ผู้เชี่ยวชาญก็คือ ผู้เชี่ยวชาญการทำลายผู้อื่น !!!

[คนอุดร]

เมื่อหลายปีก่อนในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา มีชายชราผู้หนึ่งเปิดร้านอาหารเล็กๆริมถนนใหญ่ ชายชราผู้นั้นสายตาไม่ดีนัก ซ้ำยังหูตึงอีกด้วย ชายชราผู้นี้ดวงดียิ่งนัก ที่กล่าวว่าเขาดวงดี นั่นก็เพราะว่าเขาสายตาไม่ดี ดังนั้นจึงอ่านหนังสือพิมพ์ไม่ได้ เขาจึงไม่รับรู้สถานการณ์ข้างนอกเลยแม้แต่น้อย
และเพราะชายชนชราไม่รู้ว่าวิกฤตเศรษฐกิจขณะนี้เลวร้ายเพียงใด เขาจึงทำทุกอย่างตามเดิม ทาสีประตูร้านอย่างสาวยงาม ปักป้ายโฆษณาร้านไว้ริมถนนให้ลูกค้าได้เห็นกันแต่ไกล อาหารที่เตรียมไว้ในร้านก็ล้วนแต่เป็นของดีราคาถูก รสชาดยอดเยี่ยม แม้แต่คนต่างถิ่นก็ยังอดแวะมาชิมอาหารร้านนี้ไม่ได้
ชายชราทำงานอย่างขยันหมั่นเพียร หาเงินส่งลูกชายจนเข้าเรียนมหาลัยได้ ฝ่ายลูกชายนั้นเมื่อเข้าเรียนมหาลัยก็เลือกเรียนวิชาเศรษฐศาสตร์ และนั่นทำให้ชายหนุ่มรู้ซึ้งถึงสภาวะเศรษฐกิจของอเมริกาเป็นอย่างดี
ในเทศกาลวันศริสมาสต์ปีนั้นเอง ลูกชายก็กลับมาเยี่ยมบ้านเมื่อเขาเห็นกิจการที่บ้านยังเฟื่องฟูอยู่เช่นนั้น ชายหนุมก็เอ่ยกับผู้เป็นพ่อว่า “พ่อครับ ผมว่าที่นี่มีบางอย่างผิดปกตินะ พ่อไม่น่าทำการค้าขายได้ดีขนาดนี้เลย เห็นท่าทางกระตือรือร้นของพ่อแบบนี้แล้วเหมือนกับว่าเศรษรฐกิจภายนอกกำลังเฟื่องฟูอย่างไรอย่างนั้น” ว่าแล้วลูกชายก็เล่าถึงต้นสายปลายเหตุของวิกฤตเศรษฐกิจทั้งหมด และยังบอกว่าคนอเมริกันทั้งหลายนั้นก็พากันรัดเข็มขัดตัวเองให้แน่นกันทั้งสิ้น
ชายชราได้ฟังก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมาทันใด เขาบอกกับตัวเองว่า...ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว ทางที่ดีที่สุดปีนี้ก็ไม่ต้องทาสีประตูร้านใหม่อีก ภายนอกเกิดปัญหาใหญ่เช่นนี้ เราจะต้องประหยัดเงินสักหน่อย อีกอย่างใคร ๆ ก็พากันจนลง แล้วจะต้องทำป้ายโฆษณาริมทางอีกทำไมกัน...
ดังนั้นชายชราจึงเลิกขะมักเขม้นทำงานอย่างเช่นที่เคยเป็น ผลสุดท้ายเป็นเช่นไรกันเล่า? กิจการของเขาก็ทรุดลงอย่างฮวบฮาบ
เมื่อลูกชายกลับมาที่บ้านในช่วงเทศกาลอีสเตอร์อีกครั้ง ผู้เป็นพ่อก็กล่าวว่า “ลูกรัก พ่อต้องขอบใจเจ้ามากที่เล่าเรื่องเศรษฐกิจอันย่ำแย่ให้ฟัง มันเป็นเรื่องจริงอย่างที่เจ้าว่า แม้แต่ร้านเล็ก ๆ ของพ่อก็ยังได้รับผลกระทบไปด้วย ลูกเอ๋ย การเรียนมหาวิทยาลัยช่างมีประโยชน์เสียเหลือเกิน”
เรื่องราวเช่นนี้ทำให้เกิดข้อสรุปอย่างไรบ้าง? ถ้าชายชราผู้นี้ไม่ฟังคำพูดของผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจ (ลูกชายของเขา) หากอาศัยความมานะบากบั่นและโอกาสของตนก็เพียงพอแล้วมิใช่หรือ? เช่นนี้จึงได้มีคนเคยกล่าวเอาไว้ว่า ผู้เชี่ยวชาญก็คือ ผู้เชี่ยวชาญการทำลายผู้อื่น

[คนอุดร]

เล่าสู่กันฟังครับ ข้อคิดดีๆจากหนังสือ " No Change, No Opportunity " ของ เจิง เสี่ยวเกอ ครับ:P

[Java The Boy]

เช่นนี้จึงได้มีคนเคยกล่าวเอาไว้ว่า ผู้เชี่ยวชาญก็คือ ผู้เชี่ยวชาญการทำลายผู้อื่น[/color]

ชอบครับ ขอบคุณที่นำมาให้อ่าน

[minkyman]

ขอบคุณครับ ลึกซึ้งจริงๆชอบครับ

[chukieat30]

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆๆครับ

[kobpongpr]

ขอบคุณครับ

[Jeng]

ลูกชายไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในการเปิดร้านอาหาร

[Packy_Kittiworawut]

ลูกชายไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในการเปิดร้านอาหาร

เห็นด้วยครับ

[ziannoom]

กำลังจะสื่อให้เพื่อนๆโฟกัสที่บริษัทไม่ต้องสนใจประเทศอื่นเหรอครับ
แล้วแต่มุมมองครับ ยังไงก็ขอบคุณบทความครับ

[narakon]

ขอบคุณมากๆครับ น่ารักที่สุด จุ๊บๆ

[xylemoo]

ขอบคุณครับ เตือนใจทีเดียวครับ

[Packy_Kittiworawut]

กำลังจะสื่อให้เพื่อนๆโฟกัสที่บริษัทไม่ต้องสนใจประเทศอื่นเหรอครับ
แล้วแต่มุมมองครับ ยังไงก็ขอบคุณบทความครับ

โอ้ อย่างนี้นี่เอง ขอบคุณมากๆครับ

[pornchal]

ผมว่าการ action ต่อข้อมูลของ พ่อผิดครับ ถ้าเศรษฐกิจไม่ดี ควรต้องทำงานหนักขึ้น ต้องทาสีให้ดูดีขึ้น ....กระตุ้นให้คนอยากมากินมากขึ้น...

ข้อมูลถูก แต่ใช้ข้อมูลผิดทาง...ก้อจบครับ...ระวังบทความที่เหมือนมีเหตุผลแต่จริง ๆ ไม่มี ให้ดีนะครับ

ขอยกตัวอย่าง ถ้ารัฐบาลขี้โกงแล้วประเทศเจริญเอามั้ย คนจะตอบว่าเอา เพราะอยากให้ประเทศเจริญ

แต่ความจริงรัฐบาลขี้โกง ทำประเทศล่มจมมากกว่า...

โดยเฉพาะพวก VI ที่ต้องใช้ข้อมูลดีดี ถูกต้องในการตัดสินใจ...

[chitadisai]

เป็นเรื่องที่ให้แง่คิดดีจังเลยครับ ตรงกับใจผมพอดี ^ ^

[syj]

ถ้ายกตัวอย่างเรื่องนี้ อืม... ผมว่า แปลว่า
ร้านอาหารนี้ รสชาติแย่ หรือไม่มีอะไรที่น่า
สนใจ เพราะ ทำมาตั้งนาน ยังไม่มีขาประจำ
มีแต่ขาจรที่เห็นป้ายแล้วเข้ามากิน เสร็จไม่
เคยคิดกลับมากินอีกเลย ...

[aviruth]

ถ้าทุกคนคิดว่ามันจะแย่มันก็จะแย่จริงๆ ถ้าทุกคนคิดว่ามันจะดีมันก็จะดีจริงๆ ผมว่ามันเป็นลูกโซ่นะ

[lengmanutd]

ขอบคุณครับ เห็นภาพได้ชัดเจนดี

[monsoon]

ขอบคุณครับ

บางที คนที่เป็นอัจฉริยะ อาจจะโชคดีที่ไม่ถูกสอนให้เป็นอัจฉริยะ...

[Mp808]

I don't pity ignorance.

The father should have thought before he acted.

[K o S o L]

I don't pity ignorance.

The father should have thought before he acted.

+1 เพราะการคิดแบบเหมารวมว่าความเห็นของผู้เชี่ยวชาญไม่สำคัญเลย อาจจะทำให้เราตัดสินใจพลาดในเรื่องที่เราไม่รู้ก็ได้นะครับ

[仕手株]

เมื่อผู้เชี่ยวชาญพูดก็จะมีคนทำตาม เสร็จแล้วก็อาจจะบอกต่อ แล้วถ้ายังมีคนทำตามอีก ตามอีก
บอกต่ออีก บอกต่ออีก ตามอีก บอกต่ออีก ตามอีก ไปเรื่อยๆแบบนี้หละก็ สิ่งที่ไม่จริงก็คงเป็นจริง
หรือสิ่งที่เป็นจริง ก็ปรากฏชัดเร็วขึ้น

จะว่าไปร้านอาหารของชายชราคนนี้ เป็นแค่niche market คงจะไปวัดภาพรวมอะไรไม่ได้หรอก
ผมว่าอีตาคนนี้คงต้องไปศึกษาเรื่องmarketingเพิ่มเติมรึเปล่า

[proxies]

ขอบคุณครับ