ตามที่ผมเข้าใจก็คือการลงทุนแบบ vi จะเน้นดูในเรื่องของปัจจัยพื้นฐาน(งบการเงิน/สภาพเศรษฐกิจ/....) แล้วดูว่าหุ้นตัีวไหนมีแนวโน้มว่าอนาคตจะไปได้ไกล ก็ซื้อแล้วถือยาวเพื่อรอรับปันผลใช่หรือเปล่าครับ
ทีนี้ผมมีคำถามว่า สมมติผมเริ่มต้นลงทุนด้วยเงิน 100000 บาท
ผมเล็งหุ้นไว้สามตัว(สมมติชื่อ a/b/c )ว่าอนาคตจะไปได้ไกลแน่นอน
หุ้น a ผมซื้อที่ราคา 15 บาท จำนวน 2000 หุ้น รวม 30000 บาท
หุ้น b ผมซื้อที่ราคา 17 บาท จำนวน 2000 หุ้น รวม 34000 บาท
หุ้น c ผมซื้่อที่ราคา 18 บาท จำนวน 2000 หุ้น รวม 36000 บาท
รวม 100000 บาท
สมมติว่าผ่านต่อมาซัก 2-3 ปี ราคาหุ้นทั้ง a/b/c ไปอยู่ที่ประมาณ 25-30 บาท
อย่างนี้ถ้าเกิดผมมีเงินมาลงทุนเพิ่ม ผมก็ไม่ควรลงในหุ้น a/b/c แล้วหรือเปล่าครับ
เพราะถ้าเอาเงินไปลงทุนเพิ่มจะทำให้ต้นทุนเฉลี่ยมันสูงขึ้น
หรือว่า vi ไม่ต้องสนในเรื่องของ capital gain แต่ดูที่ dividend yield อย่างเดียวครับ
ถามเรื่องการลงทุนแนว vi หน่อยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 304
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถามเรื่องการลงทุนแนว vi หน่อยครับ
โพสต์ที่ 2
ลืมราคาต้นทุกที่ซื้อมาได้เลยครับ ทำเป็นเหมือนว่า ถ้าเรามาตลาดหุ้นครั้งแรก
ศึกษาหุ้นทุกตัวอย่างละเอียดแล้ว ถ้าสามตัวนั้นคุ้มค่าที่สุด ที่ราคานั้น ก็ซื้อได้ครับ ดูที่มูลค่ากิจการเป็นหลัก เป็นไปได้ว่าเวลาผ่านไปมูลค่ากิจการเพิ่มขึ้น
ถ้าราคานั่นคิดว่าแพงเกินไป ก็ไปดูหุ้นตัวอื่นครับ อาจจะมีหุ้นดีราคาถูกตัวอื่น ๆ ในเวลานั้น ขณะที่หุ้นสามตัวของเราอาจจะแพงเกินไปแล้ว
ถ้าทอดตาดูหุ้นทั้งตลาด ปรากฏว่าแพงเกินไปหมดทั้งตลาด ผมจะเฉย ๆ กำเงินสดไว้ แล้วเอาเวลาไปพัฒนาคุณภาพการตัดสินใจ โดยการหาความรู้ไปเรื่อย ๆ พักเงินไว้ก่อนครับ
ศึกษาหุ้นทุกตัวอย่างละเอียดแล้ว ถ้าสามตัวนั้นคุ้มค่าที่สุด ที่ราคานั้น ก็ซื้อได้ครับ ดูที่มูลค่ากิจการเป็นหลัก เป็นไปได้ว่าเวลาผ่านไปมูลค่ากิจการเพิ่มขึ้น
ถ้าราคานั่นคิดว่าแพงเกินไป ก็ไปดูหุ้นตัวอื่นครับ อาจจะมีหุ้นดีราคาถูกตัวอื่น ๆ ในเวลานั้น ขณะที่หุ้นสามตัวของเราอาจจะแพงเกินไปแล้ว
ถ้าทอดตาดูหุ้นทั้งตลาด ปรากฏว่าแพงเกินไปหมดทั้งตลาด ผมจะเฉย ๆ กำเงินสดไว้ แล้วเอาเวลาไปพัฒนาคุณภาพการตัดสินใจ โดยการหาความรู้ไปเรื่อย ๆ พักเงินไว้ก่อนครับ
Go within, be at peace.
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถามเรื่องการลงทุนแนว vi หน่อยครับ
โพสต์ที่ 3
ราคาหุ้นจะถูกหรือแพงก็เทียบกับผลการดำเนินงานในช่วงนั้นเป็นต้นไป
วันอาทิตย์ ราคาสูงขึ้น แต่มีผลการดำเนินงานดีขึ้น จ่ายปันผลมากขึ้น ราคาที่สูงขึ้นอาจจะถูกกว่าราคาในอดีตก็ได้ครับ
และการลงทุนเน้นคุณค่าไม่ได้สนใจแต่เงินปันผลนะครับ เพียงแต่ไม่ได้สนใจ Capital Gain ที่ไม่ได้มาจากปัจจัยพื้นฐาน
เมื่อบริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น จ่ายปันผลมากขึ้น ราคาหุ้นก็สูงขึ้นเองละครับ
อย่างหุ้นราคา 10 บาท กำไรต่อหุ้น 2 บาท ปันผล 1 บาท
ต่อมาอีก 5 ปี กำไรเพิ่มเป็น 4 บาท ปันผล 2 บาท ราคาหุ้นก็คงไม่อยู่ที่ 10 บาทละ จริงไหมครับ
วันอาทิตย์ ราคาสูงขึ้น แต่มีผลการดำเนินงานดีขึ้น จ่ายปันผลมากขึ้น ราคาที่สูงขึ้นอาจจะถูกกว่าราคาในอดีตก็ได้ครับ
และการลงทุนเน้นคุณค่าไม่ได้สนใจแต่เงินปันผลนะครับ เพียงแต่ไม่ได้สนใจ Capital Gain ที่ไม่ได้มาจากปัจจัยพื้นฐาน
เมื่อบริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น จ่ายปันผลมากขึ้น ราคาหุ้นก็สูงขึ้นเองละครับ
อย่างหุ้นราคา 10 บาท กำไรต่อหุ้น 2 บาท ปันผล 1 บาท
ต่อมาอีก 5 ปี กำไรเพิ่มเป็น 4 บาท ปันผล 2 บาท ราคาหุ้นก็คงไม่อยู่ที่ 10 บาทละ จริงไหมครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี