จับตา 12 อาชีพดาวรุ่ง เทรนด์ใหม่แห่งทศวรรษหน้า
- CHOOKY
- Verified User
- โพสต์: 540
- ผู้ติดตาม: 0
จับตา 12 อาชีพดาวรุ่ง เทรนด์ใหม่แห่งทศวรรษหน้า
โพสต์ที่ 1
เผื่อว่าเพื่อนๆ พี่ๆ จะได้ไอเดีย ในการลงทุนครับ
ที่มา : วันที่ 08 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 14:42:01 น. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ความเปลี่ยนแปลงคือสัจธรรม เมื่อสังคมเปลี่ยน ค่านิยมเปลี่ยน เทคโนโลยีเปลี่ยน ส่งผลให้วิธีการหาเลี้ยงชีพของผู้คนผันแปรตามไปด้วย อาชีพที่เคยรุ่งเรืองเมื่อหลายปีก่อน อาจไม่มีใครเต็มใจจะทำอีกต่อไป ส่วนงานที่เคยถูกเบือนหน้าหนี อาจกลายเป็นอาชีพที่ใคร ๆ แย่งกันทำ
แล้วในอีก 10 ปีข้างหน้า งานชนิดไหนที่จะขึ้นหม้อ หรือทำเงินได้ดี สำนักงานสิถิติแรงงานสหรัฐมีคำตอบ
1.พยาบาลวิชาชีพ เนื่องจากประชากรกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ในสหรัฐ ล่วงเข้าสู่วัยหลังเกษียณกันเป็นจำนวนมาก ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพจึงพลอยพุ่งตามไปด้วย ส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์เป็นที่ต้องการมาก รวมถึงดีมานด์ต่อเวชภัณฑ์ อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดย่อมทวีขึ้น
สำนักงานสถิติฯประเมินว่า ในทศวรรษหน้า (ระหว่างปี 2551-2561) อาชีพพยาบาลมีแนวโน้มเติบโตขึ้น 22% และข้อดีอีกอย่าง คืออาชีพนี้ใช้เวลาศึกษาน้อยกว่าอาชีพแพทย์หลายปี
2.วิศกรชีวการแพทย์ (Biomedical engineering) ด้วยเหตุผลคล้ายคลึงกับที่ทำให้อาชีพพยาบาลเป็นที่ต้องการ อุตสาหกรรมสุขภาพต้องการคนมาทำหน้าที่ออกแบบคิดค้นอวัยวะเทียม ไปจนถึงอุปกรณ์ไฮเทคช่วยวินิจฉัยโรค คาดว่าอีก 10 ปี อาชีพนี้มีโอกาสขยายตัวถึง 72%
3.งานโรงแรมและบริการ เพราะเบบี้บูมเมอร์เป็นกลุ่มที่มีอำนาจซื้อสูง และเต็มใจจับจ่ายเพื่อความสุขความบันเทิงของตน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจภัตตาคารไปจนถึงรีสอร์ต ล้วนมีอัตราการเติบโตอย่างสม่ำเสมอในอีกหลายปีข้างหน้า แต่ข่าวร้าย คือบุคลากรในอุตสาหกรรมนี้มีอัตราการเปลี่ยนงานสูง และค่าตอบแทนไม่สูงมากนัก
4.ฝ่ายบริการลูกค้า นี่เป็นงานทดสอบความอดทนได้ดีที่สุดงานหนึ่ง แต่ก็รับประกันว่า รายได้จะมีเข้ามาไม่ขาดมือ แม้ปัจจุบันมีคนทำอาชีพนี้ในแดนลุงแซมมากกว่า 2.3 ล้านคน เมื่อนับถึงปี 2551 แต่อาชีพนี้ยังมีโอกาสขยายตัวได้อีก ประกอบกับการเอาต์ซอร์ซงานนี้ไปยังต่างประเทศเริ่มลดลง ขณะที่ดีมานด์ต่ออาชีพตัวแทนขายในภาคการเงินยังคงเติบโตต่อเนื่อง คาดว่าจะมีตำแหน่งงานเพิ่มอีก 4 แสนอัตรา
5.พนักงานขาย ซึ่งเป็นบุคลากรที่องค์กรธุรกิจต้องการเสมอมา เพราะเป็นตำแหน่งที่หารายได้เข้าบริษัท แนวโน้มดังกล่าวยังไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปในเร็ว ๆ นี้ แม้ในทศวรรษหน้า อาจขยายตัวไม่มากนัก โดยมีแนวโน้มจะขยายตัว 8% แต่ก็ยากที่อาชีพนี้จะสูญหายไป
6.วิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการประหยัดพลังงาน กระแสรักษ์สิ่งแวดล้อมและลดโลกร้อนกำลังมาแรง ผู้บริโภคต่างพยายามหาวิธีประหยัดเงินจากสิทธิพิเศษทางภาษี ด้วยการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพที่สุด ดังนั้น ผู้พัฒนาวิธีใหม่ ๆ ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือให้คำแนะนำเรื่องการประหยัดพลังงาน ย่อมเนื้อหอมอย่างไม่ต้องสงสัย
7.เชฟหรือผู้เตรียมอาหาร ด้วยสภาวะสังคมที่เร่งรีบ และต้องทำงานแข่งกับเวลา ดีมานด์ต่อร้านอาหารจึงเพิ่มขึ้นมาก ส่งผลให้อาชีพพ่อครัว-แม่ครัวเป็นที่ต้องการสูงตามไปด้วย คาดการณ์ว่าอีก 10 ปี อาชีพนี้จะเพิ่มขึ้นอีกกว่า 1 ล้านตำแหน่ง แต่อาชีพนี้ก็เผชิญกับปัญหาในเรื่องของการเปลี่ยนงานบ่อย และได้ค่าตอบแทนไม่มาก
8.พนักงานโรงงานไฮเทค โรงงานในสหรัฐส่วนใหญ่มีแนวโน้มลดขนาดลง แต่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งควบคุมโดยคนงานที่มีทักษะเฉพาะทาง บริษัทเหล่านี้จ้างแรงงานลดลง แต่คนที่รับเข้ามานั้นต้องทำได้ทั้งควบคุม ซ่อมแซม และเปลี่ยนเครื่องจักร
9.ฝ่ายรักษาความปลอดภัย นับจากเหตุการณ์โจมตีตึกเวิลด์เทรดในนิวยอร์ก ความหวาดกลัวต่อภัยก่อการร้ายก็พุ่งขึ้นแบบฉุดไม่อยู่ บุคลากรด้านนี้ครอบคลุมตั้งแต่ผู้ติดตามไปจนถึงผู้ควบคุมระบบสอดส่องความเป็นไปในพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งสำนักงานสถิติฯประเมินว่า แค่ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงอย่างเดียว ก็มีแนวโน้มเติบโตถึง 10% ยังไม่รวมผู้ดูแลความปลอดภัยส่วนบุคคล ผู้วางระบบ หรือผู้ประสานงานอื่น ๆ
10.ผู้ประกอบพิธีศพ ไม่น่าเชื่อว่าอาชีพนี้จะขยายตัวถึง 12% ในทศวรรษหน้า และโอกาสยังเปิดกว้าง โดยเฉพาะผู้มีความรู้ด้านการตกแต่งและรักษาสภาพศพ
11.ผู้ประกอบการ ทำไมต้องเสียเวลาตระเวนหางานที่ใช่ โดยที่เราต้องเสียเวลา เสียเงิน เสียความรู้สึกไปโดยเปล่าประโยชน์ครั้งแล้วครั้งเล่า ในเมื่อคุณสามารถจ้างตัวเองทำงาน และสร้างธุรกิจของตัวเองได้ งานฟรีแลนซ์ก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะในปัจจุบันสามารถโฆษณาตัวเอง หรือหางานอิสระจากอินเทอร์เน็ตได้ไม่ยาก แต่ด้านลบของอาชีพนี้ คือธุรกิจขนาดเล็ก มีความเสี่ยงที่จะล้มเหลวสูง
12.ที่ปรึกษาด้านอาชีพ แม้ว่าการประกาศรับพนักงานทางอินเทอร์เน็ตจะช่วยเพิ่มความสะดวกให้องค์กรต่าง ๆ แต่วิธีการหางานที่ตรงใจ กลับยุ่งยากซับซ้อนขึ้น จนต้องมีคนกลางมาคอยให้คำแนะนำปรึกษา
เล็งงานไหนไว้ ก็รีบฝึกฝนทักษะ และมองหาโอกาสไว้เสมอ ไม่เช่นนั้นอาจเป็นคุณ ที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
ที่มา : วันที่ 08 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 14:42:01 น. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ความเปลี่ยนแปลงคือสัจธรรม เมื่อสังคมเปลี่ยน ค่านิยมเปลี่ยน เทคโนโลยีเปลี่ยน ส่งผลให้วิธีการหาเลี้ยงชีพของผู้คนผันแปรตามไปด้วย อาชีพที่เคยรุ่งเรืองเมื่อหลายปีก่อน อาจไม่มีใครเต็มใจจะทำอีกต่อไป ส่วนงานที่เคยถูกเบือนหน้าหนี อาจกลายเป็นอาชีพที่ใคร ๆ แย่งกันทำ
แล้วในอีก 10 ปีข้างหน้า งานชนิดไหนที่จะขึ้นหม้อ หรือทำเงินได้ดี สำนักงานสิถิติแรงงานสหรัฐมีคำตอบ
1.พยาบาลวิชาชีพ เนื่องจากประชากรกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ในสหรัฐ ล่วงเข้าสู่วัยหลังเกษียณกันเป็นจำนวนมาก ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพจึงพลอยพุ่งตามไปด้วย ส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์เป็นที่ต้องการมาก รวมถึงดีมานด์ต่อเวชภัณฑ์ อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดย่อมทวีขึ้น
สำนักงานสถิติฯประเมินว่า ในทศวรรษหน้า (ระหว่างปี 2551-2561) อาชีพพยาบาลมีแนวโน้มเติบโตขึ้น 22% และข้อดีอีกอย่าง คืออาชีพนี้ใช้เวลาศึกษาน้อยกว่าอาชีพแพทย์หลายปี
2.วิศกรชีวการแพทย์ (Biomedical engineering) ด้วยเหตุผลคล้ายคลึงกับที่ทำให้อาชีพพยาบาลเป็นที่ต้องการ อุตสาหกรรมสุขภาพต้องการคนมาทำหน้าที่ออกแบบคิดค้นอวัยวะเทียม ไปจนถึงอุปกรณ์ไฮเทคช่วยวินิจฉัยโรค คาดว่าอีก 10 ปี อาชีพนี้มีโอกาสขยายตัวถึง 72%
3.งานโรงแรมและบริการ เพราะเบบี้บูมเมอร์เป็นกลุ่มที่มีอำนาจซื้อสูง และเต็มใจจับจ่ายเพื่อความสุขความบันเทิงของตน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจภัตตาคารไปจนถึงรีสอร์ต ล้วนมีอัตราการเติบโตอย่างสม่ำเสมอในอีกหลายปีข้างหน้า แต่ข่าวร้าย คือบุคลากรในอุตสาหกรรมนี้มีอัตราการเปลี่ยนงานสูง และค่าตอบแทนไม่สูงมากนัก
4.ฝ่ายบริการลูกค้า นี่เป็นงานทดสอบความอดทนได้ดีที่สุดงานหนึ่ง แต่ก็รับประกันว่า รายได้จะมีเข้ามาไม่ขาดมือ แม้ปัจจุบันมีคนทำอาชีพนี้ในแดนลุงแซมมากกว่า 2.3 ล้านคน เมื่อนับถึงปี 2551 แต่อาชีพนี้ยังมีโอกาสขยายตัวได้อีก ประกอบกับการเอาต์ซอร์ซงานนี้ไปยังต่างประเทศเริ่มลดลง ขณะที่ดีมานด์ต่ออาชีพตัวแทนขายในภาคการเงินยังคงเติบโตต่อเนื่อง คาดว่าจะมีตำแหน่งงานเพิ่มอีก 4 แสนอัตรา
5.พนักงานขาย ซึ่งเป็นบุคลากรที่องค์กรธุรกิจต้องการเสมอมา เพราะเป็นตำแหน่งที่หารายได้เข้าบริษัท แนวโน้มดังกล่าวยังไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปในเร็ว ๆ นี้ แม้ในทศวรรษหน้า อาจขยายตัวไม่มากนัก โดยมีแนวโน้มจะขยายตัว 8% แต่ก็ยากที่อาชีพนี้จะสูญหายไป
6.วิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการประหยัดพลังงาน กระแสรักษ์สิ่งแวดล้อมและลดโลกร้อนกำลังมาแรง ผู้บริโภคต่างพยายามหาวิธีประหยัดเงินจากสิทธิพิเศษทางภาษี ด้วยการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพที่สุด ดังนั้น ผู้พัฒนาวิธีใหม่ ๆ ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือให้คำแนะนำเรื่องการประหยัดพลังงาน ย่อมเนื้อหอมอย่างไม่ต้องสงสัย
7.เชฟหรือผู้เตรียมอาหาร ด้วยสภาวะสังคมที่เร่งรีบ และต้องทำงานแข่งกับเวลา ดีมานด์ต่อร้านอาหารจึงเพิ่มขึ้นมาก ส่งผลให้อาชีพพ่อครัว-แม่ครัวเป็นที่ต้องการสูงตามไปด้วย คาดการณ์ว่าอีก 10 ปี อาชีพนี้จะเพิ่มขึ้นอีกกว่า 1 ล้านตำแหน่ง แต่อาชีพนี้ก็เผชิญกับปัญหาในเรื่องของการเปลี่ยนงานบ่อย และได้ค่าตอบแทนไม่มาก
8.พนักงานโรงงานไฮเทค โรงงานในสหรัฐส่วนใหญ่มีแนวโน้มลดขนาดลง แต่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งควบคุมโดยคนงานที่มีทักษะเฉพาะทาง บริษัทเหล่านี้จ้างแรงงานลดลง แต่คนที่รับเข้ามานั้นต้องทำได้ทั้งควบคุม ซ่อมแซม และเปลี่ยนเครื่องจักร
9.ฝ่ายรักษาความปลอดภัย นับจากเหตุการณ์โจมตีตึกเวิลด์เทรดในนิวยอร์ก ความหวาดกลัวต่อภัยก่อการร้ายก็พุ่งขึ้นแบบฉุดไม่อยู่ บุคลากรด้านนี้ครอบคลุมตั้งแต่ผู้ติดตามไปจนถึงผู้ควบคุมระบบสอดส่องความเป็นไปในพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งสำนักงานสถิติฯประเมินว่า แค่ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงอย่างเดียว ก็มีแนวโน้มเติบโตถึง 10% ยังไม่รวมผู้ดูแลความปลอดภัยส่วนบุคคล ผู้วางระบบ หรือผู้ประสานงานอื่น ๆ
10.ผู้ประกอบพิธีศพ ไม่น่าเชื่อว่าอาชีพนี้จะขยายตัวถึง 12% ในทศวรรษหน้า และโอกาสยังเปิดกว้าง โดยเฉพาะผู้มีความรู้ด้านการตกแต่งและรักษาสภาพศพ
11.ผู้ประกอบการ ทำไมต้องเสียเวลาตระเวนหางานที่ใช่ โดยที่เราต้องเสียเวลา เสียเงิน เสียความรู้สึกไปโดยเปล่าประโยชน์ครั้งแล้วครั้งเล่า ในเมื่อคุณสามารถจ้างตัวเองทำงาน และสร้างธุรกิจของตัวเองได้ งานฟรีแลนซ์ก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะในปัจจุบันสามารถโฆษณาตัวเอง หรือหางานอิสระจากอินเทอร์เน็ตได้ไม่ยาก แต่ด้านลบของอาชีพนี้ คือธุรกิจขนาดเล็ก มีความเสี่ยงที่จะล้มเหลวสูง
12.ที่ปรึกษาด้านอาชีพ แม้ว่าการประกาศรับพนักงานทางอินเทอร์เน็ตจะช่วยเพิ่มความสะดวกให้องค์กรต่าง ๆ แต่วิธีการหางานที่ตรงใจ กลับยุ่งยากซับซ้อนขึ้น จนต้องมีคนกลางมาคอยให้คำแนะนำปรึกษา
เล็งงานไหนไว้ ก็รีบฝึกฝนทักษะ และมองหาโอกาสไว้เสมอ ไม่เช่นนั้นอาจเป็นคุณ ที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
"ค้นหาคุณค่าให้พบ แล้วซื้อหุ้นกิจการที่ดีนั้น ซึ่งมีกำไรต่อเนื่อง ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ ในเวลาที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ และถือมันไว้ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดี และยังมีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง"
- ซุนเซ็ก
- Verified User
- โพสต์: 1104
- ผู้ติดตาม: 0
จับตา 12 อาชีพดาวรุ่ง เทรนด์ใหม่แห่งทศวรรษหน้า
โพสต์ที่ 2
ข้อ 11. ผู้ประกอบการ
ผมมองว่าผู้ประกอบการ น่าจะทำได้ยากขึ้นเรื่อยๆ และลดจำนวนลงเรื่อยๆมากกว่า
ต่อไปรายใหญ่แต่ละธุรกิจจะบีบให้รายเล็กตายไป
คนรุ่นใหม่รวมถึงลูกๆหลานๆของรายเล็ก โตขึ้นมาก็ต้องมาเป็นลูกจ้างของรายใหญ่แทน
เหมือนที่เกิดขึ้นมาแล้วกับ
โชว์ห่วย -> 7-11
ขายของส่ง -> Lotus,Makro
ร้านอุปกรณ์ก่อสร้าง -> HMPRO, Global
ผมมองว่าผู้ประกอบการ น่าจะทำได้ยากขึ้นเรื่อยๆ และลดจำนวนลงเรื่อยๆมากกว่า
ต่อไปรายใหญ่แต่ละธุรกิจจะบีบให้รายเล็กตายไป
คนรุ่นใหม่รวมถึงลูกๆหลานๆของรายเล็ก โตขึ้นมาก็ต้องมาเป็นลูกจ้างของรายใหญ่แทน
เหมือนที่เกิดขึ้นมาแล้วกับ
โชว์ห่วย -> 7-11
ขายของส่ง -> Lotus,Makro
ร้านอุปกรณ์ก่อสร้าง -> HMPRO, Global
ผมไม่ได้อยู่ในเว็บนี้แล้ว, มีอะไรติดต่อได้ทาง FB - 27/9/2555
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
-
- Verified User
- โพสต์: 272
- ผู้ติดตาม: 0
จับตา 12 อาชีพดาวรุ่ง เทรนด์ใหม่แห่งทศวรรษหน้า
โพสต์ที่ 3
เจเนอเรชั่น วาย
(Generation Y)
ผู้ที่เกิดตั้งแต่ปี 1985 จนถึงปัจจุบัน
ใครก็ตามที่เกิดในปี 1985 เป็นต้นมาอยู่ในกลุ่มเจเนอเรชั่นวาย ด้วยจำนวนประชากรมากกว่า 90 ล้านคน กลุ่มเจนวายจึงมีขนาดใหญ่กว่าเบบี้บูมเมอร์ พวกเขาบริโภคสินค้าในอัตราสูงกว่าพ่อแม่รุ่นบูมเมอร์ของพวกเขาถึง 500% เมื่อเปรียบเทียบเป็นดอลลาร์ต่อดอลลาร์ (ที่ปรับเปลี่ยนไปตามอัตราเงินเฟ้อ) อายุต่ออายุ
และเมื่อพิจารณาถึงอิทธิพลมหาศาลที่พวกเขามีต่อการใช้จ่ายของครอบครัว เจเนอเรชั่นวายคือผู้บริโภครุ่นแรกในสหรัฐฯที่ขับรถมือหนึ่งตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมปลาย แหวนหมั้นหนึ่งกะรัตสำหรับพวกเขาคือเรื่องปกติ
ยอดขายเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายจะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเจเนอเรชั่น วายมองหาเพื่อนฝูง วอล-มาร์ทจะตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้ลำบากเพราะโมเดลค้าปลีกของห้างไม่สามารถนำแฟชั่นเข้าสู่ตลาดได้เร็วพอที่จะทำให้ผู้บริโภคอารมณ์แปรปรวณกลุ่มนี้พึงพอใจ
นอกจากนี้ พวกเขาจะไม่ซื้อสินค้าจากห้างค้าปลีกและผู้ผลิตที่ไม่มีความชัดเจนในด้านสิ่งแวดล้อมและมีประวัติด่างพร้อยในด้านสิทธิมนุษยชน พวกเขาจะไม่ตกเป็นเหยื่อของกระแสการฟอกสีเขียว นักการตลาดอาจส่งสารถึงพวกเขาได้ยาก สื่อหลักสำหรับพวกเขาคือไซเปอร์สเปซ
แนวทางที่มีประสิทธิในการทำตลาดเจเนอเรชั่น วายจะสร้างรายรับมากมายมหาศาล แต่ที่น่าแปลกอย่างหนึ่งคือ พวกเขาชอบไปรษณีย์ลงทะเบียนที่ปรากฎชื่อพวกเขา และแบรนด์ Converse รู้ใจพวกเขาในข้อนี้ดี อย่าลืมเช็คไซต์แบรนด์รองเท้าแห่งนี้ แล้วคุณจะรู้ว่าโมเดลการขายของพวกเขาโดดเด่นเพียงใด
(Generation Y)
ผู้ที่เกิดตั้งแต่ปี 1985 จนถึงปัจจุบัน
ใครก็ตามที่เกิดในปี 1985 เป็นต้นมาอยู่ในกลุ่มเจเนอเรชั่นวาย ด้วยจำนวนประชากรมากกว่า 90 ล้านคน กลุ่มเจนวายจึงมีขนาดใหญ่กว่าเบบี้บูมเมอร์ พวกเขาบริโภคสินค้าในอัตราสูงกว่าพ่อแม่รุ่นบูมเมอร์ของพวกเขาถึง 500% เมื่อเปรียบเทียบเป็นดอลลาร์ต่อดอลลาร์ (ที่ปรับเปลี่ยนไปตามอัตราเงินเฟ้อ) อายุต่ออายุ
และเมื่อพิจารณาถึงอิทธิพลมหาศาลที่พวกเขามีต่อการใช้จ่ายของครอบครัว เจเนอเรชั่นวายคือผู้บริโภครุ่นแรกในสหรัฐฯที่ขับรถมือหนึ่งตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมปลาย แหวนหมั้นหนึ่งกะรัตสำหรับพวกเขาคือเรื่องปกติ
ยอดขายเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายจะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเจเนอเรชั่น วายมองหาเพื่อนฝูง วอล-มาร์ทจะตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้ลำบากเพราะโมเดลค้าปลีกของห้างไม่สามารถนำแฟชั่นเข้าสู่ตลาดได้เร็วพอที่จะทำให้ผู้บริโภคอารมณ์แปรปรวณกลุ่มนี้พึงพอใจ
นอกจากนี้ พวกเขาจะไม่ซื้อสินค้าจากห้างค้าปลีกและผู้ผลิตที่ไม่มีความชัดเจนในด้านสิ่งแวดล้อมและมีประวัติด่างพร้อยในด้านสิทธิมนุษยชน พวกเขาจะไม่ตกเป็นเหยื่อของกระแสการฟอกสีเขียว นักการตลาดอาจส่งสารถึงพวกเขาได้ยาก สื่อหลักสำหรับพวกเขาคือไซเปอร์สเปซ
แนวทางที่มีประสิทธิในการทำตลาดเจเนอเรชั่น วายจะสร้างรายรับมากมายมหาศาล แต่ที่น่าแปลกอย่างหนึ่งคือ พวกเขาชอบไปรษณีย์ลงทะเบียนที่ปรากฎชื่อพวกเขา และแบรนด์ Converse รู้ใจพวกเขาในข้อนี้ดี อย่าลืมเช็คไซต์แบรนด์รองเท้าแห่งนี้ แล้วคุณจะรู้ว่าโมเดลการขายของพวกเขาโดดเด่นเพียงใด
-
- Verified User
- โพสต์: 272
- ผู้ติดตาม: 0
จับตา 12 อาชีพดาวรุ่ง เทรนด์ใหม่แห่งทศวรรษหน้า
โพสต์ที่ 4
[quote="nathapon_m"]เจเนอเรชั่น วาย
(Generation Y)
ผู้ที่เกิดตั้งแต่ปี 1985 จนถึงปัจจุบัน
(Generation Y)
ผู้ที่เกิดตั้งแต่ปี 1985 จนถึงปัจจุบัน
-
- Verified User
- โพสต์: 61
- ผู้ติดตาม: 0
จับตา 12 อาชีพดาวรุ่ง เทรนด์ใหม่แห่งทศวรรษหน้า
โพสต์ที่ 5
มีลูกมีหลานก็ให้ไปเรียนพวก anti aging ไว้ก็ดีครับ
ที่อเมริกากำลังมาเลยครับ คนเราอายุยืนขึ้น แต่สภาพร่างกายยังไงมันก็ต้องเสื่อมลงตามกาลเวลา
แล้วก็มีคนอีกมากที่ยอมจ่ายเงินแพงๆเพื่อทำให้ตัวเองอยู่เป็นหนุ่มเป็นสาวได้นานที่สุดครับ
ที่อเมริกากำลังมาเลยครับ คนเราอายุยืนขึ้น แต่สภาพร่างกายยังไงมันก็ต้องเสื่อมลงตามกาลเวลา
แล้วก็มีคนอีกมากที่ยอมจ่ายเงินแพงๆเพื่อทำให้ตัวเองอยู่เป็นหนุ่มเป็นสาวได้นานที่สุดครับ