ประสบการณ์สอนผมว่าจะรวยต้องมีความรู้ อย่าพึ่งคนอื่น

[hongvalue]

นี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับเพื่อนผมและผม (19 ปี ) เพื่อนผมเล่นหุ้นที่ธ... ปิ่นเกล้า เจ้าเพื่อนผมคนนี้มันก็มีข้อเสียคือไม่คิดจะศึกษาเองเพราะว่า น้าของมันเป็นโบรกเกอร์มันเลยคิดว่า มีไรเดี่ยวน้ากูก็ช่วยเองแหละ มันซื้อ tta 37 บาท ขึ้นมา 1 ช่อง 37.25 น้ามันโทรมาบอกว่ารีบขายเร็วมันก็งงไรว่ะ เพื่งซื้อเอง แต่มันก็คิดว่าญาติกันไม่เป็นไรหรอก ก็เลยขาย และหุ้นทุกๆตัว ที่มันซื้อ ขึ้น 1 ช่อง น้ามันจะบอกให้ขายหมด พอมันบอกว่ายังไม่ขายน้ามันก็โมโห บอกไม่เชื่อน้าหรือไง ตอนนี้ port เพื่อนผมติดหุ้นเยอะมาก อาทิ kest sta lanna tta พอเพื่อนผมติดหุ้นน้ามันก็ไม่เคยโทรมาหาอีกเลย เพื่อนผมขาดทุนหนักนะ มันซื่อ มันไม่คิดว่าญาติกันจะทำกันได้ขนาดนี้ ที่ผมอยากบอกก็คือ ทุกคนที่เข้าสู่วงการหู้นหรือทุกวงการ ควรหาความรู้ด้วยตัวเอง อย่าคิดพึ่งพาแต่ผู้อื่น เพราะขนาดญาติกันยังทำกันได้ขนาดนี้ โบรกส่วนตัวของผมเองก็ไม่ต่างจากน้าเพื่อนเท่าไหร่ ชอบบอกว่า น้องพี่ว่านะน้องอย่าถือหุ้นยาวเลย น้องเล่นรอบกับมันดีกว่า เชื่อพี่ ผมงี้เซ็งเห็นผมเป็นเด็กก็เลยพูดได้พูดดี เดี่ยวนี้ผมศึกษาเองตลอด ไม่เชื่ออีกแล้ว เพราะไม่มีใครหวังดีต่อเงินผมเท่าตัวผมหรอก

[harry]

เป็นธรรมดาครับ มาร์ หรือ โบรก ก็อยากให้คุณเทรด เพราะได้ค่าคอม ถ้าทุกคนซื้อถือยาวไม่เทรดเลย โบรกก็เจ๊งสิครับ

การศึกษาด้วยตัวเองเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่หลายๆคนในนี้เก่ง และ มีประสบการณ์มากกมาย ที่สำคัญไม่เห็นแก่ตัว ให้ข้อมูลดีมากๆทุกคนครับ

เพียงแต่ว่า ช่วงเวลาการซื้อขายที่ดีนั้น เราจะได้เจอมันรึป่าว

[สามัญชน]

:lol: :lol: :lol: :lol:

ผมมีรุ่นน้องเล่นหุ้นคนหนึ่ง

ผมเคี่ยวเข็ญให้ศึกษาด้วยตนเอง น้องมันก็ไม่ทำสักที มันยึดหลักว่า ผมซื้ออะไรก็ซื้อตาม ขายอะรก็ขายตาม หลักการนี้ดูๆแล้วก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร มันน่าจะได้กำไรหรือขาดทุนพอๆกับผม

น้องมันคิดถึงขั้นว่า ให้ผมนั่นแหละเป็นคนศึกษา ตัวเองไปเที่ยวได้สบาย ทำนองว่าทำตัวเป็นเล่าปี่มีหน้าที่ใช้คนอย่างเดียว

ผมก็ไม่เคยเบี้ยว มีอะไรก็บอกตลอด ทำแค่นี้เพื่อน้องทำไมจะทำไม่ได้ จะว่าเป็นเบ๊ก็ไม่เห็นเป็นอะไร

แต่กลายเป็นว่าผลประกอบการ ของผมกับของน้องต่างกันลิบลับ

เรื่องของเรื่องก็คือ พอหุ้นขึ้นถึงจุดหนึ่ง น้องก็จะลงมือขาย แถมบอกว่าผมโลภมากอีกต่างหากที่ไม่ยอมขาย ผมก็บอกว่าอย่าเพิ่งขายเพราะที่ศึกษามา มันยังไปได้ ผมมั่นใจเพราะว่าผมศึกษาเองมากับมือ น้องไม่มั่นใจเพราะไม่ได้ศึกษา แล้วมันก็ขึ้นต่อจริงๆ

บางตัวผมก็บอกให้ขายพร้อมผม น้องไม่เชื่อเพราะยังขาดทุนอยู่ ยังมีความหวังว่ามันจะขึ้น และแล้วมันก็ลงจริงๆ

concept ที่ตั้งใจไว้ว่าซื้อขายพร้อมกัน มันน่าจะทำได้ง่ายๆ จริงๆแล้วในทางปฏิบัติทำไม่ง่ายเลย เพราะศึกษามาต่างกันทำให้ ความมั่นใจ มันต่างกัน การตัดสินใจ จึงต่างกัน

:lol: :lol: :lol: :lol:

[CK]

ประสบการณ์ผมสอนให้ฟังคนอื่นครับ

[naris]

ส่วนของผมPARADOXครับ

[ปรัชญา]

ผมยังต้องพึ่งเวปหุ้น
ดูได้เยอะ อารมณ์นักลงทุน
ความคิดที่หลายๆคนช่วยกันคิด
มุมมองที่เรามองไม่เห็น แต่มีคนอื่นช่วยชี้แนะ
บทความสาระ แม้แต่คนเชียร์หุ้น
เพราะเขาศึกษาบริษัทให้เราเห็นส่วนดี
เราต้องค้นส่วนไม่ดีมาคัดค้าน หากส่วนดีเยอะส่วนไม่ดีมีน้อย
ก็ต้องคัดไว้ศึกษาเพิ่มเติม เพื่อการลงทุน
เพื่อการเลือกหุ้น เพื่อศึกษาแนวทาง
และส่วนดี อีกมากมาย สามารถนำมาต่อยอดหาหุ้นดีดีได้
ในเวลา และวาระ โอกาสต่างๆกัน

[Jeng]

เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ครับ

[Dr.T]

เพราะไม่มีใครหวังดีต่อเงินผมเท่าตัวผมหรอก

ถูกต้องนะคร้าบ... 8)

[ztep]

ผมเปิดบัญชีทางเน็ตและซื้อขายด้วยตัวเอง ไม่คิดจะเชื่อมาร์อยู่แล้ว เคยลองๆโทรไปคุยกับรุ่นพี่ที่เป็นมาร์ด้วย เพราะต้องการทดสอบสมมุติฐานของตัวเองว่าจริงไหม ผมรู้ว่าแนวผมไม่เหมือนเขา โทรไปก็ฟังๆไม่เถียงอะไร(รุ่นพี่สวยดี)เพราะรู้ว่าคนเราไม่เปลี่ยนได้ง่ายๆ และยิ่งถูกอำนาจมืดครอบงำแล้วด้วย ลองเย็บๆความคิดเราไปบ้าง แต่เขาไม่รับ ก็......... ที่คุยล่าสุดก็ขาดทุนพอสมควร แต่คนพวกนี้มักหาเหตุผลมาแก้ตัวได้เสมอ และความคิดผมก็ได้ผล(ใน1 ปีที่ผ่านมา) ผมไม่ต้องพึ่งมาร์ทำให้ค่าคอมถูกลงและแม้ว่าตอนผมเข้ามารู้สึกจะ 640 กว่าๆจุด ตอนนี้ผมก็ได้ Cap gain ไปแล้วอย่างน้อย 15% ถ้าตัดตัวเน่าที่ลองหาประสบการณ์เก็งกำไร(Daido ให้เป็น 0) ก็ยังได้อยู่ 10% กว่าๆ โดยไม่รวมเงินปันผลและการเครดิตภาษีคืน
ผมว่าถ้าเราเข้าใจและเชี่ยวชาญแนว VI จริงๆเราจะได้กำไร(ในระยะยาว) และมีความสุขดีครับ :lol:

[woody]

ผมเปิดบัญชีทางเน็ตและซื้อขายด้วยตัวเอง ไม่คิดจะเชื่อมาร์อยู่แล้ว เคยลองๆโทรไปคุยกับรุ่นพี่ที่เป็นมาร์ด้วย เพราะต้องการทดสอบสมมุติฐานของตัวเองว่าจริงไหม ผมรู้ว่าแนวผมไม่เหมือนเขา โทรไปก็ฟังๆไม่เถียงอะไร(รุ่นพี่สวยดี)เพราะรู้ว่าคนเราไม่เปลี่ยนได้ง่ายๆ และยิ่งถูกอำนาจมืดครอบงำแล้วด้วย ลองเย็บๆความคิดเราไปบ้าง แต่เขาไม่รับ ก็......... ที่คุยล่าสุดก็ขาดทุนพอสมควร แต่คนพวกนี้มักหาเหตุผลมาแก้ตัวได้เสมอ และความคิดผมก็ได้ผล(ใน1 ปีที่ผ่านมา) ผมไม่ต้องพึ่งมาร์ทำให้ค่าคอมถูกลงและแม้ว่าตอนผมเข้ามารู้สึกจะ 640 กว่าๆจุด ตอนนี้ผมก็ได้ Cap gain ไปแล้วอย่างน้อย 15% ถ้าตัดตัวเน่าที่ลองหาประสบการณ์เก็งกำไร(Daido ให้เป็น 0) ก็ยังได้อยู่ 10% กว่าๆ โดยไม่รวมเงินปันผลและการเครดิตภาษีคืน
ผมว่าถ้าเราเข้าใจและเชี่ยวชาญแนว VI จริงๆเราจะได้กำไร(ในระยะยาว) และมีความสุขดีครับ :lol:

อืมมม ย้ายโบรกดีไหมนี่....

[Nstar]

ขอบคุณคร้าบบ

[Jane]

เพราะไม่มีใครหวังดีต่อเงินผมเท่าตัวผมหรอก

จริงอย่างยิ่งค่ะ

เจ็บมาแล้วเพราะฟังคนอื่น  :evil:

ตอนนี้ขอศึกษาเองดีกว่า  เงินทองยิ่งหายากๆอยู่ด้วย  :8)

[hongvalue]

เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก

ผมโพสกระทู้นี้มา 3 ปีแล้วครับ

ผมขอพูดถึงประสบการณ์ของตัวเองให้ฟังนะครับ

ผมคิดว่าการ trade ทาง internet ทำให้เรามีสมาธิดีขึ้นครับ

เพราะว่าเวลาเราโทรมาโบรก บางทีมันชอบขัดลาภครับ

เช่น ผมบอกว่าตั้งซื้อ zzzzz ที่ 16 บาท มันดันบอกว่า

น้องฮงแนวรับอยู่ที่ 15.7 พี่ว่าตั้ง 15.7 เถอะ

บางทีมีลูกเกรงใจ ไปตั้งตรงนั้นไม่ได้ของอีกครับ

trade

[ปรัชญา]

ไปแล้วโพท์สไม่ได้ครับ  (กุญแจหาย)

ตอนซื้อบอกกัน  ก็ทันซื้อ
ตอนขายบอกกัน  ไม่ทันได้ยิน(เลยขายไม่ทัน)

ตนจึงเป็นที่พึ่งแห่งตนในการเอาตัวรอด

[Series7]

น่าจะยึด single license นะเนี้ย ฐานให้ลูกค้าส่งคำสั้งซื้อบ่อยเพื่อค่าคอมมิชชั่นตัวเอง

[moonchild]

ช่วงแรกๆผมก็เจอมากับตัวครับเรื่องโบรกและแมงเม่าเนี่ย

เล่นไปสองเดือน
ก็ค่อนข้างตามโบรกครับ ด้วยความไม่รู้ มือใหม่ และแมงเม่าครับ
หลักการของเค้าก็รู้ๆกันครับ
พอเห็นหุ้นตัวไหนเขียว ก็ขายเอากำไรดีกว่ารอหุ้นลงแล้วจะขาดทุน
พอเห็นหุ้นตัวไหนแดง ถือก็ได้นะน้องหรือถ้ากลัวก็ขายไปก็ได้ดีกว่าขาดทุนเพิ่ม
แต่เค้าก็จะมีเหตุผลที่จะอธิบายซึ่งเรามือใหม่ก็ไม่ค่อยเก็ตอยู่แล้วครับ

เดือนแรกขาดทุนหนัก เพราะเข้าตอน SET 600 กว่าๆ แล้วก็ตกจาก 650->560 แถมไปเล่นหุ้นตามข่าวอีก
เดือนสองกำไรเพราะ SET ก็วิ่งจาก 560-> 650 เหมือนเดิม
สรุปสองเดือน เท่าทุนครับ

แต่กลับมาเช็คดูว่าเราเสียค่าคอมให้โบรกเท่าไหร่
ถึงกับตกใจเลย เราเพิ่งเท่าทุน แต่โบรกได้เงินเราไปเน้นๆครับ

จริงๆก็รู้จัก VI ตั้งแต่เริ่มศึกษาครับ
แต่พอมาทำจริงๆ ก็เห็นอะไรวิ่งแล้วมันตามน้ำทุกทีครับ

คุยกับโบรกท่านนึงมา (ไม่กล้าถามโบรกตัวเอง) :lol:
เค้าบอกว่าเงินเดือนของเค้าก็มาจากค่าคอมอย่างเดียว
ฐานเงินเดือนจริงๆไม่มี
ก็เลยเข้าใจว่าทำไมเค้าอยากให้เราซื้อๆขายๆครับ

หลังจากนั้นก็เริ่มก้าวเข้าสู่วีไอ จากคำแนะนำของพี่ที่รู้จัก
ก็มีชีวิตที่ดีขึ้นครับ (ขอบคุณมากๆๆครับ )
SET อยู่ตรงไหนก็มีกำไรได้ครับ ถ้าหาหุ้นได้ดีๆ และเข้าใจในตัวหุ้นจริงๆครับ
แต่ส่วนมากก็เหาฉลามก่อนครับ :lol:

[Hughes]

แวะเข้ามาแอบดูครับ

การเลือกหุ้นนี่ที่ผ่านมาผมมี่ทั้งเลือกเองและก๊อบเซียน

แรกๆเลือกเองครับก็ผลตอบแทนโอเค น่าจะเป็นเพราะโชคมากกว่าเพราะมือใหม่
มาซักพักก็เริ่มศึกษาเซียนหุ้นลองลอกเขาบ้างก็กำไรดีเหมือนกันครับถ้าเลือกคนตามถูกแล้วศึกษาเองต่อบ้าง
แต่หลังๆนี่ก็พยายามไม่ลอกหุ้นมากครับเพราะผมว่าเซียนหุ้นเขาก็คงรำคาญที่เราไปตามลอกการบ้านเขา
จะลอกหุ้นพี่หมอสามัญชนซะหน่อยก็หนีไปสูบบุหรี่ซะ :lol:

ตอนนี้กลับมาเลือกหุ้นเอง 100% ผลตอบแทนก็ยังพอไหว อาจจะไม่พุ่งจี๊ดๆเท่าเซียนหุ้น แต่ก็มีมีแอบจี๊ดนะ  :lol:

[green-orange]

เห็นด้วยครับ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเสมอ ฉนั้นจะต้องพยายามศึกษาด้วยตนเอง หาแนวทางของตนเอง หาความรู้ด้วยตัวเอง แต่เปิดใจรับฟังแนวคิด และข้อมูลจากคนอื่นๆด้วย เผื่อว่าสิ่งที่เราคิดอาจจะขาดตกบกพร่องไปครับ ตอนนี้ผมก็กำลังทดลองแนวคิดของตัวเองอยู่ครับ หวังว่าคงสำเร็จสักวัน อยากจะลองหลายๆแบบครับ

[green-orange]

อืมมม ย้ายโบรกดีไหมนี่....

ผมก็คิดอยู่ ติดอยุ่ที่ว่าถ้าวันไหนเราไม่อยู่ ไม่มีเครื่องคอม ใช้มาร์น่าจะดีกว่า เค้าเฝ้าจอตลอด ถ้าเราไม่ได้ trade แค่ 0.1% นิดเดียวเองครับ ช่างมันเถอะ ถือว่าซื้อความสะดวกสบาย นานๆถึงจ่ายที

[นพพร]

ไม่ค่อยมั่นใจมาร์เท่าไหร่ จะซื้อตัวนึง มาร์แนะนำอีกตัวนึง บอกว่าตัวนั้นไปซื้อทำไมมันไม่มีใครเล่น..

[wheel_turner]

ส่วนผมมีเพื่อนเป็นมาร์ฯ ก็ไม่ค่อยเน้นเอาวอลุ่ม เน้นที่ลูกค้า (และผมซึ่งเป็นเพื่อนด้วย) ต้องได้กำไรไว้ก่อน ทำให้ตอนนี้ตัวเพื่อนที่เป็นมาร์มีลูกค้าคุณภาพดีๆ เยอะ
ส่วนตัวผมเมื่อรู้จัก VI ก็เริ่มศึกษาและเริ่มค้นหาหุ้นทั้งจากลอกการบ้านคนเก่งๆ และหาหุ้นเองบ้าง ตอนนี้ก็พยายามหาทางพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ เวลาสั่งซื้อและขายจะให้เพื่อนช่วยดูให้ว่าสามารถจะซื้อได้ที่ประมาณเท่าไร ส่วนขายก็ให้ช่วยดูให้ว่าจะขายได้มากที่สุดที่เท่าไร ก็พอไปได้ครับ

[navapon]

ผมว่าขึ้นอยู่กับประสบการณ์และบุคลิคที่สั่งสมมาตั้งแต่เด็กด้วย
คนเก่งมั่นใจตัวเองมาแต่ไหนแต่ไร ก็จะเป็นอย่างนั้นต่อไป ผมคิดว่าคนเราไม่สามารถไว้ใจใครได้มากมาย เราจึงต้องขยันเรียนรู้ด้วยตัวเองให้รู้จริงแล้วพึ่งตัวเองให้ได้

อีกอย่างผมว่าหากเรามีความรู้มากๆ ความมั่นใจมันมาเอง ขยันๆกันไว้
เรื่องหุ้นมันไม่ได้ใช้ไอคิวสูงส่งอะไรมากมายในการเรียนรู้ เพียงแค่สนใจให้รอบรู้เรื่องธุรกิจสะสมไปเรื่อยๆ สักวันต้องสำเร็จ

สุดท้ายอยากจะเตือนเพื่อนๆว่า ความรู้อย่างเดียวยังไม่พอ ต้องอดทนด้วย พอถึงจุดหนึ่งแล้วมันไม่ได้อาศัยแค่ความรู้ ก็เหมือน วิธีลดความอ้วน ทุกคนรู้ว่าต้องทำอย่างไร แต่ก็ยังมีคนอ้วนกันเต็มบ้านเต็มเมือง เพราะอดทนกันไม่ได้นั่นเอง

[odin]

ผมอยู่บ้านกัน พ่อและแม่ ซึ่งท่านเล่นหุ้นอยู่ทุกวัน ได้กำไรบ้าง เสียบ้าง แต่ทุกๆปีทางโบรกจะมีของขวัญปีใหม่มาให้
เรียกว่าเป็นลูกค้าคนสำคัญของโบรกก้ว่าได้ ผมซึ่งอยู่บ้านเดียวกัน เนื่องจากในปีแรกๆไม่มีความรู้ จึงซื้อขายตามท่าน
แต่ช่วงนั้น ตลาดหุ้นราคายังไม่สูงมาก เมื่อตลาดปรับตัวขึ้น ผมจึงได้กำไรมามากอยู่ และในช่วงนั้นเอง ผมได้อ่านหนังสือ
และได้ความรู้ด้านVIมา เมื่อหันไปดูหุ้นของตนเอง พบว่า เราไปซื้อหุ้นพวกนี้ไปได้ไงเนี่ย ผมจึงค่อยๆปรับพอร์ตมาเรื่อยๆ
หุ้นที่เคยถือตอนแรกๆ ก็ปรับตัวลงเยอะมากเลย ตอนนี้มีความมั่นใจในการลงทุนมากขึ้น ดูเซียนบ้าง อ่านความเห็นคนอื่นบ้าง
แต่ก็ไม่ลืมที่จะคิดเอง ตัดสินใจเอง ผมรู้สึกดีที่VIมีบอร์ดและสังคมดีๆแบบนี้ อยากให้อยู่กันไปเรื่อยๆนะ

[superboy]

:lol: :lol: :lol: :lol:

ผมมีรุ่นน้องเล่นหุ้นคนหนึ่ง

ผมเคี่ยวเข็ญให้ศึกษาด้วยตนเอง น้องมันก็ไม่ทำสักที มันยึดหลักว่า ผมซื้ออะไรก็ซื้อตาม ขายอะรก็ขายตาม หลักการนี้ดูๆแล้วก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร มันน่าจะได้กำไรหรือขาดทุนพอๆกับผม

น้องมันคิดถึงขั้นว่า ให้ผมนั่นแหละเป็นคนศึกษา ตัวเองไปเที่ยวได้สบาย ทำนองว่าทำตัวเป็นเล่าปี่มีหน้าที่ใช้คนอย่างเดียว

ผมก็ไม่เคยเบี้ยว มีอะไรก็บอกตลอด ทำแค่นี้เพื่อน้องทำไมจะทำไม่ได้ จะว่าเป็นเบ๊ก็ไม่เห็นเป็นอะไร

แต่กลายเป็นว่าผลประกอบการ ของผมกับของน้องต่างกันลิบลับ

เรื่องของเรื่องก็คือ พอหุ้นขึ้นถึงจุดหนึ่ง น้องก็จะลงมือขาย แถมบอกว่าผมโลภมากอีกต่างหากที่ไม่ยอมขาย ผมก็บอกว่าอย่าเพิ่งขายเพราะที่ศึกษามา มันยังไปได้ ผมมั่นใจเพราะว่าผมศึกษาเองมากับมือ น้องไม่มั่นใจเพราะไม่ได้ศึกษา แล้วมันก็ขึ้นต่อจริงๆ

บางตัวผมก็บอกให้ขายพร้อมผม น้องไม่เชื่อเพราะยังขาดทุนอยู่ ยังมีความหวังว่ามันจะขึ้น และแล้วมันก็ลงจริงๆ

concept ที่ตั้งใจไว้ว่าซื้อขายพร้อมกัน มันน่าจะทำได้ง่ายๆ จริงๆแล้วในทางปฏิบัติทำไม่ง่ายเลย เพราะศึกษามาต่างกันทำให้ ความมั่นใจ มันต่างกัน การตัดสินใจ จึงต่างกัน

:lol: :lol: :lol: :lol:

ชิงขายก่อนแล้วราคาหุ้นขึ้นไปได้แสดงให้ว่า ตลาดหุ้นมีประสิทธิภาพใช่มั้ย คัรบ

[Samkok]

ขอบคุณครับ อาจารย์ฮง

[shumbrotta]

ของผมมุ่งมั่นเข้าตลาดเพื่อเป็น VI แต่เมื่อใดที่หุ้นขึ้นมานิดหน่อยผมกลับกลายเป็น เก็งกำไรไปซะงั้น
ตอนนี้เริ่มแน่วแน่ พยายามไม่แพ้ใจตัวเอง