นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 0

นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เห็นหลายๆท่านเข้าใจคำว่าวีไอไม่ตรงกัน
บางท่านก็ว่าอย่างหนึ่ง
บางท่านก็ว่าอีกอย่างหนึ่ง
ถ้าทั้งสองอย่างนั้นมีความใกล้เคียงกัน ก็ยังพอกล้อมแกล้มไปได้บ้าง
แต่บ่อยครั้งที่ทั้งสองอย่างนั้นสวนทางกันคือตรงกันข้ามกัน 180 องศาไปเลย จับมากล้อมแกล้มกันไม่ได้จริงๆ
เลยทำให้งงไม่น้อยว่าอย่างไหนกันแน่ที่เรียกว่า หุ้นวีไอ(valued stock)

ปล.ที่ว่ากล้อมแกล้มกันไปได้ ก็แปลว่ากล้อมแกล้มไปได้ ไม่ได้แปลว่าถูก อาจจะเข้าใจผิดทั้งคู่ก็ได้
ถือโอกาสนี้ทบทวนนิยามกันดีไหมครับเพื่อสุขภาพปอดในภายภาคหน้าจะได้เติบโตแข็งแรงอย่างยั่งยืน
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
กล้วยไม้ขาว
Verified User
โพสต์: 1074
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 2

โพสต์

พี่หมอถามทั้งที ผมขอโอกาสแสดงความเห็นครับ

ผมอยู่เว็บนี้มาได้เกือบสามปีก็มักจะเห็นคนตั้งกระทู้หรือโำพสว่า


"หุ้น VI xxx ยังซื้อได้ไหมครับ เห็นราคาขึ้นมาเยอะแล้ว กลัวดอยครับ"
"ซื้อหุ้น VI ไว้แต่ทำไมถึงราคาลงอย่างเดียวเลยครับ"
"มีเงินแปดพันล้าน อยากลงทุน ขอหุ้น VI สักสิบตัวไว้ถือยาวครับ หวังแค่โตปีละสิบเด้งก็พอ"
ฯลฯ


เวลาที่ได้เห็นก็จะรู้สึกว่า "มันมีด้วยเหรอหุ้น VI ที่เป็นหุ้น VI ตลอดเวลา"
เพราะตามความเข้าใจของผมนั้นหลักการลงทุน VI ที่ใช้หาหุ้นที่จะลงทุน
จะมีหลักสำคัญคือ "ราคา" ต่ำกว่า "มูลค่า"

ทีนี้ราคาหุ้นมันเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ตลอด รวมทั้งมูลค่าด้วย
จึงหมายความว่า หุ้น VI เป็นเพียงภาวะที่เกิดเพียงขณะใดขณะหนึ่งเท่านั้นครับ

หุ้น VI ก่อน อาจไม่ใช่แล้วในวันนี้
หุ้นที่ไม่ VI ปีที่แล้ว ปีนี้อาจเป็นหุ้น VI
หุ้น VI ตอนตลาดเปิดอาจกลายเป็นหุ้นเก็งกำไรก่อนตลาดปิด
ตอนหุ้นราคา 3 บาทอาจยังไม่เป็นหุ้น VI แต่ตอนราคา 30 อาจเป็นหุ้น VI ก็ได้

ทั้งหมดนี้เป็นไปได้ทั้งนั้นครับ
สิ่งสำคัญคือ การหามูลค่าของหุ้น และติดตามเช็คมูลค่าอยู่เนืองๆ
เพื่อนำมาเทียบกับราคาหุ้นในตอนนั้นๆ

วันนี้คุณหามูลค่าเป็นหรือยัง :?:


ปล.เป็นแค่ความเข้าใจส่วนตัวของคนที่เพิ่งเริ่มลงทุนได้ไม่ถึงสามปี
ผ่านวิกฤติมาแค่หนึ่งครั้ง และยังไม่สามารถเรียกตัวเองได้ว่าเป็นชาว VI
อาจจะผิดก็ได้ครับ โปรดใช้ปัญญาในการอ่าน

ขอบคุณทุกท่านที่อ่าน ขอบคุณพี่หมอที่ให้โอกาสฝอยครับ :mrgreen:
Green
Verified User
โพสต์: 2606
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 3

โพสต์

หุ้นวีไอ = หุ้นที่มีกิจการเยี่ยมยอด + ราคาที่เหมาะสม

กิจการที่เยี่ยมยอด = บริษัทที่มีสินค้า หรือ บริการที่ โดดเด่น เหนือกว่า คู่แข่ง สามารถเติบโต เหนือกว่าคู่แข่ง สามารถกินส่วนแบ่งการตลาดจากคู่แข่ง และ สามารถขยายฐานตลาดได้เรื่อยๆ โดยใช้ความโดดเด่นนั้นๆ ของตนเอง มี Power ในการต่อรองกับ Supplier และ ลูกค้า มีความสามารถในการเติบโตได้โดยไม่จำเป็นต่ออาศัยเงินลงทุนมหาศาล กิจการที่สามารถสร้างกระแสเงินสดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการเติบโตในอนาคตได้อย่างต่อเนื่องยาวนานในช่วงระยะเวลานึงๆ มีโครงสร้างเงินลงทุนที่แข็งแกร่ง ที่สำคัญคือมีทีมงานผู้บริหารที่ยอดเยี่ยม มีธรรมาภิบาล และ คำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นครับ

ราคาที่เหมาะสม = ราคาหุ้นขณะนั้น มีมูลค่าต่ำกว่า ความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดของบริษัทในระยะยาว ยิ่งต่ำมากยิ่งมี MOS มาก

สำหรับผมหุ้นวีไอ ต้องมีสองส่วนนี้รวมกัน ยิ่งหุ้นไหนมี ดีกรี เป็นกิจการที่เยี่ยมยอดคือในส่วนแรก มากๆ และ มีราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน มากๆ ยิ่งมีดีกรี ความเป็นหุ้นวีไอ สูงมากขึ้นเท่านั้น

หากมีแต่ ส่วนแรก แต่ส่วนหลังมีราคาแพงกว่ามูลค่าพื้นฐานมากๆ ก็คงไม่ใช่วีไอ
และ หากมีแต่ส่วนหลัง คือราคาถูกอย่างเดียว แต่ไม่มีส่วนแรกเลย ก็คงไม่ใช่วีไอเหมือนกัน เพราะ หากไม่มีส่วนแรกแล้ว ความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดในระยะยาวก็คงไม่มีเหมือนกัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Fon^^
Verified User
โพสต์: 604
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 4

โพสต์

เข้ามาส่งการบ้านด้วยคนค่ะ ^^

คือ Under Value เป็นคำตอบสุดท้ายค่ะ :D
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Juninho
Verified User
โพสต์: 1050
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 5

โพสต์

หุ้นวีไอ สำหรับผมคือ หุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง
เหมือน การซื้อแบงค์ยี่สิบในราคาสิบบาท
อาจไม่ใช่กิจการที่ยอดเยี่ยมก็ได้ ขอให้ซื้อได้ถูกกว่าความเป็นจริงก็พอ

แต่อย่างไรก็ตาม มูลค่าของบริษัทและราคาหุ้นมันจะเปลี่ยนแปลงไปได้เสมอ
ดังนั้น จะไม่มีหุ้นที่เป็น วีไอตลอดไป มันจะมีเป็นบางช่วงเวลาเท่านั้น
ควรหมั่นสำรวจว่าหุ้นที่ตัวเองถือ ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงอยู่หรือไม่
นอกจากนี้ในระหว่างนั้นก็พยายามเสาะหา
ที่มีส่วนต่างระหว่างราคากับมูลค่าที่แท้จริงมากที่สุด
หรือเรียกได้ว่า มีอัพไซด์มากที่สุดนั่นเอง
เพิ่มโอกาศในการทำผลตอบแทนได้มากกว่าเดิม
You Can Get It If You Really Want
But you must try, try and try
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 6

โพสต์

หุ้น VI
ของดีที่ไม่มีใครมองเห็น
:)
:)
ภาพประจำตัวสมาชิก
PRO_BABY
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1584
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 7

โพสต์

หุ้นวีไอ คือ หุ้นที่นักลงทุนแบบเน้นคุณค่าสนใจลงทุน ด้วยมองเห็นถึงคุณค่าของกิจการ
โดยวิเคราะห์จาก
-ผลตอบแทนในอนาคตเมื่อวิเคราะห์แล้วคุ้มค่า เมื่อเทียบกับราคาที่ต้องจ่ายในปัจจุบัน
-ราคาปัจจุบันต่ำกว่ามูลค่าของกิจการที่ควรจะเป็น

พอจะนึกได้เท่านี้ครับ :D
--ผลของอนาคตเกิดจาก<====ปัจจุบัน ผลของปัจจุบันเกิดจาก<===อดีต
--ทุกอย่างเชื่อมโยง มีเหตุ====> มีผ
blueplanet
Verified User
โพสต์: 1155
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 8

โพสต์

1. ไม่มีราคาสมบูรญ์ มีแต่ราคาเปรียบเทียบ
2. ผมรู้จักอยู่ 2 อย่าง คือ เงิน กับหุ้น
3. ผมเชื่อว่า เงินจะด้อยค่าลงอีกมาก (อเมริกาทำ QE2 6แสนล้านดอลลา) ผมไม่เชื่อถือเงินอีกแล้ว
4. ผมเอาหุ้นทุกตัวในตลาดมาเปรียบเทียบกัน (ผมมีสูตรในการวัด)
5. ผมจะเอาเงินออมทั้งหมดที่มีซื้อหุ้นที่ผมให้คะแนนดีที่สุด 1-3 ตัว
6. ราคาที่เปลี่ยนแปลงไป ถ้ามากพอที่ทำอันดับเปลี่ยน ผมจะสวอปหุ้น
7. ผมไม่สนใจมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น
8. ผมไม่สนใจเท็คนิเคิ้ล
9. ผมไม่สนใจข่าวลือ
10. ผมถือหุ้น 100% เกือบตลอดเวลา
11. เมื่อราคาหุ้นแพงเกินไป จะสวอปหุ้นไปหาทอง (ยังไม่มีข้อมูลจะสวอปตอนไหน)
ผมบอกกับทุกคนว่า ผมคือ VI
วิธีคิดแบบนี้ ถือว่าเป็น VI ไม๊
Blueplanet
วรันศ์ บัฟเฟต
Verified User
โพสต์: 1679
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 9

โพสต์

blueplanet เขียน:1. ไม่มีราคาสมบูรญ์ มีแต่ราคาเปรียบเทียบ
2. ผมรู้จักอยู่ 2 อย่าง คือ เงิน กับหุ้น
3. ผมเชื่อว่า เงินจะด้อยค่าลงอีกมาก (อเมริกาทำ QE2 6แสนล้านดอลลา) ผมไม่เชื่อถือเงินอีกแล้ว
4. ผมเอาหุ้นทุกตัวในตลาดมาเปรียบเทียบกัน (ผมมีสูตรในการวัด)
5. ผมจะเอาเงินออมทั้งหมดที่มีซื้อหุ้นที่ผมให้คะแนนดีที่สุด 1-3 ตัว
6. ราคาที่เปลี่ยนแปลงไป ถ้ามากพอที่ทำอันดับเปลี่ยน ผมจะสวอปหุ้น
7. ผมไม่สนใจมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น
8. ผมไม่สนใจเท็คนิเคิ้ล
9. ผมไม่สนใจข่าวลือ
10. ผมถือหุ้น 100% เกือบตลอดเวลา
11. เมื่อราคาหุ้นแพงเกินไป จะสวอปหุ้นไปหาทอง (ยังไม่มีข้อมูลจะสวอปตอนไหน)
ผมบอกกับทุกคนว่า ผมคือ VI
วิธีคิดแบบนี้ ถือว่าเป็น VI ไม๊

มันสำคัญไม๊หละครับ ว่าคนอื่นมองคุณยังไง

ที่สำคัญที่สุดสำหรับผมคือ way และ method ของคุณ efficient หรือ ไม่ efficient
หลังจาก efficiency มัน consistent หรือไม่ consistent

จากที่ผมอ่าน ข้อ 1 ถึง 11 ไม่มีปัญหาครับ แต่ ที่ทิ้งท้าย คุณจำเป็นต้องบอกทุกคนไม๊ครับว่าคุณ value invest และถ้าคนอื่นบอกว่าสิ่งที่คุณเป็นคือ ทางของ VI มันเปลี่ยนอะไรไม๊ครับ

คนอื่นบอกว่าคุณคือ VI ตัวจริง มันไม่ช่วยให้คุณเจ๋งมากขึ้นหรือน้อยลง

ให้ผมใช้วิธีที่เรียกว่า วิธีชาวเขา แต่ถ้ามัน work สำหรับผม ผมก็เอาครับ ชื่อของวิธีมันไม่มีความหมายอะไร เป็นการไปกำหนดมันเกิน ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดของมนุษย์ส่วนฬใหญ่ การไปยึดติดกับสิ่งที่ถูกกำหนดมาเกินไป ถ้า ben graham เป็นคนที่สร้างสิ่งๆนึงขึ้นมาแล้ว เค้าก็เอาป้ายชื่อ VI ไปแปะมัน ถามว่าผมเหมือน graham ไม๊ผมตอบได้เลยว่า วิธีของผมต่างกับ graham ถึงประมาณ 90%

สุดท้าย คำตอบสำหรับกระทู้ของพี่สามัญชน ผมคิดว่า ทางของ VI จริงๆคือขอให้ มี framework ที่ scientific จะได้ไม่ยึดติดกับอารมณ์ใดๆ + กับการวิเคราะห์ value ของบริษัทให้ออก ไม่ว่าจะเป็น value ในด้านใด ที่สามารถสะท้อนให้เห็นได้ว่า วันนี้นายตลาดกะลังพลาดอยู่

ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างที่คิด แปลว่า way ของคุณมี validity

หลังจากนั้นทำซ้ำ เพื่อทดสอบ consistency

หากมีสองอย่างนี้ จบข่าวครับ
value trap
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
unnop.t
Verified User
โพสต์: 924
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 10

โพสต์

สำหรับผม หุ้น VI ไม่มีในโลก มีแต่หลักการลงทุนแบบ VI

หรือมันอาจมีชั่วคราว แต่ถ้ามันเกินมูลค่าที่แท้จริงไปแล้ว มันคงไม่ใช่

เห็นนักลงทุนหลายคนยึดติดกับคำว่าหุ้นVI เพราะเพียงว่ามันถือโดยคนที่เรียกตัวเองว่า VI
ตลาดหุ้นมักจะหลอกเราด้วย ความโลภ และความกลัว.....
ภาพประจำตัวสมาชิก
กล้วยไม้ขาว
Verified User
โพสต์: 1074
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 11

โพสต์

blueplanet เขียน:1. ไม่มีราคาสมบูรญ์ มีแต่ราคาเปรียบเทียบ
7. ผมไม่สนใจมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น
11. เมื่อราคาหุ้นแพงเกินไป จะสวอปหุ้นไปหาทอง (ยังไม่มีข้อมูลจะสวอปตอนไหน)
ข้อเจ็ดกับข้อสิบเอ็ดมันขัดกันนะครับ
จากข้อหนึ่งการเปรียบเทียบราคากับอะไรสักอย่าง
ผมเข้าใจว่าำไอ้สักอย่างเนี่ยมันก็คือมูลค่านั่นแหละครับ
เพียงแต่อาจจะหาด้วยวิธีที่แตกต่างกัน และอาจไม่ใช่มูลค่าโดยตรงแต่เป็นโดยอ้อม

ทีนี้เมื่อหุ้นมันแพงไป ก็ต้องมีตัวเปรียบเทียบ ซึ่งมันก็คือมูลค่าน่ะแหละครับ
ถึงมูลค่าที่ว่านั้นไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขได้ แต่ถ้ามันเห็นได้ว่ามูลค่าสูงกว่าราคา
ก็เป็นการคิดตามหลัก VI อยู่ดีครับ

อย่างหุ้นในกิจการดีเยี่ยมที่ราคาไม่เคยถูก เพราะมันมีมูลค่าอื่นที่เราวัดไม่ได้อยู่ (และมูลค่ามักจะเยอะมากๆ)

ดังนั้นผมว่าวิธีคิดของพี่ blueplanet ก็อยู่ในหลักการนะ
ปล.เป็นความเห็นส่วนตัว ว่างๆ เปิดกระทู้ทำนายนิสัยจากพอร์ทหุ้นอีกสิครับ ตอนนี้น่าจะมีคนสนใจเยอะขึ้น :mrgreen:
ภาพประจำตัวสมาชิก
BeSmile
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1178
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 12

โพสต์

http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=44950

ผมว่ากระทู้ ก็แสดง ความคิดเห็น ใน หุ้น VI เหมือนกัน ออกมาได้หลากหลายแนวทางดีครับ

ผมว่า บางครั้งเราย่อคำ มากไปทำให้ อาจจะสื่อความทำให้สับสน


ถ้าหุ้น VI แปลความได้ว่า หุ้นที่มีมูลค่า คุ้มค่า กลมกล่อม น่าลงทุน (Value Investing)

ถ้าแปลเป็นแบบนี้ ก็คงหมายถึงหุ้นที่ ราคาปัจจุบัน น่าจะมีมูลค่าต่ำกว่า ราคาในอนาคต


ถ้าหุ้น VI แปลความได้ว่า เป็นการลงทุนในหุ้นแบบ นักลงทุนเน้นคุณค่า (Value Investor)

ถ้าแปลเป็นแบบนี้ คงหมายถึง วิธีการลงทุนแบบ Value Investor โดยมี 3 แนวทางฮิต ๆ คือ
1. Graham & Fisher (The Golden Oldie)
2. Buffet (All time grestest hits)
3. Lynch (My Favorites :8) )

ซึ่งก็ขึ้นกับ นักลงทุน นำแนวทางมาประยุกต์ใช้ ได้อีก 108 วิธี ที่ทำให้การลงทุนมีทั้ง กำไร และ ขาดทุน :lol:

และถ้าขวัญใจใครไม่ติด Top 3 Hits ต้องขออภัยด้วยครับ :lol:
มีสติ - อย่าประมาทในการใช้ชีวิต
firstee
Verified User
โพสต์: 908
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 13

โพสต์

คือ หุ้นที่ซื้อแล้วนอนหลับสบายใจ
ไม่เครียจเมื่อยามหุ้นตก
และไม่ดีใจมากเมื่อยามหุ้นขึ้น

ปล. เพิ่งเริ่มน่ะครับ
tananan007
Verified User
โพสต์: 201
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 14

โพสต์

value ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
บางคนชอบของถูก
บางคนชอบของดีในราคาเหมาะสม

คุณค่าของคนๆหนึ่ง ก็ดูจากสิ่งที่เค้าให้คุณค่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
newbie_12
Verified User
โพสต์: 2904
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ในความคิดผม หุ้นวีไอ ถ้าจะนิยามกันจริงๆ มันคงหาคำจำกัดไม่ได้ครับ เพราะว่า "มันไม่มี"

ถ้าจะมีคำที่ใกล้เคียง ผมคิดว่าน่าจะเป็น "หุ้นที่ VI ซื้อลงทุน" หรือ "วิธีการลงทุนแบบ VI"
สองอันด้านบนถ้าจะให้คำนิยามโดยกว้างๆ ก็น่าจะได้ว่า หุ้นที่วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานแล้วเห็นว่า ราคายังต่ำกว่ามูลค่าเป็น MOS ค่าหนึ่งที่เราพอใจ

มั่วเอานะครับ :D :D
.
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง

----------------------------
ภาพประจำตัวสมาชิก
aviruth
Verified User
โพสต์: 334
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 16

โพสต์

นิยามใครนิยามมัน ของผม
ถ้ากำไรโตขึ้นเรื่อยๆทุกปี และ pe ไม่เกิน 10 หุ้นนั้นคือหุ้น vi ถือไปจนกว่ามันจะไม่เป็นอย่างนั้น
อย่าคาดหวังผลลัพธ์ที่แตกต่างด้วยการทำแบบเดิม
et al.
Verified User
โพสต์: 847
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 17

โพสต์

สำหรับผม
VI เป็นหลักการใช้หาหุ้นที่พื้นฐานของกิจการยังไม่ถูก Price in เข้ามาในราคาหุ้น ณ ขณะใดขณะหนึ่ง

:idea:
"Success is the sum of small efforts, repeated day in and day out" [Robert Collier]
PP
Verified User
โพสต์: 435
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 18

โพสต์

บทความแปลตามลิงก์ข้างล่างนี้ น่าจะพอเป็นข้อมูลคร่าวๆสำหรับใช้อธิบายคำนิยามของคำที่คุณหมอสามัญชนตั้งเป็นกระทู้ไว้ไม่มากก็น้อยนะครับ

http://thinkvalueinvestment.blogspot.co ... -post.html
"The man who doesn't read has no advantage over the man who cannot read." Mark Twain
ภาพประจำตัวสมาชิก
iluckyhappy
Verified User
โพสต์: 72
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 19

โพสต์

เห็นด้วยครับ หุ้น VI ไม่มีในโลกครับ มีแต่ หลักการลงทุน แบบ VI เท่านั้น
แต่ อย่างว่า อย่าไปยึดติด เยอะ ครับ เพราะหลักการ VI แบบ ง่าย ง่าย
แบบไม่ต้องคิด อะไรมากมาย
"ซื้อตอนที่หุ้นตกหนัก ๆ เหมือนปี 50 และก็กอดไว้แน่น ๆ แค่นั่นเอง"
...ส่วนเรื่องของการซื้อหุ้นบริษัทอะไร ก็ไปว่ากันเป็นรายกรณี ว่าใครจะใช้
หลักการอะไรในการวิเคราะห์ ตามความถนัด และ ความอดทน รอคอย อย่างมีวินัย
ก็ประสบความสำเร็จ
----------------------------------------------------------
"การชนะตัวเอง คือ ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ จงแข่งขันกับตัวเอง อย่าเปรียบเทียบกับคนอื่น
ชีวิต ก็จะมีความสุข"
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 20

โพสต์

ซื้อหุ้นแล้วติดดอย. เลยต้องถือนาน
จัดเป็นวีไอไหมครับ

ซื้อแล้วราคาวิ่งขึ้นเรื่อยๆ ยังไม่อยากขาย เลยถือนาน
เป็นวีไอไหมครับ

ทำไมคนชอบคิดกันว่าถ้าถือนานคือวีไอ
น่าจะที่มาที่ไปนะครับ เห็นคนเชื่ออย่างนี้เยอะ

ซื้อแล้วแป๊บเดียวหุ้นวิ่งจู๊ด เลยขาย
จัดเป็นวีไอไหมครับ

ซื้อแล้วร่วงทันควัน เลยขาย
เป็นวีไอไหมครับ
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 21

โพสต์

ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ. ดีๆทั้งนั้นเลย
ผมอยากแจมด้วยนะครับแต่ต้องออกตัวก่อนว่า
ความเห็นผมอาจจะถูกหรือผิดก็ได้
เพราะถ้่ารอให้มั่นใจว่าถูก 100% คงจะอีกนาน สิปปียังไม่แน่เลยว่าจะได้โพสท์หรือเปล่า
เอาตามที่เข้าใจตามนี้ไปก่อนนะครับ
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
BalsamiC
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 398
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 22

โพสต์

ตามความเข้าใจของผมนะครับ

ผมเองมีความเข้าใจว่า "หุ้นวีไอ" คือ หุ้นที่มีองค์ประกอบหลักๆ 3 ข้อ ซึ่ง 3 ข้อนี้อาจจะมีดีกรีความเข้มข้นที่แตกต่างกันได้ แต่ที่สำคับ

คือต้องมีครบทั้ง 3 ข้อ

1. เป็นหุ้นของบริษัทที่มีผลประกอบการที่ดีในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ดี
คือ บริษัทมีความสามารถที่จะรักษาระดับของรายได้และผลกำไรให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีได้แม้ว่าสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจในขณะนั้น

ไม่เอื้ออำนวย และ บริษัทนั้นต้องอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเจริญเติบโตหรือมีแนวโน้มที่จะเจริญเติบโต

2. เป็นหุ้นของบริษัทที่มีผู้บริหารที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี
คือ ผู้บริหารต้องไม่เคยมีพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นถึงความไม่ชอบมาพากล ไม่ว่าจะในด้านของการให้ข่าว การเปิดเผยข้อมูล การมี

รายการระหว่างกันที่ชวนให้น่าสงสัย ฯลฯ

3. ราคาของหุ้น ณ เวลานั้นมี margin of safety

หากมีส่วนใดเข้าใจผิดหรือคลาดเคลื่อน ขอรบกวนพี่ๆแนะนำด้วยนะครับ ถือว่าให้เป็นวิทยาทานแก่น้องใหม่ตาดำๆคนนี้ด้วยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
iluckyhappy
Verified User
โพสต์: 72
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 23

โพสต์

ขอร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยคนครับ
---ถ้าซื้อแล้วติดดอย ---
โดยส่วนตัวคิดว่า ณ ที่เราเรียกว่าดอย เป็นราคาที่เหมาะสมกับพื้นฐานที่ควรจะเป็น
หรือเปล่า ครับ ถ้าเราประเมินอย่างดีแล้ว ก็ไม่น่าจะเรียกว่า ดอย
---ถ้าซื้อแล้ววิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ไม่อยากขาย ถือนาน หรือ ซื้อแล้ว หุ้นตกหนัก ๆ แล้วขายทิ้ง ---
โดยส่วนตัวคิดว่า ราคาที่ขึ้น/ลง มันสะท้อน ความเป็นจริง ของธุรกิจ หรือ เปล่า เพราะสุดท้ายผม
เชื่อว่า ราคาไม่ว่าจะขึ้นหรือลง ก็ต้องกลับมาหา ณ จุดดุลยภาพ ที่ควรจะเป็นของธุรกิจนั้น ๆ

สุดท้าย จิตวิทยาการลงทุน ก็มีส่วนสำคัญ มากต่อ นักลงทุน เพราะจะเป็นสิ่งที่ทำให้เรามอง
อะไรที่แตกต่าง ตาม ประสบการณ์ ที่ผ่านพบ
-----------------------------------------
วินัย + อดทน + ความรู้ + ประสบการณ์ = ประสบความสำเร็จ
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 24

โพสต์

1. หุ้นวีไอมีอยู่จริง. ไม่ใช่ไม่มี และไม่ใช่มีเฉพาะนักลงทุนวีไอที่แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า value investor และไม่ใช่มีเฉพาะการลงทุนแบบวีไอ value investment
2. หุ้นวีไอก็คือ value stock แปลเป็นไทยตรงตัวก็คือ หุ้นที่มีคุณค่ามาก อันนี้พูดสั้นๆ สะดวกๆ. ถ้าพูดยาวขึ้นก็คงเรียกว่า หุ้นที่มีคุณค่ามากเมื่อเทียบกับราคาที่ต้องจ่าย ที่จริงควรจะเรียกว่าหุ้นวี ไม่มีคำว่าไอตามหลัง. แต่ถ้าขืนเรียกว่าหุ้นวีเฉยๆ คงจะงงกันและเสียเวลาอธิบายอีกยืดยาว
3. ส่วนการลงทุนแนววีไอนั้น มีความหมายกว้างกว่า เพราะหมายถึงการลงทุนในเรื่องอะไรก็ได้ ถ้าประโยชน์ที่จะได้รับมีมากกว่าสิ่งที่เราจะต้องจ่าย ไม่จำกัดแคบๆแค่เรื่องหุ้น

4. ทุกอย่างนี้มีพลวัตรในตัวเอง ใช้ศัพท์หรูไปหน่อย หมายถึงว่ามีการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เป็นแล้วเป็นเลย หุ้นวีไอวันนี้ อาจจะไม่ใช่หุ้นวีไอในวันหน้าถ้าราคาหรือปัจจัยอื่น(ที่สำคัญ)เปลี่ยนไป และหุ้นที่ไม่ใช่วีไอวันนี้ อาจจะเป็นวีไอในวันหน้าก็ได้
5. เช่นเดียวกับ value investor ก็กลับไปกลับมา บางวันออกนอกทางวีไอ(value investment) วันนั้นก็ไม่ใช่วีไอ(value investor)

6. แต่พลวัตรนี้ไม่ใช้กับ value investment เพราะหลักการลงทุนแบบวีไอนี้ถูกต้องเสมอ. ก็การลงทุนในสิ่งที่มีคุณค่าสูงกว่าเมื่อเทียบกับราคา(หรือคุณค่าก็ยังได้)ที่ต้องจ่าย. จะผิดไปได้อย่างไร.
ถ้าผิดก็หมายความว่า เราควรจะลงทุนในสิ่งที่มีคุณค่าต่ำกว่าแล้วจ่ายสูงกว่า. ซึ่งมองยังไงก็ไม่สมเหตุผลและขืนทำบ่อยๆก็มีสิทธิหายนะ
ดังนั้นตัวหลักการไม่ผิดแต่ช่วงที่ปฎิบัติตามหลักการอาจจะผิด เช่น วิเคราะห์ผิด อันนี้เป็นบ่อยๆ คือผิดที่เราแต่ไม่ใช่หลักการผิด
หรือมีคนมองคุณค่าไม่เหมือนเรา อาจจะเห็นคุณค่าที่เรานิยมเป็นสิ่งไร้ค่าก็เป็นได้.แล้วก็ทำให้หุ้นดีๆของเราร่วงลงมา อันนี้ก็เป็นรายละเอียดในเรื่องการให้คุณค่าที่แตกต่างกัน ไม่ใช่หลักการผิด
หรือเกิดเหตุไม่คาดฝันทำให้กิจการแย่ลงอย่างรุนแรง อันนี้ก็ผิดที่เรา เพราะเราไม่ได้เผื่อเหตุการณ์แบบนี้ไว้. ไม่ใช่หลักการผิด

7. หลักการไม่ผิดแต่ก็ไม่ได้รับประกันว่าจะไม่ขาดทุนเพราะมีข้อผิดพลาดได้ง่ายเมื่อลงมือปฎิบัติจริง ดังนั้นการมีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัยจึงจำเป็นเสมอ

8. หุ้นหลายๆตัวกลับไปกลับมาระหว่างการเป็นหรือไม่เป็นวีไอ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด. หุ้นบางตัวไม่มีวันได้เป็นหุ้นวีไอเลยแม้ราคาจะต่ำติดดิน เพราะปัจจัยบางอย่าง เช่น เรื่องความซื่อสัตย์ของผู้บริหารเป็นต้น. จะเป็นวีไอได้กรณีเดียว คือ ราคาเป็นศูนย์เราได้มาเปล่าๆซึ่งก็มีแต่ในความฝันไม่ใช่ความจริง
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 25

โพสต์

สามัญชน เขียน:1. หุ้นวีไอมีอยู่จริง. ไม่ใช่ไม่มี และไม่ใช่มีเฉพาะนักลงทุนวีไอที่แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า value investor และไม่ใช่มีเฉพาะการลงทุนแบบวีไอ value investment
2. หุ้นวีไอก็คือ value stock แปลเป็นไทยตรงตัวก็คือ หุ้นที่มีคุณค่ามาก อันนี้พูดสั้นๆ สะดวกๆ. ถ้าพูดยาวขึ้นก็คงเรียกว่า หุ้นที่มีคุณค่ามากเมื่อเทียบกับราคาที่ต้องจ่าย ที่จริงควรจะเรียกว่าหุ้นวี ไม่มีคำว่าไอตามหลัง. แต่ถ้าขืนเรียกว่าหุ้นวีเฉยๆ คงจะงงกันและเสียเวลาอธิบายอีกยืดยาว
3. ส่วนการลงทุนแนววีไอนั้น มีความหมายกว้างกว่า เพราะหมายถึงการลงทุนในเรื่องอะไรก็ได้ ถ้าประโยชน์ที่จะได้รับมีมากกว่าสิ่งที่เราจะต้องจ่าย ไม่จำกัดแคบๆแค่เรื่องหุ้น

4. ทุกอย่างนี้มีพลวัตรในตัวเอง ใช้ศัพท์หรูไปหน่อย หมายถึงว่ามีการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เป็นแล้วเป็นเลย หุ้นวีไอวันนี้ อาจจะไม่ใช่หุ้นวีไอในวันหน้าถ้าราคาหรือปัจจัยอื่น(ที่สำคัญ)เปลี่ยนไป และหุ้นที่ไม่ใช่วีไอวันนี้ อาจจะเป็นวีไอในวันหน้าก็ได้
5. เช่นเดียวกับ value investor ก็กลับไปกลับมา บางวันออกนอกทางวีไอ(value investment) วันนั้นก็ไม่ใช่วีไอ(value investor)

6. แต่พลวัตรนี้ไม่ใช้กับ value investment เพราะหลักการลงทุนแบบวีไอนี้ถูกต้องเสมอ. ก็การลงทุนในสิ่งที่มีคุณค่าสูงกว่าเมื่อเทียบกับราคา(หรือคุณค่าก็ยังได้)ที่ต้องจ่าย. จะผิดไปได้อย่างไร.
ถ้าผิดก็หมายความว่า เราควรจะลงทุนในสิ่งที่มีคุณค่าต่ำกว่าแล้วจ่ายสูงกว่า. ซึ่งมองยังไงก็ไม่สมเหตุผลและขืนทำบ่อยๆก็มีสิทธิหายนะ
ดังนั้นตัวหลักการไม่ผิดแต่ช่วงที่ปฎิบัติตามหลักการอาจจะผิด เช่น วิเคราะห์ผิด อันนี้เป็นบ่อยๆ คือผิดที่เราแต่ไม่ใช่หลักการผิด
หรือมีคนมองคุณค่าไม่เหมือนเรา อาจจะเห็นคุณค่าที่เรานิยมเป็นสิ่งไร้ค่าก็เป็นได้.แล้วก็ทำให้หุ้นดีๆของเราร่วงลงมา อันนี้ก็เป็นรายละเอียดในเรื่องการให้คุณค่าที่แตกต่างกัน ไม่ใช่หลักการผิด
หรือเกิดเหตุไม่คาดฝันทำให้กิจการแย่ลงอย่างรุนแรง อันนี้ก็ผิดที่เรา เพราะเราไม่ได้เผื่อเหตุการณ์แบบนี้ไว้. ไม่ใช่หลักการผิด

7. หลักการไม่ผิดแต่ก็ไม่ได้รับประกันว่าจะไม่ขาดทุนเพราะมีข้อผิดพลาดได้ง่ายเมื่อลงมือปฎิบัติจริง ดังนั้นการมีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัยจึงจำเป็นเสมอ

8. หุ้นหลายๆตัวกลับไปกลับมาระหว่างการเป็นหรือไม่เป็นวีไอ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด. หุ้นบางตัวไม่มีวันได้เป็นหุ้นวีไอเลยแม้ราคาจะต่ำติดดิน เพราะปัจจัยบางอย่าง เช่น เรื่องความซื่อสัตย์ของผู้บริหารเป็นต้น. จะเป็นวีไอได้กรณีเดียว คือ ราคาเป็นศูนย์เราได้มาเปล่าๆซึ่งก็มีแต่ในความฝันไม่ใช่ความจริง

ขอบพระคุณอย่างสูงครับพี่หมอ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 26

โพสต์

ผมได้พี่หมอเป็น idol นี่ล่ะครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 27

โพสต์

9. เรื่องถือนานแล้วเป็นวีไอ ผมว่าไม่เกี่ยวโดยตรง
ถือสั้นก็ได้เพราะความสำคัญไม่ได้อยู่ที่เวลาแต่อยู่ที่คุณค่า เราสามารถเปลี่ยนไปหาสิ่งที่มีคุณค่าสูงกว่าได้ เช่น อย่างเช่น ซื้อหุ้น xxx ได้เดือนเดียว หุ้นก็วิ่งจู๊ดอย่างรวดเร็ว แม้ยังไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ว่าเราไปเจอหุ้น yyy ที่มีคุณค่าสุงกว่า เราก็เปลี่ยนตัวได้ แต่เหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ.

ดังนั้นที่มาของความเชื่อว่าวีไอต้องถือนานจึงน่าจะมาจากเรื่องการมองหุ้นเป็นเหมือนการทำธุรกิจ

10. เมื่อวีไอเน้นที่คุณค่า. ดังนั้นการประเมินคุณค่าจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้.และมีความสำคัญในระดับเป็น "ลมหายใจ"ทีเดียว นักลงทุนที่ไม่รู้วิธีประเมินมูลค่าก็เหมือนมีแต่ร่างกายที่ขาดลมหายใจและรอวันตาย

11. การประเมินมูลค่ามีหลายวิธี วิธีที่อิงอยู่กับปัจจัยพื้นฐานเป็นวิธีที่สมเหตุสมผลในระยะยาว. ส่วนวิธีอื่นผมไม่ทราบ :D

12 . หุ้นวีไอเป็นคำกว้างๆถ้าเจาะลึกจะได้ลักษณะของหุ้นแตกต่างกันหลายแบบ. ปีเตอร์ ลินช์จำแนกและอธิบายให้เข้าใจได้ง่ายๆ. แต่ละกลุ่มมีข้อดีข้อเสียต่างกัน รวมถึงจังหวะเวลาที่เหมาะในการลงทุนต่างกัน
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 28

โพสต์

สามัญชน เขียน:9. เรื่องถือนานแล้วเป็นวีไอ ผมว่าไม่เกี่ยวโดยตรง
ถือสั้นก็ได้เพราะความสำคัญไม่ได้อยู่ที่เวลาแต่อยู่ที่คุณค่า เราสามารถเปลี่ยนไปหาสิ่งที่มีคุณค่าสูงกว่าได้ เช่น อย่างเช่น ซื้อหุ้น xxx ได้เดือนเดียว หุ้นก็วิ่งจู๊ดอย่างรวดเร็ว แม้ยังไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ว่าเราไปเจอหุ้น yyy ที่มีคุณค่าสุงกว่า เราก็เปลี่ยนตัวได้ แต่เหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ.

ดังนั้นที่มาของความเชื่อว่าวีไอต้องถือนานจึงน่าจะมาจากเรื่องการมองหุ้นเป็นเหมือนการทำธุรกิจ

10. เมื่อวีไอเน้นที่คุณค่า. ดังนั้นการประเมินคุณค่าจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้.และมีความสำคัญในระดับเป็น "ลมหายใจ"ทีเดียว นักลงทุนที่ไม่รู้วิธีประเมินมูลค่าก็เหมือนมีแต่ร่างกายที่ขาดลมหายใจและรอวันตาย

11. การประเมินมูลค่ามีหลายวิธี วิธีที่อิงอยู่กับปัจจัยพื้นฐานเป็นวิธีที่สมเหตุสมผลในระยะยาว. ส่วนวิธีอื่นผมไม่ทราบ :D

12 . หุ้นวีไอเป็นคำกว้างๆถ้าเจาะลึกจะได้ลักษณะของหุ้นแตกต่างกันหลายแบบ. ปีเตอร์ ลินช์จำแนกและอธิบายให้เข้าใจได้ง่ายๆ. แต่ละกลุ่มมีข้อดีข้อเสียต่างกัน รวมถึงจังหวะเวลาที่เหมาะในการลงทุนต่างกัน
ขอถามพี่หมอด้วยความเคารพครับ

พี่หมอมีหลักการณ์ในการปรับพอร์ตอย่างไรครับ

การเลือกหุ้น 1 ตัวเข้ามานั้น เป็นการเทรดระหว่าง หุ้นตัวนั้นกับเงินสดในมือเรา

แต่การปรับพอร์ต (ตัวนึงเข้า ตัวนึงออก) เป็นการเทรดระหว่าง หุ้น A (หุ้นในมือ ซึ่งเลือกมาอย่างดี) กับ หุ้น B (หุ้นที่อยากได้)

พี่หมอมีหลักการณ์อย่างไรครับ

ขอบพระคุณอย่างสูงครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 29

โพสต์

Nevercry.boy เขียน:
ขอถามพี่หมอด้วยความเคารพครับ

พี่หมอมีหลักการณ์ในการปรับพอร์ตอย่างไรครับ

การเลือกหุ้น 1 ตัวเข้ามานั้น เป็นการเทรดระหว่าง หุ้นตัวนั้นกับเงินสดในมือเรา

แต่การปรับพอร์ต (ตัวนึงเข้า ตัวนึงออก) เป็นการเทรดระหว่าง หุ้น A (หุ้นในมือ ซึ่งเลือกมาอย่างดี) กับ หุ้น B (หุ้นที่อยากได้)

พี่หมอมีหลักการณ์อย่างไรครับ

ขอบพระคุณอย่างสูงครับ
ใช้หลักการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมครับ
เมื่อก่อนชอบเล่นหุ้นตัวเดียว ถ้าเห็นหุ้นตัวใหม่มีอัพไซด์สูงกว่าผมก็สวิทส์มาเลย
ปัจจุบันมีหุ้นอยู่4-5ตัว
ก็ใช้วิีประเมินมูลค่าเหมือนเดิม
ผมจะเรียงลำดับความมีคุณค่าณ.ราคาปัจจุบัน เป็นอันดับ1 ถ้ามีคุณค่าสูงสุด และลงเงินในตัวนี้สูงสุด
อันดับ2-5ก็ลดระดัับตามลำดับ
เมื่อไปเจอหุ้นตัวใหม่ก็จะประเมินว่าจะมาเบียดอันดับไหนได้บ้าง ก็เอาไปแทรกตรงนั้นแล้วขายอันดับบ๊วยออกไปครับ

ปล.คุณ NB ก็เป็นคนที่ผมชื่นชมมากๆเลยครับ. ขอ(อณุญาต)บอก :D
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 0

Re: นิยามคำว่า "หุ้นวีไอ"

โพสต์ที่ 30

โพสต์

13. หุ้นวีไอมีหลายกลุ่มตามที่ลินช์บอก การประเมินมูลค่าก็เลยใช้วิธีที่แตกต่างกัน รวมถึงทักษะเครื่องไม้เครื่องมือที่ต่างกัน. จึงเป็นการยากที่คนเราจะมีทักษะหลายๆด้านพร้อมๆกัน เราควรเลือกกลุ่มที่เหมาะกับความสามารถของเรา ระหว่างนี้เราก็ค่อยๆพัฒนาความรู้และทักษะด้านอื่นกลุ่มอื่นไปเรื่อยๆ
14. อย่างไรก็ตามก็มีจุดร่วมกันในการประเมินหุ้นแต่ละกลุ่มอยู่ครับ คือเราประเมินราคาที่เราจ่ายในวันนี้เทียบกับคุณค่าที่เราจะได้รับในอนาคต. เคยมีบ่อยอยู่เหมือนกันที่ไปเจอหุ้นที่เทียบกับปัจจุบันแล้วน่าซื้อมากแต่ราคาหุ้นไม่ตอบสนองเพราะมูลค่าในอนาคตไม่ได้โดดเด่นอะไร. แบบนี้ก็มี ดังนั้นมูลค่าในอนาคตเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ที่จะต้องประเมิน

15. การมองอนาคตนั้นถ้ามองได้ไกลๆก็ยิ่งดี แต่ก็ต้องใช้ความรู้และประสบการณ์ที่สูงมาก รวมถึงโอกาสที่จะผิดพลาดก็จะเพิ่มเป็นเงาตามตัวถ้าความสามารถไม่สูงพอเนื่องจากมันไกลมากสามารถมีสิ่งที่ไม่คาดฝันได้บ่อยๆ สำหรับความรู้ชนาดผมๆชอบมองอนาคตประมาณ 2-3 ปีข้างหน้า
16. ที่ว่ามองอนาคตนั้น ถ้ามองไปทุกๆด้านก็เป็นเรื่องยากสำหรับผมอีก บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่ไม่มีประโยชน์นัก เพราะไม่ได้เกี่ยวกับหุ้นเราเลย ผมเลยโฟกัสไปที่กำไรที่บริษัทจะทำได้ ซึ่งจะแคบลงและง่ายขึ้น
17. พอได้ผลลัพธ์ตามข้อ 16 แล้ว ก็ไม่เป็นการยากนักในการที่จะประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของมัน. ถ้าไม่ได้ตามข้อ16 ก็แสดงว่าเรารู้เกี่ยวกับมันไม่มากพอ เราก็ไม่ซื้อมันเท่านั้นเอง
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
โพสต์โพสต์