หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
โพสต์ที่ 1
เรื่องข้อกล่าวหาว่า jas เป็นหุ้นปั่น ผมมีความเห็นดังนี้ครับ
ถ้านิยามว่าหุ้นปั่นคือ มีการสร้างราคาให้สูงขึ้นเรื่อยๆโดยใช้กระบวนการโยนหุ้นไปมาระหว่างพรรคพวกตัวเองเพื่อหลอกลวงให้เข้าใจว่ามีผู้มาสนใจซื้อขายมากมายและหุ้นขึ้นกระฉูด แล้วรายย่อยก็หลงแสงไฟบินตามเข้าไป ถ้านิยามอย่างนี้ ผมไม่มีหลักฐานใดๆที่จะยืนยันว่าเป็นหุ้นปั่น
แต่ถ้ามองเฉพาะราคาที่ขึ้นลงรวมทั้งปริมาณที่ซื้อขาย
ผมว่าหุ้นนี้มีคนมาลากขึ้นและทุบลงอย่างไม่เป็นธรรมชาติและอย่างชัดเจนและอย่างรุนแรง
ผมเองก็เพิ่งเคยมีหุ้นแบบนี้ที่ทำให้ใจ " กระเพื่อม " รุนแรงมากที่สุดตั้งแต่เคยเล่นหุ้นมา
เพราะราคาที่ขึ้นลงแต่ละวันสร้างความสยดสยองหวาดเสียวยิ่งกว่าดูหนังสยองขวัญแบบสามมิติหลายเท่าตัว
มีคนถามผมบ่อยๆว่า ราคาหุ้นเป็นอย่างนี้ ทั้งลากขึ้นและทุบลงอย่างนี้ ทำไมผมปล่อยให้ชื่อผมไปอยู่ในกลุ่มผู้ถือหุ้นได้อย่างไร หลักการผมเปลี่ยนไปแล้วหรือ
ผมก็ตอบไปว่าหลักการดีๆจะเปลี่ยนไปทำไม
หลักการผมก็เหมือนเดิมคือเลือกหุ้นตัวที่ undervalue
หลักการนี้ยังครองอันดับหนึ่งตลอดมาและไม่โดนกระทบแม้ว่าปัจจัยนั้นจะเป็นเรื่องหุ้นปั่นหรือมีเจ้าลากเจ้าทุบ
ทำไมผมจะต้องเอาเรื่องปั่นมาอยู่เหนือเรื่อง undervalue
ทำไมผมจะต้องเอาเรื่องเจ้าลากเจ้าทุบมาอยู่เหนือเรื่่อง undervalue
ถ้าไปเจอหุ้น overvalue ต่อให้บริสุทธ์ผุดผ่องไม่มีใครมาลากมาปั่น ผมก็ไม่เอา
สุดท้าย ที่ผมประเมินว่า undervalue นี้
ผมทำมาที่ราคาอื่นไม่ใช่ราคานี้นะครับ
ราคานี้สูงกว่าที่ผมซื้อเยอะพอสมควร
ราคานี้จะยัง under อยู่ไหมหรือ fair ไปแล้ว หรือ over ไปแล้ว
ท่านต้องคิดเองและรับผิดชอบเอง
ถ้านิยามว่าหุ้นปั่นคือ มีการสร้างราคาให้สูงขึ้นเรื่อยๆโดยใช้กระบวนการโยนหุ้นไปมาระหว่างพรรคพวกตัวเองเพื่อหลอกลวงให้เข้าใจว่ามีผู้มาสนใจซื้อขายมากมายและหุ้นขึ้นกระฉูด แล้วรายย่อยก็หลงแสงไฟบินตามเข้าไป ถ้านิยามอย่างนี้ ผมไม่มีหลักฐานใดๆที่จะยืนยันว่าเป็นหุ้นปั่น
แต่ถ้ามองเฉพาะราคาที่ขึ้นลงรวมทั้งปริมาณที่ซื้อขาย
ผมว่าหุ้นนี้มีคนมาลากขึ้นและทุบลงอย่างไม่เป็นธรรมชาติและอย่างชัดเจนและอย่างรุนแรง
ผมเองก็เพิ่งเคยมีหุ้นแบบนี้ที่ทำให้ใจ " กระเพื่อม " รุนแรงมากที่สุดตั้งแต่เคยเล่นหุ้นมา
เพราะราคาที่ขึ้นลงแต่ละวันสร้างความสยดสยองหวาดเสียวยิ่งกว่าดูหนังสยองขวัญแบบสามมิติหลายเท่าตัว
มีคนถามผมบ่อยๆว่า ราคาหุ้นเป็นอย่างนี้ ทั้งลากขึ้นและทุบลงอย่างนี้ ทำไมผมปล่อยให้ชื่อผมไปอยู่ในกลุ่มผู้ถือหุ้นได้อย่างไร หลักการผมเปลี่ยนไปแล้วหรือ
ผมก็ตอบไปว่าหลักการดีๆจะเปลี่ยนไปทำไม
หลักการผมก็เหมือนเดิมคือเลือกหุ้นตัวที่ undervalue
หลักการนี้ยังครองอันดับหนึ่งตลอดมาและไม่โดนกระทบแม้ว่าปัจจัยนั้นจะเป็นเรื่องหุ้นปั่นหรือมีเจ้าลากเจ้าทุบ
ทำไมผมจะต้องเอาเรื่องปั่นมาอยู่เหนือเรื่อง undervalue
ทำไมผมจะต้องเอาเรื่องเจ้าลากเจ้าทุบมาอยู่เหนือเรื่่อง undervalue
ถ้าไปเจอหุ้น overvalue ต่อให้บริสุทธ์ผุดผ่องไม่มีใครมาลากมาปั่น ผมก็ไม่เอา
สุดท้าย ที่ผมประเมินว่า undervalue นี้
ผมทำมาที่ราคาอื่นไม่ใช่ราคานี้นะครับ
ราคานี้สูงกว่าที่ผมซื้อเยอะพอสมควร
ราคานี้จะยัง under อยู่ไหมหรือ fair ไปแล้ว หรือ over ไปแล้ว
ท่านต้องคิดเองและรับผิดชอบเอง
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
โพสต์ที่ 2
มีเพียงสองเรื่องที่ผมไม่ยอมซื้อแม้ว่าจะ undervalue มากแค่ไหนก็ตามทำไมผมจะต้องเอาเรื่องปั่นมาอยู่เหนือเรื่อง undervalue
ทำไมผมจะต้องเอาเรื่องเจ้าลากเจ้าทุบมาอยู่เหนือเรื่่อง undervalue
ถ้าไปเจอหุ้น overvalue ต่อให้บริสุทธ์ผุดผ่องไม่มีใครมาลากมาปั่น ผมก็ไม่เอา
๑ ผู้บริหารไซฟ่อนเงินด้วยวิธีการต่างๆนาๆ
๒ มีการตกแต่งบัญชีอย่างมีนัยสำคัญ
อนาคตอาจจะมีข้อสามข้อสี่
แต่ตอนนี้มีเพียงสองข้อ
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
- SEHJU
- Verified User
- โพสต์: 1238
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
โพสต์ที่ 3
แสดงว่าเป็นแจสหุ้นปั่นแบบมีพื้นฐานรองรับรึป่าวครับพี่หมอ..
อูยย เสียวโดนว่า แซวเล่นนะครับ
อูยย เสียวโดนว่า แซวเล่นนะครับ
- SEHJU
- Verified User
- โพสต์: 1238
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
โพสต์ที่ 4
อาคมแกร่กล้ายิ่งนัก..สามัญชน เขียน:มีเพียงสองเรื่องที่ผมไม่ยอมซื้อแม้ว่าจะ undervalue มากแค่ไหนก็ตามทำไมผมจะต้องเอาเรื่องปั่นมาอยู่เหนือเรื่อง undervalue
ทำไมผมจะต้องเอาเรื่องเจ้าลากเจ้าทุบมาอยู่เหนือเรื่่อง undervalue
ถ้าไปเจอหุ้น overvalue ต่อให้บริสุทธ์ผุดผ่องไม่มีใครมาลากมาปั่น ผมก็ไม่เอา
๑ ผู้บริหารไซฟ่อนเงินด้วยวิธีการต่างๆนาๆ
๒ มีการตกแต่งบัญชีอย่างมีนัยสำคัญ
อนาคตอาจจะมีข้อสามข้อสี่
แต่ตอนนี้มีเพียงสองข้อ
ความรู้ใหม่ ถ้าพี่หมอว่างแล้วช่วยมาขยายความให้น้องๆฟังด้วยนะครับว่า การไซฟ่อนต่างๆนาๆมีแบบไหนมั่ง อยากให้ยกเคสตัวอย่างให้ฟัง
ข้อหลังนี่ยิ่งน่าสนใจเลยครับ ไม่เคยได้ยินครับว่า ตกแต่งบัญชีอย่างมีนัยสำคัญ วานชี้แนะด้วยนะครับ
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
โพสต์ที่ 5
หลักสำคัญ ลงทุนในธุรกิจที่ดีเมื่อราคาที่ถูกกว่ามูลค่า ผบห.มีธรรมมาภิบาลด้วย
ลงทุนเพื่อชีวิต
-
- Verified User
- โพสต์: 181
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
โพสต์ที่ 6
ให้ความเห็นนิดหน่อยครับ พี่หมอ ผมจะไม่พูดถึงตัวหุ้น เราพยายามแยกชนิดของหุ้นดีกว่า
หุ้นปั่น
ข้อหนึ่งไม่เห็นพื้นฐานเลยในวันนี้ มีแต่ข่าว
ข้อสองอนาคตที่ยังจับต้องได้ยาก
ข้อสามที่สำคัญ มันมีอาการปั่น คือ หมุนซ้ายหมุนขวา ดูน่าพิศวง(เย้ายวน)
ข้อสี่หุ้นพวกนี้ปั่นไม่นานกลับที่เดิม
หุ้น undervalue
ข้อหนึ่งมีพื้นฐานที่ดีและโอกาสที่จะดีขึ้นในอนาคตที่พอจะวัดได้แต่ราคาไม่ตอบสนองหรือตอบสนองช้ามาก
ข้อสองอาจมีอาการหมุนซ้ายหมุนขวาหรือจะเรียกว่าลีลาก็ได้
ข้อสามการตี value หุ้นประเภทนี้ต้องมองขาดจริงๆ ขึ้นอยู่กับความสามารถส่วนตัวซึ่งผมมีน้อย
หุ้น turnaround กับ undervalue ต่างกันยังไงนะ เพื่อนๆ ช่วยผมหน่อย
ปล. ผมไม่มีหุ้น jas ครับเพราะส่วนตัวมีหุ้นสื่อสารตัวอื่นแล้ว (มันไม่ปั่นแต่ก็อยากให้ปั่นเหมือนกันอิอิ )
หุ้นปั่น
ข้อหนึ่งไม่เห็นพื้นฐานเลยในวันนี้ มีแต่ข่าว
ข้อสองอนาคตที่ยังจับต้องได้ยาก
ข้อสามที่สำคัญ มันมีอาการปั่น คือ หมุนซ้ายหมุนขวา ดูน่าพิศวง(เย้ายวน)
ข้อสี่หุ้นพวกนี้ปั่นไม่นานกลับที่เดิม
หุ้น undervalue
ข้อหนึ่งมีพื้นฐานที่ดีและโอกาสที่จะดีขึ้นในอนาคตที่พอจะวัดได้แต่ราคาไม่ตอบสนองหรือตอบสนองช้ามาก
ข้อสองอาจมีอาการหมุนซ้ายหมุนขวาหรือจะเรียกว่าลีลาก็ได้
ข้อสามการตี value หุ้นประเภทนี้ต้องมองขาดจริงๆ ขึ้นอยู่กับความสามารถส่วนตัวซึ่งผมมีน้อย
หุ้น turnaround กับ undervalue ต่างกันยังไงนะ เพื่อนๆ ช่วยผมหน่อย
ปล. ผมไม่มีหุ้น jas ครับเพราะส่วนตัวมีหุ้นสื่อสารตัวอื่นแล้ว (มันไม่ปั่นแต่ก็อยากให้ปั่นเหมือนกันอิอิ )
ถ้าไม่เคยผิดพลาด คงยังเรียกตัวเอง ว่านักลงทุนมืออาชีพ ไม่ได้
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
โพสต์ที่ 7
แนวคิดพี่หมอโดนใจเสมอเลยครับ
ผมเคยถามพี่ที่ผมนับถือในเวบท่านหนึ่ง เรื่องหุ้น under value ที่มีเจ้ามือคอยปั่น
ว่าแกเห็นว่ายังไง
แกว่า ถ้าเจอหุ้นแบบนั้นก็ดี เพราะเราจะได้ไม่ต้องรอนาน
ส่วนเรื่องราคาหุ้นที่เติบโตมากๆ มักจะแกว่งตัวรุนแรง
ผมเคยอ่านบทความของพี่สุมาอี้แกว่า เพราะคนยังให้ราคาที่เหมาะสมยาก
ก็ถือเป็นเรื่องปกติที่ราคาจะแกว่งมากกว่าหุ้นที่เติบโตธรรมดา
แฮ่...ผมก็มือใหม่คนหนึ่ง แม้จะพอเข้าใจ แต่ก็ยังอดเสียวไม่ได้เหมือนกันครับ
ผมเคยถามพี่ที่ผมนับถือในเวบท่านหนึ่ง เรื่องหุ้น under value ที่มีเจ้ามือคอยปั่น
ว่าแกเห็นว่ายังไง
แกว่า ถ้าเจอหุ้นแบบนั้นก็ดี เพราะเราจะได้ไม่ต้องรอนาน
ส่วนเรื่องราคาหุ้นที่เติบโตมากๆ มักจะแกว่งตัวรุนแรง
ผมเคยอ่านบทความของพี่สุมาอี้แกว่า เพราะคนยังให้ราคาที่เหมาะสมยาก
ก็ถือเป็นเรื่องปกติที่ราคาจะแกว่งมากกว่าหุ้นที่เติบโตธรรมดา
แฮ่...ผมก็มือใหม่คนหนึ่ง แม้จะพอเข้าใจ แต่ก็ยังอดเสียวไม่ได้เหมือนกันครับ
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
โพสต์ที่ 8
ผมเคยเขียนตอบไว้ใน Pantip ดังนี้ครับ
v
v
===============================================
“หุ้น” เป็น “คำนาม”
แต่ “ปั่น” เป็นคำ “กิริยา”
ผมกำลังเขียนถึงการปั่นทั่วๆไป เขียนถึงธรรมชาติของมัน มิได้เจาะจงถึงหุ้นตัวใดตัวหนึ่งนะครับ
ขอเปิดตอน ด้วยการสมมุติเหตุการณ์ง่ายๆครับ ว่า...
“ถ้าคุณไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนๆ แล้วเค้าชวนกันเล่นป๊อกเด้ง โดยให้คุณเป็นเจ้ามือ!!!”
ผมอยากถามคุณว่า “คุณอยากให้มีคนเล่นกับคุณซักกี่ขารอบวง?
2 ขา หรือ 3 ขา หรือ ขายิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งดี?
แน่นอนครับว่า เจ้ามือก็ต้องอยากกินตังค์จาก “คนรอบวง”
ถ้าวงเล็ก หรือมีขาน้อย เจ้ามืออย่างคุณจะไปรวยได้ไง?
ถ้าวงยิ่งใหญ่ หรือขาเยอะซิ คุณคงแอบยิ้มในใจว่า “เสร็จตรูหล่ะ...งานนี้”
โดยเฉพาะ ถ้าเล่นในเกมส์ที่คุณได้เปรียบทุกประตู
หุ้นก็เช่นกัน...
ยิ่งคนเข้ามาเล่นเยอะเท่าไหร่ ก็เหมือนมีขาไพ่มาแจมมากขึ้นเท่านั้น
การจุดพลุ สร้างความหวือหวา จึงเกิดขึ้น!!!
ลำพังแค่กำไรจาก “ราคาเป้าหมาย ลบด้วยราคาปัจจุบัน”...อาจจะน่าพึงพอใจสำหรับพวกเรา
แต่มันไม่หอมหวานพอสำหรับ “เจ้ามือ หรือรายใหญ่”
ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดกฏแต่อย่างใด เพราะการซื้อขายเป็นสิ่งที่ถูกต้องในตลาดเสรีเช่นนี้
ไม่ผิดที่รายใหญ่จะ "ลุยซื้อ"
และก็ไม่ผิดที่เค้าจะ "หยุดซื้อ"
และยิ่งไม่ผิดใหญ่ ถ้าเค้าจะ "ขายทำกำไร" ซักรอบ แล้วพอราคาตกลงไป เค้าก็กลับไปซื้อใหม่อีกรอบ
นั่คือธรรมชาติของ "ตลาดแห่งผลประโยชน์" และ "การเก็งกำไร"
เค้ากำลัง "สร้าง Cycle เล็ก ใน Cycle ใหญ่" อยู่...ก็เท่านั้นเอง
การเคลื่อนไหวของราคา คือ Gap หรือช่องว่าง
และไอ้ช่องว่างที่ว่านี่แหล่ะ คือ เงินทั้งนั้น!!!
เพราะนั่นคือ “กำไรจากคนรอบวง” เพราะเจ้ามือหรือรายใหญ่ เค้าจะเล่นกับคุณตรงที่ “ความโลภ” และ “ความกลัว”
หุ้นสภาพคล่องน้อย รายใหญ่เค้าก็สามารถ Dominate ตลาดได้อยู่แล้วอ่ะนะครับ
ถ้ามองในมุมของ PAE นั้น
คุณเชื่อเหมือนผมไหมว่า...
“รายใหญ่เค้ากำหนดได้ว่า ที่ราคาหนึ่งบาทถ้วน เค้าจะให้ราคาตรงนี้ เป็นแนวต้าน หรือแนวรับก็ย่อมได้!!!”
เพราะ "รอบใหญ่" ของการขึ้นลงราคา มันอยู่ที่ "ผลประกอบการ" เท่านั้น(ซึ่ง 1 ปีจะมีเพียง 4 วันเท่านั้น!!!)
แต่สำหรับ "รอบเล็ก" มันก็คือ "ดราม่า" ที่เค้าสร้างขึ้นมาหลอกล่อเม่าอย่างเรา...มันก็เท่านั้นเอง
...นี่คือสัจธรรม
ผมอยากรู้จริงๆครับว่า...
ถ้าถอด Bid และ Offer จากรายใหญ่ออกให้หมด
จะเหลือของรายย่อยอย่างพวกเรา จุ๋มจิ๋มเพียงไร?
ที่เขียนมาทั้งหมด มิได้เป็นการใส่ร้ายต่อบริษัทฯแต่อย่างใด
แต่อยากให้ข้อคิดดังๆตรงนี้ ว่า...
“อยากให้พวกเราทุกคน มองให้ครบทุกด้าน โดยเฉพาะเรื่องปัจจัยพื้นฐาน
และฝึกฝน ในการเป็น นักลงทุนระยะยาวที่ดี”
ซึ่งผมเองก็กำลังฝึกเป็น “นักลงทุนระยะยาวที่ดีอยู่...เช่นกัน!!!”
นักลงทุนระยะยาว จะมอง Trend ในภาพใหญ่
ดังนั้น ความผันผวนของราคา หรือ Mr.Market จะไม่มีผลต่อเค้าเลย
ชนิดที่เรียกว่า “มีความสุขจัง ตังค์และจำนวนหุ้นอยู่ครบ”
มิใช่เพียง PAE
JAS , STA หรือ PTL ก็น่าจะเข้าข่ายบทความตอนนี้ทั้งหมด
เพราะนี่คือ "ธรรมชาติของตลาดเก็งกำไร"
ผมอยากสรุปว่า...
"การปั่นหุ้น...ก็คือการสร้างความหวือหวา ความน่าสนใจ และสภาคล่องที่ดี เพื่อดึงดูดนักลงทุน
ภาพ Bid ที่เห็น , ภาพ Offer ที่วางขวางดุจขุนเขา และภาพ Volume ที่ซื้อขายกันโครมๆ...ล้วนแล้วแต่เป็นเพียงภาพลวงตา!!!
คุณคิดว่า...มันจะจริงซักกี่เปอร์เซนต์?
ปลายทางของการสร้างราคา มันจะพาไปสู้จุดที่สูงเกินปัจจัยพื้นฐานมากๆ
แล้วเชือดทิ้ง ปล่อยให้รายย่อยติดดอย
แต่คุณจะไม่หลงกลเค้า ถ้าคุณรู้ว่า "ปัจจัยพื้นฐานของมัน ควรอยู่ที่จุดใด?"
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ง่ายๆเลย
และไม่ใช่เพียงแต่ หุ้น
แม้แต่ "ราคาน้ำมัน ,ราคาทอง และค่าเงิน" ผมเชื่อว่ามันก็ปั่นได้ด้วยกันทั้งนั้น!!!
โซรอส...คอนเฟริม์!!!
v
v
===============================================
“หุ้น” เป็น “คำนาม”
แต่ “ปั่น” เป็นคำ “กิริยา”
ผมกำลังเขียนถึงการปั่นทั่วๆไป เขียนถึงธรรมชาติของมัน มิได้เจาะจงถึงหุ้นตัวใดตัวหนึ่งนะครับ
ขอเปิดตอน ด้วยการสมมุติเหตุการณ์ง่ายๆครับ ว่า...
“ถ้าคุณไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนๆ แล้วเค้าชวนกันเล่นป๊อกเด้ง โดยให้คุณเป็นเจ้ามือ!!!”
ผมอยากถามคุณว่า “คุณอยากให้มีคนเล่นกับคุณซักกี่ขารอบวง?
2 ขา หรือ 3 ขา หรือ ขายิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งดี?
แน่นอนครับว่า เจ้ามือก็ต้องอยากกินตังค์จาก “คนรอบวง”
ถ้าวงเล็ก หรือมีขาน้อย เจ้ามืออย่างคุณจะไปรวยได้ไง?
ถ้าวงยิ่งใหญ่ หรือขาเยอะซิ คุณคงแอบยิ้มในใจว่า “เสร็จตรูหล่ะ...งานนี้”
โดยเฉพาะ ถ้าเล่นในเกมส์ที่คุณได้เปรียบทุกประตู
หุ้นก็เช่นกัน...
ยิ่งคนเข้ามาเล่นเยอะเท่าไหร่ ก็เหมือนมีขาไพ่มาแจมมากขึ้นเท่านั้น
การจุดพลุ สร้างความหวือหวา จึงเกิดขึ้น!!!
ลำพังแค่กำไรจาก “ราคาเป้าหมาย ลบด้วยราคาปัจจุบัน”...อาจจะน่าพึงพอใจสำหรับพวกเรา
แต่มันไม่หอมหวานพอสำหรับ “เจ้ามือ หรือรายใหญ่”
ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดกฏแต่อย่างใด เพราะการซื้อขายเป็นสิ่งที่ถูกต้องในตลาดเสรีเช่นนี้
ไม่ผิดที่รายใหญ่จะ "ลุยซื้อ"
และก็ไม่ผิดที่เค้าจะ "หยุดซื้อ"
และยิ่งไม่ผิดใหญ่ ถ้าเค้าจะ "ขายทำกำไร" ซักรอบ แล้วพอราคาตกลงไป เค้าก็กลับไปซื้อใหม่อีกรอบ
นั่คือธรรมชาติของ "ตลาดแห่งผลประโยชน์" และ "การเก็งกำไร"
เค้ากำลัง "สร้าง Cycle เล็ก ใน Cycle ใหญ่" อยู่...ก็เท่านั้นเอง
การเคลื่อนไหวของราคา คือ Gap หรือช่องว่าง
และไอ้ช่องว่างที่ว่านี่แหล่ะ คือ เงินทั้งนั้น!!!
เพราะนั่นคือ “กำไรจากคนรอบวง” เพราะเจ้ามือหรือรายใหญ่ เค้าจะเล่นกับคุณตรงที่ “ความโลภ” และ “ความกลัว”
หุ้นสภาพคล่องน้อย รายใหญ่เค้าก็สามารถ Dominate ตลาดได้อยู่แล้วอ่ะนะครับ
ถ้ามองในมุมของ PAE นั้น
คุณเชื่อเหมือนผมไหมว่า...
“รายใหญ่เค้ากำหนดได้ว่า ที่ราคาหนึ่งบาทถ้วน เค้าจะให้ราคาตรงนี้ เป็นแนวต้าน หรือแนวรับก็ย่อมได้!!!”
เพราะ "รอบใหญ่" ของการขึ้นลงราคา มันอยู่ที่ "ผลประกอบการ" เท่านั้น(ซึ่ง 1 ปีจะมีเพียง 4 วันเท่านั้น!!!)
แต่สำหรับ "รอบเล็ก" มันก็คือ "ดราม่า" ที่เค้าสร้างขึ้นมาหลอกล่อเม่าอย่างเรา...มันก็เท่านั้นเอง
...นี่คือสัจธรรม
ผมอยากรู้จริงๆครับว่า...
ถ้าถอด Bid และ Offer จากรายใหญ่ออกให้หมด
จะเหลือของรายย่อยอย่างพวกเรา จุ๋มจิ๋มเพียงไร?
ที่เขียนมาทั้งหมด มิได้เป็นการใส่ร้ายต่อบริษัทฯแต่อย่างใด
แต่อยากให้ข้อคิดดังๆตรงนี้ ว่า...
“อยากให้พวกเราทุกคน มองให้ครบทุกด้าน โดยเฉพาะเรื่องปัจจัยพื้นฐาน
และฝึกฝน ในการเป็น นักลงทุนระยะยาวที่ดี”
ซึ่งผมเองก็กำลังฝึกเป็น “นักลงทุนระยะยาวที่ดีอยู่...เช่นกัน!!!”
นักลงทุนระยะยาว จะมอง Trend ในภาพใหญ่
ดังนั้น ความผันผวนของราคา หรือ Mr.Market จะไม่มีผลต่อเค้าเลย
ชนิดที่เรียกว่า “มีความสุขจัง ตังค์และจำนวนหุ้นอยู่ครบ”
มิใช่เพียง PAE
JAS , STA หรือ PTL ก็น่าจะเข้าข่ายบทความตอนนี้ทั้งหมด
เพราะนี่คือ "ธรรมชาติของตลาดเก็งกำไร"
ผมอยากสรุปว่า...
"การปั่นหุ้น...ก็คือการสร้างความหวือหวา ความน่าสนใจ และสภาคล่องที่ดี เพื่อดึงดูดนักลงทุน
ภาพ Bid ที่เห็น , ภาพ Offer ที่วางขวางดุจขุนเขา และภาพ Volume ที่ซื้อขายกันโครมๆ...ล้วนแล้วแต่เป็นเพียงภาพลวงตา!!!
คุณคิดว่า...มันจะจริงซักกี่เปอร์เซนต์?
ปลายทางของการสร้างราคา มันจะพาไปสู้จุดที่สูงเกินปัจจัยพื้นฐานมากๆ
แล้วเชือดทิ้ง ปล่อยให้รายย่อยติดดอย
แต่คุณจะไม่หลงกลเค้า ถ้าคุณรู้ว่า "ปัจจัยพื้นฐานของมัน ควรอยู่ที่จุดใด?"
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ง่ายๆเลย
และไม่ใช่เพียงแต่ หุ้น
แม้แต่ "ราคาน้ำมัน ,ราคาทอง และค่าเงิน" ผมเชื่อว่ามันก็ปั่นได้ด้วยกันทั้งนั้น!!!
โซรอส...คอนเฟริม์!!!
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 1161
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
โพสต์ที่ 9
เป็นความเห็นที่มีค่ามากครับพี่หมอ...
ผมสรุปได้ว่า VI ไม่สนว่าในอนาคตใครจะปั่นหุ้นหรือไม่...แต่สนใจเสมอถ้าราคาที่ซื้อได้เป็นราคาที่ under value จากราคาที่ควรจะเป็น
ผมสรุปได้ว่า VI ไม่สนว่าในอนาคตใครจะปั่นหุ้นหรือไม่...แต่สนใจเสมอถ้าราคาที่ซื้อได้เป็นราคาที่ under value จากราคาที่ควรจะเป็น
ไม่ควรลงทุนอะไร ถ้าไม่รู้สึกสบายใจในสิ่งนั้น
- densin
- Verified User
- โพสต์: 1073
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
โพสต์ที่ 10
รู้สึกว่าพี่จะสนใจธรรมภิบาลต่อผู้ถือหุ้นเป็นหลักสามัญชน เขียน:
มีเพียงสองเรื่องที่ผมไม่ยอมซื้อแม้ว่าจะ undervalue มากแค่ไหนก็ตาม
๑ ผู้บริหารไซฟ่อนเงินด้วยวิธีการต่างๆนาๆ
๒ มีการตกแต่งบัญชีอย่างมีนัยสำคัญ
อนาคตอาจจะมีข้อสามข้อสี่
แต่ตอนนี้มีเพียงสองข้อ
แล้วเรื่องธรรมภิบาลต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตามหลักการลงทุนของพี่ ให้ควมสำคัญมากน้อยแค่ไหนครับ
VI สายมืด = VI หน้ามืดซื้อตัวฮอทๆอย่าไม่ลืมหูลืมตา
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
โพสต์ที่ 11
ผมคิดเหมือนพี่ drsp ครับdensin เขียน:รู้สึกว่าพี่จะสนใจธรรมภิบาลต่อผู้ถือหุ้นเป็นหลักสามัญชน เขียน:
มีเพียงสองเรื่องที่ผมไม่ยอมซื้อแม้ว่าจะ undervalue มากแค่ไหนก็ตาม
๑ ผู้บริหารไซฟ่อนเงินด้วยวิธีการต่างๆนาๆ
๒ มีการตกแต่งบัญชีอย่างมีนัยสำคัญ
อนาคตอาจจะมีข้อสามข้อสี่
แต่ตอนนี้มีเพียงสองข้อ
แล้วเรื่องธรรมภิบาลต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตามหลักการลงทุนของพี่ ให้ควมสำคัญมากน้อยแค่ไหนครับ
แล้วพี่เด่นคิดยังไงครับdrsp เขียน:ตลาดหุ้นเป็นสถานที่แห่งควาามโลภและมนุษย์กินคน
ผมก็เห็นด้วยในมุมมองหนึ่ง
แต่บางทีสิ่งที่สําคัญอาจไม่ได้อยู่ที่คนอื่นคิดอย่างไร
แต่อยู่ที่ตัวเราเองคิดอย่างไร
สําหรับผมตลาดหุ้นคือสถานที่ซึ่งเรา
ใช้เงินทุนสติปัญญาทักษะความสามารถในการเอาชนะ
เพื่อเพิ่มพูนทรัพย์สินและมาตรฐานความเป็นอยู่
สัาหรับผมตลาดหุ้นเป็นintellectual game
ที่ได้รางวัลเป็นตัวเงินตอบแทน
เวลผมชนะได้เงินผมไม่คิดว่าผมกินเลือดเนื้อใคร
เวลาผมแพ้ผมก็ไม่คิดว่าใครกินเลือดเนื้อผม
ถ้าผมคิดว่าตลาดหุ้นคือการกินเลือดเนื้อกันผมคงเลิกเล่น
ถ้าตลาดหุ้นไม่มีความสนุกและบันเทิงปัญญาผมก็คงเลิกเล่น
Buffetชนะคนทั้งโลก
แต่บริจาคทรัพย์สิน90%เข้าองค์กรการกุศล
buffetกินเลือดเนื้อใครหรือเปล่า โลภมากไปหรือไม่
สัาหรับผมปรัชญาและทัศนคติมีผลกับการดําเนินชีวิต
ผมจึงเลือกเชื่อปรัชญาที่ทําให้จิตใจผมสงบมีความสุข
และมีมุมมองแง่บวก
ปรัชญาในแง่ลบถึงแม้เป็นความจริง
แต่ผมไม่มีความสุขที่จะเชื่อหรือยึดถือ
ผมก็ปล่อยมันผ่านไป
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
- densin
- Verified User
- โพสต์: 1073
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
โพสต์ที่ 12
คำถามผมหมายถึงในการคัดเลือกตัวบริษัท ไม่ใช่ผลของการลงทุนครับสามัญชน เขียน:ผมคิดเหมือนพี่ drsp ครับdensin เขียน:รู้สึกว่าพี่จะสนใจธรรมภิบาลต่อผู้ถือหุ้นเป็นหลักสามัญชน เขียน:
มีเพียงสองเรื่องที่ผมไม่ยอมซื้อแม้ว่าจะ undervalue มากแค่ไหนก็ตาม
๑ ผู้บริหารไซฟ่อนเงินด้วยวิธีการต่างๆนาๆ
๒ มีการตกแต่งบัญชีอย่างมีนัยสำคัญ
อนาคตอาจจะมีข้อสามข้อสี่
แต่ตอนนี้มีเพียงสองข้อ
แล้วเรื่องธรรมภิบาลต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตามหลักการลงทุนของพี่ ให้ควมสำคัญมากน้อยแค่ไหนครับแล้วพี่เด่นคิดยังไงครับdrsp เขียน:ตลาดหุ้นเป็นสถานที่แห่งควาามโลภและมนุษย์กินคน
ผมก็เห็นด้วยในมุมมองหนึ่ง
แต่บางทีสิ่งที่สําคัญอาจไม่ได้อยู่ที่คนอื่นคิดอย่างไร
แต่อยู่ที่ตัวเราเองคิดอย่างไร
สําหรับผมตลาดหุ้นคือสถานที่ซึ่งเรา
ใช้เงินทุนสติปัญญาทักษะความสามารถในการเอาชนะ
เพื่อเพิ่มพูนทรัพย์สินและมาตรฐานความเป็นอยู่
สัาหรับผมตลาดหุ้นเป็นintellectual game
ที่ได้รางวัลเป็นตัวเงินตอบแทน
เวลผมชนะได้เงินผมไม่คิดว่าผมกินเลือดเนื้อใคร
เวลาผมแพ้ผมก็ไม่คิดว่าใครกินเลือดเนื้อผม
ถ้าผมคิดว่าตลาดหุ้นคือการกินเลือดเนื้อกันผมคงเลิกเล่น
ถ้าตลาดหุ้นไม่มีความสนุกและบันเทิงปัญญาผมก็คงเลิกเล่น
Buffetชนะคนทั้งโลก
แต่บริจาคทรัพย์สิน90%เข้าองค์กรการกุศล
buffetกินเลือดเนื้อใครหรือเปล่า โลภมากไปหรือไม่
สัาหรับผมปรัชญาและทัศนคติมีผลกับการดําเนินชีวิต
ผมจึงเลือกเชื่อปรัชญาที่ทําให้จิตใจผมสงบมีความสุข
และมีมุมมองแง่บวก
ปรัชญาในแง่ลบถึงแม้เป็นความจริง
แต่ผมไม่มีความสุขที่จะเชื่อหรือยึดถือ
ผมก็ปล่อยมันผ่านไป
VI สายมืด = VI หน้ามืดซื้อตัวฮอทๆอย่าไม่ลืมหูลืมตา
- wpong
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1336
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
โพสต์ที่ 15
ท่านอาจารย์ชา แห่งวัดหนองป่าพงกล่าวไว้อย่างน่าคิดว่า
เธอจงระวังความคิดของเธอ
เพราะความคิดของเธอ
จะกลายเป็นความประพฤติของเธอ
เธอจงระวังความประพฤติของเธอ
เพราะความประพฤติของเธอ
จะกลายเป็นความเคยชินของเธอ
เธอจงระวังความเคยชินของเธอ
เพราะความเคยชินของเธอ
จะกลายเป็นอุปนิสัยของเธอ
เธอจงระวังอุปนิสัยของเธอ
เพราะอุปนิสัยของเธอ
จะกำหนดชะตากรรมของเธอชั่วชีวิต
เธอจงระวังความคิดของเธอ
เพราะความคิดของเธอ
จะกลายเป็นความประพฤติของเธอ
เธอจงระวังความประพฤติของเธอ
เพราะความประพฤติของเธอ
จะกลายเป็นความเคยชินของเธอ
เธอจงระวังความเคยชินของเธอ
เพราะความเคยชินของเธอ
จะกลายเป็นอุปนิสัยของเธอ
เธอจงระวังอุปนิสัยของเธอ
เพราะอุปนิสัยของเธอ
จะกำหนดชะตากรรมของเธอชั่วชีวิต
- unnop.t
- Verified User
- โพสต์: 924
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
โพสต์ที่ 16
อยากฟังคนมาพูดเรื่องธรรมาภิบาลต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับการลงทุนครับ คำนี้คงมาจากภาษาอังกฤษ stakeholder หมายถึงมีที่เกี่ยวข้อง
ทางผลประโยชน์กับบริษัททั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น พนักงาน ผู้ถือหุ้น ลูกค้า ซัพพลายเออร์ ชุมชน
ผมคิดว่าธรรมชาติของผู้ลงทุนในตลาดหุ้น หรือนักเก็งกำไรก็ตาม มองที่ผลประโยชน์ของเราเป็นหลักมากที่สุด เพราะเราจะมองว่าเราจะ
ชนะในเกมนี้ได้อย่างไร ทำยังไงถึงจะ maximize ผลตอบแทนของเรามากที่สุด ผมคิดว่าน้อยคนมากที่จะใช้ผลประโยชน์ของ stakeholder
มาเป็นตัวตัดสินใจในการเลือกหุ้น เพราะสุดท้ายแล้วเราอาจจะเลือกหุ้นไม่ได้เลยซักตัว เพราะธรรมาภิบาลต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ผม
ว่ามันวัดยาก หรือหาข้อมูลตัดสินใจลำบากมาก ยกเว้นว่าจะเจอเหตุการณ์แบบชัด ๆ อย่างเช่นพวกบริษัทน้ำเมา บุหรี่ ซึ่งเราเห็นอยู่ว่ามี
โทษต่อสังคม เป็นพิษต่อศีลธรรมอันดี เราอาจจะไม่เลือกลงทุนก็ได้
แต่การใช้การกรองหุ้นโดยเงื่อนไขธรรมาภิบาลต่อ stakeholder ยังไม่ทราบเลยว่าจะทำได้อย่างไร อยากฟังความคิดเห็นอื่น ๆเหมือนกัน
ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าเป็นอย่างไร แต่ถ้าจะให้ผมตัดสินใจไม่ลงทุนเพราะว่าบริษัทนี้เอาเปรียบ supplier ผมคงคิดหนักถ้าหุ้นตัวนี้สามารถทำ
กำไรให้กับผมได้
ทางผลประโยชน์กับบริษัททั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น พนักงาน ผู้ถือหุ้น ลูกค้า ซัพพลายเออร์ ชุมชน
ผมคิดว่าธรรมชาติของผู้ลงทุนในตลาดหุ้น หรือนักเก็งกำไรก็ตาม มองที่ผลประโยชน์ของเราเป็นหลักมากที่สุด เพราะเราจะมองว่าเราจะ
ชนะในเกมนี้ได้อย่างไร ทำยังไงถึงจะ maximize ผลตอบแทนของเรามากที่สุด ผมคิดว่าน้อยคนมากที่จะใช้ผลประโยชน์ของ stakeholder
มาเป็นตัวตัดสินใจในการเลือกหุ้น เพราะสุดท้ายแล้วเราอาจจะเลือกหุ้นไม่ได้เลยซักตัว เพราะธรรมาภิบาลต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ผม
ว่ามันวัดยาก หรือหาข้อมูลตัดสินใจลำบากมาก ยกเว้นว่าจะเจอเหตุการณ์แบบชัด ๆ อย่างเช่นพวกบริษัทน้ำเมา บุหรี่ ซึ่งเราเห็นอยู่ว่ามี
โทษต่อสังคม เป็นพิษต่อศีลธรรมอันดี เราอาจจะไม่เลือกลงทุนก็ได้
แต่การใช้การกรองหุ้นโดยเงื่อนไขธรรมาภิบาลต่อ stakeholder ยังไม่ทราบเลยว่าจะทำได้อย่างไร อยากฟังความคิดเห็นอื่น ๆเหมือนกัน
ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าเป็นอย่างไร แต่ถ้าจะให้ผมตัดสินใจไม่ลงทุนเพราะว่าบริษัทนี้เอาเปรียบ supplier ผมคงคิดหนักถ้าหุ้นตัวนี้สามารถทำ
กำไรให้กับผมได้
ตลาดหุ้นมักจะหลอกเราด้วย ความโลภ และความกลัว.....
-
- Verified User
- โพสต์: 67
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
โพสต์ที่ 17
เห็นด้วยครับอยากฟังคนมาพูดเรื่องธรรมาภิบาลต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับการลงทุนครับ คำนี้คงมาจากภาษาอังกฤษ stakeholder หมายถึงมีที่เกี่ยวข้อง
ทางผลประโยชน์กับบริษัททั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น พนักงาน ผู้ถือหุ้น ลูกค้า ซัพพลายเออร์ ชุมชน
ผมคิดว่าธรรมชาติของผู้ลงทุนในตลาดหุ้น หรือนักเก็งกำไรก็ตาม มองที่ผลประโยชน์ของเราเป็นหลักมากที่สุด เพราะเราจะมองว่าเราจะ
ชนะในเกมนี้ได้อย่างไร ทำยังไงถึงจะ maximize ผลตอบแทนของเรามากที่สุด ผมคิดว่าน้อยคนมากที่จะใช้ผลประโยชน์ของ stakeholder
มาเป็นตัวตัดสินใจในการเลือกหุ้น เพราะสุดท้ายแล้วเราอาจจะเลือกหุ้นไม่ได้เลยซักตัว เพราะธรรมาภิบาลต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ผม
ว่ามันวัดยาก หรือหาข้อมูลตัดสินใจลำบากมาก ยกเว้นว่าจะเจอเหตุการณ์แบบชัด ๆ อย่างเช่นพวกบริษัทน้ำเมา บุหรี่ ซึ่งเราเห็นอยู่ว่ามี
โทษต่อสังคม เป็นพิษต่อศีลธรรมอันดี เราอาจจะไม่เลือกลงทุนก็ได้
แต่การใช้การกรองหุ้นโดยเงื่อนไขธรรมาภิบาลต่อ stakeholder ยังไม่ทราบเลยว่าจะทำได้อย่างไร อยากฟังความคิดเห็นอื่น ๆเหมือนกัน
ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าเป็นอย่างไร แต่ถ้าจะให้ผมตัดสินใจไม่ลงทุนเพราะว่าบริษัทนี้เอาเปรียบ supplier ผมคงคิดหนักถ้าหุ้นตัวนี้สามารถทำ
กำไรให้กับผมได้
แล้วถ้าเอาเรื่องผลประโยชน์ของ stakeholder แล้วก็เข้าข่ายหลายตัวอาจจะเกิน
80% ของหุ้นในตลาดเลยก็เป็นไปได้
การลงทุนในหุ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 2606
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
โพสต์ที่ 18
ผมว่าเป็นธรรมต่อ stakeholder ควรจะต่อผู้ถือหุ้นรายย่อยเป็นหลัก ไม่งั้นอาจกุมขมับอย่างบริษัทบางแห่งที่ไปเสนอขายหุ้นในราคาตำ่กว่าตลาดมากๆ หรือเงินสดเยอะแยะแต่จ่ายปันผลตำ่มากๆเงินก็ไม่ได้เอาไปทำอะไร
ส่วนstakeholder รายอื่นๆ ก็ควรรู้ไว้เป็นปัจจัยเสี่ยง
เช่นในบางบริษัทหรือผู้บริหารอาจจะมีประวัติไม่ดีเล่นไม่ซื่อกับเจ้าหนี้
ขนาดผู้ที่มีพระคุณต่อเค้าเค้ายังทำแบบนี้ แล้วกับเราหล่ะอันนี้ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงอย่างหนึ่ง
ถ้าพวกนี้ต่ำกว่ามูลค่ามากๆก็น่าสน แต่หากสูงแล้ว ผมว่าอย่ารักอย่าหลงมันมาก
พวกนี้คบยาวๆอาจจะไม่ได้มั้งครับ
ส่วนstakeholder รายอื่นๆ ก็ควรรู้ไว้เป็นปัจจัยเสี่ยง
เช่นในบางบริษัทหรือผู้บริหารอาจจะมีประวัติไม่ดีเล่นไม่ซื่อกับเจ้าหนี้
ขนาดผู้ที่มีพระคุณต่อเค้าเค้ายังทำแบบนี้ แล้วกับเราหล่ะอันนี้ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงอย่างหนึ่ง
ถ้าพวกนี้ต่ำกว่ามูลค่ามากๆก็น่าสน แต่หากสูงแล้ว ผมว่าอย่ารักอย่าหลงมันมาก
พวกนี้คบยาวๆอาจจะไม่ได้มั้งครับ
- oatty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2444
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
โพสต์ที่ 19
[quote=ธรรมาภิบาลต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับการลงทุนครับ คำนี้คงมาจากภาษาอังกฤษ stakeholder หมายถึงมีที่เกี่ยวข้อง[/quote]
นี่คงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนแต่ละท่านไม่ค่อยจะซื้อหุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่ตัวเองทำงานอยู่ ทำให้บ่อยครั้งที่ตกรถเสมอ..
นี่คงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนแต่ละท่านไม่ค่อยจะซื้อหุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่ตัวเองทำงานอยู่ ทำให้บ่อยครั้งที่ตกรถเสมอ..
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี
- getkung
- Verified User
- โพสต์: 286
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
โพสต์ที่ 20
หุ้นปั่น คือ หุ้นที่กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งพยายามทำการสร้างราคา โดยการซื้อๆขายๆกันภายในกลุ่มตัวเองแล้วให้แมงแม่าที่ไม่รู้เรื่องติดดอยไป
หุ้นปั่นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพื้นฐาน PTT BANPU ก็เป็นหุ้นปั่นได้แม้ว่าจะมีพื้นฐานดี แต่ถ้ามี เศรษฐีกลุ่มหนึ่ง นึกสนุกอยากปั่นหุ้นพื้นฐานดีๆ จะมีใครกล้ากล่าวหามั๊ยครับ ว่า PTT BANPU นี่เป็นหุ้นปั่น
ผมว่า มันสำคัญตรงที่ พี่หมอ ไม่ได้เป็นคนซื้อๆขายๆนี่ครับ ไม่ได้เป็นคนทำราคา พี่หมอยังยึดในหลักการลงทุนของตัวเอง ดังนั้นใครจะมองยังไงก็ไม่สำคัญครับ ถ้าคนๆนั้นไม่มีผล ไม่มีอิทธิพลกับชีวิตเรา แต่ถ้าสำคัญค่อยไปทำความเข้าใจ
หุ้นปั่นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพื้นฐาน PTT BANPU ก็เป็นหุ้นปั่นได้แม้ว่าจะมีพื้นฐานดี แต่ถ้ามี เศรษฐีกลุ่มหนึ่ง นึกสนุกอยากปั่นหุ้นพื้นฐานดีๆ จะมีใครกล้ากล่าวหามั๊ยครับ ว่า PTT BANPU นี่เป็นหุ้นปั่น
ผมว่า มันสำคัญตรงที่ พี่หมอ ไม่ได้เป็นคนซื้อๆขายๆนี่ครับ ไม่ได้เป็นคนทำราคา พี่หมอยังยึดในหลักการลงทุนของตัวเอง ดังนั้นใครจะมองยังไงก็ไม่สำคัญครับ ถ้าคนๆนั้นไม่มีผล ไม่มีอิทธิพลกับชีวิตเรา แต่ถ้าสำคัญค่อยไปทำความเข้าใจ
ซักวันหนึ่ง port จะโต๊ port จะโต
- เหล็งฮู้ชง
- Verified User
- โพสต์: 275
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
โพสต์ที่ 21
หลักง่ายๆ ของผมคือ
หุ้นจะปั่น หรือ ต่ำกว่าพื้นฐาน
ได้กำไรเป็นพอ อย่าโลภ
หุ้นจะปั่น หรือ ต่ำกว่าพื้นฐาน
ได้กำไรเป็นพอ อย่าโลภ
จงอยู่ด้วยความไม่ประมาท
-
- Verified User
- โพสต์: 109
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
โพสต์ที่ 22
ผมว่า มันสำคัญตรงที่ พี่หมอ ไม่ได้เป็นคนซื้อๆขายๆนี่ครับ ไม่ได้เป็นคนทำราคา พี่หมอยังยึดในหลักการลงทุนของตัวเอง ดังนั้นใครจะมองยังไงก็ไม่สำคัญครับ ถ้าคนๆนั้นไม่มีผล ไม่มีอิทธิพลกับชีวิตเรา แต่ถ้าสำคัญค่อยไปทำความเข้าใจ
คุณทราบได้อย่างไรว่า เขาไม่ได้เป็นคนซื้อๆขายๆครับ นั่งtradeด้วยกันหรือ หากไม่ทราบอย่าเพิ่งด่วนสรุปครับ
ก่อนอื่นอยากให้ท่านทั้งมองกลับไปดูโครงสร้างผู้ถือหุ้นในปีล่าสุดก่อน แล้วจะพบความแปลกใจบางประการบางอย่างที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้โดยไม่ได้นัดหมายหรือจงใจให้เกิด
โดยมีข้อสังเกตุดังนี้
+JAS เป็นหุ้นที่อดีตเคยติดข่ายที่ ก.ล.ต จับตามองเป็นพิเศษ(cash balance)มาแล้ว ปั่นไม่ปั่น คุณตัดสินเองครับ
+มี VI และ NOMINEE ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในแวดวง VI ไม่น้อยกว่า7ท่านเข้าถือหุ้นพร้อมกัน ในเวลาใกล้กัน ในปริมาณหุ้นมากๆซะด้วย JAS มันดีอย่างนั้นเชียวหรือ นัดกันเข้าถีอในแวดวงคนรู้จักหรือไม่
+ห้องสนทนา JAS มีความคึกคักได้ไม่ถึงปี หลังจากคนกลุ่มนี้เข้าเก็บหรือไม่ แล้วมา post นำหรือไม่ อย่างไร
+การเอาหุ้นขึ้น เจ้าของต้องเป็นใจด้วย หากไม่ก็ต้องรู้ในสิ่งที่คนทั่วไปไม่ทราบหรือไม่ คงไม่มาจาก b/s อย่างเดียวแน่นอน
อยากให้ทุกท่านลองคิดต่อเอา อย่าสับแต่ว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 1246
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
โพสต์ที่ 23
หุ้นที่มีความน่าสนใจในกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดของผมหุ้นหนึ่ง ก็คือ Jas เนี่ยแหละครับ....
แต่คิดว่าการออกมาให้ความเห็นของทุกท่าน โดยให้ข้อมูลทั้งสองด้านเป็นสิ่งดีครับ
นักลงทุน(ตาม)ทั่วไปจะได้รับข้อมูลไปวิเคราะห์มากขึ้น สุดท้ายแล้วก็คงอยู่ที่ตัวของแต่ละคนเอง ว่าจะเป็นอย่างไร
เชื่อหรือไม่ก็ไม่รู้...ผมเพิ่งทราบว่าหุ้นตัวนี้เป็นแหล่งชมนุมของพี่ๆเก่งๆ ...ทำให้ผมสนใจหุ้นตัวนี้ขึ้นมาทันที ^^"(ผมว่าคนอื่นก็เช่นกัน)
โดยส่วนตัวไม่รู้จักพื้นฐานหุ้น Jas... จึงขอเป็นผู้ชม ติดขอบสนามอย่างเดียวแล้วกันครับ
แต่คิดว่าการออกมาให้ความเห็นของทุกท่าน โดยให้ข้อมูลทั้งสองด้านเป็นสิ่งดีครับ
นักลงทุน(ตาม)ทั่วไปจะได้รับข้อมูลไปวิเคราะห์มากขึ้น สุดท้ายแล้วก็คงอยู่ที่ตัวของแต่ละคนเอง ว่าจะเป็นอย่างไร
เชื่อหรือไม่ก็ไม่รู้...ผมเพิ่งทราบว่าหุ้นตัวนี้เป็นแหล่งชมนุมของพี่ๆเก่งๆ ...ทำให้ผมสนใจหุ้นตัวนี้ขึ้นมาทันที ^^"(ผมว่าคนอื่นก็เช่นกัน)
โดยส่วนตัวไม่รู้จักพื้นฐานหุ้น Jas... จึงขอเป็นผู้ชม ติดขอบสนามอย่างเดียวแล้วกันครับ
ร้อยลี้ ต้องมีก้าวแรก....
-
- Verified User
- โพสต์: 109
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
โพสต์ที่ 24
ผู้ถือหุ้นรายย่อย ณ วันที่ 01/04/2553
จำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free float) 8,373
% การถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (% Free float) 59.05
หมายเหตุ: ข้อมูลผู้ถือหุ้นปรับตามรอบของการปิดสมุดทะเบียน
ภาพรวมข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 10/03/2554 ประเภทการปิดสมุดทะเบียน : XM
จำนวนผู้ถือหุ้นทั้งหมด 8,657
% การถือหุ้นแบบไร้ใบหุ้น 96.05
ลำดับ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จำนวนหุ้น (หุ้น) % หุ้น
1. นายพิชญ์ โพธารามิก 1,615,263,870 21.83
2. QUAM SECURITIES COMPANY LIMITED A/C CLIENT 533,351,800 7.21
3. นายบำรุง ศรีงาน 233,000,000 3.15
4. นายพิชญ์ โพธารามิก 228,783,000 3.09
5. NOMURA SINGAPORE LIMITED-CUSTOMER SEGREGATED ACCOUNT 173,641,000 2.35
6. บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) 155,240,000 2.10
7. น.พ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี 127,000,000 1.72
8. ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 115,611,377 1.56
9. นายประชา ดำรงค์สุทธิพงศ์ 113,584,600 1.54
10. นายจีรเดช จงวัฒนาศิลป์กุล 101,500,000 1.37
11. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 95,238,370 1.29
12. นายนริศ จิระวงศ์ประภา 85,000,000 1.15
13. นางวัชณี สิงหวังชา 80,000,000 1.08
14. นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล 79,905,900 1.08
15. นายเกริกไกร ไตรบัญญัติกุล 79,857,200 1.08
16. นางวราณี เสรีวิวัฒนา 65,000,000 0.88
17. DEUTSCHE BANK AG LONDON 55,933,311 0.76
18. นายบรรหาร เพชรโลหะกุล 55,467,200 0.75
19. ม.ล.กมลสวัสดิ์ วิสุทธิ 50,000,100 0.68
20. นายสันติ สิงหวังชา 48,337,000 0.65
21. นายณัฐวัฒน์ พิณรัตน์ 45,000,000 0.61
22. นายธนา แสงดีจริง 42,252,600 0.57
23. กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (2) 40,436,100 0.55
24. นายสิทธิชัย มาธนชัย 39,621,400 0.54
25. นางวลัยพร สมภักดี 39,157,800 0.53
26. นายอธิภู ลือชัยชนะกุล 38,881,000 0.53
27. นางอุมาพร เมอะประโคน 38,000,000 0.51
จำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free float) 8,373
% การถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (% Free float) 59.05
หมายเหตุ: ข้อมูลผู้ถือหุ้นปรับตามรอบของการปิดสมุดทะเบียน
ภาพรวมข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 10/03/2554 ประเภทการปิดสมุดทะเบียน : XM
จำนวนผู้ถือหุ้นทั้งหมด 8,657
% การถือหุ้นแบบไร้ใบหุ้น 96.05
ลำดับ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จำนวนหุ้น (หุ้น) % หุ้น
1. นายพิชญ์ โพธารามิก 1,615,263,870 21.83
2. QUAM SECURITIES COMPANY LIMITED A/C CLIENT 533,351,800 7.21
3. นายบำรุง ศรีงาน 233,000,000 3.15
4. นายพิชญ์ โพธารามิก 228,783,000 3.09
5. NOMURA SINGAPORE LIMITED-CUSTOMER SEGREGATED ACCOUNT 173,641,000 2.35
6. บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) 155,240,000 2.10
7. น.พ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี 127,000,000 1.72
8. ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 115,611,377 1.56
9. นายประชา ดำรงค์สุทธิพงศ์ 113,584,600 1.54
10. นายจีรเดช จงวัฒนาศิลป์กุล 101,500,000 1.37
11. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 95,238,370 1.29
12. นายนริศ จิระวงศ์ประภา 85,000,000 1.15
13. นางวัชณี สิงหวังชา 80,000,000 1.08
14. นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล 79,905,900 1.08
15. นายเกริกไกร ไตรบัญญัติกุล 79,857,200 1.08
16. นางวราณี เสรีวิวัฒนา 65,000,000 0.88
17. DEUTSCHE BANK AG LONDON 55,933,311 0.76
18. นายบรรหาร เพชรโลหะกุล 55,467,200 0.75
19. ม.ล.กมลสวัสดิ์ วิสุทธิ 50,000,100 0.68
20. นายสันติ สิงหวังชา 48,337,000 0.65
21. นายณัฐวัฒน์ พิณรัตน์ 45,000,000 0.61
22. นายธนา แสงดีจริง 42,252,600 0.57
23. กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (2) 40,436,100 0.55
24. นายสิทธิชัย มาธนชัย 39,621,400 0.54
25. นางวลัยพร สมภักดี 39,157,800 0.53
26. นายอธิภู ลือชัยชนะกุล 38,881,000 0.53
27. นางอุมาพร เมอะประโคน 38,000,000 0.51
- leaderinshadow
- Verified User
- โพสต์: 1765
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
โพสต์ที่ 25
SHAMU SHAMU เขียน:
คุณทราบได้อย่างไรว่า เขาไม่ได้เป็นคนซื้อๆขายๆครับ นั่งtradeด้วยกันหรือ หากไม่ทราบอย่าเพิ่งด่วนสรุปครับ
ก่อนอื่นอยากให้ท่านทั้งมองกลับไปดูโครงสร้างผู้ถือหุ้นในปีล่าสุดก่อน แล้วจะพบความแปลกใจบางประการบางอย่างที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้โดยไม่ได้นัดหมายหรือจงใจให้เกิด
โดยมีข้อสังเกตุดังนี้
+JAS เป็นหุ้นที่อดีตเคยติดข่ายที่ ก.ล.ต จับตามองเป็นพิเศษ(cash balance)มาแล้ว ปั่นไม่ปั่น คุณตัดสินเองครับ
JAS ถูกจับตามมองด้วยเหตุผลอะไรหรอครับพี่ ผมไม่ค่อยมีความรู้ จำได้แค่ว่า ที่เข้าข่าย cash balance เพราะ
turn over สูง และ PE เกิน 50 เท่า และ PE ที่ใช้อ้างอิงในการคำนวณ เป็น PE ปกติ ไม่ได้คิดจาก E จากการดำเนินการ ประจวบกับ JAS มีขาดทุนพิเศษ PE เลยสูงผิดปกติ และเกณฑ์ของ กลต. เค้าไม่ได้ดูลึกขนาดนั้น
พอเข้าเกณฑ์ ก็จับขัง ห้าม cash balance ผมจำได้แค่นี้อะครับพี่
แล้วที่พี่ตั้งข้อสังเกต ว่าน่าจะมีการปั่น พี่รู้อะไรลึกๆ กว่านี้หรอครับ ผมอยากรู้อะครับพี่ ช่วยชี้แนะหน่อยครับ
+มี VI และ NOMINEE ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในแวดวง VI ไม่น้อยกว่า7ท่านเข้าถือหุ้นพร้อมกัน ในเวลาใกล้กัน ในปริมาณหุ้นมากๆซะด้วย JAS มันดีอย่างนั้นเชียวหรือ นัดกันเข้าถีอในแวดวงคนรู้จักหรือไม่
มันอาจจะไม่ดี อย่างที่พี่ว่าก็ได้นะครับ พี่ช่วยนี้แนะหน่อยนะครับ ว่ามันไม่ดีอย่างไร
อยากให้พี่ช่วยถกประเด็นนี้ในเชิงลึกเลยครับ ในนี้มีผู้ที่รู้จริง พร้อมจะช่วยกันถกในประเด็นนี้
จะได้เป็นประโยชน์กับนักลงทุนทุกท่านอะครับ ^^
+ห้องสนทนา JAS มีความคึกคักได้ไม่ถึงปี หลังจากคนกลุ่มนี้เข้าเก็บหรือไม่ แล้วมา post นำหรือไม่ อย่างไร
เป็นข้อสังเกตที่ดีมากครับพี่
แต่ผมเห็นหุ้นตัวไหนขึ้น ห้องนั้นคึกคักทุกทีอะครับพี่
เดี๋ยวหุ้นลง ห้องก็เลิกคึกคักเอง เป็นกันทุกห้อง ทุกที่เลยครับ มีหุ้นตัวไหนขึ้น แล้วห้องตัวนั้นไม่คึกคักบ้างอะครับ
เผื่อจะลองไปสังเกตดูบ้าง
+การเอาหุ้นขึ้น เจ้าของต้องเป็นใจด้วย หากไม่ก็ต้องรู้ในสิ่งที่คนทั่วไปไม่ทราบหรือไม่ คงไม่มาจาก b/s อย่างเดียวแน่นอน
อันนี้เจ้าของเป็นใจชัวครับ
เห็นคุณพิชญ์ซื้อโชว์ ตั้งแต่ 0.4 เลยหนิครับ
แจ้งตลาด เป็นข้อมูล public ด้วย ไม้ล่าสุด ซื้อที่ 2.16 มั้ง
หลังจากซื้อไม้นั้น JAS ยังร่วงไปแถวๆ 1.7 เลย ผู้บริหารติดดอยเลย ไม้สุดท้ายเฉยเลย
อยากให้ทุกท่านลองคิดต่อเอา อย่าสับแต่ว่า
อันนี้ดีมากๆครับพี่ พูดถึงข้อดี ก็ต้องพูดข้อเสีย และความเสี่ยงด้วย
อยากให้คนที่รู้จริงเข้ามาถกกัน
ดีกว่าประเภท ตัวเองไม่ค่อยรู้อะไร แล้วเอาแต่พูดๆๆ โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้อะไรเท่าไหร่
พวกนี้ไม่ค่อยเป็นประโยชน์ต่อสังคมครับ
- Pn3um0n1a
- Verified User
- โพสต์: 1935
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
โพสต์ที่ 26
ครับ ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยleaderinshadow เขียน:เป็นข้อสังเกตที่ดีมากครับพี่
แต่ผมเห็นหุ้นตัวไหนขึ้น ห้องนั้นคึกคักทุกทีอะครับพี่
เดี๋ยวหุ้นลง ห้องก็เลิกคึกคักเอง เป็นกันทุกห้อง ทุกที่เลยครับ มีหุ้นตัวไหนขึ้น แล้วห้องตัวนั้นไม่คึกคักบ้างอะครับ
เผื่อจะลองไปสังเกตดูบ้าง
แต่ระหว่างที่หุ้นกำลังลง นี่จะมีคน คอยมาเชียร์เพื่อรับซื้อของต่อ เหมือนหุ้นบางตัวป่าวครับ มันไม่ใช่แค่ว่าหุ้นขึ้นคึกคัก พอหยุดขึ้นก็เงียบไปเลย แต่ระหว่างนั้นจะมีการถกเถียงกันอย่างรุนแรงทุกที บางครั้งถึงกับล๊อกกระทู้ ต้องตั้งกระทู้แยก
ผมเจ็บหนักเพราะรับข้อมูล ที่ไม่เป็นจริง มาหลายทีแล้ว เห็นใจเถิดครับ รายละเอียดที่มานั่งอ่านในเวบแต่ละคนไม่ได้มีข้อมูลมากเท่ารายใหญ่
บางทีออกทีวี เชียร์เป็นนัย ไม่ึถึงเดือนไม่มีหุ้นแล้วสะงั้น ไม่บอกพื้นฐานหรือจังหวะขายกับรายละเอียดอย่างผมด้วย
ผมเครียดเลยครับ
ยังไง ช่วยชี้แนะผมด้วย ว่าควรจะทำอย่างไรดี
สงสัยผมต้องเป็นเหยื่อไปตลอดล่ะมั้งครับ เพราะผมโง่ มีข้อมูลไม่เท่าคนอื่น
- leaderinshadow
- Verified User
- โพสต์: 1765
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
โพสต์ที่ 27
อย่าง JAS ก็มี Price war กับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอะครับ
แล้วก็คดีความ อื่นๆก็อาจจะมีบ้าง แต่คิดว่าไม่หนักเท่า 3 อย่างนี้
ผมก็อาศัยข้อมูลในห้องร้อยคนร้อยหุ้นนั้นหละครับ
มากกว่านั้นผมก็คงไม่ทราบ เพราะผมก็แค่เด็กโง่ๆคนหนึ่งอะครับพี่
ส่วนจะเมื่อไหร่ ก็คงได้แต่ทำการบ้านของแต่ละคน ว่าวิเคราะห์ไว้อย่างไร
แล้วก็คดีความ อื่นๆก็อาจจะมีบ้าง แต่คิดว่าไม่หนักเท่า 3 อย่างนี้
ผมก็อาศัยข้อมูลในห้องร้อยคนร้อยหุ้นนั้นหละครับ
มากกว่านั้นผมก็คงไม่ทราบ เพราะผมก็แค่เด็กโง่ๆคนหนึ่งอะครับพี่
ส่วนจะเมื่อไหร่ ก็คงได้แต่ทำการบ้านของแต่ละคน ว่าวิเคราะห์ไว้อย่างไร
- Pn3um0n1a
- Verified User
- โพสต์: 1935
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
โพสต์ที่ 28
ขอบคุณมากๆ ครับleaderinshadow เขียน:อย่าง JAS ก็มี Price war กับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอะครับ
แล้วก็คดีความ อื่นๆก็อาจจะมีบ้าง แต่คิดว่าไม่หนักเท่า 3 อย่างนี้
ผมก็อาศัยข้อมูลในห้องร้อยคนร้อยหุ้นนั้นหละครับ
มากกว่านั้นผมก็คงไม่ทราบ เพราะผมก็แค่เด็กโง่ๆคนหนึ่งอะครับพี่
ส่วนจะเมื่อไหร่ ก็คงได้แต่ทำการบ้านของแต่ละคน ว่าวิเคราะห์ไว้อย่างไร
Price war ยังไม่น่าจะเกิดในเร็วๆ นี้แน่นอน มีหลายท่านให้ความเห็นไว้
การเปลี่ยนทางเทคโนโลยีนี่ กว่าไทยจะมี 3g ทั่วถึง คงอีกนานมาก
เรื่องคดีความ ส่วนมากก็ลงความเห็นตรงกันว่า ไม่น่าจะตัดหนี้ทีเดียวทั้งหมดแน่ๆ
อย่างนี้ผมก็สบายใจหายห่วงเลยสินะครับ สู้ต่อไปน้องมะลิ
ว่าแต่ว่าที่บอกว่า "ส่วนจะเมื่อไหร่" นี่คืออะไรนะครับ ไม่เข้าใจครับ
- leaderinshadow
- Verified User
- โพสต์: 1765
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
โพสต์ที่ 29
เมื่อไหร่ นี่สาเหตุของการขายครับ
สำหรับผม มี 3 อย่าง
1. พื้นฐานเปลี่ยน
2. ราคา over value
3. เจอตัวอื่นที่ดีกว่า
เมื่อถึงเวลาของมัน อาจจะเป็น 2 หรือ 3 ผมก็ขายครับ
2 และ 3 ขึ้นอยู่กับความขยันในการทำการบ้านครับ
สำหรับผม มี 3 อย่าง
1. พื้นฐานเปลี่ยน
2. ราคา over value
3. เจอตัวอื่นที่ดีกว่า
เมื่อถึงเวลาของมัน อาจจะเป็น 2 หรือ 3 ผมก็ขายครับ
2 และ 3 ขึ้นอยู่กับความขยันในการทำการบ้านครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1746
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นปั่น กับ หุ้น undervalue
โพสต์ที่ 30
หุ้นตัวไหน ก็ถูกปั่นได้ทั้งนั้นแหละครับ
ไม่จำเป็นว่าจะเป็นหุ้น undervalue หรือ overvalue
ถ้าไม่เชื่อ บอกหุ้นมาเลย 1 ตัวที่คุณคิดว่าไม่มีทางเป็นหุ้นปั่นแน่ ๆ
พร้อมเงินซัก 300-400% ของ Market Cap. ปัจจุบันของหุ้นตัวนั้น
และบัญชีหุ้น 4-5 บัญชี (ที่ไม่ใช่ชื่อผม 555)
แล้วเดี๋ยวจะทำเป็นหุ้นปั่นให้ดู
ส่วนปั่นแล้วจะติดดอยหรือตกเหวตอนจบ ก็อีกเรื่องหนึ่ง
จะ JAS หรือ WG หรือ SCNYL ก็ปั่นได้ทั้งนั้นแหละ
ถ้ามีเงินซะอย่าง
ไม่จำเป็นว่าจะเป็นหุ้น undervalue หรือ overvalue
ถ้าไม่เชื่อ บอกหุ้นมาเลย 1 ตัวที่คุณคิดว่าไม่มีทางเป็นหุ้นปั่นแน่ ๆ
พร้อมเงินซัก 300-400% ของ Market Cap. ปัจจุบันของหุ้นตัวนั้น
และบัญชีหุ้น 4-5 บัญชี (ที่ไม่ใช่ชื่อผม 555)
แล้วเดี๋ยวจะทำเป็นหุ้นปั่นให้ดู
ส่วนปั่นแล้วจะติดดอยหรือตกเหวตอนจบ ก็อีกเรื่องหนึ่ง
จะ JAS หรือ WG หรือ SCNYL ก็ปั่นได้ทั้งนั้นแหละ
ถ้ามีเงินซะอย่าง