![Very Happy :D](./images/smilies/icon_biggrin.gif)
ปล.ผมไม่รู้จักพี่มาก่อน
ผ่านไปสามปีกว่าๆสามัญชน เขียน: ดังนั้นที่จริงแล้วตัวผมเองจึงไม่ได้มีความกล้าอะไรเลย ผมเพียงแต่ทำสิ่งที่เห็นว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องก็เท่านั้นเอง
ผมว่าใช้คำว่างานวิจัยได้เลยเหมือนที่พี่หมอว่ามาครับสามัญชน เขียน:ผ่านไปสามปีกว่าๆสามัญชน เขียน: ดังนั้นที่จริงแล้วตัวผมเองจึงไม่ได้มีความกล้าอะไรเลย ผมเพียงแต่ทำสิ่งที่เห็นว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องก็เท่านั้นเอง
ผมก็ยังคิดเหมือนเดิมนะครับ
ความกล้าควรมีน้อยๆ ไม่ควรมีเยอะ
ความกลัวก็ควรมีน้อยๆ ไม่ควรมีเยอะ
ที่จริง ทั้งสองอย่างนี้ถ้าไม่มีเลยจะดีที่สุด
มีความกลัวจึงเกิดความกล้า
มีความกล้าจึงเกิดความกลัว
ถ้าเรายังใช้ความกล้าในการซื้อหุ้น นั่นแปลว่าลึกๆแล้วเรามีความกลัวแฝงอยู่ และมีสิ่งที่เรายังไม่รู้เป็นต้นกำเนิดให้เกิดความกลัว
กล้าแล้วเจ็บจะทำให้เกิดความกลัวไปอีกเรื่อยๆ
ความกล้าและความกลัวเป็นอารมณ์ซึ่งจะบดบังความจริง
เป็นเหมือน bias ที่จะทำให้งานวิจัยนั้นผิดพลาด
เป็นเหมือนฝุ่นในลูกตาที่ทำให้ภาพพร่ามัวและผิดเพี้ยน
ผมคิดอย่างนี้นะ ผิดถูกอย่างไรก็แนะนำได้ครับ
ลองไปเลยครับwanisa เขียน:ตอนนี้กล้า จนยังไม่ได้ลองของจริง คงรอให้พร้อมมากจริงๆๆถึงเรียกว่ากล้าได้
ผมค้นพบแล้วครับพี่หมอ สมการที่ผมอยากหาเมื่อเกือบสองปีที่แล้วNevercry.boy เขียน:ผมว่าใช้คำว่างานวิจัยได้เลยเหมือนที่พี่หมอว่ามาครับสามัญชน เขียน:ผ่านไปสามปีกว่าๆสามัญชน เขียน: ดังนั้นที่จริงแล้วตัวผมเองจึงไม่ได้มีความกล้าอะไรเลย ผมเพียงแต่ทำสิ่งที่เห็นว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องก็เท่านั้นเอง
ผมก็ยังคิดเหมือนเดิมนะครับ
ความกล้าควรมีน้อยๆ ไม่ควรมีเยอะ
ความกลัวก็ควรมีน้อยๆ ไม่ควรมีเยอะ
ที่จริง ทั้งสองอย่างนี้ถ้าไม่มีเลยจะดีที่สุด
มีความกลัวจึงเกิดความกล้า
มีความกล้าจึงเกิดความกลัว
ถ้าเรายังใช้ความกล้าในการซื้อหุ้น นั่นแปลว่าลึกๆแล้วเรามีความกลัวแฝงอยู่ และมีสิ่งที่เรายังไม่รู้เป็นต้นกำเนิดให้เกิดความกลัว
กล้าแล้วเจ็บจะทำให้เกิดความกลัวไปอีกเรื่อยๆ
ความกล้าและความกลัวเป็นอารมณ์ซึ่งจะบดบังความจริง
เป็นเหมือน bias ที่จะทำให้งานวิจัยนั้นผิดพลาด
เป็นเหมือนฝุ่นในลูกตาที่ทำให้ภาพพร่ามัวและผิดเพี้ยน
ผมคิดอย่างนี้นะ ผิดถูกอย่างไรก็แนะนำได้ครับ
เพียงแต่เราวิจัยธุรกิจ
ซึ่งแน่นอนระหว่างเส้นทางที่ผลลัพธ์ออกมาย่อมมีความกดดันจากหลายสิ่งหลายอย่าง
ผมว่าห้อง PTL ในหลายช่วงเวลาที่ผ่านมีสถานการณ์เช่นนั้นนะครับ
.................................
ความกลัว เกิดจากคนอื่นทำให้เรา "ไม่มั่นใจในข้อมูล" โดยใช้ราคามากดดัน
หากแรงกดดันมากพอ เราจะยอมแพ้ เพราะเราไม่มั่นใจ
ผมว่ามันเป็น สมการ ระหว่าง
แรงหุ้นตก กับ ความมั่นใจ
ครับ
............................
ผมสนใจประเด็นนี้มากครับพี่หมอ Mr.Market ไม่ค่อยบอกเหตุผลเรา บอกว่าขายและขาย ไอ้เราก็กลัว
หากความมั่นใจผมเต็มเปี่ยม ไอ้แรงหุ้นตกนี่มันทำอะไรไม่ค่อยได้
แต่หากความมั่นใจผมกระท่อนกระแท่น ไอ้แรงหุ้นตกนี่มันกระแทกผมแรงได้ใจ
แต่คนที่เซียนกว่าผม พอหุ้นตกสามารถซื้อได้อีก นั่นก็มั่นใจได้อีก
แรงหุ้นตกกับความมั่นใจนี่ผมว่ามันมีสมการนะครับ ไว้ว่าง ๆ จะลองแงะดู (มันจะมีได้ไงฟะ)
ขอบคุณพี่หมอเช่นเคยครับ