ในที่สุดก็ได้บทเรียนอันเกิดจากการลองของ
-
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
ในที่สุดก็ได้บทเรียนอันเกิดจากการลองของ
โพสต์ที่ 1
เมื่อเดือนก่อนด้วยความซ่าอย่างหนัก ได้ลองเอาเงินต่างหากส่วนหนึ่งมาลองเก็งกำไรดูโดยถามเพื่อนที่เป็นนักเก็งกำไร(ทางเทคนิกซะด้วย) กระจายไปสองตัว(อันนี้ไม่เกี่ยวกับBTนะครับ) ผลก็คือ"ขาดทุนตัวนึง กำไรตัวนึง" สรุปบวกลบคูณหารก็เท่าทุนครับ แต่ที่แน่ๆ รู้สึกไม่ดีทุกวัน เล่นแล้วไม่สบายใจเลยราคาลงปุ๊บก็หวั่นๆแล้ว(เพราะไม่ได้มีพื้นฐานใดๆรองรับเลยเก็งแบบเก็งจริงๆไม่ใช่vsด้วย) สุดท้ายเพื่อความสบายใจตัดขาดทุนสิครับ พอแล้วครับสำหรับการเก็งกำไรอย่างผู้ไม่รู้ประสีประสา ประสาทจะกิน แต่ที่พูดมาทั้งหมดไม่ได้หมายความว่าเทคนิกไม่ดีนะครับเพราะเพื่อนผมแกก็ยังสบายใจเฉิบแต่ผมอึดอัดครับ เพราะเราไม่รู้เรื่องจริงๆว่ามันคืออะไร สรุปก็คือ ถ้าจะลงทุนด้วยวิธีไหน ใช้วิธีที่เราชำนาญดีที่สุดครับ ผลตอบแทนชัวร์ๆ ไม่ต้องพึ่งโชคลาง ในที่สุดก็ได้เรื่องมาเล่าสู่กันฟังซักที
-
- ผู้ติดตาม: 0
ในที่สุดก็ได้บทเรียนอันเกิดจากการลองของ
โพสต์ที่ 2
ของผมใช้เวลาปีที่แล้วทั้งปี
แรกๆก็จะถือยาว ไม่นานก็เป๋
สรุปแล้ว...
ขาดทุนไปหลายร้อยบาท บวกกับเวลาหนึุ่่งปี
ตอนนี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีกิเลส แต่ก็น้อยลงแยะ
แรกๆก็จะถือยาว ไม่นานก็เป๋
สรุปแล้ว...
ขาดทุนไปหลายร้อยบาท บวกกับเวลาหนึุ่่งปี
ตอนนี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีกิเลส แต่ก็น้อยลงแยะ
-
- Verified User
- โพสต์: 127
- ผู้ติดตาม: 0
ในที่สุดก็ได้บทเรียนอันเกิดจากการลองของ
โพสต์ที่ 4
เวลาผมเก็งกำไร ผมก็จะต้องมี story มารองรับครับ หุ้นทั้งตลาดมีตั้งหลายร้อยตัว ถ้าจะเล่นลองเลือกตัวดีๆสักตัวสิครับ แล้วก่อนจะซื้อนอกจากผมลิสต์ story ออกมา ผมยังไปดู 56-1 เพื่อเช็คดูว่าบริษัททำอะไรบ้าง มีจุดเด่น จุดด้อย อย่างไร จากนั้นอาจดูกราฟประกอบเพื่อความมั่นใจ แล้วจึงซื้อ ซึ่งก็จะทำให้เกิดความมั่นใจมากเวลาเล่น ตัวที่ผมเล่นรอบไปหลายรอบแล้วก็ได้แก่ VNG TFI LPN-W1 ซึ่งเมื่อราคาขึ้นมาถึงจุดที่เราคิดว่าต้องขายก็จะขายออกไปเลย หลังจากนั้นก็กลับไปรับที่ราคาต่ำกว่าเดิม เช่นสมมติผมขายออกไปที่ 21 บาท จากนั้นผมกลับไปรับที่ราคา 20 บาท แต่มันดันตกลงมาเหลือ 19 บาท ผมก็ไม่รู้สึกตกใจอะไร ยิ่งดีเสียอีกจะได้ซื้อเฉลี่ยเพิ่มครับ เพราะตัวที่ผมตัดสินใจซื้อ ผมดูมาดีแล้วว่า upside gain มีอีกเยอะพอสมควร อีกทั้งยังมี story เป็นรอบๆ ให้เล่นอีก การเล่นเก็งกำไรในความคิดของผม มันคนละเรื่องกับการเล่น day-trade ซึ่งรูปแบบนั้นจะเป็นการดูหุ้นที่หน้าจอแล้วตัดสินใจซื้อขายทันที โดยไม่ได้มีข้อมูลประกอบ หรือไม่ก็เล่นตามข่าวลือโดยไม่มีข้อมูลที่เชื่อถือได้ซึ่งอันตรายเกินไป ผมรู้ว่าความสามารถไม่มากพอที่จะเล่น day-trade ได้ ก็เลยมาเล่นเก็งกำไรแบบมีพื้นฐานประกอบ ถึงแม้จะกำไรไม่เยอะมาก (สองเดือนกำไรประมาณ 35% ของพอร์ท) แต่ผมไม่เคยต้องขาย cut loss แบบขาดทุนเลย อย่างที่บอก หุ้นมีเป็นร้อยๆตัว แค่เลือกหุ้นที่คิดว่าดีที่สุดในความคิดเราสัก สองสามตัว ไม่ใช่เรื่องยากครับ เพียงแต่ต้องหาข้อมูลเยอะหน่อย สองอาทิตย์ที่ผ่านมาผมติดงาน ไม่มีเวลาติดตามหุ้น พอกลับมาเมื่อวาน ผมนั่งดูข้อมูลหุ้นเพื่อหาหุ้นทีเด็ด ทั้งคืนจนถึงตีห้าครับ กว่าจะได้นอน
-
- Verified User
- โพสต์: 127
- ผู้ติดตาม: 0
ในที่สุดก็ได้บทเรียนอันเกิดจากการลองของ
โพสต์ที่ 5
เสริมอีกนิดครับ บางเรื่องผมมีคนที่ชำนาญกว่าผม ผมก็อาจจะให้เค้าช่วยในเรื่องนั้นๆ เช่นเรื่องงบการเงิน เผอิญผมจบตรี วิศวะ โท MBA งบการเงินผมก็วิเคราะห์ได้ แต่มีคนที่ชำนาญการวิเคราะห์งบมากกว่าผมซึ่งผมพอจะพึ่งพาได้ ผมก็นำเสนอหุ้นที่ผมคิดว่าดีเพราะ เหตุผลดังนี้ 1.....
2......
3......
4......
แล้วให้เค้าไปช่วยวิเคราะห์งบแล้วลองบรีฟให้ผมฟัง จากนั้นก็นำเสนอความเห็นแล้วสรุปความเห็นของแต่ละคน จากนั้นก็ต่างคนต่างตัดสินใจ ก็จะทำให้ได้ความมั่นใจมากขึ้น
2......
3......
4......
แล้วให้เค้าไปช่วยวิเคราะห์งบแล้วลองบรีฟให้ผมฟัง จากนั้นก็นำเสนอความเห็นแล้วสรุปความเห็นของแต่ละคน จากนั้นก็ต่างคนต่างตัดสินใจ ก็จะทำให้ได้ความมั่นใจมากขึ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 39
- ผู้ติดตาม: 0
ในที่สุดก็ได้บทเรียนอันเกิดจากการลองของ
โพสต์ที่ 11
เล่นเก็งกำไรต้องเล่นกับข้อมูลที่จะทำให้ปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น และที่สำคัญต้องประเมิณว่าถ้าปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนไปแล้วราคาที่เหมาะสมจะอยู่ที่เท่าไหร่ เช่นการปรับโครงสร้างหนี้จะทำให้เกิดรายการดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง ทำให้มีกำไรมากขึ้น หรือการแฮร์คัตหนี้ของ ทีพไอ และทีพีไอโพลีน ถ้ามีจริงก็จะส่งผลที่ดีต่อบริษัทแต่อย่าหวังว่าจะได้กำไรมาก ต้องพยายามหาข้อมูลว่าถ้าปัจจัยเปลี่ยนไปแล้วราคาที่เป็นที่ยอมรับของตลาดอยู่ที่เท่าไหร่ อย่างตอนนี้ผมถือ KMC ไว้ ตั้งแต่ 9 บาทนิดหน่อย ยังไม่ได้ขายเลยเพราะผมมีราคาในใจ แต่ถ้าจะถือไว้ยาวไหม ผมตอบว่าไม่ครับเพราะยังมีหนี้อีกเยอะถึงจะมีแผนที่ชัดเจน ผมจะไม่ซื้อหุ้นเพราะว่า .. เขาบอก นอกจากจะได้รู้ข้อมูลเอง
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
ในที่สุดก็ได้บทเรียนอันเกิดจากการลองของ
โพสต์ที่ 12
>> milkshaq
ha ha it cha ta ron
I ' m lucky that my hotel have free internet
evrything here is very expensive
and another lucky is
I can read thai font
I go other web I can not read thai font
and the key to type is the same in thailand too
but some time there are a key like this
å æ
I have not seen it before
ha ha it cha ta ron
I ' m lucky that my hotel have free internet
evrything here is very expensive
and another lucky is
I can read thai font
I go other web I can not read thai font
and the key to type is the same in thailand too
but some time there are a key like this
å æ
I have not seen it before
-
- ผู้ติดตาม: 0
ในที่สุดก็ได้บทเรียนอันเกิดจากการลองของ
โพสต์ที่ 13
อิจฉาพี่เจ๋งจริงๆ ที่โน่นหนาวไม๊ค่ะ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
ในที่สุดก็ได้บทเรียนอันเกิดจากการลองของ
โพสต์ที่ 15
เล่นแบบนี้ไม่เครียดเหรอครับ คุณ milkshaq ไม่ทราบว่า Port ของคุณใหญ่ไหมครับ เมื่อก่อนผมก็เคยเล่นแบบคุณ ปรากฎว่ามันไม่เหมาะกับผมครับ ถึงแม้จะได้กำไรมากมายจากการเล่น Warrant แต่ก็เครียดมากครับ การตัดสินใจบางครั้งมีส่วนต่างเป็นล้านๆครับ ไม่ไหวครับ อีกอย่างผมมีลูกแล้วด้วยจึงคิดว่าไม่เหมาะที่จะมาเล่นแบบเสี่ยงๆครับ
ผมก็จบตรีวิศวะ โทเอ็มบีเอ เหมือนกันครับ ไม่ทราบว่าจบที่ไหนครับ ผมจบวิศวะ จุฬา ปี 2533 จบโทเอ็ม บี เอ ธรรมศาสตร์ ปี 2541 ครับ
ผมก็จบตรีวิศวะ โทเอ็มบีเอ เหมือนกันครับ ไม่ทราบว่าจบที่ไหนครับ ผมจบวิศวะ จุฬา ปี 2533 จบโทเอ็ม บี เอ ธรรมศาสตร์ ปี 2541 ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 127
- ผู้ติดตาม: 0
ในที่สุดก็ได้บทเรียนอันเกิดจากการลองของ
โพสต์ที่ 16
ถึงคุณชาติชาย(ถ้าผิดขอโทษด้วยนะครับ)
ผมว่าไม่เครียดเลยครับ เพราะเราศึกษามาดีแล้วครับ เคยเล่นแบบ เล่นตามเพื่อน หรือดูหน้าจอแล้วก็ซื้อเลย อย่างนี้จะเครียดมากครับ เพราะเราไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย อย่าง VNG ไม่ว่าจะเล่นขาขึ้นหรือขาลง ผมก็กำไรตลอดทุกรอบ เพราะเราศึกษามาดีครับ แต่ถ้าไม่มีอะไรในหัวเลย อย่างงี้เครียดแน่
ผมก็มีลูกแล้วครับ แต่แนวทางที่ผมเล่นผมไม่ไล่หุ้น ผมจะจับหุ้นพื้นฐานดี ที่มี story อีกทั้งยืนฐานมาพอสมควร แนวโน้มเริ่มจะไป ผมจบป.ตรี และ ป.โท หลังจากคุณชาติชาย 4 ปี ครับ
ผมว่าไม่เครียดเลยครับ เพราะเราศึกษามาดีแล้วครับ เคยเล่นแบบ เล่นตามเพื่อน หรือดูหน้าจอแล้วก็ซื้อเลย อย่างนี้จะเครียดมากครับ เพราะเราไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย อย่าง VNG ไม่ว่าจะเล่นขาขึ้นหรือขาลง ผมก็กำไรตลอดทุกรอบ เพราะเราศึกษามาดีครับ แต่ถ้าไม่มีอะไรในหัวเลย อย่างงี้เครียดแน่
ผมก็มีลูกแล้วครับ แต่แนวทางที่ผมเล่นผมไม่ไล่หุ้น ผมจะจับหุ้นพื้นฐานดี ที่มี story อีกทั้งยืนฐานมาพอสมควร แนวโน้มเริ่มจะไป ผมจบป.ตรี และ ป.โท หลังจากคุณชาติชาย 4 ปี ครับ