เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไง

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
pornchal
Verified User
โพสต์: 1070
ผู้ติดตาม: 0

เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไง

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เขียนก่อนวิกฤต ขอถามเลย ว่า
1 รอบนี้เป็นวิกฤตมั้ย ??? ถ้าไม่ใช่ ก้อจบ ซื้อหุ้นเก็บเข้าพอร์ต รอคนหายตื่นตกใจ จบ
2 ถ้าใช่ จะลงนานมั้ย ลงไปไกลมั้ย
3 กลุ่มไหนเสียประโยชน์ กลุ่มไหนได้ประโยชน์
4 เป็นวิกฤตจริง รู้งี้แล้ว cut loss เลยดีมั้ย ....

มาแชร์ กันหน่อย ผิดถูกไม่ว่ากัน จัดเต็มเลยครับพี่น้อง....ใครศึกษามาดีแล้วเชิญ ใครยังไม่ได้ศึกษาก่อนเร่งมือหน่อย แล้วมาแชร์กัน มาเรียนรู้ร่วมกัน...

ผมขอศึกษาก่อนนะ ...
The One
superchaos
Verified User
โพสต์: 62
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

คิดว่าเป็นวิกฤติลูกเดิมที่ซื้อเวลามาตลอดมากกว่า
ตอนนี้ทั่วโลกต่างจับตาที่อเมริกาครับว่าจะจัดการกับหนี้ที่มีอยู่ยังไง QE3 จะปล่อยไหม ปล่อยแล้วยังไง
ขยายเพดานหนี้ได้ ไม่ได้หมายความว่าหนี้จะลดลง มีแต่จะรอให้เต็มเพดานอีกรอบ แล้วก็ขอขยายอีกตามสูตรเดิม
ต่อไปคงไม่ใช่แค่ S&P แต่ Moodys กับ Fitch คงจะพิจารณาด้วยเหมือนกัน

ตอนนี้คงคาดการณ์ลำบาก แต่จะบอกว่ายังอยู่บนทางขึ้นคงบอกแบบนั้นไม่ได้แล้ว
ภาคการผลิตกับบริการของอเมริกาแทบไม่ได้โตขึ้นเลยในเดือนที่ผ่านมา เจอปัญหาหนี้ของยุโรปที่ติดเชื้อลามไปเรื่อยๆ ทีละประเทศๆ ปัญหาเงินเฟ้อในจีนก็ยิ่งไม่มีทีท่าว่าจะหยุด หลายประเทศเริ่มตุน Reserves ทอง แทน $ แล้ว

คงได้แต่รอให้ทุกอย่างนิ่งมากกว่า ไม่มีข่าวร้ายมาเพิ่ม ตลาดหุ้นถึงเริ่มจะเป็นปกติก่อน แล้วหลังจากนั้น ก็จะเริ่มไต่กลับอย่างช้าๆ ครับ ยิ่งมีข่าวไม่ดีเท่าไหร่ยิ่งกระหน่ำขาย ไปซื้อทองราคาพุ่งขึ้นเท่านั้น

ความมั่นใจของนักลงทุนไม่ได้กลับมาง่ายๆ ในเร็ววันแน่นอนครับ
"I Think ,Therefore I am"
pakhakorn
Verified User
โพสต์: 957
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ความรู้น้อย ทั้้งเรื่องเศรษฐศาสตร์และบัญชีเพราะไม่เคยเรียน อาจไม่มีเหตุผล แต่จะลองเขียนดู

ผมว่า....เป็นผลต่อเนื่องจากลูกเดิม และไม่อาจบอกได้ว่าเป็นเพราะครั้งที่ผ่านมาแก้ถูกวิธี หรือแก้ผิดวิธี แต่ผมมีความสงสัยเกิดแบบ....เมื่อผ่านเหตุเลวร้ายรุนแรง เวลาฟื้นพลิกมันก็รุนแรงเกินจริง และเมื่อเกินจริงมันจะดีดกลับเป็นขาลงอีกรอบ ก่อนกลับมาฟื้นแบบค่อยๆเป็นไปแบบปกติ

เหตุผลไม่มี..... ช่วงเวลาจะเกิดบอกไม่ได้ .....รอผู้มีความรู้ความสามารถมาศึกษา อธิบาย แล้วกัน

ตัวอย่างลองดู วิธีการฟื้นของหุ้นหลังปี 40 การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันรอบที่ผ่านมาก่อนดิ่งลงลึก แล้วกับมาใหม่ ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงต้องเป็นอย่างนี้ เหมือนแผ่นไหวทำไมต้องมีอาฟเตอร์ช็อค

ผิด-ถูก ก็ต้องขออภัย เพราะเขียนแบบขาดเหตุผล(แบบ vi)
ภาพประจำตัวสมาชิก
chukieat30
Verified User
โพสต์: 3531
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

คุณพรชัยครับ

วิกฤติแต่ละอย่าง มีเหตุที่ต่างกันทำให้ผลที่ได้ต่างกันครับ ดังนั้นอย่าไปคาดเดา

ว่าจะต้องเหมือนอันนั้นอันนี้

ไม่เชื่อถามพี่หมอโคดูได้ครับ คนไข้บอกเจ็บคอ ต้องเชื้อตัวเดียวตลอดเลยหรือครับ

มันก้เหมือนกับวิกฤติ มันไม่เหมือนกันสักรอบ อาจจะคล้ายแต่ไม่เหมือน

อย่าเอา 2008 มาเทียบกับ 2011 เพราะความพร้อมต่างกันมากมาย

จะทำให้เราเจอแสงเฮาก้วงบังตาได้ครับ
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ

หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
chukieat30
Verified User
โพสต์: 3531
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ปี2540 บ้านเราไม่ดี เพราะฟองสบู่แตก เซท200-300

ปี2008 เมกาไม่ดี เพราะซัพไพรม์ +ชุมนุมม๊อฟ เซท 400-500

ปี 2011 เมกาไม่ดี เพราะไม่มีเงินจ่ายหนี้+ยุโรปไม่ดี เพราะบ่อจี๊เหมือนกัน เซท......-........

เห็นไหมครับ 3ครั้ง 3ปี มีอะไรเหมือนกัน ไม่มีเลย

หนทางแก้ไขของแต่ละปี ก้ไม่เหมือนกัน


ดังนั้นจะเอามาตรฐานปี 2008 มาวัดปีนี้ไม่ได้เด็ดขาดเพราะ อาจจะผิดพลาด

ว่าเซทจะลงไปกี่จุด มันสำคัญที่บ้านเราครับ ว่าบ้านเราจะแก้ปัญหาเร็วหรือช้า


และกิจการอะไรที่จะกระทบ อันไหนไม่กระทบ

เลขเซทเป็นเพียงภาพมายา ผลประกอบการสิครับของจริง
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ

หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
obnoi
Verified User
โพสต์: 67
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

chukieat30 เขียน:ปี2540 บ้านเราไม่ดี เพราะฟองสบู่แตก เซท200-300

ปี2008 เมกาไม่ดี เพราะซัพไพรม์ +ชุมนุมม๊อฟ เซท 400-500

ปี 2011 เมกาไม่ดี เพราะไม่มีเงินจ่ายหนี้+ยุโรปไม่ดี เพราะบ่อจี๊เหมือนกัน เซท......-........

เห็นไหมครับ 3ครั้ง 3ปี มีอะไรเหมือนกัน ไม่มีเลย

หนทางแก้ไขของแต่ละปี ก้ไม่เหมือนกัน


ดังนั้นจะเอามาตรฐานปี 2008 มาวัดปีนี้ไม่ได้เด็ดขาดเพราะ อาจจะผิดพลาด

ว่าเซทจะลงไปกี่จุด มันสำคัญที่บ้านเราครับ ว่าบ้านเราจะแก้ปัญหาเร็วหรือช้า


และกิจการอะไรที่จะกระทบ อันไหนไม่กระทบ

เลขเซทเป็นเพียงภาพมายา ผลประกอบการสิครับของจริง
ขอบคุณมากครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
chukieat30
Verified User
โพสต์: 3531
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

obnoi เขียน:
chukieat30 เขียน:ปี2540 บ้านเราไม่ดี เพราะฟองสบู่แตก เซท200-300

ปี2008 เมกาไม่ดี เพราะซัพไพรม์ +ชุมนุมม๊อฟ เซท 400-500

ปี 2011 เมกาไม่ดี เพราะไม่มีเงินจ่ายหนี้+ยุโรปไม่ดี เพราะบ่อจี๊เหมือนกัน เซท......-........

เห็นไหมครับ 3ครั้ง 3ปี มีอะไรเหมือนกัน ไม่มีเลย

หนทางแก้ไขของแต่ละปี ก้ไม่เหมือนกัน


ดังนั้นจะเอามาตรฐานปี 2008 มาวัดปีนี้ไม่ได้เด็ดขาดเพราะ อาจจะผิดพลาด

ว่าเซทจะลงไปกี่จุด มันสำคัญที่บ้านเราครับ ว่าบ้านเราจะแก้ปัญหาเร็วหรือช้า


และกิจการอะไรที่จะกระทบ อันไหนไม่กระทบ

เลขเซทเป็นเพียงภาพมายา ผลประกอบการสิครับของจริง
ขอบคุณมากครับ

ไม่เป็นไรครับ แชร์กันได้นะครับคุณ กบ ว่า มองว่ายังไง

ส่วนตัวมองว่า ค่อยๆมองครับ ว่าอะไรควรจะดี อะไรควรจะแย่

ซื้อตัวที่ยังคิดว่าดี และไม่กระทบ

ขายตัวที่คิดว่าแย่ และพื้นฐานกระทบหนัก

ที่เหลือ นอนรอดูงบครับ เครียดไปไม่ช่วยให้หุ้นขึ้นครับ
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ

หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
Jarut
Verified User
โพสต์: 9
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

สิ่งที่ผมเรียนรู้จากการไปเดินเป็นเพื่อนแฟน shopping คือเค้าเลือกซื้อของดีๆแต่ซื้อตอน sale ครับ
ผมยังมีรายการสินค้าดีๆที่หมายตาไว้ไม่เยอะ ต้องรีบทำการบ้านดีกว่า เดี๋ยวเค้า sale จะได้ไป shopping กันครับ
tiotiotio
Verified User
โพสต์: 66
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

[color=#FF0000]เลขเซทเป็นเพียงภาพมายา ผลประกอบการสิครับของจริง[/color]

ชอบประโยคนี้มากครับ กินใจมาก :D
pornchal
Verified User
โพสต์: 1070
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ขอบคุณมากครับ สำหรับทุกความเห็น..ครับ
The One
KriangL
Verified User
โพสต์: 1475
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ผมว่ามันเป็นแค่ panic sell เฉยๆ คนกลัววิกฤติ แต่ยังไม่มีเหตุให้เกิดวิกฤติครับ ยังไม่เคยเห็นใครเจ๊งเพราะถือพันธบัตรระดับ AA+ ยังไม่เคยเห็นใครใช้ leverage กู้เงินเยอะๆเสียดอกแพงๆเพื่อมาซื้อพันธบัตรอเมริกาที่ดอกนิดเดียว อีกอย่างการปรับเปลี่ยนดอกเบี้ย/มูลค่าพันธบัตรนิดหน่อยเป็นเรื่องที่พวกสถาบันการเงินต้องคอยบริหารพอร์ตอยู่แล้ว
doctornum
Verified User
โพสต์: 41
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ผมว่าเป้าหมายหลัก เล่นหุ้นต้องไม่ทุกข์ ไม่ใช่ขายล้างพอร์ตแล้วหุ้นกลับขึ้นก็เจ็บใจ หรือถือยาวแล้วเกิด crisis ก็มาเสียดายว่ารู้งี้น่าจะ short ไปก่อน หรือ ซื้อแล้วหุ้นขึ้น ก็ดันเสียดายว่าซื้อน้อยไปหน่อย ตกลงหุ้นขึ้นหรือลง คุณก็ขาดทุนแล้ว ผมว่ามี criteria หลักการของตัวเองว่าสถานการณ์แบบนี้ มี option อะไรบ้าง แล้วมันออกได้กี่หน้า ถ้าเป็นแบบ A / B เราเลือกทางนี้มีผลดีผลเสียอย่างไร คิดรอบด้านแล้วตัดสินใจไปเลย โดยคำนึงถึง Worst case scenario ถ้าเกิดขึ้นจริงแล้วเรายังอยู่รอดในตลาดได้ ไม่ใช่ Bet วัดดวงกันไปเลย ไม่รวยก็เจ๊งไปเลย แบบนั้นไปมาเก๊าดีกว่า ผมเลยคิดว่าอะไรที่มันอยู่นอกเหนือความสามารถในการคาดการณ์เราก็อย่าไปยุ่งกับมัน เอาที่เราควบคุมได้ เช่นวิเคราะห์แล้วบริษัทนี้เข้มแข็ง ถ้าเกิดวิกฤตก็จะต้องผ่านไปได้ ถ้าไม่มีวิกฤตจะมี growth เท่าไร แล้วราคาที่ซื้อตอนนี้มี MOS พอไหม ถ้าคิดดีแล้ว ก็ทำเลย ส่วนจะปรับฐานหรือไม่ก็ไม่ต้องสนใจถ้าบริษัทเราดีจริง ส่วนบางคนคิดว่าถ้าปรับฐานแล้วไม่ SAP หรือล้างพอร์ตไปก่อนจะเสียหาย อันนั้นคุณก็ต้องแม่นจริงว่ารอบนี้ปรับฐานแน่ มี Parameter อะไรที่ทำให้คุณเชื่อแน่ว่า setลงแน่ แล้วระดับความเชื่อมั่นเท่าไหร่ ถ้ามั่นใจก็ทำไปเลย set ไปเลย ตกไปกี่เปอร์เซ็นต์จะซื้อคืน แต่ถ้ากลับกันถ้าไม่ตก จะ cover short ยอมมอบตัวที่เท่าไหร่ ไม่งั้นคุณก็เสียหุ้นฟรี ดังนั้นผมคิดว่า ทางใครก็ทางมัน คนมันเชี่ยวผิดกันครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
densin
Verified User
โพสต์: 1073
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ทุกวิกฤติ มีคนเก่าตาย คนใหม่เกิด บ้างอึดข้ามมา บ้างหนีแรอเข้าใหม่ วงเวียนไปๆ

บางคนที่เคยรู้จัก พอsubprimeก้หายไป ผมยังไม่เคยเจอเขาอีกเลย
VI สายมืด = VI หน้ามืดซื้อตัวฮอทๆอย่าไม่ลืมหูลืมตา
pornchal
Verified User
โพสต์: 1070
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 14

โพสต์

KriangL เขียน:ผมว่ามันเป็นแค่ panic sell เฉยๆ คนกลัววิกฤติ แต่ยังไม่มีเหตุให้เกิดวิกฤติครับ ยังไม่เคยเห็นใครเจ๊งเพราะถือพันธบัตรระดับ AA+ ยังไม่เคยเห็นใครใช้ leverage กู้เงินเยอะๆเสียดอกแพงๆเพื่อมาซื้อพันธบัตรอเมริกาที่ดอกนิดเดียว อีกอย่างการปรับเปลี่ยนดอกเบี้ย/มูลค่าพันธบัตรนิดหน่อยเป็นเรื่องที่พวกสถาบันการเงินต้องคอยบริหารพอร์ตอยู่แล้ว
เย้ตอบตรงคำถามแล้ว ว่าไม่วิกฤตแค่ Panic กลยุทธคือลุย...
The One
pornchal
Verified User
โพสต์: 1070
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 15

โพสต์

doctornum เขียน:ผมว่าเป้าหมายหลัก เล่นหุ้นต้องไม่ทุกข์ ไม่ใช่ขายล้างพอร์ตแล้วหุ้นกลับขึ้นก็เจ็บใจ หรือถือยาวแล้วเกิด crisis ก็มาเสียดายว่ารู้งี้น่าจะ short ไปก่อน หรือ ซื้อแล้วหุ้นขึ้น ก็ดันเสียดายว่าซื้อน้อยไปหน่อย ตกลงหุ้นขึ้นหรือลง คุณก็ขาดทุนแล้ว ผมว่ามี criteria หลักการของตัวเองว่าสถานการณ์แบบนี้ มี option อะไรบ้าง แล้วมันออกได้กี่หน้า ถ้าเป็นแบบ A / B เราเลือกทางนี้มีผลดีผลเสียอย่างไร คิดรอบด้านแล้วตัดสินใจไปเลย โดยคำนึงถึง Worst case scenario ถ้าเกิดขึ้นจริงแล้วเรายังอยู่รอดในตลาดได้ ไม่ใช่ Bet วัดดวงกันไปเลย ไม่รวยก็เจ๊งไปเลย แบบนั้นไปมาเก๊าดีกว่า ผมเลยคิดว่าอะไรที่มันอยู่นอกเหนือความสามารถในการคาดการณ์เราก็อย่าไปยุ่งกับมัน เอาที่เราควบคุมได้ เช่นวิเคราะห์แล้วบริษัทนี้เข้มแข็ง ถ้าเกิดวิกฤตก็จะต้องผ่านไปได้ ถ้าไม่มีวิกฤตจะมี growth เท่าไร แล้วราคาที่ซื้อตอนนี้มี MOS พอไหม ถ้าคิดดีแล้ว ก็ทำเลย ส่วนจะปรับฐานหรือไม่ก็ไม่ต้องสนใจถ้าบริษัทเราดีจริง ส่วนบางคนคิดว่าถ้าปรับฐานแล้วไม่ SAP หรือล้างพอร์ตไปก่อนจะเสียหาย อันนั้นคุณก็ต้องแม่นจริงว่ารอบนี้ปรับฐานแน่ มี Parameter อะไรที่ทำให้คุณเชื่อแน่ว่า setลงแน่ แล้วระดับความเชื่อมั่นเท่าไหร่ ถ้ามั่นใจก็ทำไปเลย set ไปเลย ตกไปกี่เปอร์เซ็นต์จะซื้อคืน แต่ถ้ากลับกันถ้าไม่ตก จะ cover short ยอมมอบตัวที่เท่าไหร่ ไม่งั้นคุณก็เสียหุ้นฟรี ดังนั้นผมคิดว่า ทางใครก็ทางมัน คนมันเชี่ยวผิดกันครับ

สิ่งที่ผมถามคือ มัน A หรือ B ครับ หรือ C

หลักการของคุณ ผมเห็นด้วยครับ แต่อยากจะถามความเห็นว่าเรามอง สถาณการณ์ ตอนนี้เป็นอย่างไร ... เรามองออกกันมันมั้ย
จาก ตอบ ๆ กัน มา ไม่มีใครฟันธง ว่าวิกฤตมั้ย หรือเป็นแค่ Panic เฉย ๆ หรือ ส่วนใหญ่ไม่สนใจว่าเป็น วิกฤตหรือไม่ ผมมองไม่ออก เลยอยากถามความเห็นเพื่อนๆ ที่เก่งกว่าผมนะครับ

ขอบคุณทุกท่านทุกความเห็นครับ
The One
chootana
Verified User
โพสต์: 1401
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 16

โพสต์

after shock????
พอสิ้นอาฟเตอร์ช็อค คนก็ปัดกวาดสร้างบ้านขึ้นใหม่
error
Verified User
โพสต์: 113
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 17

โพสต์

ขอร่วมคิดด้วยนะครับ
โดยส่วนตัวผมคิดว่าในช่วงนี้ยังเป็นแค่ panic นะครับ เหตุผลของผม เอาภาพใหญ่ก่อนนะครับ ผมว่าที่เมกาครั้งนี้หรือที่ยุโรป ปัญหาจะเกิดจากภาครัฐ ไม่ใช้ภาคเอกชนเหมือนเมื่อก่อน และสาเหตุที่ครั้งนี้เกิดกับภาครัฐ เพราะที่ผ่านมาเกิดวิกฤติที ภาครัฐก็เข้าไปอุ้มเอกชน จนเป็นดินพอกหางหมู และผมเชื่อว่าการขยายเพดานหนี้ที่ผ่านมาก็ยังไม่ช่วยอะไรมากนัก สุดท้ายผมว่าเมกา ต้องลดรายจ่ายให้ได้ อาจจะต้องมีการลดสวัสดิการของรัฐลง คราวนี้ก็อยู่ที่ ปชช เมกาว่าจะยอมมั้ย โดยสรุปปัญหาคราวนี้น่าจะมีผลกระทบโดยตรงต่อ สวัสดิการต่าง ๆ ของ ปชช มากกว่า ภาคธุรกิจ สำหรับภาคธุรกิจ ที่จะกระทบก็คงเป็นเรื่องต้นทุนทางภาษีและต้นทุนทางการเงิน ซึ่งผมว่าภาคธุรกิจมีความสามารถและมีประสบการณ์ที่ดีอยู่แล้วจึงไม่น่าจะเป็น ปัญหาใหญ่
ส่วนการบริโภคผมว่าอาจจะมีผลบ้าง แต่ก็ไม่น่าจะเยอะจนถึงขั้นวิกฤติหรอกครับ เพราะคนส่วนใหญ่ก็ยังมีงานทำสังเกต ครั้งนี้ข่าว คนถูกเลิกจ้างก็ยังไม่ค่อยมีนะครับ เพียงแค่เมกาลดงบประมาณทางการทหารลงผมว่าก็ช่วยได้เยอะแล้วหล่ะครับ

แต่วิกฤติรอบใหญ่จริง ๆ ผมว่ายังจะมีเกิดขึ้นนะครับแต่คงจะยังไม่ใช่ครั้งนี้ และหากเกิดขึ้นจริงคงจะมีการเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจของโลกเลยก็ได้นะครับ ผมว่าจีนต้องมาแทนเมกา และอาเซี่ยนก็น่าจะเป็นเหมือน สหภาพยุโรป แต่ตอนนี้ยังไม่น่าใช้เพราะจีนในตอนนี้ก็อาจจะยังไม่พร้อมที่จะเป็นเบอร์หนึ่ง และการร่วมกันของอาเซี่ยนก็ยังไม่เกิด ผมว่าอีกซักระยะคงจะเกิด

ในส่วนของไทยผมว่าในครั้งนี้ไม่น่าจะมีผลกระทบอะไรมากมายแม้แต่ ส่งออกนะครับ อาจจะมีผลจากค่าเงินบ้างแต่ก็ไม่น่าเยอะ เพราะขนาดช่วงนี้ค่าเงินก็ยังทรง ๆ เลยนะครับ และที่ตลาดทั่วเอเชียที่ลงหนัก ๆ อาจเกิดจากการที่กองทุนต่างชาติ ต่าง ๆ ต้องเตรียมเงินไว้เผื่อมีการไถ่ถอนการลงทุนของปชช นะครับ และเพื่อปรับต้นทุนทางการเงินใหม่ ผมว่าเดี๋ยวพอทุกอย่างเริ่มอยู่ตัวคนไม่ตื่น ทุกอย่างก็กลับมาเหมือนเดิมและอาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เงินคงไหลเข้ามาเอเชียมากกว่าเดิม เมื่อไรที่ทองเริ่มลง หรือ เกิดฟองสบู่ ( ผมว่าเกิดแน่ ไม่นานด้วย ) เมื่อนั้นตลาดหุ้นคงจะกลับมาและไปไกลกว่าเดิมนะครับ

ผมไม่มีความรู้และความเชี่ยวชาญทางนี้นะครับ ใช้จากการอ่านข่าวเอาผิดถูกยังไงขออภัย และขอคำชี้แนะด้วยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
CheNz
Verified User
โพสต์: 1612
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 18

โพสต์

error เขียน: ผมว่าเดี๋ยวพอทุกอย่างเริ่มอยู่ตัวคนไม่ตื่น ทุกอย่างก็กลับมาเหมือนเดิมและอาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เงินคงไหลเข้ามาเอเชียมากกว่าเดิม เมื่อไรที่ทองเริ่มลง หรือ เกิดฟองสบู่ ( ผมว่าเกิดแน่ ไม่นานด้วย ) เมื่อนั้นตลาดหุ้นคงจะกลับมาและไปไกลกว่าเดิมนะครับ
รบกวนคุณ error
ให้เป็นความรู้หน่อยครับว่าทำไมถึงคิดว่าจะเกิดฟองสบู่ทองคำในไม่ช้านี้ครับ
แล้วลักษณะของฟองสบู่ทองคำเป็นเช่นไรครับ รบกวนด้วยครับ
ขอบคุณครับ :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
thalucoz
Verified User
โพสต์: 658
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 19

โพสต์

มาอยากรู้ด้วยคนครับ ถามอีกนิดครับว่าบาทแข็ง เงินภูมิภาคแข็ง มีความเป็นไปได้ไหมครับที่จะเกิด USD Carry Trade เหมือนกับ Yen Carry Trade เพราะ Fed ก็ออกมาบอกว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำต่อไปอีก 2 ปี (ถ้าผมฟังมาผิดรบกวนช่วยทักด้วยนะครับ) แล้วก็ค่าเงินของเราก็แข็งใช้ได้เลยครับ

บวกกับ ข่าวว่าเงินจะไหลเข้าเอเชียอีก ก็แปลว่า USD จะอ่อนค่าลงอีกแน่ ๆ หรือเปล่าครับ :?
FREEDOM ---------- HOLD MY HAND
jom
Verified User
โพสต์: 60
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 20

โพสต์

เงินมีไม่มากตกเยอะจนไม่รู้จะซื้อตัวไหนดีเต็มไปหมด
ภาพประจำตัวสมาชิก
กล้วยไม้ขาว
Verified User
โพสต์: 1074
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 21

โพสต์

ผมคิดแต่เพียงว่า ผมจะทำอย่างไรเพื่อที่ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายแค่ไหน
เมื่อมันผ่านไปแล้วผมจะเป็นคนคนหนึ่งที่ได้มาลงชื่อบอกเพื่อนๆว่า

"รอดครับ ^^"
pornchal
Verified User
โพสต์: 1070
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 22

โพสต์

เท่าที่อ่านมารวมถึงความเห็นของเพื่อน ๆ ข้างบน พอสรุปได้ว่า
ไม่น่าจะเป็นวิกฤตตลาดหุ้น เพราะ รัฐมีปัญหา ไม่ใช่ บริษัทมีปัญหา ดังนั้นราคาหุ้นไม่น่าจะกระทบมาก แค่เป็น Panic เท่านั้น... ถ้าคนหายตกใจประกอบกับผลประกอบการของบริษัทออกมาดี ราคาหุ้นน่าจะกลับไปที่เดิม ก่อนการลดเกรด US จาก AAA เป็น AA+ อีกทั้ง AA+ ก้อมีความหมายว่า เงินไม่สูญ ไม่ต้องเป็นห่วง แล้วเป็นห่วงอะไรกันหุ้นจึงตก
แปลกมากนะ ครับ ที่พันธบัตร US ราคาขี้น ..คนไม่กลัวเบี้ยวหนี้ เลยไม่มีใครดั้มขายเหมือนหุ้น...

สรุปผิด แก้ได้ นะครับ....

ทองเป็นฟองสบู่ เพราะ ทองมันเหมือนเดิมทุกอย่าง เอาไปทำอะไรก้อไม่ได้ แต่ราคามันขึ้นสูงเกินไป จะเก็บทองไปทำไม กินก้อไม่ได้... อิอิ ขำขำ
วันนึงคนหายบ้าทอง ก้อจะถล่มขายออกมาอย่างแน่นอนที่สุด...
The One
ภาพประจำตัวสมาชิก
Hisoka
Verified User
โพสต์: 175
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 23

โพสต์

เอกชนเข้มแข็งแต่รัฐมีปัญหา แล้วเจ้าหนี้ของรัฐล่ะครับจะเป็นยังไง
juttumas
Verified User
โพสต์: 5
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 24

โพสต์

ขอแชร์ด้วยคนครับ
1) รอบนี้ผมมองว่าไม่ใช้วิกฤต แต่เป็นแค่ panic เหตุผลคือ
- USA ขยายเพดานหนี้ คนตกใจกลัว USA ไม่มีเงินจ่ายเงินหนี้/ดอกเบี้ย
- การถูกลดเกรดของ USA
- กลัวปัญหาลามไปยุโรป (อิตาลี/สเปน)
2) ถ้าจะวิกฤตจริง ๆ ผมมองว่า น่าจะใช้ระยะเวลา 6 เดือน - 1 ปี ครึ่ง เหตุผลคือ
- สินทรัพย์ที่มีปัญหาที่รัฐบาล USA รับซื้อไปจาก ภาคเอกชน ยังไม่มีแผนการจัดการที่ชัดเจน
- การเลือกตั้งของ USA
- การชำระหนี้คืนของ กรีซ ไอร์แลนด์ และโปรตุเกส (เงินต้น/ดอกเบี้ย) อาจมปีปัญหา
- มาตรการลดการดุลและการขยายตัวของ GDP ของ อิตาลี / สเปน ยังไม่มีให้เห็นเป็นรูปธรรม
3) ปัญหาจากประเทศญี่ปุ่น ที่ยังไม่ฟื้นตัว
4) ประเทศจีน ชะลอการเติบของเศรษฐกิจ
5) สำหรับประเทศไทย ผมมองว่า ยังเป็นปัญหาการเมือง


ขอแค่นี้ก่อนครับ ใครมีข้อแนะนำช่วยเพิ่มเติมด้วยครับ
error
Verified User
โพสต์: 113
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 25

โพสต์

CheNz เขียน:
error เขียน: ผมว่าเดี๋ยวพอทุกอย่างเริ่มอยู่ตัวคนไม่ตื่น ทุกอย่างก็กลับมาเหมือนเดิมและอาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เงินคงไหลเข้ามาเอเชียมากกว่าเดิม เมื่อไรที่ทองเริ่มลง หรือ เกิดฟองสบู่ ( ผมว่าเกิดแน่ ไม่นานด้วย ) เมื่อนั้นตลาดหุ้นคงจะกลับมาและไปไกลกว่าเดิมนะครับ
รบกวนคุณ error
ให้เป็นความรู้หน่อยครับว่าทำไมถึงคิดว่าจะเกิดฟองสบู่ทองคำในไม่ช้านี้ครับ
แล้วลักษณะของฟองสบู่ทองคำเป็นเช่นไรครับ รบกวนด้วยครับ
ขอบคุณครับ :D
อุ๊ย.....ผมมิกล้าให้หรอกครับ เพราะความคิดผมคงไม่สามารถเรียกว่าความรู้ได้ครับ เพราะผมมีอยู่แค่หางอึ่งเองครับ :D แต่ถือว่าแชร์มุมมองกันนะครับ ผมคิดเอาเองว่าเดี๋ยวนี้ราคาทองหรือน้ำมันมันขึ้นหรือลง ไม่ได้เกิดจากความต้องการบริโภคจริง ๆ ครับ แต่มันเกิดจากพวกเฮดฟัน ที่เข้าไปซื้อเก็งกำไร ในตลาดโลก ( ผมว่าระบบนี้ก็เป็นสาเหตุหนึ่งนะครับที่ เมกาและยุโรป มีปัญหาอยู่ ) ทองในอดีตอาจจะเป็นสินทรัพย์เสี่ยงต่ำมีความมั่นคงสูง เพราะฉนั้นเมื่อก่อนราคาทองถึงไม่ค่อยผันผวนมากเหมือนเดี่ยวนี้ ตามความเข้าใจของผม คือว่าถ้าประเทศไหนจะพิมพ์เงินออกมาก็ต้องเอาทองไปเป็นทุนสำรอง อีกอย่างการบริโภคทองโดยตรงก็คือเครื่องประดับต่าง ๆ แต่ท่ีผ่านมาผมก็ยังไม่เห็นปัจจัยหรือข่าวว่า ตลาดเครื่องประดับโตมาก หรือ ประเทศไหนต้องพิมพ์เงินเยอะๆ ( ยกเว้น เมกานะครับ เพราะเค้าพิมพ์เงินได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ทอง ) คราวนี้พอพวกเฮดฟัน เข้าไปเก็งกำไร ราคาก็ขึ้นและผันผวนมาก แต่คราวนี้ทองคนทั่วไปทุกระดับก็สามารถซื้อมาครอบครองในรูปของเครื่องประดับได้ ไม่เหมือนน้ำมันที่ไม่ใช่ใครก็ไปซื้อน้ำมันมาเก็บแล้รอราคามันขึ้นค่อยเอาไปขายได้เหมือนทอง ซึ่งทำให้ทองมีการหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ และทุกระดับ ทำให้ราคายิ่งขึ้น เพราะทุกคนช่วยกันซื้อ ๆ ขาย ๆ ตลอด

คราวนี้ส่วนที่ผมมองว่าฟองสบู่ และจะเกิดเร็ว ๆ นี้ ผมสังเกตจากความผันผวนของราคาภายในหนึ่งวัน บางวันเปลี่ยนราคาเป็น 10 ครั้ง และผมว่าเดี๋ยวนี้ร้านทองทั่วไปน่าจะขายทองแท่งได้มากกว่าทองรูปพรรณนะครับ แสดงว่าคนที่ซื้อทองแท่งไปก็เพื่อเก็งกำไรจากราคานะครับ และมันก็เหมือนหุ้นมั่งครับที่พอมันขึ้นสูงมาก ๆ คนก็กลัวว่าเดี๋ยวมันสูงไปขายก่อนดีกว่า ช่วงนี้ ตั้งแต่ราคา 1700 เหรียญขึ้นมา ผมว่าคนเริ่มกลัวว่าขึ้นสูงเกินไป เดี๋ยวก็แห่กันมาขาย ผมว่าไม่ว่าสินทรัพย์ประเภทไหนก็แล้วแต่ หากมีการเก็งกำไรกันมาก ๆ ก็ไม่พ้นที่จะเกิดภาวะฟองสบู่แตก เช่น ที่ดิน หุ้น น้ำมัน และ ทอง มุมมองส่วนตัวนะครับ ผิดถูกยังไงอย่าถือสานะครับ ยังไงรบกวนชี้แนะผมด้วยครับ :D :D
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 26

โพสต์

ผมแบ่งพอร์ทเป็น 2 ครับ

1.ลงทุนเน้นคุณค่า ถือยาว ถือลงมา 100 จุด แล้ว หุ้นก็ตก แต่ก็เฉยๆ เพราะกิจการไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร และได้ปันผลด้วย ส่วนต่างราคาก็มีไว้เป็น mos

2.เก็งกำไรเน้นคุณค่า ซื้อเมื่อตลาด ให้ราคาต่ำกว่ามูลค่า ขายเมื่อราคาตลาดให้สูงกว่ามูลค่า เพราะหุ้นในตลาดมีเยอะ เลือกได้เพรียบ

ผมนำทั้งสองพอร์ทมาแข่งกัน เปรียบเสมือนมือซ้ายแข่งกับมือขวา

เพราะพอร์ทข้างนอกเราไม่รู้เรื่องจริง หรือไม่จริง ที่เขาเล่าๆมา

เราเล่นของเราเอง นี่เรื่องจริงที่สุด

ทั้ง 2 พอร์ท มีจุดเด่น จุดด้อยต่างกันครับ

เช่น หากตลาดตกมากๆ พอร์ทเก็งกำไรเน้นคุณค่า ก็ทำงาน

หากตลาดรีบาว พอร์ท การลงทุนเน้นคุณค่า ก็สวย

รู้สึกว่า ลงทุนแบบนี้ เวลานี้ เหมาะกับตัวเองครับ
pakhakorn
Verified User
โพสต์: 957
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 27

โพสต์

ถ้าไม่ว่าอะไร.....จะถามคุณpornchal บ้างนะ ครับ..... ด้วยคำถามเดียวกับที่คุณpornchal ถามเพื่อนๆและน้องๆสมาชิกในห้อง (เอาแบบตรงประเด็นที่คุณporchalที่คุณporchalอยากได้ ครับ)

ผมว่านับจากวันที่ 9-8-54 จนถึงวันนี้ ยังไม่เห็นคุณpornchalแชร์อะไรในคำถามที่คุณpornchalถามเลย....

มือยังอ่อน ครับ อยากได้ฟังความเห็นเจ้าของกระทู้บ้างก่อนเปิดตลาด เพื่อเปิดหูเปิดตาบ้าง ครับ

ขอโทษ นะ ครับ :bow: :bow: :bow:
ภาพประจำตัวสมาชิก
The Dark
Verified User
โพสต์: 209
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 28

โพสต์

Jeng เขียน:ผมแบ่งพอร์ทเป็น 2 ครับ

1.ลงทุนเน้นคุณค่า ถือยาว ถือลงมา 100 จุด แล้ว หุ้นก็ตก แต่ก็เฉยๆ เพราะกิจการไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร และได้ปันผลด้วย ส่วนต่างราคาก็มีไว้เป็น mos

2.เก็งกำไรเน้นคุณค่า ซื้อเมื่อตลาด ให้ราคาต่ำกว่ามูลค่า ขายเมื่อราคาตลาดให้สูงกว่ามูลค่า เพราะหุ้นในตลาดมีเยอะ เลือกได้เพรียบ

ผมนำทั้งสองพอร์ทมาแข่งกัน เปรียบเสมือนมือซ้ายแข่งกับมือขวา

เพราะพอร์ทข้างนอกเราไม่รู้เรื่องจริง หรือไม่จริง ที่เขาเล่าๆมา

เราเล่นของเราเอง นี่เรื่องจริงที่สุด

ทั้ง 2 พอร์ท มีจุดเด่น จุดด้อยต่างกันครับ

เช่น หากตลาดตกมากๆ พอร์ทเก็งกำไรเน้นคุณค่า ก็ทำงาน

หากตลาดรีบาว พอร์ท การลงทุนเน้นคุณค่า ก็สวย

รู้สึกว่า ลงทุนแบบนี้ เวลานี้ เหมาะกับตัวเองครับ
พี่เจ๋งครับ แล้วผลตอบแทนที่แบ่ง 2 พอร์ท อันไหนดีกว่ากันครับ :evil: :evil:
ถามไถ่โลกหล้า รักคือสิ่งใด
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 29

โพสต์

มันเพิ่งเริ่มต้นไม่ใช่หรือ
:)
:)
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

Re: เวลาวิกฤต ผ่านไปจะมีคนมาเขียนอะไรมากมาย รอบนี้ละ คุณว่าไ

โพสต์ที่ 30

โพสต์

bankxl เขียน:
Jeng เขียน:ผมแบ่งพอร์ทเป็น 2 ครับ

1.ลงทุนเน้นคุณค่า ถือยาว ถือลงมา 100 จุด แล้ว หุ้นก็ตก แต่ก็เฉยๆ เพราะกิจการไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร และได้ปันผลด้วย ส่วนต่างราคาก็มีไว้เป็น mos

2.เก็งกำไรเน้นคุณค่า ซื้อเมื่อตลาด ให้ราคาต่ำกว่ามูลค่า ขายเมื่อราคาตลาดให้สูงกว่ามูลค่า เพราะหุ้นในตลาดมีเยอะ เลือกได้เพรียบ

ผมนำทั้งสองพอร์ทมาแข่งกัน เปรียบเสมือนมือซ้ายแข่งกับมือขวา

เพราะพอร์ทข้างนอกเราไม่รู้เรื่องจริง หรือไม่จริง ที่เขาเล่าๆมา

เราเล่นของเราเอง นี่เรื่องจริงที่สุด

ทั้ง 2 พอร์ท มีจุดเด่น จุดด้อยต่างกันครับ

เช่น หากตลาดตกมากๆ พอร์ทเก็งกำไรเน้นคุณค่า ก็ทำงาน

หากตลาดรีบาว พอร์ท การลงทุนเน้นคุณค่า ก็สวย

รู้สึกว่า ลงทุนแบบนี้ เวลานี้ เหมาะกับตัวเองครับ
พี่เจ๋งครับ แล้วผลตอบแทนที่แบ่ง 2 พอร์ท อันไหนดีกว่ากันครับ :evil: :evil:
สำหรับตัวพี่เอง พอร์ทเก็งกำไรชนะครับ ยิ่งตอนตลาดลงยิ่งชอบเพราะถือเงินสด 100 %

ส่วนพอร์ท ถือ ยาว ก็ไม่ได้ยุ่งอะไร และกำไรลดตอนหุ้นลง 100 จุด

ครับผม
โพสต์โพสต์