![Cool :8)](./images/smilies/icon_cool.gif)
เพราะเป็นโบร๊กใหญ่
ใครแปลว่าอะไรก็แปลกันเองนะ
ถือว่าผมรู้มาแล้วมาบอกแฟนานุแฟนในกระทู้นี้ก็ละกัน
โทรไปคุยด้วยแล้วครับเรื่องนี้hongvalue เขียน:พี่ป้อมครับ ผมมีเรื่องข้องใจนิดหน่อยครับ
ในกระทู้ jas มีการตามลบความเห็นกันเยอะมาก
แต่มีคนจำนวนมากรู้สึกว่าเขาไม่ได้โพสอะไรผิดทำไมต้องถูกลบ
ไม่ทราบว่าเรื่องนี้จะแก้ปัญหากันอย่างไรดีครับ
ความดี ในสายตาพระเจ้ายุคมิลเลนเนียม
อันเนื่องจากติดพันมาจากตอนที่แล้ว เกี่ยวกับบทละครกาลิเลโอของเบรคซท์
ป้าเกิดประทับใจประเด็นหลักในงานของเบรคซท์ มากอยู่
จึงพยายาม มองหาบทละครอีกสักเรื่องที่มีความน่าสนใจ
ตรงกับเหตุการณ์ในยุคสมัยของเรา มาจุดประเด็นให้ขบคิดกัน
โดยบทละครเรื่องใหม่ที่ป้าเลือกมาเล่าให้ฟังนี้มีชื่อว่า " คนดีที่เสฉวน"
เกี่ยวกับบทละครเรื่องนี้ เบรคซท์ได้ประพันธ์ขึ้นเมื่อเขาแก่ตัวลง
เขาเริ่มมองปัญหาในสังคมมนุษย์อย่างซับซ้อนขึ้น
การจะว่าอะไรดี เลว ถูก ผิด ไม่ง่ายเหมือนสมัยหนุ่มๆที่เขาเคยคิดอีกต่อไปแล้ว
เอาล่ะมาติดตามดูกันว่า คนดีในสายตาของเบรคซท์จะเป็นเช่นไร?
ตัวเอกในเรื่องคนดีที่เสฉวน คือ หญิงโสเภณีนางหนึ่ง
ผู้เป็นมนุษย์คนเดียวที่ให้แหล่งพักพิงแก่เทพเจ้า
แม้จะต้องแลกกับการขาดรายได้จากการขายตัวไปวันหนึ่ง
เบรคซท์สร้างให้ตัวเอกของเรื่อง เป็นแค่หญิงโสเภณี ที่ไร้ค่า ยากจน
และถูกรังแกเอารัดเอาเปรียบ จากเจ้าหน้าที่รัฐ แมงดา แขกที่มาหาความสุข
และ คนทั่วไปเสมอ แต่ถึงกระนั้น จิตใจของเธอก็ยังงดงาม
ด้วยยึดมั่นในการทำความดีไม่เว้นวาย
แต่โชคร้ายที่ เช็งตีเกิดมาในยุคที่แม้เทพเจ้ายังไม่ตายจากไปก็จริง
แต่เทพเจ้าก็แทบไร้พลังอำนาจใดๆ จะดีก็แค่ยอมรับบทบาทของตนว่า
เป็นเพียงผู้สังเกตการณ์เท่านั้น คนจะดีหรือเลวอยู่ที่ตนเองและสิ่งแวดล้อม
และในสิ่งแวดล้อมอย่างทุกวันนี้ คนดีก็อยู่ลำบาก
และถ้าอยู่รอดได้ก็จำเป็นต้องรู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา
ปรับตัวเองไหลไปตามสิ่งแวดล้อมครั้งๆคราวๆ
เนื่อเรื่องย่อมีอยู่ว่า เทพเจ้าสามองค์เดินทางมาสู่โลกมนุษย์
เพื่อเสาะแสวงหาคนดี เมื่อครั้นเสด็จมาถึงเมืองเสฉวน
ซึ่งเป็นเมืองที่มีแต่ความแร้นแค้น ก็หาคนที่จะให้ความช่วยเหลือเทพเจ้าไม่ได้
แม้แต่คนที่จะใจกว้างให้ที่พักอาศัยก็ไม่มี
เพราะคนส่วนใหญ่ไม่สนใจที่จะฟังเรื่องของเทพเจ้าเสียแล้ว
จะมีก็เพียงแต่โสเภณีที่ชื่อว่า "เช็งตี" เท่านั้น
ความเอื้ออารีของนางทำให้เทพเจ้าประทับใจ
จึงประทานเงินให้เธอก้อนหนึ่งเพื่อเป็นทุนตั้งร้านขายบุหรี่
แต่ไม่นานผู้คนก็มาเกาะเธอจนเกือบหมดตัว
เนื่องจากจิตใจดีและปฏิเสธใครไม่เป็น
ซำร้ายเธอยังไปตกหลุมรักนักบินตกงานเข้าเสียอีก
ชายคนนี้หวังปอกลอกหลอกลวงเงินเธอเต็มที่
ชีวิตเซ็งทีจึงเริ่มประสบกับหายนะ
แต่ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจปลอมตัวเป็นชาย
ซึ่งอุปโลกย์เป็นลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งชื่อ "ซุยตา"
เธอเล่นบทเป็นซุยตาที่มีบุคลิก ลักษณะ นิสัยใจคอตรงข้ามกับเช็งตีทุกอย่าง
ทั้งโหดร้าย ใจแคบกดขี่ เป็นนักธุรกิจเต็มตัวที่ไม่ยอมเสียเปรียบใครง่ายๆ
เหล่าอดีตคนข้างกายที่มาเกาะกินปอกลอก เริ่มไม่พอใจ
พาลคิดไปว่า เซ็งตีได้ถูกซุยตาฆ่าตาย
และยึดกิจการมาเป็นของตนเองอย่างแน่นอน
เรื่องฆาตกรรมดังกล่าวได้ถูกนำขึ้นศาล โดยมีเทพเจ้าสามองค์นั่งบัลลังก์เอง
เมื่อได้พบกับเช็งตีอีกครั้ง เทพเจ้าจึงดีใจมาก
ที่ในโลกกว้างใหญ่ไพศาลนี้ก็ยังมีคนดี 1 คน
แต่เธอสารภาพว่า การเป็นคนดีนั้นทำได้ยากลำบากเหลือเกิน
และเธอก็เป็นคนดีตามที่เทพเจ้าต้องการไม่ได้เสียแล้ว
เธอจำเป็นต้องมี ซุยตา เป็นพี่เลี้ยง เพื่อช่วยให้ดำเนินชีวิตได้ต่อไป
เทพเจ้าเองเมื่อรับรู้เรื่องราว ก็ช่วยอะไรไม่ได้
เพียงแต่บอกเธอว่าให้เรียกญาติของเธอกลับมาช่วยได้เดือนละครั้ง
ว่าแล้วก็รีบหนีเหาะขึ้นสวรรค์ไปด้วยความปิติ
ที่ได้พบคนดีสมกับที่ได้แสวงหามาตลอด
ทิ้งให้เช็งตีมีชีวิตต่อสู้ดิ้นรน ในโลกที่ไม่ใช่ที่อยู่ของคนดีอย่างเธอต่อไปอย่างโดดเดี่ยว
เอวังด้วยประการฉะนี้...
กูรูขอบสนาม เขียน:
สมัยเรียนหนังสือ เคยมีส่วนร่วมทำละคร คนดีที่เสฉวน ของคณะ
ชอบบทละครเรื่องนี้มาก
คนแต่งคือ Bertold Brecht นักปรัชญาการละครเยอรมัน
เนื้อเรื่องจำกระพร่องกระแพร่งเต็มที เลยไปหาในกูเกิ้ลว่ามีใครพูดถึงมั้ย
ก้อ...มีจนได้
ขออนุญาตลอกมาให้อ่านดีกว่า
http://hoyjubkab.exteen.com/20100601/entry
ขออนุญาติแจมด้วยหน่อย..ยืมบ้านพี่ป้อม :Phongvalue เขียน:ผมขอโทษ mod ท่านนึงด้วยที่ผม pm ไปเหมือนไปถามหาเรื่องท่าน
แต่ท่านก็เป็นผู้ใหญ่ตอบอย่างเป็นกลาง
จริงๆแล้วเว็บนี้เองก็ทำให้ผมมีความรู้และมีข้อมูลข่าวสารอย่างทุกวันนี้
อย่างที่พี่ป้อมบอกนั้นแหละถูกแล้ว อย่าเอาตัวเราไปตัดสินคนอื่นเรื่องบางเรื่องเรามองจากมุมเราก็ถูก เรามองจากมุมของอีกฝั่งนึงเขาก็ถูก
ถ้าคนเราไม่ไปตัดสินคนอื่นว่าคนอื่นผิดหรือถูกจากจุดยืนตัวเองเราก็ได้ทั้งความสุขใจและคนอื่นก็อยู่ร่วมกับเราแบบ happy
ยังไงก็ขอบคุณพี่ป้อมอีกครั้งที่ตอนโทรไปพี่พูดเรื่องธรรมะให้ฟังครับ
วันนี้ได้เข้าใจครับมีเงินเท่าไหร่ไม่มีความสุขหรอก และการไปคิดว่า
เราดีกว่าเขา เขาเลวกว่าเรา จริงๆแล้วเราอาจจะเลวเองก็ได้
เพียงแต่คนอื่นเขาไม่พูด
คิดได้แบบนี้ก็รู้สึกว่าใจสงบมากขึ้นครับ
ตอนนี้รู้สึกนับถือพี่ฉัตรชัยมากๆครับขอบคุณพี่ฉัตรชัยมา ณ ที่นี้
ผมก็เหมือนฮงละครับhongvalue เขียน:ไม่ต้องห่วงครับ ผมไม่ได้เข้าไปซื้อหุ้น jas หรอกครับ
ไม่ได้ติดหุ้น และคิดว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนประเภท
ไปติดแล้วมาด่าใครอยู่แล้ว
เอาเป็นว่าผมเลิกพูดเรื่องนี้ดีกว่าครับ
มาคิดๆดูแล้วตัวเองก็โง่ฉิบเป๋งไม่ได้เกี่ยวไม่รู้
จะเข้าไปสอดทำไมเสียเวลาเสียจิต
ใครจะเป็นยังไงถ้ามันไม่เกี่ยวกับผมก็ช่างมันเถอะ
คนได้ตังค์ก็ไม่ใช่ผม คนเสียตังค์ก็ไม่ใช่ผม
คนในกระทู้นั้นใครเป็นไงก็ให้คนอ่านตัดสินกันตามเนื้อผ้าไปแล้วกัน
ผมเพิ่งระลึกชาติได้ว่าผมจะยุ่งกับพวกเขาทำไมเสียเวลาจริงๆ
เพราะปกติผมก็ไม่เคยไปยุ่งเรื่องชาวบ้านข้ามกระทู้อยู่แล้ว
วันนี้ทำให้ผมรู้ว่าอะไรๆมันเป็นยังไง
crazyrisk เขียน:
สังคมจะดีเมื่อสิ่งแรกที่คนให้กันคือ ให้อภัย