รุ้งกินน้ำ
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 2882
เรื่องคอมโม ต้องฟังพี่จิมเขาว่าไง
หุ้นคอมโมเป็นหุ้นที่เจ้ามือใหญ่คือตลาดโลก
เจ้ามือย่อยคือเจ้าของ จะไม่ได้เปรียบเรา เหมือนหุ้นประเภทอื่น
(หมอสามัญชน สอนไว้)
http://www.jimrogers-investments.blogspot.com/
หุ้นคอมโมเป็นหุ้นที่เจ้ามือใหญ่คือตลาดโลก
เจ้ามือย่อยคือเจ้าของ จะไม่ได้เปรียบเรา เหมือนหุ้นประเภทอื่น
(หมอสามัญชน สอนไว้)
http://www.jimrogers-investments.blogspot.com/
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 3348
- ผู้ติดตาม: 0
รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 2884
[quote="por_jai"] เรื่องคอมโม ต้องฟังพี่จิมเขาว่าไง
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก มันก็เป็นเช่นนั้นแล
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 2887
มีเพื่อนส่งลิ๊งมาให้ น่ารักมากมาย
นำมาฝากกัน
คลิ๊กตรงสีดำ ตรงไหนก็จะได้ต้นไม้ขึ้นมา เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง
สีสรรนานา...
http://www.procreo.jp/labo/flower_garden.swf
นำมาฝากกัน
คลิ๊กตรงสีดำ ตรงไหนก็จะได้ต้นไม้ขึ้นมา เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง
สีสรรนานา...
http://www.procreo.jp/labo/flower_garden.swf
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- reiter
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2308
- ผู้ติดตาม: 0
รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 2890
[quote="por_jai"] ชอบความคิดอ่านของพี่เบ้งเขาจริงๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 3348
- ผู้ติดตาม: 0
รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 2891
ผมนึกว่า lanna จะกำไรกว่านี้สะอีก
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก มันก็เป็นเช่นนั้นแล
- Fon^^
- Verified User
- โพสต์: 604
- ผู้ติดตาม: 0
รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 2892
por_jai เขียน: ชอบความคิดอ่านของพี่เบ้งเขาจริงๆ
ไปอ่านเจอในกระทู้ ลานนา คัมมิ่นส์
ผมว่าฮงในทุกวันนี้
ตกผลึกยิ่งกว่ารุ่นพี่ๆบางคนในเวบที่ว่าดังๆไปซะไกลแล้ว
Hongvalue ขยันมากมายจริงๆค่ะ เคยเจอตอนนั้นข้อมูลแน่นมากๆ
ร่วมเชียร์ด้วยคน
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 2897
การเครดิตภาษี สำหรับหลายๆคนที่ยังไม่รู้
มีคนอธิบายไว้ อ่านดูแล้วเข้าใจเลย
มีประโยชน์ดีครับ
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 95485.html
a:ซื้อ MCS วันนี้ พรุ่งนี้ XD คิดเป็นร้อยละไหร่หนอ คุ้มไหมครับ ใครรู้ช่วยคิดให้หน่อย
b:ถ้า 9 บาท ก็ประมาณ 3.33%
มีใครรู้มั้งเครดิตภาษีเท่าไร หรือได้รับ boi
c:ขอถามหน่อย เห็นพูดถึงเครดิตภาษีกัน มากน้อย ดียังไงคะ หรือเอาไปหักลดหยอ่นภาษีได้ ไม่เข้าใจค่ะ
d:เครดิตภาษีจะดีสำหรับคนที่มีรายได้หลักอยู่ในขั้นยัง ไม่ต้องเสียภาษีหรือเสียอัตรต่ำๆอยู่ครับ หลักการคร่าวๆคือบริษัทที่จ่ายปันผลเหล่านี้มีการเสียภาษีให้รัฐไปแล้วก่อน ที่จะนำเงินกำไรนั้นไปเป็นกำไรสะสมและจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้น ฉนั้นการที่บริษัทเหล่านั้นจ่ายปันผลให้ผถหแล้วยังหักณ ที่จ่ายอีกครั้งจึงเป็นการจ่ายภาษีซ้ำซ้อน สรรพากรกำหนดให้ผู้มีเงินได้สามารถเลือกขอขอเครดิตภาษีคืนได้โดยจะคิดตาม อัตราภาษีของบริษัทนั้นๆ อย่างไรก็ตามหากเลือกจะทำต้องแสดงทุกรายการของเงินปันผลที่ได้รับไม่ใช่ เลือกบางรายการที่เป็นประโยชน์กับเรา เพราะบางบริษัทที่จ่ายปันผลจากกำไรในส่วนของ BOI จะไม่ได้ประโยชน์จากการเครดิตภาษีครับ
sueto:เครดิตภาษี
เอาแบบง่ายๆก่อนนะครับ
ปกติบริษัทจะเสียภาษีของกำไร ก่อนที่จะมาจ่ายปันผล
ตั้งแต่ 0-30 % โดยทั่วไปก็จะอยู่ที่ 25-30 %
อย่าง MCS เสียไปแล้ว 25% บวกกับภาษีหัก ณ ที่จ่าย 10 %
%รวมเป็น 35%
ต้องดูว่า ฐานภาษีเราเท่าไรถ้า 20% ก็ขอคืนตอนยื่นภาษีได้ 15 %
morning star :ที่คุณ sueto เขียนมาถูกต้องแล้วครับ แต่ตัวเลขยังไม่ถูกต้อง
คืออย่างนี้ เวลาที่บริษัทได้กำไรมา สมมติว่า 100 บาท
แล้วเสียภาษีนิติบุคคลในอัตรา 25% ทำให้กำไรสุทธิหลังหักภาษีเหลือ 75 บาท
แล้วสมมติอีกว่า บริษัทจ่ายปันผลออกมาทั้งหมด นั่นคือ ปันผลออกมา 75 บาท ให้ผู้ถือหุ้น สมมติว่าเป็นคุณ
ก่อนที่คุณจะได้รับเงินปันผล คุณจะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% ของเงินปันผล
นั่นคือ 10% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีที่ปันผลออกมา นั่นคือ 10% ของ 75 บาท = 7.5 บาท
ดังนั้น สุทธิแล้ว คุณจะได้รับเงินปันผล = 75 - 7.5 = 67.50 บาท
เท่ากับว่าบริษัทมีกำไรก่อนหักภาษี 100 บาท เมื่อปันผลออกมาหมด ถูกหักภาษีไปตลอดทาง = 32.50 บาท หรือ 32.50%
เท่ากับว่า เงิน 100 บาท ได้จริง 67.50 เสียภาษีไป 32.50 บาท
ทีนี้ เงินปันผลจากบริษัทที่คุณได้ ถือว่าเป็นเงินได้บุคคลธรรมดา อยู่ในมาตรา 40(4)
ซึ่งผู้มีเงินได้ สามารถเลือกที่จะนำมารวมกับเงินได้อื่น ๆ เพื่อยื่นเสียภาษีก็ได้ หรือจะไม่ยื่นเลยก็ได้
ข้อบังคับคือ ถ้าจะนำมารวม ก็ต้องนำปันผลทั้งหมดที่ได้ตลอดปีมารวม จะเอามาเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้
หรือถ้าจะไม่นำมารวม ก็ต้องไม่นำมารวมเลยทั้งจำนวน
จากที่เห็น เงิน 100 บาทที่ปันผลออกมา คุณเสียภาษีไปแล้ว 32.50 บาท เท่ากับคุณเสียภาษีในอัตราส่วน 32.50%
ดังนั้น ถ้าฐานภาษีประจำปียังไม่ถึง rate 37% จึงควรนำรายได้เงินปันผลมายื่น
เพื่อ ที่จะนำมาคำนวณภาษีใหม่ ทำให้เสียภาษีของเงินปันผลที่เสียไปในอัตรานิติบุคคล + หัก ณ ที่จ่าย ถูกนำมาคิดใหม่ในฐานภาษีบุคคลธรรมดาของคุณ
สมมติใน case ที่ดีที่สุด คือคุณไม่มีเงินได้อะไรเลย
เมื่อคุณนำเงินปันผล 67.50 บาทนี้มายื่นขอเครดิตภาษี หรือคำนวณใหม่
เท่ากับว่าคุณมีเงินได้ 100 บาท (คิดจากเงินได้ทั้งหมดก่อนหักภาษี) แต่คุณเสียภาษีไปแล้ว 32.50 บาท
แต่ในอัตราบุคคลธรรมดา คุณมีเงินแค่ 100 บาท ย่อมไม่เสียภาษี
ดังนั้น คุณจะสามารถขอเงินภาษีคืนจากที่เสียไปได้ 32.50 บาท
ค่อนข้างจะยากสำหรับคนไม่มีความรู้เรื่องภาษีนะครับ
แต่ถ้าทำความเข้าใจซักนิด คุณจะรู้เลยว่ามันมีประโยชน์มาก ๆ
มีคนอธิบายไว้ อ่านดูแล้วเข้าใจเลย
มีประโยชน์ดีครับ
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 95485.html
a:ซื้อ MCS วันนี้ พรุ่งนี้ XD คิดเป็นร้อยละไหร่หนอ คุ้มไหมครับ ใครรู้ช่วยคิดให้หน่อย
b:ถ้า 9 บาท ก็ประมาณ 3.33%
มีใครรู้มั้งเครดิตภาษีเท่าไร หรือได้รับ boi
c:ขอถามหน่อย เห็นพูดถึงเครดิตภาษีกัน มากน้อย ดียังไงคะ หรือเอาไปหักลดหยอ่นภาษีได้ ไม่เข้าใจค่ะ
d:เครดิตภาษีจะดีสำหรับคนที่มีรายได้หลักอยู่ในขั้นยัง ไม่ต้องเสียภาษีหรือเสียอัตรต่ำๆอยู่ครับ หลักการคร่าวๆคือบริษัทที่จ่ายปันผลเหล่านี้มีการเสียภาษีให้รัฐไปแล้วก่อน ที่จะนำเงินกำไรนั้นไปเป็นกำไรสะสมและจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้น ฉนั้นการที่บริษัทเหล่านั้นจ่ายปันผลให้ผถหแล้วยังหักณ ที่จ่ายอีกครั้งจึงเป็นการจ่ายภาษีซ้ำซ้อน สรรพากรกำหนดให้ผู้มีเงินได้สามารถเลือกขอขอเครดิตภาษีคืนได้โดยจะคิดตาม อัตราภาษีของบริษัทนั้นๆ อย่างไรก็ตามหากเลือกจะทำต้องแสดงทุกรายการของเงินปันผลที่ได้รับไม่ใช่ เลือกบางรายการที่เป็นประโยชน์กับเรา เพราะบางบริษัทที่จ่ายปันผลจากกำไรในส่วนของ BOI จะไม่ได้ประโยชน์จากการเครดิตภาษีครับ
sueto:เครดิตภาษี
เอาแบบง่ายๆก่อนนะครับ
ปกติบริษัทจะเสียภาษีของกำไร ก่อนที่จะมาจ่ายปันผล
ตั้งแต่ 0-30 % โดยทั่วไปก็จะอยู่ที่ 25-30 %
อย่าง MCS เสียไปแล้ว 25% บวกกับภาษีหัก ณ ที่จ่าย 10 %
%รวมเป็น 35%
ต้องดูว่า ฐานภาษีเราเท่าไรถ้า 20% ก็ขอคืนตอนยื่นภาษีได้ 15 %
morning star :ที่คุณ sueto เขียนมาถูกต้องแล้วครับ แต่ตัวเลขยังไม่ถูกต้อง
คืออย่างนี้ เวลาที่บริษัทได้กำไรมา สมมติว่า 100 บาท
แล้วเสียภาษีนิติบุคคลในอัตรา 25% ทำให้กำไรสุทธิหลังหักภาษีเหลือ 75 บาท
แล้วสมมติอีกว่า บริษัทจ่ายปันผลออกมาทั้งหมด นั่นคือ ปันผลออกมา 75 บาท ให้ผู้ถือหุ้น สมมติว่าเป็นคุณ
ก่อนที่คุณจะได้รับเงินปันผล คุณจะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% ของเงินปันผล
นั่นคือ 10% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีที่ปันผลออกมา นั่นคือ 10% ของ 75 บาท = 7.5 บาท
ดังนั้น สุทธิแล้ว คุณจะได้รับเงินปันผล = 75 - 7.5 = 67.50 บาท
เท่ากับว่าบริษัทมีกำไรก่อนหักภาษี 100 บาท เมื่อปันผลออกมาหมด ถูกหักภาษีไปตลอดทาง = 32.50 บาท หรือ 32.50%
เท่ากับว่า เงิน 100 บาท ได้จริง 67.50 เสียภาษีไป 32.50 บาท
ทีนี้ เงินปันผลจากบริษัทที่คุณได้ ถือว่าเป็นเงินได้บุคคลธรรมดา อยู่ในมาตรา 40(4)
ซึ่งผู้มีเงินได้ สามารถเลือกที่จะนำมารวมกับเงินได้อื่น ๆ เพื่อยื่นเสียภาษีก็ได้ หรือจะไม่ยื่นเลยก็ได้
ข้อบังคับคือ ถ้าจะนำมารวม ก็ต้องนำปันผลทั้งหมดที่ได้ตลอดปีมารวม จะเอามาเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้
หรือถ้าจะไม่นำมารวม ก็ต้องไม่นำมารวมเลยทั้งจำนวน
จากที่เห็น เงิน 100 บาทที่ปันผลออกมา คุณเสียภาษีไปแล้ว 32.50 บาท เท่ากับคุณเสียภาษีในอัตราส่วน 32.50%
ดังนั้น ถ้าฐานภาษีประจำปียังไม่ถึง rate 37% จึงควรนำรายได้เงินปันผลมายื่น
เพื่อ ที่จะนำมาคำนวณภาษีใหม่ ทำให้เสียภาษีของเงินปันผลที่เสียไปในอัตรานิติบุคคล + หัก ณ ที่จ่าย ถูกนำมาคิดใหม่ในฐานภาษีบุคคลธรรมดาของคุณ
สมมติใน case ที่ดีที่สุด คือคุณไม่มีเงินได้อะไรเลย
เมื่อคุณนำเงินปันผล 67.50 บาทนี้มายื่นขอเครดิตภาษี หรือคำนวณใหม่
เท่ากับว่าคุณมีเงินได้ 100 บาท (คิดจากเงินได้ทั้งหมดก่อนหักภาษี) แต่คุณเสียภาษีไปแล้ว 32.50 บาท
แต่ในอัตราบุคคลธรรมดา คุณมีเงินแค่ 100 บาท ย่อมไม่เสียภาษี
ดังนั้น คุณจะสามารถขอเงินภาษีคืนจากที่เสียไปได้ 32.50 บาท
ค่อนข้างจะยากสำหรับคนไม่มีความรู้เรื่องภาษีนะครับ
แต่ถ้าทำความเข้าใจซักนิด คุณจะรู้เลยว่ามันมีประโยชน์มาก ๆ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 987
- ผู้ติดตาม: 0
รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 2898
สวัสดีจ้า พี่ป้อม
ช่วงนี้เงินบาทแข็งจริงๆเลยนะ
ส่งออกคงอ่วมหน่อย
มีเงินร้อนรอเข้ามาซื้อของในไทยเยอะเหลือเกิน
จ้ดบ้าน(อีกล่ะ)
เจอเอกสารสัมมนาสมัยโน้น
เป็นข้อเขียนจากศูนย์วิจัยกสิกร ก่อนฟองสบู่แตก
ไม่รู้จะเขียนในกระทู้ไหนดี มาแจมกับของพี่แล้วกัน
เดี๋ยวนี้คนเข้ากระทู้เยอะแยะตาแปะไปหมด นานๆเข้าทีตาลาย
อ่านแล้ว ลองเปรียบเทียบกับปัจจุบันดู
ตอนนี้หลายๆคนกำลังเดาว่าจะเกิด ไอตมดิปปิ้งอีกรอบหรือเปล่า
ต่างฝ่ายต่างมีทฤษฎีอ้างอิง
เลยเอาของเก่ามาดูซะหน่อย
แต่โจทย์ทางเศรษฐกิจแต่ละครั้ง คงไม่เหมือนกันสักทีเดียว
พิมพ์แปะเฉพาะหัวข้อนา..ถ้าไม่กระจ่างค่อยลงรายละเอียด
เพราะเอกสารยาวพอสมควร
ช่วงนี้เงินบาทแข็งจริงๆเลยนะ
ส่งออกคงอ่วมหน่อย
มีเงินร้อนรอเข้ามาซื้อของในไทยเยอะเหลือเกิน
จ้ดบ้าน(อีกล่ะ)
เจอเอกสารสัมมนาสมัยโน้น
เป็นข้อเขียนจากศูนย์วิจัยกสิกร ก่อนฟองสบู่แตก
ไม่รู้จะเขียนในกระทู้ไหนดี มาแจมกับของพี่แล้วกัน
เดี๋ยวนี้คนเข้ากระทู้เยอะแยะตาแปะไปหมด นานๆเข้าทีตาลาย
อ่านแล้ว ลองเปรียบเทียบกับปัจจุบันดู
ตอนนี้หลายๆคนกำลังเดาว่าจะเกิด ไอตมดิปปิ้งอีกรอบหรือเปล่า
ต่างฝ่ายต่างมีทฤษฎีอ้างอิง
เลยเอาของเก่ามาดูซะหน่อย
แต่โจทย์ทางเศรษฐกิจแต่ละครั้ง คงไม่เหมือนกันสักทีเดียว
พิมพ์แปะเฉพาะหัวข้อนา..ถ้าไม่กระจ่างค่อยลงรายละเอียด
เพราะเอกสารยาวพอสมควร
สัญญาณเตือนภัย 9 ประการ : งานหนักครึ่งปีหลัง 2539
1. ภาคธุรกิจส่งออกที่ทรุดตัวเกินกว่าทุกฝ่ายคาดหมาย
2. ปัญหาการขาดดุลบัญชีเกินสะพัด
3. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ฟุบตัวอย่างยาวนาน
4. ภาคธุรกิจท่องเที่ยวชะลอตัวลงค่อนข้างมาก
5. ภาวะเงินเฟ้อที่ยังไม่อยู่ในจุดที่น่าวางใจ
6. ความตกต่าของภาวะตลาดหุ้น
7. การลงทุนธุรกิจชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง
8. ปริมาณเช็ดเด้งมากขึ้น
9. ขีดความสามารถด้านการแข่งขันของไทยลดลง
ชีวิตเกิดและตายเพียงอย่างละหน ส่วนที่เหลือตรงกลางต้องค้นพบเอง
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 2899
ฝากโยโย่ โดยเฉพาะ
เมพ ขิง ขิง
Jensen Kimmitt 2010 World yoyo Contest 1A 1st Place
http://www.youtube.com/watch?v=knYCiluj ... r_embedded#!
เมพ ขิง ขิง
Jensen Kimmitt 2010 World yoyo Contest 1A 1st Place
http://www.youtube.com/watch?v=knYCiluj ... r_embedded#!
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- romee
- Verified User
- โพสต์: 1850
- ผู้ติดตาม: 0
รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 2901
http://www.youtube.com/watch?v=NesZ87q6s6A MV เสื้อประลองกำลัง อย่างฮาเลย :B
You only live once, but if you do it right, once is enough.
- Fon^^
- Verified User
- โพสต์: 604
- ผู้ติดตาม: 0
รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 2904
ขอบคุณพี่ป้อมและพระอาจารย์พี่หมอแม็คมากมายค่ะ สุดยอดมากๆ
วันนี้ฝนกลับมานั่งทบทวนความคิด
ในโลกแห่งการลงทุน
ฝนยังเป็นแมวอยู่เลย ^^"
เสือกับแมวช่างต่างกันจริงๆ
เอ้า...สู้ต่อไป
วันนี้ฝนกลับมานั่งทบทวนความคิด
ในโลกแห่งการลงทุน
ฝนยังเป็นแมวอยู่เลย ^^"
เสือกับแมวช่างต่างกันจริงๆ
เอ้า...สู้ต่อไป
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10538
- ผู้ติดตาม: 0
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 2907
เรื่องน่ารู้ในตอนนี้ของ JAS
PE50 ของ JAS อยู่ที่ราคา 1.45 บาท
JAS เริ่มติด Cash Balance Account ครั้งแรกเริ่มวันจันทร์หน้า 23/8 ถึฝ 10/9/2553 เนื่องจากราคา >=1.45 บาท โอกาสที่ JAS จะเข้าๆออกๆ Cash Balance Account ได้ทุกๆสัปดาห์ยกเว้นราคาปิดในวันพฤหัสต่ำกว่า 1.45 บาท หรือ มูลค่าเฉลี่ยต่อวันไม่ถึง 100.00 บาทต่อวัน ในการที่ JAS จะพ้นวิบากกรรมขึ้นอยู่ผลประกอบการไตรมาส 3/2553 ต้องมีกำไร > กำไรไตรมาส 3/2552 ถึงสามารถยกราคาสูงขึ้นกว่า 1.45 บาท
ช่วงที่ติด Cash Balance Account มูลค่าซื้อขายแต่ละวัน volume คงหายไปไม่น้อยเพราะว่า ผู้ซื้อหุ้นต้องนำเงินมากองไว้ที่โบรกถึงสามารถซื้อหุ้นได้ เวลาขาย JAS ที่มีอยู่ในพอร์ตไม่สามารถนำเงินนั้นมาซื้อ JAS ได้ในวันเดียวกัน ต้องรอ t+3 ฉะนั้นจ้าวที่ซื้อวันหนึ่งเป็นสิบๆล้านบาท ถ้าต้องการซื้อต้องจ่ายเงินล่วงหน้าให้โบรกถึงจะซื้อได้ ถ้าเป็นเราๆท่านๆจะเอาเงินสดมากองไว้ล่วงหน้าหรือ อย่างนี้ต้องวัดใจจ้าวของถ้ายองเขาดีจริง หรือไม่ซื้อผ่านโบรกต่างประเทศ ถ้าไม่มีแรงซื้อจากจ้าวราคาย่อมย่อลงค่อนข้างแน่นอน
ฉะนั้นนับ ตั้งแต่วันจันทร์ 23/8/2553 เป็นต้นไป ต้องวัดจ้าวสถานเดียว
ด้วย ความปรารถนาดี
จาก คุณ : luck me
เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 17:09:04
PE50 ของ JAS อยู่ที่ราคา 1.45 บาท
JAS เริ่มติด Cash Balance Account ครั้งแรกเริ่มวันจันทร์หน้า 23/8 ถึฝ 10/9/2553 เนื่องจากราคา >=1.45 บาท โอกาสที่ JAS จะเข้าๆออกๆ Cash Balance Account ได้ทุกๆสัปดาห์ยกเว้นราคาปิดในวันพฤหัสต่ำกว่า 1.45 บาท หรือ มูลค่าเฉลี่ยต่อวันไม่ถึง 100.00 บาทต่อวัน ในการที่ JAS จะพ้นวิบากกรรมขึ้นอยู่ผลประกอบการไตรมาส 3/2553 ต้องมีกำไร > กำไรไตรมาส 3/2552 ถึงสามารถยกราคาสูงขึ้นกว่า 1.45 บาท
ช่วงที่ติด Cash Balance Account มูลค่าซื้อขายแต่ละวัน volume คงหายไปไม่น้อยเพราะว่า ผู้ซื้อหุ้นต้องนำเงินมากองไว้ที่โบรกถึงสามารถซื้อหุ้นได้ เวลาขาย JAS ที่มีอยู่ในพอร์ตไม่สามารถนำเงินนั้นมาซื้อ JAS ได้ในวันเดียวกัน ต้องรอ t+3 ฉะนั้นจ้าวที่ซื้อวันหนึ่งเป็นสิบๆล้านบาท ถ้าต้องการซื้อต้องจ่ายเงินล่วงหน้าให้โบรกถึงจะซื้อได้ ถ้าเป็นเราๆท่านๆจะเอาเงินสดมากองไว้ล่วงหน้าหรือ อย่างนี้ต้องวัดใจจ้าวของถ้ายองเขาดีจริง หรือไม่ซื้อผ่านโบรกต่างประเทศ ถ้าไม่มีแรงซื้อจากจ้าวราคาย่อมย่อลงค่อนข้างแน่นอน
ฉะนั้นนับ ตั้งแต่วันจันทร์ 23/8/2553 เป็นต้นไป ต้องวัดจ้าวสถานเดียว
ด้วย ความปรารถนาดี
จาก คุณ : luck me
เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 17:09:04
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
รุ้งกินน้ำ
โพสต์ที่ 2910
ตามตอบเมล์น้องๆ
มีเมล์นึงน่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคน
เลยขออนุญาตินำมาโพสแปะไว้
ช่วงนี้ไม่มีเวลาตอบเมล์นะครับ ยุ่งจริง...ฮ่า...
ไปละครับ
สวัสดีครับ ผมชื่อ___นะครับเคยปรึกษาพี่พอใจเรื่องKIATที่งานจิบเบียร์ครั้งก่อนไม่รู้ พี่พอใจจำได้รึเปล่า ผมอ่านในกระทู้เลยรู้ว่าพี่พอใจศึกษาเทคนิคด้วยแถมเป็นแบบcutlostผมเลยมี เรื่องอยากจะถามครับ
เรื่องจำคนได้นี่เป็นคุณสมบัติประจำตัว
จำได้สิครับ
คนหัวตั้งๆท่าทางเนิร์ดๆหน่อย...ฮ่า...
พี่พอใจยุ่งๆลืมตอบอ่ะ โทษที
เนื่องจากผมคิดว่าในบางครั้งสัญญาณราคามันมาก่อนพื้นฐานผมเลยเริ่มศึกษา เทคนิคไว้เผื่อว่ามีสัญญาณไม่ดีอะไรจะได้ระวังตัวทัน ผมเลยสงสัยว่าพี่พอใจหาหุ้นด้วยพื้นฐานแต่จัดการด้วยเทคนิคอลอย่างนี้มันไม่ มีตีกันเหรอครับ ผมขอยกตัวอย่างนะครับ
1. สมมุติว่าเราซื้อหุ้นที่1บาทแต่เราพิจารณาแล้วว่ามูลค่าที่แท้จริงมัน ประมาณ3บาท พอซื้อปุ๊บมันดันร่วงไป10%(ถึงจุดcutlostพอดี)อย่างนี้พี่พอใจจะทำยังไงครับ cutเลยแล้วรอสัญญาณทางเทคนิคบอกว่าหุ้นพร้อมแล้วค่อยเข้าอีกทีหรือเปล่าครับ
แค่5%ผมก็เผ่นแล้วครับ
แต่เผ่นแล้วไม่ได้หนีไปไหน
หุ้นดีๆต้องเฝ้าครับ เสียเวลาตาม เสียเวลาขุด เสียเวลาถาม
ผมใช้แบนด์ดูราคาครับ
ถ้ามันร่วงมาแบนด์ล่างอีกที
ผมก็เข้าไปซัดใหม่
ผมล็อกล่างแต่ข้างบนไม่ได้ล็อกนะ
เพราะฉนั้นเวลาขาดทุนผมจำกัดขาดทุน
แต่่ตอนมันขึ้นเลยทุนไป
ผมไม่จำกัดกำไรนะ ...ฮ่า...
2.พี่พอใจเน้นดูอินดิเคเตอร์ตัวไหนเป็นหลักครับและเพราะอะไร
ซื้อขายผมชอบดูโบลิงเย่อร์แบนด์
ซื้อข้างล่าง ขายข้างบน ไม่มีเสียเปรียบใคร
ส่วนกราฟทั่วไปก็ดูแท่งเทียน เส้นค่าเฉลี่ย เหมือนคนอื่นเขานั่นแล
อินดิเคเต้อร์ก็ดูMacd
3.ถ้าผมอยากจะเรียนเทคนิคอย่างจริงจังนี่มีคอร์สอบรมที่ไหนหรือหนังสืออะไรแนะนำไหมครับ
เรียนที่Efinanceก่อนดีไหมครับ
เพราะไม่แพง
มีตั้งแต่เบสิค ไปจนแอ๊ดว๊านซ์
http://www.efinancethai.com/
จบแล้วก็ไปเรียนกับลุงโฉลก
อันนี้เป็นเมต้าสต๊อก
รู้เทคนิคอล
เมต้าสต๊อกนี่ก็มีคนใช้เยอะ
http://chaloke.com/
แต่แปลกแฮะกราฟที่เซียนใช้เยอะที่สุดคือAPEX รอยเต้อร์
ไม่มีคนเปิดสอน
มีแต่ต้องซื้อโปรแกรมเขาแบบnonrealtime
ก็ที่
แล้วไปอบรมกับเขา
เอเพ็กรอยเต้อร์นี่เสียตังรายปีนะครับ
ตัวไม่เรียลไทม์ ปีละ7พันกว่าบาท
http://www.irs.co.th/
ตัวเรียลไทม์ เห็นมีแต่พวกโบร๊กต้องซื้อมาให้ลูกค้าใช้
แพงพอควรเชียวครับ สำหรับพวกซื้อมาแล้วใช้ไม่เป็น
พวกใช้เป็น ก็ถือว่าไม่แพง
http://www.ryt9.com/s/prg/256478
http://www.bisnews.com/en/apex.php?page=apex.php
มีเมล์นึงน่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคน
เลยขออนุญาตินำมาโพสแปะไว้
ช่วงนี้ไม่มีเวลาตอบเมล์นะครับ ยุ่งจริง...ฮ่า...
ไปละครับ
สวัสดีครับ ผมชื่อ___นะครับเคยปรึกษาพี่พอใจเรื่องKIATที่งานจิบเบียร์ครั้งก่อนไม่รู้ พี่พอใจจำได้รึเปล่า ผมอ่านในกระทู้เลยรู้ว่าพี่พอใจศึกษาเทคนิคด้วยแถมเป็นแบบcutlostผมเลยมี เรื่องอยากจะถามครับ
เรื่องจำคนได้นี่เป็นคุณสมบัติประจำตัว
จำได้สิครับ
คนหัวตั้งๆท่าทางเนิร์ดๆหน่อย...ฮ่า...
พี่พอใจยุ่งๆลืมตอบอ่ะ โทษที
เนื่องจากผมคิดว่าในบางครั้งสัญญาณราคามันมาก่อนพื้นฐานผมเลยเริ่มศึกษา เทคนิคไว้เผื่อว่ามีสัญญาณไม่ดีอะไรจะได้ระวังตัวทัน ผมเลยสงสัยว่าพี่พอใจหาหุ้นด้วยพื้นฐานแต่จัดการด้วยเทคนิคอลอย่างนี้มันไม่ มีตีกันเหรอครับ ผมขอยกตัวอย่างนะครับ
1. สมมุติว่าเราซื้อหุ้นที่1บาทแต่เราพิจารณาแล้วว่ามูลค่าที่แท้จริงมัน ประมาณ3บาท พอซื้อปุ๊บมันดันร่วงไป10%(ถึงจุดcutlostพอดี)อย่างนี้พี่พอใจจะทำยังไงครับ cutเลยแล้วรอสัญญาณทางเทคนิคบอกว่าหุ้นพร้อมแล้วค่อยเข้าอีกทีหรือเปล่าครับ
แค่5%ผมก็เผ่นแล้วครับ
แต่เผ่นแล้วไม่ได้หนีไปไหน
หุ้นดีๆต้องเฝ้าครับ เสียเวลาตาม เสียเวลาขุด เสียเวลาถาม
ผมใช้แบนด์ดูราคาครับ
ถ้ามันร่วงมาแบนด์ล่างอีกที
ผมก็เข้าไปซัดใหม่
ผมล็อกล่างแต่ข้างบนไม่ได้ล็อกนะ
เพราะฉนั้นเวลาขาดทุนผมจำกัดขาดทุน
แต่่ตอนมันขึ้นเลยทุนไป
ผมไม่จำกัดกำไรนะ ...ฮ่า...
2.พี่พอใจเน้นดูอินดิเคเตอร์ตัวไหนเป็นหลักครับและเพราะอะไร
ซื้อขายผมชอบดูโบลิงเย่อร์แบนด์
ซื้อข้างล่าง ขายข้างบน ไม่มีเสียเปรียบใคร
ส่วนกราฟทั่วไปก็ดูแท่งเทียน เส้นค่าเฉลี่ย เหมือนคนอื่นเขานั่นแล
อินดิเคเต้อร์ก็ดูMacd
3.ถ้าผมอยากจะเรียนเทคนิคอย่างจริงจังนี่มีคอร์สอบรมที่ไหนหรือหนังสืออะไรแนะนำไหมครับ
เรียนที่Efinanceก่อนดีไหมครับ
เพราะไม่แพง
มีตั้งแต่เบสิค ไปจนแอ๊ดว๊านซ์
http://www.efinancethai.com/
จบแล้วก็ไปเรียนกับลุงโฉลก
อันนี้เป็นเมต้าสต๊อก
รู้เทคนิคอล
เมต้าสต๊อกนี่ก็มีคนใช้เยอะ
http://chaloke.com/
แต่แปลกแฮะกราฟที่เซียนใช้เยอะที่สุดคือAPEX รอยเต้อร์
ไม่มีคนเปิดสอน
มีแต่ต้องซื้อโปรแกรมเขาแบบnonrealtime
ก็ที่
แล้วไปอบรมกับเขา
เอเพ็กรอยเต้อร์นี่เสียตังรายปีนะครับ
ตัวไม่เรียลไทม์ ปีละ7พันกว่าบาท
http://www.irs.co.th/
ตัวเรียลไทม์ เห็นมีแต่พวกโบร๊กต้องซื้อมาให้ลูกค้าใช้
แพงพอควรเชียวครับ สำหรับพวกซื้อมาแล้วใช้ไม่เป็น
พวกใช้เป็น ก็ถือว่าไม่แพง
http://www.ryt9.com/s/prg/256478
http://www.bisnews.com/en/apex.php?page=apex.php
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า