สิ่งที่ผม สงสัยมาตลอดกับ tfex
-
- Verified User
- โพสต์: 155
- ผู้ติดตาม: 0
สิ่งที่ผม สงสัยมาตลอดกับ tfex
โพสต์ที่ 1
เคยได้ยินว่า tfex จริงๆถือเป็นเครื่องมือในการลดความเสี่ยงในการขาดทุนหนักของพอร์ต เวลาหุ้น(ดัชนี)ตก
ประมาณว่า ถ้าเราถือหุ้นเต็มพอร์ต ควจจะไปชอร์ต tfex ไว้
เพื่อเวลา ที่ตลาดหุ้นตก พอร์ตเราลดมูลค่า แต่จะได้กำไรจาก tfex มาชดเชย
แต่ที่ผมสงสัยคือ แล้วเวลาหุ้นขึ้น เราก็ต้องเสียเงินที่ชอร์ตไปสิ แล้วมันจะคุ้มมั้ย
หุ้นขึ้น พอร์ตขึ้น เสีย tfex
หุ้นลง พอร์ตลง ได้ tfex
หรือว่า มันจะวัดตรงหุ้นเราแข็งกว่าตลาดหรือเปล่า อย่างนั้นเหรอ
งงจริงๆครับ เคยถามมาร์ก็ยังไม่เข้าใจ เค้าพูดคล้ายๆว่า เหมือนซื้อประกัน ?
ผมเปิดบัญชี tfex พ่วงไว้ ปีกว่าแล้ว ยังไม่เคยเทรดเลย
ประมาณว่า ถ้าเราถือหุ้นเต็มพอร์ต ควจจะไปชอร์ต tfex ไว้
เพื่อเวลา ที่ตลาดหุ้นตก พอร์ตเราลดมูลค่า แต่จะได้กำไรจาก tfex มาชดเชย
แต่ที่ผมสงสัยคือ แล้วเวลาหุ้นขึ้น เราก็ต้องเสียเงินที่ชอร์ตไปสิ แล้วมันจะคุ้มมั้ย
หุ้นขึ้น พอร์ตขึ้น เสีย tfex
หุ้นลง พอร์ตลง ได้ tfex
หรือว่า มันจะวัดตรงหุ้นเราแข็งกว่าตลาดหรือเปล่า อย่างนั้นเหรอ
งงจริงๆครับ เคยถามมาร์ก็ยังไม่เข้าใจ เค้าพูดคล้ายๆว่า เหมือนซื้อประกัน ?
ผมเปิดบัญชี tfex พ่วงไว้ ปีกว่าแล้ว ยังไม่เคยเทรดเลย
- leaderinshadow
- Verified User
- โพสต์: 1765
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สิ่งที่ผม สงสัยมาตลอดกับ tfex
โพสต์ที่ 2
TFEX คือ เครื่องมือที่โอนความเสี่ยง จากคนที่ไม่อยากเสี่ยง
ไปยัง คนที่อยากรับความเสี่ยงครับ
คนที่รับความเสี่ยง ก็รับ ความผันผวน และ ผลตอบแทน เป็นสิ่งตอบแทน
ส่วนการโอนความเสี่ยง มักจะใช้กับพอร์ตลงทุนที่อิงดัชนี หรือใกล้เคียง
เป็นการ lock ผลตอบแทนครับ คือ ไม่ว่ายังไง เราก็ไม่ขาดทุน แต่ก็ไม่กำไร
มักใช้กับกองทุน เพราะเค้ามีข้อกำหนด ว่า ต้องถือหุ้นอย่างน้อย 60%
ไปยัง คนที่อยากรับความเสี่ยงครับ
คนที่รับความเสี่ยง ก็รับ ความผันผวน และ ผลตอบแทน เป็นสิ่งตอบแทน
ส่วนการโอนความเสี่ยง มักจะใช้กับพอร์ตลงทุนที่อิงดัชนี หรือใกล้เคียง
เป็นการ lock ผลตอบแทนครับ คือ ไม่ว่ายังไง เราก็ไม่ขาดทุน แต่ก็ไม่กำไร
มักใช้กับกองทุน เพราะเค้ามีข้อกำหนด ว่า ต้องถือหุ้นอย่างน้อย 60%
-
- Verified User
- โพสต์: 69
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สิ่งที่ผม สงสัยมาตลอดกับ tfex
โพสต์ที่ 4
ผมคิดว่า...
น่าจะใช้ในบางกรณีที่เวลากระทิงเข้าสิงห์หุ้นตัวที่เราถืออยู่
แล้วราคามันขึ้นไปจนเราคิดว่ามันเกินพื้นฐานไปเยอะแล้ว เราพอใจที่ราคาตรงนี้แล้ว
แต่เราไม่อยากขายเก็บเอาไว้กินปันผล เราก็ short ป้องกันความเสี่ยงไว้ ประมาณนี้หรือเปล่า
แต่เวลาทำจริงๆ คงยากมากๆ ที่จะคาดการณ์ได้
น่าจะใช้ในบางกรณีที่เวลากระทิงเข้าสิงห์หุ้นตัวที่เราถืออยู่
แล้วราคามันขึ้นไปจนเราคิดว่ามันเกินพื้นฐานไปเยอะแล้ว เราพอใจที่ราคาตรงนี้แล้ว
แต่เราไม่อยากขายเก็บเอาไว้กินปันผล เราก็ short ป้องกันความเสี่ยงไว้ ประมาณนี้หรือเปล่า
แต่เวลาทำจริงๆ คงยากมากๆ ที่จะคาดการณ์ได้
-
- Verified User
- โพสต์: 209
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สิ่งที่ผม สงสัยมาตลอดกับ tfex
โพสต์ที่ 5
เล่นตามเทรน น่าจะได้กำไรมาก ๆ
- ^^
- Verified User
- โพสต์: 519
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สิ่งที่ผม สงสัยมาตลอดกับ tfex
โพสต์ที่ 6
ผมคิดว่ามันใช้ป้องกันการตกรถของกองทุนใหญ่ๆ โดยการLong Tfexแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของพอร์ตการลงทุน แทนที่จะซื้อหุ้นที่ต้องมีสภาพคล่องและขายออกยาก ซื้อเข้ายากในภาวะไม่แน่นอน
ส่วนถ้ามีหุ้นอยู่ ผมเชื่อว่าหุ้นที่มีคือราคาต่ำมากนะ MOSเยอะด้วย แต่Shortเพื่อประกันความเสี่ยงทีละไตรมาสไปเรื่อยๆ ได้ก็เก็บเงินเข้ากระเป๋าแล้ว ไม่ได้ก็ไม่ขาดทุนมาก
เพราะประกันความเสี่ยงแค่นิดหน่อยเมื่อเทียบกับเงินลงทุน
ถ้าเมื่อเวลาหุ้นจะลง เขาก็จะขายหุ้นออกไปหมด หรือบางส่วน
แล้วLong Tfexไว้บางส่วนโดยเอา"กำไร"ไปประกันความเสี่ยงกันตกรถ เพราะขายออก
ดังนั้นจะเห็นว่าเฉพาะคนมีเงินเยอะถึงจะเหมาะสม
แต่ถ้าเงินไม่เยอะ ต้นทุนประกันความเสี่ยงมันเยอะไปนะสำหรับการใช้Tfex
เผลอๆมันจะขาดทุนมากกว่าแทนที่จะประกันความเสี่ยงซะอีก
พอร์ตหุ้น 1 หมื่น กับ Short Set index future 1 สัญญา
หุ้นขึ้น10จุด พอร์ตหุ้นกำไร10% คือ 1000บาท
แต่ขาดทุนSet index future 10000บาท(10*1000)
ส่วนถ้ามีหุ้นอยู่ ผมเชื่อว่าหุ้นที่มีคือราคาต่ำมากนะ MOSเยอะด้วย แต่Shortเพื่อประกันความเสี่ยงทีละไตรมาสไปเรื่อยๆ ได้ก็เก็บเงินเข้ากระเป๋าแล้ว ไม่ได้ก็ไม่ขาดทุนมาก
เพราะประกันความเสี่ยงแค่นิดหน่อยเมื่อเทียบกับเงินลงทุน
ถ้าเมื่อเวลาหุ้นจะลง เขาก็จะขายหุ้นออกไปหมด หรือบางส่วน
แล้วLong Tfexไว้บางส่วนโดยเอา"กำไร"ไปประกันความเสี่ยงกันตกรถ เพราะขายออก
ดังนั้นจะเห็นว่าเฉพาะคนมีเงินเยอะถึงจะเหมาะสม
แต่ถ้าเงินไม่เยอะ ต้นทุนประกันความเสี่ยงมันเยอะไปนะสำหรับการใช้Tfex
เผลอๆมันจะขาดทุนมากกว่าแทนที่จะประกันความเสี่ยงซะอีก
พอร์ตหุ้น 1 หมื่น กับ Short Set index future 1 สัญญา
หุ้นขึ้น10จุด พอร์ตหุ้นกำไร10% คือ 1000บาท
แต่ขาดทุนSet index future 10000บาท(10*1000)
หุ้นมันอยู่รอบๆตัวเราเสมอ
-
- Verified User
- โพสต์: 1254
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สิ่งที่ผม สงสัยมาตลอดกับ tfex
โพสต์ที่ 7
ผมคิดว่าtfexเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังมากของกองทุนใหญ่ๆที่ลงทุนในไทยเช่นกองทุนของต่างชาติที่จำเป็นต้องลงทุนหุ้นบลูชิพในพอร์ตเป็นส่วนใหญ่ เมื่อกำไรได้จากหุ้นบลูชิพและอัตราแลกเปลี่ยนพอสมควรหรือตุ้นทุนราคาหุ้นที่ถือลงทุนอยู่นั้นสูงกว่าราคาตลาดพอสมควร และเห็นว่าภาวะตลาดหุ้นในอนาคตมีความเสี่ยงสูงจากปัจจัยต่างๆ ก็พร้อมที่ทำเหมือนในหนังก็คือทำกำไรจากขาลงของตลาดด้วยการระบายหุ้นที่ตนเองถือออกมาหลังจากการชอตฟิวเจอร์ได้ในจำนวนที่ต้องการแล้วคับแต่ถ้าพลังไม่มากพอก็ขาดทุนได้เหมือนกัน
สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกใบนี้คือความว่างเปล่า สูงจากว่างเปล่าคือก่อเกิดเปลี่ยนแปลง
http://www.fungdham.com/sound/popup-sou ... up-75.html
http://goo.gl/VjQ4cG
http://www.fungdham.com/sound/popup-sou ... up-75.html
http://goo.gl/VjQ4cG
- Murphy.Bkk
- Verified User
- โพสต์: 37
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สิ่งที่ผม สงสัยมาตลอดกับ tfex
โพสต์ที่ 8
ขึ้นกับวิธีการใช้ tfex ครับ
อย่างช่วงกลางปีที่ผ่านมา บางคนได้ผลตอบแทนจากตลาดหุ้นสูงมาก เช่น 50%
ซึ่งเกินกว่าที่เราคาดไว้มาก (เราอาจคาดแค่ได้ผลตอบแทน 10% ในปีนี้ก็ดีมากแล้ว)
เมื่อเข้าสู่ประมาณต้นเดือนสิงหา ตลาดหุ้นเริ่มเข้าสู่ขาลง มีข่าวร้ายเริ่มเข้ามาเต็มตลาด
ผลตอบแทนก็เริ่มลดลง เช่นเหลือ 40%
ส่วนตัวเราเองนั้น 40% นี่ก็ถือว่าสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ในปีนี้มากแล้ว
หุ้นที่อยู่ในมือ ก็กะลงทุนระยะยาว ไม่เคยคิดจะขาย แล้วก็ยังได้ปันผลอยู่
ในลักษณะนี้ ผมคิดว่า การใช้ TFEX จะได้ประโยชน์มาก แม้ว่าจะเป็นการบริหารความเสี่ยงรายบุคคลของเราก็ตาม
ถึงหุ้นจะขึ้นอีกเราก็อาจเสียดายอยู่บ้าง แต่ที่เราอยากได้มากกว่าคือ การล็อกกำไรของปีนี้ให้อยู่ในระดับ 40% (ที่เกินความคาดหวังของเราอยู่แล้ว)
อย่างช่วงกลางปีที่ผ่านมา บางคนได้ผลตอบแทนจากตลาดหุ้นสูงมาก เช่น 50%
ซึ่งเกินกว่าที่เราคาดไว้มาก (เราอาจคาดแค่ได้ผลตอบแทน 10% ในปีนี้ก็ดีมากแล้ว)
เมื่อเข้าสู่ประมาณต้นเดือนสิงหา ตลาดหุ้นเริ่มเข้าสู่ขาลง มีข่าวร้ายเริ่มเข้ามาเต็มตลาด
ผลตอบแทนก็เริ่มลดลง เช่นเหลือ 40%
ส่วนตัวเราเองนั้น 40% นี่ก็ถือว่าสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ในปีนี้มากแล้ว
หุ้นที่อยู่ในมือ ก็กะลงทุนระยะยาว ไม่เคยคิดจะขาย แล้วก็ยังได้ปันผลอยู่
ในลักษณะนี้ ผมคิดว่า การใช้ TFEX จะได้ประโยชน์มาก แม้ว่าจะเป็นการบริหารความเสี่ยงรายบุคคลของเราก็ตาม
ถึงหุ้นจะขึ้นอีกเราก็อาจเสียดายอยู่บ้าง แต่ที่เราอยากได้มากกว่าคือ การล็อกกำไรของปีนี้ให้อยู่ในระดับ 40% (ที่เกินความคาดหวังของเราอยู่แล้ว)
เราซื้อหุ้นดีทุกตัวไม่ได้ แต่หุ้นที่เราซื้อต้องดีเท่านั้น
เราซื้อหุ้นทุกตัวที่ขึ้นไม่ได้ แต่หุ้นที่เราซื้อต้องขึ้นเท่านั้น
เราซื้อหุ้นทุกตัวที่ขึ้นไม่ได้ แต่หุ้นที่เราซื้อต้องขึ้นเท่านั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 155
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สิ่งที่ผม สงสัยมาตลอดกับ tfex
โพสต์ที่ 9
พอจะได้ไอเดียแล้วครับ อืมก็ซับซ้อนดีนะ เพราะคนที่จะ short หรือ long ก็มีกันหลายวัตถุประสงค์
ทั้งเก็งกำไร ป้องกันความเสี่ยง
แต่กรณี หุ้นหลักที่เราถือไม่เป็นไปตามตลาด ก็มีโอกาส โดน 2 เด้งด้วย
เช่น หุ้นขึ้น แต่ตลาดลง ก็กำไร 2 ต่อ
แต่ หุ้นเราลง แต่ตลาดขึ้น ก็ขาดทุน 2 ทาง
ทั้งเก็งกำไร ป้องกันความเสี่ยง
แต่กรณี หุ้นหลักที่เราถือไม่เป็นไปตามตลาด ก็มีโอกาส โดน 2 เด้งด้วย
เช่น หุ้นขึ้น แต่ตลาดลง ก็กำไร 2 ต่อ
แต่ หุ้นเราลง แต่ตลาดขึ้น ก็ขาดทุน 2 ทาง
-
- Verified User
- โพสต์: 189
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สิ่งที่ผม สงสัยมาตลอดกับ tfex
โพสต์ที่ 10
มันคือการพนันอย่างหนึ่งที่มนุษย์พยายามสรรหาชื่อสวยหรูให้มัน
ว่าเครื่องมือบริหารความเสี่ยง ทั้งที่จริงๆแล้วก็ไม่ได้ต่างจากไฮโล
แทงม้า แทงบอล สักเท่าไหร่
สิ่งที่ผมเห็นประโยชน์จริงๆคือกองทุน LTF ที่มีข้อบังคับต้องถือหุ้นจำนวน % นึง
นำ Tfex เข้ามาเพื่อสร้างกองทุนความเสี่ยงต่ำเป็นทางเลือกให้นักลงทุนได้
นอกนั้นก็เป็นเครื่องมือให้รายใหญ่(เจ้าของบ่อน)หลอกกินเงินรายย่อย(นักพนัน) เท่านั้น
ว่าเครื่องมือบริหารความเสี่ยง ทั้งที่จริงๆแล้วก็ไม่ได้ต่างจากไฮโล
แทงม้า แทงบอล สักเท่าไหร่
สิ่งที่ผมเห็นประโยชน์จริงๆคือกองทุน LTF ที่มีข้อบังคับต้องถือหุ้นจำนวน % นึง
นำ Tfex เข้ามาเพื่อสร้างกองทุนความเสี่ยงต่ำเป็นทางเลือกให้นักลงทุนได้
นอกนั้นก็เป็นเครื่องมือให้รายใหญ่(เจ้าของบ่อน)หลอกกินเงินรายย่อย(นักพนัน) เท่านั้น
- ซุนเซ็ก
- Verified User
- โพสต์: 1104
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สิ่งที่ผม สงสัยมาตลอดกับ tfex
โพสต์ที่ 11
มันเป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงสำหรับการลงทุนบางรูปแบบ
อย่างเช่น กองทุนขนาดใหญ่, hedge fund, หุ้นพุ่งเกินมูลค่ามากๆแต่ยังไม่อยากขายที่ถืออยู่
เป็นการพนันมั้ย? ผมว่าใช่ ถ้าเราไปแทงสูงต่ำ แต่ถ้าใช้ให้เกิดประโยชน์อื่นใด ผมไม่คิดว่านั้นเป็นการพนัน
แม้แต่ปู่บัฟเฟตที่บอกว่า future option สมควรเป็นสิ่งผิดกฏหมาย....ยัง short option เลยครับ
Buffett Loses $1.2 Billion Shorting PUT Options
http://globaleconomicanalysis.blogspot. ... g-put.html
อย่างเช่น กองทุนขนาดใหญ่, hedge fund, หุ้นพุ่งเกินมูลค่ามากๆแต่ยังไม่อยากขายที่ถืออยู่
เป็นการพนันมั้ย? ผมว่าใช่ ถ้าเราไปแทงสูงต่ำ แต่ถ้าใช้ให้เกิดประโยชน์อื่นใด ผมไม่คิดว่านั้นเป็นการพนัน
แม้แต่ปู่บัฟเฟตที่บอกว่า future option สมควรเป็นสิ่งผิดกฏหมาย....ยัง short option เลยครับ
Buffett Loses $1.2 Billion Shorting PUT Options
http://globaleconomicanalysis.blogspot. ... g-put.html
ผมไม่ได้อยู่ในเว็บนี้แล้ว, มีอะไรติดต่อได้ทาง FB - 27/9/2555
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
-
- Verified User
- โพสต์: 1211
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สิ่งที่ผม สงสัยมาตลอดกับ tfex
โพสต์ที่ 12
การพิจารณา Derivatives ให้รอบด้านเป็นสิ่งที่พึงกระทำ
ตัวอย่างการ Short Options (หนึ่งในสินค้าของ TFEX)
หุ้น A มีราคา ณ ปัจจุบัน = 100 บาทต่อหุ้น
นักลงทุน ก คำนวณราคาที่เหมาะสมของหุ้น A พร้อม MOS ได้ที่ 70 บาท
นักลงทุน ก จึงทำการ Short Put Options หุ้น A ที่ 70 บาทเป็นจำนวน 1,000 หุ้น ได้รับพรีเมี่ยมมา = 2,500 บาท(ตัวเลขสมมติ)
เมื่อครบกำหนดอายุสัญญาจะเกิดเหตุได้ 2 กรณี
1. หุ้น A ราคาสูงกว่าหรือเท่ากับ 70 บาท --> นักลงทุน ก ไม่ต้องทำตามสัญญา และเก็บพรีเมียมไปเป็นผลตอบแทนรวม
2. หุ้น A ราคาต่ำกว่า 70 บาท --> นักลงทุน ก จะต้องซื้อหุ้น A เป็นจำนวน 1,000 หุ้นที่ราคา 70 บาท ซึ่งก็เป็นราคาที่นักลงทุน ก ตั้งใจที่จะซื้ออยู่แล้ว และยังมีพรีเมี่ยมบวกเข้ามาเป็นผลตอบแทนด้วย
ถ้าพิจารณาตามตัวอย่าง จะเห็นว่า Derivatives ไม่ได้เป็นการพนันเสมอไปนะครับ
ตัวอย่างการ Short Options (หนึ่งในสินค้าของ TFEX)
หุ้น A มีราคา ณ ปัจจุบัน = 100 บาทต่อหุ้น
นักลงทุน ก คำนวณราคาที่เหมาะสมของหุ้น A พร้อม MOS ได้ที่ 70 บาท
นักลงทุน ก จึงทำการ Short Put Options หุ้น A ที่ 70 บาทเป็นจำนวน 1,000 หุ้น ได้รับพรีเมี่ยมมา = 2,500 บาท(ตัวเลขสมมติ)
เมื่อครบกำหนดอายุสัญญาจะเกิดเหตุได้ 2 กรณี
1. หุ้น A ราคาสูงกว่าหรือเท่ากับ 70 บาท --> นักลงทุน ก ไม่ต้องทำตามสัญญา และเก็บพรีเมียมไปเป็นผลตอบแทนรวม
2. หุ้น A ราคาต่ำกว่า 70 บาท --> นักลงทุน ก จะต้องซื้อหุ้น A เป็นจำนวน 1,000 หุ้นที่ราคา 70 บาท ซึ่งก็เป็นราคาที่นักลงทุน ก ตั้งใจที่จะซื้ออยู่แล้ว และยังมีพรีเมี่ยมบวกเข้ามาเป็นผลตอบแทนด้วย
ถ้าพิจารณาตามตัวอย่าง จะเห็นว่า Derivatives ไม่ได้เป็นการพนันเสมอไปนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 165
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สิ่งที่ผม สงสัยมาตลอดกับ tfex
โพสต์ที่ 14
คิดว่ามีทั้งประโยชน์และโทษขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การนำไปใช้นะครับ
ซึ่งถ้านำไปใช้เพื่อบริหารความเสี่ยงพอร์ทในบางรูปแบบ ก็น่าจะเป็นประโยชน์ เพราะ TFEX มี transaction cost ที่ค่อนข้างต่ำ และยังมีความสะดวกมากกว่า โดยเฉพาะกับกองทุนขนาดใหญ่
แต่ถ้านำไปใช้เพื่อการเก็งกำไร อันนี้ก็เสมือนการพนันอย่างนึง ก็ไม่น่าจะเกิดประโยชน์แต่อย่างใดนะครับ
และเกิดผีพนันเข้าสิงขึ้นมาจะแย่เอา
ซึ่งถ้านำไปใช้เพื่อบริหารความเสี่ยงพอร์ทในบางรูปแบบ ก็น่าจะเป็นประโยชน์ เพราะ TFEX มี transaction cost ที่ค่อนข้างต่ำ และยังมีความสะดวกมากกว่า โดยเฉพาะกับกองทุนขนาดใหญ่
แต่ถ้านำไปใช้เพื่อการเก็งกำไร อันนี้ก็เสมือนการพนันอย่างนึง ก็ไม่น่าจะเกิดประโยชน์แต่อย่างใดนะครับ
และเกิดผีพนันเข้าสิงขึ้นมาจะแย่เอา
- Pathfinder
- Verified User
- โพสต์: 89
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สิ่งที่ผม สงสัยมาตลอดกับ tfex
โพสต์ที่ 15
เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจมากครับได้ทั้งค่าพรีเมี่ยม ได้ทั้งหุ้นที่มี MOSBelffet เขียน:การพิจารณา Derivatives ให้รอบด้านเป็นสิ่งที่พึงกระทำ
ตัวอย่างการ Short Options (หนึ่งในสินค้าของ TFEX)
หุ้น A มีราคา ณ ปัจจุบัน = 100 บาทต่อหุ้น
นักลงทุน ก คำนวณราคาที่เหมาะสมของหุ้น A พร้อม MOS ได้ที่ 70 บาท
นักลงทุน ก จึงทำการ Short Put Options หุ้น A ที่ 70 บาทเป็นจำนวน 1,000 หุ้น ได้รับพรีเมี่ยมมา = 2,500 บาท(ตัวเลขสมมติ)
เมื่อครบกำหนดอายุสัญญาจะเกิดเหตุได้ 2 กรณี
1. หุ้น A ราคาสูงกว่าหรือเท่ากับ 70 บาท --> นักลงทุน ก ไม่ต้องทำตามสัญญา และเก็บพรีเมียมไปเป็นผลตอบแทนรวม
2. หุ้น A ราคาต่ำกว่า 70 บาท --> นักลงทุน ก จะต้องซื้อหุ้น A เป็นจำนวน 1,000 หุ้นที่ราคา 70 บาท ซึ่งก็เป็นราคาที่นักลงทุน ก ตั้งใจที่จะซื้ออยู่แล้ว และยังมีพรีเมี่ยมบวกเข้ามาเป็นผลตอบแทนด้วย
ถ้าพิจารณาตามตัวอย่าง จะเห็นว่า Derivatives ไม่ได้เป็นการพนันเสมอไปนะครับ
แต่ TFEX จะมี Single Stock Option เมื่อไรไม่รู้?
Focusing on quality and cheapness simultaneously helps investors beat the market!
- ziannoom
- Verified User
- โพสต์: 1041
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สิ่งที่ผม สงสัยมาตลอดกับ tfex
โพสต์ที่ 16
บอกตามตรงผมไม่รู้เลยมันคืออะไร มันจ่ายปันผลหรือป่าวครับ งบดุลเป็นไง roa roe npm FCf เป็นเท่าไหร่ ถ้าบอกว่ามีแค่สูงกับต่ำ นี่มันการพนันหรือป่าว ไม่แน่ใจ
ซื้อเมื่อราคาต่ำกว่ามูลค่า ขายเมื่อมูลค่าต่ำกว่าราคา
- Pathfinder
- Verified User
- โพสต์: 89
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สิ่งที่ผม สงสัยมาตลอดกับ tfex
โพสต์ที่ 18
สิ่งที่ผมสนใจใน TFEX คือการนำไปใช้จำกัดความเสี่ยง หรือการ Lock ผลกำไรครับ เช่นถ้ามีหุ้นอยู่แต่กลัวว่า SET ลง แล้วกำไรเราจะหายตาม SET ไปด้วย...แต่ถ้าจะให้ขายหุ้นก็ไม่อยากขาย เดี๋ยว SET กลับมาซื้อไม่ทันจะตกรถได้...อีกทั้งช่วงที่ขายหุ้นไปเงินที่ถือไว้ก็ไม่ได้ผลตอบแทน
ผมคิดว่าน่าจะเหมาะกับหุ้นที่แกร่ง เมื่อ SETลงก็ลงน้อยกว่า แต่ถ้า SET ขึ้นจะขึ้นมากกว่า SETมากๆ.....แต่คงไม่ง่าย...ต้่องขอศึกษาให้ลึกซึ้งก่อนใช้
ผมคิดว่าน่าจะเหมาะกับหุ้นที่แกร่ง เมื่อ SETลงก็ลงน้อยกว่า แต่ถ้า SET ขึ้นจะขึ้นมากกว่า SETมากๆ.....แต่คงไม่ง่าย...ต้่องขอศึกษาให้ลึกซึ้งก่อนใช้
Focusing on quality and cheapness simultaneously helps investors beat the market!
-
- Verified User
- โพสต์: 189
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สิ่งที่ผม สงสัยมาตลอดกับ tfex
โพสต์ที่ 19
มันไม่ได้จำกัดความเสี่ยงหรอกครับ เพราะคิดไปอย่างเดียวว่าราคาสูงแล้วPathfinder เขียน:สิ่งที่ผมสนใจใน TFEX คือการนำไปใช้จำกัดความเสี่ยง หรือการ Lock ผลกำไรครับ เช่นถ้ามีหุ้นอยู่แต่กลัวว่า SET ลง แล้วกำไรเราจะหายตาม SET ไปด้วย...แต่ถ้าจะให้ขายหุ้นก็ไม่อยากขาย เดี๋ยว SET กลับมาซื้อไม่ทันจะตกรถได้...อีกทั้งช่วงที่ขายหุ้นไปเงินที่ถือไว้ก็ไม่ได้ผลตอบแทน
ผมคิดว่าน่าจะเหมาะกับหุ้นที่แกร่ง เมื่อ SETลงก็ลงน้อยกว่า แต่ถ้า SET ขึ้นจะขึ้นมากกว่า SETมากๆ.....แต่คงไม่ง่าย...ต้่องขอศึกษาให้ลึกซึ้งก่อนใช้
จึง short tfex ผมว่าเป็นการกระทำที่ตลกมากๆ หากราคาสูงแล้วก็ขายสิครับ
การไป short tfex อยู่บนสมมุติฐานว่ามันอาจจะลง แต่ ถ้ามันขึ้นล่ะครับ
แทนที่จะได้กำไรหุ้นก็กลายเป็นไม่ได้กำไร สรุป ค่ามันก็เท่ากับขายหุ้นไปแหละครับ
ไม่รู้จะไปทำให้ยุ่งยากทำไม
ถึงบอกไงครับว่ามันคือไฮโลดีๆนี่แหละ กองทุนกำจัดความเสี่ยงได้ก็จริงครับ
แต่ถามว่ากอง short tfex แล้วใคร long ล่ะครับ ไม่ใช่ย่อยทั้งหลายหรือ
แล้วยังงั้นย่อยจำกัดความเสี่ยงไหม ไม่เลย เพราะย่อยไม่จำเป็นต้องใช้ tfex
ตามเหตุผลที่ผมกล่าวมาคือหากคิดว่าหุ้นขึ้น ก็ถือไว้สิครับ
เพราะรายย่อยจะซื้อจะขายไม่ได้มีผลกับราคาตลาดมากนัก ต่างกับกองทุน
ที่การซื้อขายจำนวนมากทำได้ลำบาก เพราะจะมีผลกับราคา เลยออกอุบาย
มาหลอกรายย่อยว่า tfex คือเครื่องมือจำกัดความเสี่ยง
- phoncu
- Verified User
- โพสต์: 338
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สิ่งที่ผม สงสัยมาตลอดกับ tfex
โพสต์ที่ 20
การใช้ Tfex ที่ถูกต้องคือการ hedging systematic risk ครับ
ปกติหุ้น 1 ตัว จะประกอบด้วย systematic risk (Market Risk)+ Idiosyncratic Risk (ความเสี่ยงของตัวกิจการเอง)
ดังนั้นการใช้ Tfex ก็เหมือนการ hedge market risk ให้หมดไป ส่วนจะใช้เท่าไรจริงๆ แล้วมีสูตรคำนวณเทียบกับ Port size ลองหาอ่านใน Google ดูน๊ะครับ ถ้าอธิบายในนี้จะยาว เพราะมีเรื่องพวก Beta ของ Port เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
แต่โดยหลักก็เหมือนที่เพื่อนบอกล่ะครับ ว่าถ้าเราคิดว่ากิจการที่เราถือมีความมั่นคง เราก็ hedge tfex ให้ cover port position ทีนี้ Market Risk ที่เกิดจาก Set ลงก็จะหายไป เหลือแต่ความเสี่ยงของตัวกิจการ พอ Set ลง ขาดทุนในหุ้นก็จะ cover กับที่เรา short tfex ไว้ ประมาณนี้ครับ
ปกติหุ้น 1 ตัว จะประกอบด้วย systematic risk (Market Risk)+ Idiosyncratic Risk (ความเสี่ยงของตัวกิจการเอง)
ดังนั้นการใช้ Tfex ก็เหมือนการ hedge market risk ให้หมดไป ส่วนจะใช้เท่าไรจริงๆ แล้วมีสูตรคำนวณเทียบกับ Port size ลองหาอ่านใน Google ดูน๊ะครับ ถ้าอธิบายในนี้จะยาว เพราะมีเรื่องพวก Beta ของ Port เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
แต่โดยหลักก็เหมือนที่เพื่อนบอกล่ะครับ ว่าถ้าเราคิดว่ากิจการที่เราถือมีความมั่นคง เราก็ hedge tfex ให้ cover port position ทีนี้ Market Risk ที่เกิดจาก Set ลงก็จะหายไป เหลือแต่ความเสี่ยงของตัวกิจการ พอ Set ลง ขาดทุนในหุ้นก็จะ cover กับที่เรา short tfex ไว้ ประมาณนี้ครับ
- watermusic
- Verified User
- โพสต์: 62
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สิ่งที่ผม สงสัยมาตลอดกับ tfex
โพสต์ที่ 21
ถ้าใช้ดี ๆ ก็คงมีประโยชน์ละนะครับ
เคยอ่านอยู่กรณีนึงคือใช้ลดความเสี่ยงแทนการ cutloss ได้ระดับหนึ่ง
แต่เน้นว่าต้องใช้สำหรับบริหารความเสี่ยงนะครับ ไม่ใช่ไปแทงเพื่อหวังกำไรตรง ๆ
อย่างนั้นก็ "ไฮโล" ดีดีนี่เอง
ปล. ผมไม่เคยใช้นะครับ
เคยอ่านอยู่กรณีนึงคือใช้ลดความเสี่ยงแทนการ cutloss ได้ระดับหนึ่ง
แต่เน้นว่าต้องใช้สำหรับบริหารความเสี่ยงนะครับ ไม่ใช่ไปแทงเพื่อหวังกำไรตรง ๆ
อย่างนั้นก็ "ไฮโล" ดีดีนี่เอง
ปล. ผมไม่เคยใช้นะครับ
สิ่งมีชีวิตซึ่งขับเคลื่อนด้วยความกลัวและความโลภ
- Pathfinder
- Verified User
- โพสต์: 89
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สิ่งที่ผม สงสัยมาตลอดกับ tfex
โพสต์ที่ 22
ผมค้่นเจอหนึ่งตัวอย่างเป็นการใช้ Future มา Lock ผลตอบแทนของเงินปันผลphoncu เขียน:การใช้ Tfex ที่ถูกต้องคือการ hedging systematic risk ครับ
ปกติหุ้น 1 ตัว จะประกอบด้วย systematic risk (Market Risk)+ Idiosyncratic Risk (ความเสี่ยงของตัวกิจการเอง)
ดังนั้นการใช้ Tfex ก็เหมือนการ hedge market risk ให้หมดไป ส่วนจะใช้เท่าไรจริงๆ แล้วมีสูตรคำนวณเทียบกับ Port size ลองหาอ่านใน Google ดูน๊ะครับ ถ้าอธิบายในนี้จะยาว เพราะมีเรื่องพวก Beta ของ Port เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
แต่โดยหลักก็เหมือนที่เพื่อนบอกล่ะครับ ว่าถ้าเราคิดว่ากิจการที่เราถือมีความมั่นคง เราก็ hedge tfex ให้ cover port position ทีนี้ Market Risk ที่เกิดจาก Set ลงก็จะหายไป เหลือแต่ความเสี่ยงของตัวกิจการ พอ Set ลง ขาดทุนในหุ้นก็จะ cover กับที่เรา short tfex ไว้ ประมาณนี้ครับ
http://www.investorchart.com/index.php? ... 18&Ntype=4
แต่การใช้วิธีนี้ Port ลงทุนจะต้องตั้งอยู่บนเงื่อนไขทั้ง 3 ข้อตามที่กำหนดไว้
- วิเคราะห์อัตราการจ่ายปันผลย้อนหลังในอดีตที่ผ่านมา อย่างน้อย 3 ปี ว่ามีการจ่ายปันผลในอัตราส่วน คงที่ และสม่ำเสมอหรือไม่
- มีผลประกอบการ ที่ไม่มีการปรับตัวลงอย่างมีนัยยะสำคัญ หรือ ต้องไม่มีแนวโน้มที่ผลประกอบการจะถดถอย เพราะจะมีผลต่อเงินปันผลในอนาคต
- ต้องเป็นหุ้นขนาดกลางหรือใหญ่ที่อยู่ใน SET100 ดังนั้นจึงจะมีการเปลี่ยนแปลงราคาใกล้เคียงกับ SET index หรือ SET50
ผมคิดว่าถ้าขาดข้อใดข้อหนึ่งก็จะทำให้วิธีการนี้มีความเสี่ยงที่จะไม่ได้ผลลัพธ์ตามแผนการขึ้นมาทันที ส่วน Beta ของ Port เขาจะใช้สมมุติฐานแทนว่าการเลือกหุ้นอยู่ใน SET100 เปลี่ยนแปลงราคาใกล้เคียงกับ SET index ...ซึ่งก็เป็นความเสี่ยงอีกเรื่องหนึ่งเพราะถ้าเลือกหุ้นไม่ดี Port ตกลงมากกว่า SET แล้ว Future ที่ short ไว้ อาจจะไม่สามารถ cover ผลการขาดทุนได้
Focusing on quality and cheapness simultaneously helps investors beat the market!
-
- Verified User
- โพสต์: 1822
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สิ่งที่ผม สงสัยมาตลอดกับ tfex
โพสต์ที่ 23
ดูเหมือนหลายๆท่านจะยังไม่เข้าใจว่า futurs มีประโยชน์อย่างไร
เข้าอบรมของ tsi เลยครับ มีจัดอยู่เรื่อยๆ และฟรีสำหรับนักลงทุนด้วย
หากอบรมแล้วอยากรู้เยอะขึ้นก็มีหนังสือเกี่ยวกับอนุพันธ์หลายเล่มที่เป็นภาษาไทยครับ
เข้าอบรมของ tsi เลยครับ มีจัดอยู่เรื่อยๆ และฟรีสำหรับนักลงทุนด้วย
หากอบรมแล้วอยากรู้เยอะขึ้นก็มีหนังสือเกี่ยวกับอนุพันธ์หลายเล่มที่เป็นภาษาไทยครับ
- yoyoeffect
- Verified User
- โพสต์: 364
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สิ่งที่ผม สงสัยมาตลอดกับ tfex
โพสต์ที่ 24
ผมไม่รู้ว่าเข้าใจถูกรึเปล่านะครับ
ฝากผู้รู้ช่วยอธิบายให้ฟังด้วย
สมมติผมเป็นกองทุนต่างชาติขนาดใหญ่ เข้าซื้อหุ้น A ที่ราคาเหมาะสม 100 บาท
เข้าซื้ออยู่หลายวันเพราะทุนเยอะ ไล่ซื้อไปเรื่อยๆจนราคาขึ้นไปถึง 140 บาท
ได้ราคาเฉลี่ยงวดนี้ที่ประมาณ 125 บาท
กองทุนในประเทศ รายใหญ่ เห็นว่าขนาดกองทุนต่างชาติ เข้าซื้อจำนวนมากขนาดนี้ ต้องมีอะไรดีแน่นอน โบรกก็เริ่มออกข่าวดีต่างๆ(หลังจากเก็บได้จำนวนที่พอใจแล้ว) ผสมโรงกับรายใหญ่ แน่นอนว่า ราคาตอนนี้ขึ้นไป 240 บาท รายย่อยเริ่มเห็นโบรกออกข่าวดี ขาใหญ่เพิ่งเริ่มเข้าซื้อ(บอกตอนเก็บจะครบแล้ว)
รายย่อยเริ่มแห่เข้าตาม แน่นอนมีเงินเข้า ราคาขึ้นไปอีกหน่อยให้ชื่นใจสุดที่ 280 บาท(ดอย)
กองทุนต่างชาติขนาดใหญ่อย่างผมเล็งเห็นแล้วว่า ราคามันดูจะเว่อร์ไปแล้ว
ขายดีกว่าก็ได้กำไร capital gain + ปันผล(ถ้ามีให้)
และถ้าขายทีเดียวหมดพอร์ตทุกราคาเยอะขนาดนี้ ราคาล่วงระนาวแน่นอน
หาเครื่องมือทำกำไรตอนราคาลงอีกด้วยดีกว่า tfex คือคำตอบ ก็shortหุ้นไว้
ตอนขายหุ้นหมดพอร์ต ราคาอาจจะล่วงลงมาเหลือที่ประมาณ 130 บาท
ผมได้กำไร ทั้งขายหุ้นได้ส่วนต่างราคา+ปันผล +short tfex
เจ็บหนักสุดคือ รายย่อยดอย(ทุน240-280บาท)
แน่นอนว่ากองทุนต่างชาติขนาดใหญ่อย่างผม อาจจะไม่ได้กำไรทุกครั้งไป
ขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจต่างๆอื่นๆด้วย แต่ก็พร้อมที่จะเสี่ยง เพราะโอกาสได้มีมากกว่าเสีย
ฝากผู้รู้ช่วยอธิบายให้ฟังด้วย
สมมติผมเป็นกองทุนต่างชาติขนาดใหญ่ เข้าซื้อหุ้น A ที่ราคาเหมาะสม 100 บาท
เข้าซื้ออยู่หลายวันเพราะทุนเยอะ ไล่ซื้อไปเรื่อยๆจนราคาขึ้นไปถึง 140 บาท
ได้ราคาเฉลี่ยงวดนี้ที่ประมาณ 125 บาท
กองทุนในประเทศ รายใหญ่ เห็นว่าขนาดกองทุนต่างชาติ เข้าซื้อจำนวนมากขนาดนี้ ต้องมีอะไรดีแน่นอน โบรกก็เริ่มออกข่าวดีต่างๆ(หลังจากเก็บได้จำนวนที่พอใจแล้ว) ผสมโรงกับรายใหญ่ แน่นอนว่า ราคาตอนนี้ขึ้นไป 240 บาท รายย่อยเริ่มเห็นโบรกออกข่าวดี ขาใหญ่เพิ่งเริ่มเข้าซื้อ(บอกตอนเก็บจะครบแล้ว)
รายย่อยเริ่มแห่เข้าตาม แน่นอนมีเงินเข้า ราคาขึ้นไปอีกหน่อยให้ชื่นใจสุดที่ 280 บาท(ดอย)
กองทุนต่างชาติขนาดใหญ่อย่างผมเล็งเห็นแล้วว่า ราคามันดูจะเว่อร์ไปแล้ว
ขายดีกว่าก็ได้กำไร capital gain + ปันผล(ถ้ามีให้)
และถ้าขายทีเดียวหมดพอร์ตทุกราคาเยอะขนาดนี้ ราคาล่วงระนาวแน่นอน
หาเครื่องมือทำกำไรตอนราคาลงอีกด้วยดีกว่า tfex คือคำตอบ ก็shortหุ้นไว้
ตอนขายหุ้นหมดพอร์ต ราคาอาจจะล่วงลงมาเหลือที่ประมาณ 130 บาท
ผมได้กำไร ทั้งขายหุ้นได้ส่วนต่างราคา+ปันผล +short tfex
เจ็บหนักสุดคือ รายย่อยดอย(ทุน240-280บาท)
แน่นอนว่ากองทุนต่างชาติขนาดใหญ่อย่างผม อาจจะไม่ได้กำไรทุกครั้งไป
ขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจต่างๆอื่นๆด้วย แต่ก็พร้อมที่จะเสี่ยง เพราะโอกาสได้มีมากกว่าเสีย
- blackninja
- Verified User
- โพสต์: 176
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สิ่งที่ผม สงสัยมาตลอดกับ tfex
โพสต์ที่ 25
ก็เป็นวิธีการนึงครับของที่เค้าทำกันอยู่ครับyoyoeffect เขียน:ผมไม่รู้ว่าเข้าใจถูกรึเปล่านะครับ
ฝากผู้รู้ช่วยอธิบายให้ฟังด้วย
สมมติผมเป็นกองทุนต่างชาติขนาดใหญ่ เข้าซื้อหุ้น A ที่ราคาเหมาะสม 100 บาท
เข้าซื้ออยู่หลายวันเพราะทุนเยอะ ไล่ซื้อไปเรื่อยๆจนราคาขึ้นไปถึง 140 บาท
ได้ราคาเฉลี่ยงวดนี้ที่ประมาณ 125 บาท
กองทุนในประเทศ รายใหญ่ เห็นว่าขนาดกองทุนต่างชาติ เข้าซื้อจำนวนมากขนาดนี้ ต้องมีอะไรดีแน่นอน โบรกก็เริ่มออกข่าวดีต่างๆ(หลังจากเก็บได้จำนวนที่พอใจแล้ว) ผสมโรงกับรายใหญ่ แน่นอนว่า ราคาตอนนี้ขึ้นไป 240 บาท รายย่อยเริ่มเห็นโบรกออกข่าวดี ขาใหญ่เพิ่งเริ่มเข้าซื้อ(บอกตอนเก็บจะครบแล้ว)
รายย่อยเริ่มแห่เข้าตาม แน่นอนมีเงินเข้า ราคาขึ้นไปอีกหน่อยให้ชื่นใจสุดที่ 280 บาท(ดอย)
กองทุนต่างชาติขนาดใหญ่อย่างผมเล็งเห็นแล้วว่า ราคามันดูจะเว่อร์ไปแล้ว
ขายดีกว่าก็ได้กำไร capital gain + ปันผล(ถ้ามีให้)
และถ้าขายทีเดียวหมดพอร์ตทุกราคาเยอะขนาดนี้ ราคาล่วงระนาวแน่นอน
หาเครื่องมือทำกำไรตอนราคาลงอีกด้วยดีกว่า tfex คือคำตอบ ก็shortหุ้นไว้
ตอนขายหุ้นหมดพอร์ต ราคาอาจจะล่วงลงมาเหลือที่ประมาณ 130 บาท
ผมได้กำไร ทั้งขายหุ้นได้ส่วนต่างราคา+ปันผล +short tfex
เจ็บหนักสุดคือ รายย่อยดอย(ทุน240-280บาท)
แน่นอนว่ากองทุนต่างชาติขนาดใหญ่อย่างผม อาจจะไม่ได้กำไรทุกครั้งไป
ขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจต่างๆอื่นๆด้วย แต่ก็พร้อมที่จะเสี่ยง เพราะโอกาสได้มีมากกว่าเสีย
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สิ่งที่ผม สงสัยมาตลอดกับ tfex
โพสต์ที่ 26
'ทีเฟ็กซ์' เล็งยื่นแบงก์ชาติ เพิ่มเพดานสัญญาดอลลาร์ [ กรุงเทพธุรกิจ, 6 มิ.ย. 55 ]
ดอลลาร์ ฟิวเจอร์สเทรดวันแรก 3,429 สัญญา ทีเฟ็กซ์เล็งขอ ธปท. อนุมัติขยายเพดาน ถือครอง
สถานะสุทธิของโบรกเกอร์เพิ่มจาก 5 พันสัญญาเป็น 2.5 หมื่นสัญญา ด้านโบรกเกอร์ค้าทองคาดใบอนุญาต
เต็ม รูปแบบกลางเดือนนี้ จ่อขอเพิ่มเป็น 1 แสนสัญญา ขณะที่ "กิตติรัตน์" ส่งสัญญาณเปิดซื้อขายฟิวเจอร์ส
สกุลเงิน "เยน-ยูโร-หยวน" ขณะที่ตลาดชี้เงินบาทผันผวนแต่ไม่ได้เข้าแทรกแซง--จบ--
ดอลลาร์ ฟิวเจอร์สเทรดวันแรก 3,429 สัญญา ทีเฟ็กซ์เล็งขอ ธปท. อนุมัติขยายเพดาน ถือครอง
สถานะสุทธิของโบรกเกอร์เพิ่มจาก 5 พันสัญญาเป็น 2.5 หมื่นสัญญา ด้านโบรกเกอร์ค้าทองคาดใบอนุญาต
เต็ม รูปแบบกลางเดือนนี้ จ่อขอเพิ่มเป็น 1 แสนสัญญา ขณะที่ "กิตติรัตน์" ส่งสัญญาณเปิดซื้อขายฟิวเจอร์ส
สกุลเงิน "เยน-ยูโร-หยวน" ขณะที่ตลาดชี้เงินบาทผันผวนแต่ไม่ได้เข้าแทรกแซง--จบ--
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 126
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สิ่งที่ผม สงสัยมาตลอดกับ tfex
โพสต์ที่ 27
ที่คุยกันน่าจะเป็นตัวฟิวเจอร์ แต่ตลาดทีเฟ็ก
มีสินค้าหลายชนิด ตัวออฟชั่นน่าลงทุนที่สุด
แต่สภาพคล่องน้อยมาก การใช้ฟิวเจอร์มาประกันความเสี่ยง
พอร์ตมันไม่ง่ายเหมือนที่คุยกัน บางครั้งเรา short
แต่set ไม่ลง หุ้นเราอาจจะลงก็ได้
ตามทฤษฏี 1 สัญญามีมูลค่า 80000 บาท
แต่ส่วนใหญ่หุ้นในพอร์ตจะขาดทุนมากกว่า
ที่เรากำไรจาก ฟิวเจอร์ ถ้าเราประกันความ
เสี่ยงเท่ากับมูลค่าหุ้นในพอร์ต
สำหรับผมคิดว่ามีประโยชน์มากถ้าใช้ถูกวิธี
มีสินค้าหลายชนิด ตัวออฟชั่นน่าลงทุนที่สุด
แต่สภาพคล่องน้อยมาก การใช้ฟิวเจอร์มาประกันความเสี่ยง
พอร์ตมันไม่ง่ายเหมือนที่คุยกัน บางครั้งเรา short
แต่set ไม่ลง หุ้นเราอาจจะลงก็ได้
ตามทฤษฏี 1 สัญญามีมูลค่า 80000 บาท
แต่ส่วนใหญ่หุ้นในพอร์ตจะขาดทุนมากกว่า
ที่เรากำไรจาก ฟิวเจอร์ ถ้าเราประกันความ
เสี่ยงเท่ากับมูลค่าหุ้นในพอร์ต
สำหรับผมคิดว่ามีประโยชน์มากถ้าใช้ถูกวิธี
no