ขอความเห็นคะ
- chakasak
- Verified User
- โพสต์: 183
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 2
ผมออกเพราะสายตามีปัญหา ชีวิตก็โอเคนะครับ มีรายได้จากการเล่นหุ้นพอใช้ แต่ก็เครียดเรื่องตามากกว่า อยากให้หายเร็วๆ ทุกวันนี้ก็พยายามออกกำลังกายครับ ซิทอัพ ยกเวท หากิจกรรมที่ไม่ต้องใช้สายตามากทำ ดีที่เล่นหุ้นแบบวีไอ ทำให้ไม่ต้องเฝ้าหน้าคอม
ลงหุ้นหวังปันผล ได้มากกว่าดอกเบี้ยก็พอใจแล้ว
- canuseeme
- Verified User
- โพสต์: 302
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 3
chakasak เขียน:ผมออกเพราะสายตามีปัญหา ชีวิตก็โอเคนะครับ มีรายได้จากการเล่นหุ้นพอใช้ แต่ก็เครียดเรื่องตามากกว่า อยากให้หายเร็วๆ ทุกวันนี้ก็พยายามออกกำลังกายครับ ซิทอัพ ยกเวท หากิจกรรมที่ไม่ต้องใช้สายตามากทำ ดีที่เล่นหุ้นแบบวีไอ ทำให้ไม่ต้องเฝ้าหน้าคอม
คือ ผมสงสัย ว่า ซิทอัพ ยกเวท นี่ ช่วยสายตาด้วยเหรอครับ หรือหมายความรวมๆ ประมาณว่าออกกำลังกายช่วยด้านสายตาอะไร ประมาณนั้นมั้ย ครับ
ปัญญาไม่มีในผู้ไม่พิจารณา
There is no fate but what we make
https://www.facebook.com/pages/คัดหุ้นซวย
There is no fate but what we make
https://www.facebook.com/pages/คัดหุ้นซวย
-
- Verified User
- โพสต์: 495
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 4
ผมว่า พี่เค้าน่าจะบอกว่า ทำอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องใช้สายตามากๆนะครับcanuseeme เขียน:chakasak เขียน:ผมออกเพราะสายตามีปัญหา ชีวิตก็โอเคนะครับ มีรายได้จากการเล่นหุ้นพอใช้ แต่ก็เครียดเรื่องตามากกว่า อยากให้หายเร็วๆ ทุกวันนี้ก็พยายามออกกำลังกายครับ ซิทอัพ ยกเวท หากิจกรรมที่ไม่ต้องใช้สายตามากทำ ดีที่เล่นหุ้นแบบวีไอ ทำให้ไม่ต้องเฝ้าหน้าคอม
คือ ผมสงสัย ว่า ซิทอัพ ยกเวท นี่ ช่วยสายตาด้วยเหรอครับ หรือหมายความรวมๆ ประมาณว่าออกกำลังกายช่วยด้านสายตาอะไร ประมาณนั้นมั้ย ครับ
แต่การออกกำลังกายก็สามารถควบคุมความดันได้นะครับ โรคตาส่วนมาก จะเกิดจากความดันนัยตาผิดปกติ
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 5
ชีวิตน่าจะเป็นทุกข์ขึ้นอีกเยอะเลยนะครับถ้าลาออกมาเล่นหุ้นอย่างเดียว
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา จริงๆ แล้วสามอย่างนี้เป็นสิ่งเดียวกัน เห็นสิ่งหนึ่งก็จะเห็นอีกสองสิ่งที่เหลือ
ความไม่เที่ยงในตลาดหุ้นแปรเปลี่ยนรวดเร็วและรุนแรงกว่าการทำงานประจำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง imply ได้ถึงทุกข์ที่มากกว่าการทำงานประจำอย่างเทียบกันไม่ได้
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา จริงๆ แล้วสามอย่างนี้เป็นสิ่งเดียวกัน เห็นสิ่งหนึ่งก็จะเห็นอีกสองสิ่งที่เหลือ
ความไม่เที่ยงในตลาดหุ้นแปรเปลี่ยนรวดเร็วและรุนแรงกว่าการทำงานประจำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง imply ได้ถึงทุกข์ที่มากกว่าการทำงานประจำอย่างเทียบกันไม่ได้
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
-
- Verified User
- โพสต์: 6427
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 8
แล้วถ้างานประจำที่ตอนทำแล้วมีความสุขมากๆ (สุขจริงๆ ที่ได้เป็นผู้ให้)
มีประโยชน์ต่อส่วนรวม (เข้าใจเอาเองว่ามีประโยชน์แน่ๆ สำหรับคนที่สามารถรับอะไรบางอย่างไปจากผมได้)
...
แต่ถ้า มันไม่สุข ตอนเจอเจ้านาย (ที่ ...) ล่ะครับ ..
มีประโยชน์ต่อส่วนรวม (เข้าใจเอาเองว่ามีประโยชน์แน่ๆ สำหรับคนที่สามารถรับอะไรบางอย่างไปจากผมได้)
...
แต่ถ้า มันไม่สุข ตอนเจอเจ้านาย (ที่ ...) ล่ะครับ ..
คนที่รู้ว่าตัวเองยังไม่รู้ ย่อมมีโอกาสเรียนรู้
-
- Verified User
- โพสต์: 270
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 10
ค่าใช้จ่าย รายเดือนเท่าใหร่ครับ ดูแลพ่อแม่ที่แก่รวมค่ารักษาพยาบาลด้วยป่าว
ถ้ารวมๆทุกอย่างใน3ล้าน ผมว่าไม่พอครับ กินทุนแน่นอน ลองดูสักปีก็ได้
แต่ถ้าอายุมากขึ้นก็จะหางานไม่ได้ครับ ขึ้นกับอายุด้วย ความรู้เกี่ยวกับหุ้นมีมากน้อยแค่ใหน
ถ้ารวมๆทุกอย่างใน3ล้าน ผมว่าไม่พอครับ กินทุนแน่นอน ลองดูสักปีก็ได้
แต่ถ้าอายุมากขึ้นก็จะหางานไม่ได้ครับ ขึ้นกับอายุด้วย ความรู้เกี่ยวกับหุ้นมีมากน้อยแค่ใหน
- spartacus
- Verified User
- โพสต์: 130
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 11
ถ้าตัดสินใจแล้วก็เอาใจช่วยครับ
แต่ผมว่าเงินต้นยังน้อยไปนิดนะ เพราะถ้าเล่นหุ้นเต็มตัว คงจะลงทุนความเสี่ยงสูงไม่ได้
ต้อง play safe หน่อย
ซัก 10 % ต่อปี ก็ประมาณ สามแสน
กำไรเดือนละ สองหมื่นห้า
ผมว่ามันจะไม่พอใช้เอานะครับ
แต่ถ้าประหยัดๆก็อยู่ได้สบายๆเลยล่ะ
แต่ผมว่าเงินต้นยังน้อยไปนิดนะ เพราะถ้าเล่นหุ้นเต็มตัว คงจะลงทุนความเสี่ยงสูงไม่ได้
ต้อง play safe หน่อย
ซัก 10 % ต่อปี ก็ประมาณ สามแสน
กำไรเดือนละ สองหมื่นห้า
ผมว่ามันจะไม่พอใช้เอานะครับ
แต่ถ้าประหยัดๆก็อยู่ได้สบายๆเลยล่ะ
ธรรมย่อมรักษา ผู้ประพฤติธรรม
-
- Verified User
- โพสต์: 164
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 12
อายุน้อยน่าออกไปลองดูสักตั้ง
อายุมากไม่น่าออกเพราะว่าเกิดคิดผิดแ้ล้วหางานทำจะลำบาก ฮะ
อายุมากไม่น่าออกเพราะว่าเกิดคิดผิดแ้ล้วหางานทำจะลำบาก ฮะ
วันนึงผมจะเป็นแมงเม่าที่ยิ่งใหญ่ฮะ !!!
-
- Verified User
- โพสต์: 332
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 13
ความสมดุล เป็นสิ่งที่ผมเห็นว่าสำคัญครับ ถ้าเราจัดการให้
เหมาะสม ลงตัวกับเรา ในแต่ละช่วงเวลา น่าจะทำให้ชีวิต
ของเราราบรื่น. เมื่อปัจจุบันเข้าที่เข้าทางแล้ว อย่าประมาทครับ
ควรวางแผนสำหรับอนาคตเตรียมไว้เลย เช่น เราจะต้องอายุมากขึ้น
เรื่อย ๆ การเปลี่ยนงานอาจทำได้ยาก แต่ถ้าเราพัฒนาตัวเองต่อเนื่อง
มาตลอด เราจะมีศักยภาพสูงพอที่จะเลือกทำงานที่ต้องการได้ รวมทั้ง
การลงทุนแบบเต็มเวลา
เหมาะสม ลงตัวกับเรา ในแต่ละช่วงเวลา น่าจะทำให้ชีวิต
ของเราราบรื่น. เมื่อปัจจุบันเข้าที่เข้าทางแล้ว อย่าประมาทครับ
ควรวางแผนสำหรับอนาคตเตรียมไว้เลย เช่น เราจะต้องอายุมากขึ้น
เรื่อย ๆ การเปลี่ยนงานอาจทำได้ยาก แต่ถ้าเราพัฒนาตัวเองต่อเนื่อง
มาตลอด เราจะมีศักยภาพสูงพอที่จะเลือกทำงานที่ต้องการได้ รวมทั้ง
การลงทุนแบบเต็มเวลา
-
- Verified User
- โพสต์: 180
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 14
ผมทำงานราชการ งานไม่หนักเลยครับที่ทำงานขับรถไปแค่10นาทีก็ถึงแล้ว เลยมีเวลามาลงทุนบ้าง เล่นหุ้นมาแปดปีผมไม่เคยใช้เงินเดือนจากราชการเลย เพราะรายได้จากการลงทุนพอใช้ ผมก็ฝากอยูในบัญชีออมทรัพย์ยังไม่คิดออกตอนนี้ คิดว่าไปทำงานแบบสบาย เจอเพื่อนฝูงไม่เบื่อแล้วก็รับเงินเดือน ก็เท่านั้น. ในอนาคตถ้างานมีความกดดันมากขึ้นหรือมีการเมืองเข้ามาแทรกผมพร้มลาออกทันที จริงๆตอนนี้ก็ลาออกได้แล้วแต่ยังok อยู่ ขอประเมินเป็นเดือนไป
- VI Wannabe
- Verified User
- โพสต์: 1013
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 16
3 ล้านนี่ได้คิดเรื่องค่าใช้จ่ายหนักๆเช่น รถ บ้าน อุบัติเหตุต่างๆ เผื่อไว้แล้วรึยังครับ?SOIVEGA เขียน:ตัดสินใจแล้วคะ ว่าจะออกจากงานเพราะไม่อยากเครียดกับการเปลี่ยนแปลง ที่ไม่สามารถรับได้ ด้วยเงินลงทุนประมาณ 3 ล้าน ขอทดลองใช้ชีวิตเล่นหุ้นอย่างเดียวพร้อมดูแลพ่อแม่ที่แก่แล้วสักพัก ถ้าไม่มีความสุข ค่อยคิดหาทางเลือกใหม่คะ
ถ้า ยุโรปเกิด default ขึ้นมา ตลาดลง 50% แล้วนิ่งอยู่ 3-4 ปี แล้วคุณ SOIVEGA คิดทางออกไว้หรือยังครับ?
ถ้าคุณพ่อคุณแม่ป่วยหนักขึ้นมา คุณ SOIVEGA คิดทางออกไว้หรือยังครับ?
ถ้าไม่ชอบงานเปลี่ยนงานใหม่ดีกว่าไหมครับ? เศรษฐกิจกำลังดีอยู่งานน่าจะหาไม่ยาก ลองมี crisis ขึ้นมาตลาดแย่ แถมงานก็จะไม่มีด้วยนะครับ
ผมหวังดีนะครับ
"Attempt to be fearful when others are greedy and to be greedy only when others are fearful"
"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10538
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 18
แนะนำว่าควรกันเงินไว้ส่วนหนึ่งประมาณ ค่าใช้จ่ายของแต่ละเดือน คูณ 6 เดือน เผื่อฉุกเฉิน ในบัญชีที่สามารถถอนได้ทุกเวลา
ที่เหลือกันไว้กับการลงทุนที่เป็นหุ้นสไตล์ปันผล หรือ Defensive
ส่วนที่เหลือก็แล้วแต่เจ้าของกระทู้ แต่ผมว่าไม่น่าจะเป็นการลงทุนแบบเก็งกำไรนะครับ
อีกส่วนผมแนะนำให้หาลู่ทางในการทำงานเพื่อหารายได้เพิ่ม เพื่อเพิ่มขนาดพอร์ตนะครับ
เจ้าของกระทู้ลองพิจารณาดูครับ
ที่เหลือกันไว้กับการลงทุนที่เป็นหุ้นสไตล์ปันผล หรือ Defensive
ส่วนที่เหลือก็แล้วแต่เจ้าของกระทู้ แต่ผมว่าไม่น่าจะเป็นการลงทุนแบบเก็งกำไรนะครับ
อีกส่วนผมแนะนำให้หาลู่ทางในการทำงานเพื่อหารายได้เพิ่ม เพื่อเพิ่มขนาดพอร์ตนะครับ
เจ้าของกระทู้ลองพิจารณาดูครับ
- simpleBE
- Verified User
- โพสต์: 2333
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 19
ผมก็ตั้งเป้าว่าจะเกษียณตัวเองจากงานประจำเหมือนกัน
แต่คงไม่ใช่ช่วงนี้อาจจะเป็นอีก 10 ปีข้างหน้า
ไม่ใช่เพราะไม่มีความสุขกับงานนะครับ
ถึงไม่ใช่งานที่ผมอยากทำจริงๆ ผมก็ทำงานได้แบบมีความสุข
เพราะได้เห็นผลงานของเราออกมาแล้วทำให้ลูกค้ายิ้มได้
และเงินที่ได้มาทำให้ครอบครัวผมใช้จ่ายได้ค่อนข้างสบาย
แต่ที่อยากเกษียณเพราะงานมันหนักเกินไป ผมเป็นห่วงสุขภาพตัวเองมากกว่า
ผมวางแผนว่าอยากทำงานศิลปะทั้งเขียนภาพ ถ่ายรูป ในแบบที่ผมชอบ
โดยไม่ต้องเห็นห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย ค่ากิน ค่าอยู่ (รวมค่าเที่ยวด้วย)
ครอบครัวไม่ต้องเดือดร้อนเพราะผม ผมเลยตัดสินใจมาลงทุนหุ้น
ด้วยหวังว่ามันจะกลายเป็นคลังที่เติบโตได้เองในอนาคต
เพราะในเมืองไทย คงหวังที่จะยังชีพด้วยการทำงานศิลปะได้ยากมาก ถ้าไม่เป็นอาจารย์ หรือไม่ใช่บิ๊กเนม
ถึงวันนี้วันที่ผมมีอิสระทางการเงิน และได้เขียนภาพแบบที่ตัวเองตั้งใจคงมีความสุขไม่น้อย
ผมไม่มีปัญหาว่าจะขาดการติดต่อกับสังคมเพื่อนฝูง เพราะถึงเราจะไม่ได้พบปะเพื่อนที่ทำงาน
แต่เราก็ยังมีสังคมศิลปะ ได้พบคุยกับผู้คนอยู่
ถึงแม้ผมอยากคุยกับเพื่อนร่วมงานเก่าๆ เดี๋ยวนี้ก็ทำได้ไม่ยากอยู่แล้ว
ทั้งทางโทรศัพท์ facebook หรือแม้กระทั่งเว็บบอร์ด มันมีทางที่จะแชร์กันได้เยอะแยะในโลกสมัยนี้
ผมว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคม ยังไงก็ไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองเหงาอยู่ลำพังหรอกครับ
นอกซะจากว่าเป็นความต้องการของตัวเอง
แต่อย่าลืมว่า ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน ได้ทำงานที่อยากทำหรืองานที่ไม่อยากทำ
ไม่ว่าเพื่อนร่วมงานจะดีหรือไม่ดียังไง
เราก็ยังต้องวนเวียนอยู่กับการยกยอ สรรเสริญ ความสุข ได้ลาภ
สลับไปกับการเสื่อมลาภ ถูกนินทา หรือเป็นทุกข์ อยู่ดี
ทั้งหมดนี้ไม่มีใครหลีกพ้น ไมว่าจะเป็นเศรษฐีหรือยาจก ไม่ว่าจะทำงานประจำหรือเล่นหุ้นอย่างเดียว
ถ้าใจเราไม่ดี ใจไม่สงบ แม้จะอยู่ในที่ที่ดี มีเงินใช้ไม่ขาดมือ เราก็หาความสุขไม่ได้
กลับกัน ถ้าใจเราเบาสบาย ให้อภัยได้ ปล่อยวางได้ ถึงแม้จะอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง
อยู่ในสภาวะที่ขาดแคลนเงินทอง อาหาร เราก็มีความสุขได้ง่ายๆ
ทุกอย่างอยู่ที่ "ใจ" เป็นหลักเลยนะสำหรับความคิดผม
ถ้าคุณ SOIVEGA ตัดสินใจแล้วผมก็เป็นกำลังใจให้ครับ
ไม่มีอะไรทำไม่ได้ถ้าเราตั้งใจและมุ่งมั่น
แต่ต้องคิดเผื่อในกรณีผลตอบแทนไม่ได้ตามที่เราตั้งใจไว้จะทำยังไง
มีแผนสองแผนสามเตรียมไว้รับมือหรือเปล่า
สู้ๆ ครับ
แต่คงไม่ใช่ช่วงนี้อาจจะเป็นอีก 10 ปีข้างหน้า
ไม่ใช่เพราะไม่มีความสุขกับงานนะครับ
ถึงไม่ใช่งานที่ผมอยากทำจริงๆ ผมก็ทำงานได้แบบมีความสุข
เพราะได้เห็นผลงานของเราออกมาแล้วทำให้ลูกค้ายิ้มได้
และเงินที่ได้มาทำให้ครอบครัวผมใช้จ่ายได้ค่อนข้างสบาย
แต่ที่อยากเกษียณเพราะงานมันหนักเกินไป ผมเป็นห่วงสุขภาพตัวเองมากกว่า
ผมวางแผนว่าอยากทำงานศิลปะทั้งเขียนภาพ ถ่ายรูป ในแบบที่ผมชอบ
โดยไม่ต้องเห็นห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย ค่ากิน ค่าอยู่ (รวมค่าเที่ยวด้วย)
ครอบครัวไม่ต้องเดือดร้อนเพราะผม ผมเลยตัดสินใจมาลงทุนหุ้น
ด้วยหวังว่ามันจะกลายเป็นคลังที่เติบโตได้เองในอนาคต
เพราะในเมืองไทย คงหวังที่จะยังชีพด้วยการทำงานศิลปะได้ยากมาก ถ้าไม่เป็นอาจารย์ หรือไม่ใช่บิ๊กเนม
ถึงวันนี้วันที่ผมมีอิสระทางการเงิน และได้เขียนภาพแบบที่ตัวเองตั้งใจคงมีความสุขไม่น้อย
ผมไม่มีปัญหาว่าจะขาดการติดต่อกับสังคมเพื่อนฝูง เพราะถึงเราจะไม่ได้พบปะเพื่อนที่ทำงาน
แต่เราก็ยังมีสังคมศิลปะ ได้พบคุยกับผู้คนอยู่
ถึงแม้ผมอยากคุยกับเพื่อนร่วมงานเก่าๆ เดี๋ยวนี้ก็ทำได้ไม่ยากอยู่แล้ว
ทั้งทางโทรศัพท์ facebook หรือแม้กระทั่งเว็บบอร์ด มันมีทางที่จะแชร์กันได้เยอะแยะในโลกสมัยนี้
ผมว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคม ยังไงก็ไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองเหงาอยู่ลำพังหรอกครับ
นอกซะจากว่าเป็นความต้องการของตัวเอง
แต่อย่าลืมว่า ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน ได้ทำงานที่อยากทำหรืองานที่ไม่อยากทำ
ไม่ว่าเพื่อนร่วมงานจะดีหรือไม่ดียังไง
เราก็ยังต้องวนเวียนอยู่กับการยกยอ สรรเสริญ ความสุข ได้ลาภ
สลับไปกับการเสื่อมลาภ ถูกนินทา หรือเป็นทุกข์ อยู่ดี
ทั้งหมดนี้ไม่มีใครหลีกพ้น ไมว่าจะเป็นเศรษฐีหรือยาจก ไม่ว่าจะทำงานประจำหรือเล่นหุ้นอย่างเดียว
ถ้าใจเราไม่ดี ใจไม่สงบ แม้จะอยู่ในที่ที่ดี มีเงินใช้ไม่ขาดมือ เราก็หาความสุขไม่ได้
กลับกัน ถ้าใจเราเบาสบาย ให้อภัยได้ ปล่อยวางได้ ถึงแม้จะอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง
อยู่ในสภาวะที่ขาดแคลนเงินทอง อาหาร เราก็มีความสุขได้ง่ายๆ
ทุกอย่างอยู่ที่ "ใจ" เป็นหลักเลยนะสำหรับความคิดผม
ถ้าคุณ SOIVEGA ตัดสินใจแล้วผมก็เป็นกำลังใจให้ครับ
ไม่มีอะไรทำไม่ได้ถ้าเราตั้งใจและมุ่งมั่น
แต่ต้องคิดเผื่อในกรณีผลตอบแทนไม่ได้ตามที่เราตั้งใจไว้จะทำยังไง
มีแผนสองแผนสามเตรียมไว้รับมือหรือเปล่า
สู้ๆ ครับ
- yoyoeffect
- Verified User
- โพสต์: 364
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 20
ความเห็นผมว่าเงินลงทุนน้อยเกินไปที่จะมีอิสรภาพทางการเงินนะครับ ถ้าเป็นตลาดขาขึ้นก็คงไม่ลำบากได้ยิ้มกันทั่วหน้า แต่ถ้าขาลงแดงเถือกทุกตัว การมีเงินลงทุนเท่านี้ โดยไม่ได้มีส่วนสำรองเผื่อเหลือเผื่อขาด และรายได้เสริมผมคิดว่าเสี่ยงมากนะครับ แถมจะเครียดกว่าตอนทำงานประจำอีกSOIVEGA เขียน:ตัดสินใจแล้วคะ ว่าจะออกจากงานเพราะไม่อยากเครียดกับการเปลี่ยนแปลง ที่ไม่สามารถรับได้ ด้วยเงินลงทุนประมาณ 3 ล้าน ขอทดลองใช้ชีวิตเล่นหุ้นอย่างเดียวพร้อมดูแลพ่อแม่ที่แก่แล้วสักพัก ถ้าไม่มีความสุข ค่อยคิดหาทางเลือกใหม่คะ
ผมว่าถ้าอายุยังไม่มาก ยังวัยทำงาน สุขภาพแข็งแรง ยังน่าที่จะทำงานต่อ เพื่อเพิ่มเงินลงทุนให้โตขึ้นเรื่อยๆนะครับ(อาจจะปรับหรือเปลี่ยนงาน ที่ไม่ต้องการความเปลี่ยนแปลง)
และอีกอย่าง ผมว่าถ้าลงทุนแบบ VI ไม่ได้เก็งกำไร ไม่ต้องถึงกับออกจากงาน มาเฝ้าตลาดตลอดเวลาก็ได้นะครับ ทุกวันนี้ผมใช้เวลาประมาณ 2 ชม.จากงานที่ทำตอนค่ำๆ มาดูข้อมูลและเพิ่มพูนทักษะทีละนิดๆ เป็นความสุขของชีวิตอย่างหนึ่ง
ออกมาลงทุนเลยอย่างเดียว ถ้ายังพอร์ตโตไม่มากๆ ขึ้นก็ดีใจ ลงก็เสียใจเป็นทุกข์ เพราะยังไม่หลุดอิสรภาพทางการเงิน ผมว่าน่าจะเครียด และน่าจะเบื่อเอาง่ายๆ อาจจะหาสิ่งที่ทำแล้วมีความสุข เกิดประโยชน์ต่อผู้อื่น รวมถึงเกิดรายได้กับเราเองด้วย และลงทุนหุ้นควบคู่ไปด้วยน่าจะดีนะครับ
เป็นความเห็นส่วนตัว ดูมีคนมาให้กำลังใจเยอะ และคำแนะนำที่ดีดีเยอะเลย
เอาใจช่วยด้วยนะครับ กับการตัดสินใจครั้งใหญ่ของชีวิต
-
- Verified User
- โพสต์: 1266
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 22
เห็นด้วยกับคุณ yoyoeffect นะ การออกมาเป็นนักลงทุนเต็มตัว วันๆ ต้องหมั่นอ่านหาข้อมูล ไม่ใช่นั่งเฝ้าหน้าจอนะครับ อีกอย่าง การทำงานแม้มันจะไม่เป็นไปอย่างที่เราต้องการ แต่สิ่งสำคัญที่ได้คือ ได้ทำงานในวัยทำงาน ได้คุยกับเพื่อนในที่ทำงาน มีเรื่องคุยกับเพื่อนเก่าเกี่ยวกับที่ทำงานของกันและกัน ส่วนการลงทุนก็เป็นการออม ต้องไม่เครียด ไม่จดจ่อ ผมเองเงินปันผลอย่างเดียวมาหารเป็นรายเดือนได้เกือบ 6 หลัก ก็ไม่คิดลาออกจากงานครับ
ความรู้คู่เปรียบด้วย
- Rocker
- Verified User
- โพสต์: 4526
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 23
ผมแนะนําให้หา รายได้เสริมทําครับ แบบพอเป็นค่าใช้จ่ายต่อเดือนครับ ต้องดูจุดแข็งของแต่ละคนนะ
ขายของ สอนหนังสือ แปลหนังสือ ทําเว็บ มีอีกเยอะครับ.... ลองคิดดู ขายของ ทาง Ebay ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี
แต่คุณจะยอมศึกษามันมั้ย หรือ ทํา เว็บ Promote เว็บ SEO เป็นต้น ลองดูครับ ต่างจังหวัด
กันเงินส่วน1 ทําร้านกาแฟขายเล็กๆก็ได้นี่ แบบ หัก คชจ เหลือ 2-3หมืน ต่อ เดือน ไม่ยุ่งกับ Port ก็น่าลุ้นครับ
พอ Port โตไปเรื่อยๆมันจะอยู่ได้ด้วยตัวมันเอง มั้งนะครับ
ผมก็ทํางานเสริมครับ เพราะเงินเดือนผมน้อยครับ
ขายของ สอนหนังสือ แปลหนังสือ ทําเว็บ มีอีกเยอะครับ.... ลองคิดดู ขายของ ทาง Ebay ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี
แต่คุณจะยอมศึกษามันมั้ย หรือ ทํา เว็บ Promote เว็บ SEO เป็นต้น ลองดูครับ ต่างจังหวัด
กันเงินส่วน1 ทําร้านกาแฟขายเล็กๆก็ได้นี่ แบบ หัก คชจ เหลือ 2-3หมืน ต่อ เดือน ไม่ยุ่งกับ Port ก็น่าลุ้นครับ
พอ Port โตไปเรื่อยๆมันจะอยู่ได้ด้วยตัวมันเอง มั้งนะครับ
ผมก็ทํางานเสริมครับ เพราะเงินเดือนผมน้อยครับ
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 24
3 ล้านผมว่า้น้อยมากน่าจะเก็บให้ได้มากกว่านี้หน่อย
เพราะบางปีเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หุ้นลงไป 50 % แล้วจะกินอะไร
เล่นหุ้นมีความเสี่ยง อย่าลืมเป็นอันขาด
เพราะบางปีเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หุ้นลงไป 50 % แล้วจะกินอะไร
เล่นหุ้นมีความเสี่ยง อย่าลืมเป็นอันขาด
-
- Verified User
- โพสต์: 89
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 25
ช่วงแรกๆ ที่ลาออกมาเป็นนักลงทุน ก็เบื่อมาก เพราะตอนที่ทำงาน ผมสนุกกับงานมากเลยทำงานหนักและไม่รู้สึกเหนื่อย โชคดีที่ภรรยาเตือนให้คิด จึงได้ตัดสินใจหยุดอยู่แค่นั้น และเดินทางมาปักกิ่งเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตอนนี้ไปเรียนทุกเช้า บ่ายๆ หรือเย็นๆ กลับมาอ่านหนังสือพิมพ์ บทวิเคราะห์ และผลประกอบการบริษัทต่างๆ ที่น่าสนใจ หรือไม่ก็แปลหนังสือชี้ชวนลงทุนของ private equity จีนต่างๆ เลือกดูว่าโปรเจคไหนดีไม่ดีอย่างไร และก็ทำสรุปให้ครอบครัวว่าจะลงทุนรึไม่ แต่ทว่าก็มีบางครั้งที่รู้สึกว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรให้เกิดประโยชน์เลยหรือไม่มีคนนับถือเหมือนตอนที่อยู่เมืองไทย ช่วงเวลาแบบนั้นก็อยากกลับไปทำงานมาก แต่สุดท้ายก็ยังอยู่ที่นี่เหมือนเดิม เพราะเป้าหมายชีวิตคือการลงทุน
- jek ae
- Verified User
- โพสต์: 899
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 26
มีความสุขดีครับ ตอนนี้รายได้จากดอกเบี้ยและปันผลสามารถดูแลค่าใช้จ่ายในครอบครัวได้ตลอดไปโดยไม่ต้องยึดติดกับรายได้จากงานประจำอีก ผลพลอยได้คือเวลาว่างครับ ความรู้สึกที่เป็นอิสระ ยังมีอะไรอีกหลายๆอย่างที่ผมเคยอยากจะทำ เดี๋ยวนี้ก็ได้ทำตามใจเพราะไม่มีอุปสรรคเรื่องของเวลามาเกี่ยวข้อง
เหลือขุนเขาแมกไม้ มิต้องวิตกไร้ฟืนไฟ
-
- Verified User
- โพสต์: 125
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 27
3 ล้านผมว่าน้อยไปหน่อยนะครับ ถ้าตลาดเป็นขาลงเมื่อไหร่จะลำบาก ดูกรณี worse case scenario เผื่อไว้บ้างนะครับ
ว่าเราจะอยู่รอดได้อย่างไร ถ้าลงทุนเป็น vi มันไม่ได้ใช้เวลามากนะครับในการซื้อขาย เพราะไม่ได้ซื้อขายบ่อยๆ
ไม่ต้องมานั่งเฝ้าหน้าจอตลอด ถ้าลาออกจากงานมาแล้ว ไม่ได้ทำอะไรมานั่งเฝ้าหน้าจอระวังจะโดนการเคลื่อนไหว
ของราคาครอบงำให้กลายเป็นนักเก็งกำไรโดยไม่รู้ตัวนะครับ ตลาดตอนนี้ก็ผันผวนมากอาจจะเปลี่ยนแปลงมากยิ่ง
กว่าที่ทำงานอีกด้วยซ้ำ ยังไงก็ขอให้ตัดสินใจให้รอบคอบด้วยตัวเอง เพราะไม่มีใครรู้จักตัวคุณดีที่สุดและมี
ข้อมูลมากที่สุดเท่าตัวคุณเอง
ว่าเราจะอยู่รอดได้อย่างไร ถ้าลงทุนเป็น vi มันไม่ได้ใช้เวลามากนะครับในการซื้อขาย เพราะไม่ได้ซื้อขายบ่อยๆ
ไม่ต้องมานั่งเฝ้าหน้าจอตลอด ถ้าลาออกจากงานมาแล้ว ไม่ได้ทำอะไรมานั่งเฝ้าหน้าจอระวังจะโดนการเคลื่อนไหว
ของราคาครอบงำให้กลายเป็นนักเก็งกำไรโดยไม่รู้ตัวนะครับ ตลาดตอนนี้ก็ผันผวนมากอาจจะเปลี่ยนแปลงมากยิ่ง
กว่าที่ทำงานอีกด้วยซ้ำ ยังไงก็ขอให้ตัดสินใจให้รอบคอบด้วยตัวเอง เพราะไม่มีใครรู้จักตัวคุณดีที่สุดและมี
ข้อมูลมากที่สุดเท่าตัวคุณเอง
สิ่งใดเกิดขึ้น สิ่งนั้นดับไปเป็นธรรมดา
- simplelife
- Verified User
- โพสต์: 756
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 28
คงตอบไม่ได้หรอกครับ ว่าพอร์ตสามล้าน พอหรือไม่พอ แค่อยากเตือนนิดนึงว่า ถ้าคิดว่าจะใช้เดือนละ 25,000- หวังผลตอบแทน 10% แล้วคิดว่าคงเงินต้นไว้ได้คงจะไม่เป็นไร ให้ลองกลับไปคิดใหม่อีกที เพราะว่าอย่าลืมว่าต้องเอา"เงินเฟ้อ"เข้าไป factor ด้วย
เงิน 3 ล้านวันนี้ กับ 3 ล้านอีก 30 ปีข้างหน้ามันมีมูลค่าไม่เท่ากันนะครับ ถ้าจะขอสุ่มๆเอาว่าเงินเฟ้อ 30 ปีจะมีค่าประมาณ 3% เงิน 3 ล้านของคุณจะเหลือ buying power แค่ประมาณ 1.2 ล้านเองครับ คือซื้อ camry คันนึงยังไม่ได้เลย ถ้าเงินเฟ้อที่ 4% เงิน 3 ล้านของคุณจะเหลือ buying power แค่ประมาณ 9 แสนเมื่อเทียบกับเงินในวันนี้เองครับ
ที่เตือนเพราะว่าถ้าจะออกมามีรายได้หลักจากการลงทุน อย่างน้อยพอร์ตการลงทุนหักค่ากินค่าอยู่ ต้องโตมากกว่าเงินเฟ้อครับ ถึงจะเป็นแผนระยะยาวที่ใช้ได้จริง เงินเฟ้อเราไม่รู้แน่ๆว่าเท่าไร ดังนั้นก็ต้องเผื่อๆไว้ประมาณอย่างน้อยๆ 5%
ปล. คนที่บอกว่ายังไม่พอ ยังไม่พอ พอร์ตการลงทุนสำหรับคนที่จะใช้รายได้หลักจากการลงทุนในหุ้น ในใจคุณคิดว่าต้องเป็นเท่าไรหรือครับ อยากรู้
เงิน 3 ล้านวันนี้ กับ 3 ล้านอีก 30 ปีข้างหน้ามันมีมูลค่าไม่เท่ากันนะครับ ถ้าจะขอสุ่มๆเอาว่าเงินเฟ้อ 30 ปีจะมีค่าประมาณ 3% เงิน 3 ล้านของคุณจะเหลือ buying power แค่ประมาณ 1.2 ล้านเองครับ คือซื้อ camry คันนึงยังไม่ได้เลย ถ้าเงินเฟ้อที่ 4% เงิน 3 ล้านของคุณจะเหลือ buying power แค่ประมาณ 9 แสนเมื่อเทียบกับเงินในวันนี้เองครับ
ที่เตือนเพราะว่าถ้าจะออกมามีรายได้หลักจากการลงทุน อย่างน้อยพอร์ตการลงทุนหักค่ากินค่าอยู่ ต้องโตมากกว่าเงินเฟ้อครับ ถึงจะเป็นแผนระยะยาวที่ใช้ได้จริง เงินเฟ้อเราไม่รู้แน่ๆว่าเท่าไร ดังนั้นก็ต้องเผื่อๆไว้ประมาณอย่างน้อยๆ 5%
ปล. คนที่บอกว่ายังไม่พอ ยังไม่พอ พอร์ตการลงทุนสำหรับคนที่จะใช้รายได้หลักจากการลงทุนในหุ้น ในใจคุณคิดว่าต้องเป็นเท่าไรหรือครับ อยากรู้
"I believe what I said yesterday. I don't know what I said, but I know what I think... and I assume it's what I said." -- Donald Rumsfeld
- simplelife
- Verified User
- โพสต์: 756
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 29
ลองดูแค่ปีเดียวไม่ได้หรอกครับ ถ้าเกิดจขกท ทำได้ 20% 2-3 ปี ก็ไม่ได้ guarantee อะไรเลยว่าปีหลังจากนี้จะได้เท่านั้น กลับเป็นว่าเวลายิ่งเนิ่นนานไป โอกาสที่จะกลับไปทำงานประจำ ยิ่งน้อยลงไปอีกครับLikhit เขียน:ถ้ารวมๆทุกอย่างใน3ล้าน ผมว่าไม่พอครับ กินทุนแน่นอน ลองดูสักปีก็ได้
แต่ถ้าอายุมากขึ้นก็จะหางานไม่ได้ครับ ขึ้นกับอายุด้วย ความรู้เกี่ยวกับหุ้นมีมากน้อยแค่ใหน
"I believe what I said yesterday. I don't know what I said, but I know what I think... and I assume it's what I said." -- Donald Rumsfeld
- murder_doll
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 30
ดีจริงๆเลยครับjek ae เขียน:มีความสุขดีครับ ตอนนี้รายได้จากดอกเบี้ยและปันผลสามารถดูแลค่าใช้จ่ายในครอบครัวได้ตลอดไปโดยไม่ต้องยึดติดกับรายได้จากงานประจำอีก ผลพลอยได้คือเวลาว่างครับ ความรู้สึกที่เป็นอิสระ ยังมีอะไรอีกหลายๆอย่างที่ผมเคยอยากจะทำ เดี๋ยวนี้ก็ได้ทำตามใจเพราะไม่มีอุปสรรคเรื่องของเวลามาเกี่ยวข้อง
เงินทองเป็นของมายา
ข้าวปลาคือของจริง
ข้าวปลาคือของจริง