แบ่งเวลาไม่ถูกทำไงดี

[Gloleng]

ไม่รู้จะทำไงดีอยากอ่าน นส การลงทุนหาข้อมูลแต่มันไม่ได้เพราะต้องอ่านหนังสือสอบเพราะกลัวตก ฮ่าๆๆ แต่จะอ่านการลงทุนอีกทีตอนตุลา แล้วพี่ๆๆว่าตอนตุลาที่หยุดปิดเทอมเดือนนึงควรแบ่งเวลาอ่าน นส การลงทุนยังไงอ่ะคะที่จะทำให้ได้ความรู้มากที่สุดอ่ะค่ะเราควรอ่าน นส เล่นไหนก่อนกลัวว่าถ้าอ่านข้ามช็อตจะไม่รู้เรื่องอ่ะค่ะ อ่านคนไทยเขียนก่อนแล้วค่อยไปอ่าน นส ที่แปลจากอังกิตหรือป่าวอ่ะคะ
คำถามอาจจะดูงงๆๆสับสนในตัวเองแต่ก้งงจิงๆๆอ่ะค่ะ

[Gloleng]

ว่าแล้ววันนี้ก้ต้องไปอ่านหนังสือก่อนแล้ว เฮ้ออเมื่อไรจะผ่านช่วงนี้ไปสะทีเนี่ยคิดถึงบอร์ด แฮ่ๆๆๆๆ

[peacedev]

บางที่หนังสือในชั้นวาง มันเยอะจนอ่านไม่หวาดไม่ไหว
ไหนจะ Ebook อีกตั้งหลายไฟล์
ผมใช้วิธีอ่านจากเรื่องที่สนใจที่สุดก่อน โดยดูจากสารบัญ
ส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะได้อ่านรวดเดียวจบเล่ม นอกจากเป็นเล่มที่ชอบจริง ๆ
ผมเลยแปลกใจที่เวลาเห็นคนกลัวหนังสือเล่มหนา ๆ สำหรับผมรู้สึกว่ามันก็เหมือนหนังสือเล่มเล็ก หลาย ๆ เล่มรวมกัน
เผลอแป๊บเดียวมันก็จบไปตั้งหลายเล่มละครับ

[CK]

เรื่องแบ่งเวลา ลองฟังจากตัวอย่างนี้ครับ


นักพูดคนหนึ่งได้ขึ้นมาสาธยายเรื่องการแบ่งเวลาให้กับพนักงานบริษัท
และระหว่างการพูด เขาหยิบเหยือกน้ำขึ้นมาหนึ่งใบ พร้อมน้ำเปล่าหนึ่งขวด
ทรายสองถ้วย กรวดสองถ้วย และก้อนหินขนาดเท่ากำปั้น 6 ก้อน

เขาเริ่มต้นด้วยการเทน้ำลงไปในเหยือก แล้วเททรายลงไป
ใส่กรวดลงไป สุดท้ายก็วางก้อนหินลงไป แต่วางได้ค่ 3 ก้อนเท่านั้น

แล้วจึงเริ่มใหม่อีกครั้ง โดยเอาหินทั้งหกก้อนใส่ลงไปก่อน
ตามด้วยกรวด ทราย และน้ำตามลำดับ

ปรากฎว่าของทุกอย่างลงไปอยู่ในเหยือกได้ทั้งหมดพอดี



แบ่งเวลาก็ประมาณนี้ครับ :lol:

[Paul VI]

เรื่องแบ่งเวลา ลองฟังจากตัวอย่างนี้ครับ


นักพูดคนหนึ่งได้ขึ้นมาสาธยายเรื่องการแบ่งเวลาให้กับพนักงานบริษัท
และระหว่างการพูด เขาหยิบเหยือกน้ำขึ้นมาหนึ่งใบ พร้อมน้ำเปล่าหนึ่งขวด
ทรายสองถ้วย กรวดสองถ้วย และก้อนหินขนาดเท่ากำปั้น 6 ก้อน

เขาเริ่มต้นด้วยการเทน้ำลงไปในเหยือก แล้วเททรายลงไป
ใส่กรวดลงไป สุดท้ายก็วางก้อนหินลงไป แต่วางได้ค่ 3 ก้อนเท่านั้น

แล้วจึงเริ่มใหม่อีกครั้ง โดยเอาหินทั้งหกก้อนใส่ลงไปก่อน
ตามด้วยกรวด ทราย และน้ำตามลำดับ

ปรากฎว่าของทุกอย่างลงไปอยู่ในเหยือกได้ทั้งหมดพอดี



แบ่งเวลาก็ประมาณนี้ครับ :lol:

เคยได้ยินเหมือนกันครับ

คมมาก  

[MO101]

ยากรู้เหมือนกันครับ ตอนนี้วันๆ อ่านข้อมูลใน net ก็หมดวันแล้วไม่ได้ทำอย่างอื่นเรย ไม่รู้ต้องทำอย่างไรเช่นกัน  :lol:

[Anti-Aircraft]

ที่ทำงานผมไกลมากครับ ผมใช้เวลาเดินทางไปกลับประมาณ 6 ชั่วโมงต่อวันครับ นั่นแหละช่วงเวลาหลักที่ผมใช้อ่านหนังสือ 56-1 และใช้จินตนาการเชื่อมโยงเรื่องราวและตัวเลขต่างๆ เข้าด้วยกัน กลับถึงบ้้านก็เหนื่อย ยกเวทเสร็จก็นอนเลย แต่ก็มีส่วนของงบการเงินนี่แหละครับที่อ่านบนรถไม่ไหวจริงๆ เพราะบางทีต้องใช้ excel ช่วยคำนวณ ผมแก้ไขโดยพยายามตื่นเช้าๆ มานั่ง recast งบก่อนออกไปทำงาน แล้วก็เอาตัวเลขที่กรอกตอนเช้าไปนั่งจินตนาการในรถอะไรเงี้ย บทจะตัดสินใจซื้อหุ้น ส่วนใหญ่มันมักจะเกิดปิ๊งขึ้นมาตอนที่ไม่ค่อยพร้อมอะ เช่นนั่งกินก๋วยเตี๋ยว ดูหนัง หรืออาบน้ำ บางทีเรานึกไอโน่นไอนี่แล้วสะกิดใจบางอย่าง ก็เอาใช้เครื่องคิดเลขในโทรศัพท์ลองคำนวณดูแล้วเจออะไรดีๆ ก็มี ลองดูนะครับ คงไม่มีถูกผิด สไตล์ใครสไตล์มัน

[AuI_a VI]

บ้านรวยไหม ทุนเยอะป่าว ถ้าทุนหนา บ้านรวยจะได้ให้แม่ไปขอ เย้ยยยยย


คือถ้ารวย เงินลงทุนหุ้นหนา ก็เน้นศึกษาหุ้นเป็นหลัก เพื่อหากำไรจากหุ้น เวลาผิดพลาดก็หาเงินจากที่บ้านมาเติมได้ เวลาถูก กำไรแค่10% ก็อยุ่ไปได้หลายปี พอรตโตมากมาย  เรื่องเรียนก็เอาว่าให้ผ่านเป็นดี

แต่ถ้าพอมีพอกิน ควรเน้นตั้งใจเรียน เกรดดีๆ จบมามีงานทำดีๆที่มีรายได้สูงๆไว้ลงทุน ติดตามการลงทุนน้อยๆหน่อยเป็นเรื่องรอง

แต่ไม่ว่าอย่างไรการศึกษาก็เป็นรากฐานการคิดที่เป็นระบบ เวลาลงทุนในหุ้นตัวไหนๆ ก็ต้องนำมาใช้อยู่ดี สรุป เรียนเป็นก้อนหินหลัก ครับ ใส่ขวดไว้ก่อนเลย หุ้น ไม่ต้องไปดูมันมาก ดูมากก็ซื้อขายมาก เจ๊บมาก55  :lol:

[Gloleng]

รับทราบทุกความคิดเหนค่าาาจะนำไปปฏิบัตในเชิงประยุกต์ อ่าๆๆๆๆ
ว่าแต่เรื่อง นส เล่มไหนอ่าคะที่อ่านง่ายๆๆ จะได้ไม่ข้ามชอตอ่านยากเลยมันจะไม่รู้เรื่องอ่าค่ะ   ขอบคุนพี่ๆๆมากค่ะ
ปล แอบเสียใจวันนี้อาเซร์นอลแพ้คาถิ่น  :'O  :'O  :'O

[Anti-Aircraft]

อ่านไรไปแล้วมั่งอะคับ ที่บอกว่ายากอะ

[hutza]

พี่เป็น นศ นี่น่าจะมีเวลามากนะครับ ขนาดผมเรียนยังมีเวลาเลย

แต่ไม่เคยเอาหนังสือลงทุนมากนั่งอ่านสักที 555+

[miracle]

เสียเวลาในการเดินทางวันหนึ่งหลายอยู่
ถ้านั่งรถเดี๋ยวนี้ฟังเพลง
ถ้าอยู่บน BTS หรือใต้ดินอ่านหนังสือ

[Gloleng]

อ่านไรไปแล้วมั่งอะคับ ที่บอกว่ายากอะ

อ๋อ คือตอนนี้ตอมมีหนังสือที่ซื้อมาแล้วยังไม่ได้อ่านอ่ะค่ะเช่น กุญแจห้าดอก
แล้วอารายโคลัมเบียนี่แหละ ส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือแปลที่ยังไม่ได้อ่าน ฮ่าๆๆๆ  กะว่าจะอ่านไทยก่อนแล้วพี่ว่าหนังสือแปลอ่านยากมั้ย ตอนนี้คิดว่าจะไล่อ่านของ ดร.  และนักเขียนท่านอื่นๆที่เป็นภาษาไทยก่อนน่ะค่ะ

[doo_meau]

ผมแนะนำนะครับ อ่านของอาจารย์นิเวศน์ก่อน วันเดียวก็จบแล้วเล่มนึง ผมอ่านแล้วทุกเล่ม แล้วก็ one up on wall street เพราะสนุกดี แต่ยังไงๆครับ ต้องมีที่ไม่เข้าใจ ถึงคิดว่าเข้าใจแล้ว วันนึง ความรู้เราสูงขึ้นกลับมาอ่านใหม่ ก็ได้ความรู้มากขึ้นอีก ผมมีหนังสือเยอะมากแทบทุกเล่ม ทุกวันนี้ยังไม่หยุดอ่าน อ่านซ้ำบ้าง อะไรบ้าง ครับ

[Gloleng]

ผมแนะนำนะครับ อ่านของอาจารย์นิเวศน์ก่อน วันเดียวก็จบแล้วเล่มนึง ผมอ่านแล้วทุกเล่ม แล้วก็ one up on wall street เพราะสนุกดี แต่ยังไงๆครับ ต้องมีที่ไม่เข้าใจ ถึงคิดว่าเข้าใจแล้ว วันนึง ความรู้เราสูงขึ้นกลับมาอ่านใหม่ ก็ได้ความรู้มากขึ้นอีก ผมมีหนังสือเยอะมากแทบทุกเล่ม ทุกวันนี้ยังไม่หยุดอ่าน อ่านซ้ำบ้าง อะไรบ้าง ครับ

ของ ดร. เล่มเก่าๆๆหาไม่ได้แล้วอ่าค่ะหรือว่าหาอ่านเท่าที่มีให้ซื้ออ่านแล้วส่วนถ้าเราอ่าน ของ ดร และนักเขียนท่านอื่นๆๆแล้วเราไปอ่านหนังสือแปลของพวกบัฟเฟตต์ ลินซ์ และอื่นๆๆ มันจะทำให้เราอ่านคล่องขึ้นใช่มั้ยอ่าคะ

[Gloleng]

เสียเวลาในการเดินทางวันหนึ่งหลายอยู่
ถ้านั่งรถเดี๋ยวนี้ฟังเพลง
ถ้าอยู่บน BTS หรือใต้ดินอ่านหนังสือ

อ่อตอมก้เดินทางประมานยี่สิบนาทีอ่าค่ะเป็นรถเมล์สายสองเก้าอยากอ่านบนรถเหมือนกันค่ะแต่ถ้าอ่านแล้วจะปวดหัวเหมือนจะอาเจียรเลยไม่ค่อยอ่านอะไรบนรถอะค่ะ แล้วอาการเหล่านี้มีวิธีแก้มั้ยคะ   ขอบคุนค่ะ

[โอรสสวรรค์]

ถ้าน้องอะตอมใช้เวลาเดินทางแค่ 20 นาทีพี่ว่าหาพวกหนังสือพิมพ์มาอ่านดีกว่าครับ พวกข่าวเศรษฐกิจทั่วไป หรือพวกบทความเศรษฐกิจสั้น ๆ (เรื่องพวกนี้เอาไปประยุกต์กับเรื่องที่เรียนได้ด้วยครับจะทำให้เห็นภาพได้ชัดขึ้น)

    อีกอย่างที่น้องอะตอมได้เปรียบพวกพี่ ๆ ก็คือ น้องยังเรียนอยู่ครับ ซึ่งน้องสามารถไปลงเรียนวิชาอื่น ๆ นอกคณะได้ เช่น บัญชี การเงิน การตลาด ที่ช่วยเสริมความรู้ในการลงทุนได้ด้วยครับ

[Anti-Aircraft]

เล่มที่สนุกก็อ่านเอาสนุกครับ อย่าไปซีเรียส
เล่มที่ไม่ค่อยสนุก ก็ทนอ่านให้มันจบๆ ไปครับ
อย่าไปคาดหวังว่าจะรู้เรื่องหมดในครั้งแรก มันเป็นไปไม่ได้ (สำหรับผม)

ถ้าอ่านไม่รู้เรื่องแล้วทำให้ท้อหรือเลิกอ่านเนี่ย คงไม่มีทางอ่านให้จบได้ซักเล่มหรอกครับ หนังสือหลายต่อหลายเล่มที่พี่สักแต่อ่านๆให้จบไป พอเอามาอ่านซ้ำแล้วเพิ่งเข้าใจทีหลังก็มี ความรู้ก็เป็นเหมือนจิ๊กซอว์อะครับ ถ้าหยิบชิ้นส่วนจิ๊กซอว์มา 1 ตัว แล้วบอกว่า "มันรูปไรวะเนี่ย ดูไม่ออก ขี้เกียจต่อแล้ว" มันก็คงจบแค่นั้นอะครับ

แต่หากเราเห็นว่าเออ ตัวนี้มันสีฟ้านะ เรายังดูไม่ออก แล้วก็ไม่รู้จะไปต่อกับอะไร เราเลยค่อยๆ รวบรวมชิ้นส่วนสีฟ้ามากองๆ ตรงหน้า เราก็อาจจะเห็นว่า เฮ้ย เจอแล้วตัวที่ต่อกันได้

แม้ยังดูไม่ออกอยู่ดี แต่ก็เป็นก้าวแรกในการต่อจิ๊กวอว์ของเรา สมมติพอปะติดปะต่อไปซักพัก เราเริ่มเห็นแล้วว่า อ๋อ สีฟ้ามันเป็นทะเล เราก็รู้แล้วว่า เอองั้นสีเหลืองอ่อนคงเป็นชายหาด สีแดงคงเป็นพระอาทิตย์ พอเริ่มเห็นภาพรวมอะไรๆ ก็ง่ายขึ้น การไปยึดติดกับรายละเอียดเกินไปบางทีก็เสียเวลาเปล่า

เพื่อนผมกับผมซื้อหนังสือเล่มเดียวกันแท้ๆ ผมอ่านๆ ให้มันจบๆ ไปตั้งแต่อาทิตย์แรก ไม่เข้าใจ ผมอ่านอีกรอบ ก็ไม่เข้าใจ ลองอ่านเล่มอื่นซัก 2 - 3 เล่ม คุยกะคนโน้นคนนี้ เริ่มสะกิดใจนิดหน่อย กลับมาอ่านซ้ำ เออ เฮ้ย เข้าใจแล้ว เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยไปครับ ผ่านไป 3 เ้ดือนปรากฏว่าเพื่อนผมยังอ่านหนังสือเล่มนั้นไม่จบครับ มันบอกหน้า 20 กว่าก็เริ่มไม่รู้เรื่องแล้วขี้เกียจอ่านต่อ ซึ่งฟังแล้วผมก็เสียดายหนังสือแทนครับ

คำแนะนำอีกอย่างคือห้องมือใหม่เป็นสถานที่ลองวิชาที่ดีครับ ลองมองหาคำถามที่น่าสนใจ แล้วลองเข้าไปช่วยตอบดูครับ ถูกมั้งผิดมั่งเดี๋ยวก็มีคนมาแก้ให้เองแหละ 55+ พี่ไ้ด้ความรู้ใหม่ๆ เยอะแยะจากการช่วยตอบกระทู้ (มั่วๆ) เนี่ยแหละ

ค่อยๆทำไปครับ ผลเกิดจากเหตุ หากก่อเหตุที่ถูก ผลที่ถูกจะช้าหรือเร็วก็ต้องเกิดแน่นอนครับ สู้ๆ

ปล. เรื่องการอ่านหนังสือบนรถมันทำได้เป็นบางคนนะครับ อย่าไปพยายามเลียนแบบ มันเสียสายตาด้วยครับ ถ้าคุณแม่จ๋ารู้เข้าตีตายเลยแหละ 55+

[Gloleng]

ขอบคุนสำหรับคำแนะนำทั้งหลายค่าา

[<< New >>]

จะสอบแล้ว อย่ามัวแต่เข้าเวปล่ะ เอาเวลาไปอ่านหนังสือด้วยเด้อ  :P

[MO101]

เอาเรื่องสอบก่อนดีกว่ามันใกล้ตัวดี ถ้าทำได้ไม่ดีไม่มีโอกาสแก้ตัว
ส่วนเรื่องหุ้นรู้ช้าไปอีกสักปี ยังมีโอกาสแก้ตัว

[chowbe76]

หลักการหมากล้อมข้อที่2

งานด่วนมาก่อนงานใหญ่

[ซากคน]

เอาเรื่องสอบก่อนดีกว่ามันใกล้ตัวดี ถ้าทำได้ไม่ดีไม่มีโอกาสแก้ตัว ส่วนเรื่องหุ้นรู้ช้าไปอีกสักปี ยังมีโอกาสแก้ตัว

เห็นด้วยกับพี่ปุ๊นะครับ  อะไรที่มันปัจจุบันทันด่วน  ต้องสะสางก่อน
อย่าคั่งค้างเป็นดินพอกหางหมู นานไปจะเอาออกยากมาก ตอนปีท้ายๆ
โดยเฉพาะเรื่องเรียน เป็นอะไรที่ต้องดูแลมันอย่างดี ตลอด 4 ปี  

ตรูทำเกรดสวยๆ มา 3 ปีติดแล้ว  ปีสุดท้าย อัดอั้นมานาน ขอปล่อยผีสักทีเถอะ  :twisted:

พี่เกือบเรียนไม่จบปีสุดท้าย  เพราะคิดแบบข้างบนนี่แหละ แถมดันเอาเวลาอ่านหนังสือสอบไปอ่านหนังสือลงทุน  อ. ให้ D พี่ ตัวนึง  ก็บุญคุ้มกะลาหัว
แล้ว  :lol:

ส่วนเรื่องลงทุนพี่เห็นต่างกับพี่ปุ๊   ตรงที่ว่า  มันต้องเป็นมวยให้เร็ว  เวลาไม่รอคอยให้คนพัฒนาตัวเองทันกับโอกาส  คนส่วนใหญ่ รวมทั้งพี่ พัฒนาตัวเอง
ไม่ทัน จนคว้าโอกาสครั้งสำคัญไว้ไม่ได้  :evil:  

พี่แนะนำตอม จัดเวลาให้อ่านตีคู่ไปกับหนังสือเรียนนี่แหละ  แต่อย่าไปอ่านหนังสือลงทุนช่วงใกล้สอบ 2 สัปดาห์นะ  เดี๋ยวใจไม่อยู่กะหน้ากะตัว    

มองไปข้างหน้าอีก 4 ปี  หากตอมต้องการเป็น Super Thai  Youngterk
ตอมต้องพัฒนาตัวเองทุกด้าน ที่คิดว่าจะเอาดีแน่ๆ ตั้งแต่ตอนนี้แหละ
อายุ 18 19 เป็นช่วงที่ดีที่สุด  

จะได้ไม่ต้องจบเห่แบบพี่ทุกวันนี้  ที่พลาดเป้าหมายใหญ่ทุกเป้า

 อะตอมสุ้ๆ

[Gloleng]

ได้ข้อคิดอะไรหลายๆๆอย่างมากเลย ขอบคุนพี่ๆๆค่ะที่แนะนำอะไรดีๆๆให้

[Gloleng]

ก้ช่วงนี้ฤดูกาลสอบรุมเร้า ฮ่าๆๆๆๆ แต่เด่ววันที่สี่ก้เสดแล้ว
หลังจากนั้นหยุดยาวหนึ่งเดือนตอมก้จะอ่านหนังสือทำการบ้านการลงทุนให้เต็มที่และตอมก้หวังว่าจะได้อะไรดีๆๆจากการอ่านหนังสือในช่วงปิดเทอมบ้างนอกจากน้ำหนักที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นและกับการไปเที่ยวพักผ่อนต่างจังหวัดกับเพื่อนๆๆ   เฮ้อออไร้สาระมาเยอะแล้วอยากมีสาระบ้าง ฮ่าๆๆๆๆๆ

[Anti-Aircraft]

พี่รู้จักผู้ใหญ่ทั่นหนึ่งที่ทำงานสารพัดมาตั้งแต่จบ ม. 3  (ไม่ใช่คุณซาอินะ) ชีวิตผ่านทั้งจุดสูงสุดและต่ำสุด เคยทำงานในบริษัทโฆษณาชั้นนำ ทำกราฟฟิกดีไซน์ ขายน้ำปั่น ออกแบบบรรจุภัณฑ์ เป็นช่างเทคนิคในโรงพยาบาล พากษ์การ์ตูน เป็นครูสอนศิลปะในโรงเรียน  ตอนนี้เป็นอาจารย์สอนเทควันโด เคยมาหมดตั้งแต่ใช้เงินเป็นน้ำ ยันอดมื้อกินมื้อ ฟังแล้วรู้สึกอย่างกับว่าชีวิตเค้าเป็นได้ทุกอย่างที่ใจต้องการ

แต่เค้าบอกว่าสิ่งที่เค้าเสียใจมากอย่างหนึ่งก็คือ เค้ารู้สึกว่าตัวเองไม่เคยมีชีวิตวัยเด็กเหมือนคนอื่น

เรื่องบางเรื่องก็ทำได้เฉพาะในวัยเด็ก ใช้มันให้คุ้มค่านะจ๊ะ

[Gloleng]

^
^
^
รับทราบจ้าๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆ
ตอมไร้สาระได้อีกอ่ะ
ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

[san]

[quote="Anti-Aircraft"]พี่รู้จักผู้ใหญ่ทั่นหนึ่งที่ทำงานสารพัดมาตั้งแต่จบ ม. 3

[กล้วยทอด]

การจัดเรียง priority ของการอ่านหนังสือ แต่ละคนมีเทคนิคไม่เหมือนกันนิ

ถ้าเป็นสมัยเรียน กล้วยทอดส่วนใหญ่จะอ่านก่อนสอบ 1 เดือน ทำแบบนี้ค่ะ
เอา text book ทุกวิชามากองรวมกัน (ต้องรู้เราก่อนค่ะ ว่าตรูต้องอ่านไรบ้างเนี่ย T_T
รวมหนังสือที่เราอยากอ่านด้วย (ไม่เกี่ยวกะเรื่องเรียนเลย...หลั่นล้า)
สมัยเรียน ปกติไม่อ่านหนังสือแปลภาษาไทยค่ะ เพราะเค้าแปลแย่อ่ะ
อ่านแล้วยิ่งปวดหัว อ่าน text ขมกลืนแป๊บเดียว จากนั้นอ่านสบายแล้วค่ะ

แล้วก็ตั้งเป้าว่าจะอ่านแค่ วันละ 1 วิชาเท่านั้น  
(ส่วนว่า...ต้องอ่านกี่บท ก็ไปหารเอาเองตามจำนวนวันที่เหลือ)
วันถัดไปก็เปลี่ยนเป็นวิชาใหม่ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนครบรอบ
ส่วนใหญ่ไม่เห็นจะเรียนถึง 7 วิชาต่อ 1เทอมเลย เท่าที่สังเกตุ
มันก็จะมีวัน เวลาที่เหลือ 1 วัน เอาไว้อ่านเล่น หรืออ่านหนังสือที่ชอบได้ค่ะ
แต่ถ้าไม่ทันจริงๆ ค่อยตัดหนังสืออ่านเล่นไปก่อน
ปล. ก่อนเริ่มอ่าน ไปเอาข้อสอบเก่ามาดูก่อนค่ะ จะได้รู้ว่าต้องเน้นเรื่องไหนพิเศษ
ไม่งั้น อ่านไปก็ลงทะเล เสียเวลาเปล่า

บางคนเค้าใช้เทคนิคอ่านให้จบวิชาหนึ่งยาวๆๆๆๆไปก่อน แล้วค่อยอ่านหนังสือวิชาถัดไป
แต่กล้วยทอดไม่ค่อยถนัดค่ะ เพราะจะเจอปัญหาว่า เล่มที่อ่านจบไปแล้วนานๆ
ลืมเกลี้ยงเลยค่ะ สู้อ่านทุกวันๆ วันละวิชาไม่ได้ เหมือนได้ฝึกแยกประสาททุกวันๆ

จริงๆ ต้องเรียนวิชาคำนวนค่อนข้างเยอะ ถ้าสลับกับวิชาท่องบ้าง มันไม่ค่อยเบื่อค่ะ
ไม่ค่อยได้หลัง ลืมหน้าด้วย  
(การอ่านต้องมีวินัยนะคะ อย่าเลือกเฉพาะหนังสือหรือวิชาที่ชอบแต่อย่างเดียว)

ทุกวันนี้ถึงมีสอบ ก็อ่านไม่เคยจะจบเลย (นิสัยแย่จริงๆ)  T_T

[Gloleng]

พระเจ้าพี่กล้วยทอดขยันมากอ่านก่อนสอบตั้งหนึ่งเดือน
ตอมอ่านก่อนสอบวิชาละไม่เกินสองวันเวลาสอบ
สนุกดีมีอะไรให้ลุ้นๆๆตลอดเวลา  ฮ่าๆๆๆๆ
เด่วลองทำแบบพี่บอกก่อนว่าจะได้สักกี่วันสำหรับตอม
ฮ่าๆๆๆๆๆ หนังสือเรียนตอมอ่านน้อยแต่ถ้าหนังสืออ่านเล่นหรือลงทุน
จะอ่านได้เรื่อยๆๆๆค่า
ขอบคุนสำหรับคำแนะนำนะคะ