VI ไม่จำเป็นต้องดูกราฟเทคนิคใช่ไหมครับ

[sarawut_p]

เท่าที่เข้าใจคือ กราฟเทคนิคไม่ได้เกี่ยวกับพื้นฐานที่แท้จริงของกิจการ
ดังนั้น VI จึงไม่ดูกราฟเทคนิคใช่ไหมครับ ?

[todsapon]

มีร้านค้าแห่งหนึ่งขายนมกล่อง ราคากลางคือ 10 บาท แต่คุณซื้อได้ราคา 3 บาท ต่อมาร้านค้าคิดว่าเขาขายถูกไป เลยขึ้นราคาเป็น 5 บาท คุณจะบอกว่านมกล่องนั้นแพงหรือไม่

[roronoa]

ถามว่าจำเป็นมั้ย ไม่จำเป็นครับ
แต่ถ้าถามว่ามีประโยชน์มั้ย มีครับ

สำหรับผม กราฟเทคนิคช่วยในการหาจังหวะซื้อหุ้นครับ

[sarawut_p]

มีร้านค้าแห่งหนึ่งขายนมกล่อง ราคากลางคือ 10 บาท แต่คุณซื้อได้ราคา 3 บาท ต่อมาร้านค้าคิดว่าเขาขายถูกไป เลยขึ้นราคาเป็น 5 บาท คุณจะบอกว่านมกล่องนั้นแพงหรือไม่

ไม่แพงนะครับ เพราะที่อื่นขายกัน ๑๐ บาท

[sarawut_p]

ถามว่าจำเป็นมั้ย ไม่จำเป็นครับ
แต่ถ้าถามว่ามีประโยชน์มั้ย มีครับ

สำหรับผม กราฟเทคนิคช่วยในการหาจังหวะซื้อหุ้นครับ

มีส่วนทำให้ได้หุ้นที่ราคาถูกพอสมควรในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ เมื่อเทียบกับการไม่ดูกราฟเหรอครับ

[Warantact]

ไม่จำเป็นต้องดู การซื้อหุ้นที่จุดต่ำสุดยาก
ถ้าของมันถูกไม่ต้องสนหรอกว่ามันกำลังจะขึ้นหรือมันจะลงต่อ
คนที่พยายามสร้างกำไรให้สูงสุด น่าแปลก
ผลงานบ่อยครั้งก็ไม่ได้เหนือไปกว่าคนที่ตั้งใจทำกำไรแค่พอใช้
ดูตัวอย่างday tradeที่พยายามทำให้ได้วันละเปอ จะได้ปีละสองร้อยเปอ
สุดท้ายหลายๆคนก็สู้พวกปิดตาถัวเอาปีละสิบไม่ได้

สักวันราคาที่ถูกมันก็วิ่งเข้าไปหามูลค่ามันเอง

ของมูลค่าสิบ
ซื้อมาห้า
ลงไปสาม แล้วไง
เดี๋ยวมันก็ไปสิบ

[sarawut_p]

ขอบคุณสำหรับแนวคิดครับ

[Boyadvance]

ผมว่ามันช่วยให้เรารู้ราคาเฉลี่ยที่ตลาดตอบสนองในระยะเวลาในอดีต
มีประโยชน์กับหุ้นที่ไม่ค่อยมีการเติบโต แต่ราคาลงเพราะเกิด panic sell

[chotipat]

http://vivitawin.com/2011/06/01/0007/

[roronoa]

ถามว่าจำเป็นมั้ย ไม่จำเป็นครับ
แต่ถ้าถามว่ามีประโยชน์มั้ย มีครับ

สำหรับผม กราฟเทคนิคช่วยในการหาจังหวะซื้อหุ้นครับ

มีส่วนทำให้ได้หุ้นที่ราคาถูกพอสมควรในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ เมื่อเทียบกับการไม่ดูกราฟเหรอครับ

ครับ จะตอบแบบนั้นก็ได้ครับ
คือมีส่วนช่วยให้เก็บหุ้นได้ถูกลง ถ้าอ่านออกนะครับ

เช่น เมื่อเราหาหุ้นดีดีมาได้ 1 ตัว แต่ถ้าเราอ่านว่า กราฟจะลง
เราจะไปซื้อทำไม ในเมื่อเรากำลังจะซื้อได้ในราคาที่ต่ำกว่า

แต่ถ้าเราอ่านผิด หุ้นดีดีตัวนี้อาจหลุดมือไปไกลแสนไกลก็ได้นะครับ

สรุป ไม่จำเป็น แต่ถ้าใช้เป็น(เก่งมากๆ)อาจมีประโยชน์ได้นะครับ

[jo7393]

หากมูลค่าเหมาะสมหาได้ที่ 100
ราคาปัจจุบัน 50
กราฟบอกให้ขาย คุณจะขายหรือซื้อ

หากมูลค่าเหมาะสมหาได้ที่ 100
ราคาปัจจุบัน 120
กราฟบอกให้ซื้อ คุณจะซื้อหรือขาย

ตอบคำถามนี้แล้วคงหาคำตอบในใจได้นะครับ

[old_man_and_the_set]

หากมูลค่าเหมาะสมหาได้ที่ 100
ราคาปัจจุบัน 50
กราฟบอกให้ขาย คุณจะขายหรือซื้อ

หากมูลค่าเหมาะสมหาได้ที่ 100
ราคาปัจจุบัน 120
กราฟบอกให้ซื้อ คุณจะซื้อหรือขาย

ตอบคำถามนี้แล้วคงหาคำตอบในใจได้นะครับ

คำตอบสำหรับคำถามแรก คือ ซื้อ

คำตอบสำหรับคำถามที่สอง คือ ไม่ซื้อ (ถ้าไม่มีอยู่ในมือ)

[sarawut_p]

หากมูลค่าเหมาะสมหาได้ที่ 100
ราคาปัจจุบัน 50
กราฟบอกให้ขาย คุณจะขายหรือซื้อ

หากมูลค่าเหมาะสมหาได้ที่ 100
ราคาปัจจุบัน 120
กราฟบอกให้ซื้อ คุณจะซื้อหรือขาย

ตอบคำถามนี้แล้วคงหาคำตอบในใจได้นะครับ

คำตอบสำหรับคำถามแรก คือ ซื้อ

คำตอบสำหรับคำถามที่สอง คือ ไม่ซื้อ (ถ้าไม่มีอยู่ในมือ)

ตรงใจเลยครับ

[roronoa]

หากมูลค่าเหมาะสมหาได้ที่ 100
ราคาปัจจุบัน 50
กราฟบอกให้ขาย คุณจะขายหรือซื้อ

หากมูลค่าเหมาะสมหาได้ที่ 100
ราคาปัจจุบัน 120
กราฟบอกให้ซื้อ คุณจะซื้อหรือขาย

ตอบคำถามนี้แล้วคงหาคำตอบในใจได้นะครับ

คำตอบสำหรับคำถามแรก คือ ซื้อ

คำตอบสำหรับคำถามที่สอง คือ ไม่ซื้อ (ถ้าไม่มีอยู่ในมือ)

ผมว่าไม่แน่เสมอไปครับ
ทุกอย่างมันคือการคาดเดากันทั้นนั้นครับ
แต่คาดเดาตามพื้นฐานและวิธีของมัน

ถ้าอิงกราฟ การดูว่าจะขึ้นหรือลง ก็คือการคาดเดา
ตามพื้นฐานทางเทคนิค อารมณ์ตลาด mr.market ทั้งหลายแหล่

ถ้าอิงปัจจัยพื้นฐาน การกำหนดราคาเป้าหมาย ก็คือการคาดเดาเหมือนกัน
แต่คาดเดาตามหลักการที่ควรจะเป็นของมัน มีเหตุมีผล มีขั้นตอนของมัน

ผมกล้าพูดได้เลยว่าถ้าท่านอ่านกราฟเก่งมากแบบขั้นเทพ ถูกทุกครั้ง
ผมรับประกันได้เลยว่าผลตอบแทนดีกว่าถือแบบถล่มทลายแน่นอน

จากตัวอย่าง ราคาปัจจุบัน 50
กราฟบอกให้ขาย คุณจะขายหรือซื้อ
ผมขายแน่นอน ถ้าผมเซียนกราฟอย่างที่บอก แต่ต้องเทพมากๆนะ
แล้วกลับไปซื้อที่ 40 ยังได้เลย

หากมูลค่าเหมาะสมหาได้ที่ 100
ราคาปัจจุบัน 120
กราฟบอกให้ซื้อ คุณจะซื้อหรือขาย
ผมซื้อแน่นอน ขายที่ 130 ได้กำไรเพิ่มขึ้นไปอีก ใครจะไม่ซื้อ

แต่โดยความเป็นจริงแล้ว การที่จะรวยด้วยกราฟมันยากเย็นจริงๆ
ความเสี่ยงสูงโด่ ความเป็นเหตุเป็นผลต่ำ อีกทั้งตัวอย่างจากอดีต
ก็ยังไม่มีผลผลิตเศรษฐีกราฟโผล่ออกมาเป็นตัวเป็นตนซักเท่าไหร่

ผมไม่ได้บอกว่าวิธีไหนดีกว่า ส่วนตัว จึงขอสรุปว่า
กราฟไม่จำเป็น แต่อาจมีประโยชน์ครับ

[navapon]

ประเด็นอยู่ที่ว่า "คนที่อ่านกราฟเก่งมากแบบขั้นเทพ" ไม่มีอยู่จริงน่ะสิ
ใครจะนั่งอ่านแท่งเทียนได้ถูกต้องทุกครั้ง ผมคงไม่เชื่อ

[roronoa]

ประเด็นอยู่ที่ว่า "คนที่อ่านกราฟเก่งมากแบบขั้นเทพ" ไม่มีอยู่จริงน่ะสิ
ใครจะนั่งอ่านแท่งเทียนได้ถูกต้องทุกครั้ง ผมคงไม่เชื่อ

555 ใช่เลยครับคุณ navapon
ผมให้เค้าเป็นนักลงทุนในฝันของผมเลยครับ อยู่แต่ในฝัน

[roronoa]

แต่จากคำตอบของคุณ navapon
ถ้าจะบอกว่า VI เลือกหุ้นถูกตัวทุกครั้ง ผมก็คงไม่เชื่อเช่นกัน

[maiaowna]

กราฟบอกว่าคนเขากำลังทำอะไร คิดอะไร ^^''

[simplelife]

กราฟบอกว่าคนเขากำลังทำอะไร คิดอะไร ^^''

เท่าที่เคยเห็นมา "กราฟบอกว่าคนที่ดูกราฟกำลังทำอะไร คิดอะไร" ซะมากกว่าครับ

[sarawut_p]

ได้ความคิดเห็นของทั้งสองมุมเลย ขอบคุณครับ

[ดำ]

ไม่เก่งแนว VI แต่นึกว่าตัวเองเก่ง ==> เจ๊ง
ไม่เก่งแนวกราฟ แต่นึกว่าตัวเองเก่ง ==> เจ๊ง

เก่งแนว VI แล้วก็เทรดแนว VI ==> เจ๋ง
เก่งแนวกราฟ แล้วก็เทรดแนวกราฟ ==> เจ๋ง

เก่งแนว VI แต่ดูถูกแนวกราฟ ==> โลกแคบ (+ใจแคบ) แต่เอาตัวรอด
เก่งแนวกราฟ แต่ดูถูกแนว VI ==> โลกแคบ (+ใจแคบ) แต่เอาตัวรอด

เก่งแนว VI และเก่งแนวกราฟ ==> โคตรเซียน
ไม่เก่งทั้งแนว VI และกราฟ แต่นึกว่าตัวเองเก่ง ==> โคตรมั่ว + เจ๊งX2

[aonzzung]

ผมดูแต่กราฟราคา เอาไว้ดูแนวโน้มราคา เผื่อได้ซื้อของถูกตอนมันปรับฐาน หรือตอนที่มันตกแบบโง่ๆ

[McDonald]

เท่าที่เข้าใจคือ กราฟเทคนิคไม่ได้เกี่ยวกับพื้นฐานที่แท้จริงของกิจการ
ดังนั้น VI จึงไม่ดูกราฟเทคนิคใช่ไหมครับ ?

ยังไงก็ได้คับ อุตสาห์คิดคำนวนมาเป็นเดือน แต่ตอนซื้ออย่าลังเล เด๋วตกรถ ถูก แพงนิดหน่อยช่างมัน

[biya]

ถ้าคิดแบบVI ก็ไม่จำเป็นครับเพราะถ้าหุ้นตัวใดถูกและมีราคาตำ่กว่ามูลค่าเราก็เข้าไปซื้อได้เลย
แต่ถ้าคิดแบบคนที่ต้องการผลตอบแทนสูงสุดจากการลงทุนในระยะยาวก็ตอบว่าจำเป็นครับ
คือเราจะใช้กราฟเทคนิคดูจังหวะที่คิดว่าน่าจะซื้อหรือขายครับ
ยิ่งซื้อหุ้นมาได้ในราคาตำ่อัตราผลตอบในระยะยาวก็จะยิ่งสูง
ตัวอย่าง มีเงิน 100 บาท นำไปซื้อหุ้น A ที่ราคา 6 บาท เราก็จะได้ 16.66 หุ้น
แต่ถ้าซื้อหุ้น A ที่ราคา 5 บาท เราก็จะได้ 20.00 หุ้น
สมมติว่าราคาหุ้น A ขึ้นเป็น 10 บาท
หุ้น A ที่ซื้อมาราคา 6 บาท จะมีมูลค่าเท่ากับ 16.66*10 = 166.60 บาท
หุ้น A ที่ซื้อมาราคา 5 บาท จะมีมูลค่าเท่ากับ 20.00*10 = 200 บาท
และถ้าตอนนี้เราขายหุ้นทั้งหมด แล้วนำเงินไปซื้อหุ้นตัวเดิมที่ราคาแบบเดิมคือ 6 กับ 5 บาทและราคาหุ้นขึ้นเป็น 10 บาทเหมือนเดิม
หุ้น A ที่ซื้อมาราคา 6 บาท จะมีมูลค่าเท่ากับ (166.66/6)*10 = 277.66 บาท
หุ้น A ที่ซื้อมาราคา 5 บาท จะมีมูลค่าเท่ากับ (200/5)*10 = 400 บาท
และถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ซำ้กันอีก 10 ครั้ง ลองดูความแตกต่างที่เกิดขึ้นนะครับ
ซื้อหุ้น A ที่ราคา 6 บาทและขายที่ราคา 10 บาท(ซำ้กัน 10 ครั้ง) = 45,919 บาท
ซื้อหุ้น A ที่ราคา 5 บาทและขายที่ราคา 10 บาท(ซำ้กัน 10 ครั้ง) = 409,600 บาท เห็นความแตกต่างมั้ยละ่ครับ
สรุปก็คือ ยิ่งเราได้หุ้นมาในราคาที่ตำ่่เท่าใดผลตอบแทนก็จะยิ่งสูงในระยะยาว

ปล. โดยส่วนตัวผมเป็นคนที่ชอบแนวทางการลงทุนแบบเน้นคุณค่า แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธแนวทางการลงทุนแบบอื่น คิดว่าจะใช้แนวทางใดก็ได้ถ้ามันสามารถทำกำไรให้เราได้มากที่สุด

[tentza]

ผมอ่านหนังสือของ Anthony Bolton อยู่และพบว่าเขาก็ใช้ Technical Analysis เหมือนกัน และจะให้น้ำหนักกับการซื้อเพิ่มขึ้นถ้า Technical Analysis ยืนยันมุมมองในเชิง Fundamental ของเขา

ถ้าถามว่า Technical Analysis จำเป็นไหม ผมก็มองว่าไม่จำเป็นถ้า Fundamental เราแน่นพอและพบว่าเจอหุ้นที่ Undervalue อย่างไรก็ตามผมก็มองว่ารู้ไว้ดีกว่าไม่รู้ครับ

ปล. ส่วนตัวผมพบว่า Technical Analysis ก็ช่วยผมในการจับจังหวะซื้อได้เหมือนกัน แม้ว่าผมจะมีความรู้ทางด้าน Technical แค่เบื้องต้นก็ตาม แต่ผมจะให้ความสำคัญกับ Fundamental ก่อนเสมอครับ

[The Dark]

ผมดูแต่กราฟราคา เอาไว้ดูแนวโน้มราคา เผื่อได้ซื้อของถูกตอนมันปรับฐาน หรือตอนที่มันตกแบบโง่ๆ

เหมือนกันครับ ใช้เทคนิคอล ช่วยในการหาจังหวะเข้าซื้อ จะมีประโยชน์ในเรื่องผลตอบแทนระยะยาวครับ

[leaderinshadow]

เป็นก็ดีครับ
แต่ผมดูไม่เป็น ผมซื้อหุ้นทีไร หุ้นลงตลอดๆๆ
ถึงแม้หลายๆตัวได้กำไร เป็น 100%
แต่จังหวะซื้อ ก็มักจะลบบ้าง ในช่วงแรกๆเสมอ

จังหวะขาย ก็มักจะขายหมูประจำ

เพียงแต่ผมไม่ขายเร็ว หรือช้าเกินไป กำไรก็เต็มไม้เต็มมือดี
จังหวะสั้นๆ ช่วงผันผวน ผมไม่ค่อยใส่ใจครับ
เพื่อนบางคน แซวว่า ถ้าผมดูเทคนิคเป็น กำไรจะมากกว่านี้
ผมก็บอกว่า แค่นี้ก็พอใจแล้ว กลัว่าว่าวิชาจะตีกัน แทนที่ผลตอบแทน แทนที่จะดีขึ้น จะกลายเป็นน้อยลง

ส่วนคนที่ผสมสองสาย แล้วสำเร็จวิชา จนได้ผลตอบแทนมหาศาลจริงๆ
ผมว่ามีน้อยมากๆ ส่วนใหญ่ผสมแล้วจะเป็นพวกธาตุไฟแตกซะมากกว่า

[doo_meau]

ไม่มีหรอกครับเทพการฟที่คุณว่าจะต้องถูก 100% เสมอ เพราะเทคนิคการดูกราฟและอินดี้ต่างๆใช้สมการของความน่าจะเป็นมาเกี่ยวข้องทั้งนั้น ถ้าคุณบอกว่ามันถูกต้อง 100% แสดงว่าคุณยังดูกราฟไม่เป็น เค้าถึงใช้ระบบ mm มาทำให้เมื่อ"โอกาสที่กราฟถูกต้องเกิดขึ้น"เราจะได้กำไร แม้อาจผิดบ่อยกว่าก็ตาม เพราะกราฟมันคือความน่าจะเป็น แล้วถามว่า vi ต้องดูกราฟไหม ถ้าเป็น vi แท้ๆและมีความรู้จริงๆไม่จำเป็นเลยที่จะต้องดู เพราะตัวแปล time มันเป็นสิ่งที่เรากำหนดเองไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ตลาดถึงจะให้ราคานั้นแก่เรา แต่ถามว่าถ้าดูกราฟเป็นดีไหม ดี จะได้ดูว่าเค้ากำลังทำอะไรกัน "รู้เขารู้เรา รบร้อยชนะร้อย".......แต่ต้องรู้ให้จริงทั้งสองฝั่งนะ

[jo7393]

ไม่มีหรอกครับเทพการฟที่คุณว่าจะต้องถูก 100% เสมอ เพราะเทคนิคการดูกราฟและอินดี้ต่างๆใช้สมการของความน่าจะเป็นมาเกี่ยวข้องทั้งนั้น ถ้าคุณบอกว่ามันถูกต้อง 100% แสดงว่าคุณยังดูกราฟไม่เป็น เค้าถึงใช้ระบบ mm มาทำให้เมื่อ"โอกาสที่กราฟถูกต้องเกิดขึ้น"เราจะได้กำไร แม้อาจผิดบ่อยกว่าก็ตาม เพราะกราฟมันคือความน่าจะเป็น แล้วถามว่า vi ต้องดูกราฟไหม ถ้าเป็น vi แท้ๆและมีความรู้จริงๆไม่จำเป็นเลยที่จะต้องดู เพราะตัวแปล time มันเป็นสิ่งที่เรากำหนดเองไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ตลาดถึงจะให้ราคานั้นแก่เรา แต่ถามว่าถ้าดูกราฟเป็นดีไหม ดี จะได้ดูว่าเค้ากำลังทำอะไรกัน "รู้เขารู้เรา รบร้อยชนะร้อย".......แต่ต้องรู้ให้จริงทั้งสองฝั่งนะ

อันนี้เรื่องจริงครับ ใน10 ครั้ง กราฟจะหลอกเราประมาณ 6 ครั้ง ดังนั้นหากเล่นกราฟต้องอาศัย cut loss มาช่วยครับ

[ดำ]

ไม่มีหรอกครับเทพการฟที่คุณว่าจะต้องถูก 100% เสมอ เพราะเทคนิคการดูกราฟและอินดี้ต่างๆใช้สมการของความน่าจะเป็นมาเกี่ยวข้องทั้งนั้น ถ้าคุณบอกว่ามันถูกต้อง 100% แสดงว่าคุณยังดูกราฟไม่เป็น เค้าถึงใช้ระบบ mm มาทำให้เมื่อ"โอกาสที่กราฟถูกต้องเกิดขึ้น"เราจะได้กำไร แม้อาจผิดบ่อยกว่าก็ตาม เพราะกราฟมันคือความน่าจะเป็น แล้วถามว่า vi ต้องดูกราฟไหม ถ้าเป็น vi แท้ๆและมีความรู้จริงๆไม่จำเป็นเลยที่จะต้องดู เพราะตัวแปล time มันเป็นสิ่งที่เรากำหนดเองไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ตลาดถึงจะให้ราคานั้นแก่เรา แต่ถามว่าถ้าดูกราฟเป็นดีไหม ดี จะได้ดูว่าเค้ากำลังทำอะไรกัน "รู้เขารู้เรา รบร้อยชนะร้อย".......แต่ต้องรู้ให้จริงทั้งสองฝั่งนะ

อันนี้เรื่องจริงครับ ใน10 ครั้ง กราฟจะหลอกเราประมาณ 6 ครั้ง ดังนั้นหากเล่นกราฟต้องอาศัย cut loss มาช่วยครับ

แล้วรู้ได้ยังไงว่า สิ่งที่เชื่อกันข้างต้นนี้คือ ดีที่สุดของการอ่านกราฟเทรดแล้ว

เหนือฟ้ายังมีฟ้านะครับ