ความรักของผู้ชายเท้าเปล่า

[ผู้ชายเท้าเปล่า]

ดีใจด้วยนะครับน้อง erickiros

[ผู้ชายเท้าเปล่า]

หนามกุหลาบ

เช้ามาผมตื่นขึ้นมาทำธุระกำลังจะออกไปทานอาหารเช้า ธิดาก็โทรเข้ามา
"พี่เท้าเปล่า ตื่นหรือยังคะ"
"ตื่นแล้วครับ กำลังจะไปทานข้าว วันนี้ธิดากลับบ้านใช่ไหมครับ"
"เดี๋ยวธิดาต้องไปทำบุญกับป้าน่ะค่ะ วันนี้คงไม่ได้กลับเพราะกว่าป้าจะกลับก็คงจะค่ำแล้ว" เอ... เธอไปทำบุญกับป้าเมื่อวาน แล้วก็ไปส่งป้ากลับไม่ใช่หรือ? คงมีอะไรผิดพลาดซักอย่าง
"พี่เท้าเปล่า ถ้ายังไงเดี๋ยวธิดาโทรหานะคะ"
"ครับธิดา"
ธิดามักจะโทรมาหาผมตอนที่ผมกำลังคิดถึงเธอหรือกำลังจะโทรหาเธออยู่พอดี บางทีที่เราจะนัดกันผมมักจะโทรไปหาเจ้าหมูในจังหวะที่ธิดากำลังวางสายพอดี
หลายครั้งที่ใจเราตรงกัน ผมรู้สึกเหมือนว่าระหว่างเราสองคนมันมีอะไรบางอย่างที่เชื่อมถึงกันและดึงดูดกันอยู่
กินอาหารเช้าเสร็จผมก็ออกไปเคลียร์งานที่ออฟฟิส เลยถือโอกาสเช็คข้อความในเฟสบุ๊ค
"นอนละยังค่ะ โทหาหน่อย" ผมได้รับข้อความของธิดาตอนเกือบ ๆ ตีหนึ่งครึ่งตอนนั้นผมยังไม่หลับแต่ไม่ได้เช็คข้อความ
"พึ่งเห็นข้อความเมื่อเช้านี้น่ะครับ
ขอเอาใจไปทำบุญด้วยคนนะครับ "
ผมตอบกลับไป
เกือบเที่ยงเคลียร์งานเสร็จผมก็เข้าไปเล่นเฟสบุ๊ค ดูพวกรูปน่ารัก ๆ ของธิดา และ สำรวจโปรไฟล์ของเธอเล่น เห็นธิดาเอารูปที่ผมพึ่งถ่ายให้ตั้งเป็นรูปบนโปรไฟล์ด้วย
ปกติธิดามักจะคอยอัพเดทเสมอเวลาเธอทำกิจกรรมอะไร มันแปลก ๆ อยู่ที่ไม่มีอะไรเกี่ยวกับการทำบุญเลย
ผมตามอ่านวอล์ของเธอไปจนถึงข้อความที่เป็นรหัสลับของเธอ แต่คราวนี้มีความคิดเห็นเพิ่มเติม

ธิดา: "[__________]"
นายA: "Love p' ... Too Much So Much Very Much" (รักพี่...มากมาย)
Mr.X: "[__]"
นายA: "me too" (เช่นกัน)
Mr.X: "น่าจะไปเป็นนักถอดรหัสนะ นายA"

ผมอ่านดูแล้วก็พึ่งเข้าใจวิธีไขรหัสลับของเธอ แล้วมันก็เป็นไปตามที่นายAนั่นโพสจริง ๆ ไม่มีผิดพลาด
ผมไม่เคยเอะใจถึงการดำรงอยู่ของ Mr.X มาก่อน ดูจากในรูปก็เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี ธิดาบอกว่าเธอเลิกขาดกับแฟนไปหลายเดือนแล้ว
หรือจะรีเทิร์นหรือเป็นคนใหม่ที่พึ่งเข้ามา จะเป็นยังไงก็ช่างแต่ตอนนี้ผมรู้สึกว้าวุ่นใจทำอะไรไม่ถูก ผมไม่ได้เตรียมใจรับสถานการณ์แบบนี้มาก่อน
ที่ทำให้ผมรู้สึกหดหู่ใจเอามากก็คือ ข้อความที่ธิดาโพสไว้นี้ มันเป็นเวลาที่ผมกับเธอนั่งอยู่ด้วยกันที่ Step up เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้เอง

[Croyoty]

เป็น เรื่องสั้น ที่ น่าสนใจติดตาม และน่าจะมีทุกรสชาด จริงๆ

ไม่ได้เข้ามาห้องนั่งเล่นนาน มาเจอ ตอนช่วง หนามกุหลาบ เลย


เจ๋งมากๆเลยครับ

[Financeseed]

สู้ๆ ครับพี่ เป็นกำลังใจให้นะ เมื่อยังไม่สุดทาง ยังไงก็พยายามต่อนะครับ

[Pn3um0n1a]

ลุ้นๆ

[Croyoty]

อยากอ่านต่อ อ่าคับ รอๆๆ

[Hibernate]

รอด้วยคนครับ

[ผู้ชายเท้าเปล่า]

สวัสดีครับคุณหมอโคโยตี้, พี่Hibernate

เหตุการณ์ตอนนั้นทำให้ผมนึกถึงมิวสิควีดีโออันนี้ขึ้นมาทันทีเลยคับ

[Croyoty]

เอาแล้วๆ เล่าต่อเลยครับ

[Financeseed]

ผมเอาสาวๆ มาปลอบใจนะครับ จะได้กระชุ่มกระชวยหน่อยนะ อิอิ

[ผู้ชายเท้าเปล่า]

โอ้ว กำลังใจมาแล้ว เดี๋ยวเข้ามา update ครับ

[KGYF]

ผ่านห้องนั่งเล่น หลายรอบ เห็นกระทู้ นึกว่าจะไร้สาระ

แต่อ่านดูจนจบแล้ว ขอ คอมเม้นท์ หน่อยแล้วกันนะครับ

เพื่อความบันเทิง ผมฟันธง ! ชัด ๆ ไปเลยว่า ตอนจบไม่สวยครับ

เท่าที่อ่านมาผมในฐานะ ผู้ที่ยังไม่ได้ ถือหุ้น ธิดา(THIDA) ในพอร์ต(หัวใจ) จึง ไม่มี Bias แน่นอน

ดูการดำเนินธุรกิจ(ชีวิต) แล้วผมว่าไม่ผ่าน ในสายตา วีไอครับ คนละ Life Style

ผมว่าถ้าพีี่รักกันจริง ๆ ก็คงอยู่กันได้ไม่นาน(ผมไม่ได้แช่งนะ แค่ความคิดส่วนตัวครับ)


ผมจะลองเปรียบเทียบระหว่าง คุณศรัทธา กับ ความหวัง เป็นตัวแทนนะ

- ศรัทธา เป็นหนุ่ม มัธยัสถ์ อดออม แต่งตัวธรรมดา เสื้อยืด กางเกงยืนส์ ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ อยู่ห้องเช่า ใช้โทรศัพท์เก่า ๆ มีคอมฯ เก่า ๆ พร้อมเนต ไว้ดูข้อมูลหุ้น แต่มีพอร์ต 10 ล้าน

- ความหวัง เป็นหนุ่มหน้าตาดี ใช้เงินฟุ่มเฟือย มีบ้าน มีรถหรู แต่งตัวดี ใช้ชีวิต แบบหรูหรา แต่มีหนี้ 10 ล้าน


ถ้าให้เจอกับ THIDA พี่ว่า THIDA จะเลือกใครครับ


ความรักเป็นสิ่งสวยงามครับ โดยเฉพาะ รักแรกพบ ช่างหวานซึ้ง คิดถึงเธอ ยามห่างไกล จิตใจร้อนรน สับสนเหมือนคนเป็นไข้ ฯลฯ

แต่อย่าให้ความรักทำให้ตาบอดครับ

ผมเคยเจ็บมาแล้วกับหุ้นนางฟ้าเนี่ย 5555

[KGYF]

เดี๋ยวจะหาว่าผมโม้

แฟนผมถ้าไม่ได้ระดับนี้ ขึ้นไป ไม่จีบครับ

เอาฮานะ อย่าด่าผมนะคร๊าบบบบบบ

[Ano]

ผ่านห้องนั่งเล่น หลายรอบ เห็นกระทู้ นึกว่าจะไร้สาระ

แต่อ่านดูจนจบแล้ว ขอ คอมเม้นท์ หน่อยแล้วกันนะครับ

เพื่อความบันเทิง ผมฟันธง ! ชัด ๆ ไปเลยว่า ตอนจบไม่สวยครับ

เท่าที่อ่านมาผมในฐานะ ผู้ที่ยังไม่ได้ ถือหุ้น ธิดา(THIDA) ในพอร์ต(หัวใจ) จึง ไม่มี Bias แน่นอน

ดูการดำเนินธุรกิจ(ชีวิต) แล้วผมว่าไม่ผ่าน ในสายตา วีไอครับ คนละ Life Style

ผมว่าถ้าพีี่รักกันจริง ๆ ก็คงอยู่กันได้ไม่นาน(ผมไม่ได้แช่งนะ แค่ความคิดส่วนตัวครับ)


ผมจะลองเปรียบเทียบระหว่าง คุณศรัทธา กับ ความหวัง เป็นตัวแทนนะ

- ศรัทธา เป็นหนุ่ม มัธยัสถ์ อดออม แต่งตัวธรรมดา เสื้อยืด กางเกงยืนส์ ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ อยู่ห้องเช่า ใช้โทรศัพท์เก่า ๆ มีคอมฯ เก่า ๆ พร้อมเนต ไว้ดูข้อมูลหุ้น แต่มีพอร์ต 10 ล้าน

- ความหวัง เป็นหนุ่มหน้าตาดี ใช้เงินฟุ่มเฟือย มีบ้าน มีรถหรู แต่งตัวดี ใช้ชีวิต แบบหรูหรา แต่มีหนี้ 10 ล้าน


ถ้าให้เจอกับ THIDA พี่ว่า THIDA จะเลือกใครครับ


ความรักเป็นสิ่งสวยงามครับ โดยเฉพาะ รักแรกพบ ช่างหวานซึ้ง คิดถึงเธอ ยามห่างไกล จิตใจร้อนรน สับสนเหมือนคนเป็นไข้ ฯลฯ

แต่อย่าให้ความรักทำให้ตาบอดครับ

ผมเคยเจ็บมาแล้วกับหุ้นนางฟ้าเนี่ย 5555

ขอกด like ค่ะ ตรงใจค่ะ

[navapon]

คนมีหลายแบบ คุณเท้าเปล่าอย่าเพิ่งเสียกำลังใจ คนจีบหญิงไม่เก่งนี่ น่าสงสาร
ผมเคยเห็นผู้หญิงสวยหน้าตาดี ฐานะดี หนีออกจากบ้าน ตามไปอยู่กับแฟนหล่อๆจนๆ แต่ขยันขันแข็งทำมาหากินก็มี ตอนนี้ก็ยังช่วยกันทำมาหากินขายของตามตลาดนัดอยู่ เราไม่รู้ใจหญิงหรอกครับถ้าไม่ใช่พวกเสือ(มาเร็วไปเร็ว) เลือกคู่ก็เหมือนต้องเสี่ยงดวงดูเหมือนกัน
พยายามต่อไป สู้ๆครับ (กับดักของมนุษย์อันแรกเวลาเลือกคู่มักจะเป็นหน้าตานะผมว่า หากหน้าตาไม่หล่อเลิศ เราก็ต้องปรับปรุงบุคลิกภาพเอา นิสัยก็ต่างหากอีก

คนที่เคยมีแฟนมาก่อน แล้วเลิกกันไป ถ้าเขามีการพัฒนาความคิด เขามักจะเลือกแฟนที่ดีขึ้น อย่างธิดา ให้ลองสืบว่าเลิกกับแฟนเพราะอะไร ตอนนี้เขาอาจจะชอบคน ไม่เจ้าชู้ เที่ยวเตร่ กินเหล้า สูบบุหรี่ ติดการพนัน ก็ได้ ยิ่งมีความมุ่งมั่น ดูมีอนาคต ผู้หญิงดีๆน่าจะชอบถึงตอนนี้ยังไม่รวย อนาคตก็รวยได้

[kuroji]

เอาใจช่วยครับ แม้ว่าคิดว่าตอนนี้ดูจากlifestyleแล้วกับคุณธิดาอาจยังไม่เข้ากัน แต่เชื่อว่าผู้หญิงถึงเวลานึงความคิดเปลี่ยนได้มาก ตอนนี้อาจยังชอบเที่ยวเหมือนพยายามหาคำตอบให้ตัวเองอยู่ แต่พอออกมาทำงานน่าจะเปลี่ยนไปอีกมาก
ในช่วงที่ไม่สามารถปรับจูนกันได้ก็ไม่ต้องเร่งให้ลงเอยก็ได้นะครับ
คนเกิดมาคู่กันห่างกันไปก็ยังกลับมาเจอกันอยู่ดี ดูแล้วคุณเท้าเปล่าคงรอได้สบายๆ

[ผู้ชายเท้าเปล่า]

สวัสดีครับพี่KGYF พี่Ano
ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ ไม่ว่าจะเป็นความเห็นในด้านไหน ถ้ามันถูกเขียนด้วยความจริงใจผมจะถือว่าเป็นความเห็นที่ดีทั้งหมดครับ

เรื่องที่เกี่ยวกับความแตกต่าง หรือ เรื่องที่ว่าจะไปกันได้หรือเปล่านั้น ที่จริงผมเองก็คิดมาโดยตลอดตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกับธิดา
ผมเชื่อว่าพี่ ๆ อีกหลาย ๆ ท่านที่เข้ามาอ่านเขาก็คิดกันแบบนั้น เพียงแต่เขาไม่เอามาพูดกัน
ผมว่ามันก็แปลกดี ที่ผมกับเจ้าหมูที่มีนิสัยต่างกันสุดขั้ว life-style ก็ต่างกันแบบคนละเรื่อง แต่กลับกลายมาเป็นคู่หูที่สนิทและเชื่อใจกันมากได้

อนาคตเป็นอย่างไรนั้นผมเองก็ยังไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้ผมคงต้องร้องเพลงนี้ไปก่อนครับ

[ผู้ชายเท้าเปล่า]

คนมีหลายแบบ คุณเท้าเปล่าอย่าเพิ่งเสียกำลังใจ คนจีบหญิงไม่เก่งนี่ น่าสงสาร
ผมเคยเห็นผู้หญิงสวยหน้าตาดี ฐานะดี หนีออกจากบ้าน ตามไปอยู่กับแฟนหล่อๆจนๆ แต่ขยันขันแข็งทำมาหากินก็มี ตอนนี้ก็ยังช่วยกันทำมาหากินขายของตามตลาดนัดอยู่ เราไม่รู้ใจหญิงหรอกครับถ้าไม่ใช่พวกเสือ(มาเร็วไปเร็ว) เลือกคู่ก็เหมือนต้องเสี่ยงดวงดูเหมือนกัน
พยายามต่อไป สู้ๆครับ (กับดักของมนุษย์อันแรกเวลาเลือกคู่มักจะเป็นหน้าตานะผมว่า หากหน้าตาไม่หล่อเลิศ เราก็ต้องปรับปรุงบุคลิกภาพเอา นิสัยก็ต่างหากอีก

คนที่เคยมีแฟนมาก่อน แล้วเลิกกันไป ถ้าเขามีการพัฒนาความคิด เขามักจะเลือกแฟนที่ดีขึ้น อย่างธิดา ให้ลองสืบว่าเลิกกับแฟนเพราะอะไร ตอนนี้เขาอาจจะชอบคน ไม่เจ้าชู้ เที่ยวเตร่ กินเหล้า สูบบุหรี่ ติดการพนัน ก็ได้ ยิ่งมีความมุ่งมั่น ดูมีอนาคต ผู้หญิงดีๆน่าจะชอบถึงตอนนี้ยังไม่รวย อนาคตก็รวยได้

ขอบคุณมากครับพี่
ผมจะทำตามคำแนะนำครับ

[ผู้ชายเท้าเปล่า]

เอาใจช่วยครับ แม้ว่าคิดว่าตอนนี้ดูจากlifestyleแล้วกับคุณธิดาอาจยังไม่เข้ากัน แต่เชื่อว่าผู้หญิงถึงเวลานึงความคิดเปลี่ยนได้มาก ตอนนี้อาจยังชอบเที่ยวเหมือนพยายามหาคำตอบให้ตัวเองอยู่ แต่พอออกมาทำงานน่าจะเปลี่ยนไปอีกมาก
ในช่วงที่ไม่สามารถปรับจูนกันได้ก็ไม่ต้องเร่งให้ลงเอยก็ได้นะครับ
คนเกิดมาคู่กันห่างกันไปก็ยังกลับมาเจอกันอยู่ดี ดูแล้วคุณเท้าเปล่าคงรอได้สบายๆ

ขอบคุณมากครับครับพี่
กับธิดาผมไม่ได้คิดเร่งเร้าจะเอาผลลัพธ์น่ะครับ เพราะทางผมเองก็อยากจะดูเธอให้แน่ใจเหมือนกัน
ขอบคุณสำหรับแง่คิดครับ

[ผู้ชายเท้าเปล่า]

ต่อกันนะครับ

ผมตัดสินใจว่าจะถอยออกมาหนึ่งก้าวเพื่อดูความเป็นไป ถ้าเป็นภาษาการลงทุนคงเรียกว่า'ชะลอการลงทุน'
ผมพยายามสงบจิตใจ แล้วไปหาร้านกาแฟที่สงบ ๆ นั่งอ่านหนังสือ เพื่อผ่อนคลายจิตใจ
แล้วผมก็ได้รู้ตัวว่าผมทำใจไม่ได้ ผมรู้สึกได้โดยสัญชาติญาณว่าธิดาไม่ได้ไปทำบุญกับป้าแน่ ๆ ในหัวผมเห็นแต่ภาพของธิดากับ Mr.X กำลังอยู่ด้วยกัน
ผมรู้สึกเหมือนนักลงทุนที่ทนไม่ได้เวลาที่เห็นราคาในกระดานของหุ้นที่ตัวเองถืออยู่แดงเอา ๆ ในใจผมคอยคิดแต่เรื่องจะล้างพอร์ต ๆ ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจเอาไว้ว่าจะชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์
ผมรู้สึกรำคาญในนิสัยแบบนี้ของตัวเองเหมือนกัน แต่มันแก้ไม่หายสักที หากไม่ทำอะไรสักอย่างกับนิสัยแบบนี้อีกหน่อยต้องเป็นปัญหาแน่ ๆ เลย
น้ำตามันซึมออกมานิด ๆ จากบ่อน้ำตาของผม ผมแกล้งทำเป็นเอาหนังสือมาบังหน้า เผื่อว่าคนแถวนั้นบังเอิญเห็นเข้าจะได้คิดว่าผมซาบซึ้งกับเนื้อหาในหนังสือเล่มนั้นมาก
ผมตั้งใจจะอ่านหนังสือเพื่อดึงสมาธิจากเรื่องวุ่นวาย แต่ยอมรับว่าอ่านไปไม่รู้เรื่องเลย ผมอ่านหนังสือหน้าเดิม ๆ วน ๆ กันอยู่อย่างนั้นเป็นชั่วโมง
แล้วตอนบ่ายแก่ ๆ ธิดาก็โทรเข้ามา ผมไม่ได้รับสายเพราะไม่พร้อมที่จะคุยกับเธอ
เย็น ๆ เจ้าหมูโทรมาถามไถ่ด้วยความลุ้น
"พี่ เป็นไงมั่ง"
"แจ๊คพอตว่ะ" แล้วผมก็เล่าเรื่องราวที่ได้เจอมาให้เจ้าหมูฟังคร่าว ๆ
"เอ้อ...พี่..." เจ้าหมูถอนหายใจ
"มาถึงขั้นนี้แล้วหมูว่าพี่ต้องสู้แล้วว่ะ"
"ตั้งใจว่าจะถอยออกมาน่ะ"
"พี่... นี่พี่เป็นอะไรกับเขาหรือยังน่ะ ถึงมานั่งหึงหวง"
"ไม่ได้หึงอะไร แต่ไม่ได้เตรียมใจ รับไม่ทันน่ะ"
"เฮ้อ... ตามใจพี่ละกันนะ" ดูเจ้าหมูจะผิดหวังกับผมเล็กน้อย

ผมนั่งทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้น คิดว่าเรื่องที่ผ่านมามันช่างคล้ายนิยาย ถ้ามีใครเอาไปเขียนเป็นนิยายคนอ่านอาจจะชอบมัน
ผมหวนนึกไปถึงเรื่องราวของ Densha Otoko หรือ "แชทรักหนุ่มรถไฟ" อีกครั้ง เป็นเรื่องของโอตาคุหนุ่มที่ไม่ประสีประสากับความรัก แต่บังเอิญไปพบสาวสวยสุดเพอร์เฟคเข้า เลยเอาเรื่องของตัวเองไปบ่นเล่นในเว็บบอร์ด คนก็เข้ามาเชียร์บ้างด่าบ้าง แต่ส่วนใหญ่ออกไปทางแนะนำและให้กำลังใจ จนความรักที่ดูไม่น่าจะเป็นไปได้ก็สมหวังขึ้นมา
ผมคิดว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับผมมันก็ดูแปลกดี เลยตัดสินใจลองเขียนลงอินเทอร์เน็ตดูบ้างดีกว่า อย่างน้อยอาจทำให้สบายใจขึ้น
คิดได้อย่างนั้นผมก็รีบกลับไปที่พักเพื่อลงมือเขียนเรื่องแล้วโพสลงที่นี่

พอกำลังจะลงมือเขียน ธิดาก็โทรเข้าอีกสาย แต่ผมไม่รับ จากนั้นเธอก็ส่งข้อความส่วนตัวผ่านเฟสบุค
"โทหาไม่รับค่ะ"
ผมไม่ได้ตอบอะไร ลงมือเขียนเรื่องลงอินเทอร์เน็ตต่อไป
ระหว่างที่เขียน ๆ ไปนั้นผมรู้สึกดีขึ้นมาก มันเหมือนได้ปลดปล่อยระบายออกมา
พอโพสตอนแรกเสร็จผมก็เดินเข้าห้องน้ำ เปิดฝักบัวราดหัวแล้วปล่อยให้น้ำตามันไหลตามลงไป เลียนแบบฉากในหนังหรือมิวสิควีดีโอที่ได้เห็นมาบ่อย ๆ

[Tong n_n]

มาให้กำลังใจครับ สู้ๆครับพี่
ส่วนตัว เวลาผมชอบใครจิงๆ ผมจะทำใจกลางๆ แบบไร้ความรู้สึกยินดี ยินร้ายก่อน
แล้วผมก็จะทำแต่สิ่งดีๆให้เค้า โดยไม่หวังผลรับ เพราะการใช้ความรู้สึกมากไป
จนบดบัง สติมันทำให้เราต้องเผลอทำอะไร ที่คิดย้อนแล้วเสียใจทุกครั้งไป
สติ สติ สติ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในสถานการณ์ที่เราไม่ได้คาดครับ และดังหนังจีนว่าไว้
วรยุทธย์ ที่เทพที่สุด คือไร้กระบวนท่า และ ไร้ใจ เป็นธรรมชาติของเราให้มากที่สุด
สุดท้ายถ้าทำไม่ได้จิงๆ มีวิธีที่เทพที่สุดแต่เป็น วิถีมาร คือ เราต้องกระจายความเสี่ยง 55
ซึ่งไม่แนะนำนะครับ

[killyX]

สมัยก่อนตอนประถม เด็กละอ่อนอย่างผมอยากเลี้ยงกระรอกมากๆ แต่ทางบ้านไม่ยอมให้เลี้ยง
แต่ก็รบเร้าให้ที่บ้านช่วยซื้อแล้วผมก็ออกครึ่งหนึ่ง สุดท้ายก็ได้เลี้ยงสมใจ เวลาเรียนก็เอาแต่คิดถึงมัน
เวลาเลิกเรียนก็จะรีบวิ่งกลับบ้านเพราะความรักและความคิดถึงเจ้ากระรอกตัวนั่น ป้อนอาหารและก็ดูแลมัน
จนมาวันหนึ่งที่มันเริ่มไม่สบาย ผมก็พาไปหาสัตว์แพทย์ และก็สัจธรรมของชีวิตครับ กระรอกก็ตายจากผมไป
ผมเสียใจมาก ไม่อยากทำและรับรู้อะไร จนแม่ผมก็มาสอนผมว่า

" เมื่อเรียนรู้ที่จะรัก ก็จงเรียนรู้ที่จะปล่อยวาง "


ความรักเป็นเพียงอารมณ์หนึ่ง ไม่ใช่สิ่งที่จะคงทนถาวร เหมือนดังชีวิตที่ต้องมีเกิดมาและจากไป อย่าไปยึดติดเลยครับ

[kannicha]

เข้ามาให้กำลังใจค่ะ
โดยส่วนตัวแล้วคงไม่มีคำแนะนำ เนื่องจากว่าแต่ละคนมีวิถีชีวิตไม่เหมือนกัน ฉะนั้นวิถีของคนหนึ่งอาจจะใช้ไม่ได้กับอีกคนหนึ่ง
การแต่งงานมีความเสี่ยงในการใช้ชีวิตสูง โปรดใช้วิจารณญาณในการเลือกคู่แต่งงาน อิๆๆ

[tum_H]

"กลับมาเริ่มลืมเธอใหม่
ที่ผ่านมามันเหมือนฉันลืมไป...
มันกี่ครั้งแล้วที่ใจ
มันกลับมาต้องรักเธอใหม่...

เพิ่งรู้ ความรักแพ้ความไม่รักกัน... "


พิจารณาให้ครบและอย่ายึดติดครับ
ชีวิตของเราไม่ได้มีแค่วันนี้แล้วจบ
เรายังมีคนรอบข้างที่รักเรามากมาย

[Pn3um0n1a]

จบแล้วหรือครับ

[Hisoka]

วรยุทธย์ ที่เทพที่สุด คือไร้กระบวนท่า และ ไร้ใจ เป็นธรรมชาติของเราให้มากที่สุด

ในช่วงชีวิตหนึ่งของผม ตอนวัยรุ่น ก็เคยได้ใช้ สุดยอดกระบวนท่านี้เหมือนกันครับ
แต่มันยังไม่พอ ต้องอาศัยเวลาช่วยดับรักด้วย คิดย้อนกลับไปแล้วรู้สึกสมเพชตัวเองมากๆ
ถึงขนาดขอร้องให้เขาเลิกกับแฟนเก่าที่มักจะทำให้เขาเสียใจบ่อยๆ แล้วมาคบกับผม
เฝ้ารอจนฝนซา สุดท้ายก็ว่างเปล่า
ตอนจบมีฉากน้ำตาไหลออกมาเองโดยอัตโนมัติเหมือนกัน พูดแล้วอายครับ
จนเดี๋ยวนี้รู้สึกว่าจะกลายเป็นคนที่รักคนอื่นยากขึ้นไปทุกทีๆ

หลา่ยปีให้หลัง ตอนมาเรียนต่อ บังเอิญได้เจอกับเพื่อนร่วมคณะของเธอคนนั้น
ทำให้ได้รู้ว่าเธอเป็นพวกชอบปั่นหัวผู้ชายเล่น
ยิ่งสมเพชตัวเองมากจริงๆ ที่เผลอใจให้กับคนแบบนี้

[โอรสสวรรค์]

"กลับมาเริ่มลืมเธอใหม่
ที่ผ่านมามันเหมือนฉันลืมไป...
มันกี่ครั้งแล้วที่ใจ
มันกลับมาต้องรักเธอใหม่...

เพิ่งรู้ ความรักแพ้ความไม่รักกัน... "

จัดเต็มให้เลยครับ

[โอรสสวรรค์]

บางทีการรู้ในสิ่งที่ไม่ควรรู้มันก็ทำให้เจ็บปวด แต่ถ้ารู้แล้ว รู้ไม่หมด มันก็ยิ่งคาใจครับ

ผมแนะนำว่าถ้ามีโอกาสก็ถามไปตรง ๆ เลยครับ ไม่งั้นคุณจะคาใจไปตลอดชีวิต
วินาทีที่ถามไปดูปฏิกิริยาของเธอด้วยนะครับว่าเป็นอย่างไร ที่สำคัญก่อนจะถามเตรียมใจที่จะรับฟังคำตอบที่ไม่อยากได้ยินด้วยนะครับ
ถ้าได้รับคำตอบที่ไม่อยากฟังก็อย่าอึ้งนะครับ เป็นผมจะเปิดเกมรุกต่อเลย เปิดตัวขอเป็นคู่แข่งไปเลย ถ้าเธอโอเคก็ลุยต่อ ถ้าไม่ก็คบกันแบบอื่นจะได้สบายใจทั้งสองฝ่ายครับ

ความรักไม่มีถูกไม่มีผิด มีแต่รักกับไม่รักครับ
อย่าไปคาดหวังครับ เพราะถ้าไม่หวังเราก็ไม่ผิดหวัง (แต่ยังฝันได้นะครับ)

ฝากไว้อีกเพลง ถ้าคิดได้อย่างนี้น่าจะรักใครแล้วสบายใจขึ้นครับ

[jverakul]

บางทีการรู้ในสิ่งที่ไม่ควรรู้มันก็ทำให้เจ็บปวด แต่ถ้ารู้แล้ว รู้ไม่หมด มันก็ยิ่งคาใจครับ

ผมแนะนำว่าถ้ามีโอกาสก็ถามไปตรง ๆ เลยครับ ไม่งั้นคุณจะคาใจไปตลอดชีวิต
วินาทีที่ถามไปดูปฏิกิริยาของเธอด้วยนะครับว่าเป็นอย่างไร ที่สำคัญก่อนจะถามเตรียมใจที่จะรับฟังคำตอบที่ไม่อยากได้ยินด้วยนะครับ
ถ้าได้รับคำตอบที่ไม่อยากฟังก็อย่าอึ้งนะครับ เป็นผมจะเปิดเกมรุกต่อเลย เปิดตัวขอเป็นคู่แข่งไปเลย ถ้าเธอโอเคก็ลุยต่อ ถ้าไม่ก็คบกันแบบอื่นจะได้สบายใจทั้งสองฝ่ายครับ

ความรักไม่มีถูกไม่มีผิด มีแต่รักกับไม่รักครับ
อย่าไปคาดหวังครับ เพราะถ้าไม่หวังเราก็ไม่ผิดหวัง (แต่ยังฝันได้นะครับ)

เห็นด้วยอย่างแรงครับ พี่โอรสสวรรค์

[Paul VI]

เป็น Love series ยาวจริงๆ