การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
-
- Verified User
- โพสต์: 216
- ผู้ติดตาม: 0
การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
โพสต์ที่ 1
คือมีญาติๆและเพื่อนจะฝากเงินให้ผมช่วยลงทุนและบริหารพอร์ตให้
อยากจะสอบถามเพื่อนๆพี่ๆว่ามีการจัดการยังไงบ้างครับ เช่น
1. จะรวมกับพอร์ตเรา หรือแยกไปเลย และมีการ record ยังไง
2. มีการแบ่งผลกำไร หรือผลตอบแทนยังไง
3. หรือยังต้องมีเงื่อนไขอะไรอีกหรือเปล่าครับ
ขอบคุณครับ
อยากจะสอบถามเพื่อนๆพี่ๆว่ามีการจัดการยังไงบ้างครับ เช่น
1. จะรวมกับพอร์ตเรา หรือแยกไปเลย และมีการ record ยังไง
2. มีการแบ่งผลกำไร หรือผลตอบแทนยังไง
3. หรือยังต้องมีเงื่อนไขอะไรอีกหรือเปล่าครับ
ขอบคุณครับ
- Tibular
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 522
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
โพสต์ที่ 2
1 แยกพอร์ตคับ ชัดเจนให้เค้าเช็คได้ด้วย
ก็มีให้เค้าเปิดพอร์ตแล้วเราก็มอบอำนาจ หรือถ้าสนิทก็เอาง่ายๆเอาพาสเวิร์ดเค้ามาให้เราเทรด
(แต่แนะนำให้มอบอำนาจเป็นเรื่องเป็นราว)
2 ก็คงมีค่าบริหารจัดการคับ คิดแบบกองทุนก็ง่ายๆ 0.25-1% ของสินทรัพย์สุทธิ
3 ผลตอบแทนตามกำไรที่เพิ่มขึ้น อาจจะอยู่ในช่วง 10-20% ของกำไรที่ทำได้
4 เงื่อนไขเพิ่มเติมก็ต้องตกลงว่าถ้าขาดทุน เราจะรับประกันให้ หรือไม่รับประกันให้
หรือถ้าได้กำไรไม่เป็นที่น่าพอใจก็อาจไม่คิดค่าบริหาร กับผลตอบแทนตามกำไรที่เพิ่มขึ้นเป็นต้น
อันนี้ต้องตกลงกันให้ดี สำคัญมาก เพราะเค้าต้องไว้ใจอย่างมากถึงจะให้บริหารเงินให้
ถ้ารับประกันเงินต้น ว่าเราบริหารแล้วถ้าขาดทุนเราจะมีเงินต้นครบให้เค้า
หรืออย่างน้อยต้องไม่ให้ต่ำกว่าดอกเบี้ยฝากประจำเท่าที่ระยะเวลาเราบริหารหรือ
เท่ากับดอบเบี้ยพันธบัตรสำหรับระยะเวลาที่เราบริหาร หรือไม่ต่ำกว่าเงินปันผลรวมของตลาดหลักทรัพย์
แต่ต้องมีระยะเวลาการบริหารกองทุนนะคับ ควรจะอย่างน้อย 1-3 ปีขึ้นไป
5 คงต้องมีการรายงานผลการลงทุนให้ทราบเป็นระยะครึ่งปี หนี่งปี ไม่ใช่ทุกวันทุกเดือน 55
นโยบายการลงทุน การเลือกหุ้น สตอรี่ของหุ้นที่อยู่ในพอร์ตคร่าวๆ สภาวะตลาด เศรษฐกิจ อีกนิดนึง
ก็คงพอเป็นแนวทางได้นะคับ
ก็มีให้เค้าเปิดพอร์ตแล้วเราก็มอบอำนาจ หรือถ้าสนิทก็เอาง่ายๆเอาพาสเวิร์ดเค้ามาให้เราเทรด
(แต่แนะนำให้มอบอำนาจเป็นเรื่องเป็นราว)
2 ก็คงมีค่าบริหารจัดการคับ คิดแบบกองทุนก็ง่ายๆ 0.25-1% ของสินทรัพย์สุทธิ
3 ผลตอบแทนตามกำไรที่เพิ่มขึ้น อาจจะอยู่ในช่วง 10-20% ของกำไรที่ทำได้
4 เงื่อนไขเพิ่มเติมก็ต้องตกลงว่าถ้าขาดทุน เราจะรับประกันให้ หรือไม่รับประกันให้
หรือถ้าได้กำไรไม่เป็นที่น่าพอใจก็อาจไม่คิดค่าบริหาร กับผลตอบแทนตามกำไรที่เพิ่มขึ้นเป็นต้น
อันนี้ต้องตกลงกันให้ดี สำคัญมาก เพราะเค้าต้องไว้ใจอย่างมากถึงจะให้บริหารเงินให้
ถ้ารับประกันเงินต้น ว่าเราบริหารแล้วถ้าขาดทุนเราจะมีเงินต้นครบให้เค้า
หรืออย่างน้อยต้องไม่ให้ต่ำกว่าดอกเบี้ยฝากประจำเท่าที่ระยะเวลาเราบริหารหรือ
เท่ากับดอบเบี้ยพันธบัตรสำหรับระยะเวลาที่เราบริหาร หรือไม่ต่ำกว่าเงินปันผลรวมของตลาดหลักทรัพย์
แต่ต้องมีระยะเวลาการบริหารกองทุนนะคับ ควรจะอย่างน้อย 1-3 ปีขึ้นไป
5 คงต้องมีการรายงานผลการลงทุนให้ทราบเป็นระยะครึ่งปี หนี่งปี ไม่ใช่ทุกวันทุกเดือน 55
นโยบายการลงทุน การเลือกหุ้น สตอรี่ของหุ้นที่อยู่ในพอร์ตคร่าวๆ สภาวะตลาด เศรษฐกิจ อีกนิดนึง
ก็คงพอเป็นแนวทางได้นะคับ
- leaderinshadow
- Verified User
- โพสต์: 1765
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
โพสต์ที่ 3
ง่ายๆ สั้นๆ ปวดหัวครับ :lol:
1.ให้เค้าเปิดพอร์ตเอง เป็นชื่อเค้า เงินเค้า จะได้สบายใจ เราแค่คีย์ซื้อขายให้
2.ค่าบริหาร ตามแต่ตกลง แต่ถ้าจะให้ถูกกฏหมาย คือ ไปสอบใบอนุญาติ ตั้ง Private fund ลงทุนขึ้นต่ำ 30 ล้าน :lol:
3.เงื่อนไข ตกลงกันเอง ของผมขอเงินเย็น อย่างน้อย 3 ปี บวก ต้องคุยรายละเอียดกันเป็นวัน ขาดทุนไม่รับผิดชอบ เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง
แต่พอเอาเข้าจริง แล้วจะเจอเรื่องปวดหัวมากมาย
ล่าสุด ลงทุนมาแค่ 4 เดือน กำไรไป 40% บอกว่าอยากถอนเอาเงินไปทำบุญ
สงสัยคิดว่าถูกหวยมั้ง บอกว่า เผื่อจะได้ดวงดี อ้าวๆๆ กรรม
ก็ตกลงว่าเงินเย็น 3 ปี ผมก็บอกว่า รออีก 3 ปี เดี่ยวได้ทำบุญมากกว่านี้
ตอนแรกก็เหมือนตกลง ตอนหลังเปลี่ยนใจ
มารู้ทีหลัง มี Marketing มาชวนเล่นเก็งกำไร สงสัยจะติดใจ คิดว่าตลาดหุ้นเป็นหมูมั้ง
ก็เลยแบ่งพอร์ต ไปเก็งกำไร
ล่าสุด โทรมาถามว่า ติดดอยทุกตัวทำไงดี - - !
ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นญาติกัน ผมคงจะปิดพอร์ต ยกเลิกการบริหารไปแล้ว
แต่เห็นว่า ญาติเค้าบ่นว่า ฝากแบงค์ ได้ดอกต่ำ ผมก็เลยช่วยจัดพอร์ตลงทุนให้
ถือว่าช่วยๆกัน
ลองคิดดูว่า ขนาดพอร์ตมีกำไรยังมีเรื่องให้น่าปวดหัวขนาดนี้
ถ้าขนาดทุน ไม่ทะเลาะกันตายหรอ ?
แต่ตัวผมเองให้สิทธิพิเศษคือ ไม่ถึงล้าน ผมไม่คิดตัง
ก็เลย ทำให้ตัดปัญหาบางเรื่องไปได้บ้าง เพราะกว่าจะได้คิดตัง คงอีกหลายปี :lol:
แต่ผมกลับได้ความรู้สึกสนุกมาแทน
เพราะเหมือนกับว่า ผมกำลังบริหารเงินแสน ให้กลายเป็นเงินล้าน อีกรอบ
ทำให้เกิดความรู้สึกท้าทาย เหมือนได้กำลังหาล้านแรกใหม่อีกครั้ง
1.ให้เค้าเปิดพอร์ตเอง เป็นชื่อเค้า เงินเค้า จะได้สบายใจ เราแค่คีย์ซื้อขายให้
2.ค่าบริหาร ตามแต่ตกลง แต่ถ้าจะให้ถูกกฏหมาย คือ ไปสอบใบอนุญาติ ตั้ง Private fund ลงทุนขึ้นต่ำ 30 ล้าน :lol:
3.เงื่อนไข ตกลงกันเอง ของผมขอเงินเย็น อย่างน้อย 3 ปี บวก ต้องคุยรายละเอียดกันเป็นวัน ขาดทุนไม่รับผิดชอบ เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง
แต่พอเอาเข้าจริง แล้วจะเจอเรื่องปวดหัวมากมาย
ล่าสุด ลงทุนมาแค่ 4 เดือน กำไรไป 40% บอกว่าอยากถอนเอาเงินไปทำบุญ
สงสัยคิดว่าถูกหวยมั้ง บอกว่า เผื่อจะได้ดวงดี อ้าวๆๆ กรรม
ก็ตกลงว่าเงินเย็น 3 ปี ผมก็บอกว่า รออีก 3 ปี เดี่ยวได้ทำบุญมากกว่านี้
ตอนแรกก็เหมือนตกลง ตอนหลังเปลี่ยนใจ
มารู้ทีหลัง มี Marketing มาชวนเล่นเก็งกำไร สงสัยจะติดใจ คิดว่าตลาดหุ้นเป็นหมูมั้ง
ก็เลยแบ่งพอร์ต ไปเก็งกำไร
ล่าสุด โทรมาถามว่า ติดดอยทุกตัวทำไงดี - - !
ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นญาติกัน ผมคงจะปิดพอร์ต ยกเลิกการบริหารไปแล้ว
แต่เห็นว่า ญาติเค้าบ่นว่า ฝากแบงค์ ได้ดอกต่ำ ผมก็เลยช่วยจัดพอร์ตลงทุนให้
ถือว่าช่วยๆกัน
ลองคิดดูว่า ขนาดพอร์ตมีกำไรยังมีเรื่องให้น่าปวดหัวขนาดนี้
ถ้าขนาดทุน ไม่ทะเลาะกันตายหรอ ?
แต่ตัวผมเองให้สิทธิพิเศษคือ ไม่ถึงล้าน ผมไม่คิดตัง
ก็เลย ทำให้ตัดปัญหาบางเรื่องไปได้บ้าง เพราะกว่าจะได้คิดตัง คงอีกหลายปี :lol:
แต่ผมกลับได้ความรู้สึกสนุกมาแทน
เพราะเหมือนกับว่า ผมกำลังบริหารเงินแสน ให้กลายเป็นเงินล้าน อีกรอบ
ทำให้เกิดความรู้สึกท้าทาย เหมือนได้กำลังหาล้านแรกใหม่อีกครั้ง
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
โพสต์ที่ 4
การคิดค่าใช้จ่าย ของนักบริหารระดับโลก
ไม่ใช่ญาติกัน แต่ทำเป็นอาชีพ
จาก Block คุณสุมาอี้ล่าสุด
http://www.dekisugi.net/
หน้า 4
http://www.slideshare.net/gurjeit/forbes-onbuffett
เอาไว้เป็น reference
ไม่ใช่ญาติกัน แต่ทำเป็นอาชีพ
จาก Block คุณสุมาอี้ล่าสุด
http://www.dekisugi.net/
ส่วนของปู่บัฟฟ์ Buffet Partnership 25%Carl Icahn, เป็นนักลงทุนที่ร่ำรวยเป็นอันดับ 5 ของโลก ตามการจัดอันดับของ Forbes เขามีสินทรัพย์รวม $10.5 billions
อาชีพหลักของเขาคือ การบริหาร Private Equity ซึ่งเงินส่วนหนึ่งเป็นเงินของเขาเอง (นักลงทุนที่จะร่วมหุ้นกับเขาได้ จะต้องมีเงินลงทุนขั้นต่ำ $25 millions, ค่าบริหาร 2.5% ต่อปี และ profit sharing 25% ของกำไร)
หน้า 4
http://www.slideshare.net/gurjeit/forbes-onbuffett
เอาไว้เป็น reference
- leaderinshadow
- Verified User
- โพสต์: 1765
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
โพสต์ที่ 5
การจัดเก็บค่าบริหาร แบบ profit sharing
ไม่อนุญาตให้ทำในประเทศไทยนะครับ เพราะมันคือ Hedge fund
แต่ถ้าเป็นสัญญาใจ ไม่ได้ทำเป็นเรื่องเป็นราว ก็ไม่มีปัญหา
ไม่อนุญาตให้ทำในประเทศไทยนะครับ เพราะมันคือ Hedge fund
แต่ถ้าเป็นสัญญาใจ ไม่ได้ทำเป็นเรื่องเป็นราว ก็ไม่มีปัญหา
- Paul Octopus
- Verified User
- โพสต์: 798
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
โพสต์ที่ 6
ภาษาจีนต้องร้องว่า "เท้าฮิ้ง" :lovl:
ให้ญาติๆปรึกษา wealth manager ของ Bank ใหญ่ๆให้ดูแลให้ดีกว่ามั๊ยครับ หรือ ซื้อกองทุนในหุ้นไปเลย
ผม กลัวที่สุดเลยเรื่องนี้ เสียเงินไม่เท่าไหร่ มาเสียความรู้สึกกันในหมู่เครือญาติ มันไม่คุ้มเลยนะครับ
ผมเอง ของเมียผม ผมยังไม่กล้าบริหารให้เลย ให้แค่ความเห็น ก็แย่แล้ว
ให้ญาติๆปรึกษา wealth manager ของ Bank ใหญ่ๆให้ดูแลให้ดีกว่ามั๊ยครับ หรือ ซื้อกองทุนในหุ้นไปเลย
ผม กลัวที่สุดเลยเรื่องนี้ เสียเงินไม่เท่าไหร่ มาเสียความรู้สึกกันในหมู่เครือญาติ มันไม่คุ้มเลยนะครับ
ผมเอง ของเมียผม ผมยังไม่กล้าบริหารให้เลย ให้แค่ความเห็น ก็แย่แล้ว
- leaderinshadow
- Verified User
- โพสต์: 1765
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
โพสต์ที่ 7
ฝ่าย Private baker ของ bank เค้าโฟกัส ไปที่ลูกค้าที่มี wealth ระดับ 10 ล้าน Up ครับ
ล้านกว่าๆ อย่างมากก็ได้แค่ปรึกษากับ Financial Planner (อย่าง K-we plan)
อย่างมากเค้าก็จัด กองทุน ตราสารหนี้ ตราสารทุน ประกันชีวิต ให้ครับ
จะให้จัดตั้ง Private fund คงทำไม่ได้ เพราะขึ้นต่ำก็ 30 ล้านแล้ว (ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าเมื่อก่อนจะ 50 ล้าน)
แถมจะให้หากองทุนที่ลงทุนไตล์ VI ก็หายาก
ไล่ดูผลตอบแทนกองทุน ก็ไม่น่าสนใจ ยกเว้นพวกที่ได้แต้มต่อด้านภาษีอย่าง LTF
ถึงจะทำให้ได้ผลตอบแทนค่อยน่าสนใจหน่อย
ส่วนเป้าหมายผลตอบผม อยู่ที่ปีละ 25% ครับ
แต่ความเป็นจริง ผมว่าผมทำได้เกินนะ
แต่ก็พยายามรักษาผลตอบแทนระดับนี้ให้ได้ระดับนี้
และเท่าที่ดู รายเก่าๆที่ผมดูแลให้ นานกว่า 1 ปี ตอนนี้ตอบแทนอยู่ที่ 100-300%
เจอหน้ากันทีไร เพื่อนผมเลี้ยงข้าวตลอด :lol:
ส่วนใหญ่ ถ้าเป็นวัยรุ่น จะไม่ค่อยมีปัญหาครับ
จะเจอปัญหากับคนที่เค้าเป็นเจ้าของกิจการ หรือ มีอายุมากกว่า
กลุ่มนี้ บางทียังไม่เข้าใจการลงทุน แถมบางครั้งก็ชอบการเก็งกำไร
จะคุยยากกว่า คนรุ่นใหม่ที่เข้าใจการลงทุนครับ
แต่ถ้าคิดจะทำ ต้องถามตัวเองก่อนว่า แน่ใจนะว่า คุณจะไปรับผิดชอบเงินของคนอื่นได้
ผมบอก และย้ำเสมอ กับคนที่เอาเงินมาให้ผมช่วยดูแลให้ว่า "เงินตรงนี้อาจจะหายหมดได้นะ"
ถ้ารับตรงนี้ไม่ได้ ก็เอาไปฝากแบงค์ ปลอดภัยกว่า
ปล. เหมือนเยอะนะครับ แต่ที่จริงคนที่ผมดูแลอยู่ก็มีแค่ 5-6 คนเอง (แบบมอบอำนาจให้เต็มที่)
ทำให้แก้เบื่อมากกว่าจะคิดเป็นจริงเป็นจังครับ :lol:
ล้านกว่าๆ อย่างมากก็ได้แค่ปรึกษากับ Financial Planner (อย่าง K-we plan)
อย่างมากเค้าก็จัด กองทุน ตราสารหนี้ ตราสารทุน ประกันชีวิต ให้ครับ
จะให้จัดตั้ง Private fund คงทำไม่ได้ เพราะขึ้นต่ำก็ 30 ล้านแล้ว (ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าเมื่อก่อนจะ 50 ล้าน)
แถมจะให้หากองทุนที่ลงทุนไตล์ VI ก็หายาก
ไล่ดูผลตอบแทนกองทุน ก็ไม่น่าสนใจ ยกเว้นพวกที่ได้แต้มต่อด้านภาษีอย่าง LTF
ถึงจะทำให้ได้ผลตอบแทนค่อยน่าสนใจหน่อย
ส่วนเป้าหมายผลตอบผม อยู่ที่ปีละ 25% ครับ
แต่ความเป็นจริง ผมว่าผมทำได้เกินนะ
แต่ก็พยายามรักษาผลตอบแทนระดับนี้ให้ได้ระดับนี้
และเท่าที่ดู รายเก่าๆที่ผมดูแลให้ นานกว่า 1 ปี ตอนนี้ตอบแทนอยู่ที่ 100-300%
เจอหน้ากันทีไร เพื่อนผมเลี้ยงข้าวตลอด :lol:
ส่วนใหญ่ ถ้าเป็นวัยรุ่น จะไม่ค่อยมีปัญหาครับ
จะเจอปัญหากับคนที่เค้าเป็นเจ้าของกิจการ หรือ มีอายุมากกว่า
กลุ่มนี้ บางทียังไม่เข้าใจการลงทุน แถมบางครั้งก็ชอบการเก็งกำไร
จะคุยยากกว่า คนรุ่นใหม่ที่เข้าใจการลงทุนครับ
แต่ถ้าคิดจะทำ ต้องถามตัวเองก่อนว่า แน่ใจนะว่า คุณจะไปรับผิดชอบเงินของคนอื่นได้
ผมบอก และย้ำเสมอ กับคนที่เอาเงินมาให้ผมช่วยดูแลให้ว่า "เงินตรงนี้อาจจะหายหมดได้นะ"
ถ้ารับตรงนี้ไม่ได้ ก็เอาไปฝากแบงค์ ปลอดภัยกว่า
ปล. เหมือนเยอะนะครับ แต่ที่จริงคนที่ผมดูแลอยู่ก็มีแค่ 5-6 คนเอง (แบบมอบอำนาจให้เต็มที่)
ทำให้แก้เบื่อมากกว่าจะคิดเป็นจริงเป็นจังครับ :lol:
- canuseeme
- Verified User
- โพสต์: 302
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
โพสต์ที่ 8
โดยพื้นฐานคนไทย คงยังไม่เหมาะละมั้งครับ
จะเสียเพื่อน เสีย ญาติกันซะ ก่อน
ลักษณะพื้นฐาน คนไทย แนว มากนะครับ
ตอนนี้ผม บริหารให้ พ่อแม่ เท่านั้น(เพราะคนอื่นไม่ไว้ใจผม นะ สิ 555)
แค่ ตอน สมัคร ก็ บ่น แล้ว ครับ (ไอ้ผม ก็ ปากเสีย ตอบไปว่า "ไม่ได้ซื้อ หวย นะแม่ มันมี ขั้น มี ตอน")
จะเสียเพื่อน เสีย ญาติกันซะ ก่อน
ลักษณะพื้นฐาน คนไทย แนว มากนะครับ
ตอนนี้ผม บริหารให้ พ่อแม่ เท่านั้น(เพราะคนอื่นไม่ไว้ใจผม นะ สิ 555)
แค่ ตอน สมัคร ก็ บ่น แล้ว ครับ (ไอ้ผม ก็ ปากเสีย ตอบไปว่า "ไม่ได้ซื้อ หวย นะแม่ มันมี ขั้น มี ตอน")
ปัญญาไม่มีในผู้ไม่พิจารณา
There is no fate but what we make
https://www.facebook.com/pages/คัดหุ้นซวย
There is no fate but what we make
https://www.facebook.com/pages/คัดหุ้นซวย
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
โพสต์ที่ 9
บริหารให้แม่ยายครับ
ของผม คิดง่ายๆคือ10%จากกำไร ไม่ว่าเท่าไหร่ก็10%ไม่มีค่าบริหารอื่นๆ
ตอนแรกขอแค่5%แต่แม่ยายให้10%เลย :lol:
ถ้าเอาค่าคอมมาแล้ว เกิดวันดีคืนดี กลับมาขาดทุน ก็คืนส่วนที่เอามาคืนให้ครับ
อันนี้เฉพาะสำหรับแม่ยาย ส่วนของคนอื่นยังไม่เคยคิดจะบริหารให้เลย
เพราะเข้าใจว่ามันปวดเฮดมาก
ของผม คิดง่ายๆคือ10%จากกำไร ไม่ว่าเท่าไหร่ก็10%ไม่มีค่าบริหารอื่นๆ
ตอนแรกขอแค่5%แต่แม่ยายให้10%เลย :lol:
ถ้าเอาค่าคอมมาแล้ว เกิดวันดีคืนดี กลับมาขาดทุน ก็คืนส่วนที่เอามาคืนให้ครับ
อันนี้เฉพาะสำหรับแม่ยาย ส่วนของคนอื่นยังไม่เคยคิดจะบริหารให้เลย
เพราะเข้าใจว่ามันปวดเฮดมาก
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
-
- Verified User
- โพสต์: 278
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
โพสต์ที่ 10
มาดามบริหารพอร์ตให้เพื่อนสนิทเหมือนกันค่ะ
แต่ต้องตกลงกันให้ชัดเจนก่อน จะได้ไม่มานั่งทะเลาะกันทีหลังค่ะ
คิดกำไรแบบอัตราก้าวหน้าค่ะ แต่ไม่เกิน 50%
เช่น เงินลงทุน 1 ล้านบาท ได้กำไร 10% เป็นเงิน 1 แสนบาท
มาดามก็จะได้ 10% ของ 1 แสนบาทนี้ค่ะ (1 หมื่นบาท)
เงินลงทุน 1 ล้านบาท ได้กำไร 200% เป็นเงิน 2 ล้านบาท (ไม่รวมเงินลงทุน)
มาดามก็จะได้ 50% ของ 2 ล้านบาทนี้ค่ะ (1 ล้านบาท)
ที่ผ่านมาไม่มีปัญหานะคะ เพราะได้กำไรมาตลอด :lol:
แต่ต้องตกลงกันให้ชัดเจนก่อน จะได้ไม่มานั่งทะเลาะกันทีหลังค่ะ
คิดกำไรแบบอัตราก้าวหน้าค่ะ แต่ไม่เกิน 50%
เช่น เงินลงทุน 1 ล้านบาท ได้กำไร 10% เป็นเงิน 1 แสนบาท
มาดามก็จะได้ 10% ของ 1 แสนบาทนี้ค่ะ (1 หมื่นบาท)
เงินลงทุน 1 ล้านบาท ได้กำไร 200% เป็นเงิน 2 ล้านบาท (ไม่รวมเงินลงทุน)
มาดามก็จะได้ 50% ของ 2 ล้านบาทนี้ค่ะ (1 ล้านบาท)
ที่ผ่านมาไม่มีปัญหานะคะ เพราะได้กำไรมาตลอด :lol:
- BeSmile
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1178
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
โพสต์ที่ 11
เสี่ยงเหลือเกิน เสี่ยงเหลือเกิน ...nanchan เขียน:บริหารให้แม่ยายครับ
ของผม คิดง่ายๆคือ10%จากกำไร ไม่ว่าเท่าไหร่ก็10%ไม่มีค่าบริหารอื่นๆ
ตอนแรกขอแค่5%แต่แม่ยายให้10%เลย :lol:
ถ้าเอาค่าคอมมาแล้ว เกิดวันดีคืนดี กลับมาขาดทุน ก็คืนส่วนที่เอามาคืนให้ครับ
...
ป๋านัน แซวเล่น นะครับ
มีสติ - อย่าประมาทในการใช้ชีวิต
- leaderinshadow
- Verified User
- โพสต์: 1765
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
โพสต์ที่ 12
:lol:
ตอนนี้แม่ยายพี่ nanchan คงปลื้มลูกเขยสุดๆแน่เลย
ตอนนี้ พอนั่งอ่านไป อ่านมา คิดไป คิดมา
คิดว่าการบริหารพอร์ตตัวเองง่ายไปเลยครับ
แต่การช่วยบริหารพอร์ต (โดยเฉพาะให้คนพิเศษ) มันช่างน่ากลัวๆ
กำไรเสมอตัว ขาดทุนชะตาขาด :lol:
ตอนนี้แม่ยายพี่ nanchan คงปลื้มลูกเขยสุดๆแน่เลย
ตอนนี้ พอนั่งอ่านไป อ่านมา คิดไป คิดมา
คิดว่าการบริหารพอร์ตตัวเองง่ายไปเลยครับ
แต่การช่วยบริหารพอร์ต (โดยเฉพาะให้คนพิเศษ) มันช่างน่ากลัวๆ
กำไรเสมอตัว ขาดทุนชะตาขาด :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
โพสต์ที่ 13
จริงๆบริหารพอร์ตให้แม่ยายผมนี่ ค่อนข้างง่ายมากเลยนะ
แม่ยายผม
ไม่ดูพอร์ต ไม่พูดมาก ไม่เสนอแนะไร
ถือว่าเป็นนักลงทุนผ่านผู้ดูแลที่ดีทีเดียว
จริงๆผมก็ใช่ว่าอยากจะเอา%หรอกนะ แต่คิดว่ามันเป็นแรงกระตุ้นอย่างนึง
ส่วนถ้ากลับมาขาดทุนเมื่อไร แล้วยินดีคืนให้ ก็เป็นกุศโลบายที่ผมวางไว้อีกเช่นกัน
คือถ้าเราทำให้กำไรได้ เราต้องรู้จักรักษากำไรให้เค้าไว้ได้ด้วย ไม่ใช่คิดจะเอาได้อย่างเดียว
การบริหารให้คนอื่น มันก็มีข้อดีเหมือนกัน ช่วยให้ผมวางแผนมากขึ้น คิดมากขึ้น รอบคอบมากขึ้น ดังนั้นผมจึงรู้สึกขอบคุณที่เค้าไว้ใจผมมากกว่านะ
แม่ยายผม
ไม่ดูพอร์ต ไม่พูดมาก ไม่เสนอแนะไร
ถือว่าเป็นนักลงทุนผ่านผู้ดูแลที่ดีทีเดียว
จริงๆผมก็ใช่ว่าอยากจะเอา%หรอกนะ แต่คิดว่ามันเป็นแรงกระตุ้นอย่างนึง
ส่วนถ้ากลับมาขาดทุนเมื่อไร แล้วยินดีคืนให้ ก็เป็นกุศโลบายที่ผมวางไว้อีกเช่นกัน
คือถ้าเราทำให้กำไรได้ เราต้องรู้จักรักษากำไรให้เค้าไว้ได้ด้วย ไม่ใช่คิดจะเอาได้อย่างเดียว
การบริหารให้คนอื่น มันก็มีข้อดีเหมือนกัน ช่วยให้ผมวางแผนมากขึ้น คิดมากขึ้น รอบคอบมากขึ้น ดังนั้นผมจึงรู้สึกขอบคุณที่เค้าไว้ใจผมมากกว่านะ
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
-
- Verified User
- โพสต์: 393
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
โพสต์ที่ 14
โอ้โห คุณมาดามนี่หัวก้าวหน้ามากเลยนะครับmadam เขียน: คิดกำไรแบบอัตราก้าวหน้าค่ะ แต่ไม่เกิน 50%
เช่น เงินลงทุน 1 ล้านบาท ได้กำไร 10% เป็นเงิน 1 แสนบาท
มาดามก็จะได้ 10% ของ 1 แสนบาทนี้ค่ะ (1 หมื่นบาท)
เงินลงทุน 1 ล้านบาท ได้กำไร 200% เป็นเงิน 2 ล้านบาท (ไม่รวมเงินลงทุน)
มาดามก็จะได้ 50% ของ 2 ล้านบาทนี้ค่ะ (1 ล้านบาท)
:lol:
ของผมคิด อัตราคงที่ 10% ของกำไร สงสัยต้องลองเอาอัตราก้าวหน้าไปใช้บ้าง
-
- Verified User
- โพสต์: 278
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
โพสต์ที่ 15
มันเป็นกุศโลบายที่มาดามต้องทำผลตอบแทนสูงๆ ให้เพื่อนค่ะsupparoj เขียน:โอ้โห คุณมาดามนี่หัวก้าวหน้ามากเลยนะครับmadam เขียน: คิดกำไรแบบอัตราก้าวหน้าค่ะ แต่ไม่เกิน 50%
เช่น เงินลงทุน 1 ล้านบาท ได้กำไร 10% เป็นเงิน 1 แสนบาท
มาดามก็จะได้ 10% ของ 1 แสนบาทนี้ค่ะ (1 หมื่นบาท)
เงินลงทุน 1 ล้านบาท ได้กำไร 200% เป็นเงิน 2 ล้านบาท (ไม่รวมเงินลงทุน)
มาดามก็จะได้ 50% ของ 2 ล้านบาทนี้ค่ะ (1 ล้านบาท)
:lol:
ของผมคิด อัตราคงที่ 10% ของกำไร สงสัยต้องลองเอาอัตราก้าวหน้าไปใช้บ้าง
เพราะตัวเองจะได้ค่าตอบแทนเป็นจำนวนเงินที่สูงเช่นกันค่ะ
- airazoc
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 904
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
โพสต์ที่ 16
จริงๆ เท่าที่ผมเคยเห็นมา ที่รับบริหารให้เพื่อนหรือญาติ จะมีสองแบบหลักๆ ซึ่งค่าแรงต่างกันมาก
แบบแรก คือบริหารให้เฉยๆ อันนี้ส่วนใหญ่คิดค่าแรงกันไม่เยอะ 10% ของกำไร ขาดทุนไม่คิดค่าแรง ไม่ประกันเงินต้น ขาดทุนก็ต้องรับได้ เจ้าของเงินยังรับความเสี่ยงอยู่แต่เชื่อมือคนบริหารมากกว่าเลยให้บริหารพอร์ทให้
แบบที่สองจริงๆผมมองเป็น เป็นกึ่ง option กึ่งประกัน คือ คนบริหารให้ รับประกันเงินต้นด้วย แต่กำไรเท่าไหร่ อาจจะคิดค่าบริหาร 40-60% เลยทีเดียว hedge fund บางที่ต่างประเทศ อาจจะเก็บถึง 70% ก็มีนะครับ ที่ tier ของส่วนที่กำไรมากๆ
ส่วนใหญ่ทั้งสองแบบจะมีกำหนดระยะเวลาชัดเจนเช่น 1 ปี 2 ปี ไม่ให้ถอนเงินก่อน เพราะคนบริหารจะเสียเปรียบ
เช่นเจ้าของเงินเห็นว่าหุ้นตัวนี้ซื้อมาได้ดี กำลังจะวิ่งแรงๆ ก็ขอ terminate สัญญา จะได้ได้กำไรคนเดียว
หรือ หุ้นกำลังพอร์ทแดงอยู่ แต่อยากใช้เงิน เลยขอ terminate จะเอาเงินต้นเต็มจำนวนที่ประกัน กันไว้
ถ้าจะทำ หรือรับบริหารพอร์ทให้เพื่อน ดูแลรายละเอียดพวกนี้ให้ดีๆนะครับ จะได้ไม่ทะเลาะกัน
ถ้าไม่ลำบากเกินไป ก็บริหารมันในพอร์ทของเจ้าของเงินนั่นแหละ จะได้ไม่มีปัญหาทีหลังกันเรื่องเบี้ยวเงินคืนอะไรพวกนี้
นอกจากมี 20 พอร์ทมาฝากบริหาร ก็หาทางเอาละกัน :lovl:
แบบแรก คือบริหารให้เฉยๆ อันนี้ส่วนใหญ่คิดค่าแรงกันไม่เยอะ 10% ของกำไร ขาดทุนไม่คิดค่าแรง ไม่ประกันเงินต้น ขาดทุนก็ต้องรับได้ เจ้าของเงินยังรับความเสี่ยงอยู่แต่เชื่อมือคนบริหารมากกว่าเลยให้บริหารพอร์ทให้
แบบที่สองจริงๆผมมองเป็น เป็นกึ่ง option กึ่งประกัน คือ คนบริหารให้ รับประกันเงินต้นด้วย แต่กำไรเท่าไหร่ อาจจะคิดค่าบริหาร 40-60% เลยทีเดียว hedge fund บางที่ต่างประเทศ อาจจะเก็บถึง 70% ก็มีนะครับ ที่ tier ของส่วนที่กำไรมากๆ
ส่วนใหญ่ทั้งสองแบบจะมีกำหนดระยะเวลาชัดเจนเช่น 1 ปี 2 ปี ไม่ให้ถอนเงินก่อน เพราะคนบริหารจะเสียเปรียบ
เช่นเจ้าของเงินเห็นว่าหุ้นตัวนี้ซื้อมาได้ดี กำลังจะวิ่งแรงๆ ก็ขอ terminate สัญญา จะได้ได้กำไรคนเดียว
หรือ หุ้นกำลังพอร์ทแดงอยู่ แต่อยากใช้เงิน เลยขอ terminate จะเอาเงินต้นเต็มจำนวนที่ประกัน กันไว้
ถ้าจะทำ หรือรับบริหารพอร์ทให้เพื่อน ดูแลรายละเอียดพวกนี้ให้ดีๆนะครับ จะได้ไม่ทะเลาะกัน
ถ้าไม่ลำบากเกินไป ก็บริหารมันในพอร์ทของเจ้าของเงินนั่นแหละ จะได้ไม่มีปัญหาทีหลังกันเรื่องเบี้ยวเงินคืนอะไรพวกนี้
นอกจากมี 20 พอร์ทมาฝากบริหาร ก็หาทางเอาละกัน :lovl:
"In life and business, there are two cardinal sins ... The first is to act precipitously without thought, and the second is to not act at all.” – Carl Icahn
- Paul Octopus
- Verified User
- โพสต์: 798
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
โพสต์ที่ 18
คุณ AleAle
แบบว่าคุ้นมากเลยครับ
เราเคยรู้จักกันมาก่อนรึเปล่า?
แบบว่าคุ้นมากเลยครับ
เราเคยรู้จักกันมาก่อนรึเปล่า?
- Jazzman
- Verified User
- โพสต์: 388
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
โพสต์ที่ 19
55คิดว่ามีแต่เหมือนแฟนผมซะอีก มีเพื่อนแล้วคับ. ของผมต้องแบ่งกำไรส่วนตัวอีก10% มาให้แฟนด้วย แฟนบอกก็เราหุ้นส่วนกันไงAleAle เขียน:ของผมบริหารให้แฟน นโยบายแบบนี้ครับ
ถ้ากำไร เธอรับหมด และผมต้องรับประกันเงินต้นด้วยครับ
ปล. กลายมาเป็นนินทา ผ.บ.ท.บซะแล้ว
ลงทุนในสิ่งที่เพิ่ม " ค่า " ไปเรื่อยๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 216
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
โพสต์ที่ 20
ขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆมากครับ ขอถามอีกนิดหนึ่งครับ
1. การเปิดพอร์ต ควรจะเปิดพอร์ตเป็นชื่อเขา แต่พาสเวิร์ดเราควรจะรู้คนเดียว การเปิดพอร์ตชื่อเขาเพื่อให้เชื่อใจว่าเราไม่สามารถถอนเงินเขาออกมาได้ และที่เราต้องรู้พาสเวิร์ดคนเดียวเพื่อไม่ให้เขาขายหุ้นไปแล้วโอนเงินออกในกรณีที่กำไรเยอะๆ
อย่างงี้ผมคิดถูกไหมครับ
2. การกำหนดระยะเวลาการลงทุนอย่างน้อย 1 ปี น่าจะเพียงพอเพื่อรอให้หุ้นที่เราถือวิ่งหามูลค่าที่แท้จริงของมัน
สำหรับการลงทุนในไทยน่าจะเพียงพอหรือเปล่าครับ
3. สำหรับผลตอบแทนผมไม่น่าห่วงครับ เพราะเป็นการตกลง และพอใจทั้งสองฝ่าย
ขอบคุณครับ
1. การเปิดพอร์ต ควรจะเปิดพอร์ตเป็นชื่อเขา แต่พาสเวิร์ดเราควรจะรู้คนเดียว การเปิดพอร์ตชื่อเขาเพื่อให้เชื่อใจว่าเราไม่สามารถถอนเงินเขาออกมาได้ และที่เราต้องรู้พาสเวิร์ดคนเดียวเพื่อไม่ให้เขาขายหุ้นไปแล้วโอนเงินออกในกรณีที่กำไรเยอะๆ
อย่างงี้ผมคิดถูกไหมครับ
2. การกำหนดระยะเวลาการลงทุนอย่างน้อย 1 ปี น่าจะเพียงพอเพื่อรอให้หุ้นที่เราถือวิ่งหามูลค่าที่แท้จริงของมัน
สำหรับการลงทุนในไทยน่าจะเพียงพอหรือเปล่าครับ
3. สำหรับผลตอบแทนผมไม่น่าห่วงครับ เพราะเป็นการตกลง และพอใจทั้งสองฝ่าย
ขอบคุณครับ
- leaderinshadow
- Verified User
- โพสต์: 1765
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
โพสต์ที่ 21
ของผมเปิดพอร์ตเป็นชื่อเค้า Password เค้าก็รู้ครับ
ถ้าปิดไว้ มันจะดูแปลกๆเหมือนมีเลศนัยนะ
ผมทำแบบโปร่งใส เค้าเข้าไปดูพอร์ตได้ตลอด
ส่วนเรื่องขาย เราก็อธิบายเค้าครับ ว่าทำไมยังไม่ขาย ทำความเข้าใจกันให้ดี
หุ้นดีอย่างไรก็อธิบายไป จะขายก็อธิบายว่าทำไม
ส่วนเรื่องระยะเวลา ควรจะ 2-3 ปีขึ้นไปนะ (ความเห็นส่วนตัว)
1 ปี ผมว่า รู้สึกว่าอาจจะสั้นไปนะ
ถ้าปิดไว้ มันจะดูแปลกๆเหมือนมีเลศนัยนะ
ผมทำแบบโปร่งใส เค้าเข้าไปดูพอร์ตได้ตลอด
ส่วนเรื่องขาย เราก็อธิบายเค้าครับ ว่าทำไมยังไม่ขาย ทำความเข้าใจกันให้ดี
หุ้นดีอย่างไรก็อธิบายไป จะขายก็อธิบายว่าทำไม
ส่วนเรื่องระยะเวลา ควรจะ 2-3 ปีขึ้นไปนะ (ความเห็นส่วนตัว)
1 ปี ผมว่า รู้สึกว่าอาจจะสั้นไปนะ
-
- Verified User
- โพสต์: 216
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
โพสต์ที่ 23
การเปิดในชื่อเขาก็น่าจะโปร่งใสแล้วนะครับเพราะเราขายได้แต่ไม่สามารถเบิกออกมาจากบัญชีออมทรัพย์เขาได้ เพราะเป็นชื่อเขาleaderinshadow เขียน:ของผมเปิดพอร์ตเป็นชื่อเค้า Password เค้าก็รู้ครับ
ถ้าปิดไว้ มันจะดูแปลกๆเหมือนมีเลศนัยนะ
ผมทำแบบโปร่งใส เค้าเข้าไปดูพอร์ตได้ตลอด
ส่วนเรื่องขาย เราก็อธิบายเค้าครับ ว่าทำไมยังไม่ขาย ทำความเข้าใจกันให้ดี
หุ้นดีอย่างไรก็อธิบายไป จะขายก็อธิบายว่าทำไม
ส่วนเรื่องระยะเวลา ควรจะ 2-3 ปีขึ้นไปนะ (ความเห็นส่วนตัว)
1 ปี ผมว่า รู้สึกว่าอาจจะสั้นไปนะ
ส่วนพาสเวิร์ดนั้น ถ้ให้เขารู้แล้วถ้าได้กำไรมากๆ เช่น เป็นหลายล้านบาท แล้วถ้าเกิดเขาขายเองแล้วถอนเงินออกไป แล้วหายไป แล้วจะทำยังไงครับ เพราะตามเอกสารเขามีสิทธิ์ทุกอย่าง เงินไม่เข้าใครออกใครออกใครนะครับ แต่บางที่เขาก็ไม่คิดจะโกงเราหรอก แต่เขาอาจจำเป็นต้องใช้เงิน จึงต้องทำไปอย่างนั้น ทำให้ต้องมาทะเลาะกัน เสียเพื่อนหรือเสียญาติเปล่าๆนะครับ กันไว้ดีกว่า
- leaderinshadow
- Verified User
- โพสต์: 1765
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
โพสต์ที่ 24
ของผมเป็นสัญญาใจครับ
เค้าถอน ก็ชั่งมันครับ
ผมถือว่า ถ้าเงินแค่นี้ ยังเอากันได้ คนแบบนี้ไม่น่าคบครับ จะเพื่อนจะญาติ ผมไม่สน
ผมเปิดโอกาสให้เค้าทำครับ ผมสอนวิธีทำให้ด้วย
แต่เค้าก็รู้ ว่าถ้าเค้าทำอย่างนั้น ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร
ถ้าเค้าทำ ก็เอาเงินไปเลยครับ
ผมก็หยุดบริหารให้ และไม่ต้องมาคุยกันเรื่องนี้อีกเลย
ผมคิดว่า เสียเงินไม่กี่บาท แต่ได้รู้ธาตุแท้คน ผมว่ามันคุ้มครับ
เค้าได้เงินไม่กี่บาท แต่เสียโอกาส ที่จะได้กำไรในอนาคตมหาศาล
ผมถึงทำให้คนที่สนิทกันจริงๆ
เค้าถอน ก็ชั่งมันครับ
ผมถือว่า ถ้าเงินแค่นี้ ยังเอากันได้ คนแบบนี้ไม่น่าคบครับ จะเพื่อนจะญาติ ผมไม่สน
ผมเปิดโอกาสให้เค้าทำครับ ผมสอนวิธีทำให้ด้วย
แต่เค้าก็รู้ ว่าถ้าเค้าทำอย่างนั้น ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร
ถ้าเค้าทำ ก็เอาเงินไปเลยครับ
ผมก็หยุดบริหารให้ และไม่ต้องมาคุยกันเรื่องนี้อีกเลย
ผมคิดว่า เสียเงินไม่กี่บาท แต่ได้รู้ธาตุแท้คน ผมว่ามันคุ้มครับ
เค้าได้เงินไม่กี่บาท แต่เสียโอกาส ที่จะได้กำไรในอนาคตมหาศาล
ผมถึงทำให้คนที่สนิทกันจริงๆ
- leaderinshadow
- Verified User
- โพสต์: 1765
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
โพสต์ที่ 25
สำหรับเรื่องถอนก่อน ก็คุยกันครับ
ถ้าจำเป็นจริงๆ ก็ปล่อยครับ
อันนี้คือเรื่องปวดหัวที่สุด ถ้าคิดจะบริหารพอร์ตให้คนอื่น
ต้องใช้เทคนิคส่วนตัวในการจัดการครับ
ล่าสุดคือ ผมหัก 30% ของกำไรทันที ไม่ว่ากรณีใดๆ ถ้าถอนก่อนกำหนด
ถ้าจำเป็นจริงๆ ก็ปล่อยครับ
อันนี้คือเรื่องปวดหัวที่สุด ถ้าคิดจะบริหารพอร์ตให้คนอื่น
ต้องใช้เทคนิคส่วนตัวในการจัดการครับ
ล่าสุดคือ ผมหัก 30% ของกำไรทันที ไม่ว่ากรณีใดๆ ถ้าถอนก่อนกำหนด
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
โพสต์ที่ 26
leaderinshadow เขียน:ง่ายๆ สั้นๆ ปวดหัวครับ :lol:
1.ให้เค้าเปิดพอร์ตเอง เป็นชื่อเค้า เงินเค้า จะได้สบายใจ เราแค่คีย์ซื้อขายให้
2.ค่าบริหาร ตามแต่ตกลง แต่ถ้าจะให้ถูกกฏหมาย คือ ไปสอบใบอนุญาติ ตั้ง Private fund ลงทุนขึ้นต่ำ 30 ล้าน :lol:
3.เงื่อนไข ตกลงกันเอง ของผมขอเงินเย็น อย่างน้อย 3 ปี บวก ต้องคุยรายละเอียดกันเป็นวัน ขาดทุนไม่รับผิดชอบ เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง
แต่พอเอาเข้าจริง แล้วจะเจอเรื่องปวดหัวมากมาย
ล่าสุด ลงทุนมาแค่ 4 เดือน กำไรไป 40% บอกว่าอยากถอนเอาเงินไปทำบุญ
สงสัยคิดว่าถูกหวยมั้ง บอกว่า เผื่อจะได้ดวงดี อ้าวๆๆ กรรม
ก็ตกลงว่าเงินเย็น 3 ปี ผมก็บอกว่า รออีก 3 ปี เดี่ยวได้ทำบุญมากกว่านี้
ตอนแรกก็เหมือนตกลง ตอนหลังเปลี่ยนใจ
มารู้ทีหลัง มี Marketing มาชวนเล่นเก็งกำไร สงสัยจะติดใจ คิดว่าตลาดหุ้นเป็นหมูมั้ง
ก็เลยแบ่งพอร์ต ไปเก็งกำไร
ล่าสุด โทรมาถามว่า ติดดอยทุกตัวทำไงดี - - !
ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นญาติกัน ผมคงจะปิดพอร์ต ยกเลิกการบริหารไปแล้ว
แต่เห็นว่า ญาติเค้าบ่นว่า ฝากแบงค์ ได้ดอกต่ำ ผมก็เลยช่วยจัดพอร์ตลงทุนให้
ถือว่าช่วยๆกัน
ลองคิดดูว่า ขนาดพอร์ตมีกำไรยังมีเรื่องให้น่าปวดหัวขนาดนี้
ถ้าขนาดทุน ไม่ทะเลาะกันตายหรอ ?
แต่ตัวผมเองให้สิทธิพิเศษคือ ไม่ถึงล้าน ผมไม่คิดตัง
ก็เลย ทำให้ตัดปัญหาบางเรื่องไปได้บ้าง เพราะกว่าจะได้คิดตัง คงอีกหลายปี :lol:
แต่ผมกลับได้ความรู้สึกสนุกมาแทน
เพราะเหมือนกับว่า ผมกำลังบริหารเงินแสน ให้กลายเป็นเงินล้าน อีกรอบ
ทำให้เกิดความรู้สึกท้าทาย เหมือนได้กำลังหาล้านแรกใหม่อีกครั้ง
น้องชาย จัดไป 9 แสน ครบ สามปี ค่อยมาคืนพี่
คืนเท่าไหร่รับเท่านั้น
ช่วงนี้ไม่ต้องถามไถ่ ติดต่อ ว่า
ซื้อตัวไหน ขายตัวไหน
ไว้ค่อยมาเล่าหลัง สามปี
อิิอิิอิ
ถามเล่น แต่เอาจริง
show me money.
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
Re: การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
โพสต์ที่ 28
สมัยก่อนนู้น... มีญาติ มีเพื่อนมาฝากลงทุน...
พ่อบอกว่า... ห้ามคิดเงินค่าบริหาร... ก็เลยได้แต่บริหารฟรี กินแต่แกลบเรื่อยมา... บริหารให้พ่อแม่ ให้เมีย ให้เพื่อน ให้ญาติ มีแต่แกลบให้กิน...
ตอนบริหารก็ MTM พอร์ตเป็น NAV แบ่งเป็นหน่วยลงทุนเอา... ใครซื้อ ใครขายก็เหมือน ซื้อขายกองทุน มีการทำรายงานผลการดำเนินงาน ชี้แจงเห็นผลการลงทุนทุกๆ ไตรมาส...
ทำไปทั้งหมด... มีแต่แกลบให้กิน... ช่วง Sub-Prime ถึงกับเขียนรายงานถึงนักลงทุนไม่ถูก... ตอนเจ๊งหนักสุด โดนไป 70% ของพอร์ต... ไม่รู้จะพูดยังไง บอกยังไงดี... เขียนรายงานถึงนักลงทุนไป 5 รอบ แล้วก็ลบทิ้งไปทุกรอบ... สุดท้ายก็งุบงิบแอบไม่รายงานไปช่วงหนึ่ง ซึ่งทุกคนก็เข้าใจ (มั้ง) :lol: :lol: :lol:
เอาชีิวิตรอดจาก subprime มาได้... แล้วก็มีโอกาสได้ไปบวชมา... รู้สึกว่า... การที่มีเงินคนอื่นพออยู่กับตัวเอง แล้วมันเกิดกิเลสนะ วันนี้เราอาจจะคุมกิเลสของตัวเองได้ แต่ถ้าวันนึงเงินมันโตขึ้นเรื่อยๆ เราจะเอาชนะกิเลสของเราได้จริงเหรอ?... สังเกตเห็นใจของตัวเอง เลยตัดสินใจคืนเงินลงทุน คนที่เกิน 1 ล้านไปให้หมดทุกคน... ตอนนี้เหลือของรุ่นน้องคนนึงซึ่งเป็นคนสุดท้ายแล้ว ฝากลงทุนไว้ 5 หมื่นบาท... ช่วงต้นปีขึ้นไปทะลุ 1 ล้านบาท กะลังจะคืนเงินลงทุนอยู่แล้วเชียว แต่หุ้นดันตก... เลยไม่ได้คืนซะนี่... แอบเอาตังค์มันมาใช้ดีไหมเนี่ย? :lol: :lol: :lol:
แล้วก็แปลกดีนะ... พอเราคืนเงินลงทุนให้ บอกว่าไม่คิดค่าบริหาร... ทุกคนก็รับคืนไปอย่างหน้าชื่นตาบาน แล้วก็ไม่เคยติดต่อกลับมาอีกเลย... สงสัยจะกลัวเราเปลี่ยนใจขอเก็บค่าบริหารหรือเปล่าก็ไม่รู้... :lol: :lol: :lol:
พ่อบอกว่า... ห้ามคิดเงินค่าบริหาร... ก็เลยได้แต่บริหารฟรี กินแต่แกลบเรื่อยมา... บริหารให้พ่อแม่ ให้เมีย ให้เพื่อน ให้ญาติ มีแต่แกลบให้กิน...
ตอนบริหารก็ MTM พอร์ตเป็น NAV แบ่งเป็นหน่วยลงทุนเอา... ใครซื้อ ใครขายก็เหมือน ซื้อขายกองทุน มีการทำรายงานผลการดำเนินงาน ชี้แจงเห็นผลการลงทุนทุกๆ ไตรมาส...
ทำไปทั้งหมด... มีแต่แกลบให้กิน... ช่วง Sub-Prime ถึงกับเขียนรายงานถึงนักลงทุนไม่ถูก... ตอนเจ๊งหนักสุด โดนไป 70% ของพอร์ต... ไม่รู้จะพูดยังไง บอกยังไงดี... เขียนรายงานถึงนักลงทุนไป 5 รอบ แล้วก็ลบทิ้งไปทุกรอบ... สุดท้ายก็งุบงิบแอบไม่รายงานไปช่วงหนึ่ง ซึ่งทุกคนก็เข้าใจ (มั้ง) :lol: :lol: :lol:
เอาชีิวิตรอดจาก subprime มาได้... แล้วก็มีโอกาสได้ไปบวชมา... รู้สึกว่า... การที่มีเงินคนอื่นพออยู่กับตัวเอง แล้วมันเกิดกิเลสนะ วันนี้เราอาจจะคุมกิเลสของตัวเองได้ แต่ถ้าวันนึงเงินมันโตขึ้นเรื่อยๆ เราจะเอาชนะกิเลสของเราได้จริงเหรอ?... สังเกตเห็นใจของตัวเอง เลยตัดสินใจคืนเงินลงทุน คนที่เกิน 1 ล้านไปให้หมดทุกคน... ตอนนี้เหลือของรุ่นน้องคนนึงซึ่งเป็นคนสุดท้ายแล้ว ฝากลงทุนไว้ 5 หมื่นบาท... ช่วงต้นปีขึ้นไปทะลุ 1 ล้านบาท กะลังจะคืนเงินลงทุนอยู่แล้วเชียว แต่หุ้นดันตก... เลยไม่ได้คืนซะนี่... แอบเอาตังค์มันมาใช้ดีไหมเนี่ย? :lol: :lol: :lol:
แล้วก็แปลกดีนะ... พอเราคืนเงินลงทุนให้ บอกว่าไม่คิดค่าบริหาร... ทุกคนก็รับคืนไปอย่างหน้าชื่นตาบาน แล้วก็ไม่เคยติดต่อกลับมาอีกเลย... สงสัยจะกลัวเราเปลี่ยนใจขอเก็บค่าบริหารหรือเปล่าก็ไม่รู้... :lol: :lol: :lol:
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
- poonpoon7
- Verified User
- โพสต์: 346
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
โพสต์ที่ 29
Jazzman เขียน:55คิดว่ามีแต่เหมือนแฟนผมซะอีก มีเพื่อนแล้วคับ. ของผมต้องแบ่งกำไรส่วนตัวอีก10% มาให้แฟนด้วย แฟนบอกก็เราหุ้นส่วนกันไงAleAle เขียน:ของผมบริหารให้แฟน นโยบายแบบนี้ครับ
ถ้ากำไร เธอรับหมด และผมต้องรับประกันเงินต้นด้วยครับ
ปล. กลายมาเป็นนินทา ผ.บ.ท.บซะแล้ว
คล้ายๆกันครับ
"Value has a value only if its value is valued"
-
- Verified User
- โพสต์: 69
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การบริหารพอร์ตให้กับคนอื่น
โพสต์ที่ 30
ตอนนี้ผมบริหารให้คุณแม่, พี่ๆ และหลาน ๆ อยู่ครับ ใช้เป็นพอร์ตรวม ทำมาย่างเข้าเดือนที่ 8 แล้ว
ช่วงแรก ๆ ก็บวกประมาณ 10 %/เดือนครับ ผลตอบแทนมาลดช่วง พย53 กับเดือนที่แล้ว
โดยรวม ๆ ได้ประมาณ 60 กว่าเปอร์เซ็นต์ครับ กำไรที่ได้มาในแต่ละเดือนถ้่าำกำไรเกิน 5 % ของมูลค่าพอร์ต
จะถูกหัก 2 % เพื่อนำเงินไปทำบุญ (กฐิน ผ้าป่า เลี้ยงเด็กกำพร้า) ส่วนที่เหลือแล้วแต่สมาชิกว่าจะขอส่วนแบ่งกำไรหรือไม่ หรือต้องการนำเงินไปลงทุนต่ิอ หรือต้องการเพิ่มทุน กำไรขาดทุนรวมทั้งมูลค่าพอร์ต หุ้นและจำนวนที่ถือ ข้อมูลการซื้อขายในแต่ละเดือนจะเก็บข้อมูลและรายงานผลสรุปทุกเดือนให้สมาขิกทราบ
ที่ผ่านมาก็มีคนรู้จักและเพื่อน ๆ มาิติดต่อใ้ห้บริหารพอร์ตให้
แต่ผมไม่อยากเป็นภาระเพราะกลัวจะมีปัญหาภายหลัง
ช่วงแรก ๆ ก็บวกประมาณ 10 %/เดือนครับ ผลตอบแทนมาลดช่วง พย53 กับเดือนที่แล้ว
โดยรวม ๆ ได้ประมาณ 60 กว่าเปอร์เซ็นต์ครับ กำไรที่ได้มาในแต่ละเดือนถ้่าำกำไรเกิน 5 % ของมูลค่าพอร์ต
จะถูกหัก 2 % เพื่อนำเงินไปทำบุญ (กฐิน ผ้าป่า เลี้ยงเด็กกำพร้า) ส่วนที่เหลือแล้วแต่สมาชิกว่าจะขอส่วนแบ่งกำไรหรือไม่ หรือต้องการนำเงินไปลงทุนต่ิอ หรือต้องการเพิ่มทุน กำไรขาดทุนรวมทั้งมูลค่าพอร์ต หุ้นและจำนวนที่ถือ ข้อมูลการซื้อขายในแต่ละเดือนจะเก็บข้อมูลและรายงานผลสรุปทุกเดือนให้สมาขิกทราบ
ที่ผ่านมาก็มีคนรู้จักและเพื่อน ๆ มาิติดต่อใ้ห้บริหารพอร์ตให้
แต่ผมไม่อยากเป็นภาระเพราะกลัวจะมีปัญหาภายหลัง