นั่นสิ ผมก็ประหลาดใจ ตอนซื้อก็ซื้อพร้อมกัน พอตอนขายก็หายไปพร้อมกัน อาจจะใช้ตำราการวิเคราะห์หุ้นเดียวกันก็ได้ครับ อะไรจะใจตรงกันขนาดนั้นlong141 เขียน:บางที่ ถ้า ร่วมกันสร้างราคา นัดหมายกันซื้อ หรือ ขาย กลต. อาจต้องมาตรวจสอบ
ไม่ใช่อ้างว่าเป็น VI แล้วเป็น คำวิเศษ เป็นเป็น VI แล้วคือ เป็น คนดีไปโดยอัดโนมัด จะทำไรก็ได้
ไม่ได้ว่าใครแต่ ทุกคนก็ใช้วิจาณยาน
JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 274
- ผู้ติดตาม: 0
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
โพสต์ที่ 301
-
- Verified User
- โพสต์: 368
- ผู้ติดตาม: 0
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
โพสต์ที่ 302
งานนี้สงสารรายย่อยครับ แต่ถ้าธุรกิจนี้มันดีจริงๆ เดี๊ยวราคาหุ้นก็กลับไปที่เดิมมั่งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
โพสต์ที่ 304
ช่วงนี้ มาม่า "ชามใหญ่" ทีเดียวเลยอ่ะนะขอรับKGYF เขียน:เข้ามาเสพย์ มาม่า
1) JAS...โครงสร้างผู้ถือหุ้นล่าสุด
ที่ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 04957.html
2) บทเรียน JAS กับ พวกที่เรียกตัวเองว่า vi
ที่ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 05362.html
3) กรณี jas คนที่เชียร์ให้คนอื่นซื้อ แต่ตอนราคาขึ้นไปเยอะๆแอบขายไม่บอกนี่ เงินที่ได้มาถือเป็นเงินบาปรึเปล่าครับ
ที่ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 06697.html
ผมเองก็เสพเช่นกัน ทั้งนี้...เพื่อเรียนรู้ "ธรรมชาติ" และ "อารมณ์" ของสิ่งที่เรียกว่า "ตลาด"
ทั้งในส่วนของ Mr.Market , โบรคเกอร์ , Celeb. และ นักลงทุนทุกท่าน
ส่วนตัวแล้ว ผมชอบ Comment นี้ของ K.vichit ในกระทู้ JAS
แต่ตอนนี้ ส่วนตัวผมเอง...
ต้องขอสารภาพว่า ความคิดของผมเอง ยังไม่ตกผลึกครับผม
vichit เขียน:ความแตกต่างของนรก - สวรรค์
เรื่องมีอยู่ว่า มีชาวเดนมาร์กคนหนึ่งนอนหลับอยู่ที่บ้านในเวลากลางคืน มีนางฟ้าลงมาหาเขา ชวนให้ไปเที่ยวสวรรค์กับนรก เขาก็ตกลงไปด้วย นางฟ้าพาไปที่ที่หนึ่งแล้วบอกว่า “ถึงนรกแล้ว” ที่นั่นเป็นห้องใหญ่ๆ มีโต๊ะยาวๆ บนโต๊ะมีอาหารที่ประณีต อร่อย มีคุณค่าทุกประเภท มีคนนั่งอยู่หลายคน นางฟ้าก็บอกว่า “นี่สัตว์นรก” คนเหล่านั้นนั่งมองอาหารที่น่ากินที่สุดในโลกแต่ตัวเขาผอมเหลืองน่าสงสาร นางฟ้าบอกว่าที่นี่อนุญาตให้กินอาหารดีๆ ได้
แต่มีเงื่อนไขว่าห้ามใช้มือหยิบ ต้องใช้ช้อนที่ยาว 1 เมตร ตักอาการกินเท่านั้น เวลาจะใช้ช้อนตักอาหารเข้าปากตัวเองคนที่นรกก็ตักไม่ถึงสักที อาหารที่อร่อยหกลงบนพื้นเกือบหมด เขาเลยมีความวุ่นวายเดือดร้อนมาก พยายามตักอาหารเท่าไรก็ไม่ถึงปาก จึงผอมโซเพราะอดอาหารทั้งที่อยู่ใกล้ชิดอาหารที่อร่อยมีคุณค่าทางโภชนาการ แต่ไม่สามารถเอาเข้ามาถึงปากของตนเองได้
นางฟ้าพาไปอีกห้องหนึ่งแล้วบอกว่า “ถึงสวรรค์แล้ว”
ห้องที่ 2 นี้มีลักษณะเช่นเดียวกับห้องแรกทุกประการ มีโต๊ะอาหารยาวๆ อาหารประณีตหลายๆ อย่างเหมือนกันกับห้องนรก มีเก้าอี้รอบ มีคนนั่งอยู่หลายคน นางฟ้าบอกว่า “นี่เทวดาบนสวรรค์” แต่แปลกที่คนบนสวรรค์นั้นยิ้มแย้มแจ่มใสอ้วนท้วนสมบูรณ์สบาย ดูว่าเขากินอาหารอย่างไร ทั้งๆ ที่เขาก็ต้องใช้ช้อนยาว 1 เมตรเหมือนกับที่นรก “เอ...ทำไมมันไม่เหมือนที่นรก? ทำไมคนที่นี่สนุกสนานแจ่มใสร่าเริง แข็งแรง”
พอดูดีๆ อ้อ! เห็นวิธีของชาวสวรรค์
คนอีกข้างก็ตักอาหารมาใส่ปากของคนตรงข้าม คนอีกข้างก็ตักอาหารมาใส่ปากของคนข้างนี้ ก็เลยได้กินกันทุกคน อยู่อย่างสุขสบาย
สรุปว่า ที่นรกนั้น...คนคิดแต่จะได้อย่างเดียว คิดแต่เรื่องความสุขของตัวเอง คิดแต่ว่าเราจะได้อาหาร ได้สิ่งที่เราชอบ โดยไม่คิดถึงคนอื่น แต่ที่สวรรค์นั้น...มีการช่วยเหลือกัน มีความรักสามัคคีกัน คำนึงถึงความสุขของคนอื่นด้วย จึงก็ได้รับความสุขทั่วถึงกันทุกคน
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id ... &gblog=189
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 1255
- ผู้ติดตาม: 0
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
โพสต์ที่ 305
ถ้าผมนั่งที่นรก ผมก็จะจับช้อนให้สั้นพอดีปาก ส่วนปลายช้อนเอาไว้ฝาดปากคนข้างๆ
(แต่ว่าสุดท้ายมันก็ผอมอยู่ดี เพราะต้องต่อยกันไปกินกันไป)
ใครจะโพส์ตอะไรเกี่ยวกับ JAS แต่มันไม่เกี่ยว เอาตรงนี้เถอะครับ
(แต่ว่าสุดท้ายมันก็ผอมอยู่ดี เพราะต้องต่อยกันไปกินกันไป)
ใครจะโพส์ตอะไรเกี่ยวกับ JAS แต่มันไม่เกี่ยว เอาตรงนี้เถอะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 334
- ผู้ติดตาม: 0
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
โพสต์ที่ 306
เหตุการณ์ ของ JAS บวก กับภาพรวมอื่น ๆ ทำให้ผมจับ trick อะไรได้บางอย่าง ....
(แต่ไม่รู้ว่าจะุถูกหรือเปล่านะ)
(แต่ไม่รู้ว่าจะุถูกหรือเปล่านะ)
==================================
คิดใคร่ครวญผลตอบแทนและความเสี่ยงอย่างรอบคอบ
โดยคํานึงถึงเป้าหมายระยะยาวมากว่าระยะสั้น
==================================
คิดใคร่ครวญผลตอบแทนและความเสี่ยงอย่างรอบคอบ
โดยคํานึงถึงเป้าหมายระยะยาวมากว่าระยะสั้น
==================================
-
- Verified User
- โพสต์: 1165
- ผู้ติดตาม: 0
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
โพสต์ที่ 308
ขอความกรุณาช่วยแชร์ครับ..chaiwat_tra เขียน:เหตุการณ์ ของ JAS บวก กับภาพรวมอื่น ๆ ทำให้ผมจับ trick อะไรได้บางอย่าง ....
(แต่ไม่รู้ว่าจะุถูกหรือเปล่านะ)
ขอบคุณครับ
ควรทุ่มเทเจริญให้มาก..ในงานที่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง..
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
โพสต์ที่ 309
ไม่ใช่เซียน ไม่ใช่เทพ ไม่มีหุ้นแจ็ส ไม่ได้สนใจหุ้นแจ้ส เอ ตรูไม่เกี่ยวนี่หว่า มาอ่านเฉยๆ
เห็นเครียดกันเลยอยากให้คลายเครียดครับ (ไม่เกี่ยวกับเฮียคลายเครียดด้วย)
เห็นด้วยเลยว่านี่มัน case study ระดับเรยาเลยนะเนี่ย
เห็นเครียดกันเลยอยากให้คลายเครียดครับ (ไม่เกี่ยวกับเฮียคลายเครียดด้วย)
เห็นด้วยเลยว่านี่มัน case study ระดับเรยาเลยนะเนี่ย
ขอนไม้อันนิ่งสงบ
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
โพสต์ที่ 310
Comment นี้ของ คุณ leky "โดนใจ" เลยแวะมากด Like ขอรับ
v
v
ปล.
ขอใช้สิทธิพาดพิงเรื่อง Turnaround อ่ะนะขอรับ
พูดเล่นครับ 555+
มันจะเป็น "Intangible Asset" กับ "Impossible Asset"...ต้องตัดสินใจกันเองอ่ะนะขอรับ
(^_^)
v
v
leky เขียน:ผมไม่ได้มีหุ้นนะครับ แต่ติดตามดูห่าง ๆ ตั้งแต่ราคาไม่สูงและเริ่มมีข่าวว่ามีคนดังเข้าไปเก็บ ปรากฎการณ์ที่หุ้นตัวนี้ขึ้นและตัวอื่นอย่าง PTL ถ้าไม่นับเรื่องปัจจัยพื้นฐานที่น่าจะเทิร์นอะราวนด์ ส่วนหนึ่งคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเรื่องของความคาดหวังและความเชื่อ
1) คนชื่อดังที่มีกำลังเงิน ซื้อ
2) รายย่อยที่ทราบ ตาม
3) หุ้นวิ่งขึ้น ทำให้รู้สึกว่าสิ่งเหล่านั้นน่าจะเป็นความจริง หุ้นยิ่งขึ้นคนยิ่งซื้อ
4) โบรกเชียร์ ช่วยยืนยันว่ามันน่าจะเป็นจริง หุ้นยิ่งขึ้นคนยิ่งซื้อ
จะว่าไปมันน่าจะอธิบายได้โดยใช้สิ่งที่โซรอสเคยพูด คือ reflexivity คนที่ยอมซื้อแพงเพราะคาดหวังและเชื่อมากกว่าคนที่ซื้อไม้ก่อนหน้าและยอมเข้าไปรับไม้หุ้นราคาสูงต่อ บางครั้งหลังจากเล่นกันจนจบรอบ ถึงแม้ว่าพื้นฐานจะไม่เปลี่ยนหรือบางตัวยังดีขึ้นด้วยซ้ำหุ้นก็ไม่ไปไหนซึ่งน่าจะเห็นได้จาก PTL ในช่วงที่ JAS โชว์ฟอร์มขึ้นแบบเทพนั้น ผมเคยได้ยินคนที่ที่ทำงานบอกว่าจะไปถึง 5 บาทเลยด้วยซ้ำ
ส่วนคำว่าเทิร์นอะราวนด์บางครั้งผมไม่แน่ใจว่ามันจับต้องได้มากน้อยแค่ไหน การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นบางครั้งไม่มีเหตุผล หุ้นรายตัวจ่ายเงินปันผลสูงมาก คนถือหุ้นได้รับเงินโอนเข้าบัญชีซึ่งเป็นของที่จับต้องได้ บางครั้งหุ้นไม่ขึ้น ด้วยเหตุผลว่าอยู่ในธุรกิจที่ไม่น่าสนใจ แต่หุ้นบางตัวไม่จ่ายปันผลหรือจ่ายน้อยมากแต่สามารถขึ้นเป็นเท่า ๆ ได้เพียงเพราะคำว่ามันจะ "เทิร์นอะราวนด์"
ประเด็นที่เซียนซื้อ ผมมองเป็นกลางนะครับ ตลาดหลักทรัพย์ไม่ใช่องค์กรการกุศล คนที่เข้ามาย่อมอยากได้กำไร ไม่อยากขาดทุน เมื่อมีคนได้กำไรก็ต้องมีคนขาดทุน เงินจากคนหนึ่งย้ายไปอีกคนหนึ่ง ถ้าเราใจกว้างพอลองคิดกลับกันว่าถ้าเราเป็นเซียนเหล่านั้น เราจะออกมาป่าวประกาศให้คนอื่นรู้ว่าเราจะซื้อก่อนที่เราจะเริ่มซื้อหุ้น หรือประกาศว่าเราจะขายก่อนที่เราจะลงมือขายหรือเปล่า ลองถามใจตัวเองดูก่อนครับก่อนที่จะตำหนิคนอื่น
ใครจะเชียร์หุ้นที่ตัวเองซื้อไม่ว่าจะมีเจตนาดีหรือไม่ดีหวังให้คนอื่นช่วยดันราคา ใครจะพร้อมใจกันซื้อพร้อมใจกันขาย มันก็คงเป็นสิทธิ์ของเค้าครับ
หน้าที่ของเราก็คือรู้จัก "ป้องกันตัวเอง"จากความโลภ การรู้จักวิเคราะห์ข้อมูลด้วยตนเอง รู้จักนำข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ไม่ใช่เพียงแค่เห็นเซียนซื้อก็ซื้อตาม พอเซียนขายหนีไม่ทันก็ด่าเซียน คนที่จะเข้าไปในถ้ำเพียงเพราะแค่ฟังว่ามีทางออกที่ปลายทางด้านหนึ่ง ยังไงมันก็สู้คนที่เข้าไปสำรวจเองไม่ได้หรอกครับ จริงอยู่คนที่เข้าไปทีหลังอาจจะออกไปอีกทางได้ แต่ถ้าเกิดเหตุอันตรายเค้าก็จะไม่รู้เลยว่าจะหนีไปทางไหน เพราะเค้าไม่เคยเข้าไปสำรวจครับ
ถ้าเราคิดว่าคนอื่นเค้าจะมาเชียร์ให้เราซื้อเพราะมีเจตนาที่ไม่ดี มันก็ไม่เห็นจะยากตรงไหนครับเราก็อย่าไปซื้อหุ้นที่เค้าเชียร์ ถ้าไม่มีคนซื้อมันก็ไม่ขึ้น ปล่อยให้กลายเป็น "หุ้นถูกรื้อรัง" ไปเลยครับ
ผมเองไม่เคยซื้อตามเซียนนะครับ กำไรบ้างขาดทุนบ้างก็มีความสุขดี ไม่ต้องมาคอยถามว่าเซียนออกหรือยัง การยืมจมูกคนอื่นหายใจถ้าวันหนึ่งเค้าไม่ยอมให้ยืมขึ้นมามันก็คงลำบากครับ
หลังจากผมตามดูเรื่องราวเหล่านี้มามันเหมือนหนังที่ฉายซ้ำ และผมก็เชื่อว่าเดี๋ยวก็คงมีเรื่องแบบนี้อีก แต่ทั้งหมดสอนให้ผมเรียนรู้เรื่องหนึ่งว่า ถ้าหุ้นตัวไหนมีเซียนเข้ามาซื้อจนหุ้นวิ่งขึ้นอีก ถ้าผมมีหุ้นตัวนั้นผมจะขายสวนครับ
ขออภัยที่ไม่ได้โพสต์ในเชิงพื้นฐานของหุ้นครับ
ปล.
ขอใช้สิทธิพาดพิงเรื่อง Turnaround อ่ะนะขอรับ
พูดเล่นครับ 555+
มันจะเป็น "Intangible Asset" กับ "Impossible Asset"...ต้องตัดสินใจกันเองอ่ะนะขอรับ
(^_^)
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 641
- ผู้ติดตาม: 0
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
โพสต์ที่ 311
กระทู้แนะนำใน pantip
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 05362.html
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 04957.html
อย่างว่าและ ไปโทษเค้าก็ไม่ได้ ขนาดในพวกเราเอง ยังไม่เข้าใจความหมายของคำว่า vi เลย
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 05362.html
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 04957.html
อย่างว่าและ ไปโทษเค้าก็ไม่ได้ ขนาดในพวกเราเอง ยังไม่เข้าใจความหมายของคำว่า vi เลย
-
- Verified User
- โพสต์: 1679
- ผู้ติดตาม: 0
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
โพสต์ที่ 312
อยากระบาย................สี
value trap
- simplelife
- Verified User
- โพสต์: 756
- ผู้ติดตาม: 0
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
โพสต์ที่ 313
เข้ามาอ่านหน่อย จำไม่ได้ว่าเราโพสอะไรไว้
พูดๆไปแล้ว เป็นรายใหญ่ก็ยาก พอซื้อหุ้นทีก็ราคาขึ้นเยอะ ถ้าเป็นบริษัทเล็กๆหน่อย ซื้อทีติดชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ พอขายทีก็โดนคนว่า ไหนว่าเป็น VI บลาๆ
อยากเตือนทุกๆคนแค่ว่า
"What’s most important is inner peace; you have to be able to think for yourself. It’s not a complicated game.” -- Warren Buffett
คิดเองตัดสินใจเองได้ อย่าไปโทษคนอื่นให้มากนักหล่ะ
พูดๆไปแล้ว เป็นรายใหญ่ก็ยาก พอซื้อหุ้นทีก็ราคาขึ้นเยอะ ถ้าเป็นบริษัทเล็กๆหน่อย ซื้อทีติดชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ พอขายทีก็โดนคนว่า ไหนว่าเป็น VI บลาๆ
อยากเตือนทุกๆคนแค่ว่า
"What’s most important is inner peace; you have to be able to think for yourself. It’s not a complicated game.” -- Warren Buffett
คิดเองตัดสินใจเองได้ อย่าไปโทษคนอื่นให้มากนักหล่ะ
"I believe what I said yesterday. I don't know what I said, but I know what I think... and I assume it's what I said." -- Donald Rumsfeld
-
- Verified User
- โพสต์: 92
- ผู้ติดตาม: 0
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
โพสต์ที่ 314
จะถือหุนใหย๋ ไม่ใหย๋ ปะเด็นนี้ไม่สำคัน หรอก
แต่สงสัย ว่า เอ๋ ดันมา เข้า ออกพร้อมๆ กัน ดังกางตำรา เล่มเดียวกัน เปะ โดยมิได้นัดหมาย
คิดในแง่ดี ว่า กางตำรา เล่มเดียวกัน เชื่อ เหมือนๆ กัน โดย ไม่ได้ นัดหมายกัน น่ะ
แต่สงสัย ว่า เอ๋ ดันมา เข้า ออกพร้อมๆ กัน ดังกางตำรา เล่มเดียวกัน เปะ โดยมิได้นัดหมาย
คิดในแง่ดี ว่า กางตำรา เล่มเดียวกัน เชื่อ เหมือนๆ กัน โดย ไม่ได้ นัดหมายกัน น่ะ
VI with CISA ระดับ 1
-
- Verified User
- โพสต์: 141
- ผู้ติดตาม: 0
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
โพสต์ที่ 315
ถ้าขายพร้อมๆกัน มันไม่ลงไป ฟอร์ สามวันติดเลยเหรอครับพี่ และเราจะดูได้ตรงไหนมั้ยครับว่าเค้าขายวันเดียวกันหรือป่าว เป็นไปได้ไมครับ ที่เค้าอาจจะเห็นสิ่งที่น่ากังวล เหมือน ๆ กัน ไม่งั้นเค้าคงไม่ได้ชื้อว่าเป็นเซียนเหมือน ๆ กันหรอกครับ ผมรบกวนถามพี่ถึงประโยชน์ของการที่ท่านเหล่านั้นขายพร้อม ๆ กันว่าเค้าจะได้อะไรจากการกระทำแบบนั้นครับ เพราะผมเห็นว่ามันมีแต่จะทำให้ราคาต่ำซึ่งไม่น่าจะเป็นผลดีกับพท่านทั้งหลายเหล่านั้นเลยครับ ช่วยชี้แนะผมหน่อยครับlong141 เขียน:จะถือหุนใหย๋ ไม่ใหย๋ ปะเด็นนี้ไม่สำคัน หรอก
แต่สงสัย ว่า เอ๋ ดันมา เข้า ออกพร้อมๆ กัน ดังกางตำรา เล่มเดียวกัน เปะ โดยมิได้นัดหมาย
คิดในแง่ดี ว่า กางตำรา เล่มเดียวกัน เชื่อ เหมือนๆ กัน โดย ไม่ได้ นัดหมายกัน น่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 2141
- ผู้ติดตาม: 0
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
โพสต์ที่ 316
ถึงเค้าจะนัดหมายพร้อมใจกันซื้อขาย
ก็ไม่มีใครผิดอะไรครับ
free market
learn to survive or die
ก็ไม่มีใครผิดอะไรครับ
free market
learn to survive or die
M aterial catalyst
A ttitude & Perception
D isclipine
A ttitude & Perception
D isclipine
-
- Verified User
- โพสต์: 141
- ผู้ติดตาม: 0
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
โพสต์ที่ 317
สำหรับผมใครจะซื้อใครจะขายผมไม่สนหรอกครับ คุณ พิชย์ ยังถือครบเป็นใช้ได้
- Suysak
- Verified User
- โพสต์: 691
- ผู้ติดตาม: 0
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
โพสต์ที่ 318
ผมว่า ขายไปก็ไม่เป็นไรหรอก เราก็อย่าไปโทษพี่ๆเขา แต่ว่า พบเห็นอะไรถึงขาย
น่าจะมาเล่าสู่กันฟังบ้าง ไม่ใช่อะไร คนที่เหลือจะได้เรียนรู้ด้วยว่า มีสิ่งผิดปกติอะไรในงบรึเปล่า
หรือว่าจะทำกำไรกันบ้างลดความเสี่ยง
มันน่าจะมีประโยชน์กับทุกคนนะครับ
คนที่อยู่บนดอยก็อย่าไปตื่นเต้นมาก หุ้นมันก็ไม่ได้เน่ามาก ถือซะว่าเป็นบทเรียน
อย่าขาดทุน คำนี้ใช้ได้เสมอ
ใจเย็นๆ ตั้งสติ เอางบมาอ่านซะ เอารายงานประจำปีมาอ่าน แล้วประชุม ผถห ไปถามทิศทางอนาคตกับผู้บริหาร
นิ่งๆไว้ มีปันผลรับปันผล แล้วเอาไปซื้อลดต้นทุน เรื่อยๆ
คิดซะว่า เอาเงินไปกินเหล้า แต่กินเยอะหน่อย
ถ้าใจสงบ จะเกิดปัญญา ตั้งสติไว้ดีเอง
เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ
น่าจะมาเล่าสู่กันฟังบ้าง ไม่ใช่อะไร คนที่เหลือจะได้เรียนรู้ด้วยว่า มีสิ่งผิดปกติอะไรในงบรึเปล่า
หรือว่าจะทำกำไรกันบ้างลดความเสี่ยง
มันน่าจะมีประโยชน์กับทุกคนนะครับ
คนที่อยู่บนดอยก็อย่าไปตื่นเต้นมาก หุ้นมันก็ไม่ได้เน่ามาก ถือซะว่าเป็นบทเรียน
อย่าขาดทุน คำนี้ใช้ได้เสมอ
ใจเย็นๆ ตั้งสติ เอางบมาอ่านซะ เอารายงานประจำปีมาอ่าน แล้วประชุม ผถห ไปถามทิศทางอนาคตกับผู้บริหาร
นิ่งๆไว้ มีปันผลรับปันผล แล้วเอาไปซื้อลดต้นทุน เรื่อยๆ
คิดซะว่า เอาเงินไปกินเหล้า แต่กินเยอะหน่อย
ถ้าใจสงบ จะเกิดปัญญา ตั้งสติไว้ดีเอง
เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ
โอ้ละหนอดวงเดือนเอย พี่มาเว้ารักเจ้าสาวคำดวง
โอ้ดึกแล้วหนอพี่ขอลาล่วง อกพี่เป็นหวงรักเจ้าดวงเดือนเอย
โอ้ดึกแล้วหนอพี่ขอลาล่วง อกพี่เป็นหวงรักเจ้าดวงเดือนเอย
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
โพสต์ที่ 320
"จิตวิญญานของความเป็น VI ที่แท้จริงคืออะไร?"
^
^
ส่วนตัวผมแล้ว ผมมองว่า...
"ถ้าเราตอบคำถามนี้ได้ในใจ...อย่างชัดเจน"
เราก็คงนั่งมอง "มาม่า(ชามนี้)" ด้วยความเข้าใจและรอยยิ้มอ่ะนะขอรับ
ด้วยความเคารพพี่ๆและเพื่อนๆ VI ทุกท่านๆครับ
(^_^)
^
^
ส่วนตัวผมแล้ว ผมมองว่า...
"ถ้าเราตอบคำถามนี้ได้ในใจ...อย่างชัดเจน"
เราก็คงนั่งมอง "มาม่า(ชามนี้)" ด้วยความเข้าใจและรอยยิ้มอ่ะนะขอรับ
ด้วยความเคารพพี่ๆและเพื่อนๆ VI ทุกท่านๆครับ
(^_^)
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 143
- ผู้ติดตาม: 0
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
โพสต์ที่ 322
ยังไงก็อย่าให้ JAS เน่าแบบ IEC,N-park แล้วกัน เพื่อนๆ VI ตัวพ่อ,ตัวแม่,ตัวลูก-หลาน ทั้งหลาย
- ebizmate
- Verified User
- โพสต์: 37
- ผู้ติดตาม: 0
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
โพสต์ที่ 323
ที่มา จาก หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นฉบับวันที่ 1 กันยายน 2554
28สถาบันใหญ่ถือJAS
สวนแก๊งวีไอทมิฬขาย
:แรงขายสะเด็ดน้ำ “พิชญ์”กอดหุ้นแน่น
วันพฤหัสบดีที่ 01 กันยายน 2554
ผู้เข้าชม : 5 คน
สถาบันในและต่างประเทศ 28 เจ้า แห่ถือหุ้น JAS เบ็ดเสร็จเกือบ 1,000 ล้านหุ้น มีทั้งกองทุนสำรองฯ กฟผ.เครือซิเมนต์ไทย ฯลฯ สวนทางแก๊งวีไอทมิฬ สาดหุ้นหวังใช้สัญญาณเทคนิคข่มขวัญกระเจิง กดราคาให้ต่ำก่อนเข้าเก็บของถูก มีทุกรูปแบบ ทั้งยืมหุ้นมาชอร์ตเซล-ปล่อยข่าวลือ แต่สุดท้ายต้องรีบไล่ซื้อคืน หลังปิดสมุดทะเบียน พบ “โพธารามิก” ถือหุ้นครบ ไม่ได้ขายแม้แต่หุ้นเดียว
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุถึงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ณ วันปิดสมุดทะเบียน วันที่ 26 สิงหาคม 2554 เพื่อXD มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับวันปิดสมุดทะเบียน ณ วันที่ 10 มีนาคม 2554 พบ รายชื่อผู้ถือหุ้นประเภทสถาบันกองทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศหน้าใหม่ เข้ามาถือหุ้นเกิน 0.50% มากถึง 7 ราย
อาทิ 1.NORBAX INC.,13 ถือหุ้น 160.01 ล้านหุ้น 2 .SOMERS (U.K.) LIMITED ถือหุ้น 109.38 ล้านหุ้น 3.กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ถือหุ้น 60.85 ล้านหุ้น 4. THE BANK OF NEW YORK (NOMINEES) LIMITED ถือหุ้น 59.40 ล้านหุ้น 5. DEUTSCHE BANK AG LONDON ถือหุ้น 55.93 ล้านหุ้น 6.STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY ถือหุ้น 52.99 ล้านหุ้น, 7.NORTRUST NOMINEES LIMITED-MELBOURNE BRANCH FUTURE FUND CLIEN ถือหุ้น 50.92 ล้านหุ้น
ขณะที่รายชื่อผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้นไม่ถึง 0.50% ยังมีอีก 21 ราย อาทิ SHINHAN BANK ถือหุ้น 34.97 ล้านหุ้น, THE BANK OF NEW YORK MELLON ถือหุ้น 26.28 ล้านหุ้น EAST FOURTEEN LIMITED DIMENSIONAL EMER MKTS VALUE FD ถือหุ้น 25.04 หุ้น, IRBAX INC ถือหุ้น 23.84 ล้านหุ้น CHASE NOMINEES LIMITED ถือหุ้น 23.02 ล้านหุ้น, FARSTREAM NOMINEES LTD. ถือหุ้น 22.96 ล้านหุ้น, CHASE NOMINEES LIMITED 96 ถือหุ้น 12.33 ล้านหุ้น, CITIBANK NOMINEES SINGAPORE PTE LTD-UBS ถือหุ้น 10.94 ล้านหุ้น
กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ ถือหุ้น 10.68 ล้านหุ้น, CHASE NOMINEES LIMITED 1 ถือหุ้น
10.49 ล้านหุ้น, TAIWAN COOPERATIVE BANKถือหุ้น 10.49 ล้านหุ้น, บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน)
ถือหุ้น 9.52 ล้านหุ้น, กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แวลูพลัส ถือหุ้น 9.21 ล้านหุ้น, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เครือซีเมนต์ไทย ถือหุ้น 8.92 ล้านหุ้น, EAST FOURTEEN LIMITED ถือหุ้น 8.21 ล้านหุ้น, STATE STREET BANK EUROPE LIMITED ถือหุ้น 7.07 ล้านหุ้น, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ถือหุ้น 6.90 ล้านหุ้น, กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทยถือหุ้น 6.84 ล้านหุ้น, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ถือหุ้น 6.67 ล้านหุ้น, กองทุนเปิด เอ็มเอฟซี ถือหุ้น 5.13 ล้านหุ้น และBNP PARIBAS SECURITIES SERVICES SINGAPORE BRANCH ถือหุ้น 5.09 ล้านหุ้น รวมการถือหุ้นรายใหม่ทั้งสิ้น 840 ล้านหุ้น
แหล่งข่าวจากวงการตลาดทุน กล่าวว่า การที่มีผู้ถือหุ้นกองทุนสถาบันไทยและต่างประเทศ รวมถึงกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเข้ามาถือหุ้น JAS มากมายขนาดนี้ น่าจะเป็นสัญญาณที่ดี เพราะนักลงทุนเหล่านี้จะถือลงทุนระยะยาว แบบชนิดที่เรียกว่ายาวจริงๆ โดยเฉพาะกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพราะการลงทุนแต่ละครั้งจะต้องมีการขออนุมัติจากบอร์ดขององค์กร ซึ่งเงินเหล่านี้คือเงินของข้าราชการ ที่ถูกหักจากเงินเดือนมาฝากไว้ เท่ากับว่าเป็นการการันตีได้เป็นอย่างดีว่าจะได้รับผลตอบแทนที่ดีมากๆ ถ้าไม่เช่นนั้นอาจถูกตั้งคำถามได้
“กองทุนสำรองเลี้ยงชีพของแต่ละองค์กร ไม่ว่าจะเป็นของพนักงาน กฟผ., เครือซิเมนต์ไทย, พนักงาน ธ.ก.ส. (2 กอง) เหล่านี้จะต้องคาดหวังผลตอบแทนอย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีชื่อของ บมจ.กรุงเทพประกันภัยก็เข้ามาลงทุนถือหุ้นเกือบ 10 ล้านหุ้น ยังไม่นับกองทุนต่างชาติที่แห่เข้ามาถือหุ้น ซึ่งกองทุนเหล่านี้คงจะเห็นศักยภาพของหุ้น JAS ทำให้ยอดรวมของกองทุนไทยและต่างชาติรายใหม่ ถือหุ้นอยู่เกือบ 1,000ล้านหุ้น
นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวว่าการปรับตัวลดลงของหุ้น JAS ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 2554 ที่ราคาสูงสุด 3.90 บาท ลงมาต่ำกว่า 3 บาท เกิดจากการเทขายหุ้นของ 2กลุ่มใหญ่ๆ คือ 1.กลุ่มนักลงทุนที่อ้างว่าเป็นนักลงทุนที่เน้นคุณค่า (Value Investor :VI) ซึ่งมีหมอบำรุง เสี่ยปู่ แกนหลัก 2.กลุ่มของกองทุนเปิดที่เข้ามาถือหุ้นก่อนหน้านี้ เบ็ดเสร็จขายไป 500 ล้านหุ้น ทำให้ตอนนี้แรงขายสะเด็ดน้ำแล้ว และไม่มีใครที่ต้นทุนต่ำอีกแล้ว
“หมอบำรุงเดิมถืออยู่ 233 ล้านหุ้น ขายเหลือเพียงแค่ 68 ล้านหุ้น ส่วนเสี่ยปู่และภรรยา ขายหุ้นออกไปเกือบ 100 ล้านหุ้น ซึ่งเสี่ยปู่เองไม่เหลือหุ้นแล้ว มีแต่นางวารุณี ภรรยาถืออยู่แค่ 7.3 ล้านหุ้น สำหรับยอดรวมของกลุ่มวีไอและพวก ขายไป 500 ล้านหุ้น จึงทำให้ราคาหุ้นร่วงหนักหลุด 3 บาท สร้างผลขาดทุนให้กับนักลงทุนรายย่อยที่แห่เข้าไปถือหุ้นตามวีไอ”แหล่งข่าวกล่าว
นอกจากนี้ที่ผ่านมามีข่าวลือในห้องค้าว่า เจ้าของเป็นคนเทขายหุ้นออกมา แต่เมื่อปรากฏรายชื่อหลังปิดสมุดทะเบียนล่าสุดพบว่า กลุ่มของ นายพิชญ์ โพธารามิก ยังถือหุ้นอยู่ครบเท่าเดิม ไม่ต่างจากช่วงที่หุ้นขึ้นไปสูงสุดที่ระดับ 3.90 บาท จนราคาหุ้นร่วงหลุด 3 บาท จวบจนปัจจุบันที่ราคาหุ้นต่ำกว่า 2.20 บาทก็ยังถืออยู่ครบ
“หลังจากที่แก๊งวีไอขายหุ้น JAS ทิ้งออกมาหมดแล้ว ก็พยายามที่จะไปยืมหุ้นของกองทุนมาชอร์ตเซล เพื่อให้หุ้นร่วงหนัก จนสัญญาณทางเทคนิคเสีย ทำให้ไม่มีใครกล้าถือหุ้น และยอมตัดขายขาดทุนออกมา เพื่อให้กลุ่มตนเองเข้ามารับของถูก เมื่อดูตามสัญญาณกราฟหุ้นแล้ว หากราคาหุ้นหลุด 2.10 บาท จะร่วงไปที่ 1.80 บาท และ 1.50 บาท ตามลำดับ ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนรายย่อยที่ลงทุนระยะยาวจริง ขวัญเสียไม่กล้าถือหุ้นต่อ ขณะที่คนไม่มีหุ้นก็ไม่กล้าซื้อเกรงว่าราคาหุ้นร่วงต่ออีก” แหล่งข่าวกล่าว
สำหรับปริมาณหุ้นที่แก๊งวีไอมีการยืมหุ้นมาขายก่อนเฉพาะแค่ช่วงต้นสัปดาห์ประมาณ 70 ล้านหุ้น และวันต่อมาก็ชอร์ตเซลมาอีก 17 ล้านหุ้น ก่อนที่ราคาหุ้นจะร่วงไปที่ 2.12 บาท แต่มีนักลงทุนบางกลุ่มที่พยายามจะเข้ามารับไม่ให้ราคาหุ้นเสียทรง และยืนรับที่ราคาดังกล่าว เนื่องจากการปล่อยให้ราคาหุ้นไหลลงไปแบบไม่มีหูรูด จะทำให้กู้คืนลำบาก จึงต้องยันไม่ให้ราคาหลุด 2.10 บาท
โชคดียังเข้าข้าง ภาวะตลาดหุ้นไทยดีดกลับทั้งตลาด ทำให้แรงซื้อของรายย่อยกลับมา และราคาหุ้นยืนระยะได้ จนในที่สุดปรับตัวขึ้นมา ประกอบกับมีแรงซื้อจากกลุ่มคนที่ต้องการทุบหุ้น ที่ทำการชอร์ตเซลหุ้น JAS ไปก่อนหน้านี้ ต้องรีบซื้อคืน เพื่อปิดสถานะ เพราะเกรงว่าหากหุ้นจะดีดกลับ ทำให้ตนเองขาดทุน
สำหรับรายชื่อที่มีการเทขายหุ้นออกไปมีดังนี้ น.พ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี เคยถือหุ้นอยู่ 127 ล้านหุ้น, นายประชา ดำรงค์สุทธิพงศ์ เคยถือหุ้นอยู่ 113.58 ล้านหุ้น, นายจีรเดช จงวัฒนาศิลป์กุล เคยถืออยู่ 101.50 ล้านหุ้น, นายนริศ จิระวงศ์ประภา เคยถือหุ้นอยู่ 85 ล้านหุ้น, นางวัชณี สิงหวังชา เคยถืออยู่ 80 ล้านหุ้น, นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล เคยถือหุ้นอยู่ 80 ล้านหุ้น, นางวราณี เสรีวิวัฒนา เคยถือหุ้นอยู่ 65 ล้านหุ้น, นายบรรหาร เพชรโลหะกุล เคยถือหุ้นอยู่ 55.46 ล้านหุ้น
ม.ล. กมลสวัสดิ์ วิสุทธิ เคยถือหุ้นอยู่ 50 ล้านหุ้น, นายสันติ สิงหวังชา เคยถือหุ้นอยู่ 48.33 ล้านหุ้น, นายณัฐวัฒน์ พิณรัตน์ เคยถือหุ้นอยู่ 45 ล้านหุ้น, นายธนา แสงดีจริง เคยถือหุ้นอยู่ 42.25 ล้านหุ้น, นายสิทธิชัย มาธนชัย เคยถือหุ้นอยู่ 39.62
ล้านหุ้น, นายอธิภู ลือชัยชนะกุล เคยถือหุ้นอยู่ 38.88 ล้านหุ้น และนางอุมาพร เมอะประโคน เคยถือหุ้นอยู่ 38 ล้านหุ้น ได้เทขายหุ้นไปหมดแล้ว ไม่ปรากฏชื่อการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เกิน 0.50% ในหุ้น JAS แล้ว
28สถาบันใหญ่ถือJAS
สวนแก๊งวีไอทมิฬขาย
:แรงขายสะเด็ดน้ำ “พิชญ์”กอดหุ้นแน่น
วันพฤหัสบดีที่ 01 กันยายน 2554
ผู้เข้าชม : 5 คน
สถาบันในและต่างประเทศ 28 เจ้า แห่ถือหุ้น JAS เบ็ดเสร็จเกือบ 1,000 ล้านหุ้น มีทั้งกองทุนสำรองฯ กฟผ.เครือซิเมนต์ไทย ฯลฯ สวนทางแก๊งวีไอทมิฬ สาดหุ้นหวังใช้สัญญาณเทคนิคข่มขวัญกระเจิง กดราคาให้ต่ำก่อนเข้าเก็บของถูก มีทุกรูปแบบ ทั้งยืมหุ้นมาชอร์ตเซล-ปล่อยข่าวลือ แต่สุดท้ายต้องรีบไล่ซื้อคืน หลังปิดสมุดทะเบียน พบ “โพธารามิก” ถือหุ้นครบ ไม่ได้ขายแม้แต่หุ้นเดียว
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุถึงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ณ วันปิดสมุดทะเบียน วันที่ 26 สิงหาคม 2554 เพื่อXD มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับวันปิดสมุดทะเบียน ณ วันที่ 10 มีนาคม 2554 พบ รายชื่อผู้ถือหุ้นประเภทสถาบันกองทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศหน้าใหม่ เข้ามาถือหุ้นเกิน 0.50% มากถึง 7 ราย
อาทิ 1.NORBAX INC.,13 ถือหุ้น 160.01 ล้านหุ้น 2 .SOMERS (U.K.) LIMITED ถือหุ้น 109.38 ล้านหุ้น 3.กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ถือหุ้น 60.85 ล้านหุ้น 4. THE BANK OF NEW YORK (NOMINEES) LIMITED ถือหุ้น 59.40 ล้านหุ้น 5. DEUTSCHE BANK AG LONDON ถือหุ้น 55.93 ล้านหุ้น 6.STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY ถือหุ้น 52.99 ล้านหุ้น, 7.NORTRUST NOMINEES LIMITED-MELBOURNE BRANCH FUTURE FUND CLIEN ถือหุ้น 50.92 ล้านหุ้น
ขณะที่รายชื่อผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้นไม่ถึง 0.50% ยังมีอีก 21 ราย อาทิ SHINHAN BANK ถือหุ้น 34.97 ล้านหุ้น, THE BANK OF NEW YORK MELLON ถือหุ้น 26.28 ล้านหุ้น EAST FOURTEEN LIMITED DIMENSIONAL EMER MKTS VALUE FD ถือหุ้น 25.04 หุ้น, IRBAX INC ถือหุ้น 23.84 ล้านหุ้น CHASE NOMINEES LIMITED ถือหุ้น 23.02 ล้านหุ้น, FARSTREAM NOMINEES LTD. ถือหุ้น 22.96 ล้านหุ้น, CHASE NOMINEES LIMITED 96 ถือหุ้น 12.33 ล้านหุ้น, CITIBANK NOMINEES SINGAPORE PTE LTD-UBS ถือหุ้น 10.94 ล้านหุ้น
กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ ถือหุ้น 10.68 ล้านหุ้น, CHASE NOMINEES LIMITED 1 ถือหุ้น
10.49 ล้านหุ้น, TAIWAN COOPERATIVE BANKถือหุ้น 10.49 ล้านหุ้น, บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน)
ถือหุ้น 9.52 ล้านหุ้น, กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แวลูพลัส ถือหุ้น 9.21 ล้านหุ้น, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เครือซีเมนต์ไทย ถือหุ้น 8.92 ล้านหุ้น, EAST FOURTEEN LIMITED ถือหุ้น 8.21 ล้านหุ้น, STATE STREET BANK EUROPE LIMITED ถือหุ้น 7.07 ล้านหุ้น, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ถือหุ้น 6.90 ล้านหุ้น, กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทยถือหุ้น 6.84 ล้านหุ้น, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ถือหุ้น 6.67 ล้านหุ้น, กองทุนเปิด เอ็มเอฟซี ถือหุ้น 5.13 ล้านหุ้น และBNP PARIBAS SECURITIES SERVICES SINGAPORE BRANCH ถือหุ้น 5.09 ล้านหุ้น รวมการถือหุ้นรายใหม่ทั้งสิ้น 840 ล้านหุ้น
แหล่งข่าวจากวงการตลาดทุน กล่าวว่า การที่มีผู้ถือหุ้นกองทุนสถาบันไทยและต่างประเทศ รวมถึงกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเข้ามาถือหุ้น JAS มากมายขนาดนี้ น่าจะเป็นสัญญาณที่ดี เพราะนักลงทุนเหล่านี้จะถือลงทุนระยะยาว แบบชนิดที่เรียกว่ายาวจริงๆ โดยเฉพาะกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพราะการลงทุนแต่ละครั้งจะต้องมีการขออนุมัติจากบอร์ดขององค์กร ซึ่งเงินเหล่านี้คือเงินของข้าราชการ ที่ถูกหักจากเงินเดือนมาฝากไว้ เท่ากับว่าเป็นการการันตีได้เป็นอย่างดีว่าจะได้รับผลตอบแทนที่ดีมากๆ ถ้าไม่เช่นนั้นอาจถูกตั้งคำถามได้
“กองทุนสำรองเลี้ยงชีพของแต่ละองค์กร ไม่ว่าจะเป็นของพนักงาน กฟผ., เครือซิเมนต์ไทย, พนักงาน ธ.ก.ส. (2 กอง) เหล่านี้จะต้องคาดหวังผลตอบแทนอย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีชื่อของ บมจ.กรุงเทพประกันภัยก็เข้ามาลงทุนถือหุ้นเกือบ 10 ล้านหุ้น ยังไม่นับกองทุนต่างชาติที่แห่เข้ามาถือหุ้น ซึ่งกองทุนเหล่านี้คงจะเห็นศักยภาพของหุ้น JAS ทำให้ยอดรวมของกองทุนไทยและต่างชาติรายใหม่ ถือหุ้นอยู่เกือบ 1,000ล้านหุ้น
นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวว่าการปรับตัวลดลงของหุ้น JAS ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 2554 ที่ราคาสูงสุด 3.90 บาท ลงมาต่ำกว่า 3 บาท เกิดจากการเทขายหุ้นของ 2กลุ่มใหญ่ๆ คือ 1.กลุ่มนักลงทุนที่อ้างว่าเป็นนักลงทุนที่เน้นคุณค่า (Value Investor :VI) ซึ่งมีหมอบำรุง เสี่ยปู่ แกนหลัก 2.กลุ่มของกองทุนเปิดที่เข้ามาถือหุ้นก่อนหน้านี้ เบ็ดเสร็จขายไป 500 ล้านหุ้น ทำให้ตอนนี้แรงขายสะเด็ดน้ำแล้ว และไม่มีใครที่ต้นทุนต่ำอีกแล้ว
“หมอบำรุงเดิมถืออยู่ 233 ล้านหุ้น ขายเหลือเพียงแค่ 68 ล้านหุ้น ส่วนเสี่ยปู่และภรรยา ขายหุ้นออกไปเกือบ 100 ล้านหุ้น ซึ่งเสี่ยปู่เองไม่เหลือหุ้นแล้ว มีแต่นางวารุณี ภรรยาถืออยู่แค่ 7.3 ล้านหุ้น สำหรับยอดรวมของกลุ่มวีไอและพวก ขายไป 500 ล้านหุ้น จึงทำให้ราคาหุ้นร่วงหนักหลุด 3 บาท สร้างผลขาดทุนให้กับนักลงทุนรายย่อยที่แห่เข้าไปถือหุ้นตามวีไอ”แหล่งข่าวกล่าว
นอกจากนี้ที่ผ่านมามีข่าวลือในห้องค้าว่า เจ้าของเป็นคนเทขายหุ้นออกมา แต่เมื่อปรากฏรายชื่อหลังปิดสมุดทะเบียนล่าสุดพบว่า กลุ่มของ นายพิชญ์ โพธารามิก ยังถือหุ้นอยู่ครบเท่าเดิม ไม่ต่างจากช่วงที่หุ้นขึ้นไปสูงสุดที่ระดับ 3.90 บาท จนราคาหุ้นร่วงหลุด 3 บาท จวบจนปัจจุบันที่ราคาหุ้นต่ำกว่า 2.20 บาทก็ยังถืออยู่ครบ
“หลังจากที่แก๊งวีไอขายหุ้น JAS ทิ้งออกมาหมดแล้ว ก็พยายามที่จะไปยืมหุ้นของกองทุนมาชอร์ตเซล เพื่อให้หุ้นร่วงหนัก จนสัญญาณทางเทคนิคเสีย ทำให้ไม่มีใครกล้าถือหุ้น และยอมตัดขายขาดทุนออกมา เพื่อให้กลุ่มตนเองเข้ามารับของถูก เมื่อดูตามสัญญาณกราฟหุ้นแล้ว หากราคาหุ้นหลุด 2.10 บาท จะร่วงไปที่ 1.80 บาท และ 1.50 บาท ตามลำดับ ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนรายย่อยที่ลงทุนระยะยาวจริง ขวัญเสียไม่กล้าถือหุ้นต่อ ขณะที่คนไม่มีหุ้นก็ไม่กล้าซื้อเกรงว่าราคาหุ้นร่วงต่ออีก” แหล่งข่าวกล่าว
สำหรับปริมาณหุ้นที่แก๊งวีไอมีการยืมหุ้นมาขายก่อนเฉพาะแค่ช่วงต้นสัปดาห์ประมาณ 70 ล้านหุ้น และวันต่อมาก็ชอร์ตเซลมาอีก 17 ล้านหุ้น ก่อนที่ราคาหุ้นจะร่วงไปที่ 2.12 บาท แต่มีนักลงทุนบางกลุ่มที่พยายามจะเข้ามารับไม่ให้ราคาหุ้นเสียทรง และยืนรับที่ราคาดังกล่าว เนื่องจากการปล่อยให้ราคาหุ้นไหลลงไปแบบไม่มีหูรูด จะทำให้กู้คืนลำบาก จึงต้องยันไม่ให้ราคาหลุด 2.10 บาท
โชคดียังเข้าข้าง ภาวะตลาดหุ้นไทยดีดกลับทั้งตลาด ทำให้แรงซื้อของรายย่อยกลับมา และราคาหุ้นยืนระยะได้ จนในที่สุดปรับตัวขึ้นมา ประกอบกับมีแรงซื้อจากกลุ่มคนที่ต้องการทุบหุ้น ที่ทำการชอร์ตเซลหุ้น JAS ไปก่อนหน้านี้ ต้องรีบซื้อคืน เพื่อปิดสถานะ เพราะเกรงว่าหากหุ้นจะดีดกลับ ทำให้ตนเองขาดทุน
สำหรับรายชื่อที่มีการเทขายหุ้นออกไปมีดังนี้ น.พ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี เคยถือหุ้นอยู่ 127 ล้านหุ้น, นายประชา ดำรงค์สุทธิพงศ์ เคยถือหุ้นอยู่ 113.58 ล้านหุ้น, นายจีรเดช จงวัฒนาศิลป์กุล เคยถืออยู่ 101.50 ล้านหุ้น, นายนริศ จิระวงศ์ประภา เคยถือหุ้นอยู่ 85 ล้านหุ้น, นางวัชณี สิงหวังชา เคยถืออยู่ 80 ล้านหุ้น, นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล เคยถือหุ้นอยู่ 80 ล้านหุ้น, นางวราณี เสรีวิวัฒนา เคยถือหุ้นอยู่ 65 ล้านหุ้น, นายบรรหาร เพชรโลหะกุล เคยถือหุ้นอยู่ 55.46 ล้านหุ้น
ม.ล. กมลสวัสดิ์ วิสุทธิ เคยถือหุ้นอยู่ 50 ล้านหุ้น, นายสันติ สิงหวังชา เคยถือหุ้นอยู่ 48.33 ล้านหุ้น, นายณัฐวัฒน์ พิณรัตน์ เคยถือหุ้นอยู่ 45 ล้านหุ้น, นายธนา แสงดีจริง เคยถือหุ้นอยู่ 42.25 ล้านหุ้น, นายสิทธิชัย มาธนชัย เคยถือหุ้นอยู่ 39.62
ล้านหุ้น, นายอธิภู ลือชัยชนะกุล เคยถือหุ้นอยู่ 38.88 ล้านหุ้น และนางอุมาพร เมอะประโคน เคยถือหุ้นอยู่ 38 ล้านหุ้น ได้เทขายหุ้นไปหมดแล้ว ไม่ปรากฏชื่อการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เกิน 0.50% ในหุ้น JAS แล้ว
- คน...ภูพาน
- Verified User
- โพสต์: 53
- ผู้ติดตาม: 0
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
โพสต์ที่ 324
รวยก็มาม่าจนก็มาม่า
ปลาใหญ่กินปลาเล็ก เป็นกฎของธรรมชาติ
ปลาใหญ่กินปลาเล็ก เป็นกฎของธรรมชาติ
ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติหน้า ขอเกิดเป็นใต้ฝ่าพระบาทตลอดไป
- simplelife
- Verified User
- โพสต์: 756
- ผู้ติดตาม: 0
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
โพสต์ที่ 325
กองทุนเหล่านี้ ผู้จัดการกองทุนก็"คน"ทั้งนั้น สามารถตัดสินใจถูกหรือผิด ได้พอๆกับนักลงทุนรายย่อยทั่วไปแหละครับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของแต่ละองค์กร ไม่ว่าจะเป็นของพนักงาน กฟผ., เครือซิเมนต์ไทย, พนักงาน ธ.ก.ส. (2 กอง) เหล่านี้จะต้องคาดหวังผลตอบแทนอย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีชื่อของ บมจ.กรุงเทพประกันภัยก็เข้ามาลงทุนถือหุ้นเกือบ 10 ล้านหุ้น
เผลอๆเข้ามาอ่านเว็บนี้ เจอ "snowball" เข้าไปหลายรอบ เลยเคลิ้ม
"I believe what I said yesterday. I don't know what I said, but I know what I think... and I assume it's what I said." -- Donald Rumsfeld
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
โพสต์ที่ 327
กรณีศึกษา แปลกดีebizmate เขียน:ที่มา จาก หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นฉบับวันที่ 1 กันยายน 2554
28สถาบันใหญ่ถือJAS
สวนแก๊งวีไอทมิฬขาย
:แรงขายสะเด็ดน้ำ “พิชญ์”กอดหุ้นแน่น
วันพฤหัสบดีที่ 01 กันยายน 2554
ผู้เข้าชม : 5 คน
สถาบันในและต่างประเทศ 28 เจ้า แห่ถือหุ้น JAS เบ็ดเสร็จเกือบ 1,000 ล้านหุ้น มีทั้งกองทุนสำรองฯ กฟผ.เครือซิเมนต์ไทย ฯลฯ สวนทางแก๊งวีไอทมิฬ สาดหุ้นหวังใช้สัญญาณเทคนิคข่มขวัญกระเจิง กดราคาให้ต่ำก่อนเข้าเก็บของถูก มีทุกรูปแบบ ทั้งยืมหุ้นมาชอร์ตเซล-ปล่อยข่าวลือ แต่สุดท้ายต้องรีบไล่ซื้อคืน หลังปิดสมุดทะเบียน พบ “โพธารามิก” ถือหุ้นครบ ไม่ได้ขายแม้แต่หุ้นเดียว
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุถึงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ณ วันปิดสมุดทะเบียน วันที่ 26 สิงหาคม 2554 เพื่อXD มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับวันปิดสมุดทะเบียน ณ วันที่ 10 มีนาคม 2554 พบ รายชื่อผู้ถือหุ้นประเภทสถาบันกองทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศหน้าใหม่ เข้ามาถือหุ้นเกิน 0.50% มากถึง 7 ราย
อาทิ 1.NORBAX INC.,13 ถือหุ้น 160.01 ล้านหุ้น 2 .SOMERS (U.K.) LIMITED ถือหุ้น 109.38 ล้านหุ้น 3.กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ถือหุ้น 60.85 ล้านหุ้น 4. THE BANK OF NEW YORK (NOMINEES) LIMITED ถือหุ้น 59.40 ล้านหุ้น 5. DEUTSCHE BANK AG LONDON ถือหุ้น 55.93 ล้านหุ้น 6.STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY ถือหุ้น 52.99 ล้านหุ้น, 7.NORTRUST NOMINEES LIMITED-MELBOURNE BRANCH FUTURE FUND CLIEN ถือหุ้น 50.92 ล้านหุ้น
ขณะที่รายชื่อผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้นไม่ถึง 0.50% ยังมีอีก 21 ราย อาทิ SHINHAN BANK ถือหุ้น 34.97 ล้านหุ้น, THE BANK OF NEW YORK MELLON ถือหุ้น 26.28 ล้านหุ้น EAST FOURTEEN LIMITED DIMENSIONAL EMER MKTS VALUE FD ถือหุ้น 25.04 หุ้น, IRBAX INC ถือหุ้น 23.84 ล้านหุ้น CHASE NOMINEES LIMITED ถือหุ้น 23.02 ล้านหุ้น, FARSTREAM NOMINEES LTD. ถือหุ้น 22.96 ล้านหุ้น, CHASE NOMINEES LIMITED 96 ถือหุ้น 12.33 ล้านหุ้น, CITIBANK NOMINEES SINGAPORE PTE LTD-UBS ถือหุ้น 10.94 ล้านหุ้น
กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ ถือหุ้น 10.68 ล้านหุ้น, CHASE NOMINEES LIMITED 1 ถือหุ้น
10.49 ล้านหุ้น, TAIWAN COOPERATIVE BANKถือหุ้น 10.49 ล้านหุ้น, บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน)
ถือหุ้น 9.52 ล้านหุ้น, กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แวลูพลัส ถือหุ้น 9.21 ล้านหุ้น, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เครือซีเมนต์ไทย ถือหุ้น 8.92 ล้านหุ้น, EAST FOURTEEN LIMITED ถือหุ้น 8.21 ล้านหุ้น, STATE STREET BANK EUROPE LIMITED ถือหุ้น 7.07 ล้านหุ้น, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ถือหุ้น 6.90 ล้านหุ้น, กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทยถือหุ้น 6.84 ล้านหุ้น, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ถือหุ้น 6.67 ล้านหุ้น, กองทุนเปิด เอ็มเอฟซี ถือหุ้น 5.13 ล้านหุ้น และBNP PARIBAS SECURITIES SERVICES SINGAPORE BRANCH ถือหุ้น 5.09 ล้านหุ้น รวมการถือหุ้นรายใหม่ทั้งสิ้น 840 ล้านหุ้น
แหล่งข่าวจากวงการตลาดทุน กล่าวว่า การที่มีผู้ถือหุ้นกองทุนสถาบันไทยและต่างประเทศ รวมถึงกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเข้ามาถือหุ้น JAS มากมายขนาดนี้ น่าจะเป็นสัญญาณที่ดี เพราะนักลงทุนเหล่านี้จะถือลงทุนระยะยาว แบบชนิดที่เรียกว่ายาวจริงๆ โดยเฉพาะกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพราะการลงทุนแต่ละครั้งจะต้องมีการขออนุมัติจากบอร์ดขององค์กร ซึ่งเงินเหล่านี้คือเงินของข้าราชการ ที่ถูกหักจากเงินเดือนมาฝากไว้ เท่ากับว่าเป็นการการันตีได้เป็นอย่างดีว่าจะได้รับผลตอบแทนที่ดีมากๆ ถ้าไม่เช่นนั้นอาจถูกตั้งคำถามได้
“กองทุนสำรองเลี้ยงชีพของแต่ละองค์กร ไม่ว่าจะเป็นของพนักงาน กฟผ., เครือซิเมนต์ไทย, พนักงาน ธ.ก.ส. (2 กอง) เหล่านี้จะต้องคาดหวังผลตอบแทนอย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีชื่อของ บมจ.กรุงเทพประกันภัยก็เข้ามาลงทุนถือหุ้นเกือบ 10 ล้านหุ้น ยังไม่นับกองทุนต่างชาติที่แห่เข้ามาถือหุ้น ซึ่งกองทุนเหล่านี้คงจะเห็นศักยภาพของหุ้น JAS ทำให้ยอดรวมของกองทุนไทยและต่างชาติรายใหม่ ถือหุ้นอยู่เกือบ 1,000ล้านหุ้น
นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวว่าการปรับตัวลดลงของหุ้น JAS ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 2554 ที่ราคาสูงสุด 3.90 บาท ลงมาต่ำกว่า 3 บาท เกิดจากการเทขายหุ้นของ 2กลุ่มใหญ่ๆ คือ 1.กลุ่มนักลงทุนที่อ้างว่าเป็นนักลงทุนที่เน้นคุณค่า (Value Investor :VI) ซึ่งมีหมอบำรุง เสี่ยปู่ แกนหลัก 2.กลุ่มของกองทุนเปิดที่เข้ามาถือหุ้นก่อนหน้านี้ เบ็ดเสร็จขายไป 500 ล้านหุ้น ทำให้ตอนนี้แรงขายสะเด็ดน้ำแล้ว และไม่มีใครที่ต้นทุนต่ำอีกแล้ว
“หมอบำรุงเดิมถืออยู่ 233 ล้านหุ้น ขายเหลือเพียงแค่ 68 ล้านหุ้น ส่วนเสี่ยปู่และภรรยา ขายหุ้นออกไปเกือบ 100 ล้านหุ้น ซึ่งเสี่ยปู่เองไม่เหลือหุ้นแล้ว มีแต่นางวารุณี ภรรยาถืออยู่แค่ 7.3 ล้านหุ้น สำหรับยอดรวมของกลุ่มวีไอและพวก ขายไป 500 ล้านหุ้น จึงทำให้ราคาหุ้นร่วงหนักหลุด 3 บาท สร้างผลขาดทุนให้กับนักลงทุนรายย่อยที่แห่เข้าไปถือหุ้นตามวีไอ”แหล่งข่าวกล่าว
นอกจากนี้ที่ผ่านมามีข่าวลือในห้องค้าว่า เจ้าของเป็นคนเทขายหุ้นออกมา แต่เมื่อปรากฏรายชื่อหลังปิดสมุดทะเบียนล่าสุดพบว่า กลุ่มของ นายพิชญ์ โพธารามิก ยังถือหุ้นอยู่ครบเท่าเดิม ไม่ต่างจากช่วงที่หุ้นขึ้นไปสูงสุดที่ระดับ 3.90 บาท จนราคาหุ้นร่วงหลุด 3 บาท จวบจนปัจจุบันที่ราคาหุ้นต่ำกว่า 2.20 บาทก็ยังถืออยู่ครบ
“หลังจากที่แก๊งวีไอขายหุ้น JAS ทิ้งออกมาหมดแล้ว ก็พยายามที่จะไปยืมหุ้นของกองทุนมาชอร์ตเซล เพื่อให้หุ้นร่วงหนัก จนสัญญาณทางเทคนิคเสีย ทำให้ไม่มีใครกล้าถือหุ้น และยอมตัดขายขาดทุนออกมา เพื่อให้กลุ่มตนเองเข้ามารับของถูก เมื่อดูตามสัญญาณกราฟหุ้นแล้ว หากราคาหุ้นหลุด 2.10 บาท จะร่วงไปที่ 1.80 บาท และ 1.50 บาท ตามลำดับ ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนรายย่อยที่ลงทุนระยะยาวจริง ขวัญเสียไม่กล้าถือหุ้นต่อ ขณะที่คนไม่มีหุ้นก็ไม่กล้าซื้อเกรงว่าราคาหุ้นร่วงต่ออีก” แหล่งข่าวกล่าว
สำหรับปริมาณหุ้นที่แก๊งวีไอมีการยืมหุ้นมาขายก่อนเฉพาะแค่ช่วงต้นสัปดาห์ประมาณ 70 ล้านหุ้น และวันต่อมาก็ชอร์ตเซลมาอีก 17 ล้านหุ้น ก่อนที่ราคาหุ้นจะร่วงไปที่ 2.12 บาท แต่มีนักลงทุนบางกลุ่มที่พยายามจะเข้ามารับไม่ให้ราคาหุ้นเสียทรง และยืนรับที่ราคาดังกล่าว เนื่องจากการปล่อยให้ราคาหุ้นไหลลงไปแบบไม่มีหูรูด จะทำให้กู้คืนลำบาก จึงต้องยันไม่ให้ราคาหลุด 2.10 บาท
โชคดียังเข้าข้าง ภาวะตลาดหุ้นไทยดีดกลับทั้งตลาด ทำให้แรงซื้อของรายย่อยกลับมา และราคาหุ้นยืนระยะได้ จนในที่สุดปรับตัวขึ้นมา ประกอบกับมีแรงซื้อจากกลุ่มคนที่ต้องการทุบหุ้น ที่ทำการชอร์ตเซลหุ้น JAS ไปก่อนหน้านี้ ต้องรีบซื้อคืน เพื่อปิดสถานะ เพราะเกรงว่าหากหุ้นจะดีดกลับ ทำให้ตนเองขาดทุน
สำหรับรายชื่อที่มีการเทขายหุ้นออกไปมีดังนี้ น.พ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี เคยถือหุ้นอยู่ 127 ล้านหุ้น, นายประชา ดำรงค์สุทธิพงศ์ เคยถือหุ้นอยู่ 113.58 ล้านหุ้น, นายจีรเดช จงวัฒนาศิลป์กุล เคยถืออยู่ 101.50 ล้านหุ้น, นายนริศ จิระวงศ์ประภา เคยถือหุ้นอยู่ 85 ล้านหุ้น, นางวัชณี สิงหวังชา เคยถืออยู่ 80 ล้านหุ้น, นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล เคยถือหุ้นอยู่ 80 ล้านหุ้น, นางวราณี เสรีวิวัฒนา เคยถือหุ้นอยู่ 65 ล้านหุ้น, นายบรรหาร เพชรโลหะกุล เคยถือหุ้นอยู่ 55.46 ล้านหุ้น
ม.ล. กมลสวัสดิ์ วิสุทธิ เคยถือหุ้นอยู่ 50 ล้านหุ้น, นายสันติ สิงหวังชา เคยถือหุ้นอยู่ 48.33 ล้านหุ้น, นายณัฐวัฒน์ พิณรัตน์ เคยถือหุ้นอยู่ 45 ล้านหุ้น, นายธนา แสงดีจริง เคยถือหุ้นอยู่ 42.25 ล้านหุ้น, นายสิทธิชัย มาธนชัย เคยถือหุ้นอยู่ 39.62
ล้านหุ้น, นายอธิภู ลือชัยชนะกุล เคยถือหุ้นอยู่ 38.88 ล้านหุ้น และนางอุมาพร เมอะประโคน เคยถือหุ้นอยู่ 38 ล้านหุ้น ได้เทขายหุ้นไปหมดแล้ว ไม่ปรากฏชื่อการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เกิน 0.50% ในหุ้น JAS แล้ว
1. มีการขายพร้อมๆกัน ของหลายๆคนใน VI และบางคนที่อ้างตัวว่าเป็น VI
2. มีการซื้อพร้อมๆกันของสถาบันต่างๆ
3. มีการโจมตีของ ข่าว >>> แก๊ง VI
น่าศึกษาครับ
อย่างไรก็ตาม ผมไม่มี jas ไม่ได้เสียเงินกับ jas แต่เสียเงินเล็กน้อยกับ thani
ครั้งนี้ผมก็รู้สึกแปลกๆ ว่าทำไมขายพร้อมๆกัน
หรือการนัดกันขายนั้น สำหรับผมคิดว่า ถึงจะเป็นสิทธิ์ ของใครก็ตาม
แต่ก็ถือเป็นความเสี่ยง สำหรับรายย่อยครับ
โมเดลคือ
มีการบอกก่อน ว่าซื้อตัวไหน ดีเพราะอะไร
ต่อมาก็มีการซื้อ ต่อๆกัน
ต่อมามีการบอกกันมั๊งครับ ว่าขายเหอะ เพราะอะไร
ก็เลยมีการขายต่อๆกันมา
ถ้าเป็นอย่างนี้จริง รายย่อย ยับ แน่นอน
-
- Verified User
- โพสต์: 957
- ผู้ติดตาม: 0
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
โพสต์ที่ 328
อย่าให้ หลังจากนี้ 3 , 6 เดือน หรือมากกว่านั้น(ตัวเลขที่ผมเคยpostที่ห้อง PTL ช่วง PCL เทขาย PTL ช่วงต้น มี.ค.54) แล้วค่อยมีสิ่งอะไรมาเฉลยให้ช็อกอีกJeng เขียน:
กรณีศึกษา แปลกดี
1. มีการขายพร้อมๆกัน ของหลายๆคนใน VI และบางคนที่อ้างตัวว่าเป็น VI
2. มีการซื้อพร้อมๆกันของสถาบันต่างๆ
3. มีการโจมตีของ ข่าว >>> แก๊ง VI
น่าศึกษาครับ
อย่างไรก็ตาม ผมไม่มี jas ไม่ได้เสียเงินกับ jas แต่เสียเงินเล็กน้อยกับ thani
ครั้งนี้ผมก็รู้สึกแปลกๆ ว่าทำไมขายพร้อมๆกัน
หรือการนัดกันขายนั้น สำหรับผมคิดว่า ถึงจะเป็นสิทธิ์ ของใครก็ตาม
แต่ก็ถือเป็นความเสี่ยง สำหรับรายย่อยครับ
โมเดลคือ
มีการบอกก่อน ว่าซื้อตัวไหน ดีเพราะอะไร
ต่อมาก็มีการซื้อ ต่อๆกัน
ต่อมามีการบอกกันมั๊งครับ ว่าขายเหอะ เพราะอะไร
ก็เลยมีการขายต่อๆกันมา
ถ้าเป็นอย่างนี้จริง รายย่อย ยับ แน่นอน
ผมหวังว่า อย่าให้คล้ายกับหุ้นตัวหนึ่ง จำชื่อไม่ได้แล้ว ที่ กบข ชื้อไว้ประมาณ 3 บาทกว่า แล้วมาวิ่งอยู่ ไม่ถึงบาทจนต่ำกว่าสลึง รู้สึกทำเกี่ยวกับยานยนต์หรือเปล่า? มีเรื่องรุนแรงลง นสพ.ร้องผู้บริหาร กบข ภายหลังวิกฤตครั้งผ่านมา ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ผมนึกภาพไม่ออกจริงๆ
ภาวนา...ภาวนา...อย่าให้เหมือนหรือคล้ายเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 1255
- ผู้ติดตาม: 0
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
โพสต์ที่ 329
ถ้าผมเป็นท่านผู้ถือหุ้นใหญ่สมาชิก VI ผมจะไม่ไปจาก thaivi เพราะผมคิดว่าท่านไปยิ่งทำให้ท่านไม่สบายใจ ตอบในสิ่งที่พวกเขาอยากรู้ในตัวท่าน ผมเคยมีปัญหาเรื่องนี้ใน precha อันนัันก็โดนด่าว่าปั่นหุ้น ผมก็ยังคงอยู่ใน thaivi มาตลอด แต่เปลี่ยนจากเชียร์เป็น หาข้อด้อยของหุ้น ลองดูผมโพส์ตย้อนหลังได้
ส่วนตัวผมมีอคติกับเซียนเพราะ ท่านทำแบบนี้หลายตัว ถ้าท่านจริงใจ ท่านต้องบอกว่า ท่านขายเพราะไร ถึงไม่ใช่ธุรต้องมาบอกกัน เรื่องส่วนตัวก็ตาม เพราะตอนที่ท่านมาเชียร์หุ้น มันก็ไม่ใช่ธุรท่านเช่นกัน ท่านให้สอนให้เขาจับปลาได้หรือเปล่า หรือท่านกลัวคนอื่นแย้งขาย ถ้าบอกสมาชิกว่า 3.5 มัน over รับรองว่ามันไปไม่ถึง 3 บาทแน่นอน
การบอกให้ขาย มันไม่สร้างความเสียหายมากเท่าซื้อ เพราะถ้ามันลงมันก็ขึ้นถ้ามันดีจริง
แต่ถ้าบอกให้ซื้อ อันนี้สร้างความเสียหายวงกว้าง เพราะถ้ามันแพงมันก็ไม่ไปตรงนั้นอีก
ผมเป็นท่านผมก็ขาย เพราะราคา 3.5 บาทมัน overvalue มันเป็นราคาในอนาคต แต่กลับไม่ทำส่วนลดให้เป็นปัจจุบัน
ท่านบอกเพื่อนๆซิครับว่า มันแพงไปแล้วนะ เหมือนตอนท่านเคยบอกเชียร์
ผมถึงเชื่อว่า ทำไมต้องมีกฏหมายคุ้มครองเรื่องนี้
(ผมไม่ได้คิดว่าท่านเป็นแก็งนะครับ และไม่เห็นด้วยกับข่าวหุ้นอะไรที่ออกมา มันดูใส่ร้ายท่านเกินไป)
ผมเห็นว่า thaivi ยอมให้เชียร์หุ้นได้ แต่ต้องบอกราคาเป้าหมายได้และเวลาที่คาดการณ์+ข้อด้อยของธุรกิจ เหมือนที่ broker ทำ มันแฟร์กับทุกคน ไม่งั้นท่านก็ไม่ต้องมีเชียร์หุ้นที่ท่านถือ
เราวิเคาะห์หุ้นท่านก็บอกว่า swot analysis แต่ท่านวิเคราะห์ so analysis เป็นส่วนใหญ่
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มันทำให้ผมเชื่อจริงๆ ว่าท่านไม่จริงใจ
ท่านมากู้ศักดิ์ศรีท่านเถอะ
ส่วนตัวผมมีอคติกับเซียนเพราะ ท่านทำแบบนี้หลายตัว ถ้าท่านจริงใจ ท่านต้องบอกว่า ท่านขายเพราะไร ถึงไม่ใช่ธุรต้องมาบอกกัน เรื่องส่วนตัวก็ตาม เพราะตอนที่ท่านมาเชียร์หุ้น มันก็ไม่ใช่ธุรท่านเช่นกัน ท่านให้สอนให้เขาจับปลาได้หรือเปล่า หรือท่านกลัวคนอื่นแย้งขาย ถ้าบอกสมาชิกว่า 3.5 มัน over รับรองว่ามันไปไม่ถึง 3 บาทแน่นอน
การบอกให้ขาย มันไม่สร้างความเสียหายมากเท่าซื้อ เพราะถ้ามันลงมันก็ขึ้นถ้ามันดีจริง
แต่ถ้าบอกให้ซื้อ อันนี้สร้างความเสียหายวงกว้าง เพราะถ้ามันแพงมันก็ไม่ไปตรงนั้นอีก
ผมเป็นท่านผมก็ขาย เพราะราคา 3.5 บาทมัน overvalue มันเป็นราคาในอนาคต แต่กลับไม่ทำส่วนลดให้เป็นปัจจุบัน
ท่านบอกเพื่อนๆซิครับว่า มันแพงไปแล้วนะ เหมือนตอนท่านเคยบอกเชียร์
ผมถึงเชื่อว่า ทำไมต้องมีกฏหมายคุ้มครองเรื่องนี้
(ผมไม่ได้คิดว่าท่านเป็นแก็งนะครับ และไม่เห็นด้วยกับข่าวหุ้นอะไรที่ออกมา มันดูใส่ร้ายท่านเกินไป)
ผมเห็นว่า thaivi ยอมให้เชียร์หุ้นได้ แต่ต้องบอกราคาเป้าหมายได้และเวลาที่คาดการณ์+ข้อด้อยของธุรกิจ เหมือนที่ broker ทำ มันแฟร์กับทุกคน ไม่งั้นท่านก็ไม่ต้องมีเชียร์หุ้นที่ท่านถือ
เราวิเคาะห์หุ้นท่านก็บอกว่า swot analysis แต่ท่านวิเคราะห์ so analysis เป็นส่วนใหญ่
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มันทำให้ผมเชื่อจริงๆ ว่าท่านไม่จริงใจ
ท่านมากู้ศักดิ์ศรีท่านเถอะ
- satantuey
- Verified User
- โพสต์: 743
- ผู้ติดตาม: 0
Re: JAS มาม่าชามใหญ่ อยากระบายอะไรก็มาทางนี้
โพสต์ที่ 330
28 สถาบันใหญ่ถือ JAS สวนแก๊งวีไอทมิฬขาย แรงขายสะเด็ดน้ำ "พิชญ์" กอดหุ้นแน่น
สถาบันในและต่างประเทศ 28 เจ้า แห่ถือหุ้น JAS เบ็ดเสร็จเกือบ 1,000 ล้านหุ้น มีทั้งกองทุน
สำรองฯกฟผ. เครือซิเมนต์ไทย ฯลฯ สวนทางแก๊งวีไอทมิฬ สาดหุ้นหวังใช้สัญญาณเทคนิคข่มขวัญกระเจิง
กดราคาให้ต่ำก่อนเข้าเก็บของถูก มีทุกรูปแบบ ทั้งยืมหุ้นมาชอร์ตเซล-ปล่อยข่าวลือ แต่สุดท้ายต้องรีบไล่ซื้อคืน
หลังปิดสมุดทะเบียน พบ "โพธารามิก" ถือหุ้นครบ ไม่ได้ขายแม้แต่หุ้นเดียว
จากหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น***
ผมว่าหนังสือพิมพ์เล่นหนัก...จัดหนัก...จัดเต็มเลยงานนี้
สถาบันในและต่างประเทศ 28 เจ้า แห่ถือหุ้น JAS เบ็ดเสร็จเกือบ 1,000 ล้านหุ้น มีทั้งกองทุน
สำรองฯกฟผ. เครือซิเมนต์ไทย ฯลฯ สวนทางแก๊งวีไอทมิฬ สาดหุ้นหวังใช้สัญญาณเทคนิคข่มขวัญกระเจิง
กดราคาให้ต่ำก่อนเข้าเก็บของถูก มีทุกรูปแบบ ทั้งยืมหุ้นมาชอร์ตเซล-ปล่อยข่าวลือ แต่สุดท้ายต้องรีบไล่ซื้อคืน
หลังปิดสมุดทะเบียน พบ "โพธารามิก" ถือหุ้นครบ ไม่ได้ขายแม้แต่หุ้นเดียว
จากหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น***
ผมว่าหนังสือพิมพ์เล่นหนัก...จัดหนัก...จัดเต็มเลยงานนี้