วิชาเต่า - ในวิกฤตแห่งตลาดหุ้นยังมีเต่าอยู่เสมอ
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
วิชาเต่า - ในวิกฤตแห่งตลาดหุ้นยังมีเต่าอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 1
ผมเองมีความตั้งใจที่จะเขียนสิ่งที่ผมคิดไว้ และปรัชญา แนวทางการลงทุนของผมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันครับ
ส่วนหนึ่งและส่วนใหญ่มาจากครูบาอาจารย์ที่ผมนับถือ แม้ผมไม่เคยพบตัวจริงของท่านก็ตาม
และแม้บางท่านจะไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว โปรดรับรู้ด้วยจิตว่าศิษย์นับถืออยู่เสมอ
.........................
ก่อนอ่าน
ที่ผมจะเขียนเป็นความเชื่อส่วนบุคคลของคนแก่ที่ดื้อรั้น ไม่จำเป็นต้องปฎิบัติตาม และโปรดใช้วิจารณญาณ ในการอ่าน
อ้อ สำหรับเด็ก ๆ ควรอ่านพร้อมผู้ปกครองครับ
...........................
ตอนนี้สภาวะหุ้นตกกันหมด ลำบากครับ กำลังใจในการซื้อคงไม่ค่อยมีครับ การพูดถึงการลงทุนโดยการวิเคราะห์พื้นฐานกิจการ เสมือนเราเป็นหุ้นส่วนคนหนึ่ง ฟังดูแล้วเกิดวิกฤติศรัทธารุนแรงกว่าวิกฤติเศรษฐกิจเสียอีก
คำถามในเวปบอร์ดนั้นก็จะมีประมาณว่า เมื่อไรวิกฤต จะหมดไป เมื่อไรจะแก้ปัญหานั้นได้ เมื่อไรจะแก้ปัญหานี้ได้ ปัญหามันเกิดมาจากอะไร Fed จะแถลงอะไร แถลงแล้วแปลว่าอะไร ฯลฯ
เอ แปลกนะครับ ทำไมช่วงนี้ไม่มีใครถามว่าจะลาออกจากงานประจำมาเล่นหุ้นดีมั๊ยก็ไม่รู้?
กำลังใจในการ “ถือ” ยิ่งหายไปครับ ไม่ใช่เฉพาะในเวปบอร์ดครับ แต่ในระหว่างเพื่อนด้วยกันเอง การถือหุ้นเพื่อเป็นเจ้าของกิจการ การถือหุ้นระยะยาว โดนท้าทายเป็นอย่างยิ่ง ถ้าพูดตรง ๆ ถูกดูถูกเป็นอย่างยิ่ง
ยิ่งมาถูกบั่นทอนด้วยการติดลบในพอร์ตแบบมโหฬาร ชนิดที่บางคนไม่เคยเป็นกันมาก่อน กำลังใจก็หดหายไปเรื่อย ๆ ครับ
“พี่ครับ มีคนบอกว่าพี่ถือหุ้นระยะยาว ที่พี่พูดเป็นความจริงหรือเป็นแค่หลักการ” มีน้องคนนึงถามผม
“ถ้าพี่ซื้อแล้วไม่ขาย นั่นไม่ใช่การลงทุน” มีน้องอีกคนนึงบอก
“ผมซื้อ ปตท. ขึ้นไป สามช่องห้าช่อง ผมก็ขายแล้ว ถ้าลงผมก็คัท” น้องอีกคนนึงสอน
“เล่นหุ้นต้องรู้จักคัทลอส” น้องอีกคนกรุณาสอนผม
“ทำแบบนี้แล้วจะได้อะไร” น้องอีกคนเป็นห่วง แต่เริ่มอารมณ์ไม่ดี
ผมรับฟังและบอกน้องทุกคนว่าผมขอบคุณครับ ขอบคุณอย่างมาก แต่พี่ “ลงทุนระยะยาว” ครับ มันเป็นคำพูดที่น้อง ๆ คงไม่ค่อยเข้าใจและขัดใจอยู่ในที และผมก็บอกน้องทุก ๆ คนว่า ผมใช้ “วิชาเต่า” ในการลงทุน ไม่ได้เทรด
ผลตอบแทนไปตามผลประกอบการ โตแบบเต่า หัวใจของวิชานี้ให้ลูกศิษย์มีหัวใจในการลงทุนมากกว่าเก็งกำไร
เวลามีเพศภัยเกิดขึ้นก็หดหัวในกระดอง เงินผมส่วนใหญ่ 80% หมดแล้วครับเพราะอยู่ในหุ้น 80%
อ้อ LTF/RMF อีกส่วน แต่นั่นก็ยิ่งยาวไปใหญ่ จะซื้ออะไรเพิ่มก็คงทำไม่ได้ ก็คงมีเงินเก็บระหว่างเดือนจากเงินเดือนบ้างพอมาลงทุนได้เดือนละประมาณ 0.25% ของพอร์ต คือถ้าพอร์ตล้านนึงก็ลงได้เดือนนึงประมาณสองพันห้าครับ ประมาณนั้น ก็ทยอยไปเรื่อย ๆ เพราะเงินเดือนไม่เยอะอะไร
แต่ผมก็ทำแบบนี้หล่ะครับทำมานานแล้ว ทำก่อนซัพไพร์มด้วยครับ ซื้อตอนสูง ๆ 9xx มั๊งครับจำไม่ได้ 8xx และก็ 7xx และก็ 6xx และก็ 5xx มั๊งครับ 4xx และก็ 3xx มั๊งครับ ตอนนั้นหุ้นบวกมาร้อยจุดยังมาไม่ถึงครึ่งเลยครับ ฮ่า ๆ ๆ
พอร์ตก็ใหญ่ไปเรื่อย ๆ ครับ หลังจากที่หุ้นมันเริ่มขึ้น ก็มาลดลง ฮวบ ๆ ช่วง ๆ นี้หล่ะครับ
“บัดซบเอ๊ย” ผมเองก็อยากนะครับในเวลาที่หุ้นตกคือผมน่าจะมีเงินสดซัก 80% และมีหุ้น 20% หรือเทพสุด ๆ คือมีเงินสด 100% ไปเร๊ยยยย แต่การทำแบบนั้นมัน ขอประทานโทษนะครับ “โคตรยาก” และผมเองก็เลิก Timing ตลาดไปแล้วครับ เพราะผมไม่มีความสามารถครับยอมรับ ถ้าท่านไหนทำได้และทำได้ดีผมยินดีด้วยนะครับ แต่เรื่องแนว ๆ นี้ผมไม่มีความสามารถจริง ๆ ก็ต้องยอมรับสภาพครับ “คนโง่ย่อมมีวิถีของคนโง่ เต่าย่อมมีวิถีของเต่า จะให้วิ่งแบบกระต่าย คงไม่ได้”
ผมมีหุ้นที่ผมเชื่อว่าเป็นหุ้นแข็งแกร่งเติบโต และมีความสามารถในการแข่งขันที่ดีอยู่สามตัวในพอร์ต และตัวเล็ก ๆ อีก 3-4 ตัวครับ ไว้เฝ้าดู ที่มีเงินสด 15-20% นี่ก็เพราะเลียนแบบฟิล ฟิชเชอร์ครับ ท่านเคยให้สัมภาษณ์กับฟอร์ปเมื่อประมาณ ปี 1987 ว่าท่านถือหุ้นหลัก ๆ 4 ตัว ตัวเล็ก ๆ 5 ตัว และเงินสดอีกประมาณ 20-25% ผมก็เลียนแบบท่านครับ นี่ถ้าหุ้นตกไปมาก ๆ ผมอาจจะมีเงินสด 50% หุ้น 50% ก็ได้นะเอ้า คือราคาหุ้นมันลดลงไปเรื่อย ๆ น่ะครับ แต่เงินสดมีเท่าเดิม ^_^'
แรก ๆ ผมชอบการเล่นแบบ CANSLIM นะครับ อ.โอนีลครับ แต่ตอนหลังผมเสพแนวทางของ พ่อ-ลูก ฟิชเชอร์จนติดแงม บวกกับ อ.นิเวศน์แปลหนังสือไว้ (ผมก็ไปหาภาษาอังกฤษมาอ่านอีก และตามอ่านผลงานของ เคน อีกหลายเล่ม)
อย่างไรก็ตาม คนฉลาด ไม่จำเป็นเท่า คนอดทน ครับ ในตลาดหุ้น ลินซ์เคยกล่าวว่าไม่ว่าวิธีการจะดีสักแค่ไหนก็จะเป็นศูนย์ หาก จิตใจไม่มั่นคง สุดยอดของสุดยอดในยามวิกฤต ก็ "วิชาเต่า” นี่หล่ะครับ
ปล. ศัพท์คำว่า “เต่า” นี่ผมไม่ได้คิดมาเองครับ ลอกมาจาก อ.นิเวศน์ อีกทีหวังว่าท่านคงไม่หวงลิขสิทธิ์
...................
แต่สุดท้ายแล้วน้องจะเล่นวิธีไหนก็แล้วแต่ ผมเป็นกำลังใจให้ และหลายคนผมก็ปล่อยเค้าซื้อ ๆ ขาย ๆ ต่อไป และร่วมวงกินข้าวกันเหมือนเดิม เพราะผมคงสอนเค้าไม่ได้มากกว่านั้น และเค้าก็คงสอนผมไม่ได้มากกว่านั้นเช่นเดียวกัน ก็คงเช่นเดียวกับคนตามบอร์ดเวปหุ้นล่ะมั๊งครับ
....................
และด้วยความที่ คนซื้อขายหุ้นอย่างรุ่นน้องผม และคนซื้อหุ้นแต่ไม่ขายตราบใดที่ไม่เข้าหลักการอย่างผม มานั่งร่วมวงกันกว่าสิบปี ผมค้นพบสัจธรรมว่า คนเรานั้นเปลี่ยนแปลงไม่ได้ นิทานที่ เบน เกรแฮม เล่า เรื่องตลกที่ฟิชเชอร์เล่า ตลอดจนสิ่งที่บัฟเฟตต์กล่าว ไม่ผิดเลย เวลาเปลี่ยน แต่ตลาดหุ้นไม่เคยเปลี่ยน
และในเมื่อมันเป็นเช่นนั้นผมเองก็คงเปลี่ยนแปลงไม่ได้เช่นเดียวกัน ผมเชื่อว่าธุรกิจที่แข็งแกร่งจะกลับมา และจะผ่านวิกฤตไปได้ วิกฤตจะเร็วจะช้าเนิ่นนานเป็นห้าปีสิบปีหรือยี่สิบปีก็จะต้องผ่านไป
และเมื่อนั้น ลูกศิษย์ลูกหา “วิชาเต่า” จะพบกับความสำเร็จอย่างยั่งยืน เหมือนกับที่มันเคยเป็นมา เหมือนกับที่ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เราเคารพ เหมือนกับที่ปรมาจารย์ของเราผ่านมา
และเมื่อวันนั้นมาถึงจะเป็นหน้าที่ของเราบอกเล่าเรื่องราวแห่งความสำเร็จให้คนรุ่นต่อไปครับ
...................
NB Sep 28, 2011 - เขียนในเดือนที่โลกทั้งโลกกำลังวิตกกับภาวะยุโรป อเมริกา ฯลฯ
ส่วนหนึ่งและส่วนใหญ่มาจากครูบาอาจารย์ที่ผมนับถือ แม้ผมไม่เคยพบตัวจริงของท่านก็ตาม
และแม้บางท่านจะไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว โปรดรับรู้ด้วยจิตว่าศิษย์นับถืออยู่เสมอ
.........................
ก่อนอ่าน
ที่ผมจะเขียนเป็นความเชื่อส่วนบุคคลของคนแก่ที่ดื้อรั้น ไม่จำเป็นต้องปฎิบัติตาม และโปรดใช้วิจารณญาณ ในการอ่าน
อ้อ สำหรับเด็ก ๆ ควรอ่านพร้อมผู้ปกครองครับ
...........................
ตอนนี้สภาวะหุ้นตกกันหมด ลำบากครับ กำลังใจในการซื้อคงไม่ค่อยมีครับ การพูดถึงการลงทุนโดยการวิเคราะห์พื้นฐานกิจการ เสมือนเราเป็นหุ้นส่วนคนหนึ่ง ฟังดูแล้วเกิดวิกฤติศรัทธารุนแรงกว่าวิกฤติเศรษฐกิจเสียอีก
คำถามในเวปบอร์ดนั้นก็จะมีประมาณว่า เมื่อไรวิกฤต จะหมดไป เมื่อไรจะแก้ปัญหานั้นได้ เมื่อไรจะแก้ปัญหานี้ได้ ปัญหามันเกิดมาจากอะไร Fed จะแถลงอะไร แถลงแล้วแปลว่าอะไร ฯลฯ
เอ แปลกนะครับ ทำไมช่วงนี้ไม่มีใครถามว่าจะลาออกจากงานประจำมาเล่นหุ้นดีมั๊ยก็ไม่รู้?
กำลังใจในการ “ถือ” ยิ่งหายไปครับ ไม่ใช่เฉพาะในเวปบอร์ดครับ แต่ในระหว่างเพื่อนด้วยกันเอง การถือหุ้นเพื่อเป็นเจ้าของกิจการ การถือหุ้นระยะยาว โดนท้าทายเป็นอย่างยิ่ง ถ้าพูดตรง ๆ ถูกดูถูกเป็นอย่างยิ่ง
ยิ่งมาถูกบั่นทอนด้วยการติดลบในพอร์ตแบบมโหฬาร ชนิดที่บางคนไม่เคยเป็นกันมาก่อน กำลังใจก็หดหายไปเรื่อย ๆ ครับ
“พี่ครับ มีคนบอกว่าพี่ถือหุ้นระยะยาว ที่พี่พูดเป็นความจริงหรือเป็นแค่หลักการ” มีน้องคนนึงถามผม
“ถ้าพี่ซื้อแล้วไม่ขาย นั่นไม่ใช่การลงทุน” มีน้องอีกคนนึงบอก
“ผมซื้อ ปตท. ขึ้นไป สามช่องห้าช่อง ผมก็ขายแล้ว ถ้าลงผมก็คัท” น้องอีกคนนึงสอน
“เล่นหุ้นต้องรู้จักคัทลอส” น้องอีกคนกรุณาสอนผม
“ทำแบบนี้แล้วจะได้อะไร” น้องอีกคนเป็นห่วง แต่เริ่มอารมณ์ไม่ดี
ผมรับฟังและบอกน้องทุกคนว่าผมขอบคุณครับ ขอบคุณอย่างมาก แต่พี่ “ลงทุนระยะยาว” ครับ มันเป็นคำพูดที่น้อง ๆ คงไม่ค่อยเข้าใจและขัดใจอยู่ในที และผมก็บอกน้องทุก ๆ คนว่า ผมใช้ “วิชาเต่า” ในการลงทุน ไม่ได้เทรด
ผลตอบแทนไปตามผลประกอบการ โตแบบเต่า หัวใจของวิชานี้ให้ลูกศิษย์มีหัวใจในการลงทุนมากกว่าเก็งกำไร
เวลามีเพศภัยเกิดขึ้นก็หดหัวในกระดอง เงินผมส่วนใหญ่ 80% หมดแล้วครับเพราะอยู่ในหุ้น 80%
อ้อ LTF/RMF อีกส่วน แต่นั่นก็ยิ่งยาวไปใหญ่ จะซื้ออะไรเพิ่มก็คงทำไม่ได้ ก็คงมีเงินเก็บระหว่างเดือนจากเงินเดือนบ้างพอมาลงทุนได้เดือนละประมาณ 0.25% ของพอร์ต คือถ้าพอร์ตล้านนึงก็ลงได้เดือนนึงประมาณสองพันห้าครับ ประมาณนั้น ก็ทยอยไปเรื่อย ๆ เพราะเงินเดือนไม่เยอะอะไร
แต่ผมก็ทำแบบนี้หล่ะครับทำมานานแล้ว ทำก่อนซัพไพร์มด้วยครับ ซื้อตอนสูง ๆ 9xx มั๊งครับจำไม่ได้ 8xx และก็ 7xx และก็ 6xx และก็ 5xx มั๊งครับ 4xx และก็ 3xx มั๊งครับ ตอนนั้นหุ้นบวกมาร้อยจุดยังมาไม่ถึงครึ่งเลยครับ ฮ่า ๆ ๆ
พอร์ตก็ใหญ่ไปเรื่อย ๆ ครับ หลังจากที่หุ้นมันเริ่มขึ้น ก็มาลดลง ฮวบ ๆ ช่วง ๆ นี้หล่ะครับ
“บัดซบเอ๊ย” ผมเองก็อยากนะครับในเวลาที่หุ้นตกคือผมน่าจะมีเงินสดซัก 80% และมีหุ้น 20% หรือเทพสุด ๆ คือมีเงินสด 100% ไปเร๊ยยยย แต่การทำแบบนั้นมัน ขอประทานโทษนะครับ “โคตรยาก” และผมเองก็เลิก Timing ตลาดไปแล้วครับ เพราะผมไม่มีความสามารถครับยอมรับ ถ้าท่านไหนทำได้และทำได้ดีผมยินดีด้วยนะครับ แต่เรื่องแนว ๆ นี้ผมไม่มีความสามารถจริง ๆ ก็ต้องยอมรับสภาพครับ “คนโง่ย่อมมีวิถีของคนโง่ เต่าย่อมมีวิถีของเต่า จะให้วิ่งแบบกระต่าย คงไม่ได้”
ผมมีหุ้นที่ผมเชื่อว่าเป็นหุ้นแข็งแกร่งเติบโต และมีความสามารถในการแข่งขันที่ดีอยู่สามตัวในพอร์ต และตัวเล็ก ๆ อีก 3-4 ตัวครับ ไว้เฝ้าดู ที่มีเงินสด 15-20% นี่ก็เพราะเลียนแบบฟิล ฟิชเชอร์ครับ ท่านเคยให้สัมภาษณ์กับฟอร์ปเมื่อประมาณ ปี 1987 ว่าท่านถือหุ้นหลัก ๆ 4 ตัว ตัวเล็ก ๆ 5 ตัว และเงินสดอีกประมาณ 20-25% ผมก็เลียนแบบท่านครับ นี่ถ้าหุ้นตกไปมาก ๆ ผมอาจจะมีเงินสด 50% หุ้น 50% ก็ได้นะเอ้า คือราคาหุ้นมันลดลงไปเรื่อย ๆ น่ะครับ แต่เงินสดมีเท่าเดิม ^_^'
แรก ๆ ผมชอบการเล่นแบบ CANSLIM นะครับ อ.โอนีลครับ แต่ตอนหลังผมเสพแนวทางของ พ่อ-ลูก ฟิชเชอร์จนติดแงม บวกกับ อ.นิเวศน์แปลหนังสือไว้ (ผมก็ไปหาภาษาอังกฤษมาอ่านอีก และตามอ่านผลงานของ เคน อีกหลายเล่ม)
อย่างไรก็ตาม คนฉลาด ไม่จำเป็นเท่า คนอดทน ครับ ในตลาดหุ้น ลินซ์เคยกล่าวว่าไม่ว่าวิธีการจะดีสักแค่ไหนก็จะเป็นศูนย์ หาก จิตใจไม่มั่นคง สุดยอดของสุดยอดในยามวิกฤต ก็ "วิชาเต่า” นี่หล่ะครับ
ปล. ศัพท์คำว่า “เต่า” นี่ผมไม่ได้คิดมาเองครับ ลอกมาจาก อ.นิเวศน์ อีกทีหวังว่าท่านคงไม่หวงลิขสิทธิ์
...................
แต่สุดท้ายแล้วน้องจะเล่นวิธีไหนก็แล้วแต่ ผมเป็นกำลังใจให้ และหลายคนผมก็ปล่อยเค้าซื้อ ๆ ขาย ๆ ต่อไป และร่วมวงกินข้าวกันเหมือนเดิม เพราะผมคงสอนเค้าไม่ได้มากกว่านั้น และเค้าก็คงสอนผมไม่ได้มากกว่านั้นเช่นเดียวกัน ก็คงเช่นเดียวกับคนตามบอร์ดเวปหุ้นล่ะมั๊งครับ
....................
และด้วยความที่ คนซื้อขายหุ้นอย่างรุ่นน้องผม และคนซื้อหุ้นแต่ไม่ขายตราบใดที่ไม่เข้าหลักการอย่างผม มานั่งร่วมวงกันกว่าสิบปี ผมค้นพบสัจธรรมว่า คนเรานั้นเปลี่ยนแปลงไม่ได้ นิทานที่ เบน เกรแฮม เล่า เรื่องตลกที่ฟิชเชอร์เล่า ตลอดจนสิ่งที่บัฟเฟตต์กล่าว ไม่ผิดเลย เวลาเปลี่ยน แต่ตลาดหุ้นไม่เคยเปลี่ยน
และในเมื่อมันเป็นเช่นนั้นผมเองก็คงเปลี่ยนแปลงไม่ได้เช่นเดียวกัน ผมเชื่อว่าธุรกิจที่แข็งแกร่งจะกลับมา และจะผ่านวิกฤตไปได้ วิกฤตจะเร็วจะช้าเนิ่นนานเป็นห้าปีสิบปีหรือยี่สิบปีก็จะต้องผ่านไป
และเมื่อนั้น ลูกศิษย์ลูกหา “วิชาเต่า” จะพบกับความสำเร็จอย่างยั่งยืน เหมือนกับที่มันเคยเป็นมา เหมือนกับที่ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เราเคารพ เหมือนกับที่ปรมาจารย์ของเราผ่านมา
และเมื่อวันนั้นมาถึงจะเป็นหน้าที่ของเราบอกเล่าเรื่องราวแห่งความสำเร็จให้คนรุ่นต่อไปครับ
...................
NB Sep 28, 2011 - เขียนในเดือนที่โลกทั้งโลกกำลังวิตกกับภาวะยุโรป อเมริกา ฯลฯ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 17
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิชาเต่า - ในวิกฤตแห่งตลาดหุ้นยังมีเต่าอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 2
Nevercry.boy เขียน:ผมเองมีความตั้งใจที่จะเขียนสิ่งที่ผมคิดไว้ และปรัชญา แนวทางการลงทุนของผมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันครับ
ส่วนหนึ่งและส่วนใหญ่มาจากครูบาอาจารย์ที่ผมนับถือ แม้ผมไม่เคยพบตัวจริงของท่านก็ตาม
และแม้บางท่านจะไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว โปรดรับรู้ด้วยจิตว่าศิษย์นับถืออยู่เสมอ
.........................
ก่อนอ่าน
ที่ผมจะเขียนเป็นความเชื่อส่วนบุคคลของคนแก่ที่ดื้อรั้น ไม่จำเป็นต้องปฎิบัติตาม และโปรดใช้วิจารณญาณ ในการอ่าน
อ้อ สำหรับเด็ก ๆ ควรอ่านพร้อมผู้ปกครองครับ
...........................
ตอนนี้สภาวะหุ้นตกกันหมด ลำบากครับ กำลังใจในการซื้อคงไม่ค่อยมีครับ การพูดถึงการลงทุนโดยการวิเคราะห์พื้นฐานกิจการ เสมือนเราเป็นหุ้นส่วนคนหนึ่ง ฟังดูแล้วเกิดวิกฤติศรัทธารุนแรงกว่าวิกฤติเศรษฐกิจเสียอีก
คำถามในเวปบอร์ดนั้นก็จะมีประมาณว่า เมื่อไรวิกฤต จะหมดไป เมื่อไรจะแก้ปัญหานั้นได้ เมื่อไรจะแก้ปัญหานี้ได้ ปัญหามันเกิดมาจากอะไร Fed จะแถลงอะไร แถลงแล้วแปลว่าอะไร ฯลฯ
เอ แปลกนะครับ ทำไมช่วงนี้ไม่มีใครถามว่าจะลาออกจากงานประจำมาเล่นหุ้นดีมั๊ยก็ไม่รู้?
กำลังใจในการ “ถือ” ยิ่งหายไปครับ ไม่ใช่เฉพาะในเวปบอร์ดครับ แต่ในระหว่างเพื่อนด้วยกันเอง การถือหุ้นเพื่อเป็นเจ้าของกิจการ การถือหุ้นระยะยาว โดนท้าทายเป็นอย่างยิ่ง ถ้าพูดตรง ๆ ถูกดูถูกเป็นอย่างยิ่ง
ยิ่งมาถูกบั่นทอนด้วยการติดลบในพอร์ตแบบมโหฬาร ชนิดที่บางคนไม่เคยเป็นกันมาก่อน กำลังใจก็หดหายไปเรื่อย ๆ ครับ
“พี่ครับ มีคนบอกว่าพี่ถือหุ้นระยะยาว ที่พี่พูดเป็นความจริงหรือเป็นแค่หลักการ” มีน้องคนนึงถามผม
“ถ้าพี่ซื้อแล้วไม่ขาย นั่นไม่ใช่การลงทุน” มีน้องอีกคนนึงบอก
“ผมซื้อ ปตท. ขึ้นไป สามช่องห้าช่อง ผมก็ขายแล้ว ถ้าลงผมก็คัท” น้องอีกคนนึงสอน
“เล่นหุ้นต้องรู้จักคัทลอส” น้องอีกคนกรุณาสอนผม
“ทำแบบนี้แล้วจะได้อะไร” น้องอีกคนเป็นห่วง แต่เริ่มอารมณ์ไม่ดี
ผมรับฟังและบอกน้องทุกคนว่าผมขอบคุณครับ ขอบคุณอย่างมาก แต่พี่ “ลงทุนระยะยาว” ครับ มันเป็นคำพูดที่น้อง ๆ คงไม่ค่อยเข้าใจและขัดใจอยู่ในที และผมก็บอกน้องทุก ๆ คนว่า ผมใช้ “วิชาเต่า” ในการลงทุน ไม่ได้เทรด
ผลตอบแทนไปตามผลประกอบการ โตแบบเต่า หัวใจของวิชานี้ให้ลูกศิษย์มีหัวใจในการลงทุนมากกว่าเก็งกำไร
เวลามีเพศภัยเกิดขึ้นก็หดหัวในกระดอง เงินผมส่วนใหญ่ 80% หมดแล้วครับเพราะอยู่ในหุ้น 80%
อ้อ LTF/RMF อีกส่วน แต่นั่นก็ยิ่งยาวไปใหญ่ จะซื้ออะไรเพิ่มก็คงทำไม่ได้ ก็คงมีเงินเก็บระหว่างเดือนจากเงินเดือนบ้างพอมาลงทุนได้เดือนละประมาณ 0.25% ของพอร์ต คือถ้าพอร์ตล้านนึงก็ลงได้เดือนนึงประมาณสองพันห้าครับ ประมาณนั้น ก็ทยอยไปเรื่อย ๆ เพราะเงินเดือนไม่เยอะอะไร
แต่ผมก็ทำแบบนี้หล่ะครับทำมานานแล้ว ทำก่อนซัพไพร์มด้วยครับ ซื้อตอนสูง ๆ 9xx มั๊งครับจำไม่ได้ 8xx และก็ 7xx และก็ 6xx และก็ 5xx มั๊งครับ 4xx และก็ 3xx มั๊งครับ ตอนนั้นหุ้นบวกมาร้อยจุดยังมาไม่ถึงครึ่งเลยครับ ฮ่า ๆ ๆ
พอร์ตก็ใหญ่ไปเรื่อย ๆ ครับ หลังจากที่หุ้นมันเริ่มขึ้น ก็มาลดลง ฮวบ ๆ ช่วง ๆ นี้หล่ะครับ
“บัดซบเอ๊ย” ผมเองก็อยากนะครับในเวลาที่หุ้นตกคือผมน่าจะมีเงินสดซัก 80% และมีหุ้น 20% หรือเทพสุด ๆ คือมีเงินสด 100% ไปเร๊ยยยย แต่การทำแบบนั้นมัน ขอประทานโทษนะครับ “โคตรยาก” และผมเองก็เลิก Timing ตลาดไปแล้วครับ เพราะผมไม่มีความสามารถครับยอมรับ ถ้าท่านไหนทำได้และทำได้ดีผมยินดีด้วยนะครับ แต่เรื่องแนว ๆ นี้ผมไม่มีความสามารถจริง ๆ ก็ต้องยอมรับสภาพครับ “คนโง่ย่อมมีวิถีของคนโง่ เต่าย่อมมีวิถีของเต่า จะให้วิ่งแบบกระต่าย คงไม่ได้”
ผมมีหุ้นที่ผมเชื่อว่าเป็นหุ้นแข็งแกร่งเติบโต และมีความสามารถในการแข่งขันที่ดีอยู่สามตัวในพอร์ต และตัวเล็ก ๆ อีก 3-4 ตัวครับ ไว้เฝ้าดู ที่มีเงินสด 15-20% นี่ก็เพราะเลียนแบบฟิล ฟิชเชอร์ครับ ท่านเคยให้สัมภาษณ์กับฟอร์ปเมื่อประมาณ ปี 1987 ว่าท่านถือหุ้นหลัก ๆ 4 ตัว ตัวเล็ก ๆ 5 ตัว และเงินสดอีกประมาณ 20-25% ผมก็เลียนแบบท่านครับ นี่ถ้าหุ้นตกไปมาก ๆ ผมอาจจะมีเงินสด 50% หุ้น 50% ก็ได้นะเอ้า คือราคาหุ้นมันลดลงไปเรื่อย ๆ น่ะครับ แต่เงินสดมีเท่าเดิม ^_^'
แรก ๆ ผมชอบการเล่นแบบ CANSLIM นะครับ อ.โอนีลครับ แต่ตอนหลังผมเสพแนวทางของ พ่อ-ลูก ฟิชเชอร์จนติดแงม บวกกับ อ.นิเวศน์แปลหนังสือไว้ (ผมก็ไปหาภาษาอังกฤษมาอ่านอีก และตามอ่านผลงานของ เคน อีกหลายเล่ม)
อย่างไรก็ตาม คนฉลาด ไม่จำเป็นเท่า คนอดทน ครับ ในตลาดหุ้น ลินซ์เคยกล่าวว่าไม่ว่าวิธีการจะดีสักแค่ไหนก็จะเป็นศูนย์ หาก จิตใจไม่มั่นคง สุดยอดของสุดยอดในยามวิกฤต ก็ "วิชาเต่า” นี่หล่ะครับ
ปล. ศัพท์คำว่า “เต่า” นี่ผมไม่ได้คิดมาเองครับ ลอกมาจาก อ.นิเวศน์ อีกทีหวังว่าท่านคงไม่หวงลิขสิทธิ์
...................
แต่สุดท้ายแล้วน้องจะเล่นวิธีไหนก็แล้วแต่ ผมเป็นกำลังใจให้ และหลายคนผมก็ปล่อยเค้าซื้อ ๆ ขาย ๆ ต่อไป และร่วมวงกินข้าวกันเหมือนเดิม เพราะผมคงสอนเค้าไม่ได้มากกว่านั้น และเค้าก็คงสอนผมไม่ได้มากกว่านั้นเช่นเดียวกัน ก็คงเช่นเดียวกับคนตามบอร์ดเวปหุ้นล่ะมั๊งครับ
....................
และด้วยความที่ คนซื้อขายหุ้นอย่างรุ่นน้องผม และคนซื้อหุ้นแต่ไม่ขายตราบใดที่ไม่เข้าหลักการอย่างผม มานั่งร่วมวงกันกว่าสิบปี ผมค้นพบสัจธรรมว่า คนเรานั้นเปลี่ยนแปลงไม่ได้ นิทานที่ เบน เกรแฮม เล่า เรื่องตลกที่ฟิชเชอร์เล่า ตลอดจนสิ่งที่บัฟเฟตต์กล่าว ไม่ผิดเลย เวลาเปลี่ยน แต่ตลาดหุ้นไม่เคยเปลี่ยน
และในเมื่อมันเป็นเช่นนั้นผมเองก็คงเปลี่ยนแปลงไม่ได้เช่นเดียวกัน ผมเชื่อว่าธุรกิจที่แข็งแกร่งจะกลับมา และจะผ่านวิกฤตไปได้ วิกฤตจะเร็วจะช้าเนิ่นนานเป็นห้าปีสิบปีหรือยี่สิบปีก็จะต้องผ่านไป
และเมื่อนั้น ลูกศิษย์ลูกหา “วิชาเต่า” จะพบกับความสำเร็จอย่างยั่งยืน เหมือนกับที่มันเคยเป็นมา เหมือนกับที่ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เราเคารพ เหมือนกับที่ปรมาจารย์ของเราผ่านมา
และเมื่อวันนั้นมาถึงจะเป็นหน้าที่ของเราบอกเล่าเรื่องราวแห่งความสำเร็จให้คนรุ่นต่อไปครับ
...................
NB Sep 28, 2011 - เขียนในเดือนที่โลกทั้งโลกกำลังวิตกกับภาวะยุโรป อเมริกา ฯลฯ
-
- Verified User
- โพสต์: 17
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิชาเต่า - ในวิกฤตแห่งตลาดหุ้นยังมีเต่าอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 3
sarajane เขียน:Nevercry.boy เขียน:ผมเองมีความตั้งใจที่จะเขียนสิ่งที่ผมคิดไว้ และปรัชญา แนวทางการลงทุนของผมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันครับ
ส่วนหนึ่งและส่วนใหญ่มาจากครูบาอาจารย์ที่ผมนับถือ แม้ผมไม่เคยพบตัวจริงของท่านก็ตาม
และแม้บางท่านจะไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว โปรดรับรู้ด้วยจิตว่าศิษย์นับถืออยู่เสมอ
.........................
ก่อนอ่าน
ที่ผมจะเขียนเป็นความเชื่อส่วนบุคคลของคนแก่ที่ดื้อรั้น ไม่จำเป็นต้องปฎิบัติตาม และโปรดใช้วิจารณญาณ ในการอ่าน
อ้อ สำหรับเด็ก ๆ ควรอ่านพร้อมผู้ปกครองครับ
...........................
ตอนนี้สภาวะหุ้นตกกันหมด ลำบากครับ กำลังใจในการซื้อคงไม่ค่อยมีครับ การพูดถึงการลงทุนโดยการวิเคราะห์พื้นฐานกิจการ เสมือนเราเป็นหุ้นส่วนคนหนึ่ง ฟังดูแล้วเกิดวิกฤติศรัทธารุนแรงกว่าวิกฤติเศรษฐกิจเสียอีก
คำถามในเวปบอร์ดนั้นก็จะมีประมาณว่า เมื่อไรวิกฤต จะหมดไป เมื่อไรจะแก้ปัญหานั้นได้ เมื่อไรจะแก้ปัญหานี้ได้ ปัญหามันเกิดมาจากอะไร Fed จะแถลงอะไร แถลงแล้วแปลว่าอะไร ฯลฯ
เอ แปลกนะครับ ทำไมช่วงนี้ไม่มีใครถามว่าจะลาออกจากงานประจำมาเล่นหุ้นดีมั๊ยก็ไม่รู้?
กำลังใจในการ “ถือ” ยิ่งหายไปครับ ไม่ใช่เฉพาะในเวปบอร์ดครับ แต่ในระหว่างเพื่อนด้วยกันเอง การถือหุ้นเพื่อเป็นเจ้าของกิจการ การถือหุ้นระยะยาว โดนท้าทายเป็นอย่างยิ่ง ถ้าพูดตรง ๆ ถูกดูถูกเป็นอย่างยิ่ง
ยิ่งมาถูกบั่นทอนด้วยการติดลบในพอร์ตแบบมโหฬาร ชนิดที่บางคนไม่เคยเป็นกันมาก่อน กำลังใจก็หดหายไปเรื่อย ๆ ครับ
“พี่ครับ มีคนบอกว่าพี่ถือหุ้นระยะยาว ที่พี่พูดเป็นความจริงหรือเป็นแค่หลักการ” มีน้องคนนึงถามผม
“ถ้าพี่ซื้อแล้วไม่ขาย นั่นไม่ใช่การลงทุน” มีน้องอีกคนนึงบอก
“ผมซื้อ ปตท. ขึ้นไป สามช่องห้าช่อง ผมก็ขายแล้ว ถ้าลงผมก็คัท” น้องอีกคนนึงสอน
“เล่นหุ้นต้องรู้จักคัทลอส” น้องอีกคนกรุณาสอนผม
“ทำแบบนี้แล้วจะได้อะไร” น้องอีกคนเป็นห่วง แต่เริ่มอารมณ์ไม่ดี
ผมรับฟังและบอกน้องทุกคนว่าผมขอบคุณครับ ขอบคุณอย่างมาก แต่พี่ “ลงทุนระยะยาว” ครับ มันเป็นคำพูดที่น้อง ๆ คงไม่ค่อยเข้าใจและขัดใจอยู่ในที และผมก็บอกน้องทุก ๆ คนว่า ผมใช้ “วิชาเต่า” ในการลงทุน ไม่ได้เทรด
ผลตอบแทนไปตามผลประกอบการ โตแบบเต่า หัวใจของวิชานี้ให้ลูกศิษย์มีหัวใจในการลงทุนมากกว่าเก็งกำไร
เวลามีเพศภัยเกิดขึ้นก็หดหัวในกระดอง เงินผมส่วนใหญ่ 80% หมดแล้วครับเพราะอยู่ในหุ้น 80%
อ้อ LTF/RMF อีกส่วน แต่นั่นก็ยิ่งยาวไปใหญ่ จะซื้ออะไรเพิ่มก็คงทำไม่ได้ ก็คงมีเงินเก็บระหว่างเดือนจากเงินเดือนบ้างพอมาลงทุนได้เดือนละประมาณ 0.25% ของพอร์ต คือถ้าพอร์ตล้านนึงก็ลงได้เดือนนึงประมาณสองพันห้าครับ ประมาณนั้น ก็ทยอยไปเรื่อย ๆ เพราะเงินเดือนไม่เยอะอะไร
แต่ผมก็ทำแบบนี้หล่ะครับทำมานานแล้ว ทำก่อนซัพไพร์มด้วยครับ ซื้อตอนสูง ๆ 9xx มั๊งครับจำไม่ได้ 8xx และก็ 7xx และก็ 6xx และก็ 5xx มั๊งครับ 4xx และก็ 3xx มั๊งครับ ตอนนั้นหุ้นบวกมาร้อยจุดยังมาไม่ถึงครึ่งเลยครับ ฮ่า ๆ ๆ
พอร์ตก็ใหญ่ไปเรื่อย ๆ ครับ หลังจากที่หุ้นมันเริ่มขึ้น ก็มาลดลง ฮวบ ๆ ช่วง ๆ นี้หล่ะครับ
“บัดซบเอ๊ย” ผมเองก็อยากนะครับในเวลาที่หุ้นตกคือผมน่าจะมีเงินสดซัก 80% และมีหุ้น 20% หรือเทพสุด ๆ คือมีเงินสด 100% ไปเร๊ยยยย แต่การทำแบบนั้นมัน ขอประทานโทษนะครับ “โคตรยาก” และผมเองก็เลิก Timing ตลาดไปแล้วครับ เพราะผมไม่มีความสามารถครับยอมรับ ถ้าท่านไหนทำได้และทำได้ดีผมยินดีด้วยนะครับ แต่เรื่องแนว ๆ นี้ผมไม่มีความสามารถจริง ๆ ก็ต้องยอมรับสภาพครับ “คนโง่ย่อมมีวิถีของคนโง่ เต่าย่อมมีวิถีของเต่า จะให้วิ่งแบบกระต่าย คงไม่ได้”
ผมมีหุ้นที่ผมเชื่อว่าเป็นหุ้นแข็งแกร่งเติบโต และมีความสามารถในการแข่งขันที่ดีอยู่สามตัวในพอร์ต และตัวเล็ก ๆ อีก 3-4 ตัวครับ ไว้เฝ้าดู ที่มีเงินสด 15-20% นี่ก็เพราะเลียนแบบฟิล ฟิชเชอร์ครับ ท่านเคยให้สัมภาษณ์กับฟอร์ปเมื่อประมาณ ปี 1987 ว่าท่านถือหุ้นหลัก ๆ 4 ตัว ตัวเล็ก ๆ 5 ตัว และเงินสดอีกประมาณ 20-25% ผมก็เลียนแบบท่านครับ นี่ถ้าหุ้นตกไปมาก ๆ ผมอาจจะมีเงินสด 50% หุ้น 50% ก็ได้นะเอ้า คือราคาหุ้นมันลดลงไปเรื่อย ๆ น่ะครับ แต่เงินสดมีเท่าเดิม ^_^'
แรก ๆ ผมชอบการเล่นแบบ CANSLIM นะครับ อ.โอนีลครับ แต่ตอนหลังผมเสพแนวทางของ พ่อ-ลูก ฟิชเชอร์จนติดแงม บวกกับ อ.นิเวศน์แปลหนังสือไว้ (ผมก็ไปหาภาษาอังกฤษมาอ่านอีก และตามอ่านผลงานของ เคน อีกหลายเล่ม)
อย่างไรก็ตาม คนฉลาด ไม่จำเป็นเท่า คนอดทน ครับ ในตลาดหุ้น ลินซ์เคยกล่าวว่าไม่ว่าวิธีการจะดีสักแค่ไหนก็จะเป็นศูนย์ หาก จิตใจไม่มั่นคง สุดยอดของสุดยอดในยามวิกฤต ก็ "วิชาเต่า” นี่หล่ะครับ
ปล. ศัพท์คำว่า “เต่า” นี่ผมไม่ได้คิดมาเองครับ ลอกมาจาก อ.นิเวศน์ อีกทีหวังว่าท่านคงไม่หวงลิขสิทธิ์
...................
แต่สุดท้ายแล้วน้องจะเล่นวิธีไหนก็แล้วแต่ ผมเป็นกำลังใจให้ และหลายคนผมก็ปล่อยเค้าซื้อ ๆ ขาย ๆ ต่อไป และร่วมวงกินข้าวกันเหมือนเดิม เพราะผมคงสอนเค้าไม่ได้มากกว่านั้น และเค้าก็คงสอนผมไม่ได้มากกว่านั้นเช่นเดียวกัน ก็คงเช่นเดียวกับคนตามบอร์ดเวปหุ้นล่ะมั๊งครับ
....................
และด้วยความที่ คนซื้อขายหุ้นอย่างรุ่นน้องผม และคนซื้อหุ้นแต่ไม่ขายตราบใดที่ไม่เข้าหลักการอย่างผม มานั่งร่วมวงกันกว่าสิบปี ผมค้นพบสัจธรรมว่า คนเรานั้นเปลี่ยนแปลงไม่ได้ นิทานที่ เบน เกรแฮม เล่า เรื่องตลกที่ฟิชเชอร์เล่า ตลอดจนสิ่งที่บัฟเฟตต์กล่าว ไม่ผิดเลย เวลาเปลี่ยน แต่ตลาดหุ้นไม่เคยเปลี่ยน
และในเมื่อมันเป็นเช่นนั้นผมเองก็คงเปลี่ยนแปลงไม่ได้เช่นเดียวกัน ผมเชื่อว่าธุรกิจที่แข็งแกร่งจะกลับมา และจะผ่านวิกฤตไปได้ วิกฤตจะเร็วจะช้าเนิ่นนานเป็นห้าปีสิบปีหรือยี่สิบปีก็จะต้องผ่านไป
และเมื่อนั้น ลูกศิษย์ลูกหา “วิชาเต่า” จะพบกับความสำเร็จอย่างยั่งยืน เหมือนกับที่มันเคยเป็นมา เหมือนกับที่ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เราเคารพ เหมือนกับที่ปรมาจารย์ของเราผ่านมา
และเมื่อวันนั้นมาถึงจะเป็นหน้าที่ของเราบอกเล่าเรื่องราวแห่งความสำเร็จให้คนรุ่นต่อไปครับ
...................
NB Sep 28, 2011 - เขียนในเดือนที่โลกทั้งโลกกำลังวิตกกับภาวะยุโรป อเมริกา ฯลฯ
-
- Verified User
- โพสต์: 872
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิชาเต่า - ในวิกฤตแห่งตลาดหุ้นยังมีเต่าอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 5
อย่า'ร้องไห้'นะครับ เป็นกำลังใจให้
พอคิดถึงตัวเองก็อยากร้องไห้อยู่เหมือนกัน
เพราะเชื่อมั่นในกิจการ เชื่อว่าอนาคตจะดีขึ้นเรื่อยๆ
เชื่อว่าจะทนพายุศก.ได้ แต่แล้ว.... พอถึงเวลาที่คนอื่นไม่เชื่อมั่น
เห็นคนอื่นดูถูกกิจการเรา มันเจ็บเหมือนกันนะครับ
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็จะขออาศัยเรือลำนี้ต่อไป ไม่สละเรือหนีแน่นอนครับ (ไม่ทันแล้ว - -")
พอคิดถึงตัวเองก็อยากร้องไห้อยู่เหมือนกัน
เพราะเชื่อมั่นในกิจการ เชื่อว่าอนาคตจะดีขึ้นเรื่อยๆ
เชื่อว่าจะทนพายุศก.ได้ แต่แล้ว.... พอถึงเวลาที่คนอื่นไม่เชื่อมั่น
เห็นคนอื่นดูถูกกิจการเรา มันเจ็บเหมือนกันนะครับ
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็จะขออาศัยเรือลำนี้ต่อไป ไม่สละเรือหนีแน่นอนครับ (ไม่ทันแล้ว - -")
-
- Verified User
- โพสต์: 760
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิชาเต่า - ในวิกฤตแห่งตลาดหุ้นยังมีเต่าอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 6
ขอผมอยู่เป็นเพื่อนอีกคนครับ
- จุดแข็งทางธุรกิจที่เลียนแบบได้ยาก มักต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการสร้างและเพาะบ่มเสมอ ไม่สามารถเนรมิตได้ด้วยเงิน (สุมาอี้)
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิชาเต่า - ในวิกฤตแห่งตลาดหุ้นยังมีเต่าอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 7
เซียนคนใหม่จุติแล้ว
ขอชื่นชมในหลักการครับ
ขอชื่นชมในหลักการครับ
ลงทุนเพื่อชีวิต
- Skyforever
- Verified User
- โพสต์: 1203
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิชาเต่า - ในวิกฤตแห่งตลาดหุ้นยังมีเต่าอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 8
ไม่ต้องเหงาครับพี่ Nevercry.boy เพราะมีผมร่วมเดินทางโดยใช้วิชาเต่าเช่นกันครับ
ผมถือหุ้นหมดเหมือนกัน เงินเดือนมาก็มาเติม และยังคงเชื่อมั่นในวิถีแห่งเต่าอยู่ครับ สบายๆ
ผมถือหุ้นหมดเหมือนกัน เงินเดือนมาก็มาเติม และยังคงเชื่อมั่นในวิถีแห่งเต่าอยู่ครับ สบายๆ
ชนะเพราะไม่คิดเอาชนะ กำไรเพราะไม่โลภ ลงทุนอย่างมีความสุขเพราะจิตใจอยู่เหนืออารมณ์ตลาด
"ทรัพย์ศฤงคารที่ได้มาอย่างเร่งร้อนจะยอบแยบลง แต่บุคคลที่ส่ำสมทีละเล็กละน้อยจะได้เพิ่มพูนขึ้น" สุภาษิต 13:11
"ทรัพย์ศฤงคารที่ได้มาอย่างเร่งร้อนจะยอบแยบลง แต่บุคคลที่ส่ำสมทีละเล็กละน้อยจะได้เพิ่มพูนขึ้น" สุภาษิต 13:11
-
- Verified User
- โพสต์: 237
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิชาเต่า - ในวิกฤตแห่งตลาดหุ้นยังมีเต่าอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 9
ชื่นชม และ อยู่เป็นเต่าด้วยครับ
ผมผ่านวิกฤตมาตั้งแต่สงครามอ่าว แรกๆก้อหนีแบบคัทลอส แล้วก้อลอสจริงๆหลายสิบเปอร์เซนต์ทุกครั้งไป เพราะกะจังหวะขายและกลับเข้าไปถูกบ้างผิดบ้าง ยังไงก้อต้องโดน เพราะไม่มีใครรุ้จริง เฝ้าทุกวันก้อประสาทกิน ไม่เป็นอันทำอะไร ปี40 โดนไปกว่าครึ่งของพอร์ต
พอปี50 ที่ผ่านมา เลิกหนีแล้ว ไปขาย LTF ต้นปีต่อมา เอามาเพิ่มพอร์ตสู้ ได้ผลดีกว่าครับ ไม่เครียดด้วย
ผมผ่านวิกฤตมาตั้งแต่สงครามอ่าว แรกๆก้อหนีแบบคัทลอส แล้วก้อลอสจริงๆหลายสิบเปอร์เซนต์ทุกครั้งไป เพราะกะจังหวะขายและกลับเข้าไปถูกบ้างผิดบ้าง ยังไงก้อต้องโดน เพราะไม่มีใครรุ้จริง เฝ้าทุกวันก้อประสาทกิน ไม่เป็นอันทำอะไร ปี40 โดนไปกว่าครึ่งของพอร์ต
พอปี50 ที่ผ่านมา เลิกหนีแล้ว ไปขาย LTF ต้นปีต่อมา เอามาเพิ่มพอร์ตสู้ ได้ผลดีกว่าครับ ไม่เครียดด้วย
-
- Verified User
- โพสต์: 957
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิชาเต่า - ในวิกฤตแห่งตลาดหุ้นยังมีเต่าอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 10
ชอบมาก ครับ
เราทุกคน ย่อมมีเส้นทางของตนเอง มีวิธีรับและแก้ปัญหาเป็นของตนเอง
ดีที่สุด เมื่อเรารู้ว่า เรากำลังทำอะไรอยู่ และได้ทำในสิ่งที่เราเลือกแล้ว
ขอให้เราทุกๆคน ที่รู้ว่า เรากำลังทำอะไรอยู่ประสพความสำเร็จทุกๆคน (รวมทั้งตัวผมด้วย) ครับ
เราทุกคน ย่อมมีเส้นทางของตนเอง มีวิธีรับและแก้ปัญหาเป็นของตนเอง
ดีที่สุด เมื่อเรารู้ว่า เรากำลังทำอะไรอยู่ และได้ทำในสิ่งที่เราเลือกแล้ว
ขอให้เราทุกๆคน ที่รู้ว่า เรากำลังทำอะไรอยู่ประสพความสำเร็จทุกๆคน (รวมทั้งตัวผมด้วย) ครับ
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิชาเต่า - ในวิกฤตแห่งตลาดหุ้นยังมีเต่าอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 12
เห็นคุณ NB ตั้งแต่หุ้นฟิล์ม ผมก็มีหนังสือ CANSLIM เหมือนกัน แต่ก้อ่านประดับความรู้ แต่เท่าที่อ่านดู เห็นมีคนยกย่องว่าคุณ NB บรรลุวิชาไหมฟ้า CANSLIM แล้ว
ล่าสุดก็เห็นคุณ NB ในห้อง IVL ผมความรู้เรื่องพลาสติกเรื่องฟิล์มยังไม่ลึกมาก อาศัยอ่านจากคนอื่นเอาล้วนๆ
ขอร่วมวงเต่าด้วยคน เพราะรอบนี้ ผมไม่ขายหุ้นแม้แต่หุ้นเดียว ช่วงที่คนตื่น นั่งรอผลประกอบการอย่างเดียว รอเงินเพิ่ม แล้วคอยใจเย็นอีกซักหน่อยหาจังหวะซื้อหุ้นเพิ่มที่เห็นว่ามันตก ทั้งที่มันไม่ได้เกี่ยวกับวิกฤติซักเท่าไหร่เลย แต่ตกใจตาม ค่อยๆ แกะงบ แม้ประสบการณ์ด้านงบจะน้อย แต่ก็พยายามไขว่คว้าหาความรู้
ผิดกับรอบที่แล้ว ที่เป็น trader เต็มตัว ไม่มีแนวคิด investor แม้แต่นิด ซื้อๆ ขายๆ หลาย "รอบ" ผลประกอบการไม่สนใจ
แต่ในบางช่วง เราจะรู้ได้เลยว่าอาจารย์นิเวศน์เป็นคนอ่านหนังสือไม่หยุด อ่านแล้วไม่เก็บไว้คนเดียว เขียนลง blog เผยแพร่ (ถึงได้เป็นที่มาของการลงทุนแบบ VI ในไทย แม้จะมีหลากหลายแนวทางก็ตาม)
อย่างมีบทความ "Value+Growth" ซึ่งคนทั่วไปก็รับรู้ฮือฮาแล้วว่าแกตีแตก CPALL ว่าเข้าข่าย ไปดูก็อยู่ในบทหนึ่ง ของหนังสือข้างล่าง
"Part Two: BUFFETT INVESTING = VALUE + GROWTH"
ส่วนเต่าก็เหมือนกัน ใช้กู๋หรือยาฮู๊หาดูก็จะพอเห็น
"กฎแห่งเต่า"
มี website พอควร
Original Turtle Trading Systems: Learn Trend Following Systems
http://www.turtletrader.com/
A Malaysian Turtle Investing Diary...By Amateur for Amateur
http://turtleinvestor888.blogspot.com/
Turtle Trading: A Market Legend
http://www.investopedia.com/articles/tr ... rading.asp
Turtle Strategy
http://www.myplaniq.com/LTISystem/jsp/s ... ion?ID=330
หนังสือ click ดู preview
http://www.amazon.com/gp/reader/0071486 ... eader-link
http://www.amazon.com/Way-Turtle-Method ... 007148664X
ล่าสุดก็เห็นคุณ NB ในห้อง IVL ผมความรู้เรื่องพลาสติกเรื่องฟิล์มยังไม่ลึกมาก อาศัยอ่านจากคนอื่นเอาล้วนๆ
ขอร่วมวงเต่าด้วยคน เพราะรอบนี้ ผมไม่ขายหุ้นแม้แต่หุ้นเดียว ช่วงที่คนตื่น นั่งรอผลประกอบการอย่างเดียว รอเงินเพิ่ม แล้วคอยใจเย็นอีกซักหน่อยหาจังหวะซื้อหุ้นเพิ่มที่เห็นว่ามันตก ทั้งที่มันไม่ได้เกี่ยวกับวิกฤติซักเท่าไหร่เลย แต่ตกใจตาม ค่อยๆ แกะงบ แม้ประสบการณ์ด้านงบจะน้อย แต่ก็พยายามไขว่คว้าหาความรู้
ผิดกับรอบที่แล้ว ที่เป็น trader เต็มตัว ไม่มีแนวคิด investor แม้แต่นิด ซื้อๆ ขายๆ หลาย "รอบ" ผลประกอบการไม่สนใจ
ที่จริงอาจารย์นิเวศน์ ก็เอามาจากตปท. จะสังเกตทุกบทความที่แกเขียน บางทีก็เป็นเรื่องเกิดขึ้นเตือนสติน้องๆ ลูกๆ หลานๆ ในเวลานั้นNevercry.boy เขียน:อย่างไรก็ตาม คนฉลาด ไม่จำเป็นเท่า คนอดทน ครับ ในตลาดหุ้น ลินซ์เคยกล่าวว่าไม่ว่าวิธีการจะดีสักแค่ไหนก็จะเป็นศูนย์ หาก จิตใจไม่มั่นคง สุดยอดของสุดยอดในยามวิกฤต ก็ "วิชาเต่า” นี่หล่ะครับ
ปล. ศัพท์คำว่า “เต่า” นี่ผมไม่ได้คิดมาเองครับ ลอกมาจาก อ.นิเวศน์ อีกทีหวังว่าท่านคงไม่หวงลิขสิทธิ์
...................
...................
NB Sep 28, 2011 - เขียนในเดือนที่โลกทั้งโลกกำลังวิตกกับภาวะยุโรป อเมริกา ฯลฯ
แต่ในบางช่วง เราจะรู้ได้เลยว่าอาจารย์นิเวศน์เป็นคนอ่านหนังสือไม่หยุด อ่านแล้วไม่เก็บไว้คนเดียว เขียนลง blog เผยแพร่ (ถึงได้เป็นที่มาของการลงทุนแบบ VI ในไทย แม้จะมีหลากหลายแนวทางก็ตาม)
อย่างมีบทความ "Value+Growth" ซึ่งคนทั่วไปก็รับรู้ฮือฮาแล้วว่าแกตีแตก CPALL ว่าเข้าข่าย ไปดูก็อยู่ในบทหนึ่ง ของหนังสือข้างล่าง
"Part Two: BUFFETT INVESTING = VALUE + GROWTH"
ส่วนเต่าก็เหมือนกัน ใช้กู๋หรือยาฮู๊หาดูก็จะพอเห็น
"กฎแห่งเต่า"
มี website พอควร
Original Turtle Trading Systems: Learn Trend Following Systems
http://www.turtletrader.com/
A Malaysian Turtle Investing Diary...By Amateur for Amateur
http://turtleinvestor888.blogspot.com/
Turtle Trading: A Market Legend
http://www.investopedia.com/articles/tr ... rading.asp
Turtle Strategy
http://www.myplaniq.com/LTISystem/jsp/s ... ion?ID=330
หนังสือ click ดู preview
http://www.amazon.com/gp/reader/0071486 ... eader-link
http://www.amazon.com/Way-Turtle-Method ... 007148664X
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
-
- Verified User
- โพสต์: 1426
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิชาเต่า - ในวิกฤตแห่งตลาดหุ้นยังมีเต่าอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 13
เห็นด้วยอย่างยิ่ง
คนส่วนใหญ่ในตลาดหุ้นทุกวันนี้ไม่รู้จักการลงทุนแล้ว
แต่ละคนจับประเด็นได้แต่เข้าตลาดเพื่อมุ่งกำไร ทำอย่างไรก็ได้เพื่อกำไร
เนื้อหาเสื่อมหายไปเหลือแต่รูปแบบ
ลงท้ายความหมายกร่อนเหลือเพียงว่า ลงทุนต้องถือยาว
เล่นหุ้นต้องรู้จักทำกำไร และ คัตลอส
ผมก็มีหุ้น(ที่คิดว่าเป็นเต่า)อยู่ในพอร์ต
ถือไปเรื่อย ๆ ไม่อายฟ้าดิน
คนส่วนใหญ่ในตลาดหุ้นทุกวันนี้ไม่รู้จักการลงทุนแล้ว
แต่ละคนจับประเด็นได้แต่เข้าตลาดเพื่อมุ่งกำไร ทำอย่างไรก็ได้เพื่อกำไร
เนื้อหาเสื่อมหายไปเหลือแต่รูปแบบ
ลงท้ายความหมายกร่อนเหลือเพียงว่า ลงทุนต้องถือยาว
เล่นหุ้นต้องรู้จักทำกำไร และ คัตลอส
ผมก็มีหุ้น(ที่คิดว่าเป็นเต่า)อยู่ในพอร์ต
ถือไปเรื่อย ๆ ไม่อายฟ้าดิน
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิชาเต่า - ในวิกฤตแห่งตลาดหุ้นยังมีเต่าอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 14
เอ้อ...แต่บอกนิดนึงนะครับ เป็นการใช้คำคล้ายกัน ไม่ได้ถึงกับเหมือนกันทั้งหมด ที่จริง turtle investmentข้างบน ไม่ได้เหมือน VI จริง
การ trade ข้างต้น turtle เน้นการลงทุนด้านอื่น โดยเฉพาะ commodities แต่ก็เป็นการอดทนลงทุนเหมือนกัน แต่สรุปที่แตกต่างคือพยายามเพิ่มระบบเข้ามา โดยดู Volatility ตลาดที่จะ trade
จริงๆ ผมก็แค่อ่านผ่านๆ ยังไม่มีประสบการณ์ trade ด้านอื่น เลยยังไม่ลึกซึ้ง หรือศรัทธาซักเท่าไหร่
แต่คำว่า "ชนะอย่างเต่า" เป็นคำที่คิดว่าใช้ได้จริง
การ trade ข้างต้น turtle เน้นการลงทุนด้านอื่น โดยเฉพาะ commodities แต่ก็เป็นการอดทนลงทุนเหมือนกัน แต่สรุปที่แตกต่างคือพยายามเพิ่มระบบเข้ามา โดยดู Volatility ตลาดที่จะ trade
จริงๆ ผมก็แค่อ่านผ่านๆ ยังไม่มีประสบการณ์ trade ด้านอื่น เลยยังไม่ลึกซึ้ง หรือศรัทธาซักเท่าไหร่
แต่คำว่า "ชนะอย่างเต่า" เป็นคำที่คิดว่าใช้ได้จริง
- kotaro
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1495
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิชาเต่า - ในวิกฤตแห่งตลาดหุ้นยังมีเต่าอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 15
ขอบคุณพี่ Nevercry.boy สำหรับโพสดีๆ
ช่วงนี้นอกจากเป็นเต่าแล้ว อยากเป็นกบด้วย จำศีลอย่างเดียว
ช่วงนี้นอกจากเป็นเต่าแล้ว อยากเป็นกบด้วย จำศีลอย่างเดียว
“Laughter is timeless. Imagination has no age. And dreams are forever.” ― Walt Disney Company
- Teeruk
- Verified User
- โพสต์: 238
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิชาเต่า - ในวิกฤตแห่งตลาดหุ้นยังมีเต่าอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 17
จำที่ ดร.นิเวศ เคยพูดไว้ ว่าคนที่ผ่านวิกฤตมาได้ หลายครั้ง และไม่เคยขายเลย โดยจึดหลัก vi ถือว่า เยี่ยมยอด ครับ....
...ผมก็เชื่ออย่างนั้นอยู่ครับ
...ผมก็เชื่ออย่างนั้นอยู่ครับ
Only one word can change your life...
You want to be greedy when others are fearful. You want to be fearful when others are greedy. It's that simple
You want to be greedy when others are fearful. You want to be fearful when others are greedy. It's that simple
-
- Verified User
- โพสต์: 1311
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิชาเต่า - ในวิกฤตแห่งตลาดหุ้นยังมีเต่าอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 18
สว่าง กระจ่าง สงบ ขอบคุณพี่ NB มากครับ เดิมผมตั้งใจจะใช้แนวทางแบบเต่า แต่จิตใจมันไวกว่ามากๆ ช่วงหุ้นลงแรงๆมันสับสน ว้าวุ่น สติไม่ค่อยอยู่กับตัว ผ่านมาสามวันเริ่มคิดได้คล้ายๆกับที่พี่ NB พูด แต่อย่างไรจิตใจมันก็ควบคุมยาก แต่ตอนนี้ผมสงบขึ้นเยอะแล้วครับ(ยังมีหุ้นอยู่70% คงไม่คิดปล่อยออกไปอีกแล้ว) ขอบคุณมากครับ ครั้งนี้ผมขอสู้กับจิตใจตัวเองอย่างไม่คิดจะหลบหรือคล้อยตามอีกแล้ว
- tum_H
- Verified User
- โพสต์: 1857
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิชาเต่า - ในวิกฤตแห่งตลาดหุ้นยังมีเต่าอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 19
ตอนแรกกะเอาไว้เหมือนกันครับ ว่าปีนี้จะลาละชีวิตการทำงาน แต่ดันมาติดหล่มซะก่อนNevercry.boy เขียน: เอ แปลกนะครับ ทำไมช่วงนี้ไม่มีใครถามว่าจะลาออกจากงานประจำมาเล่นหุ้นดีมั๊ยก็ไม่รู้?
เลยปรับแผนให้ยาวขึ้นอีกนิด(อิอิ)
ช่วงนี้มีพันธะทำให้อยากทำงานต่อหลายอย่าง(โดนบังคับ) เช่น หุ้นผลตอบแทนน้อยกว่าที่คาด
งานประจำเริ่มยุ่งน้อยลง ได้ปรับ level เงินเดือนเพิ่ม 70% และอีก 2 ปีผ่อนรถหมด ก็ไม่มีหนี้ล่ะ
ต่อไปตังค์เก็บคงมากขึ้น น่าจะมั่นคงยิ่งขึ้นกว่านี้ไปอีก
เป็นกำลังใจให้ทุกคนเช่นกันครับ
ชาตินี้เป็นที่สุดแล้ว บัดนี้ไม่มีความเกิดอีก
- ichbinpao
- Verified User
- โพสต์: 787
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิชาเต่า - ในวิกฤตแห่งตลาดหุ้นยังมีเต่าอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 20
คงต้องเป็นเต่าแล้วละครับชั่วโมงนี้ ถึง logo จะเป็นหมีก็ตาม ขอบคุณพี่ Neverycry สำหรับคำว่าเราซื้อหุ้นเพราะเหมือนเป็นหุ้นส่วนกิจการ เพราะคำนี้ทำให้ผมลืมไปเลยว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของเจ้าของ ไม่ใช่หากำไรจากการซื้อขายหุ้น
- izicado
- Verified User
- โพสต์: 102
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิชาเต่า - ในวิกฤตแห่งตลาดหุ้นยังมีเต่าอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 22
ขอบคุณพี่ NB ครับ ได้อ่านบทความดี ๆ จากพี่บ่อย ๆ
ผมชอบบรรยากาศช่วงนี้มากครับ เพราะคนระมัดระวังตัวตั้งใจขยันทำงานกันมาก เริ่มมองเห็นว่างานประจำเป็นสรณะประจำใจ ดีกว่าช่วงก่อนที่มีคนอยากลาออกมาเปิดพอร์ทกันมาก ผมคิดว่าวิกฤตหนี้ยูโรโซนนี้ เป็นผลดีกับประเทศไทยเราในระยะยาว(และแน่นอนว่าส่งผลดีกับตลาดทุนด้วย) ประเทศเรายังพัฒนาไปได้อีกไกล ย่ำฐานตรงนี้ให้ปึ้กอีกสักนิดจะเป็นไร
ผมความรู้คับแคบไม่เข้าใจว่าคนทั้งโลกคิดยังงัย คนทั้งโลกชอบเก็งกำไรเหมือนบ้านเรามั้ย แต่ผมพอจะรู้จักนิสัยคนไทยในบางส่วนนิดหน่อย
เป็นธรรมดาครับสำหรับคนไทยบางกลุ่ม มีพุทธศาสนาให้ศึกษา ก็ไปนับถือ เจ้าที่, ผี หรือ เทวดา
ส่วนการลงทุน มีงบการเงินให้ดู มีธุรกิจให้ศึกษามากมายไม่สนใจ แต่ไปดู เจ้ามือ กัน ว่าวันนี้เจ้าเค้าจะเล่นยังงัย
ที่จริง vi ช่วงนี้เอาตามจริงคือ ไม่ใช่แค่โดนดูถูกธรรมดาหรอกครับ โดนมองว่าเป็นผู้ร้ายด้วยนะ มองว่าเราพาให้คนอื่นไปติดหุ้นก็มี โดยส่วนตัวไม่คิดอะไร ก็แค่รับรู้ไว้ว่าเค้าคิดยังงัยกับเรา เราก็มีแต่ความจริงใจให้ ถ้าไม่พอใจก็ไปหาคนอื่นก็ได้
ผมชอบบรรยากาศช่วงนี้มากครับ เพราะคนระมัดระวังตัวตั้งใจขยันทำงานกันมาก เริ่มมองเห็นว่างานประจำเป็นสรณะประจำใจ ดีกว่าช่วงก่อนที่มีคนอยากลาออกมาเปิดพอร์ทกันมาก ผมคิดว่าวิกฤตหนี้ยูโรโซนนี้ เป็นผลดีกับประเทศไทยเราในระยะยาว(และแน่นอนว่าส่งผลดีกับตลาดทุนด้วย) ประเทศเรายังพัฒนาไปได้อีกไกล ย่ำฐานตรงนี้ให้ปึ้กอีกสักนิดจะเป็นไร
ผมความรู้คับแคบไม่เข้าใจว่าคนทั้งโลกคิดยังงัย คนทั้งโลกชอบเก็งกำไรเหมือนบ้านเรามั้ย แต่ผมพอจะรู้จักนิสัยคนไทยในบางส่วนนิดหน่อย
เป็นธรรมดาครับสำหรับคนไทยบางกลุ่ม มีพุทธศาสนาให้ศึกษา ก็ไปนับถือ เจ้าที่, ผี หรือ เทวดา
ส่วนการลงทุน มีงบการเงินให้ดู มีธุรกิจให้ศึกษามากมายไม่สนใจ แต่ไปดู เจ้ามือ กัน ว่าวันนี้เจ้าเค้าจะเล่นยังงัย
ที่จริง vi ช่วงนี้เอาตามจริงคือ ไม่ใช่แค่โดนดูถูกธรรมดาหรอกครับ โดนมองว่าเป็นผู้ร้ายด้วยนะ มองว่าเราพาให้คนอื่นไปติดหุ้นก็มี โดยส่วนตัวไม่คิดอะไร ก็แค่รับรู้ไว้ว่าเค้าคิดยังงัยกับเรา เราก็มีแต่ความจริงใจให้ ถ้าไม่พอใจก็ไปหาคนอื่นก็ได้
-
- Verified User
- โพสต์: 1049
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิชาเต่า - ในวิกฤตแห่งตลาดหุ้นยังมีเต่าอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 23
อ่านกระทู้นี้แล้ว รู้สึกว่า ตรงกับผมในการลงทุนตอนนี้
เป็นกำลังใจให้ครับ เราจะเดินผ่านวิกฤตไปด้วยครับ
ขอแค่เราไม่ทิ้งไม่หลุดแนวการลงทุน ไปเป็นนักเก็งกำไร
มันอาจจะเจ็บปวด เราก้อเอาแต่แง่ดีมาจำ
เพราะเราร่วมหัวจมท้ายกับบริษัทที่เราเลือกลงทุนแล้วนี่ครับ
ก้อแค่เสียโอกาสที่พอร์ตจะโต เต่ามันเดินช้า ไม่ใช่กระต่ายถึงได้วิ่งเป็นจรวด
สู้ๆๆครับ
ปล. สักวันเราจะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ เราจะเดินผ่านวิกฤตไปด้วยครับ
ขอแค่เราไม่ทิ้งไม่หลุดแนวการลงทุน ไปเป็นนักเก็งกำไร
มันอาจจะเจ็บปวด เราก้อเอาแต่แง่ดีมาจำ
เพราะเราร่วมหัวจมท้ายกับบริษัทที่เราเลือกลงทุนแล้วนี่ครับ
ก้อแค่เสียโอกาสที่พอร์ตจะโต เต่ามันเดินช้า ไม่ใช่กระต่ายถึงได้วิ่งเป็นจรวด
สู้ๆๆครับ
ปล. สักวันเราจะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ครับ
อย่าหลุดแนวที่ตัวเองถนัด สู้สู้
-
- Verified User
- โพสต์: 69
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิชาเต่า - ในวิกฤตแห่งตลาดหุ้นยังมีเต่าอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 24
ผมเห็นด้วยทุกประการ
แต่ขอเห็นแย้งนิดนึงว่า ณ สถานการณ์เวลานี้ เรากำลังต่อสู้กับอะไรอยู่
มีกำลังมหาศาลแค่ไหน ถ้าบ่อน้ำกำลังจะแห้งเหือด เป็นเต่าก็ต้องหนีไปหาบ่อใหม่
ผมว่าอย่าประมาทครับ
*** เรากำลังต่อสู้กับระบบทุน(ไม่)นิยมอยู่ ***
แต่ขอเห็นแย้งนิดนึงว่า ณ สถานการณ์เวลานี้ เรากำลังต่อสู้กับอะไรอยู่
มีกำลังมหาศาลแค่ไหน ถ้าบ่อน้ำกำลังจะแห้งเหือด เป็นเต่าก็ต้องหนีไปหาบ่อใหม่
ผมว่าอย่าประมาทครับ
*** เรากำลังต่อสู้กับระบบทุน(ไม่)นิยมอยู่ ***
- siebelize
- Verified User
- โพสต์: 452
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิชาเต่า - ในวิกฤตแห่งตลาดหุ้นยังมีเต่าอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 25
แวะมาทักทาย พี่ NB
จากที่เคยทักแบบผ่านๆสมัย ห้องเทคนิค CANSLIM
ผมแค่เกิดความรู้สึกว่า ไม่ว่าจะยึดแนวการลงทุนแนวไหน ถ้าพี่มีศรัทธาเพียงพอ และเข้าใจคอนเซปท์ของแนวนั้นๆเพียงพอ มันก็น่าจะดีพอที่จะนำมาการลงทุนของเราผ่านวิกฤต
แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ต้องเป็นแนวที่เข้ากับจริตเรา
หวังว่าผ่านพ้นวิกฤต(ขนาดย่อม)แบบนี้ไปอีกไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง จะเห็นว่าพี่กลับมาได้ และกระทู้นี้จะยังมีคนขุดขึ้นมาพูดถึงไปเรื่อยๆ ถึงความสำเร็จในการผ่านวิกฤตนะครับ
เคยมีคนบอกผมว่า ตลาดหุ้นอยู่ไปนานๆ เดี๋ยวรวยเอง (แต่อย่าเจ๊งไปซะก่อน) 555555
จากที่เคยทักแบบผ่านๆสมัย ห้องเทคนิค CANSLIM
ผมแค่เกิดความรู้สึกว่า ไม่ว่าจะยึดแนวการลงทุนแนวไหน ถ้าพี่มีศรัทธาเพียงพอ และเข้าใจคอนเซปท์ของแนวนั้นๆเพียงพอ มันก็น่าจะดีพอที่จะนำมาการลงทุนของเราผ่านวิกฤต
แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ต้องเป็นแนวที่เข้ากับจริตเรา
หวังว่าผ่านพ้นวิกฤต(ขนาดย่อม)แบบนี้ไปอีกไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง จะเห็นว่าพี่กลับมาได้ และกระทู้นี้จะยังมีคนขุดขึ้นมาพูดถึงไปเรื่อยๆ ถึงความสำเร็จในการผ่านวิกฤตนะครับ
เคยมีคนบอกผมว่า ตลาดหุ้นอยู่ไปนานๆ เดี๋ยวรวยเอง (แต่อย่าเจ๊งไปซะก่อน) 555555
- erickiros
- Verified User
- โพสต์: 415
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิชาเต่า - ในวิกฤตแห่งตลาดหุ้นยังมีเต่าอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 27
ส่วนตัวคิดเหมือนคุณ siebelize ในข้อความข้างล่างนี้
"ไม่ว่าจะยึดแนวการลงทุนแนวไหน ถ้าเรามีศรัทธาเพียงพอ และเข้าใจคอนเซปท์ของแนวนั้นๆเพียงพอ
มันก็น่าจะดีพอที่จะนำมาการลงทุนของเราผ่านวิกฤต แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ต้องเป็นแนวที่เข้ากับจริตเรา"
สุดท้ายจะแนววิเคราะห์ทางเทคนิคหรือแนววิเคราะห์พื้นฐานบริษัท ถ้าเข้าใจถ่องแท้ก็ทำให้รวยได้เหมือนกัน
"ไม่ว่าจะยึดแนวการลงทุนแนวไหน ถ้าเรามีศรัทธาเพียงพอ และเข้าใจคอนเซปท์ของแนวนั้นๆเพียงพอ
มันก็น่าจะดีพอที่จะนำมาการลงทุนของเราผ่านวิกฤต แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ต้องเป็นแนวที่เข้ากับจริตเรา"
สุดท้ายจะแนววิเคราะห์ทางเทคนิคหรือแนววิเคราะห์พื้นฐานบริษัท ถ้าเข้าใจถ่องแท้ก็ทำให้รวยได้เหมือนกัน
ว่างๆแวะไปเยี่ยมชม blog ของซันได้นะคะ Economics Blog
เนื้อหาของบล็อกนี้จะเกี่ยวกับการนำทฤษฎีเศรษฐศาสตร์มาอธิบายเรื่องราวต่างๆค่ะ
เนื้อหาของบล็อกนี้จะเกี่ยวกับการนำทฤษฎีเศรษฐศาสตร์มาอธิบายเรื่องราวต่างๆค่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิชาเต่า - ในวิกฤตแห่งตลาดหุ้นยังมีเต่าอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 28
เยี่ยมครับ
ช่วงเวลาแบบนี้ ทัศนคติ มูลค่าหุ้นที่เราประเมินได้และความเข้าใจธุรกิจที่เราลงทุน
ผมว่าเป็นหลักยึดที่สำคัญที่จะทำให้เราผ่านมันไปได้ครับ
ช่วงเวลาแบบนี้ ทัศนคติ มูลค่าหุ้นที่เราประเมินได้และความเข้าใจธุรกิจที่เราลงทุน
ผมว่าเป็นหลักยึดที่สำคัญที่จะทำให้เราผ่านมันไปได้ครับ
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
-
- Verified User
- โพสต์: 3763
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิชาเต่า - ในวิกฤตแห่งตลาดหุ้นยังมีเต่าอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 29
เรียนพี่ Nevercry.boy ได้ติดตาม comment ของพี่มาตั้งแต่โพสท์แรกใน TVI จนถึง โพสท์ในวันนี้ ต้องขอขอบคุณมากที่ร่วมแชร์สิ่งดีๆ ต่างๆ มากมายให้กับ พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ อย่างบริสุทธิ์ใจ ทำให้พวกเราได้พัฒนาต่อยอดกันไปมาก ขอให้พี่โชคดีกับแนวทางใหม่ที่เริ่มรู้สึกว่าใช่มากกว่าเดิม แล้วหวังว่าจะเห็นพี่กลับมาให้ความรู้ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับพวกเราต่อไปนะครับ
ปล. ก่อนที่จะจากไปในวันนี้ ผมหวังว่าพี่จะไม่ว่าอะไร ถ้าผมขอร่วมแสดงความคิดเห็นถึงส่วนหนึ่งของบทความที่พี่ได้กรุณาเขียนไว้ด้านบน ดังนี้
ปล. ก่อนที่จะจากไปในวันนี้ ผมหวังว่าพี่จะไม่ว่าอะไร ถ้าผมขอร่วมแสดงความคิดเห็นถึงส่วนหนึ่งของบทความที่พี่ได้กรุณาเขียนไว้ด้านบน ดังนี้
เท่าที่ผมอ่าน How to make money in stocks คุณ O' Neil เค้าบอกว่าควรจะต้องปฏิบัติตามให้ครบทุกข้อของ CANSLIM มิเช่นนั้น มันก็จะใช้ไม่ได้ผล ทั้งนี้ มีส่วนเพิ่มที่ระบุไว้ชัดเจนว่าการ Cut loss ควรจะกระทำเมื่อประสบกับการขาดทุน 7 หรือ 8% ด้วย ฉะนั้นผมเชื่อว่าถ้าเราสามารถฝึกฝนปฏิบัติตามได้ ปัญหาที่บอกว่าตอนหุ้นตกแล้วน่าจะมีเงินสดเหลือบ้างก็ไม่น่าจะรุนแรงมากครับ จะว่าไปถึงตอนนี้อาจจะต้องมีเงินสดเหลือเิกินครึ่งแล้วก็เป็นได้ครับNevercry.boy เขียน: “บัดซบเอ๊ย” ผมเองก็อยากนะครับในเวลาที่หุ้นตกคือผมน่าจะมีเงินสดซัก 80% และมีหุ้น 20% หรือเทพสุด ๆ คือมีเงินสด 100% ไปเร๊ยยยย
Impossible is Nothing
- BeSmile
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1178
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิชาเต่า - ในวิกฤตแห่งตลาดหุ้นยังมีเต่าอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 30
คล้าย ๆ กับที่เค้าบอกว่า
ทางใคร ก็ ทางมัน
แนวทางการลงทุน ของแต่ละคน ก็คงเป็นไปตามกรรม ที่เคยทำไว้
กรรมที่ว่าหมายถึง ประสบการณ์ที่ผ่านมา อ่านหนังสือ ความรู้ความเข้าใจ การตีความ ... ก่อให้เกิดเป็นทัศนคติ และแนวทางการลงทุน เฉพาะตัว
ดังนั้น ทางใคร ก็ ทางมัน ครับ
และคนที่ได้เปรียบคือ คนที่ ได้ทางที่ถูกและเข้ากับจริตของตน ก่อน พวกนี้ก็จะได้ผลสำเร็จโดยเร็ว
ส่วนที่ได้ทางที่ ไม่ค่อยถูก หรือ ได้ทางถูก แต่ตีความผิด
อันนี้ผมคิดว่าขึ้น กับ บุญและกรรมดีที่เคยทำไว้ครับ
สุดท้ายขอให้ ผมได้ทางที่ถูกแล้วตีความถูก แถมวิเคราะห์หุ้นได้ถูก แถมซื้อได้ถูก
แถม ... ด้วยเทอด สาธุ
ทางใคร ก็ ทางมัน
แนวทางการลงทุน ของแต่ละคน ก็คงเป็นไปตามกรรม ที่เคยทำไว้
กรรมที่ว่าหมายถึง ประสบการณ์ที่ผ่านมา อ่านหนังสือ ความรู้ความเข้าใจ การตีความ ... ก่อให้เกิดเป็นทัศนคติ และแนวทางการลงทุน เฉพาะตัว
ดังนั้น ทางใคร ก็ ทางมัน ครับ
และคนที่ได้เปรียบคือ คนที่ ได้ทางที่ถูกและเข้ากับจริตของตน ก่อน พวกนี้ก็จะได้ผลสำเร็จโดยเร็ว
ส่วนที่ได้ทางที่ ไม่ค่อยถูก หรือ ได้ทางถูก แต่ตีความผิด
อันนี้ผมคิดว่าขึ้น กับ บุญและกรรมดีที่เคยทำไว้ครับ
สุดท้ายขอให้ ผมได้ทางที่ถูกแล้วตีความถูก แถมวิเคราะห์หุ้นได้ถูก แถมซื้อได้ถูก
แถม ... ด้วยเทอด สาธุ
มีสติ - อย่าประมาทในการใช้ชีวิต