สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
Verified User
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

สรุปงานสัมมนา พันธงหุ้นเด่น

คุณพรณี จากเอเชียพลัส : แนวโน้มหุ้นไทย คิดว่าจะเป้นการเคลื่นตัวในการ 860-930 จุด ปัจจัยที่จะกดดัน มี 2 เรื่อง คือ
ดอกเบี้ย ซึ่งบ้านเรามีการปรบขึ้นมาแล้ว 1 ครั้งคือ 0.25 บาท โดยที่ในหลายๆประเทศมีการปรับขึ้นมาหลายครั้งไม่ว่าจะเป็น ออสเตเรีย 6 ครั้ง นิวซีแลน 3 ครั้ง แต่การปรับดอกเยี้ยนั้นถ้าเป้นแบบค่อยเป้นค่อยไปก็จะไม่มีผลกระทบต่อหุ้นมากนักอาจเป้นแค้การปรับฐานในช่วงสั้นๆ อย่ามาเลย์ ปรับไปแล้ว 3 ครั้ง 0.75 บาทก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นมากนัก
ปัจจัยปัญหาการเงินใน ยุโรป เมกา สัญญาณที่เห้ฯชัดคือดัชนีช้นำ ศก ในหลายประเทศเริ่มชะลอตัว ในยุโรบหลายๆประเทศขาดดุลงบประมาณอยู่ประมาณ 7-8% ซึ่งทางธนาคารกลางของประเทศเหล่านั้นมองว่าจำเป็นที่จะต้องลดการขาดดุลงบประมาณลงคิดเป้นเม็ดเงินก็ประมาณ 4-5แสนล้านเหรียญ จะส่งผลในเงินหายไปจากระบบ การลดค่าใช้จ่ายนี้จะทำให้ GDP ของกลุ่มประเทศเหล่านั้นลดลงเป้ฯ 3-5% ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อตลาดบ้านเราบ้างผ่านตลาดหุ้น ในส่วนของประเทศไทยเอง GDP ของเรามีอัตราเติบโตที่สูงมาก อยู่ Q1 12% Q2 8% Q3 4-3% Q4 1%
ปัจจัยบวกของเราก็เห้นจะเป้นเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติที่ไหลเข้ามาประมาณ 2-3 พันล้านในช่วงที่ผ้านมา ปกติแล้วฟันโฟลจะเข้ามาประมาณ เมษา ถึง สิงหา พฤศจิกา ก็จะเพิ่มขึ้นสูงมาก แต่เราเกิดมีปัญหาความไม่สงบทำให้ภาพตรงนั้นไม่เกิด มาเกิดตอน กรกฏาคมที่ฝรั่งเริ่มซื้อมากขึ้น มองย้อนกลับไปก็จะคล้ายๆปีที่แล้วที่ พฤษภาฝรั่งขายหุ้นในเอเชียหนักมากยกเว่น อินโด และฟิลิปินไม่ค่อนขาย ตอนนี้ก็กลับมาซื้อคืนในประเทศที่ได้เคยขายออกไปยึ่งประเทศไทยขายออกหนักก็กลับมาซื้อคืนมากแบบไทย เวลาฟันโฟลเข้ามาเป้นตัวสำคัญที่ขับเคลื่อน PE ของตลาดเราจนทำให้ตอนนี้มาอยู่ที่ 13 เท่า ซึ่งถ้าเข้ามาต่อเนื่อน่าจะได้เห็น 930จุด จากเดิมที่มองไว้ที่ 830 จุด
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
Verified User
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

คุณวชิรารักษ์ จากทรินิตี้ : ภาพรวมตลาดรอบนี้น่าจะได้เป้น 900 จุดไม่ยากแต่ถ้าไกลๆก้ต้องดูปัจจัยต่างๆเห่านี้เป้นสำคัญ
1.ตัวเลข ศก ในประเทศที่ไทยทำได้เกินความคาดหมาย Q1 12% Q2 8% ทำให้ดึงดูดต่างชาติเข้ามาลงทุน
2.ทิศทางอัตราดอกเบี้ยจะต้องมีการปรับขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีในระยะยาว แต่อาจมีผลลบในระยะสั้นๆ เนื่องจากดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะเป้นแหลงที่มห้ฟันโฟลใช้พักเงินจากตลาดหุ้นไทยไม่ดึงเงินออกไปจากประเทศ
3.กำไรของบริษัทจดทะเบียนเติบโตดีมาก โดยเฉพาะบริษัทขนาดกลางและเล้ก รวมทั้งแบงค์ที่ไม่แย่ลง กลุ่มที่ดีมากๆได้แกพวก ยานยนต์ อาหารที่เติบโตได้เกินความคาดหมาย เทียบกับพลังงานที่น่าผิดหวัง อย่าง PTTAR ที่รายงานตัวเลขขาดทุน สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่าการสึกษาลงทุนในตลาดหุ้นจะต้องดูให้ลึกมากขึ้นจะเอาแต่สนใจแต่กลุ่มหลักๆบลูชิบของตลาดอย่างพลังงานและแบงคืไม่ได้ ในอนาคตบริษัทขนาดกลางและเล็กก็น่าสนใจแต่ต้องระวังว่าบริษัทเหล่านี้จะโตบโตได้อย่างยั่งยืนหรือไม่
4ปัจจัยด้านราคาคอมโมดิตี้ นราคาน้ำมัน ถ้ามีการปั่นขึ้นไปราคาสูงๆแบบไร้เหตุผลอีกครั้ง หรือฟองสบูอสังหาที่พูดถึงกันแตก ก็น่าจะส่งผลลบได้เช่นกัน
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
Verified User
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

คุณพิชัย จาก ธนชาติ : ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมาหุ้นขึ้นมา 190 จุด สะท้อนมุมมองเชิงบวก ว่าเราผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และคิดว่าจะเติบฌตได้อีก 3ปีต่อจากนี้ 5 ปีที่ผ่านมาเรามีปัจจัยลบเยอะมาก บริษัทก็ไม่ได้ลงทุนอะไรเพิ่ม ทำให้กำไรที่ได้เก็บไว้ในรูปเงินหรือเอาไปใช้หนี้ทำให้ฐานะทางการเงินแข็งแรง ถ้ามั่นใจว่า ศก กลับมาก็พร้อมที่จะนำเงินกลับมาลงทุนอีกครั้ง
อีกจุดคือสภาพคล่องส่วนเกินในตลาดมีสูงมาก จากเดิมที่หลายคนกังวลว่ารัฐบาลของแต่ละประเทศจะถอนการอุ้มต่างๆที่ทำไว้ตอน ศก มีปัญหา แต่ผ่านมาก็ยังไม่มีรัฐบาลประเทศไหนกล้าดำเนินการ ทำให้สภาพคล่องที่เกรงว่าจะถูกดูดออกไปยังคงอยู่ในระบบ ส่วนหนึ่งมันก็ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้น ซึ่งหุ้นไทยขึ้นมากที่สุดในภูมิภาค ตอนนี้โดดเด่นเป้นรองแค่อินโดนีเซีย และเป็นอันดับ 2 ของโลกเลยทีเดียว จากเดิมที่เรามีปัจจัยลบเยอะมากแต่เราก็ทำให้ต่างชาติเห็นว่าเรายังเติบโตได้ 7%และเป้นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ที่เราเติบโตมากกว่าค่าเฉลี่ยของเพื่อนบ้าน
การประมาณการของนักวิเคราะห์ที่ต่ำเกินไป เมื่อเทียบกับกำไรของบริษัทที่แสดงออกมาก็มีโอกาสที่จะทำให้หลายๆทีปรับเป้าหมายขึ้น ในขณะที่โลกยังไม่ดีแต่ไทยดีขึ้น บทบาทกำลังซื้อในประเทศมากขึ้น ช่วงที่ผ่านมาเราพึ่งการส่งออก ศก โลกชะลอตัว จนเราเพิ่มการนำเข้ามาบริโภคมากขึ้น มีการลงทุนการจับจ่าย ค่าเฉลี่ยของการใช้กำลังการผลิตของเราอยู่ที่ประมาณ 70% แต่กลุ่มยานยนหรืออิเล้กใช้ไปแล้วถึง 80-90% ซึ่งถึงเวลาที่บริษัทเรานี้จะมีการลงทุนแล้วก็ส่งผลดี รถไฟฟ้าที่เลื่อนไปเลื่อนมาก 5 สาย ก็เริ่มที่จะลงมือสร้างเหล่านี้ ทำให้ศกเราดูดีขึ้นในสายตาต่างชาติ แต่ก็ต้องกลับมาดูว่าหุ้นไทยขึ้นมาเยอะมากถ้าถึง930 จุด ก็กดไปที่ PE 14 เท่า ปกติเราจะเทรดกันที่ PE 11 เท่า อาจมีแรงขายทำกำไรและน่าหวาดเสียวมาก โดยเรามองว่าปีหน้าน่าจะไปถึง 1000 จุดแต่สำหรับปีนี้ยังเร็วเกินไป
จุดที่ต้องดูอีกคือ สถานะการทางการเมืองที่เริ่มจะดีขึ้น ปีหน้าจะมีการเลือกตั้งก็น่าจะทำให้การเมืองกีฬาสีกลับเข้าสู่กลไกระบบมากขึน
ปัจจยลบคือ ศก โลกชะลอตัวซึ่วก็กังวลว่ามันจะถดถอยซ้ำซ้อน หรือดับเบิลดิฟ แต่ธนชาติก็มองว่าแค่ชะลอตัวยังไม่ถึงจะถดถอย เพราะที่ชะลอตัวเกิดจากกมาตรการกระตุ้นต่างๆที่รัฐอัดลงไปเริ่มหมดอายุแล้ว
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
Verified User
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ถาม: ปัจจัยลบอะไรน่าเป้นห่วงที่สุด

เอเชียพลัส :  ศก โลกครึ่งปีหลังชะลอตัวน่าจะกระทบการส่งออก  
ระยะกลางก็ปัญหาการเมือง เรื่องการฟ้องยุบปชป ซึ่งน่าจะจบ ธค ก้เป็นตัวแปร เพราะทุกครั้งที่จะยุบสภา ตลาดจะปรับฐาน และกระทบโครงการของรัฐที่จะต้องประมูลล่าช้าออกไป
ระยะสั้นก็ดอกเบี้ย แต่ก็ไม่น่ากังวลมากนัก ปีนี้แบงค์ชาติคาดว่าจะปรับเป้าดอกเบี้ยขึ้นเป้ฯ 0.75 ซึ่วดำเนินการมาแล้ว 1 คัร้ง
และศกไทยผ่านจุดที่ดีที่สุดมาแล้ว ในครึ่งหลังอาจไม่ดีเท่านี้
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
Verified User
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ทรินิตี้ : ที่กังวัลก็คือปัจจัยจากต่างประเทศ เพราะถ้าเกิดปัญหารอบนี้ขึ้นมาอีกเกรงว่าจะไม่มีเงินมากพอที่จะมาเยี่ยยาเพรามันใช้ไปรอบที่แล้วจดหมดแล้ว เมกาก็ฟื้นตัวช้ามาก ศกที่แท้จริงยังไม่ดี ยังคงมีปัญหาการว่างงานอยู่มาก ไม่เหมือนเดิม หรือ ที่เรามองว่าจีน หรืออินเดียจะเป้นหลักแต่ แต่ก็ยังไม่น่าไว้ในเพราะจีนที่โตได้เป้นการโตที่มีระเบียบหรือไม่ แล้วจีนก็ยังไม่เคยเจอวิกฤติแรงๆแบบเราก็ไม่รู้ว่าจะผานไปได้ไหม เพราะถ้า คนเราคาดหวังมาก เวลาผิดหวังมันจะลงแรง จุดที่มองว่าอันตรายคือราคาคอมโมดินี้
ปัจจัยลบในประเทศ ก็คือรู้สึกว่าคอนโดมันแพงขึ้น ซึ่งมองว่าสุดท้านฟองสบูมันก็จะแตกแต่ไม่รู้ว่าอีกนานไหม อย่างที่แถว TMB นี้เมือก่อนตารางเมตรละ4.5 หมื่น ตอนนี้ 7.6 หมื่น ภายในเวลาไม่ถึงปีมันขึ้นมาเยอะมากถ้ารัฐออกมาควบคุมก็จะเป้นผลลบแต่ถ้าไม่ควบคุมเลยก็อาจเป้นผลลบกว่าในอนาคต
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
Verified User
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ธนชาติ : กังวลความผันผวนของฟัลโฟล ไทยก็เหมือนน้ำบ่อน้อย ต่างชาติเป้นช้างเวลากระโยนใส่ลงมาทีน้ำก็แตก (555) แต่ถ้าเขาขยับออกก็กระทบตรงๆ รอบนี้เขาเข้ามาด้วยความคาดหวังว่า ศก เราจะเติบโตกว่า ศก โลก และสัญยาณตอนนี้คือถ้าเขาออก ก็ได้กำไรสองต่อทั้งค่าเงินและส่วนต่างราคาหุ้น อีกด้านก็คือกรณียุบ ปชป เพราะสเถียรภาพของรัฐบาลจะส่งผลต่อโครงการต่างๆโดยตรง เงินเข้าง่าย ก้ออกง่าย ถ้าเงินบาทแข็งเร็วๆ ถึง 30 บาทก็จะกระตุ้นให้มีแรงขายทำกำไรเพราะทุนเฉลี่ยเข้าเอาเงินเข้าตอน 32 บาทได้กำไร 2 ต่อ แต่สิ่งที่ดีขึ้นคือนักลงทุนสถาบันของไทยที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นจากเดิม 10 ปีที่แล้วมีการซื้อขายประมาณ 4-5% ปัจจุบันมีถึง 20% ซึ่งจะลดความผันผวนของตลาดหุ้นบ้านเรา ตอนฝรั่งขาย 7 หมื่นล้านตอนนี้ซื้อคืน 2 หมื่นล้านก็ยังมีช่องว่างอยู่ แต่ระยะสั้นต้องระวังแรงขายทำกำไร
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
Verified User
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ถาม ขอหุ้นเด็ด 5 ตัว

เอเชียพลัส : เรามองเป็นเซคเตอร์ยังตอนนี้มีกระแสก่อสร้างกับพวกสารธูปโภค เป้ฯกระแสหลักๆที่น่าสนใจก้มี CK ที่ยังขาดทุนอยู่ เซฟโก ก็ขาดทุน ITD ขาดทุน STEC ตัวเดียสที่มีกำไร ปีนี้มีสร้างรถไฟฟ้ามากสายยังไงก็ต้องแบ่งๆงานกันไปทำให้ทุกที่มีแบคลอกเก้บไว้รับรู้รายได้ค่อนข้างมาก ตอนนี้ทาง บล ชอบ 2 ตัวคือ
CK ที่มีการลงทุนรถไฟฟ้า มีบริษัทลูกในต่างประเทศที่เริ่มมีกำไรกลับเข้ามา มีบริษัทลงทุนอยู่ก็ดีๆเช่น ttw หรือ bmcl ที่ขาดทุนน้อยลง ทำให้สนใจ
เซฟโก เป้นตัวก่อสร้างรากฐานไม่ว่าบริษัทไหนประมูลรถไฟฟ้าได้ไปงานก้น่าจะถึงเซฟโกบ้าง
จากนั้นก็มองว่าถ้ารถไฟฟ้าเสร็จ จะดึงคนรอบนอกให้ใช้รถไฟฟ้ามากขึ้นทำให้ BTS จะมีจำนวนผู้โดยสารมากขึ้น จากตอนนี้ 4.3แสน อีก 4 ปีจะป็น 6 แสน 9 แสน 1 ล้านได้ ภาพของ BTS จะมีกำไรในระยะยาวกำไรสุทธิ 3 ปี 70% อีก 5 ปี PE ก็จะลดลงไปใกล้ๆกับต่างประเทศ ที่ต่างประเทศกลุ่มนี้เทรดที่ประมาณ 15 เท่า  แล้วต้นทุนของสถาบันก็อยู่ที่แถวๆ 0.82 บาท
ต่อมาก็คือกลุ่มโรงกลั่นเป้นกลุ่มที่ไม่ค่อยไปไหน พลังงานก็ไม่ตค่อยไป เช่น PTTAR ขาดทุนรายได้ 50% มาจากการกลั่น 50% ปิโตร รอบนี้เจอทั้งขาดทุนสติอกต้ำมันและราคาปิโต ตามด้วยราคาน้ำมันโดนไป 3 เด้ง TOP สัดส่วน 60:40  BCP เป้นโรงกลั่น 100% ซึ่งทั้งหมดยังไม่ไปไหนเลยครึ่งหลังมองว่าราคาน้ำมันจะดีขึ้น pe ตลาด 14 แต่ละตัวก้พอสรุปได้ดังนี้
TOP PE 12 เท่า ปีหน้า 7 เท่า ปันผลประมาณ 3.8%
PTTAR PE 12 เท่า ปีหน้า 9 เท่า ปันผลประมาณ 5-6%
BCP PE 6 เท่า ปีหน้า 5 เท่า ปันผลประมาณ 6-8%
ส่วนกลุ่มอื่นๆที่ได้ประโยชน์ก็พวกท่องเที่ยว โรงแรคมที่มีคนไข้ต่างประเทศก็น่าสนใจ
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
Verified User
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ทรินิตี้ : IVL กำไรจริงๆ 1500 ล้าน กำไรที่ดีของ ivl มาจากช่วงที่ย่ำแย่ของ pttar ซึ่งในตลาดโลกซับพลายเยอะมากขึ้นโดยเฉพาะพวกปิโตรกลางน้ำ ทำให้ถูกกดดันจากราคาขาย เกิดผลดีต่อ ivlจะมีต้นทุนที่ต่ำกับ ivl โตตามธุระกิจอาหาร บรรจุภัณตอบโจทย์ชีวิตคนรุ่นใหม่ โดย ivl มีตลาดในยุโรป เมกา ไทย เป้นการกระจายรายได้แล้วยังมีลูกค้าเป้นโค้กและแป๊บซี่ด้วย ราคาเป้าหมาย 29 บาท

RCL ไตรมาส 2 ขาดทุน แต่พ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว Q3 จะพลิกมามีกำไรแล้วปี 54 จะมีกำไรถึง 2.4 บาท เทียบกับปีนี้ที่ย่ำแย่แล้วฟื้นตัว ดัชนีเรือตู้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 200 เหรียญ เทียบกับปีนีที่ 147 เหรียญ มีปริมาณเรือเพิ่มขึ้น 4% แต่แค่ rcl บริหารจัดการเรือที่มีอยู่ก็น่าจะทำให้กำไรดีขึ้นได้แล้วเป้าราคาที่ 18.4 บาท

SF หุ้นชาตินี้ไม่มีวันพีค โมเดลคล้ายๆโมเดินเทรด มีการพัฒนาพื้นที่เป้ฯลิวล่าต่างๆ วิลล่าพหลโยธิน เอเวนิว ล่าสูดก็ร่วมทุนกับไอเกียทำเมกะบางนาซึ่งเป้นโปรเจคใหญ่ เปิดปลายปี 54 เปิดจองแล้วประมาณ 50% น่าจะประสบความสำเร็จ เป้า 7 บาท

TUF การเติบโตเป้นแบบการซื้อกิจการ ล่าสุดไปวื้อ MW มาเป้นารก่อหนี้เพื่อเติบโต ไม่น่ากังวลอะไร เพราะแบรนทูน่าอันดับต้นๆของยุโรบมา โดยได้ทั้งกำลังผลิต กับลูกค้า เป้า 63 บาท

SAMART ช่วงนี้กลุ่มสื่อสารค่อนข้างร้อนแรง ซึ่งสามารถก็อยู่ในกลุ่มขายโทรศัพก็เรื่อยๆ กำไรต่อหุ้นแบบธรรมดาก็ 0.7 บาท นอกจากนั้นยังมีโปรเจคมีเพียบทั้งติดตั้งจานดาวเทียมใหม่ของ กศท ที่เป็นแบบจานเดียวใช้ได้หมดไม่ต้องติดหลายๆจาน ถ้าได้มาก็ eps อีก 0.2 บาท NGV ก็มีสามารถโผล่ไปในโผด้วยถ้าได้ก็เป้นรายได้อีกเล็กๆ เป้า 10 บาท ถ้าได้จานดาวเทียมก็เป้า 11-12 บาท ได้ ngv ก็เพิ่มอีก 2 บาท
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
Verified User
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ธนาชาติ : SCC ตลอดช่วง 4-5ปีอยู่ในช่วงของการลงทุนเพิ่มเติบโตหลังจากนี้เป้นช่วงเก็บเกี่ยวผลงาน กระแสเงินสดจะกลับมา ปันผลจะกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง ธุรกิจผานจุดต่ำสุดไปแล้ว ถึงปิโตจะยังไม่มาก็ตามที  หนี้สินต่อทุน 0.8 เท่าปีหน้าเหลือ 0.5 เท่า ปันผล 10.5 บาท ปีหน้าน่าจะได้ถึง 15 บาท และจะกลับไปแอยู่ที่ 7% ได้ในปีต่อไป เป้าหมายที่ 340 บาท

LPN ความกังวลเรื่องฟองสบูมีมากไป อีก 3 ปีข้างหน้าจะเติบโตได้ต่อเนื่อง แบลกลอกรับรู้รายได้ปีนี้ 100% ปีหน้า 65% แล้ว PE 7.2เท่า ปันผล 5.4% ปีหน้าประมาณ 7% เมือ่เทียบกับ PS Spali ที่ใกล้เต็มมูลค้าแล้ว เป้ามหมาย 13 บาท

BANPU ตัวนี้ได้เทคโอเวอรเหมืองถ่านหินมาจากออสเตเลีย น่าจับตาว่าถ้าการเลือกตั้งของประเทศนั้นพรรคแรงงานได้ชัยชนะนโยบายเก้บภาษีเหมือนแร่และถ่านหินคงเดิมก็จะช่วยเพิ่มูลค่าให้บ้านปูได้ แต่อีกฝั่งมีนโยบายขึ้นภาษี และการลงทุนครั้งนี้จะช่วงสร้างควมเติบโตให้บ้านปูในระยะยาวต่อไป

Thai เป้นหุ้นเทินอะราวชัดเจน ปีที่แล้วสามารถประหยัดต้นทุนที่ไม่ใช่เชื่อเพลงได้ 1300 ล้าน และตั้งเป้าลดให้ได้อีก 20000 ล้าน และมีการบริหารเชือ่เพลิงที่ดีขึ้น มีการปรับราคาตั๋วตามค่าน้ำมัน จุดเปลี่ยนคือการปรับโครงสร้างทางการเงิน เพิ่มทุน 50% ให้คลังถือเพิ่ม 2 ให้ผู้ถือหุ้นเดิมแบบไม่ XR สำหรับคนมีชื่อวันที่ 30 สิงหา ถ้าเหลือจะกระจายต่อไปซึ่งเม็ดเงินเพิ่มทุนปรัมาณ 15000 ล้าน ไดรูดไม่เกิน 11% ราคา PO น่าจะประมาณ 30 บาท ซึ่งอาจมีการปรับเป้น 37 บาท ตอนนี้ บลให้เป้าไว้ที่ 42 บาท น่าจะมีการปรับประมาณการขึ้นเป้น 50 บาท หลังเพิ่มทุนและเอาเงินไปซื้อฝูงบินใหม่ ซึ่งประหยัดเชื่อเพลิงกว่าเครื่องบินเกา 11% และไม่ต้องจอดซ่อมนาน

CALL BLA ซึ่งเติบฌตได้อีกตลอด 5 ปีข้างหน้า แต่อาจต้องรอโอกาสลงทุนไปก่อน ราคาตอนนี้ไม่ถูก
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
Verified User
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ถาม : ฟันธงชอบตัวไหนที่สุด

CK  TUF  SCC
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
Verified User
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

จิตวิตยาพฤติกรรมการลงทุนและกลยุทธ์หุ้น

ขออนุญาติสรุปเป็นภาษาของผมเองนะครับพอดีแอบไม่ได้ตั้งใจฟังตลอด อิอิ

อ.สมชาย : ตลาดหุ้นมีวิวัตนาการ ในระยะแรกๆเป้นการสะสมความรู้ การซื้อขายตามสัญชาติญาณ ตัวไหนที่แรงๆกำลังวิ่งกำลังขึ้นก็เคาะๆตามกันไป  
      พอระดับการศึกษาเพิ่มขึ้น ก็มีการแบ่งออกเป้นศึกษาปัจจัยพื้นฐาน และวิเคราะห์เทคนิค ซึ่งนักลงทุนก็เรียนรู้และจดจำการลงทุนนั้นๆ การรับรู้ข้อเท็จจริงเดียวกันก็อาจตีความต่างกันตาม เพอเซฟชั่นที่เคยมีหรือ เช่น หุ้นตัวหนึ่งยังไม่มีกำไร คนนึงก็เลือกที่จะไม่ซื้อเพราะยังไม่เห้นกำไรตามความคิดของตัวเอง อีกคนก็รู้ไม่มีกำไรแต่ก็มองว่าอนาคตมีกำไรก็ซื้อตามความคิดของเขาที่สะสมมา
        ตัวอย่างที่ 2 นักลงทุนที่มองพื้นฐานก็จะหาหุ้นที่มีปันผล พื้นฐานดี ศึกษา eps  ก็อาจยังมองไม่เหมือนกันอย่างทิศโก้ เมือ่ก่อนไม่มีปันผล เอากำไรไปลงทุนต่อ คนที่ลงทุนพื่นฐานก็ยังมีคนซื้อเพราะมองว่าเอาเงินไปลงทึนมีอนาคตหวังจากโกรทส่วนต่างราคา บางคนมองว่าไม่ปันผลก็ไม่ซื้อ ถ้าคนที่มองมุมไหนมีเงินมีพลังมากกว่าก็ผลักดันหุ้นไปในทิศทางที่ตนเห็นว่าควรจะเป็น
         เทคนิคก็เปฌนจิตวิทยาอย่างหนึ่งเช่น สัญญาณซื้อขายหุ้นเหมือนกัน ซึ่งหมายถึงมีคนกลุ่มใหญ่ๆมีพลังมากกำลังขายซื้อหรือขายหุ้นไปทางนั้นๆก็เป้นตัวกำหนดทิสทางของหุ้นได้ เช่น คนที่กำลังเดินไปเดินมาอยู่ในห้องไม่รู้จะไปไหนเพราะไม่แน่ใจกราฟก็ไซต์เวย์ไปเรื่อยๆ พอมีแรงของคนมากลุ่มตุ้นคือคนตัดสินใจเดินออกไปจากห้องนั่นคือเค้าไปแล้วความจัดเจนเกิดว่าไม่มีคนอยู่ในห้องก็เป้นสัญญาณซื้อหรือขายทันที
       ระบะที่ 3 มีต่างชาติเข้ามาก็ต้องเข้าใจความรู้สึกนึกคิดเขาด้วยว่านอกจากเรามองภายในเราแล้วเปนไงฝรั่งมองเราก็อาจไม่เหมือนยเรามองตัวเอง
          สรุปแล้วตลาดหุ้น เป้นปฏิสัมพันธ์ของจิตวิทยากับปัจจัยพื้นฐาน
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
Verified User
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ดร.นิเวศน์ : อีกเรื่องคือจิตวิทยาหมู่ คนมักจะคิดจะทำอะไรไปตามๆกัน เวลากลัวก็ทำให้คนอื่นกลัวเหมือนๆกัน หรือกล้าก็กล้าเหมือนๆกัน เช่น การข้ามถนน ถ้าข้ามคนเดียวรู้สึกกลัว แต่พอข้ามหลายๆคนก็รู้สึกอุ่นใจปลอดภัย หุ้นขึ้นคนก็เลยซื้อๆ เพราะซื้อตามกันอุ่นใจ ถ้ามันลงเราซื้อคนเดียวก็รู้สกึไม่สบายใจ
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
Verified User
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 13

โพสต์

คุณพรชัย : เสริมเรื่องจิตวิทยาหมู่คือ คนเรามักรู้สึกว่า ถ้าคนบอกว่าหุ้นดีแล้วเราไม่ซื้อพอราคาขึ้นไปเราจะเจ็บใจถ้าเราไม่มี แต่ถ้าตกก็ตกหมดคือโง่เท่าๆคนอื่น เวลาหุ้นขึ้นเราไม่ได้เงินมันรู้สึกหดหู่ จิตวิทยาอื่นๆก็เช่น
            1 ความมั่นใจในตัวเองมากเกินไป เกิดจากเราพึ่งได้กำไรมา พอขายแล้วก็ลง รู้ข้อมูลเยอะ ได้ข้อมูลเยอะ จนจุดหนึ่งเราจะรู้สึกว่าเก่งเกินความเป็นจริง ประเมินความเสี่ยงต่ำไป ก็ใช้มาจินซื้อขายหุ้นเกินตัว ก็อันตราย
            2 อิทธิพลของคนอื่น คือไปอ่านกระทู้ หรือใครๆก็บอกว่ามี ดีขนาดไหน เราก็มีแนวโน้มจะซื้อตาม
            3เชื่อผู้รู้ พวกกูรู พอเขาพูดอะไรก็เชือ่เลยซื้อตามพอขาดทุนถึงได้รุ้ว่าพวกนี้เป้นกูไม่รู้
           4นักลงทุนจะติดกับราคาอ้างอิงคือต้นทุนของตนเองที่ซื้อมา พอเวลามันไปไกลๆก็ไม่กล้าซื้อตามเพราะคิดแต่ว่ามันขึ้นมาเยอะโดยเราลืมดูปัจจัยพื้นฐานประกอบ หรือหุ้นขึ้นมากๆก็คันมืออยากขายเพราะเราได้กำไรเยอะโดยไม่ดูว่ามันอาจไปต่อเป้นต้น หรือหุ้นตกเราเคยขายไปก็คิดว่าตกมาเยอะแล้วจากราคาที่เคยเห็นก็ไปซื้อโดยไม่ดูให้แน่ใจเป้นต้น
          5 ความคุ้นเคย เรามักซื้อหุ้นที่เรารู้จัก บริษัทที่ทำงาน หรือสินค้าที่เราใช้ หรือบางทีพอรู้สึกแย่ๆก็จะไม่ซื้อเลยเพราะคิดว่าหุ้นมันคงแย่ด้วยเป้ยต้น
          6ความไม่คุ้นเคย พอไม่รู้จัก ไม่เคยใช้ก็ไม่กล้าซื้อหุ้นนั้นๆ อย่างดูว่า ซิงเกอร์ไม่เคยใช้ไม่น่าจะขายได้ bgt รูปแบบเสื้อสีสันแรงไปไม่น่าขายได้ก็ไม่สนใจทั้งที่จริงๆเราอาจไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายก็ได้
          7 ความเป้นตัวแทนคือหุ้นขึ้นกำไรดี ผลประกอบการอะไรก็ดูดี เราก็ไม่คิดว่ามันจะดีต่อเนื่องไปเรือ่ยๆโดยไม่ตรวจสอบเรื่อยๆ
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
Verified User
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 14

โพสต์

หมอสม : หุ้นเป้นเรื่องของจิตวิทยา 60 พื้นฐาน 40 พฤติกรรมของคนที่ลงทุนมีหลายแบบ ทั้งกล้าได้กล้าเสีย กล้าได้ไม่กล้าเสีย กลัว ขี้ตกใจ ทำให้เกิดราคาขึ้น จิตวิทยาบอกว่าถ้าคนทนเห็นหุ้นลง 10% ไมได้ พอหุ้นขึ้น 10% เขาก็ทนไม่ไม่ได้จะต้องขาย เวลาหุ้นตกแรงๆคนก็จะกลัวเลยแห่ทิ้งไปตามๆกันโดยไม่พิจารณาให้ดีเพราะความกลัวครอบงำตลาด แต่ถ้าใครใจนิงวิเคราห์เหตุผลมาดีก็เข้าไปลงทุนได้ พวกนี้จะได้กำไรเพราะมีสติสิ่งสำคัฯคือบางคนรู้ ทบ หมดแต่พอเจอกับตัวเองก็ไม่รอด แบบ โคช รู้ว่าต้องเล่นยังไงถึงชนะแต่ถ้าโคชลงสนามมันก็เล่นแพ้ได้
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
Verified User
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ดร.สมชาย : ปกติแล้วคนเราจะโดยอารมณืพาไป แบบก่อนเข้าตลาดก็วางแผนมาเปนอย่างดีจะทำอย่างนี้ๆ พอถึงจุดที่เข้าไปจริงๆก็ตบะแตก ตั้งใจจะซื้อ พอเห้นคนขายๆๆๆๆๆ ก็ตกใจไม่กล้าซื้อตามแผน เป้นต้น ดังนั้นคุณต้องดูว่าคุณแบกรับความเสี่ยงได้แค่ไหน ถ้าไม่รู้ตัวเองก็ถูกชักจูงโดยอารมณืตลาดได้ง่าย เมือ่ไหรไปไหนมาไหนเห็นคนรู้สึกแย่กับหุ้นมากๆ ก็เปเนจังหวะซื้อเพราะทุกคนมองว่าแย่หมดแล้ว เล่นหุ้นตอนนี้ก็มีแต่ เสมอตัวหรือกำไร แต่ถ้าไปไหนมีแต่คนว่าดีดี ก้ควรขายเพราะมันดีแล้วคงไม่ดีไปกว่านี้แต่มีโอกาสขาดทุน ที่สำคัญก็ต้องวิเคราะห์พื้นฐานกับ ศก ให้ออกด้วย ยิ่งตอนนี้เล่นหุ้นยากกว่าเมื่อก่อนมาก เทรนต่างๆของโลกเปลี่ยนแปลงเร็วมาก มีของใหม่ๆเกินขึ้นไปฆ่าทำลายธุรกิจเก่าๆก็ต้องดูด้วย ฟิวเจอร์เล่นตามเมกะเทรนไม่ได้เพราะถึงคุณจะรู฿ว่ามาเทรนถูกแต่คุณอาจไม่มีเงินมากพอต่อสัญญาไปเรื่อยๆ เทรดจะทำให้คุณชนะแต่คุณเจ้งเพราะไม่มีเงินซะก่อน ก็ต้องระวังสำหรับคนที่เล่น
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
Verified User
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 16

โพสต์

ดร.นิเวศ : 1 ต้องดูว่าเรารับความเสี่ยงได้ไหม คนชอบขายหุ้นไปก่อนในตัวที่มีกำไรแต่เก้บหุ้นขาดทุนไว้ เพราะคนเราไม่ชอบแพ้ชอบชนะ ซึ่งไม่ถูกต้อง เค้าบอกว่า เจ็บใจเพราะขาดทุน 1 บาทมีค่าเท่ากับอารมณืดีใจที่ได้กำไร 2 บาท ทำให้คนเรามีกำไรก็ขาย ขาดทุนก็เก้บๆไว้รอจนมีกำไร ซึ่งไม่ถูกต้องควรดูพื้นฐนเป้นสำคัญ
             2 คนเราชอบทำไรเวอร์เกินไป รับรุ้เหตุการณืแล้วคิดเกินจริงไป ดีก็ดีสุดๆ แย่ก็แย่มาก เช่นวิกฤติเมกา เราก็มองว่าแย่มากๆแย่กว่าปี 40 ทั้งที่จริงๆแล้วศก บริษัทเรายังดีอยู่แต่ก็คิดไปไกล พอตอนนี้เริ่มพื้นก็คิดว่าดีสุดๆแห่กันเข้าไปซือ้ๆๆ pe ไม่สนเพราะมองว่าดี ซึ่งเป้นโอกาสของคนที่มีจิตใจมั่นคง
              3สนามหญ้าข้างบ้านเขียวกว่าบ้านเราเสมอ รถเลนเราวิ่งช้าเสมอ เป็นเรื่องที่เราชอบหาหุ้นตัวใหม่ๆเรื่อยๆ คิดว่าหุ้นคนอื่นดีกว่าหุ้นเรา ก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ สุดท้ายไม่รุ้ว่าไอ้ที่เปลี่ยนนี่ชนะจริงๆหรือเปล่า เราควรสนใจในวิธีการของเราที่พิจารณามาดีแล้ว ถ้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจะเป้นขาดวินัยในการลงทุน  ยึดคติไว้ว่า โตไปกับบริษัทไม่ใช่โตไปกับราคาหุ้น
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
MYBIZ
Verified User
โพสต์: 888
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 17

โพสต์

ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลดีๆ
จุดหมายปลายทาง อาจไม่ใช่ที่สุดของความงดงาม
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
Verified User
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 18

โพสต์

หมอสม : ให้คิดซะว่า ซื้อแล้วลงขายแล้วขึ้นเป้นเพราะกรรม เจ้ากรรมนายเวรดลใจเรา ก็ให้รู้จักทำสมาธิ รู้จักอยู่เฉยๆ คนที่อยู่ในพายุก็ไม่เห็นทางออกถ้าออกมาได้ก็จะพบทางที่ถูกต้อง กาลามะสูตรที่เอามาปรับใช้ก็คือ อย่าเชื่อเพราะบอกต่อกันมา อย่าเชือ่เพราะเป็นอาจารย์ โบรกเกอร์ ผู้รู้ และอย่าเชื่อเพราะคิดเอาเองคนเดียว
       อย่าไปเสียดายที่ผ่านๆมาข้างวหน้ายังอีกไกลถ้าเมื่อแต่มองข้างหลังเดียวข้างหน้าจะไม่สำเร้จ เวลาหุ้นขึ้นก็มักจะขึ้นมากกว่าที่เราคิด เวลาลงก็มักลงมากกว่าที่เราคิดเสมอ
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
Verified User
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 19

โพสต์

พี่พรชัย : จุดสำคัญคือสติ เวลาเราผิดเรามักจะผิดพลาดเรื่องเดิมๆ ซึ่งถ้าเรามีสติจะทำให้ป้องกันการผิดพลาดเดิมๆ ถ้าเราวิเคราะห์ดีแล้วก็ ต้องเชื่อและตรวจสอบอยู่เสมอๆ บริษัทดีดีอาจราคาไม่ถูก
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
Verified User
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 20

โพสต์

ดร.นิเวศน์ : จิตวิทยาตัวหนึ่งคือคนเรามักคิดว่าต้องทำอะไรซักอย่างมันถึงจะออกมาดี ถ้าอยู่เฉยๆไม่ดีทำไม่ได้ อย่างบริษัทถ้าผู้บริการวันๆไม่ทำไรเฉยๆอันนี้เราก็กลัว ต้องเห้นเค้าทำตัวยุ่งๆ ก็คิดว่าบริอษัทจะดี แต่จริงๆแล้วการไม่ทำอะไรเฉยๆบางครั้งก็ดี อย่างเรเกนอดีตประธานาธิดีเมกา ไม่ทำไรเท่าไหร จ้างคนเก่งๆมาทำงาน ก็ประสบความสำเร็จ การลงทุนก็เหมือนกันทำน้อยดีกว่าทำมาก ต้องหาบริษัทดีดีมาทำงานแทนเราใช้เวลาหานานหน่อย แล้วตัดสินใจเลย แต่ทำนานๆครั้ง
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
Verified User
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 21

โพสต์

พี่พรชัย : กลยุทที่พอช่วยได้คือ เขียนไว้ล่วงหน้าว่าจะซื้อขายหุ้นที่เท่าไหร พอถึงตอนนั้นก็ทำไปเลยเพราะเราได้วิเคราะห์ออกมาดีแล้วโดยปราศจากอารมณ์ หรือ เราก็ตั้งเป้นกฏในการหาหุ้นมาเลย ถ้าไม่ตรงตามก็ก็อย่าไปซื้อทำให้เรามีวินัย
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
Verified User
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 22

โพสต์

อีกเรื่องคืออะไรที่เรารู้สึกขัดแย้งจะไม่ค่อยฟังอะไรที่พูดตรงใจจะสนใจฟังเป่นพิเศษก็ต้องปรับให้ฟังด้วยใจที่เป้นกลางเอาข้อมูลมาวิเคราะห์ให้หมด
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
Verified User
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 23

โพสต์

ผิดถูกประการใดขออภัยด้วยครับ รอบนี้ที่ช้าเพราะคอมที่บ้านเสีย เลยต้องกลับมาพิมให้ที่หอครับ
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
เด็กใหม่ไฟแรง
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1575
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 24

โพสต์

พี่ champ นี่สุดยอดจริงๆ
ผมอยู่ในงานแท้ๆยังไม่ได้เรื่องราวมากเท่ากับอ่านจากที่พี่สรุปเลย
ขอบคุณมากๆครับ
ดู clip รายการ money talk ย้อนหลังได้ที่
http://www.facebook.com/MoneyTalkTV
ภาพประจำตัวสมาชิก
pornchai_w
Verified User
โพสต์: 244
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 25

โพสต์

เล็กเชอร์ได้สุดยอดเหมือนเคย
ขอบคุณมากครับ
Blog ของคนใช้เงินเก่ง ^_^
http://pefinance.wordpress.com/about/
i_sarut
Verified User
โพสต์: 1808
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 26

โพสต์

ทั้งหล่อ ทั้งใจดี  :bow:
"Risk comes from not knowing what you're doing" - Warren Buffet

สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย

http://www.sarut-homesite.net/
IWILLBEVI
Verified User
โพสต์: 363
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 27

โพสต์

ขอบคุณมากครับน้องแชมป์ :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
Juninho
Verified User
โพสต์: 1050
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 28

โพสต์

ขอบคุณจากใจจริง
You Can Get It If You Really Want
But you must try, try and try
ภาพประจำตัวสมาชิก
PRO_BABY
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1584
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 29

โพสต์

ขอบคุณข้อมูลดีๆครับ :D
--ผลของอนาคตเกิดจาก<====ปัจจุบัน ผลของปัจจุบันเกิดจาก<===อดีต
--ทุกอย่างเชื่อมโยง มีเหตุ====> มีผ
เกล้า
Verified User
โพสต์: 1165
ผู้ติดตาม: 0

สรุปงานสัมนาฟันธงหุ้นเด่นกับจิตวิทยาการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 30

โพสต์

ขอบคุณข้อมูลดีๆที่นำมาแบ่งปันให้กันเสมอมา.. :D  :D  :D
โพสต์โพสต์