กระแสe-bookและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
- PaePae
- Verified User
- โพสต์: 36
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระแสe-bookและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
โพสต์ที่ 62
รุ่น DX ราคานี้หาซื้อที่ไหนครับ ขอ link ทีครับ [/quote][/quote][/quote][/quote]wc เขียน:[quote="PaePae]ไม่แน่ใจว่าอันนี้ราคาของเครื่องไหน หรือขายที่ไหนนะครับ
เพราะถ้าเป็น Kindle สั่งกับ Amazon โดยตรงได้ถูกกว่านั้นแน่ๆ
ราคาเครื่องมือหนึ่งถูกสุดที่ผมหาได้ตอนนี้
Kindle 3 Wifi = 5,500
Kindle 3 Wigi+3G = 7,200
Kindle DX = 13,900
(ราคานี้ถูกกว่าสั่งโดยตรงกับ Amazon หน่อยนึง เพราะคนรับสั่งซื้อเค้า shipping เอง ประหยัดค่าส่ง)
ราคาจริงๆ จึงไม่ใช่ 17,000 แต่เหลือเพียง 5,xxx ถูกกว่า smartphone ทั้งหลายเยอะครับ
ที่นี่ครับ
http://www.droidsans.com/node/5983
- Linzhi
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1464
- ผู้ติดตาม: 1
Re: กระแสe-bookและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
โพสต์ที่ 63
เขียนไว้ใน blog แปะเอาไว้เพื่อแชร์ที่นี่แล้วกันครับ
------------------------------
ผมคงไม่ review รายละเอียดเจ้าเครื่องอ่านหนังสืออีบุ๊คตัวนี้ เพราะมีคนพูดถึงมันค่อนข้างมากแล้ว แต่สรุป 9 เหตุผลหลักว่าทำไมนักลงทุนและนักท่องโลกกว้างควรจะต้องมีมัน (เพิ่งได้ลองมาสด ๆ ร้อน ๆ)
1. Read : นักลงทุนและนักท่องเที่ยวที่ดีควรเป็นนักอ่าน และ Jeff Bezos บอกว่า Kindle เป็นเครื่องที่ถูก Optimize ให้เหมาะกับการอ่านที่สุด (อะไรจะเป็นเหตุเป็นผลกันขนาดนี้) ผมลองอ่านดูสะดวกมาก อ่านง่ายและเร็วกว่าหนังสือด้วยซ้ำ ไม่ต้องพลิกหน้า ไม่ต้องพกหนังสือเล่มโต ๆ ให้ลำบากเวลาเดินทางไปไหน ไม่มีข้อจำกัดความหนาของหนังสือให้คุณอ่านได้ยาก มีดิกชันนารีในตัว เลื่อนไปตัวไหนก็แปลให้ได้ทันที
2. Battery life : ทนสุด ๆ (ยาวนานเป็นเดือน) ดังนั้นถึงคุณจะมีแผนไปปีนเขาสองอาทิตย์ อยู่กลางหุบเขาที่ไม่มีไฟฟ้า มันก็สามารถอยู่กับคุณได้ และพาคุณกลับลงมาโดยไม่ต้องหาที่ชาร์จแบตเตอรี่เลย
3. Black&White : จอขาวดำด้วยเทคโนโลยี E-Ink ที่ดูเหมือนกระดาษสุด ๆ ไม่มี refresh rate 60Hz มาทำให้สายตาคุณล้า แม้ทุกคนกำลังมุ่งไปยัง 3D แต่ผมกลับคิดว่าเสน่ห์ของสีขาวดำมีเยอะครับ มุมมองของภาพบางอย่างบนจอขาวดำบน Kindle มันสวยจริง ๆ (หน้าจอเวลาปิดเครื่อง ถ้าไม่บอกคนที่บ้านผมคิดว่าเป็นหนังสือ)
4. Web Access : ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือกว่า 100 ประเทศ และฟรี (ไม่ต้องใส่ sim card ใช้ได้ทันที) ดังนั้นก็ไม่จำเป็นต้องหา wifi ในโรงแรมหรือร้านกาแฟอีกต่อไป ไม่ต้องไป International Roaming ราคาแพง ๆ เพราะ Kindle สามารถเข้าเวปได้ฟรี (อาจจะถูกจำกัดในอนาคตได้เหมือนกัน แต่อย่างน้อยก็ access wikipedia กับ amazon ได้)
5. Book : มีหนังสือมากมายบน Amazon และ Gutenburg project หนังสือบางเล่มถูกมาก อย่างผมซื้อ Security Analysis ของ Graham บน Kindle แค่ 9$ เทียบกับที่คิโนคุนิยะเล่มละสองพันกว่าบาท หนังสือคลาสสิกหลาย ๆ เล่มมีให้โหลดฟรี หนังสือการลงทุนบางเล่มก็ถูกกว่ามากครับ ผมเช็คดูที่ Asiabook พันกว่าบาท แต่ใน Kindle ถ้ามีขาย ราคาจะอยู่แค่ 10-12$ เท่านั้น (หนังสือประเภท how-to ในเมืองไทย ขายแพงเกินไป) ปริมาณหนังสือ format Kindle ใน Amazon ก็เติบโตเร็วสุด ๆ หนังสือใหม่ ๆ มีแน่ ๆ แต่หนังสือเก่าที่เป็นที่นิยม ก็มีครบครับ (เท่าที่เช็คหนังสือของ Graham, Fisher, Lych, Buffet มีครบ)
6. Trade Stock : เทรดหุ้นได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านระบบ 3G ข้อจำกัดเวลาผมไปทริปต่างประเทศจะหมดไป (จริง ๆ อยู่ต่างประเทศก็ไม่ค่อยดูหุ้นอยู่แล้ว) แม้จะเทรดไม่ได้เหมือน Streaming บน Iphone, Ipad หรือ PC หน้าจอ basic ๆ สำหรับแค่รู้ราคาและส่งคำสั่งซื้อขายก็เพียงพอแล้ว ความ fancy สำหรับเรื่องนี้ไม่จำเป็น นอกจากใช้โชว์เพื่อนฝูง หรือใช้ day-trade
7. PDF Lover : ถ้าคุณติดบทวิเคราะห์บน PDF หรือคุณเก็บไฟล์การลงทุนไว้ ก็แค่ port เป็น PDF และเอาไปเปิดอ่านได้ทันที (อ่านสะดวกมากถ้าเป็นไฟล์ Powerpoint และแปลงเป็น PDF) ปกติขี้เกียจอ่าน Filing IPO เพราะปวดตา ตอนนี้คงได้แอบ ๆ อ่านบ้างแล้ว
8. Free book sample : หนังสือทุกเล่มสามารถโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ฟรี ไม่ต้องยืนเมื่อย ๆ ในร้านหนังสือ หรือต้องหอบตัวเองผ่านการจราจรออกไป แค่นอนบนเตียงเปิด Kindle คุณก็โหลดหนังสือที่คุณสนใจมาลองอ่านบทแรกได้ก่อนทันที (บางเล่มผมโหลดมาอ่านสารบัญ หาไอเดียใหม่ ๆ)
9. Value for Money : สุดยอดหัวใจของ VI และ Backpacker คือประสบการณ์และความคุ้มตังค์! นอกจากคุณไม่ต้องเสียค่า Internet ทุกเดือนหลายร้อยบาทแล้ว เครื่อง Kindle ยังมีราคาถูกกว่า Ipad หรือ Iphone ถึง 1/3 หรือมากกว่าครึ่ง
สรุปคือมันจะพาคุณอ่านหนังสือมากกว่าเดิม ประหยัดกว่าเดิม และสะดวกกว่าเดิม ผนวกกับความสามารถในการ check e-mail, browse web, trade stock, facebook, twitter ไม่คิดว่าจะมี gadget ไหน เหมาะกับนักลงทุนประเภท Value Investor กับนักผจญภัย Backpacker ได้เท่านี้อีกแล้วครับ
------------------------------
ผมคงไม่ review รายละเอียดเจ้าเครื่องอ่านหนังสืออีบุ๊คตัวนี้ เพราะมีคนพูดถึงมันค่อนข้างมากแล้ว แต่สรุป 9 เหตุผลหลักว่าทำไมนักลงทุนและนักท่องโลกกว้างควรจะต้องมีมัน (เพิ่งได้ลองมาสด ๆ ร้อน ๆ)
1. Read : นักลงทุนและนักท่องเที่ยวที่ดีควรเป็นนักอ่าน และ Jeff Bezos บอกว่า Kindle เป็นเครื่องที่ถูก Optimize ให้เหมาะกับการอ่านที่สุด (อะไรจะเป็นเหตุเป็นผลกันขนาดนี้) ผมลองอ่านดูสะดวกมาก อ่านง่ายและเร็วกว่าหนังสือด้วยซ้ำ ไม่ต้องพลิกหน้า ไม่ต้องพกหนังสือเล่มโต ๆ ให้ลำบากเวลาเดินทางไปไหน ไม่มีข้อจำกัดความหนาของหนังสือให้คุณอ่านได้ยาก มีดิกชันนารีในตัว เลื่อนไปตัวไหนก็แปลให้ได้ทันที
2. Battery life : ทนสุด ๆ (ยาวนานเป็นเดือน) ดังนั้นถึงคุณจะมีแผนไปปีนเขาสองอาทิตย์ อยู่กลางหุบเขาที่ไม่มีไฟฟ้า มันก็สามารถอยู่กับคุณได้ และพาคุณกลับลงมาโดยไม่ต้องหาที่ชาร์จแบตเตอรี่เลย
3. Black&White : จอขาวดำด้วยเทคโนโลยี E-Ink ที่ดูเหมือนกระดาษสุด ๆ ไม่มี refresh rate 60Hz มาทำให้สายตาคุณล้า แม้ทุกคนกำลังมุ่งไปยัง 3D แต่ผมกลับคิดว่าเสน่ห์ของสีขาวดำมีเยอะครับ มุมมองของภาพบางอย่างบนจอขาวดำบน Kindle มันสวยจริง ๆ (หน้าจอเวลาปิดเครื่อง ถ้าไม่บอกคนที่บ้านผมคิดว่าเป็นหนังสือ)
4. Web Access : ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือกว่า 100 ประเทศ และฟรี (ไม่ต้องใส่ sim card ใช้ได้ทันที) ดังนั้นก็ไม่จำเป็นต้องหา wifi ในโรงแรมหรือร้านกาแฟอีกต่อไป ไม่ต้องไป International Roaming ราคาแพง ๆ เพราะ Kindle สามารถเข้าเวปได้ฟรี (อาจจะถูกจำกัดในอนาคตได้เหมือนกัน แต่อย่างน้อยก็ access wikipedia กับ amazon ได้)
5. Book : มีหนังสือมากมายบน Amazon และ Gutenburg project หนังสือบางเล่มถูกมาก อย่างผมซื้อ Security Analysis ของ Graham บน Kindle แค่ 9$ เทียบกับที่คิโนคุนิยะเล่มละสองพันกว่าบาท หนังสือคลาสสิกหลาย ๆ เล่มมีให้โหลดฟรี หนังสือการลงทุนบางเล่มก็ถูกกว่ามากครับ ผมเช็คดูที่ Asiabook พันกว่าบาท แต่ใน Kindle ถ้ามีขาย ราคาจะอยู่แค่ 10-12$ เท่านั้น (หนังสือประเภท how-to ในเมืองไทย ขายแพงเกินไป) ปริมาณหนังสือ format Kindle ใน Amazon ก็เติบโตเร็วสุด ๆ หนังสือใหม่ ๆ มีแน่ ๆ แต่หนังสือเก่าที่เป็นที่นิยม ก็มีครบครับ (เท่าที่เช็คหนังสือของ Graham, Fisher, Lych, Buffet มีครบ)
6. Trade Stock : เทรดหุ้นได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านระบบ 3G ข้อจำกัดเวลาผมไปทริปต่างประเทศจะหมดไป (จริง ๆ อยู่ต่างประเทศก็ไม่ค่อยดูหุ้นอยู่แล้ว) แม้จะเทรดไม่ได้เหมือน Streaming บน Iphone, Ipad หรือ PC หน้าจอ basic ๆ สำหรับแค่รู้ราคาและส่งคำสั่งซื้อขายก็เพียงพอแล้ว ความ fancy สำหรับเรื่องนี้ไม่จำเป็น นอกจากใช้โชว์เพื่อนฝูง หรือใช้ day-trade
7. PDF Lover : ถ้าคุณติดบทวิเคราะห์บน PDF หรือคุณเก็บไฟล์การลงทุนไว้ ก็แค่ port เป็น PDF และเอาไปเปิดอ่านได้ทันที (อ่านสะดวกมากถ้าเป็นไฟล์ Powerpoint และแปลงเป็น PDF) ปกติขี้เกียจอ่าน Filing IPO เพราะปวดตา ตอนนี้คงได้แอบ ๆ อ่านบ้างแล้ว
8. Free book sample : หนังสือทุกเล่มสามารถโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ฟรี ไม่ต้องยืนเมื่อย ๆ ในร้านหนังสือ หรือต้องหอบตัวเองผ่านการจราจรออกไป แค่นอนบนเตียงเปิด Kindle คุณก็โหลดหนังสือที่คุณสนใจมาลองอ่านบทแรกได้ก่อนทันที (บางเล่มผมโหลดมาอ่านสารบัญ หาไอเดียใหม่ ๆ)
9. Value for Money : สุดยอดหัวใจของ VI และ Backpacker คือประสบการณ์และความคุ้มตังค์! นอกจากคุณไม่ต้องเสียค่า Internet ทุกเดือนหลายร้อยบาทแล้ว เครื่อง Kindle ยังมีราคาถูกกว่า Ipad หรือ Iphone ถึง 1/3 หรือมากกว่าครึ่ง
สรุปคือมันจะพาคุณอ่านหนังสือมากกว่าเดิม ประหยัดกว่าเดิม และสะดวกกว่าเดิม ผนวกกับความสามารถในการ check e-mail, browse web, trade stock, facebook, twitter ไม่คิดว่าจะมี gadget ไหน เหมาะกับนักลงทุนประเภท Value Investor กับนักผจญภัย Backpacker ได้เท่านี้อีกแล้วครับ
ก้าวช้า ๆ และเชื่อในปาฎิหารย์ของหุ้นเปลี่ยนชีวิต
There is no secret ingredient. It's just you.
There is no secret ingredient. It's just you.
-
- Verified User
- โพสต์: 381
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระแสe-bookและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
โพสต์ที่ 64
Imagination is better than knowledge
ผมเชื่อว่าe-bookจะทําให้ความหมายของหนังสือเดิมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ผมเชื่อว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
1 สมมติผมซื้อe-book ชีวประวัติไมเคิล แจ็คสัน
ในหนังสือจะมีlink videoภาพเคลื่อนไหวไมเคิลตอนเด็ก
มีmusic videoคอนเสิร์ทให้ดูและขาย
มีเพลงให้โหลดและขาย ฯลฯ
2 ผมซื้อหนังสือวิชาการราคาแพงมา อ่านไม่เข้าใจ
มีlinkให้ผม chat หรือ e-mailสอบถามผู้เชี่ยวชาญหรือคนแต่ง
มีclubให้คนสนใจเรื่องเดียวกันมารวมกลุ่มพูดคุยกัน
3 หนังสือe-bookเล่มเดียวกัน ขายแบบมีและไม่มีโฆษณา
ถ้ามีโฆษณาถูกกว่า20-50%
4 ขายเป็นชุดถูกกว่าเป็นเล่ม เช่น
นิยายสตีเฟ่น คิงส์ 1เล่ม10เหรียญ
ซื้อเป็นชุด10เล่มเหลือเล่มละ5เหรียญ
เพราะhi speed net หนังสือ10เล่มloadไม่เกิน10นาที
ไม่มีค่าหีบห่อขนส่ง เพราะฉะนั้นขายจํานวนมากกําไรมากกว่า
จะเห็นได้ว่าe-bookจะทําให้เกิดโอกาสทางธุรกิจอีกมากมายมหาศาล
ใครมีวิสัยทัศน์ทางธุรกิจกว้างไกล จะทํากําไรได้มหาศาล
ใครปรับตัวไม่ทันก็ต้องถูกกําจัดออกไป
นี่แหละcreative destruction
ผมเชื่อว่าe-bookจะทําให้ความหมายของหนังสือเดิมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ผมเชื่อว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
1 สมมติผมซื้อe-book ชีวประวัติไมเคิล แจ็คสัน
ในหนังสือจะมีlink videoภาพเคลื่อนไหวไมเคิลตอนเด็ก
มีmusic videoคอนเสิร์ทให้ดูและขาย
มีเพลงให้โหลดและขาย ฯลฯ
2 ผมซื้อหนังสือวิชาการราคาแพงมา อ่านไม่เข้าใจ
มีlinkให้ผม chat หรือ e-mailสอบถามผู้เชี่ยวชาญหรือคนแต่ง
มีclubให้คนสนใจเรื่องเดียวกันมารวมกลุ่มพูดคุยกัน
3 หนังสือe-bookเล่มเดียวกัน ขายแบบมีและไม่มีโฆษณา
ถ้ามีโฆษณาถูกกว่า20-50%
4 ขายเป็นชุดถูกกว่าเป็นเล่ม เช่น
นิยายสตีเฟ่น คิงส์ 1เล่ม10เหรียญ
ซื้อเป็นชุด10เล่มเหลือเล่มละ5เหรียญ
เพราะhi speed net หนังสือ10เล่มloadไม่เกิน10นาที
ไม่มีค่าหีบห่อขนส่ง เพราะฉะนั้นขายจํานวนมากกําไรมากกว่า
จะเห็นได้ว่าe-bookจะทําให้เกิดโอกาสทางธุรกิจอีกมากมายมหาศาล
ใครมีวิสัยทัศน์ทางธุรกิจกว้างไกล จะทํากําไรได้มหาศาล
ใครปรับตัวไม่ทันก็ต้องถูกกําจัดออกไป
นี่แหละcreative destruction
- KGYF
- Verified User
- โพสต์: 399
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระแสe-bookและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
โพสต์ที่ 66
jek ae เขียน:ก็คงเหมือนกับ แผ่นเสียง เทป ซีดีเพลง ถูกแทนที่ด้วยการบริโภคแบบดิจิตอลในรูปเอ็มพี3
ผลิตภัณฑ์ที่เป็น physical products คงลดกำลังการผลิตลง เหลือแต่อัลบั้มที่ควรค่าต่อการสะสม
e-book คงจะโตไปกับนวัตกรรมของแทบเล็ทที่จะบูมมากขึ้นในระยะใกล้นี้ พวกนสพ. นิตยาสาร คงต้องปรับตัวขนานใหญ่สำหรับการเปลี่ยนแปลง ผลกระทบสำหรับธุรกิจด้านนี้คงมีแน่แต่ระดับไหนผมก็คาดเดาไม่ถูกเหมือนกันครับ
+1
" สัพพะทานัง ธัมมะทานัง ชินาติ = การให้ธรรมะเป็นทาน ย่อมชนะการให้ทั้งปวง "
" ทุกข์มี เพราะยึด ทุกข์ยืด เพราะอยาก ทุกข์มาก เพราะพลอย ทุกข์น้อย เพราะหยุด ทุกข์หลุด เพราะปล่อย"
" ทุกข์มี เพราะยึด ทุกข์ยืด เพราะอยาก ทุกข์มาก เพราะพลอย ทุกข์น้อย เพราะหยุด ทุกข์หลุด เพราะปล่อย"
-
- Verified User
- โพสต์: 2606
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระแสe-bookและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
โพสต์ที่ 67
ได้ คินเดิ้ล มาแล้ว
อ่านสบายมากมายครับ ผมว่าเผลอๆ มันดีกว่า หนังสืออีกนะ ไม่หนักดี สบายตาด้วย จะขยายให้ขนาดใหญ่ขึ้นให้อ่านได้ง่ายขึ้นก็ได้ จะให้มันอ่านให้ฟังก็ได้ สามารถโหลดหนังสือเก็บไว้เยอะๆ พกไปอ่านที่ไหนก็สะดวก แถมยังซื้อหนังสือได้ง่าย ทาง อเมซอน ในราคาที่ถูกกว่า ที่เพิ่งซื้อมาก็ถูกกว่า ปกติ ประมาณ สิบเหรียญได้ ไม่รวมค่าขนส่งนะครับ อ่านแปร๊บๆ ก็ผ่านไปเกือบครึ่งเล่มแล้ว ไม่รู้สึกปวดตาเลย ต่างกับอ่านในคอมพิวเตอร์ หรือ ไอแพด มากมายครับ
ผมว่าเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ชอบอ่านหนังสือของกูรู ต่างๆ แนะนำเลยครับ
ข้อเสียมันมีอย่างเดียวก็คือ มันทำให้เราซื้อหนังสือได้สะดวกเกินไป ครับ ฮ่าๆ
อ่านสบายมากมายครับ ผมว่าเผลอๆ มันดีกว่า หนังสืออีกนะ ไม่หนักดี สบายตาด้วย จะขยายให้ขนาดใหญ่ขึ้นให้อ่านได้ง่ายขึ้นก็ได้ จะให้มันอ่านให้ฟังก็ได้ สามารถโหลดหนังสือเก็บไว้เยอะๆ พกไปอ่านที่ไหนก็สะดวก แถมยังซื้อหนังสือได้ง่าย ทาง อเมซอน ในราคาที่ถูกกว่า ที่เพิ่งซื้อมาก็ถูกกว่า ปกติ ประมาณ สิบเหรียญได้ ไม่รวมค่าขนส่งนะครับ อ่านแปร๊บๆ ก็ผ่านไปเกือบครึ่งเล่มแล้ว ไม่รู้สึกปวดตาเลย ต่างกับอ่านในคอมพิวเตอร์ หรือ ไอแพด มากมายครับ
ผมว่าเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ชอบอ่านหนังสือของกูรู ต่างๆ แนะนำเลยครับ
ข้อเสียมันมีอย่างเดียวก็คือ มันทำให้เราซื้อหนังสือได้สะดวกเกินไป ครับ ฮ่าๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 404
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระแสe-bookและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
โพสต์ที่ 69
1. ตอนนี้มีหนังสือภาษาไทยรึยังครับใน kindle ถ้ายังคาดว่าอีกนานมั๊ยครับที่จะมี
2. ถ้าไม่นับ kindle แล้วมีเจ้าอื่นมั๊ยครับที่ว่าอ่านสบาย ๆ ตา ไม่มี refresh rate
อยากลองครับ แต่ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง
2. ถ้าไม่นับ kindle แล้วมีเจ้าอื่นมั๊ยครับที่ว่าอ่านสบาย ๆ ตา ไม่มี refresh rate
อยากลองครับ แต่ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง
ซื้อหุ้นไม่มี MOS ก็เหมือนขึ้นเรือไม่มีเสื้อชูชีพ