ไพลินบุ๊คเน็ต เตรียมเข้าตลาด MAI
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
ไพลินบุ๊คเน็ต เตรียมเข้าตลาด MAI
โพสต์ที่ 1
‘ไพลินบุ๊คเน็ต’ ยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต. เสนอขายหุ้น
เดินหน้าเข้าระดมทุนตลาด เอ็ม เอ ไอ
“ไพลินบุ๊คเน็ต” แต่งตั้ง “แอ๊บโซลูท แอ็ดไวเซอรี่” เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เดินหน้าระดมทุนก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ พร้อมยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต.ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2554 ก่อนขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เผยธุรกิจหลักทั้งผลิตและจำหน่ายหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊ค จับกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่กลุ่มเด็ก นักเรียน นักศึกษา ไปถึงวัยทำงานและผู้สูงอายุ ชูจุดเด่นธุรกิจผลิตและขายหนังสือราคาย่อมเยา ผ่านช่องทางขายหลากหลาย ทั้งร้านสะดวกซื้อและห้างโมเดิร์น เทรด ชี้ธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากแรงสนับสนุนให้คนไทยรักการอ่าน คาดปี 2554 มูลค่าตลาดอุตสาหกรรมสำนักพิมพ์และหนังสือ แตะระดับ 2.1-2.2 หมื่นล้านบาท
นายฉัตรเฉลิม เฉลิมชัยวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไพลินบุ๊คเน็ต จำกัด (มหาชน)
ผู้ดำเนินธุรกิจสำนักพิมพ์ทั้งการเป็นผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คหลากหลายประเภท เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้แต่งตั้ง บริษัท แอ๊บโซลูท แอ็ดไวเซอรี่ จำกัด ในการนำหุ้นของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดยบริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ ก่อนที่จะเตรียมความพร้อมในการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป และเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทร้พย์เอ็ม เอ ไอ ภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ บริษัท ไพลินบุ๊คเน็ต จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจสำนักพิมพ์ ทั้งผลิตและจัดจำหน่ายหนังสือ
พ็อกเก็ตบุ๊คหลากหลายประเภท ซึ่งด้วยความหลากหลายในประเภทเนื้อหาของหนังสือทำให้กลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทฯมีขนาดใหญ่ ประกอบกับราคาจำหน่ายที่ย่อมเยา ทำให้หนังสือของบริษัทฯ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายมากขึ้น โดยบริษัทฯ มีช่องทางการจัดจำหน่ายหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ ร้านหนังสือ ห้างสรรพสินค้า โมเดิร์นเทรด และแหล่งชุมชนต่างๆ ได้แก่ สถานีรถไฟ ตลาดนัด และโรงพยาบาล ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงหนังสือได้สะดวกขึ้น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไพลินบุ๊คเน็ต กล่าวว่า ในปัจจุบัน บริษัทฯ ผลิตและจำหน่ายหนังสือ
พ็อกเกตบุ๊ค ที่เน้นเนื้อหากว้างขวาง หลากหลายประเภท เช่น ภาษา สุขภาพ ความงาม จิตวิทยา ศาสนา
การท่องเที่ยว เป็นต้น นอกจากนี้ ยังผลิตและจำหน่ายหนังสือสำหรับเด็ก ที่เน้นการผลิตหนังสือสำหรับเด็กเล็กเพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมีจุดจำหน่ายหนังสือรวมกันทั้งสิ้นมากกว่า 6,500 แห่ง แบ่งเป็น 2 ประเภทลักษณะ ได้แก่ การจำหน่ายปลีกผ่านการออกพื้นที่ตามห้างสรรพสินค้าหรือสถานที่ที่มีการสัญจรของผู้คนหนาแน่น และการฝากขายตามร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ ร้านโมเดิร์นเทรด และร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมัน ซึ่งนับเป็นจุดแข็งที่ทำให้ธุรกิจของ บมจ.ไพลินบุ๊คเน็ต มีความได้เปรียบ
“แนวโน้มของภาวะอุตสาหกรรมหนังสือและสำนักพิมพ์ยังมีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากการสนับสนุนของหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงภาคเอกชน โดยในปี 2550 มูลค่าตลาดรวมของอุตสาหกรรมนี้อยู่ที่ 1.83 หมื่นล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 2.05 หมื่นล้านบาทในปี 2553 ซึ่งในปี 2554 นี้ เราคาดว่า อุตสาหกรรมหนังสือและสำนักพิมพ์จะมีมูลค่าตลาดระหว่าง 2.1-2.2 หมื่นล้านบาท” นายฉัตรเฉลิมกล่าว
ด้านนางสาวยุพดี รัตนศรีสมโภชน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ๊บโซลูท แอ็ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ.ไพลินบุ๊คเน็ต กล่าวว่า หลังจากบริษัทฯ ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. และได้รับอนุมัติให้ขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) แล้ว ก็จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ได้ ซึ่งคาดว่าจะซื้อขายได้ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
“ธุรกิจหนังสือยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากการที่ภาครัฐและเอกชนมีโครงการสนับสนุนการอ่านอย่างจริงจัง ขณะที่ธุรกิจของบริษัทฯ ก็มีความได้เปรียบที่ความหลากหลายของประเภทหนังสือที่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายในทุกกลุ่ม ประกอบกับราคาหนังสือที่ย่อมเยา และช่องทางการจำหน่ายมากกว่า 6,500 แห่งทั่วประเทศ ทำให้เราเชื่อมั่นว่า บมจ.ไพลินบุ๊คเน็ตจะขยายธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต” นางสาวยุพดีกล่าว
เดินหน้าเข้าระดมทุนตลาด เอ็ม เอ ไอ
“ไพลินบุ๊คเน็ต” แต่งตั้ง “แอ๊บโซลูท แอ็ดไวเซอรี่” เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เดินหน้าระดมทุนก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ พร้อมยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต.ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2554 ก่อนขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เผยธุรกิจหลักทั้งผลิตและจำหน่ายหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊ค จับกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่กลุ่มเด็ก นักเรียน นักศึกษา ไปถึงวัยทำงานและผู้สูงอายุ ชูจุดเด่นธุรกิจผลิตและขายหนังสือราคาย่อมเยา ผ่านช่องทางขายหลากหลาย ทั้งร้านสะดวกซื้อและห้างโมเดิร์น เทรด ชี้ธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากแรงสนับสนุนให้คนไทยรักการอ่าน คาดปี 2554 มูลค่าตลาดอุตสาหกรรมสำนักพิมพ์และหนังสือ แตะระดับ 2.1-2.2 หมื่นล้านบาท
นายฉัตรเฉลิม เฉลิมชัยวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไพลินบุ๊คเน็ต จำกัด (มหาชน)
ผู้ดำเนินธุรกิจสำนักพิมพ์ทั้งการเป็นผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คหลากหลายประเภท เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้แต่งตั้ง บริษัท แอ๊บโซลูท แอ็ดไวเซอรี่ จำกัด ในการนำหุ้นของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดยบริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ ก่อนที่จะเตรียมความพร้อมในการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป และเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทร้พย์เอ็ม เอ ไอ ภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ บริษัท ไพลินบุ๊คเน็ต จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจสำนักพิมพ์ ทั้งผลิตและจัดจำหน่ายหนังสือ
พ็อกเก็ตบุ๊คหลากหลายประเภท ซึ่งด้วยความหลากหลายในประเภทเนื้อหาของหนังสือทำให้กลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทฯมีขนาดใหญ่ ประกอบกับราคาจำหน่ายที่ย่อมเยา ทำให้หนังสือของบริษัทฯ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายมากขึ้น โดยบริษัทฯ มีช่องทางการจัดจำหน่ายหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ ร้านหนังสือ ห้างสรรพสินค้า โมเดิร์นเทรด และแหล่งชุมชนต่างๆ ได้แก่ สถานีรถไฟ ตลาดนัด และโรงพยาบาล ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงหนังสือได้สะดวกขึ้น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไพลินบุ๊คเน็ต กล่าวว่า ในปัจจุบัน บริษัทฯ ผลิตและจำหน่ายหนังสือ
พ็อกเกตบุ๊ค ที่เน้นเนื้อหากว้างขวาง หลากหลายประเภท เช่น ภาษา สุขภาพ ความงาม จิตวิทยา ศาสนา
การท่องเที่ยว เป็นต้น นอกจากนี้ ยังผลิตและจำหน่ายหนังสือสำหรับเด็ก ที่เน้นการผลิตหนังสือสำหรับเด็กเล็กเพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมีจุดจำหน่ายหนังสือรวมกันทั้งสิ้นมากกว่า 6,500 แห่ง แบ่งเป็น 2 ประเภทลักษณะ ได้แก่ การจำหน่ายปลีกผ่านการออกพื้นที่ตามห้างสรรพสินค้าหรือสถานที่ที่มีการสัญจรของผู้คนหนาแน่น และการฝากขายตามร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ ร้านโมเดิร์นเทรด และร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมัน ซึ่งนับเป็นจุดแข็งที่ทำให้ธุรกิจของ บมจ.ไพลินบุ๊คเน็ต มีความได้เปรียบ
“แนวโน้มของภาวะอุตสาหกรรมหนังสือและสำนักพิมพ์ยังมีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากการสนับสนุนของหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงภาคเอกชน โดยในปี 2550 มูลค่าตลาดรวมของอุตสาหกรรมนี้อยู่ที่ 1.83 หมื่นล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 2.05 หมื่นล้านบาทในปี 2553 ซึ่งในปี 2554 นี้ เราคาดว่า อุตสาหกรรมหนังสือและสำนักพิมพ์จะมีมูลค่าตลาดระหว่าง 2.1-2.2 หมื่นล้านบาท” นายฉัตรเฉลิมกล่าว
ด้านนางสาวยุพดี รัตนศรีสมโภชน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ๊บโซลูท แอ็ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ.ไพลินบุ๊คเน็ต กล่าวว่า หลังจากบริษัทฯ ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. และได้รับอนุมัติให้ขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) แล้ว ก็จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ได้ ซึ่งคาดว่าจะซื้อขายได้ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
“ธุรกิจหนังสือยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากการที่ภาครัฐและเอกชนมีโครงการสนับสนุนการอ่านอย่างจริงจัง ขณะที่ธุรกิจของบริษัทฯ ก็มีความได้เปรียบที่ความหลากหลายของประเภทหนังสือที่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายในทุกกลุ่ม ประกอบกับราคาหนังสือที่ย่อมเยา และช่องทางการจำหน่ายมากกว่า 6,500 แห่งทั่วประเทศ ทำให้เราเชื่อมั่นว่า บมจ.ไพลินบุ๊คเน็ตจะขยายธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต” นางสาวยุพดีกล่าว
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ไพลินบุ๊คเน็ต เตรียมเข้าตลาด MAI
โพสต์ที่ 3
ธุรกิจ : BizWeek
วันที่ 5 มีนาคม 2553 01:00
ฝันปั้น 'ไพลินบุ๊คเน็ต' Value-Growth Stock
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
Share
TOOLS
ขนาดตัวอักษร
พิมพ์ข่าวนี้
ส่งต่อให้เพื่อน
แบ่งปันข่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เซียนหุ้นผู้พบ 'สัจธรรม' (ตอนที่ 1)
ไพลินบุ๊คเน็ต เล็งเข้าตลาดเอ็ม เอ ไอ ปี'53
คอลัมน์อื่นๆ
Coporate Movement
ปิยสวัสดิ์ ห่วงชุมนุมยืดเยื้อฉุดยอดผู้โดยสาร
บินไทยเผยเปิดเที่ยวบินไปยุโรปครบทุกเส้นทาง
HR Management
ทียูเอฟ กับโรดแมพองค์กรในดวงใจ
ชายน้อย เผื่อนโกสุม กับรางวัลใหญ่ส่งท้ายบทซีอีโอ
Marketing
ฟูจิฟิล์ม เจาะตลาดกลางปรับช่องขาย-ส่งรุ่นใหม่ดันแชร์15%
'เป๊ปซี่โค' ทุ่ม4.5 พันล้าน ฮุบ 'เสริมสุข'
"ฉัตรเฉลิม เฉลิมชัยวัฒน์" ตอบข้อสงสัยว่า ทำไมถึงนำธุรกิจสำนักพิมพ์ ผู้จัดจำหน่าย และร้านหนังสือ ที่ดูเหมือนเป็นธุรกิจ “ตะวันตกดิน”
ถ้าเป็นธุรกิจหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารอาจจะใช่ (ตะวันตกดิน) เพราะมีการแข่งขันสูงและต้นทุนสูง แต่หนังสือเล่มหรือพอคเก็ตบุ๊คเป็นสื่อที่ไม่มีวันตาย ตลาดอาจไม่หวือหวาแต่มั่นคงสูง ไพลินบุ๊คเน้นตลาดล่างราคาขายประมาณร้อยกว่าบาท เน้นเนื้อหาที่ชาวบ้านเข้าใจได้ง่าย เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และมีผู้เล่นน้อยราย
"เราพูดได้ว่าทุกๆ บ้านจะต้องมีหนังสือของไพลินบุ๊คอย่างน้อยหนึ่งเล่ม"
ไพลินบุ๊คเน็ต มีจุดเด่นคือการเป็นบริษัทที่ผลิตหนังสือพอคเก็ตบุ๊คเป็นของตัวเอง ประมาณ 5,000 ชื่อเรื่อง มีความหลากหลายครอบคลุมทุกๆ หมวดหมู่ โดยกลยุทธ์การทำตลาดจะมุ่งจำหน่ายปลีกให้กับผู้อ่านในราคาประหยัดซึ่งถือเป็นจุดเด่นของบริษัทที่มีเหนือคู่แข่ง
นอกจากนี้ ยังมีจุดขายทั้งที่เป็นร้านหนังสือ และเอาท์เลต เป็นของตัวเอง ประมาณ 200 แห่ง ฝากขายในซูเปอร์สโตร์ชั้นนำทั้งในโลตัส, บิ๊กซี และคาร์ฟูร์ กว่า 100 แห่ง ขายผ่านร้านหนังสือทั่วประเทศประมาณ 2000 ร้านค้า จัดจำหน่ายผ่านร้านสะดวกซื้อ 7-11 อีกกว่า 3,000 แห่ง รวมทั้งผ่านร้านมินิมาร์ท ในปั๊มน้ำมันอีกกว่า 1,000 แห่ง ทำให้สินค้าของบริษัทสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างสะดวก
เหตุผลที่เตรียมนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นต้องการให้คนทั่วไปรู้จักชื่อ "ไพลินบุ๊คเน็ต" มากขึ้น รวมถึงนำเงินมาเป็นทุนเปิดร้านหนังสือของตัวเองประมาณ 100 สาขา หรือลงทุนประมาณสาขาละ 1 ล้านบาท เบื้องต้นจะกระจายหุ้นสัดส่วน 25% ให้กับรายย่อย คาดว่าจะเข้าซื้อขายได้ในไตรมาส 3 ปีนี้ ตั้งเป้าภายใน 3 ปีข้างหน้าจะขายหนังสือของสำนักพิมพ์อื่นสัดส่วน 50:50 จากปัจจุบันขายเฉพาะของตัวเอง 100%
“รายได้ของไพลินบุ๊คเน็ตสองปีย้อนหลังมีการเติบโตถึง 100% ปีที่แล้วก็เติบโต 25% คาดว่าปีนี้จะเติบโต 50%”
จุดเด่นอีกอย่างของบริษัทคือมีอัตรากำไรสุทธิ 10% สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไปของธุรกิจนี้คือ 5% เป็นเพราะมีการบริหารต้นทุนที่ดี ทำให้ไม่มีปัญหาสต็อกหนังสือล้นปัจจุบันบริษัทก็แทบจะไม่มีหนี้สินด้วย
แน่นอนว่า หุ้นไพลินบุ๊คเน็ตเมื่อเข้าตลาดจะต้องถูกเปรียบเทียบกับ หุ้น SE-ED และหุ้น APRINT ที่ทำธุรกิจคล้ายกันและเป็นขวัญใจนักลงทุนหุ้นคุณค่า ฉัตรเฉลิม บอกว่า ไพลินจะมีทั้งความเหมือนและแตกต่าง นอกจากจะมีรายได้ที่มั่นคง ธุรกิจไม่ซับซ้อนแล้ว ยังมี Growth Story ที่น่าตื่นเต้นรออยู่
เขาอธิบายว่า ในหนึ่งปีจะมีพอคเก็ตบุ๊คออกใหม่ปีละ 15,000 ปก เฉลี่ยแล้วจะมีหนังสือเหลือปกละ 1,000 เล่ม รวมกันประมาณปีละ 15 ล้านเล่ม บริษัทจะขอรับไปขายต่อลดราคาจำนวน 10 ล้านเล่ม ผ่านช่องทางขายที่กล้าเคลมว่า “มากที่สุด” ในประเทศ จุดนี้จะเป็นช่องทางรายได้ใหม่ในอนาคต
“ผมให้นิยามหุ้นไพลินบุ๊คเน็ตว่าจะเป็นทั้งหุ้นคุณค่าที่แวลูอินเวสเตอร์ชอบ และ Growth Stock ที่มีสตอรี่การเติบโต”
วันที่ 5 มีนาคม 2553 01:00
ฝันปั้น 'ไพลินบุ๊คเน็ต' Value-Growth Stock
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
Share
TOOLS
ขนาดตัวอักษร
พิมพ์ข่าวนี้
ส่งต่อให้เพื่อน
แบ่งปันข่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เซียนหุ้นผู้พบ 'สัจธรรม' (ตอนที่ 1)
ไพลินบุ๊คเน็ต เล็งเข้าตลาดเอ็ม เอ ไอ ปี'53
คอลัมน์อื่นๆ
Coporate Movement
ปิยสวัสดิ์ ห่วงชุมนุมยืดเยื้อฉุดยอดผู้โดยสาร
บินไทยเผยเปิดเที่ยวบินไปยุโรปครบทุกเส้นทาง
HR Management
ทียูเอฟ กับโรดแมพองค์กรในดวงใจ
ชายน้อย เผื่อนโกสุม กับรางวัลใหญ่ส่งท้ายบทซีอีโอ
Marketing
ฟูจิฟิล์ม เจาะตลาดกลางปรับช่องขาย-ส่งรุ่นใหม่ดันแชร์15%
'เป๊ปซี่โค' ทุ่ม4.5 พันล้าน ฮุบ 'เสริมสุข'
"ฉัตรเฉลิม เฉลิมชัยวัฒน์" ตอบข้อสงสัยว่า ทำไมถึงนำธุรกิจสำนักพิมพ์ ผู้จัดจำหน่าย และร้านหนังสือ ที่ดูเหมือนเป็นธุรกิจ “ตะวันตกดิน”
ถ้าเป็นธุรกิจหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารอาจจะใช่ (ตะวันตกดิน) เพราะมีการแข่งขันสูงและต้นทุนสูง แต่หนังสือเล่มหรือพอคเก็ตบุ๊คเป็นสื่อที่ไม่มีวันตาย ตลาดอาจไม่หวือหวาแต่มั่นคงสูง ไพลินบุ๊คเน้นตลาดล่างราคาขายประมาณร้อยกว่าบาท เน้นเนื้อหาที่ชาวบ้านเข้าใจได้ง่าย เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และมีผู้เล่นน้อยราย
"เราพูดได้ว่าทุกๆ บ้านจะต้องมีหนังสือของไพลินบุ๊คอย่างน้อยหนึ่งเล่ม"
ไพลินบุ๊คเน็ต มีจุดเด่นคือการเป็นบริษัทที่ผลิตหนังสือพอคเก็ตบุ๊คเป็นของตัวเอง ประมาณ 5,000 ชื่อเรื่อง มีความหลากหลายครอบคลุมทุกๆ หมวดหมู่ โดยกลยุทธ์การทำตลาดจะมุ่งจำหน่ายปลีกให้กับผู้อ่านในราคาประหยัดซึ่งถือเป็นจุดเด่นของบริษัทที่มีเหนือคู่แข่ง
นอกจากนี้ ยังมีจุดขายทั้งที่เป็นร้านหนังสือ และเอาท์เลต เป็นของตัวเอง ประมาณ 200 แห่ง ฝากขายในซูเปอร์สโตร์ชั้นนำทั้งในโลตัส, บิ๊กซี และคาร์ฟูร์ กว่า 100 แห่ง ขายผ่านร้านหนังสือทั่วประเทศประมาณ 2000 ร้านค้า จัดจำหน่ายผ่านร้านสะดวกซื้อ 7-11 อีกกว่า 3,000 แห่ง รวมทั้งผ่านร้านมินิมาร์ท ในปั๊มน้ำมันอีกกว่า 1,000 แห่ง ทำให้สินค้าของบริษัทสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างสะดวก
เหตุผลที่เตรียมนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นต้องการให้คนทั่วไปรู้จักชื่อ "ไพลินบุ๊คเน็ต" มากขึ้น รวมถึงนำเงินมาเป็นทุนเปิดร้านหนังสือของตัวเองประมาณ 100 สาขา หรือลงทุนประมาณสาขาละ 1 ล้านบาท เบื้องต้นจะกระจายหุ้นสัดส่วน 25% ให้กับรายย่อย คาดว่าจะเข้าซื้อขายได้ในไตรมาส 3 ปีนี้ ตั้งเป้าภายใน 3 ปีข้างหน้าจะขายหนังสือของสำนักพิมพ์อื่นสัดส่วน 50:50 จากปัจจุบันขายเฉพาะของตัวเอง 100%
“รายได้ของไพลินบุ๊คเน็ตสองปีย้อนหลังมีการเติบโตถึง 100% ปีที่แล้วก็เติบโต 25% คาดว่าปีนี้จะเติบโต 50%”
จุดเด่นอีกอย่างของบริษัทคือมีอัตรากำไรสุทธิ 10% สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไปของธุรกิจนี้คือ 5% เป็นเพราะมีการบริหารต้นทุนที่ดี ทำให้ไม่มีปัญหาสต็อกหนังสือล้นปัจจุบันบริษัทก็แทบจะไม่มีหนี้สินด้วย
แน่นอนว่า หุ้นไพลินบุ๊คเน็ตเมื่อเข้าตลาดจะต้องถูกเปรียบเทียบกับ หุ้น SE-ED และหุ้น APRINT ที่ทำธุรกิจคล้ายกันและเป็นขวัญใจนักลงทุนหุ้นคุณค่า ฉัตรเฉลิม บอกว่า ไพลินจะมีทั้งความเหมือนและแตกต่าง นอกจากจะมีรายได้ที่มั่นคง ธุรกิจไม่ซับซ้อนแล้ว ยังมี Growth Story ที่น่าตื่นเต้นรออยู่
เขาอธิบายว่า ในหนึ่งปีจะมีพอคเก็ตบุ๊คออกใหม่ปีละ 15,000 ปก เฉลี่ยแล้วจะมีหนังสือเหลือปกละ 1,000 เล่ม รวมกันประมาณปีละ 15 ล้านเล่ม บริษัทจะขอรับไปขายต่อลดราคาจำนวน 10 ล้านเล่ม ผ่านช่องทางขายที่กล้าเคลมว่า “มากที่สุด” ในประเทศ จุดนี้จะเป็นช่องทางรายได้ใหม่ในอนาคต
“ผมให้นิยามหุ้นไพลินบุ๊คเน็ตว่าจะเป็นทั้งหุ้นคุณค่าที่แวลูอินเวสเตอร์ชอบ และ Growth Stock ที่มีสตอรี่การเติบโต”
-
- Verified User
- โพสต์: 1667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ไพลินบุ๊คเน็ต เตรียมเข้าตลาด MAI
โพสต์ที่ 7
ผมเห็น หนังสือ สนพ.ไพลิน มาขายโละถูกๆ หลายครั้งแล้วครับaurakasa เขียน:ผมชอบหุ้นเเนวนี้ครับ เเต่ไปดูเเล้วหนังสือไม่ค่อยดึงดูดเป็นหนังสือเเนวความเชื่อเเละภาษาอังกฤษ72ชม. ไรงี้ ดูทรงเเล้วจากผลิตภัณฑ์ผมว่าคู่เเข่งคือ SMM มากกว่าครับ
คงไม่มีใคร หาเงินมากมาย ไว้ยัดใส่โลงศพตัวเอง
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
- NAI-A SIKHIU
- Verified User
- โพสต์: 584
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ไพลินบุ๊คเน็ต เตรียมเข้าตลาด MAI
โพสต์ที่ 9
นครจันทึก จารึกภาพ ๔,๐๐๐ ปี สี่เขี้ยวต้นตำนาน คู่บ้านลำตะคลอง
-
- Verified User
- โพสต์: 1401
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ไพลินบุ๊คเน็ต เตรียมเข้าตลาด MAI
โพสต์ที่ 10
เค้าเน้นหนังสือถูกๆ เก่าๆ มาวางขายลดราคาตามห้างและตามงานต่างๆ (เหมือนหนังสือแถวผ่านฟ้าน่ะครับ)teetotal เขียน:ผมเห็น หนังสือ สนพ.ไพลิน มาขายโละถูกๆ หลายครั้งแล้วครับaurakasa เขียน:ผมชอบหุ้นเเนวนี้ครับ เเต่ไปดูเเล้วหนังสือไม่ค่อยดึงดูดเป็นหนังสือเเนวความเชื่อเเละภาษาอังกฤษ72ชม. ไรงี้ ดูทรงเเล้วจากผลิตภัณฑ์ผมว่าคู่เเข่งคือ SMM มากกว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ไพลินบุ๊คเน็ต เตรียมเข้าตลาด MAI
โพสต์ที่ 12
คอลัมน์เจาะกระดานหุ้น : โยกกระเป๋าซ้าย...ใส่กระเป๋าขวา
Source - ข่าวหุ้น (Th)
Wednesday, July 20, 2011 04:11
49595 XTHAI XECON XFINSEC ZSTOCK V%PAPERL P%KHD
กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--ข่าวหุ้น
*แม้วานนี้ตลาดหุ้นไทยจะสวนกระแสตลาดหุ้นทั่วโลกด้วยการไต่ระดับขึ้นมาปิดที่ 1,096.77 จุด บวกไป 12.83 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายกว่า 3.72 หมื่นล้านบาท แต่เรื่องดังกล่าวก็ทำให้ “โมนิก้า” มีความสุขแค่ประเดี๋ยวเดียว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กันคือ เหล่าพ่อมดแม่มดเริ่มออกปฏิบัติการสร้างเรื่องแหกตาชาวบ้านกันอีกครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่กุลสตรีอย่างเดี๊ยนรับไม่ได้จริงๆ (อิงกระแสการต่อต้านคอร์รัปชั่น)
*ประเด็นเรื่องทั้งหมดอาจไม่มีอะไรผิดแผกแหวกประเพณี ถ้าไม่มีการย่ำยีหัวใจนักลงทุนรายย่อย และคนในวงการที่รู้เท่าทันกลุ่มคนดังกล่าว เพราะปฏิบัติการณ์เริ่มเล่นแร่แปรธาตุมันเป็นมุขเดิมๆ ที่ทุกคนรู้เห็นกันเต็มตา... โอ๊ะโอ๋!!...พี่น้องชาวหุ้นรุ่นใหม่ รุ่นเก่า หรือรุ่นเดอะ เห็นแล้วได้แต่เกาหัวแกรกๆ ไอ้ตอนแรกๆ ก็ทำเป็นเหนียมๆ เรียบๆ ง่ายๆ ตั้งใจทำบริหารงานจริงๆ พอเอาเข้าจริงกลับแลบลิ้น 2 แฉกออกมาให้เห็นแบบนี้!!
* เห็นพวกเราเป็นตัวอะไรทำไมถึงทำกับพวกเราได้ เจ็บช้ำกว่านั้นคือแก๊งพ่อมดดันมาออกให้ข่าวผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์ฯ มันเหมือนกับมองไม่เห็นหัวผู้คุมกฎระเบียบเรียบร้อยกันเลยนะเนี่ย “โมนิก้า” ถึงอยากให้ทุกฝ่ายร่วมด้วยกันกันรุมสหบาทา TSF หลังคณะกรรมการบริษัทมีมติให้เข้าซื้อกิจการ บริษัทปิคนิค คอร์ปอเรชั่น พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่า ตุลาคมนี้...เจอกันแน่ เจ้าค่ะ
*ประเด็นที่ทุกคนสงสัยคือ ทำไมทางการยังทำตัวทื่อเป็น... ทั้งที่เห็นกันอยู่ทนโท่ว่า กลุ่มผู้บริหารมีวาระซ่อนเร้น และด้วยเหตุผลที่บอกว่า เพื่อเป็นการขยายธุรกิจเพิ่มเติม จากปัจจุบันทำเฉพาะธุรกิจสื่อและประชาสัมพันธ์ พร้อมกับคุยโม้โอ้อวดว่า ธุรกิจก๊าซแอลพีจีของปิกนิกมีรายได้ที่แน่นอน (แต่ไซฟ่อนเงินกันเละเทะ) มันฟังไม่ขึ้นจริงๆ แถมมีคนนินทาให้ฟังว่า ผู้บริหารทั้ง 2 ฝั่งสมประโยชน์กันพะยะค่ะ
*สำหรับตัวเลขคร่าวๆ ที่แต่ละฝั่งคุยกันใต้โต๊ะ เพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์บางอย่างอยู่ในหลักร้อยล้านขึ้น แต่โชคดีที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ทำงานเชิงรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงสั่งให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจงเพิ่มเติมกรณีซื้อหุ้นสามัญ PICNI ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ระหว่างฟื้นฟูกิจการ แถมในระหว่างวันได้ยินเสียงแว่วๆ ไซฟ่อน...ไซฟ่อน...ไซฟ่อน ดังกระฉ่อนไปทั่วโรงแก๊สแบบนี้...มันเหมือนเป็นการปล้นตอนกลางวันแสกๆ อีกรอบนะเนี่ย!!...งานนี้ใครอยู่เบื้องหน้า เบื้องหลัง เร็วๆ นี้คงได้รู้กันอย่างแน่นอน (ถ้าอยากรู้เร็ว รู้ลึก อ่านข่าวหน้า 1 ก็แล้วกัน)...ทราบแล้วบอกต่อด้วยเจ้าค่ะ
*เหมือนกับในรายของ “ไพลินบุ๊คเน็ต” แต่งตั้ง “แอ๊บโซลูท แอ็ดไวเซอรี่” เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ โดยจะยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2554 และเมื่อได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการก็จะดำเนินการขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้...มีแมงลือเล่าให้ฟังว่า ผู้บริหารที่ชื่อ “ฉัตรเฉลิม” เคยประกาศไว้ว่า ภารกิจสุดท้ายก่อนเกษียณคือ “ปั้นหุ้นไพลินบุ๊ค” ของ “เสี่ย พ” เซียนหุ้นรายใหญ่ที่เคยมีเรื่องระหองระแหงกับ ก.ล.ต. มาแล้ว...จำได้ไหมเอ่ย??
*จุดที่น่าสนใจอีกอย่างคือ “เจ๊ยุพดี” ที่ขันอาสามาเป็นที่ปรึกษาทางการเงินของ ก็มีสีเทาๆ ปนเปื้อนมาเยอะเหมือนกัน และยังเป็น นกต่อ...อุ๊ย...นางต่อ ให้กับกลุ่มก๊วนมือการเงินที่มีชนักติดหลัง “โมนิก้า” ถึงอยากให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องช่วยเข้าไปตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้กระจ่างชัด เพราะสิ่งที่ปรากฏออกมาให้เห็นในช่วงหลังๆ คือ “ขาใหญ่เห็นตลาดหุ้นเป็นตู้เอทีเอ็ม” อยากจะได้เงินใช้เล่นๆ ก็เดินดุ่มๆ เข้ามากดกันหน้าตาเฉยเจ้าค่ะ--จบ--
Source - ข่าวหุ้น (Th)
Wednesday, July 20, 2011 04:11
49595 XTHAI XECON XFINSEC ZSTOCK V%PAPERL P%KHD
กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--ข่าวหุ้น
*แม้วานนี้ตลาดหุ้นไทยจะสวนกระแสตลาดหุ้นทั่วโลกด้วยการไต่ระดับขึ้นมาปิดที่ 1,096.77 จุด บวกไป 12.83 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายกว่า 3.72 หมื่นล้านบาท แต่เรื่องดังกล่าวก็ทำให้ “โมนิก้า” มีความสุขแค่ประเดี๋ยวเดียว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กันคือ เหล่าพ่อมดแม่มดเริ่มออกปฏิบัติการสร้างเรื่องแหกตาชาวบ้านกันอีกครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่กุลสตรีอย่างเดี๊ยนรับไม่ได้จริงๆ (อิงกระแสการต่อต้านคอร์รัปชั่น)
*ประเด็นเรื่องทั้งหมดอาจไม่มีอะไรผิดแผกแหวกประเพณี ถ้าไม่มีการย่ำยีหัวใจนักลงทุนรายย่อย และคนในวงการที่รู้เท่าทันกลุ่มคนดังกล่าว เพราะปฏิบัติการณ์เริ่มเล่นแร่แปรธาตุมันเป็นมุขเดิมๆ ที่ทุกคนรู้เห็นกันเต็มตา... โอ๊ะโอ๋!!...พี่น้องชาวหุ้นรุ่นใหม่ รุ่นเก่า หรือรุ่นเดอะ เห็นแล้วได้แต่เกาหัวแกรกๆ ไอ้ตอนแรกๆ ก็ทำเป็นเหนียมๆ เรียบๆ ง่ายๆ ตั้งใจทำบริหารงานจริงๆ พอเอาเข้าจริงกลับแลบลิ้น 2 แฉกออกมาให้เห็นแบบนี้!!
* เห็นพวกเราเป็นตัวอะไรทำไมถึงทำกับพวกเราได้ เจ็บช้ำกว่านั้นคือแก๊งพ่อมดดันมาออกให้ข่าวผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์ฯ มันเหมือนกับมองไม่เห็นหัวผู้คุมกฎระเบียบเรียบร้อยกันเลยนะเนี่ย “โมนิก้า” ถึงอยากให้ทุกฝ่ายร่วมด้วยกันกันรุมสหบาทา TSF หลังคณะกรรมการบริษัทมีมติให้เข้าซื้อกิจการ บริษัทปิคนิค คอร์ปอเรชั่น พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่า ตุลาคมนี้...เจอกันแน่ เจ้าค่ะ
*ประเด็นที่ทุกคนสงสัยคือ ทำไมทางการยังทำตัวทื่อเป็น... ทั้งที่เห็นกันอยู่ทนโท่ว่า กลุ่มผู้บริหารมีวาระซ่อนเร้น และด้วยเหตุผลที่บอกว่า เพื่อเป็นการขยายธุรกิจเพิ่มเติม จากปัจจุบันทำเฉพาะธุรกิจสื่อและประชาสัมพันธ์ พร้อมกับคุยโม้โอ้อวดว่า ธุรกิจก๊าซแอลพีจีของปิกนิกมีรายได้ที่แน่นอน (แต่ไซฟ่อนเงินกันเละเทะ) มันฟังไม่ขึ้นจริงๆ แถมมีคนนินทาให้ฟังว่า ผู้บริหารทั้ง 2 ฝั่งสมประโยชน์กันพะยะค่ะ
*สำหรับตัวเลขคร่าวๆ ที่แต่ละฝั่งคุยกันใต้โต๊ะ เพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์บางอย่างอยู่ในหลักร้อยล้านขึ้น แต่โชคดีที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ทำงานเชิงรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงสั่งให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจงเพิ่มเติมกรณีซื้อหุ้นสามัญ PICNI ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ระหว่างฟื้นฟูกิจการ แถมในระหว่างวันได้ยินเสียงแว่วๆ ไซฟ่อน...ไซฟ่อน...ไซฟ่อน ดังกระฉ่อนไปทั่วโรงแก๊สแบบนี้...มันเหมือนเป็นการปล้นตอนกลางวันแสกๆ อีกรอบนะเนี่ย!!...งานนี้ใครอยู่เบื้องหน้า เบื้องหลัง เร็วๆ นี้คงได้รู้กันอย่างแน่นอน (ถ้าอยากรู้เร็ว รู้ลึก อ่านข่าวหน้า 1 ก็แล้วกัน)...ทราบแล้วบอกต่อด้วยเจ้าค่ะ
*เหมือนกับในรายของ “ไพลินบุ๊คเน็ต” แต่งตั้ง “แอ๊บโซลูท แอ็ดไวเซอรี่” เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ โดยจะยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2554 และเมื่อได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการก็จะดำเนินการขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้...มีแมงลือเล่าให้ฟังว่า ผู้บริหารที่ชื่อ “ฉัตรเฉลิม” เคยประกาศไว้ว่า ภารกิจสุดท้ายก่อนเกษียณคือ “ปั้นหุ้นไพลินบุ๊ค” ของ “เสี่ย พ” เซียนหุ้นรายใหญ่ที่เคยมีเรื่องระหองระแหงกับ ก.ล.ต. มาแล้ว...จำได้ไหมเอ่ย??
*จุดที่น่าสนใจอีกอย่างคือ “เจ๊ยุพดี” ที่ขันอาสามาเป็นที่ปรึกษาทางการเงินของ ก็มีสีเทาๆ ปนเปื้อนมาเยอะเหมือนกัน และยังเป็น นกต่อ...อุ๊ย...นางต่อ ให้กับกลุ่มก๊วนมือการเงินที่มีชนักติดหลัง “โมนิก้า” ถึงอยากให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องช่วยเข้าไปตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้กระจ่างชัด เพราะสิ่งที่ปรากฏออกมาให้เห็นในช่วงหลังๆ คือ “ขาใหญ่เห็นตลาดหุ้นเป็นตู้เอทีเอ็ม” อยากจะได้เงินใช้เล่นๆ ก็เดินดุ่มๆ เข้ามากดกันหน้าตาเฉยเจ้าค่ะ--จบ--
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ไพลินบุ๊คเน็ต เตรียมเข้าตลาด MAI
โพสต์ที่ 13
ไพลินบุ๊คเน็ตจะขายIPO 100 ล้านหุ้น ใช้ลงทุน-ชำระเงินกู้-ทุนหมุนเวียน
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม 2554 09:21:28 น.
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า บมจ. ไพลินบุ๊คเน็ต (PALIN)ได้ยื่น Filing version แรก ในวันที่ 19 ก.ค. 2554 เนื่องจากบริษัทฯต้องการจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไป(IPO)จำนวน 100 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยมีบริษัท แอ๊บโซลูท แอ็ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ทั้งนี้บริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ, เงินลงทุนในการขยายช่องทางของกิจการ และชำระเงินกู้ระยะยาว
โดยบริษัทมีแนวทางในการดำเนินโครงการใหม่ในอนาคต 3 ประการ คือ 1.เพิ่มช่องทางการจำหน่ายของบริษัท 2.การก่อสร้างพื้นที่คลังสินค้าเพิ่มเติม และ 3.โครงการรับซื้อหนังสือใหม่จากสำนักพิมพ์ทั่วไป
ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/54 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 11.67 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 359.95 ล้านบาท หนี้สินรวม 101.29 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 258.66 ล้านบาท
ณ วันที่ 29 เม.ย.2554 บริษัทมีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 200 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 400 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยเป็นทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 300 ล้านหุ้นหรือมูลค่า 150 ล้านบาท
ส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯ ณ วันที่ 29 เม.ย.2554 คือนายฉัตรเฉลิม เฉลิมชัยวัฒน์ ถือหุ้น 100 ล้านหุ้นหรือคิเป็น 33.33% ภายหลังจากขาย IPO แล้วจะถูกลดสัดส่วนการถือหุ้นลงมาเหลือ 25% นอกจากนี้บริษัทฯมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: [email protected]--
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม 2554 09:21:28 น.
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า บมจ. ไพลินบุ๊คเน็ต (PALIN)ได้ยื่น Filing version แรก ในวันที่ 19 ก.ค. 2554 เนื่องจากบริษัทฯต้องการจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไป(IPO)จำนวน 100 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยมีบริษัท แอ๊บโซลูท แอ็ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ทั้งนี้บริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ, เงินลงทุนในการขยายช่องทางของกิจการ และชำระเงินกู้ระยะยาว
โดยบริษัทมีแนวทางในการดำเนินโครงการใหม่ในอนาคต 3 ประการ คือ 1.เพิ่มช่องทางการจำหน่ายของบริษัท 2.การก่อสร้างพื้นที่คลังสินค้าเพิ่มเติม และ 3.โครงการรับซื้อหนังสือใหม่จากสำนักพิมพ์ทั่วไป
ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/54 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 11.67 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 359.95 ล้านบาท หนี้สินรวม 101.29 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 258.66 ล้านบาท
ณ วันที่ 29 เม.ย.2554 บริษัทมีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 200 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 400 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยเป็นทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 300 ล้านหุ้นหรือมูลค่า 150 ล้านบาท
ส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯ ณ วันที่ 29 เม.ย.2554 คือนายฉัตรเฉลิม เฉลิมชัยวัฒน์ ถือหุ้น 100 ล้านหุ้นหรือคิเป็น 33.33% ภายหลังจากขาย IPO แล้วจะถูกลดสัดส่วนการถือหุ้นลงมาเหลือ 25% นอกจากนี้บริษัทฯมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: [email protected]--
- NAI-A SIKHIU
- Verified User
- โพสต์: 584
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ไพลินบุ๊คเน็ต เตรียมเข้าตลาด MAI
โพสต์ที่ 14
สู่ก้าวย่างแห่งการเติบโต "ไพลินบุ๊คเน็ต"
ปัจจุบันธุรกิจร้านหนังสือเติบโตไปตามการเปิดตัวของหนังสือใหม่ โดยเฉพาะพ็อกเกตบุ๊ก กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ของสังคมเมืองไปเสียแล้ว เราจึงเห็นการเปิดตัวของพ็อกเกตบุ๊กกันไม่เว้นแต่ละวัน และในแต่ละเดือนมีพ็อกเกตบุ๊กมากมายออกสู่ท้องตลาด โดยออกเฉลี่ยมากกว่า 40 ชื่อเรื่อง เดือนละ 1,250 ชื่อเรื่อง ปีละประมาณ 15,000 ชื่อเรื่อง
หนึ่งในผู้ประกอบการธุรกิจหนังสือรายใหญ่ของไทยนั่นคือ บริษัท ไพลินบุ๊คเน็ต จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจสำนักพิมพ์ ผู้จัดจำหน่าย และร้านหนังสือ มีจุดเด่นคือ การเป็นบริษัทที่ผลิตหนังสือพ็อกเกตบุ๊กเป็นของตัวเอง ประมาณ 5,000 ชื่อเรื่อง มีความหลากหลายครอบคลุมทุกๆหมวดหมู่ โดยกลยุทธ์การทำตลาดจะมุ่งจำหน่ายปลีกให้กับผู้อ่านทุกเพศทุกวัยในราคา ประหยัด โดย เฉพาะตอนนี้เน้นเป็นหนังสือเล่มละ 29 บาท ซึ่งมีส่วนลดประมาณ 70%
ถือเป็นจุดเด่นของบริษัทที่มีเหนือคู่แข่ง ทั้งๆที่เป็นหนังสือสภาพใหม่ 100%
จุด เด่นของไพลินบุ๊คเน็ตที่สำคัญคือจุดขายปลีก ทั้งที่เป็นร้านหนังสือ และเอาต์เลตเป็นของตัวเอง 200 แห่งทั่วประเทศ ขายในร้านหนังสือทั่วไป 2,000 แห่ง ขายในบิ๊กซี เทสโก้ โลตัส และแม็คโคร 200 แห่ง มินิมาร์ตอีก 1,000 แห่ง เซเว่นอีเลฟเว่นอีก 3,000-4,000 แห่งทั่วประเทศ และประเทศลาว 1 แห่ง จึงมีช่องทางการกระจายหนังสือหลากหลาย ทำให้สินค้าของบริษัทสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างสะดวก ซึ่งถือเป็นอีกจุดแข็งที่เป็นเอกลักษณ์ของบริษัท และเอื้อต่อการเติบโตในอนาคต กลุ่มเป้าหมายของไพลินคือผู้ซื้อระดับปริญญาตรีลงมาข้างล่าง หัวข้อหนังสือที่เป็นที่นิยมคือ โหราศาสตร์ แนวธรรมะ แนวความเชื่อ หนังสือเด็ก หนังสือผู้หญิง ความสวยความงาม และสุขภาพ
ทั้งหมดนี้ อยู่ในบังเหียนของ "ฉัตรเฉลิม เฉลิมชัยวัฒน์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไพลินบุ๊คเน็ต จำกัด เริ่มต้นธุรกิจกิจการคอมพิวเตอร์กราฟฟิก โดยได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนคนหนึ่งคือไพลิน สีน้ำเงิน จากนิตยสารอินไซด์ทีวี จนเห็นช่องทางการเปิดสำนักพิมพ์ จึงก่อตั้งบริษัทไพลินบุ๊คเน็ตขึ้นในปี พ.ศ. 2537
เริ่ม ต้นธุรกิจจากเช่าทาวน์เฮาส์เล็กๆกับพนักงานเพียง3-4 คน ปัจจุบันกิจการเจริญเติบโตมั่นคง สำนักงานตั้งอยู่บนที่ดิน 14 ไร่ บนถนนเสรีไทย มีพนักงานกว่า 500 คน ทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท นายฉัตรเฉลิมเคยเป็นนักเขียนหนังสือพ็อกเกตบุ๊กดัง 2 เล่มคือ "นางอันเป็นที่รักใน พระพุทธเจ้าหลวง" และ "ลูกๆของพ่อ" โดยใช้นามปากกาว่า "ฉัตรเฉลิม"
นายฉัตรเฉลิมกล่าวว่า ขณะนี้ตลาดหนังสือพ็อกเกตบุ๊ก นอกจากจะเป็นที่นิยมและมีอัตราการเจริญเติบโตสูงทุกปีในประเทศแล้ว ยังเป็นที่นิยมของตลาดประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย โดยไพลินบุ๊คเน็ตได้ เปิดร้านหนังสือพ็อกเกตบุ๊กของไพลินที่ศูนย์แสดงสินค้าลาว–ไอเทค ในกรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มากว่า 3 ปีแล้ว โดยมีผลตอบรับอย่างดีมาก คนลาวนิยมอ่านหนังสือไทย เนื่องจากคนลาวปกติก็ชอบดูโทรทัศน์ไทยอยู่แล้ว จึงพูดอ่านเขียนไทยได้ อีกทั้งคนลาวยังมีกำลังซื้อและเกาะติดเทรนด์อย่างใกล้ชิด
หัวข้อ หนังสือที่เป็นที่นิยมในลาวขณะนี้ เป็นหนังสือพวกวัยรุ่น หนังสือเกี่ยวกับการเลี้ยงดูเด็ก สุขภาพ ความงาม โหราศาสตร์ ทางไพลินบุ๊คเน็ต ต้องการบุกตลาดลาวให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นเจ้าตลาดในด้านหนังสือพ็อกเกตบุ๊กราคาย่อมเยาในไทยอยู่แล้ว โดยจุดแข็งของบริษัทคือ หนังสือพ็อก-เกตบุ๊กราคา 29 บาท ที่ใครๆก็ซื้อหามาอ่านได้ เป็นการจุดประกายของการสร้างปัญญาให้สังคมไทย
" ที่ใครๆกล่าวว่าคนไทยอ่านหนังสือปีละ 8 บรรทัด ผมไม่เห็นด้วย ผมว่าคนไทยอ่านหนังสือปีละ 5 เล่มโดยเฉลี่ย และไพลินจะทำให้คนไทยอ่านเพิ่มขึ้นเป็น 6 เล่มต่อปี จากมูลค่าของตลาดโดยรวม กว่า 20,000 ล้านบาท เฉลี่ยราคาหนังสือเล่มละ 150 บาท เท่ากับ ปีละ 150 ล้านเล่ม ไพลินบุ๊คเน็ตขายปีละ 10 ล้านเล่ม ประมาณ 7% ของจำนวนเล่มที่ขายได้ในตลาดทั้งหมด" นายฉัตรเฉลิมกล่าว
ปัจจุบัน ไพลินบุ๊คเน็ตมีแผนที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (MAI) ในราวไตรมาสที่ 3 ปีหน้า เพื่อขยายไลน์หนังสือ ขยายร้านหนังสือ ชำระคืนเงินกู้และเป็นเงินทุนหมุนเวียน เมื่อเข้าตลาดแล้ว ทุนจดทะเบียนจาก 150 ล้านบาทเป็น 200 ล้านบาท โดยบริษัทมีแผนการเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 50 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ขณะนี้แต่งตั้งบริษัทฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และอยู่ระหว่างยื่นขออนุมัติไฟลิ่งแล้ว คาดว่าจะเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปีหน้า
สำหรับ เงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทจะนำไปชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงินประมาณ 30 ล้านบาท, ขยายไลน์หนังสือ เปิดร้านหนังสือใหม่ โดยจะนำเงินไปขยายสาขา ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 200 สาขา จะเพิ่มร้านหนังสือ 100 แห่ง ซึ่งจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1 ล้านบาทต่อสาขา และที่เหลือเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท.
ปัจจุบันธุรกิจร้านหนังสือเติบโตไปตามการเปิดตัวของหนังสือใหม่ โดยเฉพาะพ็อกเกตบุ๊ก กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ของสังคมเมืองไปเสียแล้ว เราจึงเห็นการเปิดตัวของพ็อกเกตบุ๊กกันไม่เว้นแต่ละวัน และในแต่ละเดือนมีพ็อกเกตบุ๊กมากมายออกสู่ท้องตลาด โดยออกเฉลี่ยมากกว่า 40 ชื่อเรื่อง เดือนละ 1,250 ชื่อเรื่อง ปีละประมาณ 15,000 ชื่อเรื่อง
หนึ่งในผู้ประกอบการธุรกิจหนังสือรายใหญ่ของไทยนั่นคือ บริษัท ไพลินบุ๊คเน็ต จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจสำนักพิมพ์ ผู้จัดจำหน่าย และร้านหนังสือ มีจุดเด่นคือ การเป็นบริษัทที่ผลิตหนังสือพ็อกเกตบุ๊กเป็นของตัวเอง ประมาณ 5,000 ชื่อเรื่อง มีความหลากหลายครอบคลุมทุกๆหมวดหมู่ โดยกลยุทธ์การทำตลาดจะมุ่งจำหน่ายปลีกให้กับผู้อ่านทุกเพศทุกวัยในราคา ประหยัด โดย เฉพาะตอนนี้เน้นเป็นหนังสือเล่มละ 29 บาท ซึ่งมีส่วนลดประมาณ 70%
ถือเป็นจุดเด่นของบริษัทที่มีเหนือคู่แข่ง ทั้งๆที่เป็นหนังสือสภาพใหม่ 100%
จุด เด่นของไพลินบุ๊คเน็ตที่สำคัญคือจุดขายปลีก ทั้งที่เป็นร้านหนังสือ และเอาต์เลตเป็นของตัวเอง 200 แห่งทั่วประเทศ ขายในร้านหนังสือทั่วไป 2,000 แห่ง ขายในบิ๊กซี เทสโก้ โลตัส และแม็คโคร 200 แห่ง มินิมาร์ตอีก 1,000 แห่ง เซเว่นอีเลฟเว่นอีก 3,000-4,000 แห่งทั่วประเทศ และประเทศลาว 1 แห่ง จึงมีช่องทางการกระจายหนังสือหลากหลาย ทำให้สินค้าของบริษัทสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างสะดวก ซึ่งถือเป็นอีกจุดแข็งที่เป็นเอกลักษณ์ของบริษัท และเอื้อต่อการเติบโตในอนาคต กลุ่มเป้าหมายของไพลินคือผู้ซื้อระดับปริญญาตรีลงมาข้างล่าง หัวข้อหนังสือที่เป็นที่นิยมคือ โหราศาสตร์ แนวธรรมะ แนวความเชื่อ หนังสือเด็ก หนังสือผู้หญิง ความสวยความงาม และสุขภาพ
ทั้งหมดนี้ อยู่ในบังเหียนของ "ฉัตรเฉลิม เฉลิมชัยวัฒน์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไพลินบุ๊คเน็ต จำกัด เริ่มต้นธุรกิจกิจการคอมพิวเตอร์กราฟฟิก โดยได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนคนหนึ่งคือไพลิน สีน้ำเงิน จากนิตยสารอินไซด์ทีวี จนเห็นช่องทางการเปิดสำนักพิมพ์ จึงก่อตั้งบริษัทไพลินบุ๊คเน็ตขึ้นในปี พ.ศ. 2537
เริ่ม ต้นธุรกิจจากเช่าทาวน์เฮาส์เล็กๆกับพนักงานเพียง3-4 คน ปัจจุบันกิจการเจริญเติบโตมั่นคง สำนักงานตั้งอยู่บนที่ดิน 14 ไร่ บนถนนเสรีไทย มีพนักงานกว่า 500 คน ทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท นายฉัตรเฉลิมเคยเป็นนักเขียนหนังสือพ็อกเกตบุ๊กดัง 2 เล่มคือ "นางอันเป็นที่รักใน พระพุทธเจ้าหลวง" และ "ลูกๆของพ่อ" โดยใช้นามปากกาว่า "ฉัตรเฉลิม"
นายฉัตรเฉลิมกล่าวว่า ขณะนี้ตลาดหนังสือพ็อกเกตบุ๊ก นอกจากจะเป็นที่นิยมและมีอัตราการเจริญเติบโตสูงทุกปีในประเทศแล้ว ยังเป็นที่นิยมของตลาดประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย โดยไพลินบุ๊คเน็ตได้ เปิดร้านหนังสือพ็อกเกตบุ๊กของไพลินที่ศูนย์แสดงสินค้าลาว–ไอเทค ในกรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มากว่า 3 ปีแล้ว โดยมีผลตอบรับอย่างดีมาก คนลาวนิยมอ่านหนังสือไทย เนื่องจากคนลาวปกติก็ชอบดูโทรทัศน์ไทยอยู่แล้ว จึงพูดอ่านเขียนไทยได้ อีกทั้งคนลาวยังมีกำลังซื้อและเกาะติดเทรนด์อย่างใกล้ชิด
หัวข้อ หนังสือที่เป็นที่นิยมในลาวขณะนี้ เป็นหนังสือพวกวัยรุ่น หนังสือเกี่ยวกับการเลี้ยงดูเด็ก สุขภาพ ความงาม โหราศาสตร์ ทางไพลินบุ๊คเน็ต ต้องการบุกตลาดลาวให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นเจ้าตลาดในด้านหนังสือพ็อกเกตบุ๊กราคาย่อมเยาในไทยอยู่แล้ว โดยจุดแข็งของบริษัทคือ หนังสือพ็อก-เกตบุ๊กราคา 29 บาท ที่ใครๆก็ซื้อหามาอ่านได้ เป็นการจุดประกายของการสร้างปัญญาให้สังคมไทย
" ที่ใครๆกล่าวว่าคนไทยอ่านหนังสือปีละ 8 บรรทัด ผมไม่เห็นด้วย ผมว่าคนไทยอ่านหนังสือปีละ 5 เล่มโดยเฉลี่ย และไพลินจะทำให้คนไทยอ่านเพิ่มขึ้นเป็น 6 เล่มต่อปี จากมูลค่าของตลาดโดยรวม กว่า 20,000 ล้านบาท เฉลี่ยราคาหนังสือเล่มละ 150 บาท เท่ากับ ปีละ 150 ล้านเล่ม ไพลินบุ๊คเน็ตขายปีละ 10 ล้านเล่ม ประมาณ 7% ของจำนวนเล่มที่ขายได้ในตลาดทั้งหมด" นายฉัตรเฉลิมกล่าว
ปัจจุบัน ไพลินบุ๊คเน็ตมีแผนที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (MAI) ในราวไตรมาสที่ 3 ปีหน้า เพื่อขยายไลน์หนังสือ ขยายร้านหนังสือ ชำระคืนเงินกู้และเป็นเงินทุนหมุนเวียน เมื่อเข้าตลาดแล้ว ทุนจดทะเบียนจาก 150 ล้านบาทเป็น 200 ล้านบาท โดยบริษัทมีแผนการเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 50 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ขณะนี้แต่งตั้งบริษัทฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และอยู่ระหว่างยื่นขออนุมัติไฟลิ่งแล้ว คาดว่าจะเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปีหน้า
สำหรับ เงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทจะนำไปชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงินประมาณ 30 ล้านบาท, ขยายไลน์หนังสือ เปิดร้านหนังสือใหม่ โดยจะนำเงินไปขยายสาขา ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 200 สาขา จะเพิ่มร้านหนังสือ 100 แห่ง ซึ่งจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1 ล้านบาทต่อสาขา และที่เหลือเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท.
นครจันทึก จารึกภาพ ๔,๐๐๐ ปี สี่เขี้ยวต้นตำนาน คู่บ้านลำตะคลอง
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ไพลินบุ๊คเน็ต เตรียมเข้าตลาด MAI
โพสต์ที่ 15
‘ไพลินบุ๊คเน็ต’ เชื่อธุรกิจหนังสือคึกคัก
มั่นใจโครงการ ‘มหานครแห่งการอ่าน’ ดันยอดโตกว่า 5%
ผู้บริหาร “ไพลินบุ๊คเน็ต” มั่นใจธุรกิจหนังสือคึกคัก หลังกรุงเทพมหานครเดินหน้าโครงการ “มหานครแห่งการอ่านและการเรียนรู้” หลังได้รับการคัดเลือกเป็นเมืองหนังสือโลกในปี 2556 หรือ World Book Capital 2013 จากยูเนสโก ยอมรับได้รับอานิสงส์จากโครงการดังกล่าว พร้อมเตรียมแผนรับมือ ระบุไม่ห่วงเรื่องการแข่งขัน เพราะการทำตลาดของ “ไพลินบุ๊คเน็ต” แตกต่างจากธุรกิจหนังสือรายอื่น ทั้งราคาย่อมเยา ความหลากหลายของประเภทหนังสือ ช่องทางการจำหน่าย รวมถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ครอบคลุมในวงกว้าง เชื่อกระแส “รักการอ่าน” ผลักดันยอดขายมีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 5%
นายฉัตรเฉลิม เฉลิมชัยวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไพลินบุ๊คเน็ต จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจสำนักพิมพ์ทั้งการเป็นผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คหลากหลายประเภท เปิดเผยว่า จากนโยบายของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่ต้องการส่งเสริมให้กรุงเทพฯ เป็น “มหานครแห่งการอ่านและการเรียนรู้” ในโอกาสที่กรุงเทพมหานครได้รับคัดเลือกให้เป็นเมืองหนังสือโลกในปี 2556 หรือ World Bank Capital 2013 จากองค์กรยูเนสโก นั้น จะส่งผลให้อุตสาหกรรมหนังสือมีความตื่นตัวและคึกคักมากยิ่งขึ้น
“หลังจากนี้กิจกรรมส่งเสริมการอ่านจะมีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งจะสร้างบรรยากาศที่คึกคักให้กับอุตสาหกรรมหนังสืออย่างแน่นอน เพราะในเบื้องต้น ทางกรุงเทพมหานครตั้งเป้าที่จะเพิ่มอัตราการอ่านหนังสือจาก 5 เล่มต่อคนต่อปีในปัจจุบัน เป็น 10-20 เล่มต่อคนต่อปีในปี 2556 สอดคล้องกับการที่รัฐบาลสนับสนุนให้การอ่านเป็นวาระแห่งชาติ โดยกำหนดให้ปี 2552-2561 เป็นทศวรรษแห่งการอ่าน และตั้งเป้าเพิ่มอัตราการอ่านหนังสือจาก 5 เล่มต่อคนต่อปี เป็น 10 เล่มต่อคนต่อปี ในช่วง 3 ปีระหว่างปี 2552-2555 ซึ่งเมื่อนโยบายหลักระดับประเทศและนโยบายของ กทม. เดินไปในทิศทางเดียวกัน จึงเป็นแรงส่งที่มากขึ้น ทำให้เชื่อว่า ภาพรวมของธุรกิจหนังสือน่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นได้อย่างน้อยปีละกว่า 5%” นายฉัตรเฉลิมกล่าว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา บมจ.ไพลินบุ๊คเน็ต มีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้คนไทยอ่านหนังสือเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1 เล่มต่อคนต่อปี และหลังจากนี้ บริษัทฯ จะได้เตรียมแผนที่จะรองรับกับภาพรวมอุตสาหกรรมที่จะเติบโตขึ้น หลังจากที่ธุรกิจหนังสือได้รับอานิสงส์จากโครงการดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของประเภทหนังสือ และช่องทางการจำหน่าย อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ไม่ได้ห่วงในเรื่องของการแข่งขันที่คาดว่าจะตามมา เนื่องจากที่ผ่านมา แนวทางการทำตลาดรวมทั้งกลยุทธ์การบริหารของบริษัทฯ มีความแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายในประเภทเนื้อหาของหนังสือ ที่ทำให้กลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทฯมีขนาดใหญ่ ประกอบกับราคาจำหน่ายที่ย่อมเยา ทำให้หนังสือของบริษัทฯ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายมากขึ้น โดยบริษัทฯ มีช่องทางการจัดจำหน่ายหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ ร้านหนังสือ ห้างสรรพสินค้า โมเดิร์นเทรด และแหล่งชุมชนต่างๆ ได้แก่ สถานีรถไฟ สถานีขนส่ง ตลาดนัด และโรงพยาบาล ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงหนังสือได้สะดวกขึ้น
โดยในปัจจุบัน บมจ.ไพลินบุ๊คเน็ต ผลิตและจำหน่ายหนังสือ พ็อกเกตบุ๊ค ที่เน้นเนื้อหากว้างขวาง หลากหลายประเภท เช่น ภาษา สุขภาพ ความงาม จิตวิทยา ศาสนา การท่องเที่ยว เป็นต้น นอกจากนี้ ยังผลิตและจำหน่ายหนังสือสำหรับเด็ก ที่เน้นการผลิตหนังสือสำหรับเด็กเล็กเพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมีจุดจำหน่ายหนังสือรวมกันทั้งสิ้นมากกว่า 6,500 แห่ง แบ่งเป็น 2 ประเภทลักษณะ ได้แก่ การจำหน่ายปลีกผ่านการออกพื้นที่ตามห้างสรรพสินค้าหรือสถานที่ที่มีการสัญจรของผู้คนหนาแน่น และการฝากขายตามร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ ร้านโมเดิร์นเทรด และร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมัน ซึ่งนับเป็นจุดแข็งที่ทำให้ธุรกิจของ บมจ.ไพลินบุ๊คเน็ต มีความได้เปรียบ
- murder_doll
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ไพลินบุ๊คเน็ต เตรียมเข้าตลาด MAI
โพสต์ที่ 16
หน้าร้านจะเป็นแผงอยู่ตามห้างต่างๆครับ วันนั้นฟังผู้บริหารรู้สึกว่าตอนนี้มีหน้าร้านหนังสือมากที่สุดในประเทศครับ แหม ก็ดูสิ ลงทุนน้อยมากแต่ละร้านเมื่อเทียบกับพวกซีเอ็ด นายอินทร์ ส่วนหนังสือส่วนใหญ่จะเป็นเน้นราคาถูกครับ ผู้บริหารบอกชัดเจนว่าเน้นกลุ่มรายได้ต่ำ หนังสือก็ประมาณพวกไสยศาตร์ ภาษาอังกฤษ นิยาย ศาสนา ค่อยข้างยิบย่อยมากๆ ปกติผมเวลาไปเลือกซื้อหนังสือก็แวะเข้าไปดูบ่อยนะครับ ดูมีคนเหมือนกันแต่ว่่าส่วนใหญ่จะยืนอ่านมากกว่าไม่ค่อยเห็นเลือกซื้อเท่าไรครับ
เงินทองเป็นของมายา
ข้าวปลาคือของจริง
ข้าวปลาคือของจริง
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10538
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ไพลินบุ๊คเน็ต เตรียมเข้าตลาด MAI
โพสต์ที่ 17
murder_doll เขียน:หน้าร้านจะเป็นแผงอยู่ตามห้างต่างๆครับ วันนั้นฟังผู้บริหารรู้สึกว่าตอนนี้มีหน้าร้านหนังสือมากที่สุดในประเทศครับ แหม ก็ดูสิ ลงทุนน้อยมากแต่ละร้านเมื่อเทียบกับพวกซีเอ็ด นายอินทร์ ส่วนหนังสือส่วนใหญ่จะเป็นเน้นราคาถูกครับ ผู้บริหารบอกชัดเจนว่าเน้นกลุ่มรายได้ต่ำ หนังสือก็ประมาณพวกไสยศาตร์ ภาษาอังกฤษ นิยาย ศาสนา ค่อยข้างยิบย่อยมากๆ ปกติผมเวลาไปเลือกซื้อหนังสือก็แวะเข้าไปดูบ่อยนะครับ ดูมีคนเหมือนกันแต่ว่่าส่วนใหญ่จะยืนอ่านมากกว่าไม่ค่อยเห็นเลือกซื้อเท่าไรครับ
คงต้องดูโมเดลธุรกิจ ว่าจะกำไรระยะยาวหรือโตไปได้ต่ออย่างไร
-
- Verified User
- โพสต์: 93
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ไพลินบุ๊คเน็ต เตรียมเข้าตลาด MAI
โพสต์ที่ 18
ช่วยกันอ่าน filing ดีไหมครับ
http://capital.sec.or.th/webapp/corp_fi ... mp_id=1202
http://capital.sec.or.th/webapp/corp_fi ... mp_id=1202
-
- Verified User
- โพสต์: 469
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ไพลินบุ๊คเน็ต เตรียมเข้าตลาด MAI
โพสต์ที่ 19
เท่าที่เจอ คือ ตอนนี้ก็มีหน้าร้านที่หัวลำโพง แล้วก็มีเหมือนจัดบูทที่กลางหัวลำโพงอยู่ด้วย
ผมว่า ใช้ได้เลยนะ สำหรับกลุ่มเป้าหมายระดับล่าง เค้าขายแบบถูกๆน่ะครับ
19 29 59 บาท หรือแบบลด% 20% 50% คนสนใจพอสมควรเลย
ตัวผมเองผ่านๆก็จ่ายไปหลายทีเหมือนกัน ฮ่าๆ
มีหนังสือ แนว ธรรมะ สุขภาพ ไสยศาสตร์ ประวัติศาสตร์(ที่ไว้อ่านเล่น) ตำราอาหาร
พัฒนาตัวเอง(จิตวิทยา ธุรกิจ ภาษา ช่าง) นิยายแปล(ที่ไม่ได้ดังมาก อันนี้ผมไม่ค่อยรู้จัก)
ป.ล. ขากลับบ้านที่หัวลำโพง ผมซื้อหนังสือไป แล้วหน้ามันซ้ำ
ขากลับมาจากบ้าน ไม่ได้กะว่าจะเปลี่ยนหรอก แต่พอเอาไปถามดู เขาก็เปลี่ยนให้นะครับ
แบ่งปันข้อมูลเท่าที่เห็นมานะครับ
ผมว่า ใช้ได้เลยนะ สำหรับกลุ่มเป้าหมายระดับล่าง เค้าขายแบบถูกๆน่ะครับ
19 29 59 บาท หรือแบบลด% 20% 50% คนสนใจพอสมควรเลย
ตัวผมเองผ่านๆก็จ่ายไปหลายทีเหมือนกัน ฮ่าๆ
มีหนังสือ แนว ธรรมะ สุขภาพ ไสยศาสตร์ ประวัติศาสตร์(ที่ไว้อ่านเล่น) ตำราอาหาร
พัฒนาตัวเอง(จิตวิทยา ธุรกิจ ภาษา ช่าง) นิยายแปล(ที่ไม่ได้ดังมาก อันนี้ผมไม่ค่อยรู้จัก)
ป.ล. ขากลับบ้านที่หัวลำโพง ผมซื้อหนังสือไป แล้วหน้ามันซ้ำ
ขากลับมาจากบ้าน ไม่ได้กะว่าจะเปลี่ยนหรอก แต่พอเอาไปถามดู เขาก็เปลี่ยนให้นะครับ
แบ่งปันข้อมูลเท่าที่เห็นมานะครับ
Sixth Sense Investor
- murder_doll
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ไพลินบุ๊คเน็ต เตรียมเข้าตลาด MAI
โพสต์ที่ 20
เมื่อหลายเดือนก่อนคล้ายกับเจอกระทู้เรื่อง EBOOK เห็นคนส่วนใหญ่ในTHAIVI มองว่าอนาคตอุตสาหกรรมตะวันตกดินคือหนังสือปกติ(จะมีก็ผมคนนึงแหล่ะที่ว่าตีไม่แตก^^) แต่ถ้ามามองสำหรับไพลิน มันจะเป็นไปได้ไหมครับว่า ด้วยการที่มีกลุ่มลูกค้าระดับล่าง เป็นหลัก เป็นไปได้ยากมากที่กลุ่มลูกค้าจะเปลี่ยนไปซื้อแทปเลตมาใช้แทนถ้าต้องการอ่านหนังสือ จุดจำหน่ายของบริษัทมีมากถึง6500 แห่งทั่วประเทศ การเติบโตของรายได้น่าจะหวังจากตรงนี้เป็นหลัก ฟังผบห.พูดคล้ายๆกับว่ายังตั้งเป้าขยายหน้าร้านออกไปอีกเพราะลงทุนไม่สูง เอ๊ะ แต่ตอนนี้มันถือว่าขยายมาจนเต็มหรือยังนะเนี่ย
ดูแล้วเหมือนบริษัทเป็นผู้นำเรื่องต้นทุนต่ำ อัตรากำไรขั้นต้นที่เห็นสูงกว่า 50% (สามปีย้อนหลัง) แล้วเห็นสัดส่วนรายได้จากหน้าร้านกับทางINTERNET ค่อนข้างพอๆกันเลยคือ 50-50
การที่มีสัดส่วนที่ขายหุ้น 25% ออกมา ถือว่าค่อนข้างต่ำ ตอนเทรดน่าจะมีรายใหญ่ เช่น คุณหมอพอล มาลากขึ้นลากลงได้ง่าย(แซวเล่นนะครับ )
แต่ทั้งนี้พี่ๆเพื่อนๆคิดว่าอุตสาหกรรมหนังสือเป็นตะวันตกดินหรือยังครับผมก็อยากทราบความเห็น????
ปล.ผมไม่ค่อยถูกชะตากับหุ้นหลัง IPO เท่าไรเลย มาทีไรโดนทุกที วันแรกราคามักจะอันตราย แต่ถ้าเข้ามาช่วงตลาดไม่ดีบางทีเป็นไปได้ไหมว่าเราๆท่านๆจะได้ส่วนลดบ้างเนี่ย
ดูแล้วเหมือนบริษัทเป็นผู้นำเรื่องต้นทุนต่ำ อัตรากำไรขั้นต้นที่เห็นสูงกว่า 50% (สามปีย้อนหลัง) แล้วเห็นสัดส่วนรายได้จากหน้าร้านกับทางINTERNET ค่อนข้างพอๆกันเลยคือ 50-50
การที่มีสัดส่วนที่ขายหุ้น 25% ออกมา ถือว่าค่อนข้างต่ำ ตอนเทรดน่าจะมีรายใหญ่ เช่น คุณหมอพอล มาลากขึ้นลากลงได้ง่าย(แซวเล่นนะครับ )
แต่ทั้งนี้พี่ๆเพื่อนๆคิดว่าอุตสาหกรรมหนังสือเป็นตะวันตกดินหรือยังครับผมก็อยากทราบความเห็น????
ปล.ผมไม่ค่อยถูกชะตากับหุ้นหลัง IPO เท่าไรเลย มาทีไรโดนทุกที วันแรกราคามักจะอันตราย แต่ถ้าเข้ามาช่วงตลาดไม่ดีบางทีเป็นไปได้ไหมว่าเราๆท่านๆจะได้ส่วนลดบ้างเนี่ย
เงินทองเป็นของมายา
ข้าวปลาคือของจริง
ข้าวปลาคือของจริง
- murder_doll
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ไพลินบุ๊คเน็ต เตรียมเข้าตลาด MAI
โพสต์ที่ 21
murder_doll เขียน:
ขอจัดระเบียบอักษรใหม่หน่อยนะครับ อันนี้เป็นข้อสังเกตุของผมครับ
1.เมื่อหลายเดือนก่อนคล้ายกับเจอกระทู้เรื่อง EBOOK เห็นคนส่วนใหญ่ในTHAIVI มองว่าอนาคตอุตสาหกรรมตะวันตกดินคือหนังสือปกติ(จะมีก็ผมคนนึงแหล่ะที่ว่าตีไม่แตก^^) แต่ถ้ามามองสำหรับไพลิน มันจะเป็นไปได้ไหมครับว่า ด้วยการที่มีกลุ่มลูกค้าระดับล่าง เป็นหลัก เป็นไปได้ยากมากที่กลุ่มลูกค้าจะเปลี่ยนไปซื้อแทปเลตมาใช้แทนถ้าต้องการอ่านหนังสือ
2.จุดจำหน่ายของบริษัทมีมากถึง6500 แห่งทั่วประเทศ การเติบโตของรายได้น่าจะหวังจากตรงนี้เป็นหลัก ฟังผบห.พูดคล้ายๆกับว่ายังตั้งเป้าขยายหน้าร้านออกไปอีกเพราะลงทุนไม่สูง เอ๊ะ แต่ตอนนี้มันถือว่าขยายมาจนเต็มหรือยังนะเนี่ย
3.บริษัทเป็นผู้นำเรื่องต้นทุนต่ำ อัตรากำไรขั้นต้นที่เห็นสูงกว่า 50% (สามปีย้อนหลัง) โดยมีสัดส่วนรายได้จากหน้าร้านกับทางINTERNET ค่อนข้างพอๆกันเลยคือ 50-50
4.การที่มีสัดส่วนที่ขายหุ้น 25% ออกมา ถือว่าค่อนข้างต่ำ ตอนเทรดน่าจะมีรายใหญ่ เช่น คุณหมอพอล มาลากขึ้นลากลงได้ง่าย(แซวเล่นนะครับ )
แต่ทั้งนี้พี่ๆเพื่อนๆคิดว่าอุตสาหกรรมหนังสือเป็นตะวันตกดินหรือยังครับผมก็อยากทราบความเห็น????
ปล.ผมไม่ค่อยถูกชะตากับหุ้นหลัง IPO เท่าไรเลย มาทีไรโดนทุกที วันแรกราคามักจะอันตราย แต่ถ้าเข้ามาช่วงตลาดไม่ดีบางทีเป็นไปได้ไหมว่าเราๆท่านๆจะได้ส่วนลดบ้างเนี่ย
เงินทองเป็นของมายา
ข้าวปลาคือของจริง
ข้าวปลาคือของจริง
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ไพลินบุ๊คเน็ต เตรียมเข้าตลาด MAI
โพสต์ที่ 22
‘ไพลินบุ๊คเน็ต’ เผยกลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
เน้นเดินสายเปิดบูธเจาะลูกค้าแหล่งชุมชน
ผ่ากลยุทธ์ทำตลาดสไตล์ “ไพลินบุ๊คเน็ต” เผยนอกจากปฏิวัติการทำหนังสือราคาย่อมเยา และเน้นความหลากหลายของหนังสือ เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมายแล้ว ยังเน้นการเจาะเข้าสู่กลุ่มเป้าหมาย ด้วยการอำนวยความสะดวกสู่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย โดยตั้งบูธในชุมชนต่างๆ ที่มีความหนาแน่นของกลุ่มลูกค้า ทั้งสถานีขนส่ง หัวลำโพง โรงพยาบาล รวมถึงตลาดนัด ชี้เป็นช่องทางขายสำคัญ เหตุสอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้าเป้าหมาย ขณะที่ต้นทุนค่าพื้นที่ถูกกว่าห้างสรรพสินค้า ยืดหยุ่นและเคลื่อนที่ไว เพิ่มมาร์จินให้ได้มากกว่าด้วยยอดขายเท่าเดิม
นายฉัตรเฉลิม เฉลิมชัยวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไพลินบุ๊คเน็ต จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจสำนักพิมพ์ทั้งการเป็นผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คหลากหลายประเภท เปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจหนังสือในขณะนี้ยังคงมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าที่จะผลักดันยอดขายให้เติบโตตามเป้า โดยใช้กลยุทธ์การตลาดในการเพิ่มช่องทางขาย โดยเฉพาะการรุกเข้าสู่แหล่งชุมชน ด้วยการเปิดบูธขายหนังสือราคาย่อมเยาตามสถานที่ที่เป็นแหล่งของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีความต้องการซื้อสูง อาทิ สถานีขนส่งทั้งสายเหนือ สายใต้ สถานีรถไฟหัวลำโพง โรงพยาบาล รวมถึงตลาดนัด นอกเหนือจากการขายในห้างโมเดิร์นเทรด และในร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น
“จุดเด่นของไพลินบุ๊คเน็ต คือ กลยุทธ์การตลาดที่แตกต่าง ซึ่งนอกจากการเป็นผู้นำตลาดหนังสือราคาย่อมเยา (Cost Leadership) และเนื้อหามีความหลากหลาย โดยปัจจุบันมีหนังสือมากกว่า 1.3 หมื่นชื่อเรื่องแล้ว หนังสือของเรายังเน้นอ่านง่าย และมีช่องทางหลากหลาย ซึ่งสอดคล้องกับสโลแกน ‘อ่านง่าย ใกล้คุณ’ จากเดิมที่โมเดลของธุรกิจหนังสือ ลูกค้าต้องเป็นฝ่ายเดินเข้าหาร้านหนังสือ แต่เราทำให้รูปแบบแตกต่างจากเดิมด้วยการเข้าไปหาลูกค้าในชุมชน ด้วยการเปิดบูธตามสถานที่ที่มีผู้บริโภคและมีกำลังซื้อหนาแน่น ซึ่งรูปแบบนี้นอกจากจะทำให้ยอดขายของบริษัทฯ เติบโตได้อย่างน่าพอใจแล้ว ยังเป็นการเพิ่มมาร์จินให้กับบริษัทฯ เพราะต้นทุนค่าพื้นที่ในการเปิดบูธต่ำกว่าห้างสรรพสินค้า ขณะที่ยอดขายใกล้เคียงกัน” นายฉัตรเฉลิมกล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไพลินบุ๊คเน็ต กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ลูกค้ากลุ่มหลักของบริษัทฯ เป็นกลุ่มผู้หญิงอายุ 35 ปีขึ้นไป แต่ในปัจจุบันกลุ่มลูกค้ามีความหลากหลายมากขึ้น โดยมีกลุ่มลูกค้าทุกประเภท ซึ่งจริงๆ แล้ว บริษัทฯ ไม่ได้มีเป้าหมายในการเจาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นการเฉพาะ เนื่องจากต้องการขยายฐานลูกค้าในวงกว้าง ที่ถือเป็นข้อได้เปรียบของไพลินบุ๊คเน็ตมาโดยตลอด เพราะกลุ่มลูกค้าฐานล่างของ ปิระมิดนั้น เป็นกลุ่มที่มีขนาดมหาศาลและที่สำคัญเป็นกลุ่มที่มีการแข่งขันไม่รุนแรง
สำหรับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในต่างประเทศทั้งเศรษฐกิจสหรัฐฯและยุโรปที่กำลังเผชิญวิกฤติหนี้ในขณะนี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบกับบริษัทฯ เนื่องจากธุรกิจของไพลินบุ๊คเน็ตนับได้ว่า อยู่ในกลุ่มที่เป็น Domestic Play คือเกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศอย่างแท้จริง หรือแม้กระทั่งเศรษฐกิจในประเทศมีปัญหาชะลอตัวลง แต่ธุรกิจหนังสือของไพลินก็ยังไม่ได้รับผลกระทบใดๆ หากแต่ได้รับผลดีมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคปรับพฤติกรรมการใช้จ่ายหาความบันเทิงนอกบ้านมาเป็นการอ่านหนังสือ และยิ่งเป็นหนังสือราคาย่อมเยาอย่างของไพลินบุ๊คเน็ต ก็ยิ่งได้รับการตอบรับมากขึ้น
ทั้งนี้ บมจ.ไพลินบุ๊คเน็ต เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายหนังสือ พ็อกเกตบุ๊ค ที่เน้นเนื้อหากว้างขวาง หลากหลายประเภท เช่น ภาษา สุขภาพ ความงาม จิตวิทยา ศาสนา การท่องเที่ยว เป็นต้น นอกจากนี้ ยังผลิตและจำหน่ายหนังสือสำหรับเด็ก ที่เน้นการผลิตหนังสือสำหรับเด็กเล็กเพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ โดยมีหัวหนังสือกว่า 1.3 หมื่นชื่อเรื่อง โดยบริษัทฯ มีจุดจำหน่ายหนังสือรวมกันทั้งสิ้นมากกว่า 6,500 แห่ง แบ่งเป็น 2 ประเภทลักษณะ ได้แก่ การจำหน่ายปลีกผ่านการออกพื้นที่ตามห้างสรรพสินค้าหรือสถานที่ที่มีการสัญจรของผู้คนหนาแน่น และการฝากขายตามร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ ร้านโมเดิร์นเทรด และร้านสะดวกซื้อในสถานีบริการน้ำมัน
เน้นเดินสายเปิดบูธเจาะลูกค้าแหล่งชุมชน
ผ่ากลยุทธ์ทำตลาดสไตล์ “ไพลินบุ๊คเน็ต” เผยนอกจากปฏิวัติการทำหนังสือราคาย่อมเยา และเน้นความหลากหลายของหนังสือ เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมายแล้ว ยังเน้นการเจาะเข้าสู่กลุ่มเป้าหมาย ด้วยการอำนวยความสะดวกสู่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย โดยตั้งบูธในชุมชนต่างๆ ที่มีความหนาแน่นของกลุ่มลูกค้า ทั้งสถานีขนส่ง หัวลำโพง โรงพยาบาล รวมถึงตลาดนัด ชี้เป็นช่องทางขายสำคัญ เหตุสอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้าเป้าหมาย ขณะที่ต้นทุนค่าพื้นที่ถูกกว่าห้างสรรพสินค้า ยืดหยุ่นและเคลื่อนที่ไว เพิ่มมาร์จินให้ได้มากกว่าด้วยยอดขายเท่าเดิม
นายฉัตรเฉลิม เฉลิมชัยวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไพลินบุ๊คเน็ต จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจสำนักพิมพ์ทั้งการเป็นผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คหลากหลายประเภท เปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจหนังสือในขณะนี้ยังคงมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าที่จะผลักดันยอดขายให้เติบโตตามเป้า โดยใช้กลยุทธ์การตลาดในการเพิ่มช่องทางขาย โดยเฉพาะการรุกเข้าสู่แหล่งชุมชน ด้วยการเปิดบูธขายหนังสือราคาย่อมเยาตามสถานที่ที่เป็นแหล่งของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีความต้องการซื้อสูง อาทิ สถานีขนส่งทั้งสายเหนือ สายใต้ สถานีรถไฟหัวลำโพง โรงพยาบาล รวมถึงตลาดนัด นอกเหนือจากการขายในห้างโมเดิร์นเทรด และในร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น
“จุดเด่นของไพลินบุ๊คเน็ต คือ กลยุทธ์การตลาดที่แตกต่าง ซึ่งนอกจากการเป็นผู้นำตลาดหนังสือราคาย่อมเยา (Cost Leadership) และเนื้อหามีความหลากหลาย โดยปัจจุบันมีหนังสือมากกว่า 1.3 หมื่นชื่อเรื่องแล้ว หนังสือของเรายังเน้นอ่านง่าย และมีช่องทางหลากหลาย ซึ่งสอดคล้องกับสโลแกน ‘อ่านง่าย ใกล้คุณ’ จากเดิมที่โมเดลของธุรกิจหนังสือ ลูกค้าต้องเป็นฝ่ายเดินเข้าหาร้านหนังสือ แต่เราทำให้รูปแบบแตกต่างจากเดิมด้วยการเข้าไปหาลูกค้าในชุมชน ด้วยการเปิดบูธตามสถานที่ที่มีผู้บริโภคและมีกำลังซื้อหนาแน่น ซึ่งรูปแบบนี้นอกจากจะทำให้ยอดขายของบริษัทฯ เติบโตได้อย่างน่าพอใจแล้ว ยังเป็นการเพิ่มมาร์จินให้กับบริษัทฯ เพราะต้นทุนค่าพื้นที่ในการเปิดบูธต่ำกว่าห้างสรรพสินค้า ขณะที่ยอดขายใกล้เคียงกัน” นายฉัตรเฉลิมกล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไพลินบุ๊คเน็ต กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ลูกค้ากลุ่มหลักของบริษัทฯ เป็นกลุ่มผู้หญิงอายุ 35 ปีขึ้นไป แต่ในปัจจุบันกลุ่มลูกค้ามีความหลากหลายมากขึ้น โดยมีกลุ่มลูกค้าทุกประเภท ซึ่งจริงๆ แล้ว บริษัทฯ ไม่ได้มีเป้าหมายในการเจาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นการเฉพาะ เนื่องจากต้องการขยายฐานลูกค้าในวงกว้าง ที่ถือเป็นข้อได้เปรียบของไพลินบุ๊คเน็ตมาโดยตลอด เพราะกลุ่มลูกค้าฐานล่างของ ปิระมิดนั้น เป็นกลุ่มที่มีขนาดมหาศาลและที่สำคัญเป็นกลุ่มที่มีการแข่งขันไม่รุนแรง
สำหรับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในต่างประเทศทั้งเศรษฐกิจสหรัฐฯและยุโรปที่กำลังเผชิญวิกฤติหนี้ในขณะนี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบกับบริษัทฯ เนื่องจากธุรกิจของไพลินบุ๊คเน็ตนับได้ว่า อยู่ในกลุ่มที่เป็น Domestic Play คือเกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศอย่างแท้จริง หรือแม้กระทั่งเศรษฐกิจในประเทศมีปัญหาชะลอตัวลง แต่ธุรกิจหนังสือของไพลินก็ยังไม่ได้รับผลกระทบใดๆ หากแต่ได้รับผลดีมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคปรับพฤติกรรมการใช้จ่ายหาความบันเทิงนอกบ้านมาเป็นการอ่านหนังสือ และยิ่งเป็นหนังสือราคาย่อมเยาอย่างของไพลินบุ๊คเน็ต ก็ยิ่งได้รับการตอบรับมากขึ้น
ทั้งนี้ บมจ.ไพลินบุ๊คเน็ต เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายหนังสือ พ็อกเกตบุ๊ค ที่เน้นเนื้อหากว้างขวาง หลากหลายประเภท เช่น ภาษา สุขภาพ ความงาม จิตวิทยา ศาสนา การท่องเที่ยว เป็นต้น นอกจากนี้ ยังผลิตและจำหน่ายหนังสือสำหรับเด็ก ที่เน้นการผลิตหนังสือสำหรับเด็กเล็กเพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ โดยมีหัวหนังสือกว่า 1.3 หมื่นชื่อเรื่อง โดยบริษัทฯ มีจุดจำหน่ายหนังสือรวมกันทั้งสิ้นมากกว่า 6,500 แห่ง แบ่งเป็น 2 ประเภทลักษณะ ได้แก่ การจำหน่ายปลีกผ่านการออกพื้นที่ตามห้างสรรพสินค้าหรือสถานที่ที่มีการสัญจรของผู้คนหนาแน่น และการฝากขายตามร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ ร้านโมเดิร์นเทรด และร้านสะดวกซื้อในสถานีบริการน้ำมัน
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ไพลินบุ๊คเน็ต เตรียมเข้าตลาด MAI
โพสต์ที่ 23
ไพลินบุ๊คเน็ตถอนข้อมูลไฟลิ่งขาย IPO, FA เผยอยู่ระหว่างปรับปรุงข้อมูล
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 26 ธันวาคม 2554 14:53:24 น.
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บมจ.ไพลินบุ๊คเน็ต(PALIN)ได้ขอถอนข้อมูลไฟลิ่งออกจากการพิจารณาแล้ว ซึ่งไม่ได้มีการระบุสาเหตุเกิดจากอะไร แต่หากจะยื่นข้อมูลไฟลิ่งกลับเข้ามาใหม่ก็คงจะต้องเริ่มนับ 1 ใหม่อีกครั้ง
ด้านแหล่งข่าวจากบริษัท แอ๊บโซลูท แอ็ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน(FA)ของ "ไพลิน บุ๊คเน็ต" เปิดเผยว่า การที่ขอถอนข้อมูลไฟลิ่งของ ไพลินบุ๊คเน็ตออกมาก่อน เพราะต้องการที่จะทำการปรับปรุงข้อมูล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการอยู่ และคงจะมีการยื่นข้อมูลไฟลิ่งใหม่ให้ทางสำนักงานก.ล.ต.ได้พิจารณาใหม่อีกครั้ง ส่วนจะยื่นได้เมื่อไรยังไม่อาจกำหนดชัดเจนได้ในตอนนี้
บมจ. ไพลินบุ๊คเน็ต (PALIN)ได้ยื่น Filing version แรก ในวันที่ 19 ก.ค. 2554 เนื่องจากบริษัทฯต้องการจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไป(IPO)จำนวน 100 ล้านหุ้น
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: [email protected]--
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 26 ธันวาคม 2554 14:53:24 น.
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บมจ.ไพลินบุ๊คเน็ต(PALIN)ได้ขอถอนข้อมูลไฟลิ่งออกจากการพิจารณาแล้ว ซึ่งไม่ได้มีการระบุสาเหตุเกิดจากอะไร แต่หากจะยื่นข้อมูลไฟลิ่งกลับเข้ามาใหม่ก็คงจะต้องเริ่มนับ 1 ใหม่อีกครั้ง
ด้านแหล่งข่าวจากบริษัท แอ๊บโซลูท แอ็ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน(FA)ของ "ไพลิน บุ๊คเน็ต" เปิดเผยว่า การที่ขอถอนข้อมูลไฟลิ่งของ ไพลินบุ๊คเน็ตออกมาก่อน เพราะต้องการที่จะทำการปรับปรุงข้อมูล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการอยู่ และคงจะมีการยื่นข้อมูลไฟลิ่งใหม่ให้ทางสำนักงานก.ล.ต.ได้พิจารณาใหม่อีกครั้ง ส่วนจะยื่นได้เมื่อไรยังไม่อาจกำหนดชัดเจนได้ในตอนนี้
บมจ. ไพลินบุ๊คเน็ต (PALIN)ได้ยื่น Filing version แรก ในวันที่ 19 ก.ค. 2554 เนื่องจากบริษัทฯต้องการจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไป(IPO)จำนวน 100 ล้านหุ้น
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: [email protected]--