เมเจอร์ทำไมงบออกช้าจังครับ
- tok
- Verified User
- โพสต์: 833
- ผู้ติดตาม: 0
เมเจอร์ทำไมงบออกช้าจังครับ
โพสต์ที่ 2
MAJOR แจงQ1กำไรพุ่ง เหตุประกอบร่างกับอีจีวี-รายได้ค่าโฆษณาเพิ่ม
นายฉัฐภูมิ ขันติวิริยะ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์
กรุ้ป จำกัด (มหาชน) (MAJOR)เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ของปี 2548
สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2548 โดยบริษัทฯมีผลกำไรสุทธิ 130.91 ล้านบาท คิดเป็นผลกำไร
0.18 บาท/หุ้น (จำนวนหุ้นถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 709.32 ล้านหุ้น) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 21.0%
เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 108.00 ล้านบาท คิดเป็นกำไร 0.18 บาท/หุ้น
(จำนวนหุ้น 587.71 ล้านหุ้น)
สาเหตุที่ผลการดำเนินงานของงวดไตรมาส 1 ของปี 2548 มีอัตราเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับ
งวดเดียวกันของปี 2547 มีปัจจัยหลักจากการควบรวมกิจการกับบริษัท อีจีวี เอ็นเตอร์เทนเมนท์
จำกัด (มหาชน) ทำให้มีจำนวนโรงภาพยนตร์ ให้บริการเพิ่มขึ้น 99 โรง และจำนวนโบว์ลิ่งอีก
20 เลน
รายได้โฆษณาในโรงภาพยนตร์ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ มีสาขาครอบคลุมพื้นที่ได้มากขึ้น
จึงส่งผลให้โฆษณาในโรงภาพยนตร์เป็นที่นิยมและภาพยนตร์ที่เข้ามาในไตรมาส 1 มีถึง
118 เรื่อง มากกว่างวดเดียวกันของปีก่อนที่มีหนังเข้าฉายเพียง 95เรื่อง และทำรายได้ได้ดีกว่า
มาก โดยเฉพาะภาพยนตร์ไทย
ทั้งนี้รายได้จาก 'เอ็ม คลับ' ซึ่งเป็นบัตรรูปแบบใหม่ ออกมาแทนเมเจอร์การ์ด ที่ให้สิทธิ
พิเศษสำหรับสมาชิกที่ถือบัตร โดยใช้เป็นส่วนลดในการซื้อบัตรชมภาพยนตร์ พร้อมรับสิทธิ์เข้า
ร่วมกิจกรรมพิเศษที่จัดขึ้นในโอกาสต่าง ๆ และเป็นบัตรสะสมแต้มแลกรับของรางวัลได้ในใบ
เดียวกัน ซึ่งผู้ที่ถือบัตรจะต้องเสียค่าธรรมเนียมแรกเข้า 200 บาทและส่วนแบ่งกำไรจากบริษัท
ร่วมเพิ่มขึ้น
นายฉัฐภูมิ ขันติวิริยะ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์
กรุ้ป จำกัด (มหาชน) (MAJOR)เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ของปี 2548
สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2548 โดยบริษัทฯมีผลกำไรสุทธิ 130.91 ล้านบาท คิดเป็นผลกำไร
0.18 บาท/หุ้น (จำนวนหุ้นถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 709.32 ล้านหุ้น) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 21.0%
เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 108.00 ล้านบาท คิดเป็นกำไร 0.18 บาท/หุ้น
(จำนวนหุ้น 587.71 ล้านหุ้น)
สาเหตุที่ผลการดำเนินงานของงวดไตรมาส 1 ของปี 2548 มีอัตราเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับ
งวดเดียวกันของปี 2547 มีปัจจัยหลักจากการควบรวมกิจการกับบริษัท อีจีวี เอ็นเตอร์เทนเมนท์
จำกัด (มหาชน) ทำให้มีจำนวนโรงภาพยนตร์ ให้บริการเพิ่มขึ้น 99 โรง และจำนวนโบว์ลิ่งอีก
20 เลน
รายได้โฆษณาในโรงภาพยนตร์ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ มีสาขาครอบคลุมพื้นที่ได้มากขึ้น
จึงส่งผลให้โฆษณาในโรงภาพยนตร์เป็นที่นิยมและภาพยนตร์ที่เข้ามาในไตรมาส 1 มีถึง
118 เรื่อง มากกว่างวดเดียวกันของปีก่อนที่มีหนังเข้าฉายเพียง 95เรื่อง และทำรายได้ได้ดีกว่า
มาก โดยเฉพาะภาพยนตร์ไทย
ทั้งนี้รายได้จาก 'เอ็ม คลับ' ซึ่งเป็นบัตรรูปแบบใหม่ ออกมาแทนเมเจอร์การ์ด ที่ให้สิทธิ
พิเศษสำหรับสมาชิกที่ถือบัตร โดยใช้เป็นส่วนลดในการซื้อบัตรชมภาพยนตร์ พร้อมรับสิทธิ์เข้า
ร่วมกิจกรรมพิเศษที่จัดขึ้นในโอกาสต่าง ๆ และเป็นบัตรสะสมแต้มแลกรับของรางวัลได้ในใบ
เดียวกัน ซึ่งผู้ที่ถือบัตรจะต้องเสียค่าธรรมเนียมแรกเข้า 200 บาทและส่วนแบ่งกำไรจากบริษัท
ร่วมเพิ่มขึ้น
- tok
- Verified User
- โพสต์: 833
- ผู้ติดตาม: 0
เมเจอร์ทำไมงบออกช้าจังครับ
โพสต์ที่ 3
MAJOR ตั้งเป้ารายได้รวมปี 48 ขึ้นแท่น 4 พัน ลบ.หลังรวมกิจการกับ EGV
นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป เปิดเผย
ว่า รายได้ในปีนี้ของบริษัทน่าจะอยู่ที่ 4-5 พันล้านบาท โดยคาดว่า ในQ2/48 จะมีรายได้ดีกว่า
Q1/48 เนื่องจากเป็นช่วงที่มีภาพยนต์ระดับ บล็อกบัสเตอร์ เข้าฉายจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น
สตาร์วอร์ เอพพิโซด3 ซึ่งมองว่ามีโอกาสสร้างรายได้มากกว่า 100 ล้านบาท โดยในปีนี้ บริษัทยัง
ตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มอีก 9 สาขา 50โรงในปี 48 ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยมองว่าโรง
ภาพยนต์ที่จะสร้างรายได้ คือ สยามพารากอน
โดยสัดส่วนการเพิ่มโรงหนังนั้นจะมุ่งไปที่ต่างจังหวัดมากขึ้น ซึ่งจะเป็นฐานให้ภาพยนต์
ไทยมีอัตราเติบโตมากขึ้น นอกจากนี้ การควบรวมกับอีจีวี ทำให้ค่าใช้จ่ายบางส่วนลดลงไปด้วย
ทั้งนี้ ในปี 48 บริษัทได้ตั้งงบลงทุนไว้ 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นเงินทุนทั้งจากกระแส
เงินสด โดยขณะนี้ บริษัทมี อีบิทด้าใน Q1/48 มีหนี้สินต่อทุนประมาณ 0.8 เท่า นอกจากนี้เงิน
บางส่วนจะมาจากการกู้ยืมที่จะมีทั้งเงินกู้ระยะสั้นที่ขณะนี้มีอยู่ 1,000 ล้านบาท และเงินกู้ระยะ
ยาว 1,000 ล้านบาท โดยมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3%
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีรายได้จากบริษัทร่วมลงทุน อาทิ บริษัทสยามฟิวเจอร์ ดี
เวลอปเมนท์ และบริษัท แปซิฟิก มาร์เก็ตติ้ง แอน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด หรือ PMEG
ซึ่งคาดว่าจะยังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ส่วนนโยบายการปันผลนั้นปีนี้คณะกรรมการได้อนุมัติให้
มีการปันผล 2 ครั้ง เนื่องจากในปีที่ผ่านมาปันผลมีอัตราน้อย ซึ่งในเรื่องดังกล่าวได้มีการแจ้งไปที่
ตลาดหลักทรัพย์ฯแล้ว
นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป เปิดเผย
ว่า รายได้ในปีนี้ของบริษัทน่าจะอยู่ที่ 4-5 พันล้านบาท โดยคาดว่า ในQ2/48 จะมีรายได้ดีกว่า
Q1/48 เนื่องจากเป็นช่วงที่มีภาพยนต์ระดับ บล็อกบัสเตอร์ เข้าฉายจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น
สตาร์วอร์ เอพพิโซด3 ซึ่งมองว่ามีโอกาสสร้างรายได้มากกว่า 100 ล้านบาท โดยในปีนี้ บริษัทยัง
ตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มอีก 9 สาขา 50โรงในปี 48 ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยมองว่าโรง
ภาพยนต์ที่จะสร้างรายได้ คือ สยามพารากอน
โดยสัดส่วนการเพิ่มโรงหนังนั้นจะมุ่งไปที่ต่างจังหวัดมากขึ้น ซึ่งจะเป็นฐานให้ภาพยนต์
ไทยมีอัตราเติบโตมากขึ้น นอกจากนี้ การควบรวมกับอีจีวี ทำให้ค่าใช้จ่ายบางส่วนลดลงไปด้วย
ทั้งนี้ ในปี 48 บริษัทได้ตั้งงบลงทุนไว้ 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นเงินทุนทั้งจากกระแส
เงินสด โดยขณะนี้ บริษัทมี อีบิทด้าใน Q1/48 มีหนี้สินต่อทุนประมาณ 0.8 เท่า นอกจากนี้เงิน
บางส่วนจะมาจากการกู้ยืมที่จะมีทั้งเงินกู้ระยะสั้นที่ขณะนี้มีอยู่ 1,000 ล้านบาท และเงินกู้ระยะ
ยาว 1,000 ล้านบาท โดยมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3%
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีรายได้จากบริษัทร่วมลงทุน อาทิ บริษัทสยามฟิวเจอร์ ดี
เวลอปเมนท์ และบริษัท แปซิฟิก มาร์เก็ตติ้ง แอน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด หรือ PMEG
ซึ่งคาดว่าจะยังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ส่วนนโยบายการปันผลนั้นปีนี้คณะกรรมการได้อนุมัติให้
มีการปันผล 2 ครั้ง เนื่องจากในปีที่ผ่านมาปันผลมีอัตราน้อย ซึ่งในเรื่องดังกล่าวได้มีการแจ้งไปที่
ตลาดหลักทรัพย์ฯแล้ว