ถามผมว่า"ไม่ทราบว่า คุณมนตรี ปีที่แล้วถึงชื้อ aprint คร
-
- Verified User
- โพสต์: 79
- ผู้ติดตาม: 2
ถามผมว่า"ไม่ทราบว่า คุณมนตรี ปีที่แล้วถึงชื้อ aprint คร
โพสต์ที่ 1
ต้องขออนุญาติท่านผู้ถามที่ผ่านข้อความส่วนตัวนะครับ ผมเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆด้วยกันจึงนำมาเขียนในนี้
ผมซื้อAPRINTมานานมากแล้วครับไม่ได้ซื้อเมื่อปีที่แล้ว แต่ซื้อตั้งแต่35บาทและสะสมเพิ่มเลื่อยๆ ต้นทุนขณะนี้ประมาณ 55บาทครับ ปัจจัยที่ผมใช้มีดังนี้ครับ
1) เป็นธุรกิจที่เข้าใจง่าย คือทำนิตยสารที่เกี่ยวกับบ้านและสวน อาหารสูขภาพ สารคดี และเรื่องความงาม ทำร้านหนังสือ มีโรงพิมพ์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ใช้เนื้อหาข้อมูลที่มีอยู่มาสร้างมูลค่าเพิ่มต่อได้อีก(อันนี้ได้เพิ่มมาจากการประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวานนี้)
2) ผลการดำเนินงานดีขึ้นสม่ำเสมอ ดูได้จากผลการดำเนินงานและรายงานทางการเงิน
3) ผมเชื่อว่าธุรกิจนี้ยังมีอนาคตอีกไกล และทีมผู้บริหารได้เตรียมการสำหรับการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา (ได้จากการประชุมผู้ถือหุ้น)
4) ผู้บริหารได้ดำเนินการต่างอย่างมีเหตุผลและอนุรักษ์นิยมมาก ดูได้จากการลงทุนที่มาจากเงินออมของบริษัทเอง และการตั้งสำรองทางบัญชีต่างๆ
5) จากการประชุมผู้ถือหุ้นผู้บริหารเน้นการรับข้อความคิดเห็นจากผู้ถือหุ้นและนำไปพิจารณาทุกอย่าง แม้การเสนอแต่งตั้งกรรมการยังรอฟังผู้ถือหุ้นว่าจะเอาอย่างไง
6) ผู้บริหารไม่มีสักษณะการเลียนแบบผู้ตามตลาด หลังจากที่เปิดตัวร้านนายอินทร์ทางบริษัทก็ยังยึดมั่นในหลักการดำเนินธุรกิจที่เหมาะสมไม่ลอกเลียนแบบผู้อื่น เน้นที่ธุรกิจหลักที่ตัวเองชำนาญ
7) ROE สองหลักมาตลอด
8) กระแสเงินสดมีสภาพเป็นบวกมาตลอด ทำให้ฐานะการเงินเข้มแข็งมาก
9) กำไรขั้นต้นสูงมาก
10) ที่ผ่านมาได้นำกำไรสะสมมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผู้ถือหุ้นมาตลอดดูได้จากราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นมาตลอด
11) บริษัทมีการเติบโตต่อเนื่องมาตลอดในอัตราประมาณ 10% มูลค่าของกิจการก็สามารถหาได้ไม่ยาก(อยากทราบต้องถามส่วนตัว)
12)ผมซื้อหุ้นนี้ไว้ในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงมากครับ
ทั้งหมดนี้ผมใช้เป็นหลักการในการเลือกหุ้นนี้ และพิจารณาแล้วตรงตาม หลักการของWarren Buffett ทุกประการ อีกทั้งการเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวานนี้ทำให้ผมเข้าใจธุรกิจนี้ดีมากขึ้น รู้จักผู้บริหารมากขึ้น และสุดท้ายมั่นใจมากขึ้น ผมจะซื้อเพิ่มอีกครับถ้ามีโอกาส
ผมซื้อAPRINTมานานมากแล้วครับไม่ได้ซื้อเมื่อปีที่แล้ว แต่ซื้อตั้งแต่35บาทและสะสมเพิ่มเลื่อยๆ ต้นทุนขณะนี้ประมาณ 55บาทครับ ปัจจัยที่ผมใช้มีดังนี้ครับ
1) เป็นธุรกิจที่เข้าใจง่าย คือทำนิตยสารที่เกี่ยวกับบ้านและสวน อาหารสูขภาพ สารคดี และเรื่องความงาม ทำร้านหนังสือ มีโรงพิมพ์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ใช้เนื้อหาข้อมูลที่มีอยู่มาสร้างมูลค่าเพิ่มต่อได้อีก(อันนี้ได้เพิ่มมาจากการประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวานนี้)
2) ผลการดำเนินงานดีขึ้นสม่ำเสมอ ดูได้จากผลการดำเนินงานและรายงานทางการเงิน
3) ผมเชื่อว่าธุรกิจนี้ยังมีอนาคตอีกไกล และทีมผู้บริหารได้เตรียมการสำหรับการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา (ได้จากการประชุมผู้ถือหุ้น)
4) ผู้บริหารได้ดำเนินการต่างอย่างมีเหตุผลและอนุรักษ์นิยมมาก ดูได้จากการลงทุนที่มาจากเงินออมของบริษัทเอง และการตั้งสำรองทางบัญชีต่างๆ
5) จากการประชุมผู้ถือหุ้นผู้บริหารเน้นการรับข้อความคิดเห็นจากผู้ถือหุ้นและนำไปพิจารณาทุกอย่าง แม้การเสนอแต่งตั้งกรรมการยังรอฟังผู้ถือหุ้นว่าจะเอาอย่างไง
6) ผู้บริหารไม่มีสักษณะการเลียนแบบผู้ตามตลาด หลังจากที่เปิดตัวร้านนายอินทร์ทางบริษัทก็ยังยึดมั่นในหลักการดำเนินธุรกิจที่เหมาะสมไม่ลอกเลียนแบบผู้อื่น เน้นที่ธุรกิจหลักที่ตัวเองชำนาญ
7) ROE สองหลักมาตลอด
8) กระแสเงินสดมีสภาพเป็นบวกมาตลอด ทำให้ฐานะการเงินเข้มแข็งมาก
9) กำไรขั้นต้นสูงมาก
10) ที่ผ่านมาได้นำกำไรสะสมมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผู้ถือหุ้นมาตลอดดูได้จากราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นมาตลอด
11) บริษัทมีการเติบโตต่อเนื่องมาตลอดในอัตราประมาณ 10% มูลค่าของกิจการก็สามารถหาได้ไม่ยาก(อยากทราบต้องถามส่วนตัว)
12)ผมซื้อหุ้นนี้ไว้ในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงมากครับ
ทั้งหมดนี้ผมใช้เป็นหลักการในการเลือกหุ้นนี้ และพิจารณาแล้วตรงตาม หลักการของWarren Buffett ทุกประการ อีกทั้งการเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวานนี้ทำให้ผมเข้าใจธุรกิจนี้ดีมากขึ้น รู้จักผู้บริหารมากขึ้น และสุดท้ายมั่นใจมากขึ้น ผมจะซื้อเพิ่มอีกครับถ้ามีโอกาส
-
- Verified User
- โพสต์: 79
- ผู้ติดตาม: 2
ถามผมว่า"ไม่ทราบว่า คุณมนตรี ปีที่แล้วถึงชื้อ aprint คร
โพสต์ที่ 3
การหาข้อมูลของผมขั้นแรกก็เอา56-1มาอ่านก่อน ทำความเข้าใจว่าบริษัททำธุรกิจสิ่งพิมพ์ มีรายละเอียดอะไรบ้าง รับพิมพ์งานหรือทำหนังสือเอง ปรากฎว่าทำหนังสือแพรว บ้านและสวน ซึ่งผมอ่านบ้านและสวนและชอบมาก หลังๆออกนิตยสารมาอีกหลายฉบับ สินค้าคือเรื่องความรู้ในการแต่งบ้าน เรื่องความงาม เรื่องอาหารเพื่อสูขภาพ มีสารส่งเองและรับจัดจำหน่ายเอง โครงสร้างรายได้มาจากค่าโฆษณา การจัดจำหน่ายที่ค่อนข้างสูง และหนังสือเล่มที่จะเป็นของนักเขียนดังๆ และที่สำคัญ ได้รับพระราชทานให้พิมพ์หนังสือของพระเจ้าอยู่หัวมาโดยตลอด
ส่วนการประเมินมูลค่านั้นผมใช้วิธีเดียวกันกับของคุณสุรชัยครับ
ส่วนการประเมินมูลค่านั้นผมใช้วิธีเดียวกันกับของคุณสุรชัยครับ
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
ถามผมว่า"ไม่ทราบว่า คุณมนตรี ปีที่แล้วถึงชื้อ aprint คร
โพสต์ที่ 5
อะไรทำให้พี่ตัดสินใจหลักในการซื้อหุ้นครับ
intrictic รึเปล่าหรือว่าอย่างอื่น
อย่างการมองเชิงคุณภาพอย่างที่พี่เขียนมันก็สำคัญ
แต่ผมมีปัญหาอยู่อย่างนึงคือหลังจากที่วิเคราะห์เชิงคุณแล้วว่าเป็นกิจการที่ดี
ราคาหุ้นไม่แพง แต่บางทีการที่เรายึดหลักลงทุนในหุ้นไม่กี่ตัวเด่นๆ
ทำให้เราต้องเลือก ต้องเกิดการเปรียบเทียบ
แล้วการเปรียบเทียบเชิงคุณภาพเนี่ยะ มันทำให้มีอารมเข้ามาเกี่ยวข้องในการตัดสินใจได้ ข้อดีของเชิงปริมาณหรือตัวเลขคือมันเปรียบเทียบกันง่าย เป็นค่า exact
แต่ข้อเสียคือมันแต่งมาได้อย่าง roynet เป็นต้น ข้อดีเชิงคุณภาพคือไม่มีใครหลอกเราได้
แต่ข้อเสียคือเราอาจจะหลอกตัวเองได้ ย้อนกลับไปที่คำถามอีกที
คืออะไรที่พี่ตัดสินใจใช้ในการซื้อหุ้นหรือเปรียบเทียบหลักๆในกรณีที่เห็นว่า
มีบริษัทที่ดีๆหลายอัน
ปัญหานี้กวนใจผมมาตลอดคือเจอหุ้นดีแต่ไม่มีตังค์ซื้อ
จะขายตัวเก่าไปซื้อตัวใหม่ก็เปรียบเทียบกันไม่ค่อยถูก ยิ่งถ้าหุ้นตัวเก่าทำกำไรให้เรามากๆ มันเกิดความผูกพันธ์จนทำให้มีอารมเข้ามาเกี่ยวข้องในการตัดสินใจ
ยังตัดการใช้อารมไม่ขาดครับ
intrictic รึเปล่าหรือว่าอย่างอื่น
อย่างการมองเชิงคุณภาพอย่างที่พี่เขียนมันก็สำคัญ
แต่ผมมีปัญหาอยู่อย่างนึงคือหลังจากที่วิเคราะห์เชิงคุณแล้วว่าเป็นกิจการที่ดี
ราคาหุ้นไม่แพง แต่บางทีการที่เรายึดหลักลงทุนในหุ้นไม่กี่ตัวเด่นๆ
ทำให้เราต้องเลือก ต้องเกิดการเปรียบเทียบ
แล้วการเปรียบเทียบเชิงคุณภาพเนี่ยะ มันทำให้มีอารมเข้ามาเกี่ยวข้องในการตัดสินใจได้ ข้อดีของเชิงปริมาณหรือตัวเลขคือมันเปรียบเทียบกันง่าย เป็นค่า exact
แต่ข้อเสียคือมันแต่งมาได้อย่าง roynet เป็นต้น ข้อดีเชิงคุณภาพคือไม่มีใครหลอกเราได้
แต่ข้อเสียคือเราอาจจะหลอกตัวเองได้ ย้อนกลับไปที่คำถามอีกที
คืออะไรที่พี่ตัดสินใจใช้ในการซื้อหุ้นหรือเปรียบเทียบหลักๆในกรณีที่เห็นว่า
มีบริษัทที่ดีๆหลายอัน
ปัญหานี้กวนใจผมมาตลอดคือเจอหุ้นดีแต่ไม่มีตังค์ซื้อ
จะขายตัวเก่าไปซื้อตัวใหม่ก็เปรียบเทียบกันไม่ค่อยถูก ยิ่งถ้าหุ้นตัวเก่าทำกำไรให้เรามากๆ มันเกิดความผูกพันธ์จนทำให้มีอารมเข้ามาเกี่ยวข้องในการตัดสินใจ
ยังตัดการใช้อารมไม่ขาดครับ