ปิด 1,OOO แสดงถึงอะไรมั่งครับวันนี้

[beercorp]

ปิด เกิน 1,OOO จุดซะที
แสดงถึงอะไรมั่งครับ

แนวโน้มขึ้นต่อ หรือ แค่เกินพันเฉยๆ ไม่มีอะไร

ขอท่านผู้รุ้ชี้แนะ ด้วยครับ !~!

[blueplanet]

QE2 จะทำให้ money supply จำนวนมหาศาล
USD จะด้อยค่าลงไปเรื่อยๆ
วิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับประเทศ ที่พิมพ์เงินได้
คือ พิมพ์เงิน เอาไปซื้อของจากประเทศต่างๆ
กว่าประเทศด้อยพัฒนาเหล่านั้นจะคิดเป็น
ในกระเป๋าก็เต็มไปด้วย USD แต่ทรัพย์สินต่างๆก็ขายไปหมด

[นพพร]

ไม่มีอะไรหรอกครับ เป็นแค่เพียงตัวเลข

[โลมาแดง]

ผลประกอบการในภาพรวมที่ดีขึ้นจากปีก่อน

[kit556]

ข้อดีที่แน่นอนของพันจุด คือมีหนังสือการลงทุนดีๆ ได้รับการแปลไทยออกมาจำนวนมาก ตอนนี้ผมก็รอซื้อจากร้านใกล้บ้านเพราะไม่ว่างแวะไปงานหนังสือ :-)

ทุกวันนี้ไปที่ไหนก็ได้ยินแต่คนพูดถึงตลาดหุ้น แม้แต่ใน fitness   ถ้าสัก 1200 จุด หวังว่าคงมีสักสำนักพิมพตีพิมพ์ security analysis แปลไทยออกมา ผมจะได้ซื้อมาบูชาสักเล่มถึงจะอ่านไม่รู้เรื่องก็เถอะ  :lol:

[Sorgios]

ราคามีขึ้นมีลง

ถ้าบริษัทเราขายของได้ดี กำไรเยออะ และรวยขึ้นตามดัชนีก็ดีสิน้า

เฮ้ออออออออออ

[Undertaker]

เงินไหลเข้า ทำให้ผลประกอบการดีขึ้น
หรือ ผลประกอบการดีขึ้น เงินจึงไหลเข้า
แล้วเงินที่ไหลเข้ามา ทำให้บริษัทของเราดีขึ้นยังไง (ไม่นับราคาหุ้น)

[kawee019]

คนส่วนใหญ่คาดหวังว่าเศรษฐกิจจะดีครับ

[jo7393]

แปลว่า มองหาหุ้รที่เราเข้าใจ และ Under value ยากกกส์์....... ครับ
:lol:  :lol:

[jack_jack]

สำหรับผม1000 จุดแสดงว่ามากกว่า 990 จุด
ผมรู้แค่นี้ เจงเจง :lol:

[บูรพาไม่แพ้]

หุ้นเขาไป1000จุดแต่หุ้นเราตกอย่างแรงครับ

[erickiros]

พอร์ตของผมนิ่งอยู่เลยครับ  

[naijan]

หลักทรัพย์ SET  
แหล่งข่าว SET  
 หัวข้อข่าว SET News :ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ทำสถิติปิดที่ 1,003.24 จุด สูงสุดในรอบ 14 ปี เผยผู้ลงทุนเชื่อมั่นศักยภาพหุ้นไทย  
 วันที่/เวลา 01 พ.ย. 2553 18:18:44  
                                                                      ฉบับที่ 125/2553

                                                                    1 พฤศจิกายน 2553

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ทำสถิติปิดที่ 1,003.24 จุด สูงสุดในรอบ 14 ปี เผยผู้ลงทุนเชื่อมั่นศักยภาพหุ้นไทย

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดที่ 1,003.24  สูงสุดในรอบ 14 ปี
ชี้ผู้ลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศเชื่อมั่นศักยภาพ มั่นใจบริษัทจดทะเบียนไทยยังแข็งแกร่ง
และยังให้ผลตอบแทนที่ดีสำหรับผู้ลงทุน


นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET Index) ที่ปรับขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,003.24 จุด ในวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน
2553  ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับขึ้น 36% ในรูปเงินบาท และ 52% ในรูปเงินเหรียญสหรัฐ
ซึ่งเมื่อคิดในรูปเงินเหรียญสหรัฐฯ จะพบว่าสูงสุดเมื่อเทียบกับทุกตลาดในภูมิภาค
ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีและเป็นเครื่องชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศต่
อตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ยังให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ

SET Index ได้ปรับขึ้นมาเกิน 1,000 จุดนั้น
เป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นว่าตลาดทุนไทยมีบริษัทจดทะเบียนที่มีคุณภาพ  และมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงในตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังทำลายสถิติสูงสุดอีกหลายด้านนับตั้งแต่ก่อตั้ง (ณ วันที่
29 ต.ค. 2553) มูลค่าการซื้อขายของผู้ลงทุนสูงถึงเฉลี่ยวันละ 26,957.81 ล้านบาท
แสดงให้เห็นว่าตลาดหุ้นไทยมีสภาพคล่องสูง ในขณะที่มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization)
ได้ทำสถิติสูงสุดมาอยู่ที่ 8.06 ล้านล้านบาท (เมื่อ 15 ต.ค. 53) คิดเป็น 84% ของ GDP
ในขณะที่จำนวนบัญชีที่มีการซื้อขาย (Active Accounts) ในตลาดหลักทรัพย์ฯได้เพิ่มขึ้นเป็น 178,000
บัญชีในเดือนกันยายน ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้
หากรวมจำนวนบัญชีทั้งหมดที่มีการลงทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งที่ลงทุนผ่านกองทุนรวม
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนประกันสังคม และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการแล้ว จะมีจำนวนบัญชีสูงถึงกว่า
15 ล้านบัญชี

นอกจากนี้ หากดูในเชิงลึก จะเห็นว่าการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ได้ทำสถิติการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันสูงสุด
นับตั้งแต่การจัดตั้งตลาดอนุพันธ์ โดยมีจำนวนสัญญาซื้อขาย 17,630 สัญญาต่อวัน (ณ วันที่ 29 ต.ค. 2553)

สำหรับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ปรับสูงขึ้นนี้ ส่งผลให้อัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E Ratio)
ปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 15.40เท่า (ณ 29 ต.ค. 2553)
ซึ่งส่งผลดีต่อบริษัทจดทะเบียนให้สามารถระดมทุนด้วยต้นทุนที่ต่ำ
และเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะดึงดูดบริษัทให้เข้ามาจดทะเบียนมากขึ้น
ในขณะที่บริษัทจดทะเบียนยังมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยผลประกอบการ 6 เดือนแรกปีนี้
บริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยมูลค่ากำไรสุทธิและยอดขายเพิ่มขึ้น 34% และ
24% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ผลการดำเนินงานของหมวดธนาคารในไตรมาส 3/2553
ที่มีการประกาศตัวเลขก่อนสอบทานออกมา มีกำไรสุทธิ 30,142 ล้านบาท สูงที่สุดนับแต่ไตรมาส 2 ปี 2544
*******

ขอบันทึกไว้นิดหนึ่ง

[จอม]

นึกถึงสมัยผมเริ่มเล่นหุ้นใหม่ๆ
ได้ยินประโยคนึงที่ติดใจผมมาก

"งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา
...ใครลุกช้า จ่ายตังค์และล้างจาน"

ไม่เกี่ยวกับวิถีทางของ VI ครับ
...แต่เห็นข่าวข้างบนแล้วมันถึงประโยคนี้ขึ้นมาเฉยๆ

[Paul VI]

นึกถึงสมัยผมเริ่มเล่นหุ้นใหม่ๆ
ได้ยินประโยคนึงที่ติดใจผมมาก

"งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา
...ใครลุกช้า จ่ายตังค์และล้างจาน"

ไม่เกี่ยวกับวิถีทางของ VI ครับ
...แต่เห็นข่าวข้างบนแล้วมันถึงประโยคนี้ขึ้นมาเฉยๆ

น่าคิดครับ แต่อย่างว่าครับ ขึ้นกับ มุมมอง และ sentiment ตลาด และนักลงทุน

[slalom]

"งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา
...ใครลุกช้า จ่ายตังค์และล้างจาน"

ผมว่า วีไอ ไม่ค่อยได้จ่ายตังค์กับล้างจานนะ เพราะวีไอชอบไปโต๊ะที่อาหารเพิ่งลง คนนั่งน้อยๆ  พออาหารเริ่มพร่อง ก็เดินไปกินโต๊ะอื่นต่อ สุดท้ายกินหมดทุกโต๊ะ ก็ย้ายไปงานอื่นต่อ...  สรุปว่า วิชาเดินชิมพันลี้มแบบนี้เป็นวีไอ หรือพรรคกระยาจกหว่า ?? :lol:

[จอม]

"งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา
...ใครลุกช้า จ่ายตังค์และล้างจาน"

ผมว่า วีไอ ไม่ค่อยได้จ่ายตังค์กับล้างจานนะ เพราะวีไอชอบไปโต๊ะที่อาหารเพิ่งลง คนนั่งน้อยๆ  พออาหารเริ่มพร่อง ก็เดินไปกินโต๊ะอื่นต่อ สุดท้ายกินหมดทุกโต๊ะ ก็ย้ายไปงานอื่นต่อ...  สรุปว่า วิชาเดินชิมพันลี้มแบบนี้เป็นวีไอ หรือพรรคกระยาจกหว่า ?? :lol:

อย่างที่ผมบอก
ไม่เกี่ยวกับแนวทางของ VI ครับ
ผมแค่เล่าให้ฟังเฉยๆ

เพราะนึกถึงประโยคนี้ขึ้นมา

สมัยนั้นบรรยากาศก็คล้ายๆวันนี้
ถามหาคนขาดทุนยากเต็มที
เซียนเดินชนไหล่กันบนถนน

ผมก็จำคนพูดประโยคนั้นไม่ได้แล้ว
แต่จำได้ว่า คนพูด โดนเหล่าเซียนมองหน้าและค้อนตาคว่ำ
บ่นพึมพัมว่า คนขี้อิจฉา

หลังจากนั้นไม่นาน

เหล่าเซียนเริ่มหายไปทีละคนสองคน
คนพูดประโยคนั้นก็หายไปก่อนหน้าแล้ว


...เหลือแต่ผมยืนล้างจาน

เอ้ย ไม่ใช่ๆ

ผมแอบยืนอยู่ข้างพุ่มไม้ดูงานเลี้ยงเลิกไปครับ
ผมชอบกินร้านเล็กๆครับ ไม่ชอบงานเลี้ยง ผมขี้อาย

คนที่ล้างจานและจ่ายเงินสีหน้าไม่ค่อยสู้ดี
หลายคนยืนล้างจานแบบงงๆ ไหล่ชนกันเหมือนที่เคยเดินชนกันบนถนน
และไม่ยังคงเข้าใจโลก






ผมเล่าให้ฟังสนุกๆนะ
...ไม่มีอะไรจริงๆครับ

[Green_nightmare]

คุณจอมเล่าเรื่องสนุกจังครับ

[bhudhorn]

นึกภาพตามเลยครับ

ฮ่ะๆๆ

[มะลิ]

แสดงถึงว่ากองทุนทั้งหลายจำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้นแว้ววว  

[Linzhi]

ส่วนตัวคิดว่ากองทุย น่าจะพลาดนะ เงินจาก LTF RMF ไม่น่าจะไหลเข้ามาเร็วขนาดนี้

1,000 จุด ต่างกับ 999 จุดมากเลย ในตำรา Kotler นะ ไม่ใช่ Buffet  :lol:

[nut776]

ดร.นิเวศน์ แกให้เริ่มกลัวคับ
เพราะตอนนี้ pe ตลาดไม่ถูก ไม่แพง 13 14
แกว่าตอนปี 40 ก่อนฟองแตก มันประมาณ 30
แต่ตอนนี้เราไม่รู้ว่าจะไป ถึงต้องระวังและกลัว

[terati20]

ตอนเเรกนึกว่าต่างชาติซื้อสุทธิ
ดันเป็นกองทุนซื้อ
ปลายปีน่าจะมี  RMF LTF เข้ามาประคองดัชนีอีก

[Java The Boy]

QE2 จะทำให้ money supply จำนวนมหาศาล
USD จะด้อยค่าลงไปเรื่อยๆ
วิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับประเทศ ที่พิมพ์เงินได้
คือ พิมพ์เงิน เอาไปซื้อของจากประเทศต่างๆ
กว่าประเทศด้อยพัฒนาเหล่านั้นจะคิดเป็น
ในกระเป๋าก็เต็มไปด้วย USD แต่ทรัพย์สินต่างๆก็ขายไปหมด

เห็นด้วยครับ นี่เป็นความ...ของพวกมะกัน แต่ทุกอย่างก็จะกลับไปสนองพวกมะกันทุกครั้งไป

[PrasertsakK]

[quote="kit556"]ข้อดีที่แน่นอนของพันจุด คือมีหนังสือการลงทุนดีๆ ได้รับการแปลไทยออกมาจำนวนมาก ตอนนี้ผมก็รอซื้อจากร้านใกล้บ้านเพราะไม่ว่างแวะไปงานหนังสือ

ทุกวันนี้ไปที่ไหนก็ได้ยินแต่คนพูดถึงตลาดหุ้น แม้แต่ใน fitness

[guyver]

สมัยนี้ประเทศไหนก็พิมพ์เงินเองได้ทั้งนั้นน่ะครับ  - _ -

[murder_doll]

หุ้นใหญ่ๆจะขึ้นไงครับ แต่อาจขึ้นเพราะกระแสเงิน แม้พื้นฐานจะไม่ได้มีกำไรเพิ่มขึ้นก็ตาม

[กล้วยทอด]

ดีใจจังค่ะ เคยเห็นหลัก 900 ก็ว่าเยอะแล้ว
ปีที่แล้วดูดวงตามนิตยสาร-FWD mail บ้าง อิอิ
เห็นบอกว่าปีนี้เราจะมีโชคกัน

จะดีกว่านี้ ถ้าปีเกิด (ปีเถาะ) ปีหน้า ยังดีอยู่
พยายามเตือนตัวเองอยู่เหมือนกัน ว่าอย่าประมาท