คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 61
เออ........คุณฉัตรชัยครับ ผมไม่ชอบพูดถึงสถาบันการศึกษาในที่สาธารณะครับ ผมมีความรู้สึกว่าผมไม่อยากให้คนที่เรียนมาน้อยรู้สึกว่าการลงทุนแนวคุณค่าต้องเป็นคนมีการศึกษาสูงเท่านั้นครับ ผมคิดว่าคนเรามีสองมือ-สองขา-หนึ่งสมองและมีเวลา 24 ชั่วโมงต่อวันเท่ากันครับ เพราะฉะนั้นใครจะขวนขวายหาอะไรอย่างไรมีโอกาสเท่ากัน ดังนั้นผมไม่ขอตอบครับแต่ถ้าอยากรู้ส่งเป็น Personal Message มาคุยครับ
ผมว่าการลงทุนแนวคุณค่าให้ประสบความสำเร็จไม่จำเป็นต้องเรียนสูงครับ เพียงแต่ตั้งใจ ค้นหา ศึกษา และลองทำตามแนวทางที่เรายึดมั่น ไม่เปลี่ยนแปลงครับ
ขอยกตัวอย่าง เพื่อมร่วมสำนัก Graham-Newman ของ Buffet คนหนึ่งครับ ชื่อ Walter J. Schlos ผมขอเรียกว่าคุณโช้วแล้วกันนะครับ คุณโช้วเรียนไม่จบปริญญาครับ แต่ด้วยความหมั่นเพียรครับ เก็บตังค์ไปลงทะเบียนเรียนกับอาจารย์ Graham หนึ่งคอร์สครับ จากนั้นเกิดซานโตริตั้งกองทุนของตัวเองขึ้นมา ปัจจุบันมีมูลค่ากองทุนหลายพันล้านเหรียญ ผลตอบแทนการลงทุนเฉลี่ยต่อปีมากกว่า 20% ครับ
วิธีการลงทุนของคุณโช้วนี่เหมือนคุณฉัตรชัยยังกับแกะ แกถือหุ้นเป็นร้อยตัวครับ ซื้อหุ้นที่ Undervalue อย่างเดียวไม่สนว่าบริษัทจะผลิตอะไร จะขายอะไร ผู้บริหารเป็นใคร จน Buffet ชอบเอามาค่อนแคะบ่อยๆว่า "ถ้าถามผม ผมก็จะบอกว่าไอ้คุณโช้ว มันใช้วิธีที่เรียกว่าการลงทุนแบบ"Cigarbutt Investment" ว่ะ"
ผมว่าทุกคนเคยได้ยินท่าน ดร.นิเวน์พูดถึงเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ ถ้าเป็นผมผมก็จะบอกว่า "ถ้าถามผม ผมก็จะบอกว่าคุณฉัตรชัย ใช้วิธีที่เรียกว่าการลงทุนแบบ"Cigarbutt Investment" ครับ"
ไม่โกรธกันนะครับ
ผมว่าการลงทุนแนวคุณค่าให้ประสบความสำเร็จไม่จำเป็นต้องเรียนสูงครับ เพียงแต่ตั้งใจ ค้นหา ศึกษา และลองทำตามแนวทางที่เรายึดมั่น ไม่เปลี่ยนแปลงครับ
ขอยกตัวอย่าง เพื่อมร่วมสำนัก Graham-Newman ของ Buffet คนหนึ่งครับ ชื่อ Walter J. Schlos ผมขอเรียกว่าคุณโช้วแล้วกันนะครับ คุณโช้วเรียนไม่จบปริญญาครับ แต่ด้วยความหมั่นเพียรครับ เก็บตังค์ไปลงทะเบียนเรียนกับอาจารย์ Graham หนึ่งคอร์สครับ จากนั้นเกิดซานโตริตั้งกองทุนของตัวเองขึ้นมา ปัจจุบันมีมูลค่ากองทุนหลายพันล้านเหรียญ ผลตอบแทนการลงทุนเฉลี่ยต่อปีมากกว่า 20% ครับ
วิธีการลงทุนของคุณโช้วนี่เหมือนคุณฉัตรชัยยังกับแกะ แกถือหุ้นเป็นร้อยตัวครับ ซื้อหุ้นที่ Undervalue อย่างเดียวไม่สนว่าบริษัทจะผลิตอะไร จะขายอะไร ผู้บริหารเป็นใคร จน Buffet ชอบเอามาค่อนแคะบ่อยๆว่า "ถ้าถามผม ผมก็จะบอกว่าไอ้คุณโช้ว มันใช้วิธีที่เรียกว่าการลงทุนแบบ"Cigarbutt Investment" ว่ะ"
ผมว่าทุกคนเคยได้ยินท่าน ดร.นิเวน์พูดถึงเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ ถ้าเป็นผมผมก็จะบอกว่า "ถ้าถามผม ผมก็จะบอกว่าคุณฉัตรชัย ใช้วิธีที่เรียกว่าการลงทุนแบบ"Cigarbutt Investment" ครับ"
ไม่โกรธกันนะครับ
แก้ไขล่าสุดโดย VIB007 เมื่อ จันทร์ ธ.ค. 29, 2003 5:39 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 62
"การลงทุนแบบก้นซิก้า" แม้จะมีควันเหลือน้อย แต่มันก็เป็นของฟรี ถ้ามีหลายๆอันก็อาจจะเทียบกับซิก้ามวนเต็มๆได้เช่นกัน ดังนั้นการลงทุนแบบนี้ก็สามารถมีผลตอบแทนได้เช่นกัน แต่คุณต้องมองหาก้นซิก้าที่เขาทิ้งมารวบรวมให้ได้มากๆ ชีกมันมารวมๆกันและทำเป็นมวนใหม่ สูบไม่มันหรอกครับ ผมเคยทำตอนเรียนหนังสือ คือไม่มีเงินไปซื้อซองใหม่น่ะ
คุณวิบูลย์ขยายความหน่อยก็ดีนะครับ
คุณวิบูลย์ขยายความหน่อยก็ดีนะครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 63
ตอบคุณ Think
คำถามดีมากจนผมต้องตั้งสติก่อนตอบ
เอาคร่าวๆแล้วกันครับ ถ้าจะเอาละเอียดต้องถามอาจารย์ Mon ครับ
Discount Cash Flow (DCF) คือการคำนวณหามูลค่า ณ ปัจจุบัน (Net Present Value หรือ NPV) ของกระแสเงินสดของธุรกิจนั้นตลอดอายุของบริษัทโดยใช้ส่วนลด (Discount Rate) ที่เหมาะสม การที่เราจะทำเช่นนั้นได้ต้องรู้ตัวแปรสามอย่างครับ
1) เงินสดเข้า
2) เงินสดออก
3) ส่วนลด
ขอแถมอีกหนึ่งในกรณีที่บริษัทมีอายุจำกัด คือ ระยะเวลาที่ใช้ในการคำนวณหรืออายุของบริษัท แต่ถ้าเราคิดว่าบริษัทนี้จะอยู่กับเราชั่วชีวิตตลอดไปจนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง เราสามารถใช้ Terminal Value หรือ มูลค่ากิจการอนันต์ (ผมแปลเองครับ) มาคำนวณได้
ข้อจำกัดของวิธีการนี้ก็คือว่าเราต้องประมาณการกระแสเงินสดเข้าออกในอนาคตให้ถูกต้องใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด และเราต้องเลือกใช้ส่วนลดที่เหมาะสม การใช้ส่วนลดต่างกันก็ทำให้มูลค่ากิจการต่างกันมาก
Buffet ต้องทำการประมาณตัวแปรทั้งสามตัวให้ใกล้เคียงความจริงที่สุด ดังนั้น เขาจึงไม่สามารถประมาณการกระแสเงินสดในธุรกิจที่เขาไม่เข้าใจและมองไม่ออกว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร เช่น ธุรกิจอินเทอร์เนต
พอเข้าใจมั๊ยครับ
คำถามดีมากจนผมต้องตั้งสติก่อนตอบ
เอาคร่าวๆแล้วกันครับ ถ้าจะเอาละเอียดต้องถามอาจารย์ Mon ครับ
Discount Cash Flow (DCF) คือการคำนวณหามูลค่า ณ ปัจจุบัน (Net Present Value หรือ NPV) ของกระแสเงินสดของธุรกิจนั้นตลอดอายุของบริษัทโดยใช้ส่วนลด (Discount Rate) ที่เหมาะสม การที่เราจะทำเช่นนั้นได้ต้องรู้ตัวแปรสามอย่างครับ
1) เงินสดเข้า
2) เงินสดออก
3) ส่วนลด
ขอแถมอีกหนึ่งในกรณีที่บริษัทมีอายุจำกัด คือ ระยะเวลาที่ใช้ในการคำนวณหรืออายุของบริษัท แต่ถ้าเราคิดว่าบริษัทนี้จะอยู่กับเราชั่วชีวิตตลอดไปจนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง เราสามารถใช้ Terminal Value หรือ มูลค่ากิจการอนันต์ (ผมแปลเองครับ) มาคำนวณได้
ข้อจำกัดของวิธีการนี้ก็คือว่าเราต้องประมาณการกระแสเงินสดเข้าออกในอนาคตให้ถูกต้องใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด และเราต้องเลือกใช้ส่วนลดที่เหมาะสม การใช้ส่วนลดต่างกันก็ทำให้มูลค่ากิจการต่างกันมาก
Buffet ต้องทำการประมาณตัวแปรทั้งสามตัวให้ใกล้เคียงความจริงที่สุด ดังนั้น เขาจึงไม่สามารถประมาณการกระแสเงินสดในธุรกิจที่เขาไม่เข้าใจและมองไม่ออกว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร เช่น ธุรกิจอินเทอร์เนต
พอเข้าใจมั๊ยครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 64
รบกวนถามพี่วิบูลย์ หรือท่านอื่นๆ ครับ
คือขณะนี้ผมมีหุ้นบริษัท IT (ซื้อมาได้ 3 วัน)
จึงอยากทราบว่า สามารถถือลงทุนนานๆ ได้หรือไม่ครับ (ปลอดภัยหรือไม่)
เพราะที่ผ่านมา ผมซื้อ แล้วก็ขาย ภายในเวลาไม่กี่วัน (ยกเว้น KTB อยู่ในมือนาน 9 เดือน เป็นหุ้นบริษัทแรกที่ซื้อ) ตอนนี้รู้สึกว่า การลงทุนแบบนี้ น่าเบื่อมากครับ
ขอคำแนะนำประเมินบริษัทนี้ด้วยครับ
คือขณะนี้ผมมีหุ้นบริษัท IT (ซื้อมาได้ 3 วัน)
จึงอยากทราบว่า สามารถถือลงทุนนานๆ ได้หรือไม่ครับ (ปลอดภัยหรือไม่)
เพราะที่ผ่านมา ผมซื้อ แล้วก็ขาย ภายในเวลาไม่กี่วัน (ยกเว้น KTB อยู่ในมือนาน 9 เดือน เป็นหุ้นบริษัทแรกที่ซื้อ) ตอนนี้รู้สึกว่า การลงทุนแบบนี้ น่าเบื่อมากครับ
ขอคำแนะนำประเมินบริษัทนี้ด้วยครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 65
ตอบน้อง Bigint
ผมขอตอบคำถามนี้นะครับ แต่จะแสดงให้เห็น Logic มากกว่าจะชี้นำ
ขอให้ย้อนกลับไปอ่านคาถา 4 ข้อครับ เอาข้อแรกกับข้อสองก่อน
ผมถามน้อง Bigint คำถามแรกเลยนะครับ บริษัทของน้องนี่เป็นบริษัททำอะไรครับ ผลิตสินค้าและบริการอะไร มีใครเป็นคู่แข่ง แต่ละบริษัทมีจุดดีจุดด้อยอย่างไร ใครเป็นเจ้าตลาด บริษัทนี้มีวิธีการทางการตลาดอย่างไรถึงชนะใจผู้บริโภค น้องเคยใช้บริการของบริษัทเหล่านี้หรือไม่ เคยคุยกับคนที่เคยติดต่อกับบริษัทนี้มั๊ย ใครเป็นผู้ถือหุ้น น้องต้องรู้เกี่ยวกับบริษัทของน้องและอุตสาหกรรมอย่างลึกซึ้ง ใครถามเกี่ยวกับบริษัทนี้น้องต้องตอบได้หมด
น้องต้องตอบคำถามนี้ก่อนครับ ก่อนที่จะดูงบการเงินซึ่งยังไม่แนะนำให้ดูใน Stage แรกครับ ไปทำการบ้านมาก่อนครับ ดูจาก 56-1 ก็ได้หรือลองใช้บริการ สอบถามพนักงานขายหน้าร้าน ฯลฯ ได้คำตอบแล้วค่อยมาคุยกัน
โอ๊ย! ทำไมจะลงทุนทั้งทีมันยากอย่างนี้ กลับไปซื้อๆขายๆ สบายกว่า............บางท่านคงคิดในใจ
แต่รักจะเป็นนักลงทุนคุณค่าต้องทำการบ้านครับ ไม่งั้นซื้อกองทุนดีกว่า (เขียนมาสามรอบแล้ว ประโยคนี้)
ขอให้น้อง Bigint โชคดีในการหาคำตอบของคาถาข้อหนึ่งและสองครับ
ผมขอตอบคำถามนี้นะครับ แต่จะแสดงให้เห็น Logic มากกว่าจะชี้นำ
ขอให้ย้อนกลับไปอ่านคาถา 4 ข้อครับ เอาข้อแรกกับข้อสองก่อน
ผมถามน้อง Bigint คำถามแรกเลยนะครับ บริษัทของน้องนี่เป็นบริษัททำอะไรครับ ผลิตสินค้าและบริการอะไร มีใครเป็นคู่แข่ง แต่ละบริษัทมีจุดดีจุดด้อยอย่างไร ใครเป็นเจ้าตลาด บริษัทนี้มีวิธีการทางการตลาดอย่างไรถึงชนะใจผู้บริโภค น้องเคยใช้บริการของบริษัทเหล่านี้หรือไม่ เคยคุยกับคนที่เคยติดต่อกับบริษัทนี้มั๊ย ใครเป็นผู้ถือหุ้น น้องต้องรู้เกี่ยวกับบริษัทของน้องและอุตสาหกรรมอย่างลึกซึ้ง ใครถามเกี่ยวกับบริษัทนี้น้องต้องตอบได้หมด
น้องต้องตอบคำถามนี้ก่อนครับ ก่อนที่จะดูงบการเงินซึ่งยังไม่แนะนำให้ดูใน Stage แรกครับ ไปทำการบ้านมาก่อนครับ ดูจาก 56-1 ก็ได้หรือลองใช้บริการ สอบถามพนักงานขายหน้าร้าน ฯลฯ ได้คำตอบแล้วค่อยมาคุยกัน
โอ๊ย! ทำไมจะลงทุนทั้งทีมันยากอย่างนี้ กลับไปซื้อๆขายๆ สบายกว่า............บางท่านคงคิดในใจ
แต่รักจะเป็นนักลงทุนคุณค่าต้องทำการบ้านครับ ไม่งั้นซื้อกองทุนดีกว่า (เขียนมาสามรอบแล้ว ประโยคนี้)
ขอให้น้อง Bigint โชคดีในการหาคำตอบของคาถาข้อหนึ่งและสองครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 66
Cigarbutt Investing หรือการลงทุนแบบก้นบุหรี่ อาจเปรียบได้กับการที่เราเห็นก้นบุหรี่ที่ยังไม่มอดถูกทิ้งไว้บนฟุตบาท เราเดินมาเห็นก้มลงไปหยิบขึ้นมาสูบสักปื้ดนึงให้หายชื่นใจแล้วก็มอดดับไป เราก็เดินจากไปดุ่มๆหาอันต่อไปที่อาจตกอยู่บนฟุตบาทอีก
เปรียนได้กับการลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ถูกทอดทิ้ง ไม่มีใครสนใจ ราคาถูก มีฐานะทางการเงินพอใช้ได้ Graham เรียกหุ้นพวกนี้ว่าหุ้นที่มีราคาต่ำกว่าเงินที่บริษัทมีอยู่ (Net-Net Stock) มี Margin of Safety สูงแต่มองไม่เห็นอนาคต
หลังจากถือไว้สักระยะหนึ่งอาจจะมีข่าวดี (ที่อาจารย์นิเวศน์เรียกว่า Story) หรืออะไรก็ตามที่ทำให้หุ้นพวกนี้มีราคาสูงขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด นักลงทุนแบบก้นบุหรี่ก็จะขายหุ้นเหล่านี้ไปเมื่อราคาขยับขึ้น แล้วก็ค้นหาหุ้นก้นบุหรี่ตัวต่อไป แต่สุดท้ายราคาหุ้นพวกนี้ก็จะตกกลับลงไปเหมือนเดิมเพราะปัจจัยพื้นฐานไม่ดี
Buffet ก็เคยยึดกับการลงทุนแบบนี้ในช่วงแรก และเขาก็สารภาพว่าตอนนี้เลิกแล้ว เพราะ การซื้อบริษัท Brekshire Hethaway ในตอนแรกเป็นบทเรียนที่ดีที่สุดสำหรับ Cigarbutt Investing เขาบอกว่าเขาใช้เวลาถึง 25 ปีกว่าจะรู้ว่ามีวิธีการลงทุนที่ดีกว่าแบบก้นบุหรี่
เออ...ผมไม่สูบบุหรี่ครับ ดื่มแต่นม
เปรียนได้กับการลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ถูกทอดทิ้ง ไม่มีใครสนใจ ราคาถูก มีฐานะทางการเงินพอใช้ได้ Graham เรียกหุ้นพวกนี้ว่าหุ้นที่มีราคาต่ำกว่าเงินที่บริษัทมีอยู่ (Net-Net Stock) มี Margin of Safety สูงแต่มองไม่เห็นอนาคต
หลังจากถือไว้สักระยะหนึ่งอาจจะมีข่าวดี (ที่อาจารย์นิเวศน์เรียกว่า Story) หรืออะไรก็ตามที่ทำให้หุ้นพวกนี้มีราคาสูงขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด นักลงทุนแบบก้นบุหรี่ก็จะขายหุ้นเหล่านี้ไปเมื่อราคาขยับขึ้น แล้วก็ค้นหาหุ้นก้นบุหรี่ตัวต่อไป แต่สุดท้ายราคาหุ้นพวกนี้ก็จะตกกลับลงไปเหมือนเดิมเพราะปัจจัยพื้นฐานไม่ดี
Buffet ก็เคยยึดกับการลงทุนแบบนี้ในช่วงแรก และเขาก็สารภาพว่าตอนนี้เลิกแล้ว เพราะ การซื้อบริษัท Brekshire Hethaway ในตอนแรกเป็นบทเรียนที่ดีที่สุดสำหรับ Cigarbutt Investing เขาบอกว่าเขาใช้เวลาถึง 25 ปีกว่าจะรู้ว่ามีวิธีการลงทุนที่ดีกว่าแบบก้นบุหรี่
เออ...ผมไม่สูบบุหรี่ครับ ดื่มแต่นม
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 67
ผมก็อยากจะพัฒนาในการเลือกหุ้น Growth Stock บ้างนะครับ เพราะปัจจุบันหุ้นแบบก้นบุหรี่แทบจะไม่เหลือแล้วครับ แต่นิสัยผมชอบอะไรที่คำนวณเป็นตัวเลขได้นะครับ ผมก็เลยไม่รู้ว่าจะคำนวณ Growth อย่างไร คือไม่รู้ว่าจะแปลงข้อมูลจากการสอบถามเป็นตัวเลขอย่างไร จะหามูลค่าที่เหมาะสมของบริษัทอย่างไร พี่ VIB007 ช่วยอธิบายหลักการหน่อยครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 68
ก็ต้องบอกว่าเข้าใจในคำพูดแต่ไม่เห็นภาพVIB007 เขียน:พอเข้าใจมั๊ยครับ
คงต้องขอไปทำการบ้านก่อนครับ ค่อยมาถามต่อนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 107
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 69
ระหว่างทำการบ้าน ขอถามคุณวิบูลย์อีกข้อ
ผมเคยอ่านผ่านตาจากใครสักคนบอกว่า บ้านเราดูงบถอยหลังไปยาวๆ(สักสิบปี)ไม่ค่อยได้เพราะว่าเจอพิษต้มยำกุ้งเข้าไป แต่ละบริษัทก็เละไปตามๆกัน (ผมคิดว่าด้วยเหตุนี้ ตอนนี้บริษัท turnaround บ้านเราจึงมีมากเป็นดอกเห็ด เพราะล้มแล้วเจ็บบ้างไม่เจ็บบ้าง)
บัฟเฟท์เองดูประวัติบริษัทถอยหลังไปยาวมาก เพื่อให้แน่ใจ
คุณวิบูลย์เองตอนวิเคราะห์บริษัทมีปัญหาเหมือนกับความเห็นข้างต้นบ้างหรือไม่
หรือคิดว่าใครล้มในช่วงนั้นก็ถือว่าไม่แน่พอ ก็ไม่ดูซะเลยกลัวว่า ถ้าเจอแกงเขียวหวานอีกสำรับ อาจจะท้องเสียจนลุกไม่ขึ้น สมกับที่บัฟเฟท์ว่า turnaround mostly never turn.
ผมเคยอ่านผ่านตาจากใครสักคนบอกว่า บ้านเราดูงบถอยหลังไปยาวๆ(สักสิบปี)ไม่ค่อยได้เพราะว่าเจอพิษต้มยำกุ้งเข้าไป แต่ละบริษัทก็เละไปตามๆกัน (ผมคิดว่าด้วยเหตุนี้ ตอนนี้บริษัท turnaround บ้านเราจึงมีมากเป็นดอกเห็ด เพราะล้มแล้วเจ็บบ้างไม่เจ็บบ้าง)
บัฟเฟท์เองดูประวัติบริษัทถอยหลังไปยาวมาก เพื่อให้แน่ใจ
คุณวิบูลย์เองตอนวิเคราะห์บริษัทมีปัญหาเหมือนกับความเห็นข้างต้นบ้างหรือไม่
หรือคิดว่าใครล้มในช่วงนั้นก็ถือว่าไม่แน่พอ ก็ไม่ดูซะเลยกลัวว่า ถ้าเจอแกงเขียวหวานอีกสำรับ อาจจะท้องเสียจนลุกไม่ขึ้น สมกับที่บัฟเฟท์ว่า turnaround mostly never turn.
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 70
ความจริงก้นบุหรี่ก็ยังพอมีเหลืออยู่บ้างนะครับ แต่หลังๆนี้ผมก็พอมีเงินบ้างคือซื้อได้ทั้งซอง ผมว่าการซื้อทั้งซองสามารถทำได้ตลอดเวลา อาจต้องเสียเวลาต่อต่อราคาบ้าง หรือบางทีก็ไม่ต้องต่อเลยลุยๆให้เสร็จๆไปแล้วแต่สถานการณ์ครับ
ส่วนก้นบุหรี่ก็ยังทำอยู่นะครับ มันสนุกดี แต่ไม่สะใจเท่าสูบมวนใหม่หรอกครับคล้ายๆกับเก็งกำไรนั่นแหละครับ
คุณวิบูลย์ ทำให้ผมต้องถามต่อตลอกทาง
NET-Net Stock ที่ว่านี่มันเป็นอย่างไร ขยายมาได้เลยครับ
ส่วนก้นบุหรี่ก็ยังทำอยู่นะครับ มันสนุกดี แต่ไม่สะใจเท่าสูบมวนใหม่หรอกครับคล้ายๆกับเก็งกำไรนั่นแหละครับ
คุณวิบูลย์ ทำให้ผมต้องถามต่อตลอกทาง
NET-Net Stock ที่ว่านี่มันเป็นอย่างไร ขยายมาได้เลยครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 72
ขอบคุณมากครับสำหรับเวลาและพลังความรู้ความคิดอันมีค่าของคุณ VIB007 ที่ใช้ไปสำหรับการตอบข้อสงสับของผม เป็นแก่นสาระที่ดีมากครับ .....เป็นการตอกย้ำหลักการของจอมยุทธด้าน qualitative analysis, ....Philip Fisher ที่ได้ให้แก่นของหลักการไว้อย่างยอดเยี่ยม
บางกอกโพสต์ฉบับเมื่อวาน (4 ก.ย. 46)ส่วนของ Business ก็ลงเกี่ยวกับเรื่องของ BH เป็นการทำการตลาดและการโปรโมชั่นที่ดี โดยให้บริการตรวจสุขภาพฟรีแก่ผู้เข้าร่วมประชุม APEC ดูเข้าท่าดี
จากข้อมูลหยายๆเหล่านี้ก็ถือได้ว่าเข้าข่ายมาตรฐานเกือบครบ 15 ข้อของ Philip Fisher ท่านแล้วนา จึงเป็นเหตุให้ผมสนใจในกิจการของ รพ.แห่งนี้ครับ แต่ว่าคงต้องทำ Scuttlebutt เพิ้มเติมอย่างที่บอกนั่นแหละครับ
เห็นอาจารย์ Warren Buffet เล่าให้ฟังว่ามือบริหารกองทุนรวมทั้งหลาย น่ะ ไม่แน่จริงหรอก เพราะพวกเล่นกว้านซื้อกิจการต่างๆยาวเป็นหางว่าวหลายๆสิบกิจการมาไว้ในในพอร์ต แล้วบอกว่าตัวเองบริหารพอร์ต โดยซึอมาขายไปตามความรู้ (สึก?) เหมือนกลุ่ม Financial Community ...นี่ก็เท่ากับเป็นการยอมรับโดยดุษฎี ...ว่าตัวท่านผู้บริหารกองทุนทั้งหลายเหล่านี้ไม่ได้รู้จริงในกิจการต่างๆทุกกิจการที่ลงทุนไว้ในพอร์ตแต่อย่างใด แต่กลับใช้วิธีกระจาบความเสี่ยงลูกเดียว ซึ่งกระจายมากๆๆๆเกินไปจนโอกาสจะได้รับผลตอมแทนจากกิจการที่ Outstanding จริงๆลดลงไป - ละลายความรวยลงไป - (ไม่เชื่อลองไปเปิดดู list ของกิจการในพอร์ตกองทุนรวมต่างๆดูก็ได้นะครับ) โดยที่ตัวเองไม่ได้ศึกษากิจการต่างๆโดยละเอียดเป็นรายตัวตามแนวของอาจารย์ Warren Buffet แต่อย่างใด แสดงว่าไม่แน่จริงอย่างอาจารย์บอกนั่นแหละ ผมว่าแนะลงทุนอย่างอื่นเถอะคุณ VIB007 เว้นๆแนะนำการลงทุนกองทุนรวมไว้ข้อหนึ่งเถอะครับ เดี่ยวอาจารย์ Warren Buffet ทราบภายหลัง ท่านจะทำตาเขียวดุลูกศิาย์เอานา ......จะบอกให้ ฮึๆ
ผมเองก็เพิ่งศึกษาเรื่องหุ้นเป็นเรื่องเป็นราวเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมานี้เองครับ โดยพยายามตะลุยอ่านหนังสือของ Ben Graham , Warren Buffet และ Philip Fisher เท่าที่จะหามาได้ ทั้งนี้ก็ได้หนังสือ เซียนหุ้นพันธุ์แท้ ของ ดร.นิเวศน์ เป็นตัวชี้นำ เพราะเวลาว่างมากเมื่ออ่านของ ดร.จบ เห็นว่ายังไม่จุใจ ก็เลยพยายามควานหาต้นตำรับตามที่ ดร. ท่านอ้างอิงถึง จึงทำให้ตาสว่างพบว่าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ยังมีแนวอื่นที่ไม่ใช้การพนัน .... แต่เดิมเพราะความไม่รู้จึงทำให้คิดว่าการเล่นหุ้นเป็นการพนันล้วนๆ เลยทำให้ไม่ใส่ใจเพราะโดยนิสัยส่วนตัวไม่เล่นการพนัน อย่างไงๆก็อย่าเพิ่งด่วนสรุปเหมาเอาว่าไม่ทำการบ้านๆ แล้วแนะให้ไปซื้อกองทุนรวมก็แล้วกันนะครับ
ตั้งแต่นี้ต่อไปผมต้องกลายเป็นคนบ้าหุ้น ศึกษาหาความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติเท่าที่จะทำได้ หวังจะลองพิสูจน์หลักการของ Ben Graham
Warren Buffet และ Philip Fisher ว่าเป็นจริงได้ไหมในเมืองไทยเรา คุณ VIB007 เอง ผมก็ขอให้เป็นเสาหลักที่ TVI หน่อยนะครับ จะได้เป็นกุนซือให้ผู้ที่สนใจการลงทุนแบบ VI ขอบคุณอีกครั้งครับ ด้วยความจริงใจ
นี่เท่ากับว่าผมได้ลองฝึกทำ Scuttlebutt (โทษทีครั้งก่อนสกดคำผิดเป็น Scutterbut .....เกรงว่าผู้สนใจเปิดพจนานุกรมหาความหมายจะสับสน ผมเองก็สับสนอยู่พักเพราะหาจากคำสกดไม่ถูก) จากลูกค้าตัวจริงของ รพ.นี้แล้วล่ะครับ เท่าที่ผมรับทราบมาจากคนที่เคยทำงานเป็นพนักงาน(วิศวกรไฟฟ้า)ใน รพ.ดังกล่าวเขาบอกว่าบริการที่นี่ดีเยี่ยมมากถึงขั้นว่าคนไข้นอกหากเบื่อเสียเวลารอรับยาและจ่ายเงิน ทาง รพ.มีบริการจัดส่งให้ถึงบ้าน อันนี้ไม่ทราบว่าเป็นบริการเสริมจริงหรือเปล่า ผมอาจได้ข้อมูลมาผิด แต่เขายืนยันอย่างนั้นจิรงๆ เอ.....เรื่องที่จอดรถนี่เห็นเขาก็ลงทุนเพิ่มไปแล้วเมื่อเร็วๆนี้เองนะครับ มากโขเลยทีเดียว จะว่าเห็นที่ลูกค้าต้องการอะไร เขาตอบสนองความต้องการต่อลูกค้าดีมาก เท่ากับเน้นเอาใจลูกค้า และในส่วนของหลังฉากเท่าที่ฟังจากอดีตพนักงานคนดังกล่าว เขาเล่าให้ฟังทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าอุปกรณ์เครื่องมือสำหรับตรวจเช็คคนไข้ทุกชิ้น ต้องเตรียมพร้อมใช้งานได้เสมอ เพราะเวลาของหมอแต่ละท่านมีค่ามาก จะมาเสียเวลากับขัดข้องของเครื่องมือตรวจเช็คไม่ได้เด็ดขาด หรือจะทำให้เกิดการผิดพลาดของการวินิจฉัยอันเกกิดจากคความผิดพลาดของอุปกรณ์เครื่องมือไม่ได้เช่นกัน บ่งถึงประสิทธิภาพการปฏิบัติงานที่ดีของเขา ประกอบกับข้อมูลเกี่ยวกับผู้บริหารชาวอเมริกันที่เคยอ่านพบในหนังสือพิมพ์ตามที่บอกไว้ในกระทู้ก่อน พิจารณาดูดูคร่าวๆแล้วเห็นว่าเขาเป็นมืออาชีพด้านการบริหาร รพ. จริงๆ อีกทั้งเขายังมีโครงการแบบ turn key ในนามของ BH รับบริการบริหาร รพ.อื่นในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ที่ยังงงๆคือเรื่องชื่อผู้บริหารที่เป็นชาวอเมริกันไม่ปรากฏอยู่ในทีมบริหารเลย(ต่างจากที่เคยลงในหนังสือพิมพ์)VIB007 เขียน: ".....เสียแต่รอจ่ายเงินนานไปหน่อย และที่จอดรถไม่เพียงพอ"
บางกอกโพสต์ฉบับเมื่อวาน (4 ก.ย. 46)ส่วนของ Business ก็ลงเกี่ยวกับเรื่องของ BH เป็นการทำการตลาดและการโปรโมชั่นที่ดี โดยให้บริการตรวจสุขภาพฟรีแก่ผู้เข้าร่วมประชุม APEC ดูเข้าท่าดี
จากข้อมูลหยายๆเหล่านี้ก็ถือได้ว่าเข้าข่ายมาตรฐานเกือบครบ 15 ข้อของ Philip Fisher ท่านแล้วนา จึงเป็นเหตุให้ผมสนใจในกิจการของ รพ.แห่งนี้ครับ แต่ว่าคงต้องทำ Scuttlebutt เพิ้มเติมอย่างที่บอกนั่นแหละครับ
ขอบคุณสำหรับข้อชี้แนะในส่วนของ บัญชี งบดุล กำไรขาดทุนที่คุณ VIB007 นำเสนอมา บอกตรงๆว่าผมเองไม่มีพื้นฐานเลยในเรื่องนี้มาก่อนเลย แต่ก็รักและขมักเขม้นที่จะเรียนรู้จากตำราเท่าที่หาได้และจากท่านกุนซือทั้งหลายใน TVI แห่งนี้ และที่พลาดไม่ได้ก็คือคุณ VIB007 นี่แหละครับ หากจะกรุณา และเท่าที่าทราบ รพ.นี้กู้ยืมเงินต่างประเทศมาลงทุนในระยะแรกเลยทำให้ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงลดค่าเงินบาทครั้งล่าสุด เกิดเป็นการขาดทุนสะสมดังกล่าว ยังไงผมจะพยายามศึกษาเรื่องงบดุล กำไรขาดทุนและตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวของกิจการ รพ.นี้โดยละเอียดก่อนตัดสินใจครับVIB007 เขียน:"....ครึ่งปีแรกมีกำไร 300 ล้านบาท จากยอดขาย 2,000 ล้านบาท คิดเป็นมาร์จิน 15% คิดเป็น Return on Equity ทั้งปี 68% แต่บริษัทมีหนี้สินระยะยาวอยู่อีก 2,458 ล้านบาท ดังนั้นใช้ ROE อย่างเดียวคงไม่เหมาะสม ต้องใช้ ROTC (Return on Total Capital) ซึ่งเท่ากับ 18% คุณพีพีสนใจบริษัทนี้มั๊ยครับที่ผู้บริหารจัดการเงินลงทุนของคุณพีพีได้ผลตอบแทน 18% แต่เดี๋ยวก่อน บริษัทนี้ยังมีขาดทุนสะสมอยู่อีก 2,284 ล้านบาท คงใช้เวลาอีกประมาณ 3-4 ปีถึงจะล้างขาดทุนสะสมหมด และถึงจะจ่ายปันผลได้ คุณพีพีรอได้ไหมครับ (ผมว่านักเก็งกำไรคงรอไม่ไหว)"
เอ อาจารย์ Warren Buffet ท่านไม่ได้แนะนำให้เราลงทุนใน กองทุนรวม นะครับคุณ VIB007 และผมเองด้วยความไม่รู้เคยตื่นไปกับฝูงชนร่วมขบวนการลงทุนซื้อกองรวมทุนเมื่อ7-8 ปีก่อนตามคำแนะนำของคนรู้จัก เพื่อนที่เป็นพนักงานในธนาคาร และญาติที่ทำงานในบริษัทหลักทรัพย์ แล้วผลสรุปคือขาดทุนเรียบร้อยเหลือทุนกลับมา 20-30% (ความไม่รู้ คือ ความเสี่ยง ยอมรับข้อนี้จริงๆครับ ผมพลาดไปแล้ว แต่ก็เป็นบทเรียนที่ต้องจดจำ) ....กองทุนวายุภักVIB007 เขียน:"......ไม่งั้นผมก็แนะนำเหมือนเดิมคือไปซื้อกองทุนดีกว่า"
เห็นอาจารย์ Warren Buffet เล่าให้ฟังว่ามือบริหารกองทุนรวมทั้งหลาย น่ะ ไม่แน่จริงหรอก เพราะพวกเล่นกว้านซื้อกิจการต่างๆยาวเป็นหางว่าวหลายๆสิบกิจการมาไว้ในในพอร์ต แล้วบอกว่าตัวเองบริหารพอร์ต โดยซึอมาขายไปตามความรู้ (สึก?) เหมือนกลุ่ม Financial Community ...นี่ก็เท่ากับเป็นการยอมรับโดยดุษฎี ...ว่าตัวท่านผู้บริหารกองทุนทั้งหลายเหล่านี้ไม่ได้รู้จริงในกิจการต่างๆทุกกิจการที่ลงทุนไว้ในพอร์ตแต่อย่างใด แต่กลับใช้วิธีกระจาบความเสี่ยงลูกเดียว ซึ่งกระจายมากๆๆๆเกินไปจนโอกาสจะได้รับผลตอมแทนจากกิจการที่ Outstanding จริงๆลดลงไป - ละลายความรวยลงไป - (ไม่เชื่อลองไปเปิดดู list ของกิจการในพอร์ตกองทุนรวมต่างๆดูก็ได้นะครับ) โดยที่ตัวเองไม่ได้ศึกษากิจการต่างๆโดยละเอียดเป็นรายตัวตามแนวของอาจารย์ Warren Buffet แต่อย่างใด แสดงว่าไม่แน่จริงอย่างอาจารย์บอกนั่นแหละ ผมว่าแนะลงทุนอย่างอื่นเถอะคุณ VIB007 เว้นๆแนะนำการลงทุนกองทุนรวมไว้ข้อหนึ่งเถอะครับ เดี่ยวอาจารย์ Warren Buffet ทราบภายหลัง ท่านจะทำตาเขียวดุลูกศิาย์เอานา ......จะบอกให้ ฮึๆ
ผมเองก็เพิ่งศึกษาเรื่องหุ้นเป็นเรื่องเป็นราวเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมานี้เองครับ โดยพยายามตะลุยอ่านหนังสือของ Ben Graham , Warren Buffet และ Philip Fisher เท่าที่จะหามาได้ ทั้งนี้ก็ได้หนังสือ เซียนหุ้นพันธุ์แท้ ของ ดร.นิเวศน์ เป็นตัวชี้นำ เพราะเวลาว่างมากเมื่ออ่านของ ดร.จบ เห็นว่ายังไม่จุใจ ก็เลยพยายามควานหาต้นตำรับตามที่ ดร. ท่านอ้างอิงถึง จึงทำให้ตาสว่างพบว่าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ยังมีแนวอื่นที่ไม่ใช้การพนัน .... แต่เดิมเพราะความไม่รู้จึงทำให้คิดว่าการเล่นหุ้นเป็นการพนันล้วนๆ เลยทำให้ไม่ใส่ใจเพราะโดยนิสัยส่วนตัวไม่เล่นการพนัน อย่างไงๆก็อย่าเพิ่งด่วนสรุปเหมาเอาว่าไม่ทำการบ้านๆ แล้วแนะให้ไปซื้อกองทุนรวมก็แล้วกันนะครับ
ตั้งแต่นี้ต่อไปผมต้องกลายเป็นคนบ้าหุ้น ศึกษาหาความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติเท่าที่จะทำได้ หวังจะลองพิสูจน์หลักการของ Ben Graham
Warren Buffet และ Philip Fisher ว่าเป็นจริงได้ไหมในเมืองไทยเรา คุณ VIB007 เอง ผมก็ขอให้เป็นเสาหลักที่ TVI หน่อยนะครับ จะได้เป็นกุนซือให้ผู้ที่สนใจการลงทุนแบบ VI ขอบคุณอีกครั้งครับ ด้วยความจริงใจ
คุณ CK ครับ ในส่วนของ Guru ของ TVI เองก็มีเรื่องย่อของ ฟีชเชอร์ (Philip A. Fisher) หากจะให้จุใจขึ้นอีกนิดก็ต้องหาอ่าน Common Stocks and Uncommon Profits ครับCK เขียน:".....ส่วนฟีชเชอร์ไม่รู้จักครับ"
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 74
ขอบอกก่อนว่าผมไม่ใช่เซียนหุ้นครับ แต่อาศัยความอยากรู้อยากเห็น ค้นคว้า ศึกษา ทดลอง ตามแนวทางของปรามาจารย์การลงทุนทั้งสามท่านเป็นที่ตั้งครับ บางคนบอกว่าวิธีการลงทุนแบบคุณค่าใช้กับเมืองไทยไม่ได้ แต่ในความเห็นของผม ผมว่าตลาดหุ้นไม่ว่าที่ไหนในโลกเหมือนกันหมดครับ ที่นั่นเต็มไปด้วยความโลภและความกลัวอยู่เสมอ ส่วนตัวผมไม่คิดว่านักลงทุนทุกคนจะ Rationalize อยู่เสมอตลอดเวลาครับ หน้าที่ของเราคือค้นหาและอาศัยประโยชน์จากอารมณ์ของคลื่นนักลงทุนที่หื่นกระหายหรือนักลงทุนที่หวาดกลัวจนคุมอารมณ์ไม่อยู่ สำคัญอยู่ที่เราต้องไม่กลายเป็นส่วนหนึ่งของตลื่นมหาชนเหล่านี้นะครับ
ต้องขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆ ที่ให้ความเห็นกันเข้ามาเยอะแยะครับ ผมอยากให้กระทู้นี้เป็นที่แลกเปลี่ยนประสบการณ์ของการลงทุนแบบเน้นคุณค่าของพี่ๆเพื่อนๆทุกคน มากกว่าที่จะเป็นข้อมูลที่ผมป้อนอยู่ฝ่ายเดียวครับ (ผมกลัวมุขผมหมดนะครับ) เพื่อให้ผู้ที่สนใจทั้งหน้าใหม่หน้าเก่าใช้เป็นแนวทางจะได้ไม่เดินหลงทางเข้าป่าไปนะครับ
ผมว่าในเวปนี้ยังมีคนเก่งๆอีกเยอะครับ แต่ไม่แสดงตัว ช่วยแสดงตัวด้วยครับ ผมต้องการความช่วยเหลือครับ แต่ที่แน่ๆ ผมกำลังรอพี่ครรชิต ไพศาลมาแสดงความเห็นอยู่ครับ (แต่ไม่ต้องบอกชื่อหุ้นที่พี่ถืออยู่ก็ดีครับ น้องๆจะได้ไม่คิดว่าเป็นการชี้นำ)
ปัญหา คือ ผมไม่เล่นเนตตอนกลางคืนและวันเสาร์-อาทิตย์ครับ ผมต้องขอหยุดโพสเสาร์-อาทิตย์ครับ ต้องให้เวลากับครอบครัวครับ พาครอบครัวไปทำ Scuttlerbutt (ขอบคุณคุณพีพีครับที่ช่วยแก้ไขคำที่ถูกให้) แกะงบการเงิน และอ่านหนังสือการลงทุนครับ
ดังนั้นวันเสาร์-อาทิตย์ ผมขอฝากคุณ Mon Money เป็นผู้จัด (ตอบ)รายการกระทู้นี้แทนผมด้วยนะครับ (รูสึกเหมือนดีเจ ยังไงไม่รู้) มัดมือชกแล้วนะครับ ห้ามปฎิเสธ! (เหมือนผมเคยโดนกับตัวเองมาก่อนมุขนี้)
ตอนนี้มีเวลา ผมก็เริ่มตอบคำถามแล้วละครับ แต่คุณ Mon Money อย่าลืมช่วยผมด้วยนะครับ
ต้องขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆ ที่ให้ความเห็นกันเข้ามาเยอะแยะครับ ผมอยากให้กระทู้นี้เป็นที่แลกเปลี่ยนประสบการณ์ของการลงทุนแบบเน้นคุณค่าของพี่ๆเพื่อนๆทุกคน มากกว่าที่จะเป็นข้อมูลที่ผมป้อนอยู่ฝ่ายเดียวครับ (ผมกลัวมุขผมหมดนะครับ) เพื่อให้ผู้ที่สนใจทั้งหน้าใหม่หน้าเก่าใช้เป็นแนวทางจะได้ไม่เดินหลงทางเข้าป่าไปนะครับ
ผมว่าในเวปนี้ยังมีคนเก่งๆอีกเยอะครับ แต่ไม่แสดงตัว ช่วยแสดงตัวด้วยครับ ผมต้องการความช่วยเหลือครับ แต่ที่แน่ๆ ผมกำลังรอพี่ครรชิต ไพศาลมาแสดงความเห็นอยู่ครับ (แต่ไม่ต้องบอกชื่อหุ้นที่พี่ถืออยู่ก็ดีครับ น้องๆจะได้ไม่คิดว่าเป็นการชี้นำ)
ปัญหา คือ ผมไม่เล่นเนตตอนกลางคืนและวันเสาร์-อาทิตย์ครับ ผมต้องขอหยุดโพสเสาร์-อาทิตย์ครับ ต้องให้เวลากับครอบครัวครับ พาครอบครัวไปทำ Scuttlerbutt (ขอบคุณคุณพีพีครับที่ช่วยแก้ไขคำที่ถูกให้) แกะงบการเงิน และอ่านหนังสือการลงทุนครับ
ดังนั้นวันเสาร์-อาทิตย์ ผมขอฝากคุณ Mon Money เป็นผู้จัด (ตอบ)รายการกระทู้นี้แทนผมด้วยนะครับ (รูสึกเหมือนดีเจ ยังไงไม่รู้) มัดมือชกแล้วนะครับ ห้ามปฎิเสธ! (เหมือนผมเคยโดนกับตัวเองมาก่อนมุขนี้)
ตอนนี้มีเวลา ผมก็เริ่มตอบคำถามแล้วละครับ แต่คุณ Mon Money อย่าลืมช่วยผมด้วยนะครับ
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 75
ช่วยอยู่ครับ คือช่วยชงคำถามต่อให้ไงครับ ปกติผมจะเข้าเน็ตทุกวัน แต่ผมไม่แน่ใจว่าสายโทรศัพย์ที่บ้านมันจะเกเรหรือเปล่า ถ้าเข้าได้ตอบแทนให้ครับ
ประเดิมด้วย Net-net Stockครับ
Net-net stock ก็คือการลงทุนแบบก้นบุหรี่ที่คุณฉัตรชัยทำสมัยหุ้นตกระเนระนาดนั่นแหละครับ คือเก็บมันทุกบริษัทที่ราคาหุ้นตกลงมาถูกมาก ลดความผิดพลาดโดยรวมด้วยการซื้อหลายๆบริษัท โดยไม่สนใจคุณภาพของกิจการ ถ้าหุ้นที่เก็บมาทุกบริษัทไม่เลิกกิจการไปซะก่อนผลตอบแทน ณ วันนี้งามมากครับ
หลักการก็ง่ายๆ ซึ่งเป็นข้อควรปฎิบัติข้อหนึ่งของGraham คือ
Net-net Assets Value per share = (Current Assets - Current Lia - Long term Lia) / จำนวนหุ้นทั้งหมด
หากราคาหุ้นซื้อขายกันที่ราคาต่ำกว่า 1/3 ของNet-net Assets Value per share ก็เข้าข่ายเลยละ
ประเดิมด้วย Net-net Stockครับ
Net-net stock ก็คือการลงทุนแบบก้นบุหรี่ที่คุณฉัตรชัยทำสมัยหุ้นตกระเนระนาดนั่นแหละครับ คือเก็บมันทุกบริษัทที่ราคาหุ้นตกลงมาถูกมาก ลดความผิดพลาดโดยรวมด้วยการซื้อหลายๆบริษัท โดยไม่สนใจคุณภาพของกิจการ ถ้าหุ้นที่เก็บมาทุกบริษัทไม่เลิกกิจการไปซะก่อนผลตอบแทน ณ วันนี้งามมากครับ
หลักการก็ง่ายๆ ซึ่งเป็นข้อควรปฎิบัติข้อหนึ่งของGraham คือ
Net-net Assets Value per share = (Current Assets - Current Lia - Long term Lia) / จำนวนหุ้นทั้งหมด
หากราคาหุ้นซื้อขายกันที่ราคาต่ำกว่า 1/3 ของNet-net Assets Value per share ก็เข้าข่ายเลยละ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 76
ตอบคุณพีพี
ผมพูดไม่ผิดครับที่แนะนำให้ลงทุนในกองทุน ถ้าไม่อยากทำการบ้าน
Buffet บอกว่า บางครั้งนักลงทุนที่ไม่รู้อะไรเลยก็สามารถเอาชนะนักลงทุนมืออาชีพได้ด้วยการลงทุนใน Index Fund ซึ่งผมคิดว่าจริงถึงจริงที่สุดครับ
ผมมีเพื่อนเป็นผู้จัดการกองทุนของบริษัทหลักทรัพย์ชื่อดังของเมืองไทยดูแลพอร์ตเป็นพันล้านบาท เคยคุยกัน เจอกันบ่อยๆ และผมก็รู้สึกว่าวิธีการลงทุนบริหารพอร์ตของเขาแทบไม่ต่างจากนักเก็งกำไรทั่วไป (อาจจะมี Research มาแบคอัพนิดหน่อย ป้องกันเจ้านายด่าว่าซื้อหุ้นซี้ซั้ว) เขาซื้อมาแล้วก็ขายไปครับ ตอนเจอกันเมื่อปีที่แล้วเขาถือหุ้นบริษัทเดียวกับผมครับในต้นทุนที่เท่ากันในช่วงนั้น เจอกันอีกทีเขาบอกว่าขายไปนานแล้วครับได้กำไร 20% ผมถามเขาว่าตอนนี้ยังถือหุ้นนี้อยู่มั๊ย เขาตอบว่าไม่ขายหมดแล้ว ผมก็เฉยๆไม่พูดอะไรต่อแต่แอบยิ้มอยู่ในใจว่า "แต่กูยังถืออยู่ว่ะ ตอนนี้ฟันกำไรไป 60% โดยไม่ต้องจ่ายค่าคอมให้โบรกเกอร์สักบาท และก็ไม่ต้องกลุ้มใจเวลาหุ้นตก ไม่ต้องเฝ้าดูราคาหุ้นทุกวัน คอยอ่านแต่ข่าวดีๆของบริษัททางสื่อต่างๆ มีความสุขจะตายไป หาไม่ได้อีกแล้วโว๊ยในโลกนี้" ผมว่าเพื่อนผมคนนี้คงต้องวิ่งเข้าวิ่งออกตลาดหุ้นอีกหลายรอบครับกว่าจะได้ผลตอบแทนเท่ากัน ซึ่งในเวลาเดียวกันกับผมที่นั่งดื่มนมอยู่บ้านอ่านหนังสือศึกษาการลงทุนสบายใจเฉิบ ว่างๆก็ไปดูหนังแก้กลุ้มเวลาหุ้นขึ้น
ถามว่าผมจะขายหุ้นบริษัทนี้หรือเปล่าครับ ตอนนี้กำลังตก ตกลงมาจากพีคประมาณ 10% ในสองอาทิตย์ น่ากลัวมากๆ คนอื่นกำลังขวัญเสีย ภรรยาผมบอกว่าทำไมไม่ขายหุ้นเหมือนคนอื่นเขา เอาเงินมาซื้อขนมกิน (จริงๆเธออยากได้รถใหม่ครับ แต่ผมไม่อนุมัติเพราะเงินอยู่ในหุ้นหมด) ผมบอกตัวเองว่าจากการวิเตราะห์ตามหลักการของอาจารย์ทั้งสามของผมแล้ว บริษัทนี้ยังไปได้อีกไกล ตอนนี้คนมองไม่เห็นเพราะผลประกอบการไม่มีการเติบโตมาก แต่ในอีกสองสามปีข้างหน้า มันจะกลายเป็นยักษ์อลาดินครับ เพราะลงทุนไปมากมีโปรเจคใหม่ๆที่ลงทุนไปเต็มไปหมดแต่ยังไม่สร้างรายได้ตอนนี้
ผมมีเพื่อนเป็นนักลงทุนมืออาชีพ หรือนักวิเคราะห์ตามโบรกเกอร์ต่างๆ เยอะครับ ผมว่าพวกเขาคงดูหุ้นไม่เกินหนึ่งปีครับ อย่างมากก็หกเดือน ทำไมเหรอครับ เพราะบริษัทอยู่รอดได้เพราะมีคนซื้อขายหุ้น ยิ่งวิ่งรอบมาก เขายิ่งชอบครับ ถ้าผมเป็นนักวิเคราะห์แล้วลงบทวิเคราะห์ว่าบริษัทนี้ดีมากครับถือไปได้เลย 10 ปี ผมว่าผมคงโดนไล่ออกหลังจากลงบทวิเคราะห์ประมาณสามวันครับ
ส่วนท่านอื่นๆมีเวลาจะตอบให้ครับ ตอนนี้เจ้านายกำลังเขม่น ต้องระวังตัว
อ้อ พี่เจ๋งถามเรื่องข้อผิดพลาดของ Mary Buffet ในหนังสือ Buffetology ผมขอถามกลับแล้วกันครับว่าพี่เจ๋งอ่านหรือยัง ถ้าอ่านแล้วช่วยบอกมาก่อนว่าพี่เจ๋งเห็นข้อผิดพลาดอะไรบ้าง จะได้มาคุยกัน
ถ้ายังผมก็แนะนำให้รีบอ่านโดยด่วนครับเพราะอ่านง่ายและมีประโยชน์ อ่านจบแล้วมาคุยกัน
สวัสดีครับ พบกันวันจันทร์ ผมต้องออกไปทำงานข้างนอกแล้วครับ ก่อนไปขอถามทุกท่านครับว่าในฐานะที่ท่านเป็นนักลงทุนคุณค่า ท่านอยากเห็นหุ้นของบริษัทของท่านมีราคาสูงหรือต่ำครับ
ส่งคำตอบมานะครับ ไม่มีรางวัล
สวัสดีครับ พบกันวันจันทร์
ผมพูดไม่ผิดครับที่แนะนำให้ลงทุนในกองทุน ถ้าไม่อยากทำการบ้าน
Buffet บอกว่า บางครั้งนักลงทุนที่ไม่รู้อะไรเลยก็สามารถเอาชนะนักลงทุนมืออาชีพได้ด้วยการลงทุนใน Index Fund ซึ่งผมคิดว่าจริงถึงจริงที่สุดครับ
ผมมีเพื่อนเป็นผู้จัดการกองทุนของบริษัทหลักทรัพย์ชื่อดังของเมืองไทยดูแลพอร์ตเป็นพันล้านบาท เคยคุยกัน เจอกันบ่อยๆ และผมก็รู้สึกว่าวิธีการลงทุนบริหารพอร์ตของเขาแทบไม่ต่างจากนักเก็งกำไรทั่วไป (อาจจะมี Research มาแบคอัพนิดหน่อย ป้องกันเจ้านายด่าว่าซื้อหุ้นซี้ซั้ว) เขาซื้อมาแล้วก็ขายไปครับ ตอนเจอกันเมื่อปีที่แล้วเขาถือหุ้นบริษัทเดียวกับผมครับในต้นทุนที่เท่ากันในช่วงนั้น เจอกันอีกทีเขาบอกว่าขายไปนานแล้วครับได้กำไร 20% ผมถามเขาว่าตอนนี้ยังถือหุ้นนี้อยู่มั๊ย เขาตอบว่าไม่ขายหมดแล้ว ผมก็เฉยๆไม่พูดอะไรต่อแต่แอบยิ้มอยู่ในใจว่า "แต่กูยังถืออยู่ว่ะ ตอนนี้ฟันกำไรไป 60% โดยไม่ต้องจ่ายค่าคอมให้โบรกเกอร์สักบาท และก็ไม่ต้องกลุ้มใจเวลาหุ้นตก ไม่ต้องเฝ้าดูราคาหุ้นทุกวัน คอยอ่านแต่ข่าวดีๆของบริษัททางสื่อต่างๆ มีความสุขจะตายไป หาไม่ได้อีกแล้วโว๊ยในโลกนี้" ผมว่าเพื่อนผมคนนี้คงต้องวิ่งเข้าวิ่งออกตลาดหุ้นอีกหลายรอบครับกว่าจะได้ผลตอบแทนเท่ากัน ซึ่งในเวลาเดียวกันกับผมที่นั่งดื่มนมอยู่บ้านอ่านหนังสือศึกษาการลงทุนสบายใจเฉิบ ว่างๆก็ไปดูหนังแก้กลุ้มเวลาหุ้นขึ้น
ถามว่าผมจะขายหุ้นบริษัทนี้หรือเปล่าครับ ตอนนี้กำลังตก ตกลงมาจากพีคประมาณ 10% ในสองอาทิตย์ น่ากลัวมากๆ คนอื่นกำลังขวัญเสีย ภรรยาผมบอกว่าทำไมไม่ขายหุ้นเหมือนคนอื่นเขา เอาเงินมาซื้อขนมกิน (จริงๆเธออยากได้รถใหม่ครับ แต่ผมไม่อนุมัติเพราะเงินอยู่ในหุ้นหมด) ผมบอกตัวเองว่าจากการวิเตราะห์ตามหลักการของอาจารย์ทั้งสามของผมแล้ว บริษัทนี้ยังไปได้อีกไกล ตอนนี้คนมองไม่เห็นเพราะผลประกอบการไม่มีการเติบโตมาก แต่ในอีกสองสามปีข้างหน้า มันจะกลายเป็นยักษ์อลาดินครับ เพราะลงทุนไปมากมีโปรเจคใหม่ๆที่ลงทุนไปเต็มไปหมดแต่ยังไม่สร้างรายได้ตอนนี้
ผมมีเพื่อนเป็นนักลงทุนมืออาชีพ หรือนักวิเคราะห์ตามโบรกเกอร์ต่างๆ เยอะครับ ผมว่าพวกเขาคงดูหุ้นไม่เกินหนึ่งปีครับ อย่างมากก็หกเดือน ทำไมเหรอครับ เพราะบริษัทอยู่รอดได้เพราะมีคนซื้อขายหุ้น ยิ่งวิ่งรอบมาก เขายิ่งชอบครับ ถ้าผมเป็นนักวิเคราะห์แล้วลงบทวิเคราะห์ว่าบริษัทนี้ดีมากครับถือไปได้เลย 10 ปี ผมว่าผมคงโดนไล่ออกหลังจากลงบทวิเคราะห์ประมาณสามวันครับ
ส่วนท่านอื่นๆมีเวลาจะตอบให้ครับ ตอนนี้เจ้านายกำลังเขม่น ต้องระวังตัว
อ้อ พี่เจ๋งถามเรื่องข้อผิดพลาดของ Mary Buffet ในหนังสือ Buffetology ผมขอถามกลับแล้วกันครับว่าพี่เจ๋งอ่านหรือยัง ถ้าอ่านแล้วช่วยบอกมาก่อนว่าพี่เจ๋งเห็นข้อผิดพลาดอะไรบ้าง จะได้มาคุยกัน
ถ้ายังผมก็แนะนำให้รีบอ่านโดยด่วนครับเพราะอ่านง่ายและมีประโยชน์ อ่านจบแล้วมาคุยกัน
สวัสดีครับ พบกันวันจันทร์ ผมต้องออกไปทำงานข้างนอกแล้วครับ ก่อนไปขอถามทุกท่านครับว่าในฐานะที่ท่านเป็นนักลงทุนคุณค่า ท่านอยากเห็นหุ้นของบริษัทของท่านมีราคาสูงหรือต่ำครับ
ส่งคำตอบมานะครับ ไม่มีรางวัล
สวัสดีครับ พบกันวันจันทร์
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 77
ผมขอแก้ข่าวหน่อยครับ ที่คุณมนบอกว่าผมลงทุนซื้อบริษัทในราคาถูกมากๆ หลายบริษัทในดัชนีต่ำมากๆนั้น จริงๆแล้วการซื้อครั้งนั้น ผมไม่ได้คิดว่าเป็นการลงทุนอะไรหรอกครับ เพราะซื้อแค่บริษัทละร้อยหุ้น และใช้เงินไม่ถึงหมื่นบาทเองครับ ผมแค่ก็ซื้อมาแล้วนำใบหุ้นของบริษัทเหล่านั้นมาสะสมไว้ครับ เพราะคิดว่าถ้าบริษัทเหล่านั้นถูกปิดกิจการ ใบหุ้นเหล่านั้นก็จะหายากมาก ผมก็แค่เป็นไว้ดูส่วนตัวยามแก่เฒ่านะครับ จริงๆแล้วผมเป็นคนที่เลือกหุ้นแบบ Focus มากครับ ปรกติจะถือหุ้นไม่เกิน 3 ตัว บ่อยครั้งก็ถือเพียงตัวเดียวทั้ง Port เลย ผมยิ่งศึกษาก็ยิ่งมั่นใจ ผมเลยว่ามันเสื่ยงน้อยกว่าการกระจายการลงทุนไปในหลายๆบริษัท หลายๆอุตสาหกรรม การกระจายแบบนั้นย่อมหมายถึงการกระจายกำไรด้วยครับ และอาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยง เพราะเราต้องซื้อบริษัทที่เรามีความมั่นใจน้อยเพิ่มด้วย
-
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 78
อ่านแล้วครับ The new buffetology ของ Mary buffet
และยังไม่เห็นข้อผิดพลาด เพราะไม่ได้อ่านเล่มอื่น และไม่ได้เปรียบเทียบกับเล่มอื่นครับ
และเมื่อลองใช้ดูก็สบายใจดี หลับสบาย
ก็เลยอยากถามวิบูลย์ว่ามีข้อผิดพลาดตรงไหนครับ
ถามจริงๆ เพราะเท่าทีพี่อ่านดู Mary ก็มีเหตุผล ที่สมเหตุสมผลจริงๆ นะครับ
1. การมุ่งเน้นในการเลือกหุ้นที่เป็น durable comepetitive advantage ก่อน
2. durable competitive advantage ตัวไหน ที่น่าซื้อ
3. เหตุการณ์อะไร ที่ทำให้ราคาลงมาอยู่ในจุดที่น่าตัดสินใจซื้อ
4. จะขายเมื่อไร
Mary ก็บอกไว้หมด เหมือนกัน
และยังไม่เห็นข้อผิดพลาด เพราะไม่ได้อ่านเล่มอื่น และไม่ได้เปรียบเทียบกับเล่มอื่นครับ
และเมื่อลองใช้ดูก็สบายใจดี หลับสบาย
ก็เลยอยากถามวิบูลย์ว่ามีข้อผิดพลาดตรงไหนครับ
ถามจริงๆ เพราะเท่าทีพี่อ่านดู Mary ก็มีเหตุผล ที่สมเหตุสมผลจริงๆ นะครับ
1. การมุ่งเน้นในการเลือกหุ้นที่เป็น durable comepetitive advantage ก่อน
2. durable competitive advantage ตัวไหน ที่น่าซื้อ
3. เหตุการณ์อะไร ที่ทำให้ราคาลงมาอยู่ในจุดที่น่าตัดสินใจซื้อ
4. จะขายเมื่อไร
Mary ก็บอกไว้หมด เหมือนกัน
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 80
สวัสดีตอนเช้าครับ ผมวิบูลย์-007 ครับ
ปกติจะไม่เข้าเน็ตเสาร์อาทิตย์ครับ แต่เมื่อคืนนอนไม่หลับ อ่านคำถามแล้วคิดคำตอบออก เลยอยากจะเขียนก่อนที่จะลืม เลยขออนุญาตภรรยาเข้าเน็ตสักสองชั่วโมง
ตอบพี่ๆเพื่อนๆครับ
เพิ่งรู้ว่าคุณฉัตรชัยถือหุ้นทีละสองถึงสามบริษัท ดีแล้วครับที่ถือน้อยๆ ผมถืออยู่ตอนนี้ 3-4 บริษัทยังรู้สึกว่าเยอะเลยครับ ถ้าผมถือน้อยกว่านี้ ผลตอบแทนของพอร์ตคงดีกว่านี้หลายเงินอยู่
ที่คุณฉัตรชัยถามเรื่องการหามูลค่าของ Growth Stock เอางี้แล้วกันครับ อาจารย์ Buffet ของผมใช้เวลาตั้ง 25 ปีกว่าจะหลุดจากการเก็บก้นบุหรี่เขาสูบ ผมว่าคุณฉัตรชัยจะใช้เวลา 25 วันหลุดออกจากสิ่งที่ทำอยู่คงไม่ง่ายหละครับ
คนส่วนใหญ่คิดว่า หุ้น Value คือหุ้นที่มีค่า P/E, P/B, DY ต่ำ ส่วนหุ้นGrowth คือหุ้นที่มีค่าต่างๆเหล่านี้สูง และผมคิดว่า 99% ของคนในตลาดตอนนี้ก็คิดอย่างนั้นครับ แต่ผมไม่คิดอย่างนั้นสักทีเดียวครับ
อาจารย์ Buffet ของผมบอกว่า ค่า P/E, P/B, DY ที่เราเห็นอยู่นั้นไม่ได้เป็นตัวบอกมูลค่าที่แท้จริงของกิจการแต่อย่างใด (ตอบพี่เจ๋งไปด้วยในตัวครับว่า Mary Buffet ไม่เคยสอนเรื่องการหามูลค่ากิจการที่แท้จริงใน New Buffetology เลยครับ Maryสนใจใน Quoted Price มากกว่า Intrinsic Value ครับ เวลาผมนำหลักการของ Maryไปใช้ตอนแรกๆ ก็ใช้ได้ดีครับแต่มันยังขาดๆอะไรสักอย่างอยู่ก็เลยค้นคว้าเพิ่มเติมครับ จนถึงบางอ้อ)
คนส่วนใหญ่สนใจในราคาของหุ้นมากกว่าตัวกิจการของบริษัทครับ เราทำตัวเป็น Market Analyst หรือไม่ก็เป็น Stock Analyst ซึ่งสนใจในการเคลื่อนไหวของราคามากกว่าสิ่งอื่นใด เราดีใจกระหยิ่มยิ้มย่องเวลาที่หุ้นของเราขึ้นและเสียใจหดหู่เวลาราคาหุ้นของเราตก (จริงไหมครับ) อาจารย์ผมไม่สนใจราคาหุ้นครับ อาจารย์ผมบอกว่าราคาหุ้นบนกระดานเป็นสิ่งที่เอาไว้ใช้ดูว่าจะมีใครทำอะไรโง่ๆอยู่ตอนนี้หรือเปล่า
ผมเลยเน้นนักเน้นหนาให้เราดูกิจการของบริษัทครับ ลืมราคาหุ้นชั่วคราว ถ้าอยากประสบความสำเร็จจากการลงทุนต้องหัดทำตัวเป็น Business Analyst ครับอาจารย์ผมสั่งมาไม่ใช่เป็น Market Analyst หรือเป็น Stock Analyst ผมก็เลยปฎิบัติอย่างเคร่งครัดครับ
หลักการคร่าวๆคือเราต้องวิเคราะห์ธุรกิจทั้งสองด้านครับ Qualitative และ Quantitative ครับว่าเป็นธุรกิจที่น่าสนใจหรือเปล่า ถ้าน่าสนใจแล้วถึงดูราคาครับว่าน่าสนใจหรือไม่ คนส่วนใหญ่ดูราคาก่อนครับ
ส่วนที่คุณ Think ถามเกี่ยวกับผลประกอบการนั้น ดีมากครับ ผมก็เจอปัญหาระหว่างการแกะงบการเงินเหมือนกันครับ ยกตัวอย่างบริษัทกำไรมาตลอดอยู่ดีๆปี 2000 ดันขาดทุนมโหราน แล้วก็กลับมากำไรใหม่ในปีต่อไป เราก็อนุโลมได้ว่าเกิดจากการ Write-off Exchange Loss ภายในปีเดียว ก็นำก้อนนี้ออกจากประมาณการของเราได้ครับ ถือว่าไม่ใช่เกิดจากการทำธุรกิจปกติ นานๆ 20-30 ปีจะเกิดอีกที เออ ผมให้โอกาส Turnaround ครับแต่ต้องออกจาก ICU แล้วจริงๆ ถ้าผ่านวิกฤตมาห้าปีแล้วยังพะงาบพะงาบอยู่ ก็ขอลาก่อน
วันนี้พอแค่นี้ครับ เวลาหมด สวัสดีครับ
ปกติจะไม่เข้าเน็ตเสาร์อาทิตย์ครับ แต่เมื่อคืนนอนไม่หลับ อ่านคำถามแล้วคิดคำตอบออก เลยอยากจะเขียนก่อนที่จะลืม เลยขออนุญาตภรรยาเข้าเน็ตสักสองชั่วโมง
ตอบพี่ๆเพื่อนๆครับ
เพิ่งรู้ว่าคุณฉัตรชัยถือหุ้นทีละสองถึงสามบริษัท ดีแล้วครับที่ถือน้อยๆ ผมถืออยู่ตอนนี้ 3-4 บริษัทยังรู้สึกว่าเยอะเลยครับ ถ้าผมถือน้อยกว่านี้ ผลตอบแทนของพอร์ตคงดีกว่านี้หลายเงินอยู่
ที่คุณฉัตรชัยถามเรื่องการหามูลค่าของ Growth Stock เอางี้แล้วกันครับ อาจารย์ Buffet ของผมใช้เวลาตั้ง 25 ปีกว่าจะหลุดจากการเก็บก้นบุหรี่เขาสูบ ผมว่าคุณฉัตรชัยจะใช้เวลา 25 วันหลุดออกจากสิ่งที่ทำอยู่คงไม่ง่ายหละครับ
คนส่วนใหญ่คิดว่า หุ้น Value คือหุ้นที่มีค่า P/E, P/B, DY ต่ำ ส่วนหุ้นGrowth คือหุ้นที่มีค่าต่างๆเหล่านี้สูง และผมคิดว่า 99% ของคนในตลาดตอนนี้ก็คิดอย่างนั้นครับ แต่ผมไม่คิดอย่างนั้นสักทีเดียวครับ
อาจารย์ Buffet ของผมบอกว่า ค่า P/E, P/B, DY ที่เราเห็นอยู่นั้นไม่ได้เป็นตัวบอกมูลค่าที่แท้จริงของกิจการแต่อย่างใด (ตอบพี่เจ๋งไปด้วยในตัวครับว่า Mary Buffet ไม่เคยสอนเรื่องการหามูลค่ากิจการที่แท้จริงใน New Buffetology เลยครับ Maryสนใจใน Quoted Price มากกว่า Intrinsic Value ครับ เวลาผมนำหลักการของ Maryไปใช้ตอนแรกๆ ก็ใช้ได้ดีครับแต่มันยังขาดๆอะไรสักอย่างอยู่ก็เลยค้นคว้าเพิ่มเติมครับ จนถึงบางอ้อ)
คนส่วนใหญ่สนใจในราคาของหุ้นมากกว่าตัวกิจการของบริษัทครับ เราทำตัวเป็น Market Analyst หรือไม่ก็เป็น Stock Analyst ซึ่งสนใจในการเคลื่อนไหวของราคามากกว่าสิ่งอื่นใด เราดีใจกระหยิ่มยิ้มย่องเวลาที่หุ้นของเราขึ้นและเสียใจหดหู่เวลาราคาหุ้นของเราตก (จริงไหมครับ) อาจารย์ผมไม่สนใจราคาหุ้นครับ อาจารย์ผมบอกว่าราคาหุ้นบนกระดานเป็นสิ่งที่เอาไว้ใช้ดูว่าจะมีใครทำอะไรโง่ๆอยู่ตอนนี้หรือเปล่า
ผมเลยเน้นนักเน้นหนาให้เราดูกิจการของบริษัทครับ ลืมราคาหุ้นชั่วคราว ถ้าอยากประสบความสำเร็จจากการลงทุนต้องหัดทำตัวเป็น Business Analyst ครับอาจารย์ผมสั่งมาไม่ใช่เป็น Market Analyst หรือเป็น Stock Analyst ผมก็เลยปฎิบัติอย่างเคร่งครัดครับ
หลักการคร่าวๆคือเราต้องวิเคราะห์ธุรกิจทั้งสองด้านครับ Qualitative และ Quantitative ครับว่าเป็นธุรกิจที่น่าสนใจหรือเปล่า ถ้าน่าสนใจแล้วถึงดูราคาครับว่าน่าสนใจหรือไม่ คนส่วนใหญ่ดูราคาก่อนครับ
ส่วนที่คุณ Think ถามเกี่ยวกับผลประกอบการนั้น ดีมากครับ ผมก็เจอปัญหาระหว่างการแกะงบการเงินเหมือนกันครับ ยกตัวอย่างบริษัทกำไรมาตลอดอยู่ดีๆปี 2000 ดันขาดทุนมโหราน แล้วก็กลับมากำไรใหม่ในปีต่อไป เราก็อนุโลมได้ว่าเกิดจากการ Write-off Exchange Loss ภายในปีเดียว ก็นำก้อนนี้ออกจากประมาณการของเราได้ครับ ถือว่าไม่ใช่เกิดจากการทำธุรกิจปกติ นานๆ 20-30 ปีจะเกิดอีกที เออ ผมให้โอกาส Turnaround ครับแต่ต้องออกจาก ICU แล้วจริงๆ ถ้าผ่านวิกฤตมาห้าปีแล้วยังพะงาบพะงาบอยู่ ก็ขอลาก่อน
วันนี้พอแค่นี้ครับ เวลาหมด สวัสดีครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 81
โค้ด: เลือกทั้งหมด
(ตอบพี่เจ๋งไปด้วยในตัวครับว่า Mary Buffet ไม่เคยสอนเรื่องการหามูลค่ากิจการที่แท้จริงใน New Buffetology เลยครับ Maryสนใจใน Quoted Price มากกว่า Intrinsic Value ครับ เวลาผมนำหลักการของ Maryไปใช้ตอนแรกๆ ก็ใช้ได้ดีครับแต่มันยังขาดๆอะไรสักอย่างอยู่ก็เลยค้นคว้าเพิ่มเติมครับ จนถึงบางอ้อ)
พี่ก็หาไม่เป็นจริงๆครับ intrinsic value
วิบูลย์ ช่วยสอนวิธีหา intrinsic value หน่อยครับ
พี่เจ๋ง
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 82
Peter Lynch เคยบอกไว้ใน Once Up on Wallstreet สำหรับหุ้น Growth Stock ว่าหุ้นที่มีค่า (Growth Rate)/(P/E) ประมาณ 2 เท่า ถือว่า O.K. แต่ถ้าได้สูงกว่า 3 เท่าน่าสนใจซื้อครับ ไม่ทราบว่า Ratio นี้มีใครใช้บ้างครับ
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 85
การเป็นนักลงทุนแบบการทำธุรกิจนี้ยากเอาการอยู่ครับ การที่เราถือน้อยบริษัทนี่เป็นตัวช่วยอย่างหนึ่งที่ทำให้เรามีเวลาที่จะเน้นหนักลงในธุรกิจที่เราเลือกแล้ว ผมเองมีเพียง 4 บริษัทที่ผมเลือกแล้วเช่นกัน แต่มีอีกประมาณ 2 - 3 บริษัทื่เป็นก้นบุหรี่ครับ ผมเก็งกำไรไม่เก่งเลยเลือกกระตุ้นต๋อมลุ้นด้วยวิธีนี้ครับ
ผมเองรู้สึกว่าแนวทางของ Lynch เป็นแนวทางของก้นบุหรี่ แต่แกไม่ได้เก็บเอาตามทางครับ แกเล่นดึงออกจากปากเจ้าของเดิมเลย คือแกไม่เอาประเภทหุ้นที่ชาวบ้านไม่สนซะทีเดียว แกจะรอจนเห็นสัญญาณบางประการแล้วแกก็ขโมยบุหรี่เลย น่าสนนะครับ
PEGที่ใช้ๆกันอยู่นั้นมันมีที่มานะครับ จะใช้ก็ขอให้หาที่มาให้เจอ การรู้และเข้าใจที่มาของสูตรนั้นจะทำให้เรารู้จักเลือกใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์ครับ เพราะสูตรทุกสูตรย่อมมีข้อจำกัดเสมอ
ผมเองรู้สึกว่าแนวทางของ Lynch เป็นแนวทางของก้นบุหรี่ แต่แกไม่ได้เก็บเอาตามทางครับ แกเล่นดึงออกจากปากเจ้าของเดิมเลย คือแกไม่เอาประเภทหุ้นที่ชาวบ้านไม่สนซะทีเดียว แกจะรอจนเห็นสัญญาณบางประการแล้วแกก็ขโมยบุหรี่เลย น่าสนนะครับ
PEGที่ใช้ๆกันอยู่นั้นมันมีที่มานะครับ จะใช้ก็ขอให้หาที่มาให้เจอ การรู้และเข้าใจที่มาของสูตรนั้นจะทำให้เรารู้จักเลือกใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์ครับ เพราะสูตรทุกสูตรย่อมมีข้อจำกัดเสมอ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 86
Toop_97
ผมต้องขอโทษด้วย ที่พูดเรื่องสถาบัน แต่ผมไม่ได้เจตนาจะคิดอะไรนอกเหนือไปจาก การที่ได้แสดงความเป็นตัวตนในระดับหนึ่ง เพื่อให้เราสามารถ หาจุดร่วมกันได้
เข้าทำนอง แสวงหาจุดร่วม สงวนจุดต่าง
แต่ถ้าการแสดงออกในเว็บแล้วทำให้ เกิดความแตกต่าง ซึ่งนำไปสู่การแบ่งพักแบ่งพวกแล้วละก็ ผมขอโทษครับ
ต่อไปจะไม่พูดถึงสีชมพูอีกแล้ว
คุณ Toop_97
โปรดแสดงความคิดเห็นด้วย เพื่อเป็นการยืนยันว่าคุณให้อภัยในความผิดพลาดนะครับ
เจ๋ง
ผมต้องขอโทษด้วย ที่พูดเรื่องสถาบัน แต่ผมไม่ได้เจตนาจะคิดอะไรนอกเหนือไปจาก การที่ได้แสดงความเป็นตัวตนในระดับหนึ่ง เพื่อให้เราสามารถ หาจุดร่วมกันได้
เข้าทำนอง แสวงหาจุดร่วม สงวนจุดต่าง
แต่ถ้าการแสดงออกในเว็บแล้วทำให้ เกิดความแตกต่าง ซึ่งนำไปสู่การแบ่งพักแบ่งพวกแล้วละก็ ผมขอโทษครับ
ต่อไปจะไม่พูดถึงสีชมพูอีกแล้ว
คุณ Toop_97
โปรดแสดงความคิดเห็นด้วย เพื่อเป็นการยืนยันว่าคุณให้อภัยในความผิดพลาดนะครับ
เจ๋ง
-
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 87
อยากทราบหนังสือที่พี่ๆ ใช้ศึกษากันครับ เรื่องพวก Instrictive Value, DCF, Buffetology ฯลฯ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 88
สวัสดีบ่ายวันอาทิตย์ครับ
ปกติเสาร์อาทิตย์จะไม่เล่นเน็ต แต่เมื้อกี้ภรรยาผมออกไปชอปปิ้ง ผมอยู่บ้านเลยมีเวลาแอบมาตอบกระทู้
เมื่อวานพี่ปรัชญาเปิดอีกกระทู้มาถามผมเรื่อง SSPORT ผมเลยบอกว่าผมไม่ตอบกระทู้อื่นและไม่ทำรายการแนะนำหุ้น บอกแกให้ไปอ่านบทวิเคราะห์ของโบรก สงสัยพี่แกคงงอนผมเลยไม่โพสคุยกับผมอีกเลย
ผมอยากอธิบายหน่อยครับ เมื่อวานเวลาน้อย
คือพี่ปรัชญาครับ ผมไม่รู้เรื่องราวของ SSPORT เลยครับเพราะไม่เล่นบอล ไม่ได้ติดตามว่าโอเวนมีลูกกี่คนแล้ว หรือเบคแฮมเลิกกับวิคตอเรียหรือยัง เลยไม่ได้เป็นลูกค้าของ SSPORT ครับ ผมไม่สนใจบริษัทที่ผมไม่สนใจครับเพราะผมจะใช้เวลากับบริษัทที่ผมอยากเป็นเจ้าของมากกว่า แล้วอีกอย่างผมไม่อยากแนะนำหุ้นว่าดีหรือไม่ดี ผมไม่ชอบชี้นำครับ ต้องไปคิดเอง
ผมเคยอ่านบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์เรื่อง SSPORT คร่าวๆ ดูแล้วก็วิเคราะห์เข้าท่าดี ถึงแม้ผมบอกว่าบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์จะดูไม่ยาว แต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่มีประโยชน์นะครับ ผมเองก็อาศัยบทวิเคราะห์ตามโบรกต่างๆในการหาข้อมูลเช่นเดียวกัน บางครั้งเราก็จะได้ข้อมูลที่เรานึกไม่ถึงครับ ไปหามาอ่านเถอะครับ
อีกอย่างผมไม่แนะนำหุ้นหรือวิเคราะห์หุ้นรายตัวครับ ผมมีความรู้จำกัด ไม่สามารถเข้าใจบริษัททั้ง 400 กว่าบริษัทได้อย่างดี ผมว่าคนหนึ่งคนรู้จักบริษัทสัก 10-20 บริษัทอย่างทะลุปรุโปร่งก็ยากแล้วครับ ผมไม่ได้เป็นเซียนหุ้นที่รู้จักทุกบริษัทอย่างคนอื่นๆที่เดินสายพูดครับ การวิเคราะห์บริษัทต้องช่วยตัวเองครับเราจะได้เข้าใจบริษัทที่เราอยากเป็นเจ้าของมากขึ้นกว่าใครๆ
ส่วนเรื่องตอบกระทู้ ผมไม่มีเวลาไปตอบกระทู้อื่นครับ ใครอยากคุยกับผมต้องผ่านกระทู้นี้กระทู้เดียวครับ (ไม่ใช่หยิ่งนะครับ แต่ไม่มีเวลาจริงๆ ต้องเห็นใจ เจ้านายผมใช้ผมยังกับทาส (ขอบ่นหน่อย)) แล้วอีกอย่างผมคิดว่าสิ่งที่ผมเขียน หรือสิ่งที่ท่านอื่นๆให้ความเห็นเข้ามาตั้งแต่ต้นกระทู้ ล้วนแต่มีประโยชน์ ผมอยากให้มันอยู่ในกระทู้เดียวกันนะครับ น้องๆที่เข้ามาใหม่ๆจะได้เข้าใจตั้งแต่ต้น
คงไม่ว่ากันนะครับ หายงอนหรือยังครับ พี่ปรัชญา.......... :lol:
ปกติเสาร์อาทิตย์จะไม่เล่นเน็ต แต่เมื้อกี้ภรรยาผมออกไปชอปปิ้ง ผมอยู่บ้านเลยมีเวลาแอบมาตอบกระทู้
เมื่อวานพี่ปรัชญาเปิดอีกกระทู้มาถามผมเรื่อง SSPORT ผมเลยบอกว่าผมไม่ตอบกระทู้อื่นและไม่ทำรายการแนะนำหุ้น บอกแกให้ไปอ่านบทวิเคราะห์ของโบรก สงสัยพี่แกคงงอนผมเลยไม่โพสคุยกับผมอีกเลย
ผมอยากอธิบายหน่อยครับ เมื่อวานเวลาน้อย
คือพี่ปรัชญาครับ ผมไม่รู้เรื่องราวของ SSPORT เลยครับเพราะไม่เล่นบอล ไม่ได้ติดตามว่าโอเวนมีลูกกี่คนแล้ว หรือเบคแฮมเลิกกับวิคตอเรียหรือยัง เลยไม่ได้เป็นลูกค้าของ SSPORT ครับ ผมไม่สนใจบริษัทที่ผมไม่สนใจครับเพราะผมจะใช้เวลากับบริษัทที่ผมอยากเป็นเจ้าของมากกว่า แล้วอีกอย่างผมไม่อยากแนะนำหุ้นว่าดีหรือไม่ดี ผมไม่ชอบชี้นำครับ ต้องไปคิดเอง
ผมเคยอ่านบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์เรื่อง SSPORT คร่าวๆ ดูแล้วก็วิเคราะห์เข้าท่าดี ถึงแม้ผมบอกว่าบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์จะดูไม่ยาว แต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่มีประโยชน์นะครับ ผมเองก็อาศัยบทวิเคราะห์ตามโบรกต่างๆในการหาข้อมูลเช่นเดียวกัน บางครั้งเราก็จะได้ข้อมูลที่เรานึกไม่ถึงครับ ไปหามาอ่านเถอะครับ
อีกอย่างผมไม่แนะนำหุ้นหรือวิเคราะห์หุ้นรายตัวครับ ผมมีความรู้จำกัด ไม่สามารถเข้าใจบริษัททั้ง 400 กว่าบริษัทได้อย่างดี ผมว่าคนหนึ่งคนรู้จักบริษัทสัก 10-20 บริษัทอย่างทะลุปรุโปร่งก็ยากแล้วครับ ผมไม่ได้เป็นเซียนหุ้นที่รู้จักทุกบริษัทอย่างคนอื่นๆที่เดินสายพูดครับ การวิเคราะห์บริษัทต้องช่วยตัวเองครับเราจะได้เข้าใจบริษัทที่เราอยากเป็นเจ้าของมากขึ้นกว่าใครๆ
ส่วนเรื่องตอบกระทู้ ผมไม่มีเวลาไปตอบกระทู้อื่นครับ ใครอยากคุยกับผมต้องผ่านกระทู้นี้กระทู้เดียวครับ (ไม่ใช่หยิ่งนะครับ แต่ไม่มีเวลาจริงๆ ต้องเห็นใจ เจ้านายผมใช้ผมยังกับทาส (ขอบ่นหน่อย)) แล้วอีกอย่างผมคิดว่าสิ่งที่ผมเขียน หรือสิ่งที่ท่านอื่นๆให้ความเห็นเข้ามาตั้งแต่ต้นกระทู้ ล้วนแต่มีประโยชน์ ผมอยากให้มันอยู่ในกระทู้เดียวกันนะครับ น้องๆที่เข้ามาใหม่ๆจะได้เข้าใจตั้งแต่ต้น
คงไม่ว่ากันนะครับ หายงอนหรือยังครับ พี่ปรัชญา.......... :lol:
-
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 89
ส่วนเรื่องที่ถามมาเรื่องหนังสือ ผมจะทำรายการแนะนำหนังสือใน TVI Meeting ในวันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน นี้ด้วยครับ สนใจอย่าพลาด สำรองที่นั่งได้ที่คุณ Genie ครับ บัตรราคา 400 บาทเป็นค่าห้องและค่าอาหารกลางวันครับ ที่โรงแรมกานมณี (อยู่ไหนผมก็ไม่รู้)
ผมว่าบัตรราคานี้ไม่แพงครับ สำหรับความรู้และประสบการณ์ของรุ่นพี่ (ที่เสียค่าโง่มาหลายแล้วในตลาด) ดีกว่าไปลองผิดลองถูกเองเสียหายหลายแสนครับ อ้อ ขอออกตัวก่อนว่าเขาจับผมไปเป็นวิทยากรก่อนที่จะได้รับอนุญาตจากผมครับ (แถมไม่จ่ายค่าตัวด้วย) แต่รู้ว่าเขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอกครับ
พบกันวันงานนะครับ
ผมว่าบัตรราคานี้ไม่แพงครับ สำหรับความรู้และประสบการณ์ของรุ่นพี่ (ที่เสียค่าโง่มาหลายแล้วในตลาด) ดีกว่าไปลองผิดลองถูกเองเสียหายหลายแสนครับ อ้อ ขอออกตัวก่อนว่าเขาจับผมไปเป็นวิทยากรก่อนที่จะได้รับอนุญาตจากผมครับ (แถมไม่จ่ายค่าตัวด้วย) แต่รู้ว่าเขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอกครับ
พบกันวันงานนะครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 90
เมื่อกี้เน็ตหลุดเลยล๊อคอินเป็น Guest ผมวิบูลย์-007 เขียนโพสข้างบนเองครับ ผมอ่านเจอในกระทู้อื่นบอกว่า อาจารย์ Buffet ของผมเป็น Value Speculator ผมต้องขอแก้ข่าวแล้วหละครับ อาจารย์ของผมลงเงินใน Abritage เฉพาะในหุ้นของบริษัทที่มีการประกาศควบรวมกิจการ (Merger & Acquisition) เท่านั้นครับ แกไม่เก็งผลประกอบการบริษัท หรือเก็งข่าวลืออย่างที่เราคุ้นเคย (และทำอยู่บ่อยๆ) กันนะครับ ขอแก้ข่าวครับ