โบรกฯ ประสานเสียงฟันธงหุ้นไทยปีนี้แตะ 1000 จุด

[มะลิ]

แหม...แหม ช่างเหน็บช่างแนมกันจังเจ้าค่ะ  :mrgreen:  อิ อิ ล้อเล่นน้าค้า
จริงแล้ว ตามวัฏจักรเศรษฐกิจ แบบ แมคโคร ช่วงนี้เป็นช่วง eary expansion
ตามหลักแล้วตลาดก็จะเป็น bull market อยู่แล้วอะค่ะ ส่วนจาไปได้ถึงไหน
ก็จับตา fund flow ที่มาเสริม การฟื้นตัวของ real sector ด้วยน้า
ไม่ประมาทกับทางไหนเลย น่าจะดีกว่าป่าวคะ  

[leaderinshadow]

ถ้าถามว่า 1000 จุด มีโอกาสมั้ย

ในส่วนตัวผม คิดว่าไม่ยากครับ

สาเหตุก็เพราะว่า เมื่อประมาณ 7 ปี ที่แล้ว ซึ่งเป็นเวลาที่ผมเพิ่งเริ่มลงทุน
ดัชนีหุ้นไทยประมาณ 700 จุด เท่ากับมาเลเซีย ที่ดัชนีประมาณ 700 กว่าๆ เหมือนกัน
ในขณะที่เวียดนามประมาณ 500

ต่อจากนั้น 2 ปี เวียดนามไปที่ 1000 จุดครับ มาเลเซียประมาณ 1200
ขณะที่ไทย แกว่งอยู่ที่ 680-850 จุด ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงเริ่มต้นของความวุ่นวาย (กำเนิด Yellow Shirt)

แล้วไทยก็โดนสารพัดวิกฤติกระหนำ ทำให้ต่างชาติลดพอร์ตลงทุนในไทย แล้วย้ายไปเพื่อนบ้านแทน
บ้านเรา โดนทั้ง ไข้ซ่า หวัดนก  ปัญหา3จังหวัด น้ำมันแพง ซึนามิ ประท้วง ปิดสนามบิน ปฎิวัติ ทำให้ทำท่าจะไป 1000 จุด จะก็ไม่ถึงซะที

และสุดท้าย โดย พิษแฮมเบอร์เกอร์ ส่งท้าย ร่วงไป 400 เลย  :lol:

จำได้ว่า LTF เกิด ก็เพราะวิกฤติเหล่านี้แหละครับ ตอนแรกที่ฝรั่งเทขายหุ้น จนดัชนีร่วงจาก 800 ไป 680 บาทเมื่อ 7 ปีก่อน
คุณสมคิด(รัฐมนตรีคลังสมัยนั้น) ให้กองทุนวายุภักษ์เข้าช้อน(ตอน700) แต่ก็ต้านไม่ไหว ตอนหลังเลยออกกองทุน LTF ขึ้นมา
เพื่อสร้างเสถียรภาพในระยะยาวให้กลับตลาดทุน (ไม่ให้ฝรั่งเกมส์ฝ่ายเดียว)

ยาวแล้ว กลับเข้าเรื่องดีกว่า

แล้วพอเวลาผ่านไป ตอนนี้ set 800 กว่าๆ ถ้าถามว่า เมื่อเทียบกับเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ผมว่า บริษัทต่างๆ ใหญ่ขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก ทั้งขนาดของยอดขาย กำไร ทรัพย์สิน

แล้วพอมองไปดูเพื่อบ้านเรา มาเลเชีย ไอ้หย่า 1300 กว่าๆ ส่วนเวียดนามฟองสบู่แตกจริงๆครับ 500 กว่าๆได้

ความจริงนะครับ ถ้าตัดเรื่องการเมือง ผมว่าบ้านเราแทบไม่มีทางแพ้ มาเลเซียเลย ศักยภาพบ้านเราเหนือกว่ามาก ยิ่งสมัยก่อน
มาเลเซียต้องมาดูงานบ้านเรา เพื่อเอาความรู้ไปพัฒนาประเทศเค้า แต่ตอนนี้ดูท่าจะกลับกัน  

ซึ่งดูแล้ว ผมว่า หุ้นบ้านเราถูก discount สุดๆครับ ถ้าเทียบกับเพื่อนบ้าน
และผมลองคิดเล่นๆ ว่า 1000 จุด เนี่ย ก็คิดราคา Up อีก 15%

แล้วลอง scan ดู ก็พอว่า PTT นิ่งมานานมาก แล้วหุ้นที่ทำนิวไฮ คือ กลุ่มแบงค์ CPF CPALL ไม่อยากจะบอกว่า ที่น้ำมันระดับนี้
ในอดึต PTT น่าจะอยู่ที่ประมาณ 300 กว่าๆ แต่ตอนนี้ 250  :!:
ถ้าเรื่องมาตราพุบ เคลียร์ ผมมองว่าการที่ PTT จะไปที่ 300 คงไม่ยาก
ถ้า PTT 300 เรื่องดัชนี 1000 จุด คงได้เห็นในปีนี้

แต่สุดท้าย ก็อยากจะบอกว่า 1000 จุดแล้วไงครับ
สุดท้ายก็ต้องวกกลับมาที่หุ้นที่เราถืออยู่ดี ดัชนี้ขึ้น ไม่ได้หมายความว่าหุ้นที่เราถือจะขึ้นตามนะครับ ... เพียงแค่เพิ่มโอกาสที่ราคาจะขึ้นเท่านั้น

แล้วยิ่งดัชนีไป 1000 จุด พอร์ตอาจจะเราโตขึ้น แต่การจะหาหุ้นดีๆ ในราคาที่เหมาะสม ก็จะยิ่งยาก ในเหตุการณ์นึง มีทั้งเรื่องดีและไม่ดีนะครับ

[murder_doll]

อย่าไปวิเคราะห์กี่จุดเลยมันไกลเกินวันนี้นะครับ(อนาคต)
สู้เลือกบริษัทที่ทนต่อสภาวะตั้งแต่ 1-1000 เข้าถือก็อุ่นใจ

เพราะเรือทุกลำต้องเจอพายุอยู่แล้ว
มันยากที่จะเดาว่าเมื่อไหร่พายุจะมา
แต่มันง่ายกว่าถ้าหาเรือที่แข็งแกร่งพอจะฝ่าคลื่นลมไปได้

[tattoo_thai]

ผมคิดคล้ายๆคุณ leaderinshadow

หุ้นขึ้นรอบนี้ กลุ่มPTT ยังไม่ค่อยขยับเท่าไหร่

ถ้าการเมืองเรานิ่ง ปัญหามาบตาพุดเคลียร์ ฝรั่งยังซื้อต่อเนื่อง

เราอาจจะได้เห็น 1000 จุดก็ได้ ใครจะไปรู้นี่อาจจะเป็นจุดเริ่มของกระทิงรอบใหญ่ก็ได้นะครับ  :D

[pol256]

อย่าไปวิเคราะห์กี่จุดเลยมันไกลเกินวันนี้นะครับ(อนาคต)
สู้เลือกบริษัทที่ทนต่อสภาวะตั้งแต่ 1-1000 เข้าถือก็อุ่นใจ

เพราะเรือทุกลำต้องเจอพายุอยู่แล้ว
มันยากที่จะเดาว่าเมื่อไหร่พายุจะมา
แต่มันง่ายกว่าถ้าหาเรือที่แข็งแกร่งพอจะฝ่าคลื่นลมไปได้

จะบอกถึงน้อง เรือ ทั้ง 3 ลำป่าวคับ  :lol:    ทนได้ทุกสภาวะเพราะ BDI ยังไปไหนมะได้ซะที

[คนอุดร]

ขาขึ้นหุ้นไทย ต่างชาติเทน้ำหนักลงทุนสูงสุดในเอเชีย เทียบเท่าจีน-อินเดีย คาดดัชนีปีนี้แตะ 900 จุด ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเอกชนมีผลประกอบการดี ทำให้ 1-2 ปีนี้ เขื่อว่ากำไรโตต่อเนื่อง
     
      นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) อยุธยา จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยคาดว่า ในปีนี้ดัชนีมีโอกาสทดสอบ 900 จุด และในปีหน้า มีโอกาสเห็นดัชนีทดสอบที่ระดับ 1,000 จุด เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ออกมาดี โดยเฉพาะในครึ่งปีแรกแม้สถานการณ์การเมืองในประเทศจะมีความรุนแรง แต่ผลประกอบการออกมาแข็งแกร่ง ซึ่งคาดว่าผลประกอบการ บจ.ในช่วง 1-2 ปีนี้ จะมีอัตราการขยายตัวต่อเนื่อง โดยปีนี้ทั้งปีประเมินว่าจะขยายตัว 20-25% และปี 2554 คาดว่า จะขยายตัว 15-20%
     
      “ไม่ได้เห็นผลประกอบการ บจ.เติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก หรือเพิ่มขึ้นสูงถึง 20% มาหลายปีแล้ว ทำให้เชื่อว่าตลาดหุ้นไทย เข้าสู่ภาวะกระทิง อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงเรื่องปัญหาการเมืองในประเทศ ทั้งกรณียุบพรรคประชาธิปัตย์ การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และปัญหามาบตาพุด ทำให้ต่างชาติยังไม่ตัดสินใจโยกเงินเข้ามาลงทุนเห็นได้จากตั้งแต่ต้นปีต่าง ชาติยังคงมียอดขายสุทธิมากกว่า 4 พันล้านบาท แม้สัปดาห์ที่ผ่านมาจะเริ่มมีการโยกเงินกลับเข้ามาลงทุนบ้างแล้วประมาณ 6 พันกว่าล้านบาท”
     
      ด้าน บริษัท หลักทรัพย์ (บล.) พัฒนสิน รายงานว่า ทาง โนมุระ ได้รายงานผลสำรวจผู้จัดการกองทุน ณ สิ้นสุดวันที่ 31 กรกฎาคม พบว่า ผู้จัดการกองทุนส่วนใหญ่ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์ลงทุน โดยการลงทุนในตลาดหุ้น ผู้จัดการกองทุนหันไปเพิ่มน้ำหนักลงทุนตลาดอเมริกาเหนือ ส่วนตลาดเอเชียใม่รวมญี่ปุ่นแม้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักลงทุน แต่มีการเพิ่มน้ำหนักลงทุนในตลาดหุ้นออสเตรเลีย และลดน้ำหนักลงทุนในตลาดหุ้นมาเลเซีย เกาหลีใต้ ส่วนไทยในสายตาผู้จัดการกองทุนต่างชาติ ยังคงมีน้ำหนักลงทุนสูงสุดในเอเชีย เท่ากับอินโดนีเซีย ฮ่องกง จีน และ อินเดีย

http://www.manager.co.th/StockMarket/Vi ... 0000110185

[คนอุดร]

เอ้า...ว่ากันไป หุ้นจะขึ้นจะลงกี่จุดก็ช่างผมสนแต่หุ้นในพอร์ตเป็นพอ  :lol:

[thaloengsak]

ผมฟันธงบ้าง หุ้นไทยแตะ5000จุดแน่!!!!
(ปีไหนไม่ทราบ555+)

[marble]

หากมันปรับฐานซักเดือนหรือ 2 เดือน โบร๊ค พวกนี้จะออกมาวิเคราะห์ให้ขายหุ้นถือเงินสด ชัวร์

[aviruth]

นักวิเคราะห์ก็มาจากโบรคเกอร์ โบรคเกอร์ก็หวังค่าต๋ง ถ้าบอกหุ้นจะลง คนก็ไม่ซื้อหยุดดูกันก่อน พวกเขาก็ขาดรายได้ เพราะงันตอนหุ้นสูงก็ช่วยกันดันกันเป็นแถว เพราะจะได้ปล่อยของให้รายย่อย พอของหมดก็คาดการณ์ใหม่ทุบมันลงมาแล้วตัวเองก็ไปช้อนซื้อ

อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะครับ

[Croyoty]

ผมว่าดัชนี 1xxx ต้องมีแน่ ในปีหน้าครับ

[kurapica]

จะไหวเร้อ ขึ้นมาหน่อย สถาบันก็กระหน่ำขายตลอด

[superboy]

คนกลัวหุ้นขึ้น แต่แช่งให้หุ้นลง ฟันธง สงสัยพอร์ตว่างกันเยอะ

อิอิอิ

ปล. แซวเล่นๆๆ นะ

[My House]

ถูกครับคุณ kurapica พอขึ้นหน่อยสถาบันก็ขายๆๆๆ (ทำกำไรบ้าง ปรับพอร์ตบ้าง บลาๆๆๆ) สังเกตุเห็นต่างชาติยังเข้าซื้อต่อเนื่อง ขายทำกำไรบ้างเล็กน้อย สู้ๆต่อไปล่ะกันเพราะหุ้นเป็นตัวสะท้อนให้ต่างชาติมั่นใจในเศรษฐกิจของบ้านเรา ช่วยๆกันลงทุนนะครับ ช่วยชาติและช่วยตัวเองและเพื่อนๆด้วย

[Green_tree]

ทำนายกันใหญ่เลยงั้นทำนายมั่ง  :D

"อีกสิบปี set จะอยู่ที่ 8,000จุด"
.
.
.
.
.
คิดว่าเป็นไปไม่ได้กันรึเปล่าคะ?

ถ้าคนคิดว่าเป็นไปไม่ได้กันแสดงว่ามีความเป็นไปได้สูงเลย อิอิ

ปล.มอตโต้วันนี้ "ถ้ากำไรมาแบ่งกัน ถ้าขาดทุนตัวใครตัวมัน"  

[Windy]

โบรกประสานเสียง แล้วต้องดูต่างชาติ รายย่อย แล้วก็ สถาบันประสานเสียงด้วยรึป่าว ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นเสียงข้างน้อย  :)

[pntrang]

มี 2 ด้านเสมอ  :)

[laohanant]

ผมว่าในรอบ 5-10 ปี น่าจะได้เห็น high เดิมนะ 1,700 จุด

คิดอะไรไว้มักมาเร็วกว่าที่คิดทุกที  :lol:  :lol:  :lol:

[ritz]

มีโอกาสมาก ครับ..  เพราะช่วงหลังๆ รายย่อยเราเข้มเเข็งขึ้น  มีบ่อยๆครั้ง ที่สถาบันกับต่างชาติต้องมาซื้อหุ้นเเพง จากรายย่อย    :lol:

[Onokung]

มาคอยอ่านครับ
ถ้าคนในห้องนี้ยังไม่เห็นด้วยมากๆ ก้อจะถือต่อ
ดัชนีคงไปได้เรื่อยๆ
เมื่อไหร่ คนเริ่มเชียร์ตามนักวิแคะ ก้อจะขายทำกำไรบ้าง

"เศรษฐศาสตร์แห่งความจริง"

ผมงง ว่าที่นี่เค้า มองแบบ ความจริงอยู่แล้วหรือเป็น MASS

[shadow_attack]

ผมมองว่ากำไรปีนี้มันดูโตเยอะเพราะเจอทั้งพิษน้ำมัน + ซับไพร์มของปีก่อนๆนะ ออกแนว turnaround มากกว่า

ถ้าไม่มี turnaround พวกนี้ การเติบโตของกำไรก็น่าจะอยู่ในระดับปกติเหมือนที่เคยเป็นมา

[คนดอย]

555... :lol:

เดี๋ยวดูวันจันทร์ที่ 16 (พรุ่งนี้) ถ้าตลาดเปิดแดงเถือกกกกกก

คงจะออกมาตั้งกระทู้กันต่อว่าจะตกไปถึงเท่าไหร่

ดร.นิเวศน์ท่านยังออกมาให้ข่าวเรื่องความไม่แน่นอนเลยเรื่อง Double Dip

[doc_zodi]

เข้ามาอ่านครับ

แต่ส่วนใหญ่ผู้แสดงความเห็นมองว่าเป็นอะไรตรงข้ามกับนักวิเคราะห์

นักวิเคราะห์เนี่ย เขาจบไรมานะ ถึงได้ทำไรที่คนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยขนาดนี้

เฉพาะ web นี้มั๊งครับที่ไม่เห็นด้วย แต่ถ้า web อื่นเช่น Pantip อาจเห็นด้วยมากกว่า

บางครั้งผมอ่านใน Pantip เค้าว่าพวก VI เป็นพวก Anti-social ไปโน่นเลย

บางพวกก็บอกว่า VI เป็นพวกเล่นไม่แฟร์ อมหุ้น ซื้อถูกๆ อมไว้ไม่ปล่อย รอขายแพงๆ ปั่นหุ้นเป็น VI effect บ้างหล่ะ

เข้าทำนองคิดไม่เหมือนเพื่อน แต่รวยกว่าเพื่อน  :lol:  :lol:

[marble]

เข้ามาอ่านครับ

แต่ส่วนใหญ่ผู้แสดงความเห็นมองว่าเป็นอะไรตรงข้ามกับนักวิเคราะห์

นักวิเคราะห์เนี่ย เขาจบไรมานะ ถึงได้ทำไรที่คนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยขนาดนี้

เฉพาะ web นี้มั๊งครับที่ไม่เห็นด้วย แต่ถ้า web อื่นเช่น Pantip อาจเห็นด้วยมากกว่า

บางครั้งผมอ่านใน Pantip เค้าว่าพวก VI เป็นพวก Anti-social ไปโน่นเลย

บางพวกก็บอกว่า VI เป็นพวกเล่นไม่แฟร์ อมหุ้น ซื้อถูกๆ อมไว้ไม่ปล่อย รอขายแพงๆ ปั่นหุ้นเป็น VI effect บ้างหล่ะ

เข้าทำนองคิดไม่เหมือนเพื่อน แต่รวยกว่าเพื่อน

[Anti-Aircraft]

เข้ามาอ่านครับ

แต่ส่วนใหญ่ผู้แสดงความเห็นมองว่าเป็นอะไรตรงข้ามกับนักวิเคราะห์

นักวิเคราะห์เนี่ย เขาจบไรมานะ ถึงได้ทำไรที่คนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยขนาดนี้

เฉพาะ web นี้มั๊งครับที่ไม่เห็นด้วย แต่ถ้า web อื่นเช่น Pantip อาจเห็นด้วยมากกว่า

บางครั้งผมอ่านใน Pantip เค้าว่าพวก VI เป็นพวก Anti-social ไปโน่นเลย

บางพวกก็บอกว่า VI เป็นพวกเล่นไม่แฟร์ อมหุ้น ซื้อถูกๆ อมไว้ไม่ปล่อย รอขายแพงๆ ปั่นหุ้นเป็น VI effect บ้างหล่ะ

เข้าทำนองคิดไม่เหมือนเพื่อน แต่รวยกว่าเพื่อน

[leaderinshadow]

อุ๊ยๆๆ ดูท่ามันจะมาจริงๆซะแล้ว
PTT and The Gang นำทีม ตามคาด  :lol:

แอบดีใจ ที่ซื้อ LTF ครบตั้งแต่ปีแล้ว  :D
เพื่อนๆ พี่ท่านใดที่ยังไม่ได้ซื้อ LTF อย่าลืมทยอยเก็บกันนะครับ
กลัวว่าไปรอปลายปี อาจจะต้องซื้อแพงกัน

ปล. อย่าเพิ่งเชื่อ ผมอาจจะคาดการณ์ผิดก็ได้นะ  :twisted:

[leaderinshadow]

มาบตาพุดได้บทสรุปแล้วนะครับ

74 โครงการรอด เหลือ 2 ที่ติด

อัยการระบุว่า 2 โครงการที่ต้องกลับไปนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ สวล.อีกครั้ง คือ

1. โครงการโรงงานผลิตเอทิลีนออกไซด์และเอทิลีนไกลคอน(ส่วนขยาย)ของบริษัท ทีโอซี ไกลคอน จำกัดในเครือ บมจ.ปตท.เคมิคอล(PTTCH) และ

2. โครงการขยายกำลังการผลิตไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์ของ บมจ.ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์(TPC)

(เพิ่มเติม) ศาลปกครองปลดล็อคโครงการมาบตาพุด ยกเว้น 2 โครงการ PTTCH-TPC
http://www.ryt9.com/s/iq05/976646

บวกกับ
Fitch มีสิทธิ์ปรับเพิ่มอันดับเครดิตไทยหลังการเมืองนิ่ง
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/New ... fault.aspx

Fitch มีสิทธิ์ปรับเพิ่มอันดับเครดิตไทยหลังการเมืองนิ่ง

Posted on Wednesday, September 01, 2010
นายแอนดรูว์ คูลฮูน ผู้จัดการด้านการจัดอันดับความน่าเชื่อถือประจำภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก บริษัท ฟิทช์ เรตติ้ง คาดว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวได้สูงกว่า 7% หรืออาจโตได้ราว 7.4% โดยฟิทช์จะติดตามการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะต่อไป หากมีการขยายตัวได้ดีขึ้นกว่านี้ และการเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้น และศาลปกครองตัดสินคดีมาบตาพุดออกมาในเชิงบวก ก็อาจจะมีการพิจารณาปรับแนวโน้มเครดิตของไทยในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า โดยเฉพาะเครดิตสกุลเงินบาท จาก Negative มีโอกาสเป็น stable

ปัจจุบัน ฟิทช์ฯ จัดอันดับเครดิตสกุลต่างประเทศของไทยที่ระดับ BBB แนวโน้ม Stable เนื่องจากสภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศเติบโตดีขึ้น ระดับหนี้สาธารณะลดต่ำลง ส่วนอันดับเครดิตสกุลเงินในประเทศของไทยอยู่ที่ A- แนวโน้ม Negative เนื่องจากประเทศไทยไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองตั้งแต่ปี 2549

นายวิรไท สันติประภพ รองผู้จัดการ สายงาน พัฒนาและวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บอกว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังจะขยายตัวลดลงจากในครึ่งปีแรก โดยมีสาเหตุมาจากปัญหาเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก ทั้งปัญหาหนี้สาธารณะที่มากขึ้นและเงินคงคลังที่ลดน้อยลงของกลุ่มประเทศยุโรปและสหรัฐ หลังใช้ไปกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา รวมไปถึงอัตราการว่างงานที่ยังมีสูง แต่นายวิรไทย ก็เชื่อว่า แม้เศรษฐกิจโลกจะมีปัญหา แต่โอกาสเกิดวิกฤตรอบ 2 เป็นไปได้น้อยมากเนื่องจากขณะนี้ สถาบันการเงินของประเทศที่เกิดปัญหาได้รับการแก้ไขไปมากแล้ว

การปรับเรทติ้งมีผลกระตลาดหุ้นมากนะครับ
เพราะไม่ใช่แค่ ทำให้บริษัทระดมได้ง่ายและต้นทุนต่ำลงเท่านั้น
การปรับเรทติ้ง จะทำให้กองทุนต่างประเทศสนใจตลาดหุ้นไทยมากทีเดียว

กระทิงตัวนี้ท่าจะแรง เกาะแน่นๆนะครับ

[paul_n]

....................................................................................................
....................................................................................................
....................................................................................................
....................................................................................................
....................................................................................................
....................................................................................................
....................................................................................................
....................................................................................................
....................................................................................................
....................................................................................................

1,000 จุด จริงๆครับ นับดูเอาแล้วกัน หลังจากนั้นก็เอามือแตะหน้าจอครับ แตะได้แน่นอนครับ

เคยเล่นมุขนี้ก่อนหน้า Hamburger Crisis เล่นคราวนี้มันจะลงไปที่เดิมไหมเนี่ย  :lol:  :lol:

[คนอุดร]

ใกล้ 1000 จุด เข้าไปทุกทีแล้ว  :lol:  :lol:  :lol:

[Ii'8N]

ผมว่าไม่ต่างอะไรจากหมอฟันธงหรือหมอคอนเฟิร์มครับ
อาศัยคาดเดาจากกระแสแต่ละช่วงเท่านั้น

จำได้ว่า สมัยรสช. "โหน" ชื่อดังท่านหนึ่ง ที่รู้จักกันทั่วประเทศพยากรณ์ไว้ว่ารสช. จะอยู่ยงคงกระพัน ทำนายในช่วงที่กระแสกำลัง hot เขียนลงคอลัมน์หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่
พอเกิดเหตุการณ์พฤษภาฯ ขึ้นมา ต้องมานั่งเขียนคำทำนาย "แก้ตัว" ลงในคอลัมน์เดิม


เรื่องตลาดนี่เหมือนกัน ถ้าสนใจตลาดมากๆ บางคนบอก "กลัวปรับฐาน" ต้องรีบขายทิ้ง ล้าง port ให้เกลี้ยง ให้ถือเป็นเงินสด
บางคนตั้งคำถาม ตูจะตกรถรึเปล่า?

แต่ความเห็นผม ที่จำมาจากเซียนทั้งหลาย
ดร.นิเวศน์บอกให้ถือ หุ้น 100%
ส่วนลุงลินช์และปู่บัฟฟ์ บอกไว้ข้างล่าง


โดยสรุป
ผมคิดว่า ถ้าเจอหุ้นที่มีโอกาสลงทุน แต่กำเงินไว้ เพราะกลัว "ปรับฐาน" กลัวตลาดร่วง ทั้งๆ ที่กิจการมีแนวโน้มที่ยังทำกำไร โอกาสเติบโต ถือว่า "เสียโอกาส" เอาไปซื้อสลากออมสิน ยังมีประโยชน์กว่า

แต่ถ้ารีบใส่เงินเข้า port เพราะกลัวตกรถ เ้พราะตลาดกำลังขึ้น โดยไม่ดูว่า กิจการที่เข้าไปซื้อจะเปลี่ยนแปลงเติบโตอย่างไรหลังจากที่เราซื้อ ถือว่าเป็นนัก "แทงหวย" มากกว่านักลงทุน มีโอกาสที่จะเจอหุ้นสวนกระแส คือชาวบ้านเขาขึ้นแต่ที่ซื้อสาละวันเตี้ยลง แล้วต้องมาตั้งคำถามใน web board ว่า "ทำไงดี ตลาดเขียวแต่ปอดผมแดง"



Peter Lynch
http://www.thaivi.com/2009/09/58/

อันดับที่ห้า ไม่ต้องไปสนใจการขึ้นลงของตลาด ให้ใช้เหตุผลในการซื้อขายเท่านั้น
- จำไว้เสมอว่า กำไรขาดทุนที่จะได้รับไม่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจโดยรวมแต่จะขึ้นอยู่กับปัจจัยเฉพาะของธุรกิจที่บริษัทดำเนินการอยู่ ดังนั้นไม่ต้องไปสนใจการขึ้นลงของตลาดหุ้น
- ซื้อหุ้นเมื่อแน่ใจในเหตุผลที่อยู่เบื้องหลัง ที่ราคาที่เหมาะสม ลงทุนเต็มที่ตลอดเวลา
- ขายหุ้นประเภทแข็งแกร่ง เมื่อ PEG สูงประมาณ 1.2 1.4 หรือเห็นแนวโน้มว่าการเติบโตเริ่มลดลง
- ขาย หุ้นประเภทโตเร็ว เมื่อเห็นสัญญาณว่าจะไม่มีทางขยายการลงทุนได้อีกแล้ว หรือการขยายกิจการนั้นเริ่มทำให้การขยายตัวลดลง หรือเมื่อ PEG สูงประมาณ 1.5 2.0
- ขายหุ้นประเภทมีสินทรัพย์แฝง เมื่อมีการซื้อกิจการเกิดขึ้น หรือเมื่อกิจการขายสินทรัพย์ได้ต่ำกว่าราคาที่ควรจะเป็น





Study Visit to Berkshire Hathaway by
MBA Students from Terry College of
Business at the University of Georgia
January, 2007
This doctunent is a transcript of some questions asked by the students and Warren

Buffetts answers.

Compiled by Sham Gad




Buffett: The important qualities you need are intelligence. patience. and interest, but the
biggest thing is to be rational. In 97-8. people werent rational. People got caught up with
what other people were doing. Dont get caught up with what other people are doing. Being
a contrarian isnt the key. but being a crowd follower isnt either. You need to detach
yourself emotionally. You need to think about what is going on around you. Being in
Omaha helps me in that regard. When I was in NYC. I had 50 people whispering in my ear
before noon. Its hard sometimes, like when the Internet craze hit. Nobody likes to see their
neighbor doing stupid things and getting rich. It was like Cinderellas ball. I think Ill just
have one more dance. its not midnight yet. Sounds simple but it is hard to leave the party.
The problem with stocks is they dont have clocks. You dont know when it will be
midnight so you can leave the party. My partner Charlie Munger and Tony Nicely at Geico
are always rational. 160 IQs can say stupid things that sound good. People do silly things.
whether they have 120 IQ or 160. You can always improve your rational thought.
Rationality is tile only thing that helps you. One thing that could help would be to write
down the reason you are buying a stock before your purchase. Write down "I'm buying
Microsoft $300B because... Force yourself to write this down. It clarifies your mind
and discipline. This exercise makes you more rational.

อย่าไปสนใจมากนัก ในสิ่งที่คนอื่นกำลังแห่ทำอะไรกัน
หุ้นไม่มีนาฬิกาในตัวมัน
การลงทุนไม่เกี่ยวกับไอคิว  แต่เกี่ยวกับความมีเหตุผล
ใช้เหตุผลในการเข้าซื้อเสมอ ฝึกให้มีเหตุผล ก่อนซื้อด้วนการลองเขียนลงบนกระดาษว่า "ผมจะซื้อหุ้นไมโครซอฟท์ ราคาที่ $300 เพราะว่า....." (1, 2, 3, 4, 5....)

ไมโครซอฟท์ประสบความสำเร็จก็จริง จนถึงวันนี้ พอร์ตของปู่บัฟฟ์ ก็ยังไม่เคยมีหุ้นไมโครซอฟท์ อาจเป็นเพราะว่า ลุงและเพื่อน (ชาลี) ยังหาเหตุผลที่เหมาะสม ที่จะเข้าซื้อไม่ได้ คือประเมินอนาคตไม่ได้นั่นเอง



(file ข้างต้น ปู่ไปบรรยายให้นักศึกษา MBA มหาวิทยาลัยจอร์เจียฟังเมื่อ 3 ปีมาแล้ว ปู่ยังเล่าเรื่องว่าทำไมซื้อหุ้นปิโตรไชน่า
ผม download PDF จาก http://shamgad.blogspot.com มานานแล้ว มันยาวตั้ง 11 หน้า และไฟล์ lock ไว้ไม่ให้ copy ใช้ OCR แปลงก็กระท่อนกระแท่น
ล่าสุด หา link ไม่พบแล้ว ถ้าใครอยากได้เต็มๆ PM มาหา หรือทิ้ง e-mail ไว้ ผมจะส่งไปให้ครับ)