กระทู้คุณค่า มีประโยชน์ ความรู้ดีดี เป็นประโยชน์เสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน แค่ไหนก็ตาม
fsuitra
Verified User
โพสต์: 30
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ ต.ค. 11, 2008 10:28 am | 0 คอมเมนต์
คัดท้าย เขียน: ขอบคุณพี่ ayethebing ครับ สำหรับนิยามของ VI และ VS ในความคิดของพี่
ทำไมผมถึงตั้งคำถามขึ้นมา ?
เพราะเท่าที่คุยกับเพื่อนๆของผม ผมว่ามีเพื่อนผมที่เล่นหุ้นด้วยกันหลายคนยังเข้าใจไอ้ความหมายของ VI กับ VS นี่ไม่เคลียร์เลยครับ
เพื่อนผมหลายคน คิดว่าตัวเองเป็น VI ซื้อหุ้นแล้วก็ถือยาว บอกว่า
"กรูเป็น VI กรูซื้อหุ้นถือยาว กรูจะเอาปันผล"
ผมถามว่ามันซื้อหุ้นอะไร ที่ราคาเท่าไหร่ แล้วหนาวววว แทนครับ
เพราะนั่นไม่ใช่ VI เลย อย่างสมมุติ
Ecample: ผมซื้อ HEMRAJ ที่ 1.9 บาท แล้วผมถือยาวว เอาปันผล แล้วผมเป็น VI มั้ย?
นี่คือ สิ่งที่ผมอยากจะชี้ครับ
ผมถามว่าถ้าพรุ่งนี้ มีระเบิดทำเนียบ เพื่อนผมคนนี้มันจะตายมั้ย
คำตอบคือ มันได้ถือยาววว มหาโคตรแน่ๆ
กับเพื่อนอีกคนของผม มันบอกว่ามันเป็น VS มัน แต่มันบอกผมเสมอเลย ว่า "กรูหามูลค่าที่แท้จริงของหุ้น แล้วกรูซื้อตอนมันราคาถูกกว่ามูลค่าที่แท้จริง แต่กรูไม่เอาหรอกปันผล กรูว่ามันน้อย กรูขอส่วนต่างราคา กรูคงถือมันแค่ 6 เดือนเท่านั้นแหละ"
ถามว่าไอ้คนที่สองนี้เป็น VI หรือ VS ครับ?
ผมพยายามเขียนเตือน เพราะผมไม่อยากให้เพื่อนๆผิดหวังกับความเชื่อที่เพื่อนๆเชื่อกันอยู่ เป็น VI หนะดีแน่ แต่ดีเมื่อคุณได้ทำตามกฏของ VI เท่านั้น
เพราะมันอันตรายมาก หากคุณคิดว่าเป็น VI แล้วซื้อหุ้นที่สูงกว่ามูลค่าที่แท้จริงอยู่ครับ
อันตรายมั้ย ให้จินตนาการถึง คนคนนึงกำระเบิดไว้ แล้วนึกว่าตัวเองกำลังถือกระป๋องโค้กอยู่ ?
ครับผม รับทราบครับ ท่านสื่อได้ดีมากจนผมอ่านแล้วขนลุก
chowbe76
Verified User
โพสต์: 1980
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ มิ.ย. 06, 2009 5:55 pm | 0 คอมเมนต์
มันประมาณนี้หรือเปล่าครับ
ไอ้การเป็นVSOPน่ะ
คือ....
ใช้วิธีของVIในการร่อนตะแกรง
ใช้วิธีของVSในการหาจังหวะซื้อ
jeabppqq
Verified User
โพสต์: 1
ผู้ติดตาม: 0
อังคาร พ.ย. 30, 2010 11:18 pm | 0 คอมเมนต์
ปรกติผมจะอ่านลูกเดียวไม่ค่อยได้มาตอบอะไร วันนี้ขอหน่อยละกันครับ
ผมออกตัวก่อนว่าผมอยู่แนวเก็งกำไรด้วยเทคนิคอลซึ่งผมถนัดมาก ตอนนี้ก็อยากมาศึกษา
เรื่องของ VI ดูบ้าง ก็ได้อะไรดีๆมาหลายๆอย่าง ผมขอแบ่งปันบ้างครับ
การเป็นVSแนวเด็กเส้นแบบผมมีข้อเสียคือต้องใช้เวลามาดู realtime เช้าเย็น ดู metastock ทุกวัน เพราะพลาดจะได้cutทัน
การเล่นเส้นก็ต้องพัฒนาตัวเองเพื่อลดความเสี่ยง พัฒนาสูตรต่างๆให้ซื้อต่ำขายสูงในแต่ละwaveให้มากที่สุด
แต่ vs ก็ต้องเลือกหุ้นที่มีการแกว่งตัวสูงและพื้นฐานดีมาประกอบการเล่น เข้าแต่ละครั้งคือการสู้รบกับ bid offer
คืนนี้ผมทดสอบการใช้เทคนิค3อย่างมาลองว่าแบบไหนทำกำไรได้ดีกว่ากัน โดยใช้ scc มาเป็นตัวตัดสิน
เพื่อให้ยุติธรรมเนื่องจากเป็นหุ้นแกว่งตัวไม่แรงนัก พื้นฐานดี mkcap สูง เพื่อให้เป็นกลางๆ ซึ่งชีวิตจริงผมไม่เล่นตัวนี้แน่นอน
ผมใช้เทคนิคที่safeที่สุด ลงทุนตาม trend ที่เริ่มวันที่ 24/4 - 22/10 ผมเข้าเทรด9ครั้งไม่พลาดเลย กำไรมากน้อยก็ว่ากันไป
แต่เกิดอะไรขึุ้นครับ.... เทคนิคโดยใช้สารพัดวิธีกรองได้ 122.5 buy and hold ได้ 102.5 EMA50 2/4 - 29/10 ได้ 104.5
หักค่าโบรกแล้วต่างกันไม่มาก เพราะผมซื้อขาย9ครั้ง แต่อย่างอื่นรอบเดียวจบไม่ต้องเพ่งหน้าจอ ไม่ต้องเครียดอีกต่างหาก
หุ้นบางตัวซื้อถูกตัวแล้วถือไม่ต้องเล่นรอบให้เหนื่อยจะมีความสุขกว่า เพียงแต่ผมไม่รู้ว่าตัวไหนเท่านั้น ถ้ารู้ถึงกำไรน้อยกว่าที่ทำอยู่ก็เอาครับ
ซึ่งผมเชื่อว่าเป็นแนวทางของ vi คือ hold ไปจนถึงจุดที่พวกคุณกำหนดกัน หากคุณเก่ง ผลกำไรก็เต็มเม็ดเต็มหน่วยที่สำคัญคือไม่เปลืองอารมณ์
หากคุณถนัดทาง vi ไม่ต้องมาศึกษา vs จริงจังเท่าไหร่รู้แค่พื้นๆก็พอ หากคุณถนัดแนว vs พอร์ตโตขึ้นก็ต้องมาศึกษา vi ให้ชีวิตรื่นรมณ์ขึ้นบ้าง
ถ้าเลือกถนัดได้ผมก็อยากมาทาง vi แต่ชีวิตมันดันเกิดมาถนัดตัวเลขกับจิตวิทยาเชิงสถิติมากกว่านี่สิ
jeabppqq
Verified User
โพสต์: 1
ผู้ติดตาม: 0
พุธ ธ.ค. 01, 2010 12:43 am | 0 คอมเมนต์
เอ ผมไป test หุ้นตัวไหนเนี่ยชักงง เปิดอีกทีไม่รู้ตัวไหนกันแน่???
tankungs
Verified User
โพสต์: 83
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ ม.ค. 17, 2011 9:59 pm | 0 คอมเมนต์
สวัสดีครับพี่ๆชาว TVI
ผมเพิ่งเริ่มลงทุนได้ไม่นานครับ เรียกว่าเป็นมือใหม่ถอดด้ามทีเดียว อ่านกระทู้นี้แล้วก็สงสัยในวิธีการลงทุนของตัวเอง
เหมือนกันครับ แหะๆ
เริ่มจากเวลาผมจะเลือกซื้อหุ้นสักตัวจะเริ่มร่อนตะแกรงตามที่ อ.ดร. ใช้ (P/E ROE Growth และอื่นๆ)
พอได้หุ้นก็จะดูหน้าตาเว็บไซต์ / Product และผู้บริหาร จากนั้นค่อยไปดูงบการเงิน (เงินสด กำไรสะสม ค่าใช้จ่ายต่างๆ)
ถ้าเกิดว่าผ่าน ผมก็จะเปิดดูกราฟเทียน แล้วก็พวกค่า RSI / MACD ว่าช่วงนี้จะซื้อดีไหม
มี Volume แปลกๆ (คล้ายจะมีเจ้ามือ) รึเปล่า
สมมุติถ้าผมทำได้ถูกต้องหมดตามที่ผมโม้มา อย่างนี้จะจัดเป็นแบบไหนหรอคับ
ผมก็ยังงงๆตัวเองเหมือนกัน (เพราะเห็น อ.ดร. ท่านบอกว่าไม่สนใจข้อมูลเทคนิคเลย)
thaloengsak
Verified User
โพสต์: 2716
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ก.พ. 24, 2011 5:14 pm | 0 คอมเมนต์
[quote="utto"]ความจริงผมค่อนข้างเบื่อหน่ายกับการตีความVI กับ VS มากๆ เพราะมักจะมีการคุยทับบลัพแหลกกันเป็นประจำ แต่การถกกันที่นี้ให้ประเด็นที่ต่างออกไป ผมเห็นด้วยกับความคิดพี่คัดท้ายอย่างยิ่ง อยากจะเสริมในความคิดผมสาเหตุที่ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ล้มเหลวก็คือการเข้าใจนิยามแบบผิดๆ คือไปเข้าใจว่าพวกเก็งกำไรคือ VS และ พวกถือยาวกินปันผลคือVI เป็นอย่างแรก ถ้าจะแก้ก็น่าจะแบ่งเป็นสองพวกแทนที่จะตีความไปตามตัวอีกษรแล้วทึกทักเอา
ความคิดผมแล้วในตลาดจะมีแค่สองพวกในระยะยาว ตือ
-พวกที่รอด คือVI และ VS
-พวกที่ไม่รอด คือ We are victim (ตามที่พี่คัดท้ายตั้งให้)
แล้วเรามานิยามผู้รอดซะใหม่โดยเติมนักลงทุนเข้าไปต่อท้ายซะ
VI investor = Value Intellectual + Investor
(intellectual = ที่มีเหตุมีผล, ที่มีสติปัญญา, ที่มีความรู้)
ความหมายก็ยกของพี่ครรชิตมาใช้ได้ครับผมก็ชอบเช่นกัน
VS investor = Value Strategic + Investor
ความหมายก็เป็นนักลงทุนที่ใช้กลยุทธ์ในการเข้าทำกำไรจากตลาด ผมเองจัดให้ VI เป็นหนึ่งในกลยุทธชั้นครู กลยุทธหนึ่ง ใช้ยากแต่ค่อนข้างรับรองผลได้ ผมว่ามีหลายคนที่จัดตัวเองอยู่ในจำพวกนี้
ส่วน We are victim + investor ผมไม่จัดอยู่ในสองพวกแรกครับ พวกนี้มีทั้งผู้ที่ไม่รู้ ผู้ที่รู้ไม่จริง ผู้ที่ไม่ศึกษา... 9ล9 รวมไปถึง VI และ Vs ที่สอบตกด้วยครับ
การจะนิยามตัวเองให้เป็น VI หรือ VS คล้ายกับการสอบ License อะไรสักอย่างมันต้องมีการทดสอบมันต้องมีอุปสรรค ถ้าผ่านมาได้โดยใช้กลวิธีอะไรก็ตามก็สมควรจะอุปโลกตัวเองให้เป็นได้ ซึ่งผู้ทดสอบผลก็คือ ตลาดนั้นเอง แล้วเรื่องการวัดผลอย่าเอาผลตอบแทนมาดูอย่างเดียว ต้องดูด้วยว่าการลงทุนต่อเนื่องแล้วเมื่อเจอวิกฤตต่างๆ หลายๆครั้งแล้วยังเป็นผู้รอดอยู่หรือไม่
ขณะที่อยู่ในตลาดทุน ผมมักจะเตือนตัวเองเสมอว่า ให้ศึกษาให้มากไม่ว่าจะแนวไหน หรือทักษะอะไรก็ตามที่จะช่วยให้เราเอาตัวรอดได้ และย้ำกับตัวเองเสมอว่า อย่าพลาดหรือพลาดให้น้อยที่สุด และพลาดแล้วต้องอยู่ในขอบเขตที่จำกัดเสมอ เพราะไม่ว่าจะเป็น V อะไร ถ้าพลาดหนักๆก็จะเป็นได้แค่ "We are victim" เท่านั้นเอง[/quote]
ผมชอบมากเลย
ขอบคุณที่เป็นแรงบันดาลใจให้ครับ
pak
Verified User
โพสต์: 5659
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ มี.ค. 06, 2011 7:20 pm | 0 คอมเมนต์
[quote="pae2020"]ความเป็น VI ไม่ได้วัดด้วยความสำเร็จ แต่วัดด้วย Concept ในการลงทุน ดังนั้นไม่ใช่ VI ทุกคนที่ประสบความสำเร็จหรอกครับ เพราะการลงทุนคือความเสี่ยง ไม่ว่าเป็น VI หรือ VS ก็ต้องแบกรับความเสี่ยงด้วยกันทั้งนั้นแหละครับ[/quote]
ผมชอบประโยคนี้มากๆครับ ยิ่งอ่าน...ยิ่งชอบ
หลายคนชอบเอาหัวใจไปมีผูกพันกับ "การขึ้นและลงของราคาหุ้น"!!!
หุ้นเป็นสีเขียว...ก็หัวใจพองโต
หุ้นเป็นสีแดง...ก็หัวใจเหี่ยวเฉา
ลองเปลี่ยนมุมมองซักนอดซิครับว่า...
"แท้จริงแล้ว... สีแดง ก็คือสีเขียวที่ยังเดินทางมาไม่ถึงเท่านั้นเอง"
อย่าไปยึดติด อย่าไปสุขหรือทุกข์ กับการเปลี่ยนแปลงราคามันให้มากเกินไปเลยครับ
ถ้าเราได้ทำการบ้าน และคัดสรรบริษัทฯมาเป็นอย่างดีแล้ว
เราต้องมีความสุขใน "ความเป็นเจ้าของ" ของเราครับผม
(^_^)
เหล็งฮู้ชง
Verified User
โพสต์: 275
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. มี.ค. 17, 2011 9:53 pm | 0 คอมเมนต์
VI หรือ VS ไม่ได้สิ่งสำคัญและมีแบบแผนชัดเจน
แต่ที่แน่กว่าคือ ก่อนที่จะซื้อเราซื้อด้วยเหตุผลอันใด
และมองเห็นอนาคตออกหรือไม่ และราคาตอนที่จะซื้อมันถูกหรือเปล่า
แค่เท่านี้ ส่วนขายก็แค่พอใจที่จะขาย ขายแล้วสบายใจเป็นพอครับ
อะไรที่ทำแล้วอึดอัดก็ปล่อยขายไปเถอะครับ
picklife
Verified User
โพสต์: 2565
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ เม.ย. 09, 2011 4:41 pm | 0 คอมเมนต์
ความเห็นผม เงินเยอะ หรือเงินน้อย ก็ต้องviไว้ก่อนครับ
picklife
Verified User
โพสต์: 2565
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ เม.ย. 09, 2011 4:41 pm | 0 คอมเมนต์
"เงินเยอะ เงินน้อยไม่ว่า ขอให้viเป็นพอ" 555+
chukieat30
Verified User
โพสต์: 3531
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ พ.ค. 27, 2011 5:35 pm | 0 คอมเมนต์
แล้วแต่ความถนัดครับ
เอาไทเกอรมาทำอาหารแข่งกับเชฟกระทะเหล็ก
มันคงพิลึก
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์ มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
นพพร
Verified User
โพสต์: 1039
ผู้ติดตาม: 0
พุธ มิ.ย. 29, 2011 7:20 pm | 0 คอมเมนต์
คิดมากเดี๋ยวไม่ได้ลงทุนกันพอดี จะแนวตั้งแนวนอนได้หมด
ก้าวแรกที่เล็กๆ แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของชีวิต
wanna
Verified User
โพสต์: 68
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. มิ.ย. 30, 2011 1:57 pm | 0 คอมเมนต์
pak เขียน: pae2020 เขียน: ความเป็น VI ไม่ได้วัดด้วยความสำเร็จ แต่วัดด้วย Concept ในการลงทุน ดังนั้นไม่ใช่ VI ทุกคนที่ประสบความสำเร็จหรอกครับ เพราะการลงทุนคือความเสี่ยง ไม่ว่าเป็น VI หรือ VS ก็ต้องแบกรับความเสี่ยงด้วยกันทั้งนั้นแหละครับ
ผมชอบประโยคนี้มากๆครับ ยิ่งอ่าน...ยิ่งชอบ
หลายคนชอบเอาหัวใจไปมีผูกพันกับ "การขึ้นและลงของราคาหุ้น"!!!
หุ้นเป็นสีเขียว...ก็หัวใจพองโต
หุ้นเป็นสีแดง...ก็หัวใจเหี่ยวเฉา
ลองเปลี่ยนมุมมองซักนอดซิครับว่า...
"แท้จริงแล้ว... สีแดง ก็คือสีเขียวที่ยังเดินทางมาไม่ถึงเท่านั้นเอง"
อย่าไปยึดติด อย่าไปสุขหรือทุกข์ กับการเปลี่ยนแปลงราคามันให้มากเกินไปเลยครับ
ถ้าเราได้ทำการบ้าน และคัดสรรบริษัทฯมาเป็นอย่างดีแล้ว
เราต้องมีความสุขใน "ความเป็นเจ้าของ" ของเราครับผม
(^_^)
สวัสดีค่ะ
แล้ว คุณ Pak ลงทุนหุ้น turnaround เป็น VI หรือ VS คะ
ยินดีกับความเป็นเจ้าของหุ้นเหล่านั้นด้วยนะคะ