ผมโง่มั้ยครับ ที่ซื้อหุ้นตัวนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 274
- ผู้ติดตาม: 0
ผมโง่มั้ยครับ ที่ซื้อหุ้นตัวนี้
โพสต์ที่ 1
คือเห็นมีประกาศออกมาว่า บริษัทจะถอนออกจากตลท. เจ้ามือก็เลยจะซื้อหุ้นคืนที่ราคา 16.2
ตอนนั้นเปิดไปดูเห็นมันราคา 15.9 ก็เลยมาซะ กะว่ายังไงก็ขายคืนได้ส่วนต่างนิดหน่อยก็ยังดี แต่ไหงราคามันนิ่งอยุ่อย่างนั้นจนปิดตลาดเลยล่ะครับ ไม่ดันไปติด 16.2
ผมเลยงงๆว่า ตกลงการที่บริษัทจะถอนออกจากตลาดหุ้น หรือมีการ Tender Offer บริษัทนั้นๆต้องซื้อหุ้นคืนให้หมดทั้งตลาด รวมถึงจากรายย่อยทั้งหมดเลยหรือไม่ครับ ถ้ารายย่อยไม่ขายคืนหรือเจ้ามือไม่ซื้อคืน จะเป็นอย่างไรครับ
ตอนนั้นเปิดไปดูเห็นมันราคา 15.9 ก็เลยมาซะ กะว่ายังไงก็ขายคืนได้ส่วนต่างนิดหน่อยก็ยังดี แต่ไหงราคามันนิ่งอยุ่อย่างนั้นจนปิดตลาดเลยล่ะครับ ไม่ดันไปติด 16.2
ผมเลยงงๆว่า ตกลงการที่บริษัทจะถอนออกจากตลาดหุ้น หรือมีการ Tender Offer บริษัทนั้นๆต้องซื้อหุ้นคืนให้หมดทั้งตลาด รวมถึงจากรายย่อยทั้งหมดเลยหรือไม่ครับ ถ้ารายย่อยไม่ขายคืนหรือเจ้ามือไม่ซื้อคืน จะเป็นอย่างไรครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 274
- ผู้ติดตาม: 0
เอาใหม่
โพสต์ที่ 3
เรื่อง การปลดเครื่องหมาย "SP" และ ปรับ Ceiling ไม่เกิน 100%
บริษัท เอส.พี.ซูซูกิ จำกัด (มหาชน) "SPSU"
ตามที่บริษัท เอส.พี.ซูซูกิ จำกัด (มหาชน) "SPSU" ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ
ว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการลงทุน ซึ่งอาจมีผลกระทบ
อย่างมีนัยสำคัญต่อฐานะของบริษัท และขอให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ หยุดพักการซื้อขาย
หลักทรัพย์ SPSU ตั้งแต่การซื้อขายช่วงบ่ายของวันที่ 12 ถึงวันที่ 16 กรกฎาคม 2553
เวลา 12.30 น. นั้น
บัดนี้ บริษัทได้ชี้แจงหรือเปิดเผยสารสนเทศสำคัญดังกล่าวแล้วว่า บริษัท
เอส. พี. อินเตอร์แนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ SPSU จะเสนอซื้อหุ้น
สามัญของ SPSU ที่ราคา 16.20 บาท/หุ้น โดย SPSU จะขอเพิกถอนหลักทรัพย์ออก
จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อไป ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เผยแพร่สารสนเทศ
สำคัญดังกล่าวผ่านทางระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯโดยทั่วถึงแล้ว ตลาด
หลักทรัพย์ฯจึงปลดเครื่องหมาย "SP" หลักทรัพย์ SPSU ตั้งแต่การซื้อขายช่วงบ่ายของ
วันที่ 16 กรกฎาคม 2553 เป็นต้นไป
อนึ่ง เพื่อให้หลักทรัพย์ดังกล่าวสามารถซื้อขายได้ตามสภาพความเป็นจริง
ตลาดหลักทรัพย์ฯจึงกำหนดให้ราคาซื้อหรือขายหลักทรัพย์ดังกล่าวในช่วงบ่ายของวันที่
16 กรกฎาคม 2553 มีราคาเสนอซื้อหรือขายสูงสุด (Ceiling) ไม่เกิน 100% จากราคา
ซื้อขายครั้งสุดท้ายบนกระดานหลักของหลักทรัพย์
บริษัท เอส.พี.ซูซูกิ จำกัด (มหาชน) "SPSU"
ตามที่บริษัท เอส.พี.ซูซูกิ จำกัด (มหาชน) "SPSU" ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ
ว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการลงทุน ซึ่งอาจมีผลกระทบ
อย่างมีนัยสำคัญต่อฐานะของบริษัท และขอให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ หยุดพักการซื้อขาย
หลักทรัพย์ SPSU ตั้งแต่การซื้อขายช่วงบ่ายของวันที่ 12 ถึงวันที่ 16 กรกฎาคม 2553
เวลา 12.30 น. นั้น
บัดนี้ บริษัทได้ชี้แจงหรือเปิดเผยสารสนเทศสำคัญดังกล่าวแล้วว่า บริษัท
เอส. พี. อินเตอร์แนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ SPSU จะเสนอซื้อหุ้น
สามัญของ SPSU ที่ราคา 16.20 บาท/หุ้น โดย SPSU จะขอเพิกถอนหลักทรัพย์ออก
จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อไป ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เผยแพร่สารสนเทศ
สำคัญดังกล่าวผ่านทางระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯโดยทั่วถึงแล้ว ตลาด
หลักทรัพย์ฯจึงปลดเครื่องหมาย "SP" หลักทรัพย์ SPSU ตั้งแต่การซื้อขายช่วงบ่ายของ
วันที่ 16 กรกฎาคม 2553 เป็นต้นไป
อนึ่ง เพื่อให้หลักทรัพย์ดังกล่าวสามารถซื้อขายได้ตามสภาพความเป็นจริง
ตลาดหลักทรัพย์ฯจึงกำหนดให้ราคาซื้อหรือขายหลักทรัพย์ดังกล่าวในช่วงบ่ายของวันที่
16 กรกฎาคม 2553 มีราคาเสนอซื้อหรือขายสูงสุด (Ceiling) ไม่เกิน 100% จากราคา
ซื้อขายครั้งสุดท้ายบนกระดานหลักของหลักทรัพย์
- ksong
- Verified User
- โพสต์: 26
- ผู้ติดตาม: 0
ผมโง่มั้ยครับ ที่ซื้อหุ้นตัวนี้
โพสต์ที่ 4
ความเห็นส่วนตัวจริง ๆ ที่ไม่ได้วิเคราะห์เจาะลึกแบบวัดเหตุผลทุกด้านนะครับ
ขายมอ'ไซด์ทิ้ง ยอมเสียค่าเสื่อมเล็กน้อย แล้วไปโดยสารรถไฟฟ้าน่าจะตื่นเต้นมีลุ้นกว่า
แล้วให้รถไฟฟ้าพาไปซื้อบ้านแสนมงคลก็พอได้อยู่นะ (เดาได้ปะ)
ขายมอ'ไซด์ทิ้ง ยอมเสียค่าเสื่อมเล็กน้อย แล้วไปโดยสารรถไฟฟ้าน่าจะตื่นเต้นมีลุ้นกว่า
แล้วให้รถไฟฟ้าพาไปซื้อบ้านแสนมงคลก็พอได้อยู่นะ (เดาได้ปะ)
-
- Verified User
- โพสต์: 1211
- ผู้ติดตาม: 0
ผมโง่มั้ยครับ ที่ซื้อหุ้นตัวนี้
โพสต์ที่ 5
มีใครบอกเหรอครับว่าคุณโง่ที่ซื้อหุ้นตัวนี้?
จุดประสงค์ของคุณคือการทำ Arbitrage ระหว่างราคาตลาดกับราคา Tender Offer
ความเสี่ยง 3 อย่างก็คือ 1.บริษัทเปลี่ยนใจไม่เพิกถอน 2.คุณลืมขายคืนให้บริษัท
และ 3. คุณลืมคำนวณค่าคอมมิชชั่นบวก VAT
อย่างไรควบคุมไม่ได้ อย่างที่สองและสามควบคุมได้
ถ้าคุณมั่นใจว่า Deal นี้ไม่มีล่มแน่นอน นี่ก็คือการทำ arbitrage อย่างหนึ่ง ไม่เรียกว่าโง่หรอกครับ มันอยู่ที่จุดประสงค์เมื่อคุณจะซื้อ
บางคนมีกฎทางการลงทุนว่า "กำไรเมื่อซื้อ ไม่ใช่เมื่อขาย" คุณทำได้ ถึงพลาด คุณก็เรียกได้ว่าเคยได้ทดลอง แต่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรด้วยซ้ำ
จุดประสงค์ของคุณคือการทำ Arbitrage ระหว่างราคาตลาดกับราคา Tender Offer
ความเสี่ยง 3 อย่างก็คือ 1.บริษัทเปลี่ยนใจไม่เพิกถอน 2.คุณลืมขายคืนให้บริษัท
และ 3. คุณลืมคำนวณค่าคอมมิชชั่นบวก VAT
อย่างไรควบคุมไม่ได้ อย่างที่สองและสามควบคุมได้
ถ้าคุณมั่นใจว่า Deal นี้ไม่มีล่มแน่นอน นี่ก็คือการทำ arbitrage อย่างหนึ่ง ไม่เรียกว่าโง่หรอกครับ มันอยู่ที่จุดประสงค์เมื่อคุณจะซื้อ
บางคนมีกฎทางการลงทุนว่า "กำไรเมื่อซื้อ ไม่ใช่เมื่อขาย" คุณทำได้ ถึงพลาด คุณก็เรียกได้ว่าเคยได้ทดลอง แต่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรด้วยซ้ำ
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 0
ผมโง่มั้ยครับ ที่ซื้อหุ้นตัวนี้
โพสต์ที่ 6
ขอให้กำลังใจครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 6427
- ผู้ติดตาม: 0
ผมโง่มั้ยครับ ที่ซื้อหุ้นตัวนี้
โพสต์ที่ 8
ส่วนต่าง 0.3 บาท หักออกด้วยค่าธรรมเนียมตอนซื้อและขาย ถ้าเทรดทางเน็ตก็ตกราวๆ 6 สตางค์ (ตีว่ารวม 0.4% ของ 16 บาท)
สุทธิแล้วจะได้ราวๆ 24 สตางค์จากเงินต้น 15.9 บาท คิดเป็นประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์แก่ๆ คุ้มกับการอคอย (นานเท่าไหร่) มั๊ยครับ
สำหรับผม คิดว่ามักน้อยไปหน่อยนะครับ
สุทธิแล้วจะได้ราวๆ 24 สตางค์จากเงินต้น 15.9 บาท คิดเป็นประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์แก่ๆ คุ้มกับการอคอย (นานเท่าไหร่) มั๊ยครับ
สำหรับผม คิดว่ามักน้อยไปหน่อยนะครับ
คนที่รู้ว่าตัวเองยังไม่รู้ ย่อมมีโอกาสเรียนรู้