฯลฯ
เอาไว้เจอหุ้นที่ต้องตะโกนว่า แตก!!
หรือไม่ก็ บิงโก !! แหละครับ
ผมว่าอารมณ์มันหนุกหนานก็ตอนนั้นแหละ
ที่เล่ามา มาจากประสบการณ์ครับ
ทำไปบ่อยๆ มันจะได้เอง บางบริษัทเคยแกะแล้ว
ชอบแต่ราคาแพงไปไม่ได้ซื้อ
สักเดือนสองเดือนค่อยกลับมาดูใหม่
ราคาในกระดานอาจจะถูกลงมา
หรือไปได้ข้อมูลมาใหม่ งบออก
ดีกว่าหรือแย่กว่าที่เราคิด
ก็ขุดการบ้านที่เคยทำมาดู
ทีนี้ง่ายครับ คลำต่อแค่แพล็บๆ เอง
ปล.
ไม่ได้บอกให้เชื่อผมนะครับ ผมแค่เล่าให้ฟังเฉยๆ
เกี่ยวกับ MOS
บางครั้งผมคิดเล่นๆ ก็จะเอาตัวเลขมาดู
(อาจจะใช้ข้อมูลในอดีต หรือถ้าขยันหน่อย
ก็ทำการบ้านกะข้อมูลอนาคตเอา)
แล้วก็ดีดมูลค่าออกมากเลย
จากนั้นก็หักส่วนที่เป็น MOS ออกไป
บางครั้งก็ใช้ 20% บ้าง 30 %บ้าง
ไม่มีเหตุผล เพราะคิดเล่นๆ
แต่ถ้าเกิดราคาในกระดาน ณ ตอนนี้ต่ำกว่า
หรือใกล้เคียง ก็อาจจะไปแกะข้อมูล
ทำการบ้านเพิ่ม อันนี้ก็สไตล์หนึ่ง
ในแง่ MOS เชิงคุณภาพ ส่วนตัวคิดว่า
ธุรกิจแต่ละประเภทมันปลอดภัยไม่เท่ากัน
บางธุรกิจมันปลอดภัยในตัวของมันเอง
บางธุรกิจมันก็ไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่
ถ้าขยันๆ หน่อยก็หาหนังสือประเภท
บริหารธุรกิจมากอ่าน
พวกงบการเงินด้วย อ่านให้รู้ครับ
ไม่ต้องถึงกับอ่านแล้วต้องไปทำบัญชีได้
อ่านแค่พอสามารถเอาไปใช้ได้ว่า
ธุรกิจแต่ละตัวที่เราหยิบมา
มีจุแข็งตรงไหน อ่านตรงไหน
ควรเผื่อ MOS มาก หรือ MOS น้อยเท่าไหร่
แน่นอนครับว่าเผื่อ MOS มากๆ น่ะดี
แต่บางครั้งเผื่อ MOS มากไป
จนทำให้เราเลยแทบไม่มีโอกาสซื้อธุรกิจดีๆ เลย
ทั้งหมดที่เล่ามา มันคือภาพๆ นึง
ถ้าเราไม่รู้จักต้นไม้ เราคงวาดต้นไม้ไม่ได้จริงไหมครับ
ดูหลายๆ มุมได้ยิ่งดี
หุ้นหนึ่งตัว ผมก็ไม่ได้มองมุมเดียว
ผมมักจะตั้งสมมุติฐานหลายๆ อย่าง
เช่น Growth ใน 3 ปี 5 ปีข้างหน้า จะเป็นอย่างไร
แล้วถ้าเขาทำไม่ได้ละ ภาพที่เราเห็นจะเป็นอย่างไร
เฮ้ย.. ราคาขนาดนี้แพงไป รอก่อน
อ้อ.. ราคานี้น่าสนใจ แต่ก็ไม่ถูก
มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่าหรือเปล่า ? ฯลฯ
เอาไว้เจอหุ้นที่ต้องตะโกนว่า แตก!!
หรือไม่ก็ บิงโก !! แหละครับ
ผมว่าอารมณ์มันหนุกหนานก็ตอนนั้นแหละ
ที่เล่ามา มาจากประสบการณ์ครับ
ทำไปบ่อยๆ มันจะได้เอง บางบริษัทเคยแกะแล้ว
ชอบแต่ราคาแพงไปไม่ได้ซื้อ
สักเดือนสองเดือนค่อยกลับมาดูใหม่
ราคาในกระดานอาจจะถูกลงมา
หรือไปได้ข้อมูลมาใหม่ งบออก
ดีกว่าหรือแย่กว่าที่เราคิด
ก็ขุดการบ้านที่เคยทำมาดู
ทีนี้ง่ายครับ คลำต่อแค่แพล็บๆ เอง
ปล.
ไม่ได้บอกให้เชื่อผมนะครับ ผมแค่เล่าให้ฟังเฉยๆ
- Marcusonefour
- Verified User
- โพสต์: 50
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ พึ่งเปืดพอร์ต 20+ อิอิอิ
โพสต์ที่ 29
ขอบคุณความรู้ดีๆครับ
จงเลือกทำสิ่งที่สำคัญที่สุด...ในชีวิตก่อน
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ พึ่งเปืดพอร์ต 20+ อิอิอิ
โพสต์ที่ 30
ส่วนตัวผมชอบมอง Growth ว่าเป็น MOS ชั้นดีcharonp เขียน:...ดังนั้นการเลือกที่จะเลี้ยงดูต้นไม้ ควรเลือกต้นไม้ ที่มีแนวโน้มเติบโต ให้ดอก ให้ผล
เพราะแม้ว่าต้นไม้นั้นจะแพง แต่ถ้ามีการเติบโต ก็ย่อมคุ้มค่ากับการใส่ปุ๋ย...
เพราะผมจะให้มูลค่าต่ำกว่านั้น
แต่ก็ต้องไปดูที่รายละเอียด
ว่าเป็น Growth ที่มีคุณภาพหรือเปล่า ?