มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
imerlot
Verified User
โพสต์: 2686
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 31

โพสต์


กลยุทธ์ที่ 36
หลบหนี

กลยุทธ์หลบหนี หรือ โจ่วเหวยซ่าง (อังกฤษ: If everything else fails, retreat; จีนตัวเต็ม: 走為上; จีนตัวย่อ: 走为上; พินอิน: Zǒu wéi shàng) เป็นกลยุทธ์ที่หมายความถึงเมื่อทำการศึกสงครามกับศัตรู หากศัตรูมีกองกำลังทหารที่เข้มแข็ง มีกองทัพที่แข็งแกร่ง ชำนาญภูมิศาสตร์ อาจจะถอยร่นหลบหนีอย่างรวดเร็วเพื่อหลบเลี่ยงการปะทะและการเผชิญหน้า คัมภีร์อี้จิงกล่าวว่า "ถอยหนีมิผิด เป็นวิสัยแห่งสงคราม" ซึ่งเป็นการชี้ชัดว่าการถอยหนีในการทำสงครามนั้น มิใช่ความผิดผลาด หากแต่เป็นเรื่องธรรมดาสามัญในการทำศึก ที่มักจะพบเห็นเสมอ การถอยหนีเป็นการถอยเพื่อหาหนทางหลีกเลี่ยงความเสียหาย แลหาโอกาสชิงตอบโต้ในภายหลัง มิใช่เป็นการถอยหนีอย่างสิ้นเชิง ตัวอย่างการนำเอากลยุทธ์หลบหนีไปใช้ได้แก่จูกัดเหลียงที่ลอบหลบหนีจิวยี่ภายหลังจากทำพิธีเรียกลมสลาตันที่เขาลำปินสานเพื่อใช้ไฟเผากองทัพเรือโจโฉในคราวศึกเซ็กเพ็ก[38]
[size=50]http://th.wikipedia.org/wiki/% ... .B5[/size]
ilovemom
Verified User
โพสต์: 72
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 32

โพสต์

ziannoom เขียน: ......
ปล หากมีใครแนะนำแหล่งพักเงินที่ให้ดอกเบี้ยดีๆแนะนำหน่อยนะครับ ธนาคารไหนให้ดอกดีภายใน 4-5 เดือนนี้จะเป็นพระคุณอย่างสูง
ถ้าเป็นเงินฝากประจำ 4-5 เดือน
ตอนนี้น่าจะเป็น เงินฝากประจำ 5 เดือนของธนาคารออมสิน ที่ให้ดอกเบี้ยสูงที่สุดนะคะ ดอกเบี้ย 3.90%/ปี

แต่ถ้าเป็นตั๋วแลกเงิน ก็จะเป็นของธนาคารทิสโก้ (เมื่อเช้าเพิ่งอ่านเจอ) ดอกเบี้ย 4.5%/ปี แต่ต้องฝาก 7 เดือนค่ะ
harikung
Verified User
โพสต์: 2232
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 33

โพสต์

ผมยังอยู่ครับ ตอนนี้ลบแล้ว13% ยังเหลือเงินสดประมาณ65%(อาจจะมากกว่านั้นถ้าได้รับความกรุณาจากทางบ้านเพิ่ม) รอไปจัดเตมตอนพายุสงบครับ
นักเลงคีย์บอร์ด4.0
Pu
Verified User
โพสต์: 393
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 34

โพสต์

Jeng เขียน:ค่อยๆไปทีละคน :(

หรือว่าเป็นสัญญาน "ซื้อ" :?: :?: :?:
"If you took our top fifteen decisions out, we’d have a pretty average record. It wasn’t hyperactivity,but a hell of a lot of patience. You stuck to your principles and when opportunities came along,you pounced on them with vigor"-Charlie Munger
pornjalern
Verified User
โพสต์: 38
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 35

โพสต์

ถ้าล้างพอร์ทแล้วอยากฝากเงิน และวางแผนว่าจะยังไม่กลับมาลงทุนในระยะสั้นๆผมว่าฝากยาวหน่อยก็ได้ครับจะได้ ล้อคดอกเบี้ยไว้สูงหน่อย ผมไม่คิดว่า BOT กล้าขึ้นดอกเบี้ยในช่วงปีนี้แน่นอนครับ (แต่ถ้าขึ้นจริงก็ต้องบอกว่า BOT กล้ามากๆ ซึ่งผิดวิสัยที่เคยเป็นมา)
pornjalern
ภาพประจำตัวสมาชิก
ziannoom
Verified User
โพสต์: 1041
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 36

โพสต์

ขอบคุณทุกความเห็นครับ ส่วนตัวคงไม่ออกไปถาวรครับเพียงแต่มันว้าวุ่นใจไม่เป็นอันทำงาน เดี๋ยวจะพาลเจ๊งทั้งหุ้นทั้งงาน แต่คราวนี้ไม่รู้จะดีหรือร้ายขออยู่แบบกบจำศีลแล้วกัน ขอใช้เวลาอ่านหนังสืออีกรอบ สะสมความรู้เพิ่มเติม ก่อนกลับมาใหม่เร็วๆนี้ครับ
โชคดีในการลงทุนครับทุกคน
ซื้อเมื่อราคาต่ำกว่ามูลค่า ขายเมื่อมูลค่าต่ำกว่าราคา
monsoon
Verified User
โพสต์: 535
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 37

โพสต์

มาให้กำลังใจคุณ ziannoom ครับ ในฐานะคนบ้านเดียวกัน (ฮา :juju: )

ของผมครึ่งportเป็นอิสระแล้ว อีกครึ่งนึงยังอยู่ในตะราง :wall:
เรียนรู้และเข้าใจ คุณค่าที่แท้จริงของสรรพสิ่ง...
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 38

โพสต์

ziannoom เขียน: ปล หากมีใครแนะนำแหล่งพักเงินที่ให้ดอกเบี้ยดีๆแนะนำหน่อยนะครับ ธนาคารไหนให้ดอกดีภายใน 4-5 เดือนนี้จะเป็นพระคุณอย่างสูง
การเงิน - การลงทุน
วันที่ 4 ตุลาคม 2554


เกียรตินาคินออกบีอี5เดือนดอกเบี้ยสูง4.4%

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ธนาคารเกียรตินาคิน เสนอบีอี 5 เดือน ลงทุนสั้น ดอกเบี้ยสูง 4.4% เริ่มต้นที่ 1 แสนบาท สิ้นสุด 21 ต.ค. นี้

นายสิริ เสนาจักร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารเกียรตินาคินจัดแคมเปญตั๋วแลกเงินธนาคารเกียรตินาคินดอกเบี้ยสูง โดยนำเสนอตั๋วแลกเงิน (บีอี) อายุ 5 เดือน ให้อัตราดอกเบี้ยที่ 4.40% ต่อปี ซึ่งนับเป็นอัตราผลตอบแทนที่สูงที่สุดในปัจจุบัน เพื่อเพิ่มทางเลือกสุดพิเศษให้กับนักลงทุน และผู้ออมที่ต้องการลงทุนในระยะสั้น และได้รับผลตอบแทนสูง และเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยกำหนดวงเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1 แสนบาท และสูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 3-21 ตุลาคม 2554 หรือจำนวนเงินในโครงการครบ 7,000 ล้านบาทเท่านั้น

การระดมเงินในครั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการขยายสินเชื่อ ซึ่งเมื่อกลางปีที่ผ่านมาธนาคารได้ปรับเป้าหมายการขยายสินเชื่อรวมเป็น 24% จากเดิมเมื่อต้นปีตั้งเป้าไว้ที่ 16-19% เนื่องจากการปล่อยสินเชื่อรวมใน 6 เดือนแรกของธนาคารขยายตัวได้ถึง 13.6%

ปัจจุบัน ธนาคารมีสัดส่วนตั๋วแลกเงินราว 35% ของหนี้สินรวม (เงินฝาก หุ้นกู้ ตั๋วบีอี และหนี้สินอื่นๆ) ส่วนแนวโน้มการออกตั๋วแลกเงินพิเศษนี้ ยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของธนาคารที่จะเน้นการระดมเงินผ่านตั๋วแลกเงิน และบัญชีออมทรัพย์ให้มีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ออมทรัพย์พิเศษ KK Smart Savings ที่ให้ผลตอบแทนสูงถึง 3% ต่อปี ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าเช่นกัน สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ธนาคารเกียรตินาคินทุกสาขาหรือ โทร 0 2680 3333
http://bit.ly/nm1MOY
ภาพประจำตัวสมาชิก
simplelife
Verified User
โพสต์: 756
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 39

โพสต์

ต่างคนก็ต่างใจจริงๆครับ คุณจขกท มาล้างพอร์ทตอนนี้ ตอนที่หลายๆท่านกำลังคิดว่าจะซื้อเพิ่ม
roronoa เขียน:ช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นไม่แนะนำให้ฝากระยะยาวครับ
ส่วนตัวผมเดาว่า ในสองสามปีดอกเบี้ยไม่ขึ้นไปกว่านี้แล้วครับ อย่างมากก็อีก 25 point ปีหน้า เพราะว่าเงินเฟ้อเราไม่ได้มาจากสภาพคล่องในระบบเยอะเกินไปเลย นโยบายค่าแรงอะไรก็ยังไม่ออกมา เงินค่อนข้างจะฝืดด้วยซ้ำไปในบางธุรกิจ ถ้าขึ้นดอกเบี้ยมาอีก ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วครับ

เห็นไหมครับ แม้แต่เรื่องดอกเบี้ยขึ้นหรือลง มีแค่สอง choice ยังเห็นต่างกันเลยครับ
"I believe what I said yesterday. I don't know what I said, but I know what I think... and I assume it's what I said." -- Donald Rumsfeld
ภาพประจำตัวสมาชิก
roronoa
Verified User
โพสต์: 142
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 40

โพสต์

pornjalern เขียน:ถ้าล้างพอร์ทแล้วอยากฝากเงิน และวางแผนว่าจะยังไม่กลับมาลงทุนในระยะสั้นๆผมว่าฝากยาวหน่อยก็ได้ครับจะได้ ล้อคดอกเบี้ยไว้สูงหน่อย ผมไม่คิดว่า BOT กล้าขึ้นดอกเบี้ยในช่วงปีนี้แน่นอนครับ (แต่ถ้าขึ้นจริงก็ต้องบอกว่า BOT กล้ามากๆ ซึ่งผิดวิสัยที่เคยเป็นมา)
พูดถึงเงินฝากนะครับ
ตอนนี้เงินฝากระยะสั้นมันได้ดอกเบี้ยมากกว่าระยาวยาวนะครับ จะล็อคยาวทำไมครับ

ประจำ 8 เดือน อาคารสงเคราห์ให้ตั้ง 4.6% ก่อนจะหมดเขตไปเดือนที่แล้ว
ถามว่าตอนนี้ฝากประจำ 3-4 ปีอย่างมากก็ 3.65% เทียบกับประจำออมสิน 5 เดือนได้ 3.9%
ถามว่าเราจะไปฝากตั้งหลายปีทำไม ในเมื่อไม่กี่เดือนก็ได้ดอกแล้วครับ แถมเยอะกว่าด้วย

หรือถ้าผมตกข่าวอะไรขออภัยด้วยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ziannoom
Verified User
โพสต์: 1041
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 41

โพสต์

simplelife เขียน:ต่างคนก็ต่างใจจริงๆครับ คุณจขกท มาล้างพอร์ทตอนนี้ ตอนที่หลายๆท่านกำลังคิดว่าจะซื้อ
จริงๆผมล้างไปตั้งแต่setยังหลักพันอยู่ครับ แต่มาซื้อตอดเล็กตอดน้อย สองสามวันที่ผ่านมา ปรากฎว่ามันก็ยังลงไปได้อีก ผมก็เลยถอยมาหมดรอซัดแบบเต็มๆอยู่ครับ ก็เหมือนท่าน ดรว่า หุ้นมันยังไม่ถูกแต่ก็ไม่แพง รอจังหวะงามๆแล้วกัน
ซื้อเมื่อราคาต่ำกว่ามูลค่า ขายเมื่อมูลค่าต่ำกว่าราคา
ภาพประจำตัวสมาชิก
ziannoom
Verified User
โพสต์: 1041
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 42

โพสต์

ปรัชญา เขียน:
ziannoom เขียน: ปล หากมีใครแนะนำแหล่งพักเงินที่ให้ดอกเบี้ยดีๆแนะนำหน่อยนะครับ ธนาคารไหนให้ดอกดีภายใน 4-5 เดือนนี้จะเป็นพระคุณอย่างสูง
การเงิน - การลงทุน
วันที่ 4 ตุลาคม 2554


เกียรตินาคินออกบีอี5เดือนดอกเบี้ยสูง4.4%

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ธนาคารเกียรตินาคิน เสนอบีอี 5 เดือน ลงทุนสั้น ดอกเบี้ยสูง 4.4% เริ่มต้นที่ 1 แสนบาท สิ้นสุด 21 ต.ค. นี้
ขอบคุณครับพี่ ปรัชญา น่าสนใจจริงๆ 4.4%กับเวลาห้าเดือน ฝากครบก็ได้1.8% ห้าเดือนดูสิหุ้นจะลงหรือขึ้นมากกว่า1.8%. หวังว่าจะเป็นขาลงนะ
ซื้อเมื่อราคาต่ำกว่ามูลค่า ขายเมื่อมูลค่าต่ำกว่าราคา
viim
Verified User
โพสต์: 551
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 43

โพสต์

มาให้กำลังใจครับคุณเซียนหนุ่มและก็มาแสดงความยินดีที่เป็นอิสระเพื่อตั้งหลักมารบใหม่อีกรอบ สำหรับผมขออยู่ตรงนี้แหละ ขอทดสอบจิตใจตัวเองด้วย ตอนนี้ก็ทำงานได้ตามปกติ มีหวั่นไหวเหมือนกันตามธรรมดาของมนุษย์ปุถุชน ตอนนี้ผมมีเงินสดประมาณเกือบ 40% ของ port ไม่มาก แต่ก็มี port หนึ่งที่ทำ DCA ซึ่งพอร์ตนี้ก็คงเฉลี่ยไปเรื่อยๆทุกเดือน เป็นโอกาสเก็บของถูกเหมือนกัน ตอนนี้กำลังคิดอยู่ว่าจะหาเงินมาเพิ่มได้อย่างไรมากกว่าครับ ถ้าได้มาขอนแก่นก็เชิญมาทักทายกันหน่อยนะครับ
ส.สลึง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3653
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 44

โพสต์

Jeng เขียน:ค่อยๆไปทีละคน :(
ยังอยู่ครับพี่ :wall:
ช่วงนี้ก็ตั้งใจทำงานเพื่อหากระสุนมาบรรจุในแมกกาซีน :ep:
ภาพประจำตัวสมาชิก
xavi
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 123
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 45

โพสต์

ล้างพอร์ทไม่ใช่เรื่องน่าเสียใจครับ ผมเชื่อว่าทุกคนก็ต้องตัดสินใจด้วยข้อมูลที่ดีสุดในขณะนั้นอยู่แล้ว
ถ้าต้องทนอยู่กับตัวเลขแดงๆ แล้วทำให้สุขภาพจิตไม่ดีอาจจะแย่กว่า
เพราะท้ายสุดแล้วสิ่งที่เราต้องการก็เป็นเพียงแค่ "ความสุข" นั่นเองครับ

แต่ส่วนตัวผมมองเงินสดเป็นสัดส่วนรวมในพอร์ทอยู่แล้ว ไม่เคยลงในหุ้น 100% เวลาลงจะได้ทะยอยซื้อได้ทันครับ เพราะจากประสบการณ์จุดต่ำสุดจริงๆหายาก ลองใจเย็นๆแล้วกลับมาอีกรอบก็ได้ครับ
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 46

โพสต์

leky เขียน:ขายล้างกันตอนนี้ต้องคิดให้ดีนะครับ ผมว่าตอนนี้ทุกคนมองแต่ภาพของ SET ที่ 300-400 จุดแบบตอนซับไพรม์ หลายคนเจ็บมาจากตรงนั้นหรือแม้กระทั่งหลายคนที่รวยเพราะตรงนั้นก็คิดจะทิ้งก่อนแล้วไปรับคืน แต่ในความเป็นจริงถ้าคนที่ผ่านวิกฤติมาหลาย ๆ ครั้ง จะเข้าใจว่าเราไม่เคยคาดเดาอะไรถูกเลย หลายครั้ง "กูรู" บอกว่า SET จะขึ้นไปเท่านั้นเท่านี้สุดท้่ายก็ลง หรือแม้แต่การมองในแง่ร้ายสุดท้ายมันก็ขึ้นแบบไม่มีเหตุผล หุ้นของผมเองผมก็เคยคิดจะขายตั้งแต่ก่อนหน้านี้ แต่สุดท้ายมันก็ไม่ค่อยมีการซื้อขาย bid offer ห่างกันมาก ผมขายไปนอกจากจะไม่ได้ราคา คิดจะทำ SAP ก็อาจจะไม่คุ้ม สุดท้ายก็เลือกที่จะอยู่เฉย ยอมเห็นตัวเลขขาดทุนทางบัญชี เพราะผมเชื่ออย่างหนึ่งว่าถ้ามันลงแบบไม่มีวอลุมประเภทเคาะขายไม่กี่ร้อยหุ้นแต่ลบไปหลาย ๆ % ยามที่มันกลับมาเป็นขาขึ้นมันก็เร็วเหมือนกันครับเพราะไม่มีคนตั้งขาย ตอนนี้หุ้นที่ลงหนัก ๆ เท่าที่ผมสังเกตดูจะเป็นหุ้นตลาดของสถาบัน หรือไม่ก็หุ้นยอดนิยมในเว็บ แต่เท่าที่ผมสังเกตมาสองสามวัน แรงขายจากต่างชาติ วอลุมรวมของตลาดกลับลดลงไปมาก ต้องยอมรับส่วนหนึ่งว่ากองทุนเหล่านี้ส่วนหนึ่งเป็นกองทุนเก็งกำไร มีการซื้อขายหุ้น บริหารความเสี่ยงหรือไม่ก็เพิ่มผลตอบแทนโดยใช้เครื่องมืออย่าง TFEX เป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ
อยากให้ดูตรงนี้กันก่อนครับ ถ้ายังจำกันได้ตอน SET เริ่มลงใหม่ ๆ ตอน สค-กย ต่างชาติขายหนักมากติดต่อกัน บางวันขาย net 6000 ล้าน รายย่อยรับตลอดด้วยความรู้สึกว่าได้ของถูก (มองจากดอย)

แต่ตัวเลขนี้ทำให้ผมรู้สึกแปลกใจ SET ลงหนัก ก่อนหน้านั้นต่างชาติขายนำตลอด แต่ 3-4 วันหลังมานี้นอกจากไม่ขายยังเริ่มกลับมาซื้อ ในขณะที่แรงรับซื้อของรายย่อยอ่อนลงไปมาก เนื่องจากเกิดอาการ "แหยง" ชักจะไม่แน่ใจแล้วว่าของนั้นถูกจริงหรือเปล่า ผมมองว่า SET ลงหนักแต่วอลุมกลับน้อยเหมือนที่ลงแรงเพราะแรงรับมันไม่มากเหมือนตอนแรกแรงขายที่ไม่มากก็ทำให้ SET ลงแรง ๆ ได้เพราะคนไม่มั่นใจ

ผมอาจจะถูกหรือผิดก็ได้นะครับ ตรงนี้ต้องเริ่มระวังกันแล้วครับ รายย่อยมักเสียเปรียบรายใหญ่ที่มากด้วยกำลังเิงินและทีมงานที่ช่ำชอง บางครั้งหลายคนชอบมองว่าต่างชาติ "ติดหุ้น" บ้าง โดนรายย่อยโยน "ของแพง" ให้บ้าง แต่ในความเป็นจริงเค้าอาจจะขาดทุนหุ้นแต่ไปกำไร TFEX ที่มากกว่าก็ได้ครับ เพราะบางครั้งเค้าก็เก็งกำไรและรู้ว่าสถานการณ์ไหนที่เค้าควรจะเล่น "ตามน้ำ" ผมว่าตอนนี้เราอยู่ที่จุด "วัดใจ" ครับ

สรุปการซื้อขาย ณ วันที่ 4 ต.ค. 255
ซื้อ ขาย สุทธิ
สถาบันในประเทศ 3,237.51 9.42 4,606.74 13.40 -1,369.23 -
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ 7,017.12 20.41 6,412.58 18.65 604.54 -
นักลงทุนต่างประเทศ 7,628.93 22.19 7,181.24 20.89 447.69 -
นักลงทุนทั่วไปในประเทศ 16,494.18 47.98 16,177.18 47.06 317.00 -



มูลค่าการซื้อขายสะสมในช่วง 1 - 4 ต.ค. 2554

ซื้อ ขาย สุทธิ
สถาบันในประเทศ 4,465.68 7.32 7,380.45 12.10 -2,914.77 -
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ 11,272.95 18.48 11,841.42 19.41 -568.47 -
นักลงทุนต่างประเทศ 14,551.09 23.85 13,707.62 22.47 843.47 -
นักลงทุนทั่วไปในประเทศ 30,726.07 50.36 28,086.31 46.03 2,639.76 -
"Become a risk taker, not a risk maker"
beaeaebe
Verified User
โพสต์: 214
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 47

โพสต์

คนถือเงินสดยังไงก็ได้เปรียบ (ไม่ได้หมายถึงขายตอนนี้นะ หมายถึงขายก่อนหน้านี้โดยไม่เจ็บตัว)

ก็ไม่รู้ทำชอบคิดกันว่าคนถือเงินสดแล้วถ้าไม่เห็น 300-400 แล้วจะไม่ซื้อ

ผมว่าคนเค้าคงไม่ได้ถือเงินงอมืองอเท้าปิดหูปิดตากันมั๊งครับ ยิ่งถ้าลงทุนแนว VI ออกมาถือเงิน ล้างกันตั้งกะพันกว่า-พันหนึ่งร้อยกว่า ตอนนี้ซื้อตรงไหนก็ถูกกว่าทุกราคา คนที่ทิ้งมาก่อนตอนนี้เข้าพรุ่งนี้เช้าเลยก็ถูกกว่าทิ้งมาอยู่แล้ว

ผมคนนึงละที่มองทุกวัน ทำการบ้านทุกวัน จะเริ่มค่อยๆทยอยซื้อถ้าหุ้นตัวที่เล็งไว้ลงมาอยู่ในระดับราคาที่ส่วนตัวคิดว่าไม่แพง

แต่ส่วนตัวยังคิดว่าหุ้นดีๆยังไม่ถูก fair price มีบ้าง แต่ไม่ถูก

การมานั่งมองว่าคนอื่นล้างพอร์ตแล้วต้องไปรอ 300-400 ถึงจะซื้อ มันก็คล้ายๆ องุ่นเปรี้ยวนะ ไม่มีใครบ้าจี้รอดัชนีเท่านั้นเท่านี้ถึงจะเริ่มซื้อหรอก มันต้องมีวางแผนกันบ้างแล้ว สภาพจิตใจก็สดใหม่กว่าเยอะ ตลาดมันไม่เคยปราณีใคร รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดีครับผมว่า
Noonino
Verified User
โพสต์: 876
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 48

โพสต์

หวัดดีครับ เห็นใจเจ้าของกระทู้และทุกท่านที่เครียดกันมากๆในช่วงนี้จริงๆ แต่ก่อนจะขายคัทลอสทิ้งผมว่าลองกลับไปวิเคราะห์พื้นฐานหุ้นให้ดีๆก่อนจะดีไม๊ครับ เอาแบบไม่มี bias นะครับ

การเป็น VI นั้นมันอยู่ที่คำที่ว่า "ซื้อเมื่อราคาต่ำกว่ามูลค่า" ก็จริงอยู่ แต่เมื่อเราผิดพลาดไปแล้ว ซื้อแพงไปแล้ว การยกธงขาวตอนที่ตลาดเป็นแบบนี้ผมว่าเสียเปรียบเยอะนะครับ ยิ่งท่าน จขกท. คิดจะไปฝากเงินแบบประจำล่ะก็ เวลาที่เห็นหุ้นดีๆราคาถูกๆ ท่านอาจจะไม่สามารถซื้อได้เพราะเงินยังติดอยู่ ลองใช้วิธีปรับพอร์ตแทนดีไหมครับ ขายบริษัทคิดว่าน่าจะได้รับผลกระทบออกเท่านั้น ส่วนบริษัที่พื้นฐานยังดีตามที่เราเคยวิเคราะห์ไว้ก็อย่าเพิ่งทิ้งไปเลย

หุ้นลงรอบนี้กระทบกับบริษัทในไทยทางอ้อมเท่านั้น จริงอยู่ภาคส่งออก น่าจะได้รับผลกระทบ แต่บริษัท (เน้นว่าบริษัทไม่ใช่หุ้น) อีกเยอะแยะที่ยังดำเนินงานได้อย่างปรกติ ทำกำไรได้ต่อเนื่อง ลองดูบริษัทที่ท่านถืออยู่ว่าอยู่ในข่ายนี้บ้างไหม ยิ่งถ้าบริษัทมีการจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอ ก็เหมือนกับได้ดอกเบี้ยทางอ้อมอยู่แล้ว เราจะขายทิ้งเพียงเพราะนายตลาดกำลังกังวลใจกับปัจจัยภายนอกอย่างนั้นเหรอครับ

ผมก็ถือหุ้นเกือบ 100% แต่ไม่ได้ขายออกหมดพอร์ต ไม่ใช่ว่าพอร์ตยังไม่แดงก็เลยยังทนได้ แต่ผมใช้วิธีคิดนี่แหละครับ บริษัทไหนที่คิดว่าจะได้รับผลกระทบ ผมถึงจะขายออกไป แต่ถ้าเป็นบริษัทที่อิงปัจจัยภายในประเทศ อย่างค้าปลีก ประกัน โรงพยาบาล หรือแม้แต่อสังหาบางตัว ผมยังถือต่อไปครับ ถ้ามีเงินเข้ามาผมจะหาโอกาสซื้อเพิ่มอีกต่างหาก

ไม่อยากให้เพื่อนชาว VI เป็นแมงเม่าเหมือนผมตอนลงทุนใหม่ๆครับ ประเภท "ซื้อไฮ ขายโลว์" น่ะครับ

ปล. เป็นความเห็นส่วนบุคคล สุดท้ายก็อยู่ที่การตัดสินใจของท่านเองนะครับ เงินใครเงินมัน ผมอาจจะผิดท่านอาจจะถูกก็ได้
Take care of your loss and profit will take care itself.
pak
Verified User
โพสต์: 5659
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 49

โพสต์

"ทะเล"...บางครั้งมันก็คลุ้มคลั่ง และเต็มไปด้วยพายุคลื่นลมพัดกระหน่ำ
มันแทบจะกวาดเอาทุกอย่างไปจากเรา
...จนทำให้เรารู้สึก "กลัว!!!"

ก็ไม่เป็นไรครับ เราก็แค่หลบไป "พักใจ" บ้าง
เมื่อวันนึงที่เราพร้อม และเตรียมตัวมาอย่างดี
เราก็คงนึกถึงทะเลแห่งนี้ กับหาดทรายสวยๆ และลมทะเลที่แสนอบอุ่นก็ได้นะครับ

ตลาดหุ้น...ก็คงเหมือนทะเล
คลื่นลูกแล้วลูกเล่าซัดสาดไม่เคยว่างเว้น
ทะเลที่ดูสวยงาม มีคุณอนันต์
แต่มันก็มีโทษมหันต์ และคร่าชีวิตคนไปมากมาย

ไม่ว่าเราจะมาที่ทะเลนี้หรือไม่...
ทะเลนี้จะยังคงอยู่ตรงนั้น ทำหน้าที่ของมันตลอดไป

"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
ภาพประจำตัวสมาชิก
dino
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1281
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 50

โพสต์

Jeng เขียน:ค่อยๆไปทีละคน :(
:B ยังอยู่ครับ อิอิ เกาะหุ้นแน่นเชียว
1 ซื้อหุ้นของกิจการที่ดี
2 มีกำไรต่อเนื่องไปในอนาคต
3 ซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ
4 ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ
5 และถือมันไว้ ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดีอยู่
                                           วอเรนซ์ บัฟเฟตต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
oatty
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2444
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 51

โพสต์

Stay calm! Stay invest !
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี
ภาพประจำตัวสมาชิก
dino
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1281
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 52

โพสต์

:8) เอามาให้ดูกันอีกครั้งครับ

1 ซื้อหุ้นของกิจการที่ดี
2 มีกำไรต่อเนื่องไปในอนาคต
3 ซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ
4 ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ

5 และถือมันไว้ ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดีอยู่

วอเรนซ์ บัฟเฟตต์
1 ซื้อหุ้นของกิจการที่ดี
2 มีกำไรต่อเนื่องไปในอนาคต
3 ซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ
4 ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ
5 และถือมันไว้ ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดีอยู่
                                           วอเรนซ์ บัฟเฟตต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
siebelize
Verified User
โพสต์: 452
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 53

โพสต์

dino เขียน::8) เอามาให้ดูกันอีกครั้งครับ

1 ซื้อหุ้นของกิจการที่ดี
2 มีกำไรต่อเนื่องไปในอนาคต
3 ซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ
4 ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ

5 และถือมันไว้ ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดีอยู่

วอเรนซ์ บัฟเฟตต์
ไม่ได้กวนนะครับ แต่อยากรู้จริงๆ

1. ดีของเรา กับดีของคนอื่นต้องเหมือนกันมั้ยครับ

2. อนาคตแน่นอนมั้ยครับ

3. มูลค่าที่แท้จริง มันแท้จริงจากมุมมองของเรา หรือว่ามุมมองของใครครับ

4. คุณธรรมและความสามารถ วัดตรงไหนครับ


ย้ำอีกที ไม่ได้กวนนะครับ แต่อยากรู้จริงๆ
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 54

โพสต์

ไม่ได้กวนนะครับ แต่อยากรู้จริงๆ

1. ดีของเรา กับดีของคนอื่นต้องเหมือนกันมั้ยครับ

ไม่จำเป็น

2. อนาคตแน่นอนมั้ยครับ

ไม่แน่นอน

3. มูลค่าที่แท้จริง มันแท้จริงจากมุมมองของเรา หรือว่ามุมมองของใครครับ

มุมมองของเรา

4. คุณธรรมและความสามารถ วัดตรงไหนครับ

ความพอใจ

ย้ำอีกที ไม่ได้กวนนะครับ แต่อยากรู้จริงๆ
BHT
Verified User
โพสต์: 1822
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 55

โพสต์

ยังไม่รู้ว่ามันจะขึ้นหรือจะลง ก็อยู่เฉยๆครับ ง่ายที่สุดแล้ว

มีเซียนมาบอกว่าดัชนีจะลงไปถึง 600 จุด ก็รอดูกัน แถมยังมีข่าวขุดประวัติศาสตร์หุ้นมาบอกว่าเมื่อลงแล้วจะขึ้นๆลงๆไปอีกเป็นปี ก่อนจะได้เห็นขาลงหรือขาขึ้นครั้งใหม่

เอาเวลาไปศึกษาพื้นฐานและเติมเงินไว้ให้พร้อมครับ เมื่อมันลงถึงจุดนิ่งก็เตรียมชอปปิ้งครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ii'8N
Verified User
โพสต์: 3682
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 56

โพสต์

ออกความเห็นด้วยคน

ไม่ได้กวนนะครับ แต่อยากรู้จริงๆ

1. ดีของเรา กับดีของคนอื่นต้องเหมือนกันมั้ยครับ
มันมีมาตรฐานที่ยอมรับกันได้ระดับหนึ่งโดย common sense ว่าอะไรดีไม่ดี
เพียงแต่ไม่มีเครื่องมือวัดออกมาเป็นตัวเลขเหมือนมิเตอร์ไฟฟ้า หรือมิเตอร์แทกซี่
คำว่า "มนุษย์" ทำให้เกิดความซับซ้อน ในเรื่องคำจำกัดความ ของดี-ไม่ดีมากขึ้น
เขาก็เลยวัดด้วยระบบที่เขาพยายาม set กันขึ้นมาส่วนหนึ่ง อีกส่วนวัดด้วยความรู้สึกการประมาณ ที่แปรไปตารมมนุษย์แต่ละคน แต่ละสถานการณ์

กิจการดีไม่ดี เขาเลยพยายามจัดมาตรฐานมีระบบอย่างบัญชีขึ้นมาให้วัดแล้วตรวจสอบได้บ้าง
แล้วปรมาจารย์ทั้งหลาย ก็พยายามวัดในแง่คุณภาพ อย่างพวกความสามารถในการแข่งขัน

ถ้าเราไม่มีอะไรเลย ก็เหมือนกลับไปสู่ยุคโบราณที่ไม่ต้องกิจกรรมการซื้อขาย ไม่ต้องมีการแลกเปลี่ยน ไม่ต้ิองมีอุตสาหกรรม ไม่ต้องมีบริษัท เช้าขึ้นมา ออกล่าสัตว์ เย็นกลับเข้าถ้ำ ตีพุงนอน ผลิตลูก รุ่งขึ้น ไปวิ่งไล่ล่้าใหม่


2. อนาคตแน่นอนมั้ยครับ
ไม่มีใครรู้ ว่าพรุ่งนี้แผ่นดินไหวที่เสฉวนจะเกิดซ้ำอีกหรืเปล่า
ทำนายได้แค่พายุมรสุมง่ายๆ
ไม่มีใครรู้ ว่าเบอร์นันเก้ พรุ่งนี้อาจไหลตายคาขวดเหล้าก็ได้ (เห็นข่าวสนุกๆถือขวดเหล้า)

แต่เราพอทำนายได้ ว่ากับผู้หญิงคนนี้ พรุ่งนี้หรือวันศุกร์นี้ หรือเสาร์หน้าควรจะพาไปกินข้าวร้านไหนถึงทำให้ผลออกมาดีเหมือนผลปรักอบการที่เราคาดไว้ (ไม่งอน) เพราะเธอคนที่เราจีบมานานแล้ว และถูกจับขังคุกแล้ว นั่นคือ "ประสบการณ์ข้อมูลในอดีต และปัจจุบัน"
แต่บางครั้งการทำนายก็พลาดไปเหมือนกัน เพราะเราดันพาไำปร้านที่เธอเคยเจอกิ๊กเก่า แล้วเธอถูกหักอกที่นั่น


3. มูลค่าที่แท้จริง มันแท้จริงจากมุมมองของเรา หรือว่ามุมมองของใครครับ
มันคล้ายกับดี-ไม่ดีข้อ 1
วัดด้วยระบบที่เขาพยายาม set กันขึ้นมาส่วนหนึ่ง
อีกส่วนวัดด้วยการประมาณและการพยากรณ์อนาคต ซึ่งมนุษย์แต่ละคน ประมาณการต่างกัน ขึ้นกับประสบการณ์ มุมมอง ทัศนคติมองโลกแง่ดี-ร้ายขนาดไหนอีก อารมณ์ก็มีผล
ขนาดคนคนเดียวกัน เดือนที่แล้ว ยังมั่นใจตลาดไปได้ถึง 1200 จุดเลย เพราะรับข่าวมาเยอะ
วันนี้รีบเทขาย เพราะรับข่าวมาเยอะอีกเหมือนกันว่าอาจเหลือไป 600-700 แล้ว
ถ้าตกอยู่ในอารมณ์นั้น มูลค่าที่แท้จริงก็เปลี่ยนไปได้ :P


4. คุณธรรมและความสามารถ วัดตรงไหนครับ
"คุณน่ะทำ"
คำตอบเดียวกับ "ดี-ไม่ดี"
ไม่มีเครื่องชั่ง เหมือนมีความดีกี่โวลท์ หรือกี่กิโลกรัม แต่ก็ต้องสังเกตเอง จากประสบการณ์ โดยประมวลข้อมูลที่มีอยู่...
ในแง่ทางโลก ยังไม่ต้องไปวัด ยังไม่ต้องนั่งสมาธิ แค่คิดและไม่ลงมือเบียดเบียนคนอื่นให้เดือดร้อน ไม่คดโกงใคร ก็เริ่มเป็นคนดีแล้ว
ถ้าในแง่บริษัท อย่ามีพฤติกรรมสุ่มเสียงว่้าจะโกงหรือเอาเปรียบลูกค้า และผู้ถือหุ้นอื่นเป็นใช้ได้
อย่างเช่น ซื้อรถหรูใช้เงินบริษัท แล้วอ้างว่าทำให้ image ดี
อย่าแอบเอางานบริษัท ไปใส่พานถวายให้บริษัทส่วนตัว แล้วชาร์จเงินสูงๆ เป็นต้น

แล้วความสามารถ ... ก็วัดออกมาตรง Bottom line กับ growth ราคาหุ้นก็ตามมาเอง


ย้ำอีกที ไม่ได้กวนนะครับ แต่อยากรู้จริงๆ
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 57

โพสต์

BHT เขียน:ยังไม่รู้ว่ามันจะขึ้นหรือจะลง ก็อยู่เฉยๆครับ ง่ายที่สุดแล้ว

มีเซียนมาบอกว่าดัชนีจะลงไปถึง 600 จุด ก็รอดูกัน แถมยังมีข่าวขุดประวัติศาสตร์หุ้นมาบอกว่าเมื่อลงแล้วจะขึ้นๆลงๆไปอีกเป็นปี ก่อนจะได้เห็นขาลงหรือขาขึ้นครั้งใหม่

เอาเวลาไปศึกษาพื้นฐานและเติมเงินไว้ให้พร้อมครับ เมื่อมันลงถึงจุดนิ่งก็เตรียมชอปปิ้งครับ
ดูตลาดมาหลายปีตั้งแต่ก่อนต้มยำกุ้ง เห็นคำทำนายมาทุกปี ขอบอกว่าอย่าไปยึดติดมากครับ เวลาตลาดดี ๆ จะมีการตั้งเป้าไว้ ส่วนใหญ่ "ไปไม่ถึง" เวลาตลาดร้าย ๆ จะมีการตั้งเป้าไว้ว่าจะลงไปที่เท่านั้นเท่านี้ ส่วนใหญ่ก็ "ลงไม่ถึง" เช่นกัน ถามว่าก่อนหน้านี้ 3 เดือน มีใครกล้าออกมาบอกดัง ๆ ว่าหุ้นจะลงหนัก เรื่องยุโรปจะแย่หนักหรือไม่ ทั้ง ๆ ที่เรื่องวิกฤติยุโรปมันก็มีมาตั้งนานพอควรแล้ว ขอบอกว่า "แทบไม่เห็น" สุดท้ายมันก็กลายเป็นหาเหตุมาอธิบายผลที่มันเกิดขึ้นแล้ว

เวลาที่มีข่าวร้ายแรง ๆ ช่วงเวลาที่คน "ลังเล" นี่แหละ ต้องระวังที่สุดครับ
"Become a risk taker, not a risk maker"
Arpieaw
Verified User
โพสต์: 170
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 58

โพสต์

ziannoom เขียน:ตามหัวข้อเลยครับ ขอยกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นช่วงนี้ ผมไม่รู้มันจะขึ้นหลังจากขายหรืออาจจะลงต่ำกว่าเดิม แต่ถือแล้วไม่สบายใจที่เห็นพอร์ทมันลดลงไปทุกวินาที ซื้อว่าต่ำแล้ว บริษัทก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แถม PE ก็นิดเดียวไม่ได้มากมายอะไรด้วย นายตลาดก็ยังทิ้งไม่หยุด วันนี้ขอโยกเงินไปกินดอกเบี้ยเงินฝากประจำ แม้มันจะน้อยแต่ก็รักษาเงินต้นให้คงอยู่ได้ การลงทุนมันกด รีสตาร์ทเหมือนเล่นเกมส์ไม่ได้ ช่วงนี้เพื่อนๆก็ระมัดระวังด้วยแล้วกัน
โชคดีในการลงทุนครับ แล้วเจอกันหลังจากนี้
ปล หากมีใครแนะนำแหล่งพักเงินที่ให้ดอกเบี้ยดีๆแนะนำหน่อยนะครับ ธนาคารไหนให้ดอกดีภายใน 4-5 เดือนนี้จะเป็นพระคุณอย่างสูง
ไหนพี่สอนผมว่า ซื้อเมื่อราคาต่ำกว่ามูลค่า ขายเมื่อมูลค่าสูงกว่าราคา
กลายเป็นว่า ขายเมื่อราคาต่ำกว่ามูลค่า ซื้อเมื่อมูลค่าสูงว่าราคา

พี่ลืมปรัชญาการลงทุนของพี่ได้ไงคับเนี่ย
ไม่ได้ตั้งใจจะซ้ำเติมแนะคับ แค่เตือนสติพี่
ภาพประจำตัวสมาชิก
ziannoom
Verified User
โพสต์: 1041
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 59

โพสต์

Arpieaw เขียน:ผมก็ชักมึนๆและ
ไหนพี่สอนผมว่า ซื้อเมื่อราคาต่ำกว่ามูลค่า ขายเมื่อมูลค่าสูงกว่าราคา
กลายเป็นว่า ซื้อเมื่อราคาสูงกว่ามูลค่า ขายเมื่อมูลค่าต่ำกว่าราคา
มิบังอาจสอนครับ สาเหตุง่ายๆ น่าจะตอบคำถามได้เลย คือ ผมเป็นแมงเม่าครับ :vm: :vm: :vm:
ผมเริ่มอ่านหนังสือการลงทุนเล่มแรกเลยคือ new buffet แล้วก็การลงทุนแบบเน้นคุณค่าหน้าปกสีขาวๆ ประมาณปี 2003 แล้วก็มั่นใจในตัวเองประมาณว่ากรูจะรวยแล้ว หันมาเอาดีทางด้านเล่นหุ้น เริ่มตอนปี 2004 เพียงอาทิตย์แรก ทำเงินได้10% แล้วก็ไปโม้กับเพื่อนว่ากูนี่ละเซียนหนุ่ม เห็นไม๊อาทิตย์เดียวกูได้สิบเปอร์เซ็นต์ แล้วก็ไประดมเงินกับเพื่อนๆมา แต่มีเพื่อนสนใจแค่คนเดียว ผลปรากฏว่าผ่านไปเก้าเดือนเงินหายวับหมดไปทุกบาทเพราะเล่นเดย์เทรด คัทลอสแล้วคัทอีก เล่นจนเงินส่วนตัวเองหมด เหลือส่วนของเพื่อน 50% เลยบอกเพื่อนว่ากูยกเงินที่เหลือให้เมิงหมดเลยแล้วกันในฐานะกูทำหุ้นส่วนกรูพัง แล้วก็หยุดไปทำใจช่วงปี2005-2007 แต่ก็ยังดูหุ้น แต่อนิจจังดูแต่หุ้นตัวเดิมๆ BECL, CEI, SAFEม S&P ประมาณว่าความรู้ในหุ้นมีไม่กี่ตัว ดันทะลึ่งเรียกตัวเองว่าเซียน(username ziannoom เป็นการพึงระลึกว่าก่อนหน้านี้เคยคิดว่าตัวเองเป็นเซียน) กลับมารอบสองไปคนหนังสือเจอเลยอ่านอีกรอบ(หนังสือเล่มเดิม) เลยลองคนในgoogle ดู ก็เลยเห็นเว็บนี้ นั่นจึงทำให้หูตาสว่างได้ความรู้เพิ่มอีกเพียบ ผลจากความรู้ที่เพื่อนๆในนี้ให้มาทำให้มีผลตอบแทนแบบน้ำจิ้มมาได้จนปัจจุบัน แต่สุดท้ายลายเดิมก็ยังคงอยู่ คือแมงเม่าครับ
สงสัยต้องกลับไปอ่านหนังสืออีกสักรอบก่อนเข้ามาใหม่เร็วๆนี้ครับ
ซื้อเมื่อราคาต่ำกว่ามูลค่า ขายเมื่อมูลค่าต่ำกว่าราคา
kklm29
Verified User
โพสต์: 22
ผู้ติดตาม: 0

Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว

โพสต์ที่ 60

โพสต์

ยากนะครับที่จะคาดเดาตลาด
คุณภาพการลงทุนอยู่ที่คุณภาพการตัดสินใจ