ขอคำแนะนำการลงทุน และการคำนวณ

[easytoread]

สวัสดีครับ VI ทุกท่าน

ขอรบกวนความรู้จากประสบการณ์ของทุกท่าน ช่วยในการวางแผนระยะยาวของผมด้วยนะครับ

ตอนนี้ผมอายุ 31 เพิ่งเริ่มซื้อ-ขายหุ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว

สนใจลงทุนแบบระยะยาว port ตอนนี้ 40,000 กว่าบาท เน้นหุ้นปันผลครับ CSL, MCS, SIRI

ผมกำลังทำไฟล์ excel เพื่อคำนวณการแผนการลงทุนระยะยาว เลยอยากขอคำปรึกษาครับ

เท่าที่วางแผนไว้ สิ้นปีนี้ (2011) port ผมคงมีประมาณ 80,000+-
และผมก็ทำ excel คำนวณไปอีก 15 ปี กะว่าจะซื้อหุ้นสะสมอีกปีละ 40,000 และเพิ่มขึ้นอีกปีละ 10%
รวมกับที่จะได้ปันผลมาอีกประมาณ 7%
เช่น
ปี 2012 ทั้งปี ผมก็จะซื้อหุ้นประมาณ 40,000 + 7%ของ(80,000)
สิ้นปี 2012 port = 130,000+-

ปี 2013 ทั้งปี ผมก็จะซื้อหุ้นประมาณ 44,000 + 7%ของ(130,000)
สิ้นปี 2013 port = 180,000+-
โดยประมาณ

ผมกะจะทำประมาณ 12-15 ปี โดยต้นทุนของหุ้นที่ลงไป กะว่าจะให้มียอดรวมประมาณ 1.8-2.0 ล้าน
ทีนี้คำถามคือ
1. จากต้นทุนที่ลงไป สมมติ 2 ล้าน , value ของหุ้นผม ในอีก 15 ปีข้างหน้าจะประมาณเท่าไหร่ครับ ?
- ผมอ่านหนังสือหลายๆเล่ม แล้วไม่แน่ใจทฤษฎี บางเล่มบอกว่าปกติใน 3 ปี จะมี 1 ปีที่หุ้นไม่โด ?
ไม่โตนี่แบบติดลบเลยปะครับ
ถ้าผมอยากจะเฉลี่ยว่าอีก 15 ปี ถ้าผมอยากรู้ value ของหุ้นผม ผมกะว่าโตปีละ 5% มากไปมั้ยครับ ?

2. สมมติอีก 15 ปี ใน port ผมมี value 3 ล้านบาท โดยผมถือแต่หุ้นปันผล โดยประมาณ 7%
- ผมก็จะได้รับปีละ 210,000 - ตกเดือนละ 18,000 ? คิดอย่างนี้ถูกปะครับ

3. กรณีอยากถือหุ้นยาวๆแบบนี้ หุ้นกลุ่มไหนน่าสนใจครับ

ขอบคุณมากครับทุกท่าน

ป.ล. ผมมีแบ่งการลงทุนไปเป็นประกันชีวิตแบบออม, สลากออมสินบางส่วนครับ
ไม่ได้ลงที่หุ้นทั้งหมดครับ

[chowbe76]

สวัสดีครับ VI ทุกท่าน
สวัสดีครับพี่
ขอรบกวนความรู้จากประสบการณ์ของทุกท่าน ช่วยในการวางแผนระยะยาวของผมด้วยนะครับ

ตอนนี้ผมอายุ 31 เพิ่งเริ่มซื้อ-ขายหุ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว

สนใจลงทุนแบบระยะยาว port ตอนนี้ 40,000 กว่าบาท เน้นหุ้นปันผลครับ CSL, MCS, SIRI

ผมกำลังทำไฟล์ excel เพื่อคำนวณการแผนการลงทุนระยะยาว เลยอยากขอคำปรึกษาครับ

เท่าที่วางแผนไว้ สิ้นปีนี้ (2011) port ผมคงมีประมาณ 80,000+-
ที่มี80,000นี้เข้าใจว่าต้องเพิ่มทุนด้วยใช่ไหมครับ
และผมก็ทำ excel คำนวณไปอีก 15 ปี กะว่าจะซื้อหุ้นสะสมอีกปีละ 40,000 และเพิ่มขึ้นอีกปีละ 10%
รวมกับที่จะได้ปันผลมาอีกประมาณ 7%
เช่น
ปี 2012 ทั้งปี ผมก็จะซื้อหุ้นประมาณ 40,000 + 7%ของ(80,000)
สิ้นปี 2012 port = 130,000+-

ปี 2013 ทั้งปี ผมก็จะซื้อหุ้นประมาณ 44,000 + 7%ของ(130,000)
สิ้นปี 2013 port = 180,000+-
โดยประมาณ
พี่ทำคล้ายๆBCAใช่ปะ แต่ต่างกันที่ทำแค่ปีละครั้ง และก็เลือกหุ้นในช่วงนั้นๆ -*-
ผมกะจะทำประมาณ 12-15 ปี โดยต้นทุนของหุ้นที่ลงไป กะว่าจะให้มียอดรวมประมาณ 1.8-2.0 ล้าน
ทีนี้คำถามคือ
1. จากต้นทุนที่ลงไป สมมติ 2 ล้าน , value ของหุ้นผม ในอีก 15 ปีข้างหน้าจะประมาณเท่าไหร่ครับ ?
- ผมอ่านหนังสือหลายๆเล่ม แล้วไม่แน่ใจทฤษฎี บางเล่มบอกว่าปกติใน 3 ปี จะมี 1 ปีที่หุ้นไม่โด ?
ไม่โตนี่แบบติดลบเลยปะครับ
ไม่จำเป็นครับ หุ้นพี่อาจจะโตทุกปีตลอด10ปีก็ได้ โดยเฉพาะถ้าพี่เน้นหุ้นปันผลน่ะ
ถ้าผมอยากจะเฉลี่ยว่าอีก 15 ปี ถ้าผมอยากรู้ value ของหุ้นผม ผมกะว่าโตปีละ 5% มากไปมั้ยครับ ?
พอร์ตหุ้นที่คาดหวังการเติบโต5%ถือว่าอนุรักษ์นิยมมากครับ เกือบจะแพ้เงินเฟ้อ
2. สมมติอีก 15 ปี ใน port ผมมี value 3 ล้านบาท โดยผมถือแต่หุ้นปันผล โดยประมาณ 7%
- ผมก็จะได้รับปีละ 210,000 - ตกเดือนละ 18,000 ? คิดอย่างนี้ถูกปะครับ
พี่ครับ หุ้นพี่ราคา3ล้าน แต่บางทีDividend Yield มันอาจจะลดลงนะครับ เพราะราคาหุ้นกับปันผลมันคนละเรื่องกัน
พี่อาจจะมีพอร์ตราคาล้านกว่าๆ แต่ได้ปันผลปีละ200,000ก็ได้ หรืออาจจะมีพอร์ตหกล้าน แต่ปันผลไม่ถึง100,000 ก็ยังได้ครับ
มันขึ้นอยู่กับว่ากลยุทธ์ที่พี่จะใช้คือดูตัวเลขของพอร์ตหรือดูเงินปันผลที่เข้ามาครับ
3. กรณีอยากถือหุ้นยาวๆแบบนี้ หุ้นกลุ่มไหนน่าสนใจครับ
อะไรก็ได้ครับที่พี่มั่นใจ ถ้าเป็นผม ผมจะหลีกเลี่ยงวัฏจักร
ขอบคุณมากครับทุกท่าน

ป.ล. ผมมีแบ่งการลงทุนไปเป็นประกันชีวิตแบบออม, สลากออมสินบางส่วนครับ
ดีแล้วครับ
ไม่ได้ลงที่หุ้นทั้งหมดครับ

[easytoread]

ขอบคุณมากเลยครับ

เท่าที่วางแผนไว้ สิ้นปีนี้ (2011) port ผมคงมีประมาณ 80,000+-
ที่มี80,000นี้เข้าใจว่าต้องเพิ่มทุนด้วยใช่ไหมครับ

ครับผม ภายในปีนี้ plan ไว้ว่าซื้อประมาณ 40,000 ครับ

ส่วนหุ้นที่อยู่ในแผน ก็พยายามเก็บแต่หุ้นปันผลครับ พยายามจะบังคับตัวเองไม่ให้ออกนอกทาง
ใน port ตอนนี้ และในอนาคต ไม่พ้นหุ้นเหล่านี้ครับ
CSL, MCS, SIRI, BCP,SE-ED แต่สัดส่วนก็คงดูต่อว่าจัดอย่างไรดี
ซึ่งถ้าผมถือแต่หุ้นที่มีปันผล 6%ขึ้นไปตลอด

ตอน port ผมซัก 2-3 ล้าน น่าจะพอเลี้ยงตัวได้

ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากครับ

[Visute]

ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่คิด ก็จะได้ตามที่คำนวนนะครับ แต่ว่า ไม่มีอะไรรับรองได้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร
อาจจะได้มากกว่าที่ คาดไว้มากๆ หรืออาจจะขาดทุนมากๆ ก็ได้ ขึ้นอยู่กับหุ้นที่คุณเลือก และความรู้ของเราเอง
พื้นฐานหุ้นเปลี่ยนไปได้เสมอ ลงทุนในความรู้เยอะๆ ก่อนนะครับ แล้วก็ปฏิบัติในการลงทุนอย่างระมัดระวังครับ
ผมเองก็เป็นมือใหม่ ระวังแบบสุดๆ เลยครับ

[easytoread]

ขอบคุณมากครับ

จริงแล้ว ถ้าเรามองย้อนหลังไปซัก 15 ปี Set อยู่ตรงไหนเหรอครับ

ขอบคุณครับ

[birthboro]

หุ้นที่ปันผลดีๆ ต้องระวังนะครับเพราะ
1. มันอาจปันผลดีในวันนี้ แต่พรุ่งนี้อาจจะไม่
2. มันอาจปันผลดีในเมื่อวานนี้ 10 ปีติด แต่พรุ่งนี้อาจจะไม่อีก

สรุปว่ายังไงต้องตามดูกิจการตลอดครับ ว่าทำอะไร ยังทำกำไรได้หรือไม่

การซื้อๆขายเป็นหายนะ
การซื้อแล้วถือไว้นานนานโดยไม่ดูก็เป็นหายนะไม่แพ้กันนะครับ

หาความรู้แล้วค่อยลงทุนนะครับ โชคดีในการลงทุนนะครับ

[easytoread]

ขอบคุณทุกท่านมากครับ คงต้องหาความรู้เพิ่มอีกเยอะ

ถามความคิดเห็นของทุกท่านได้มั้ยครับ แผนระยะยาวของแต่ละท่าน forecast ว่า value ของ port โตขึ้นปีละประมาณกี่%
ไม่รวมการซื้อเพิ่ม

ขอบคุณครับ

[harikung]

SE-ED ถ้าจะถือยาวต้องคอยติดตามธุรกิจจากนี้ไปให้ดีนะครับว่าจะปรับตัวเข้าสู่ยุคหนังสือdigitalได้ทันมั้ย ถ้าปรับตัวได้ก้อยาวครับ แต่ถ้าจับเทรนด์ไม่ทัน ปรับตัวช้า ถือยาวก้อเหนื่อยนะครับ ยิ่ง15ปีนี่ อะไรก้อเกิดขึ้นได้ครับ

ปล.ไม่เคยวิเคราะห์หุ้นนี้จิงจังนะครับ อาศัยการจับเทรนด์เอา เพราะผมเชื่อว่ามันกำลังมาแล้ว

[easytoread]

ขอบคุณมากครับ สำหรับคำแนะนำเรื่อง SE-ED
มีหุ้นตัวอื่น ในแวดวงหนังสือแนะนำมั้ยครับ

[harikung]

ใม่เป็นไรครับ คือว่าได้ลับสมองไปด้วย ส่วนหุ้นเกี่ยวกับหนังสือนั้นผมไม่ทราบจริงๆครับ ไม่แน่ใจว่า SE-EDเป็นตัวเดียวในตลาดหรือเปล่าด้วยซ้ำที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับหนังสือ จะมีเกี่ยวก้อพวกโรงพิมพ์ซึ่งผมเองก้อไม่ได้ศึกษากลุ่มพวกนี้จึงให้คำแนะนำไม่ได้ครับ
แต่อยากจะบอกว่าอย่าไปหลงหรือยึดติดกับอัตราเงินปันผลของปัจจุบันเกินไปนะครับ ต้องมองอนาคตด้วยว่าเค้าทำธุรกิจเติบโตไปได้มั้ย บางทีเราไปเลือกหุ้นบางตัวที่ปันผลเยอะอย่างเดียว แต่สภาพธุรกิจกำลังตกลงหรือเป็นcycle สู้ลองพิจารณาหุ้นที่ปันผลน้อยหน่อย แต่มองเห็นการเติบโตหรืออนาคตจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่านะครับ

[panwasit]

ขออภัยนะครับ พูดแล้วอาจรู้สึกไม่ดี

สำหรับผม เวลาผมคิด ผมจะคิดปันผลง่ายๆเป็นเดือนคือ

1ล้านบาท = 3000บาท/เดือน น่ะครับ

ดังนั้นต้องการเท่าไรดีเอ๋ย สมมุติผมต้องการ 15000 บาท/เดือน
ผมก็ต้องเอา 15000/3000 ก็จะได้ 5 หรือผมต้องมี5 ล้านบาทน่ะครับ

ที่จริงแล้ว 1ล้านบาท ได้3000บาทต่อเดือนนี่ ประมาณ แค่ 3.6 % เองนะครับ แต่อันนี้เผื่อเวลาบริษัท เศรษฐกิจแย่จริงจัง ก็จะได้ยังอยู่ได้น่ะครับ (กำไรลดเกือบครึ่งแบบนั้น)

ส่วนเรื่องอีกเรื่องที่อยากให้คิดนะครับ ระวังเรื่องเงินเฟ้อนะครับ

แล้วก็อย่าลืมเอาตังค์ เรื่องขอคืนภาษีด้วยนะครับ อิอิ สู้ๆไปด้วยกันนะครับ

ปล. ผมอย่าไม่อยากเรียนตัวเองว่า VI เลย ยังซื้อๆขายๆอยู่เลยก็มีสาเหตุนิดหน่อยน่ะ
1 หาหุ้นตัวใหม่ๆก่อน (พยายามหาตามแนวตัวเองนะ)
2 พอซื้อแล้วก็ไปอ่านเรื่องราวต่างๆย้อนรอยในเวปนี้ ประวัติที่เกี่ยวข้อง (ที่ต้องซื้อก่อนอ่านเพราะว่า ถ้าไม่ซื้อก่อนอ่าน มันไม่มีแรงอ่าน)
3 พออ่านเสร็จรู้สึกไม่พอใจ ก็เลยไม่เอาแล้ว ขายทิ้งเลย
4 เศร้า ขาดทุนอีกด้วย อิอิ

[worapong]

ถ้าอยากถือยาวมากๆนี่ หุ้นเติบโตก็น่าสนใจมากครับ แล้วก็อย่ามองแค่ปีเดียวแต่มองยาวๆหน่อย ว่า 4-5 ปีข้างหน้า บริษัทไหนจะเติบโตได้จริงๆ ลองเข้าไปดูแนวคิดที่ http://dekisugi.net/7thltg ดูนะครับ แต่ไม่ได้หมายความว่าให้ไปซื้อตามทันทีนะครับ ลองศึกษาดูก่อน แล้วมองหาหุ้นที่เราเข้าใจได้ เพราะ แต่ละคนมี circle of competence ไม่เหมือนกันครับ

[easytoread]

ขอบคุณมากครับ จะศึกษาและหาข้อมูลมา share กันครับ
ได้แนวทางไว้ศึกษาเพิ่มเติมอีกเยอะเลย

[Visute]

ความคาดหวังผลตอบแทน ตามที่ท่านอาจารย์นิเวศน์เคยให้ไว้ก็ประมาณ 10% ต่อปีครับ แบบคอนเซอร์เวทีฟหน่อย
แต่ถ้าเก่งมากก็อาจจะคาดหวังที่ 15-20% ครับ
แต่ส่วนตัว ขอทำให้ได้ปีละ 10% ก็พอใจแล้วครับ

[doc_zodi]

เข้ามาลงทุนแรก ๆ ผมก็เป็นอย่างนี้ครับ ตั้งกฎเกณฑ์ว่าต้องทำอย่างนั้น อย่างนี้ ต้องมีวินัยในการทำตามแผน

แต่พอลงทุนมาซักระยะ ประสบการณ์ที่มากขึ้น ความรู้ที่มากขึ้น

ตอนนี้ก็ไม่ได้ทำตามที่ตัวเองตั้งเกณฑ์ไว้เท่าไหร่ ต้องแยกให้ออกระหว่าง วินัย กับ ดันทุรัง และ การยืดหยุ่น แต่ยังคงอยู่ในหลักการที่ตั้งใจ

ที่อยากบอกคือตลาดหุ้นมัน dynamic ต้องรู้จักวางทางหนีทีไร่ไว้ให้ดี รู้จักเรียนรู้การปรับพอร์ทด้วยนะครับ

ถ้าเน้นหุ้นปันผล แนะนำอ่านหนังสือของ อ.เทพ รุ่งธนาภิรมย์ ชุดหุ้นห่านทองคำครับ มี 3 เล่ม

สู้ๆ ครับ

[doc_zodi]

เข้ามาลงทุนแรก ๆ ผมก็เป็นอย่างนี้ครับ ตั้งกฎเกณฑ์ว่าต้องทำอย่างนั้น อย่างนี้ ต้องมีวินัยในการทำตามแผน

แต่พอลงทุนมาซักระยะประสบการณ์ที่มากขึ้น ความรู้ที่มากขึ้น

ตอนนี้ก็ไม่ได้ทำตามที่ตัวเองตั้งเกณฑ์ไว้เท่าไหร่ ต้องแยกให้ออกระหว่าง วินัย กับ ดันทุรัง และการยืดหยุ่นแต่ยังคงอยู่ในหลักการที่ตั้งใจ

ที่อยากบอกคือตลาดหุ้นมัน dynamic ต้องรู้จักวางทางหนีทีไร่ไว้ให้ดี รู้จักเรียนรู้การปรับพอร์ทด้วยนะครับ

ถ้าเน้นหุ้นปันผล แนะนำอ่านหนังสือของ อ.เทพ รุ่งธนาภิรมย์ ชุดหุ้นห่านทองคำครับ มี 3 เล่ม

สู้ๆ ครับ

ขออภัยครับ พิมพ์เพลิน ทางหนีทีไล่

[easytoread]

ขอบคุณมากครับ รับทราบและนำไปทบทวนความคิดดูครับ