ValueWay:บทเรียนกูรูหุ้นระดับโลก-ฟิลลิป ฟิชเชอร์

[PERFECT LUCKY]

VALUE WAY ฉบับวันที่ 13 มิถุนายน 2554
โดย วิบูลย์ พึงประเสริฐ

บทเรียนกูรูหุ้นระดับโลก – ฟิลลิป ฟิชเชอร์
(ต่อจากฉบับที่แล้ว)

ถาม: เราเรียนรู้อะไรจากฟิลลิป ฟิชเชอร์
ดร.กุศยา ลีฬหาวงศ์: ช่วงที่ฟิชเชอร์เริ่มต้นลงทุนนั้นเป็นปี 1937 มีสงครามโลกครั้งที่สอง การลงทุนค่อนข้างยากลำบาก หลัการที่สำคัญของฟิชเชอร์คือ
1) ลงทุนระยะยาว
2) กระจายการลงทุนไม่มากนัก
3) การลงทุนต้องรู้ต้นทุนคืออะไร การลงทุนที่ผิดพลาดจะทำให้มีต้นทุนที่สูง
จากทั้งหมดเลยต้องหาบริษัทที่มั่นคง เติบโต ให้ความสำคัญกับปันผลน้อยหน่อย เน้นการเติบโตของกิจการเป็นหลัก

ผู้เขียน: ฟิลลิป ฟิชเชอร์อยู่ซานฟราน เกรแฮมอยู่นิวยอร์ก เรียกว่าอยู่กันคนละฝั่งกัน เป็นชาร์ลี มังเกิลที่แนะนำให้บัฟเฟตได้รู้จักฟิชเชอร์ในการลงทุนแนวทางที่ต่างออกไปในขณะนั้น โดยฟิลลิปเน้นที่
1) ดูที่ผู้บริหารก่อน(ขณะที่เกรแฮมไม่สนใจ) เพราะเขามองว่ากิจการจะเติบโตได้ก็ด้วยผู้บริหารเป็นหลัก
2) ดูอุตสาหกรรมที่บริษัทอยู่เติบโตไหม
3) บริษัทนั้นเป็นที่หนึ่งหรือที่สองในอุตสาหกรรมนั้นไหม มีอนาคตหรือไม่
4) งบการเงินเป็นอย่างไร
5) แล้วค่อยมาดูราคาหุ้นว่าได้สะท้อนผลกำไรไปหรือยัง

พรชัย รัตนนนทชัยสุข: เป็นแนวคิดคนละด้านกับเกรแฮม โดยคิดว่าหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี ถ้ามันขาดทุนไปเรื่อยๆ อนาคตก็จะไม่เหลืออะไร เวลาเลือกหุ้นจึงต้องดูให้ละเอียดทั้งผู้บริหาร กำไรโตเยอะๆ หาหุ้นเติบโต คุยกับซัพพลายเออร์ ลูกค้า แล้วโฟกัสลงทุนไปเลยเพราะวิเคราะห์อย่างดีแล้ว

ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร: ฟิชเชอร์ดูละเอียดมากเอาข้อมูลจากรอบๆบริษัทมาศึกษาให้ละเอียด ว่าเป็นเบอร์หนึ่งของอุตสาหกรรมหรือไม่ กำลังเติบโต ทุกอย่างดีหมด ซื้อแพงไม่ว่า แต่ถือยาวโตไปเรื่อยๆ กำไรมหาศาลในระยะยาว

[jo7393]

พอดีเพิ่งเอามาอ่านซ้ำอีกรอบ
รู้สึกว่า บัฟเฟต จะได้แนวคิดของฟิชเชอร์มาประยุกต์ใช้หรือเปล่า โดยเฉพาะเรื่อง ให้ความสำคัญ ผบห และหุ้นที่มีโกรทแล้วถือยาวววว และเวลาซื้อ ฟิชชเชอร์เน้นว่า นักลงทุนที่ฉลาดส่วนใหญ่มิได้ลงทุนหรือเลือกหุ้นผิดพลาด แต่ที่พลาดคือมักซื้อหุ้นที่ดีในราคาที่แพงเกินไป

ขอบคุณครับสำหรับบทความ

[Green]

ลองหาหนังสือ Common stock , uncommon profit มาอ่านด้วยก็ดีนะครับ หรือหนังสือแปลก็ได้
น่าสนใจมาก มีประโยคชวนคิดมากมาย ในการที่เราจะหาหุ้นที่สามารถเติบโตในระยะยาวได้ ยาวนี้คือหลายๆปีเลยนะ ไม่ใช่ยาวแค่ ปี สอง ปี แล้วหาใหม่กัน

[Arpieaw]

พอดีเพิ่งเอามาอ่านซ้ำอีกรอบ
รู้สึกว่า บัฟเฟต จะได้แนวคิดของฟิชเชอร์มาประยุกต์ใช้หรือเปล่า โดยเฉพาะเรื่อง ให้ความสำคัญ ผบห และหุ้นที่มีโกรทแล้วถือยาวววว และเวลาซื้อ ฟิชชเชอร์เน้นว่า นักลงทุนที่ฉลาดส่วนใหญ่มิได้ลงทุนหรือเลือกหุ้นผิดพลาด แต่ที่พลาดคือมักซื้อหุ้นที่ดีในราคาที่แพงเกินไป

ขอบคุณครับสำหรับบทความ

ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร: ฟิชเชอร์ดูละเอียดมากเอาข้อมูลจากรอบๆบริษัทมาศึกษาให้ละเอียด ว่าเป็นเบอร์หนึ่งของอุตสาหกรรมหรือไม่ กำลังเติบโต ทุกอย่างดีหมด ซื้อแพงไม่ว่า แต่ถือยาวโตไปเรื่อยๆ กำไรมหาศาลในระยะยาว

ผมมองว่าฟิชเชอให้ความสนใจเรื่องราคาน้อยกว่า buffet และ graham นะ เพราะฟิชเชอร์กลัวว่าบริษัทที่เติบโตสูงจิงๆราคามักไม่ลง และกลัวเสียโอกาสลงทุนมากกว่าครับ

[ซุนเซ็ก]

Common stock, but uncommon profit ของ ฟิชเชอร์
ผมยกย่องให้เป็นหนังสืออ่านยากที่สุดในโลกวีไอ ภาษาวกวนไปมา เป็นเล่มเดียวที่ผมอ่านไม่จบ ^^"

[jo7393]

Common stock, but uncommon profit ของ ฟิชเชอร์
ผมยกย่องให้เป็นหนังสืออ่านยากที่สุดในโลกวีไอ ภาษาวกวนไปมา เป็นเล่มเดียวที่ผมอ่านไม่จบ ^^"

กว่าจะอ่านจบก็หลายวันครับ ภาษา+ช่วงเวลาที่พูดถึง ที่น่าเบื่อ แต่ได้ประโยชน์และแนวคิดอีกมากเลยนะครับ

[generalman]

Common stock, but uncommon profit ของ ฟิชเชอร์
ผมยกย่องให้เป็นหนังสืออ่านยากที่สุดในโลกวีไอ ภาษาวกวนไปมา เป็นเล่มเดียวที่ผมอ่านไม่จบ ^^"

เห็นด้วยครับ

[Vinzy]

แล้ววอย่างนี้หนังสือแปลแนววีไอ ที่คิดว่าอ่านง่าย เข้าใจได้ไม่ยากครับ

[Green]

Common stock, but uncommon profit ของ ฟิชเชอร์
ผมยกย่องให้เป็นหนังสืออ่านยากที่สุดในโลกวีไอ ภาษาวกวนไปมา เป็นเล่มเดียวที่ผมอ่านไม่จบ ^^"

เห็นด้วยครับ

ตอนแรกได้ยินชื่อเสียงเรื่องนี้เหมือนกันครับ แล้วก็กลัวว่าซื้อมาอ่านแล้วจะไม่รู้เรื่องแล้วเสียดายตังค์ (ไม่รู้จะกลัวอะไรเนอะ เสียหุ้นแพงกว่านี้เยอะ) แต่คิดว่าถ้าหนังสือเล่มนี้เป็นตำนานจริงเราก็ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เลยไปซื้อมาอ่านที่เป็นภาคอังกฤษ ดั่งเดิม ผมว่ามันก็ไม่ได้อ่านยากกว่า หนังสือภาษาอังกฤษเล่มอื่นๆ เท่าไหร่นะครับ ผมว่ามันค่อนข้างเคลียร์พอสมควรเลยที่เดียว โดยเฉพาะเรื่องกฏ 15 ข้อในการเลือกลงทุนของเค้า สรุปคืออย่าไปกลัวคร้าบ

[aonzzung]

แล้ววอย่างนี้หนังสือแปลแนววีไอ ที่คิดว่าอ่านง่าย เข้าใจได้ไม่ยากครับ

ลอง One up on Wall Street ซิครับ
Peter Lynch เค้ามีคำกัดๆแสบๆคันๆตลอดเล่มเลยนะ อ่านสนุกดี

[ltf08]

นึกว่าจะมีแต่เราที่อ่านไม่จบคนเดียว

แต่ก็ยังค่อยๆพยายามอ่านอยู่ครับ

...

[jo7393]

จริงๆแล้ว หุ้นสามัญกับกำไรไม่สามัญยังอ่านง่ายนะครับ
ที่อ่านแล้วง่วงคือเล่มที่สอง เส้นทางสู่ความมั่งคั่งด้วยหุ้นสามัญ (Paths to Wealth through Common Stocks)

[pornchal]

จริงๆแล้ว หุ้นสามัญกับกำไรไม่สามัญยังอ่านง่ายนะครับ
ที่อ่านแล้วง่วงคือเล่มที่สอง เส้นทางสู่ความมั่งคั่งด้วยหุ้นสามัญ (Paths to Wealth through Common Stocks)

เห็นด้วยครับ ว่า เล่มหนึ่งอ่านไม่ยาก (หนังสือแปล) ลองอ่านใหม่ซิครับ ตอนนี้เรารู้มากขึ้น จะอ่านได้ง่ายขึ้น..

เล่มสองคุณโจบอกน่าง่วง เก็บไว้ก่อน..ละกัน ไม่ซื้อมาอ่านละ

[Akkapun]

พอดีเพิ่งเอามาอ่านซ้ำอีกรอบ
รู้สึกว่า บัฟเฟต จะได้แนวคิดของฟิชเชอร์มาประยุกต์ใช้หรือเปล่า โดยเฉพาะเรื่อง ให้ความสำคัญ ผบห และหุ้นที่มีโกรทแล้วถือยาวววว และเวลาซื้อ ฟิชชเชอร์เน้นว่า นักลงทุนที่ฉลาดส่วนใหญ่มิได้ลงทุนหรือเลือกหุ้นผิดพลาด แต่ที่พลาดคือมักซื้อหุ้นที่ดีในราคาที่แพงเกินไป

ขอบคุณครับสำหรับบทความ

ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร: ฟิชเชอร์ดูละเอียดมากเอาข้อมูลจากรอบๆบริษัทมาศึกษาให้ละเอียด ว่าเป็นเบอร์หนึ่งของอุตสาหกรรมหรือไม่ กำลังเติบโต ทุกอย่างดีหมด ซื้อแพงไม่ว่า แต่ถือยาวโตไปเรื่อยๆ กำไรมหาศาลในระยะยาว

ผมมองว่าฟิชเชอให้ความสนใจเรื่องราคาน้อยกว่า buffet และ graham นะ เพราะฟิชเชอร์กลัวว่าบริษัทที่เติบโตสูงจิงๆราคามักไม่ลง และกลัวเสียโอกาสลงทุนมากกว่าครับ

มายืนยันอีกคนว่าฟิชเชอแทบไม่เกี่ยงเรื่องราคาเลยครับ ที่เน้นราคาที่ซื้อสุดก็แกรแฮม ส่วนบัฟเฟทเอามาผสมกัน