มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 262
- ผู้ติดตาม: 0
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์ที่ 62
ที่หนักที่สุดในชีวิต ตอนนั้นของผมคือ ตัวนี้ครับ SOMPR
ผมเข้าตลาดหุ้นช่วงกลางปี 2537 เล่นแบบ มวยวัด ตลอด ใช้วิธีดูการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น และ กราฟ เป็นหลักครับ ชอบได้เสียทีละมากๆ จนคิดการใหญ่อยากรวยทางลัดในเวลาอันรวดเร็ว คือการลงทุนในหุ้นตัวเดียว ที่ราคาสวิงมากๆ และลงเงินในปริมาณมากโดยใช้ Margin ด้วย
เหตุผลที่ซื้อ SOMPR ซื้อตอนปี 2539
1. หุ้นที่ดิน วัฎจักรที่ไม่มีวันตาย ราคาที่มีแต่ขึ้น
2. ราคาตลาดต่ำกว่า Book มาก
3. ราคาในกราฟขาขึ้นไต่แบบภูเขาเลย ชอบมาก
4. ข้อนี้มีส่วนสำคัญ เชื่อว่าเศรษฐกิจของไทยจะโตอีก และดัชนีหุ้นต้องไปถึง 2000 จุด อย่างช้าไม่เกิน 5 ปี
สถานะความรู้ตอนนั้น
1. อ่านงบการเงินไม่เป็น วิเคาะห์ปัจจัยพื้นฐานไม่เป็น ไม่รู้จัก DCF
2. รู้จักแต่ P/E EPS DPS BV แค่นั่นเอง
3. รู้จักแต่อ่านข่าวใน นสพ. ไม่รู้เรื่องธรรมมาภิบาล
ขนาดการลงทุนตอนนั้น
1. สูงสุดเท่าที่เคยลงทุนตอนนั้น เงินเก็บทั้งหมด 300,000 B+ขอเงินทางบ้าน 500,000B+Margin300,000B=1.1 MB
ผลการลงทุน
- มูลค่าหุ้นเหลือ 0 บาท ตั้งแต่ยังไม่เกิดต้มยำกุ้งด้วยซ้ำ
ผลที่เกิดตามมา
1. ต้องมาใช้หนี้ Margin 300,000 B สมัยนั้น บล.ให้ผ่อนจ่าย 1 ปี โชคยังดีตอนนั้นไม่ถูก lay off แต่ถูกลดเงินเดือน
2. เมื่อใช้หนี้หมดแล้ว ต้องมานั่งเก็บเงินใหม่ ต้องลงโทษตัวเองโดยการใช้เงินให้น้อยที่สุด เพื่อจะได้ฟื้นตัวได้
3. กลัวการดูราคาหุ้นมากเลยในตอนนั้น แค่ไปกินข้าวราดแกงในร้านที่มีทีวีถ่ายทอดราคาหุ้น ผมก็จะไม่กล้าดูทีวีเลย
ที่เล่ามานี้อยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่อยากรวยทางลัดจากหุ้น โดยที่ยังไม่มีความรู้ว่า หายนะมันเป็นยังไง :twisted:
หลังจากนั้นความคิดอยากรวยจากเล่นหุ้นไม่อยู่ในหัวสมองแล้ว จนกระทั่งอีก 2-3 ปีต่อมา เล่น Net แบบ Dial โมเด็มยุคนั้น ได้ไปพบหนังสือชื่อ Warrent Buffet Way ฉบับภาษาไทย โดยบังเอิญ จึงสั่งซื้อทางเน็ต ซึ่งเขาให้ฉบับถ่ายเอกสารมาให้ สิ่งนี้ทำให้เกิดจุดหักเหอีกครั้งในชีวิตการลงทุนของผม :o
ผมเข้าตลาดหุ้นช่วงกลางปี 2537 เล่นแบบ มวยวัด ตลอด ใช้วิธีดูการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น และ กราฟ เป็นหลักครับ ชอบได้เสียทีละมากๆ จนคิดการใหญ่อยากรวยทางลัดในเวลาอันรวดเร็ว คือการลงทุนในหุ้นตัวเดียว ที่ราคาสวิงมากๆ และลงเงินในปริมาณมากโดยใช้ Margin ด้วย
เหตุผลที่ซื้อ SOMPR ซื้อตอนปี 2539
1. หุ้นที่ดิน วัฎจักรที่ไม่มีวันตาย ราคาที่มีแต่ขึ้น
2. ราคาตลาดต่ำกว่า Book มาก
3. ราคาในกราฟขาขึ้นไต่แบบภูเขาเลย ชอบมาก
4. ข้อนี้มีส่วนสำคัญ เชื่อว่าเศรษฐกิจของไทยจะโตอีก และดัชนีหุ้นต้องไปถึง 2000 จุด อย่างช้าไม่เกิน 5 ปี
สถานะความรู้ตอนนั้น
1. อ่านงบการเงินไม่เป็น วิเคาะห์ปัจจัยพื้นฐานไม่เป็น ไม่รู้จัก DCF
2. รู้จักแต่ P/E EPS DPS BV แค่นั่นเอง
3. รู้จักแต่อ่านข่าวใน นสพ. ไม่รู้เรื่องธรรมมาภิบาล
ขนาดการลงทุนตอนนั้น
1. สูงสุดเท่าที่เคยลงทุนตอนนั้น เงินเก็บทั้งหมด 300,000 B+ขอเงินทางบ้าน 500,000B+Margin300,000B=1.1 MB
ผลการลงทุน
- มูลค่าหุ้นเหลือ 0 บาท ตั้งแต่ยังไม่เกิดต้มยำกุ้งด้วยซ้ำ
ผลที่เกิดตามมา
1. ต้องมาใช้หนี้ Margin 300,000 B สมัยนั้น บล.ให้ผ่อนจ่าย 1 ปี โชคยังดีตอนนั้นไม่ถูก lay off แต่ถูกลดเงินเดือน
2. เมื่อใช้หนี้หมดแล้ว ต้องมานั่งเก็บเงินใหม่ ต้องลงโทษตัวเองโดยการใช้เงินให้น้อยที่สุด เพื่อจะได้ฟื้นตัวได้
3. กลัวการดูราคาหุ้นมากเลยในตอนนั้น แค่ไปกินข้าวราดแกงในร้านที่มีทีวีถ่ายทอดราคาหุ้น ผมก็จะไม่กล้าดูทีวีเลย
ที่เล่ามานี้อยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่อยากรวยทางลัดจากหุ้น โดยที่ยังไม่มีความรู้ว่า หายนะมันเป็นยังไง :twisted:
หลังจากนั้นความคิดอยากรวยจากเล่นหุ้นไม่อยู่ในหัวสมองแล้ว จนกระทั่งอีก 2-3 ปีต่อมา เล่น Net แบบ Dial โมเด็มยุคนั้น ได้ไปพบหนังสือชื่อ Warrent Buffet Way ฉบับภาษาไทย โดยบังเอิญ จึงสั่งซื้อทางเน็ต ซึ่งเขาให้ฉบับถ่ายเอกสารมาให้ สิ่งนี้ทำให้เกิดจุดหักเหอีกครั้งในชีวิตการลงทุนของผม :o
-
- Verified User
- โพสต์: 115
- ผู้ติดตาม: 0
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์ที่ 63
สู้ ๆครับ คุณ soros
ผมอ่านหดหู่ไปด้วยเลย
ตอนนี้ยังไม่เคยหนักขนาดพี่ ๆ
แค่รู้สึกว่าตัวเองยังวิเคราะห์มะเก่ง กลัวเสียตังค์
เอิ๊ก
ผมอ่านหดหู่ไปด้วยเลย
ตอนนี้ยังไม่เคยหนักขนาดพี่ ๆ
แค่รู้สึกว่าตัวเองยังวิเคราะห์มะเก่ง กลัวเสียตังค์
เอิ๊ก
-
- Verified User
- โพสต์: 216
- ผู้ติดตาม: 0
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์ที่ 64
ผมยังไม่มีประสบการณ์เสียหนักครับเพราะผมเพิ่งเริ่มลงทุนเมื่อปีที่แล้ว
ก่อนหน้านี้ผมเคยอ่านวิเคราะห์เทคนิค กราฟ แต่อ่านทีไรหลับทุกที
ก็เลยยังไม่เริ่มเล่น ถือว่าเป็นโชคดีของผม และที่โชคดีกว่าคือได้มาเจอเว็ปนี้โดยบังเอิญ และส่วนตัวคิดว่าเป็นการลงทุนในหุ้นจริงๆไม่ใช่เล่นหุ้น หลักการเป็นเหตุเป็นผล และคิดว่ามาถูกทางแล้ว
และผมชอบอ่านกระทู้นี้มากครับ อ่านเพื่อเป็นการเตือนตัวเองและเป็นบทเรียน
เข้ามาอ่านทีไรยิ่งทำให้รู้ว่า ตัวเองยังไม่รู้อะไรอีกเยอะ ยิ่งต้องเร่งศึกษา
ไม่อย่างนั้นหายนะจะมาเยือนในไม่ช้า
เป็นกำลังให้ทุกคน และเอาอดีตเป็นบทเรียนครับ[/img]
ก่อนหน้านี้ผมเคยอ่านวิเคราะห์เทคนิค กราฟ แต่อ่านทีไรหลับทุกที
ก็เลยยังไม่เริ่มเล่น ถือว่าเป็นโชคดีของผม และที่โชคดีกว่าคือได้มาเจอเว็ปนี้โดยบังเอิญ และส่วนตัวคิดว่าเป็นการลงทุนในหุ้นจริงๆไม่ใช่เล่นหุ้น หลักการเป็นเหตุเป็นผล และคิดว่ามาถูกทางแล้ว
และผมชอบอ่านกระทู้นี้มากครับ อ่านเพื่อเป็นการเตือนตัวเองและเป็นบทเรียน
เข้ามาอ่านทีไรยิ่งทำให้รู้ว่า ตัวเองยังไม่รู้อะไรอีกเยอะ ยิ่งต้องเร่งศึกษา
ไม่อย่างนั้นหายนะจะมาเยือนในไม่ช้า
เป็นกำลังให้ทุกคน และเอาอดีตเป็นบทเรียนครับ[/img]
-
- Verified User
- โพสต์: 295
- ผู้ติดตาม: 0
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์ที่ 67
ประสพการณ์ผมตอนเริ่มสนใจเล่นหุ้นแรกๆ เกิดจาก มีเพื่อนเป็นโบรกเกอร์ โทรมาชวนเล่นหุ้นที่พึ่งจะ ipo (pong )
เพื่อน : เฮ้ยย สนใจเล่นหุ้น ipo เปล่า ที่สังเกตมา รีบเข้ารีบออก ได้กำไร กินหนมเล่นๆ
ผม : เหรอ เหรอ ไม่ยากใช่มั๊ย :ep:
เพื่อน : เออดิ สังเกตมาหลายตัวแล้ว เข้าแล้ว สองสามช่องก็ปล่อย สบายๆ
ผม : เหรอ เหรอ เออ ลองดู ลองสัก .... บาท ละกัน
เพื่อน : เออ เรียบร้อยแล้วนะ ..... อ่าวววววววว เฮ้ยยย ทำไมมันเริ่มลงแล้ววะ
ผม : จริงดิ จะรอดมั๊ยเนี่ย
เพื่อน : ใจเย็นๆ เดี๋ยวมันก็เด้งขึ้น
ผม : :? ( ..... เงียบรอลุ้น ระหว่างถือสาย )
เพื่อน : เฮ้ยยย มันลงมา 10 กว่าช่องแล้วหวะ เอาไงดี
ผม : เอออออ ปล่อยไปก็ได้ ก่อนที่จะหายหมดซะก่อน :vm:
เข็ดจนตายเลยครับ ช่วงเวลาไม่ถึง 1 นาที เงินหายไป 10 %
เพื่อน : เฮ้ยย สนใจเล่นหุ้น ipo เปล่า ที่สังเกตมา รีบเข้ารีบออก ได้กำไร กินหนมเล่นๆ
ผม : เหรอ เหรอ ไม่ยากใช่มั๊ย :ep:
เพื่อน : เออดิ สังเกตมาหลายตัวแล้ว เข้าแล้ว สองสามช่องก็ปล่อย สบายๆ
ผม : เหรอ เหรอ เออ ลองดู ลองสัก .... บาท ละกัน
เพื่อน : เออ เรียบร้อยแล้วนะ ..... อ่าวววววววว เฮ้ยยย ทำไมมันเริ่มลงแล้ววะ
ผม : จริงดิ จะรอดมั๊ยเนี่ย
เพื่อน : ใจเย็นๆ เดี๋ยวมันก็เด้งขึ้น
ผม : :? ( ..... เงียบรอลุ้น ระหว่างถือสาย )
เพื่อน : เฮ้ยยย มันลงมา 10 กว่าช่องแล้วหวะ เอาไงดี
ผม : เอออออ ปล่อยไปก็ได้ ก่อนที่จะหายหมดซะก่อน :vm:
เข็ดจนตายเลยครับ ช่วงเวลาไม่ถึง 1 นาที เงินหายไป 10 %
-
- Verified User
- โพสต์: 295
- ผู้ติดตาม: 0
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์ที่ 68
ผมลืมบอกไป ว่า ผมไม่ได้โกรธเพื่อนผมนะครับ
แต่ผมเซ็งตัวเองมากกว่า
มีใครที่มีประสพการณ์ แบบคาดหวัง ผลประกอบการต้องออกมาดี แนวโน้มอุตสหกรรมก็ดี ทุกอย่างดูมีความหวังไปหมด แต่พอประกาศออกมาแล้วไม่ดีบ้างครับ แล้วมีผลกระทบอย่างไรต่อทั้งหุ้น และ ตัวเราบ้างครับ
แต่ผมเซ็งตัวเองมากกว่า
มีใครที่มีประสพการณ์ แบบคาดหวัง ผลประกอบการต้องออกมาดี แนวโน้มอุตสหกรรมก็ดี ทุกอย่างดูมีความหวังไปหมด แต่พอประกาศออกมาแล้วไม่ดีบ้างครับ แล้วมีผลกระทบอย่างไรต่อทั้งหุ้น และ ตัวเราบ้างครับ
- กล้วยไม้ขาว
- Verified User
- โพสต์: 1074
- ผู้ติดตาม: 0
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์ที่ 69
ผมซื้อ CPALL ได้ที่ 7 บาทแต่ไปขายหมดตอนขึ้นมา 14 บาท :wall: :wall: :wall:
สิ่งที่ได้เรียนรู้
"ซื้อด้วยเหตุผลใดต้องขายด้วยเหตุผลนั้น"
ตอนนั้นซื้อกะจะถือไปจนเริ่มขายไม่ดีเลย
แต่พอมันขุ้นเยอะๆ บวกกับไปหาข้อมูลหุ้นตัวอื่นๆ
แล้วโลภอยากได้กำไรไวๆ เลยขายจนได้
"ต้องวิเคราะห์ด้วยตัวเอง ความมั่นใจในกิจการมันจึงจะเกิด"
อีกเหตุผลที่ขายเพราะกลัวมันลง เพราะไม่ได้วิเคราะห์เอง ซื้อตามท่านอาจารย์นิเวศครับ
เลยกลัวเวลาราคามันลงๆ ขึ้นๆ แล้วก็ลงๆ เลยกลัวจะเสียกำไรครับ
สิ่งที่ได้เรียนรู้
"ซื้อด้วยเหตุผลใดต้องขายด้วยเหตุผลนั้น"
ตอนนั้นซื้อกะจะถือไปจนเริ่มขายไม่ดีเลย
แต่พอมันขุ้นเยอะๆ บวกกับไปหาข้อมูลหุ้นตัวอื่นๆ
แล้วโลภอยากได้กำไรไวๆ เลยขายจนได้
"ต้องวิเคราะห์ด้วยตัวเอง ความมั่นใจในกิจการมันจึงจะเกิด"
อีกเหตุผลที่ขายเพราะกลัวมันลง เพราะไม่ได้วิเคราะห์เอง ซื้อตามท่านอาจารย์นิเวศครับ
เลยกลัวเวลาราคามันลงๆ ขึ้นๆ แล้วก็ลงๆ เลยกลัวจะเสียกำไรครับ
- kurapica
- Verified User
- โพสต์: 587
- ผู้ติดตาม: 0
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์ที่ 71
คริสเตียนโน่ โรนัลโด เคยบอกกับเด็กคนหนึ่งซึ่งเป็นโรคมะัเร็งว่า
"แชมป์เปี้ยนตัวจริง คือคนที่สู้จนลมหายใจสุดท้าย"
ถ้าอย่างนั้นคุณ soros ก็คงเป็นแชมป์เปี้ยนคนหนึ่งในสายตา คริสเตียนโน่ โรนัลโด
"แชมป์เปี้ยนตัวจริง คือคนที่สู้จนลมหายใจสุดท้าย"
ถ้าอย่างนั้นคุณ soros ก็คงเป็นแชมป์เปี้ยนคนหนึ่งในสายตา คริสเตียนโน่ โรนัลโด
ยอดดอยอยู่ไหนจ๊ะ ขึ้นมามากแล้วนะ
- aviruth
- Verified User
- โพสต์: 334
- ผู้ติดตาม: 0
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์ที่ 72
โหคนเข้ามาตอบเยอะมาก ได้ความรู้ทั้งนั้นเลยขอบคุณครับ
ของผม ซื้อ Hana 26 บาท สองปีที่แล้ว แล้วก็ลงมาเรื่อยๆ เอาเงินเดือนถัวตลอด ถัว 16 14 12 10 8 จนมันวกกลับมา 10 12 16 19 พอ 19 ผมก็ขาย ได้กำไรอยู่ หมื่นกว่าบาท โง่มั้ยครับ ตอนนี้ มัน 27 บาท อิเล็กทรอนิคส์มันเป็นวัฐจักร จริงๆด้วย
ของผม ซื้อ Hana 26 บาท สองปีที่แล้ว แล้วก็ลงมาเรื่อยๆ เอาเงินเดือนถัวตลอด ถัว 16 14 12 10 8 จนมันวกกลับมา 10 12 16 19 พอ 19 ผมก็ขาย ได้กำไรอยู่ หมื่นกว่าบาท โง่มั้ยครับ ตอนนี้ มัน 27 บาท อิเล็กทรอนิคส์มันเป็นวัฐจักร จริงๆด้วย
อย่าคาดหวังผลลัพธ์ที่แตกต่างด้วยการทำแบบเดิม
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์ที่ 73
ผมขอเดาว่านะตอนที่ขายได้ตอนนั้นคงดีใจมากเลยใช่ไหมครับ..อารมณ์คล้ายๆกันครับaviruth เขียน:โหคนเข้ามาตอบเยอะมาก ได้ความรู้ทั้งนั้นเลยขอบคุณครับ
ของผม ซื้อ Hana 26 บาท สองปีที่แล้ว แล้วก็ลงมาเรื่อยๆ เอาเงินเดือนถัวตลอด ถัว 16 14 12 10 8 จนมันวกกลับมา 10 12 16 19 พอ 19 ผมก็ขาย ได้กำไรอยู่ หมื่นกว่าบาท โง่มั้ยครับ ตอนนี้ มัน 27 บาท อิเล็กทรอนิคส์มันเป็นวัฐจักร จริงๆด้วย
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์ที่ 74
ผมยังมีล้มเหลวยุคเก่าๆๆๆ ก่อนจะมาเล่นสไตล์ VI อีกนะครับ
มีทั้้ง NAVA, SITCA, ตอนนี้หายไปแล้ว ขาดทุน 100%
TA (ชาติก่อนของทรู) ขาดทุน 30%
SPL กำไรนิดหน่อย แต่ถ้าถือต่อนานๆ กำไรเยอะ ขายหมูครับ
สมัยนั้นเล่นโดยโทรศัพท์แจ้งมาร์ครับ มีจอทีวีที่ทำงานไว้แอบดูตอนเจ้านายเผลอ ยังไม่มี net ใช้เหมือนเดี๋ยวนี้ มีอยู่วัน ติดลบเยอะมาก ปากสั่นใจสั่นไปหมดเลย อีกวันหุ้นขึ้นมากๆ ก็อาการเดียวกันเลย
โชคดีที่ผมเงินน้อย ถือว่าซื้อบทเรียนราคาแพงครับ
มีทั้้ง NAVA, SITCA, ตอนนี้หายไปแล้ว ขาดทุน 100%
TA (ชาติก่อนของทรู) ขาดทุน 30%
SPL กำไรนิดหน่อย แต่ถ้าถือต่อนานๆ กำไรเยอะ ขายหมูครับ
สมัยนั้นเล่นโดยโทรศัพท์แจ้งมาร์ครับ มีจอทีวีที่ทำงานไว้แอบดูตอนเจ้านายเผลอ ยังไม่มี net ใช้เหมือนเดี๋ยวนี้ มีอยู่วัน ติดลบเยอะมาก ปากสั่นใจสั่นไปหมดเลย อีกวันหุ้นขึ้นมากๆ ก็อาการเดียวกันเลย
โชคดีที่ผมเงินน้อย ถือว่าซื้อบทเรียนราคาแพงครับ
ขอนไม้อันนิ่งสงบ
- Croyoty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3617
- ผู้ติดตาม: 0
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์ที่ 75
เริ่มต้นเล่นหุ้นครั้งแรก ปี 2550 ขณะที่ SET แถว 900 (ดอยเลยครับ)
ตอนนั้นไม่รู้เรื่องอะไร รู้ว่าหุ้นขึ้นมันได้กำไรเร็วกว่าเงินฝากธนาคาร
ทำงานเก็บเงินได้เรื่องราวปีนั้นด้วย ลุยเต็มที่เลยครับ
6 แสนบาทได้ครับ ชีวิตเริ่มต้นรู้จักและเรียนรู้กับหุ้นขาลงมาตลอด เกือบ 2ปี
นานจนทนถือไม่ไหวไงครับ คัทลอสไป 50-60%
ขาดทุนร่วมสามแสนบาทครับ
ตัวที่ทำให้เจ็บ TRC ผู้บริหารให้ข่าวหลอกตลอด + ตัวหุ้นอื่นๆอีกมาก
( ไม่กลัวถูกจ้างไปยิงเก็บเหรอครับ) จะไม่เล่นตัวนี้อีกตลอด
ตอนนั้น เงินหายไปเยอะมากกกก เสียใจ กลัวจอทีวีเวลารายงานหุ้น ซึมเศร้า
คิดดูครับ เด็กหนุ่ม เริ่มต้นกับหุ้น ทุ่มเงินสุดตัวไม่รู้อะไรเลย ดันเข้าดอยสุด แล้วเจอ จาก 900 จุดไป 380 จุด สุดยอดไหมครับ
เคยคิดว่าจะเลิกเล่นหุ้นไปตลอดชีวิต + อกหักซ้ำอีก + กาเรเรียนต่อยอดระดับสูงก็ผิดหวังอีก
แต่ผมเป็นคนมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา และคิดเสมอมาว่า เรากำหนดดวงเราเองได้ "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"
หลังจากนั้น อ่านหนังสือ ศึกษาระะบบตลาดทุน เศรษฐกิจ มหภาค จนไปสู่จุลภาค ลองเล่นพอร์ทจำลองเอง เขียนในกระดาษ แล้วดูว่า ของจริงไปเป็นดังที่เราคิดไหม เรียนรู้ด้วยตนเอง จนเกิดปัญญา
จากปี 2550 ณ 900 จุด ตอนนี้ พอร์ท 7หลัก แล้วครับ มีรถตลาดๆใช้พอเพียง กำลังจะมีบ้านในไม่ช้านี้
วันนี้ก็เล่าสู่แบ่งปันกันเท่านี้ก่อนละกันครับ ไปหาอะไรทานก่อน :D
ตอนนั้นไม่รู้เรื่องอะไร รู้ว่าหุ้นขึ้นมันได้กำไรเร็วกว่าเงินฝากธนาคาร
ทำงานเก็บเงินได้เรื่องราวปีนั้นด้วย ลุยเต็มที่เลยครับ
6 แสนบาทได้ครับ ชีวิตเริ่มต้นรู้จักและเรียนรู้กับหุ้นขาลงมาตลอด เกือบ 2ปี
นานจนทนถือไม่ไหวไงครับ คัทลอสไป 50-60%
ขาดทุนร่วมสามแสนบาทครับ
ตัวที่ทำให้เจ็บ TRC ผู้บริหารให้ข่าวหลอกตลอด + ตัวหุ้นอื่นๆอีกมาก
( ไม่กลัวถูกจ้างไปยิงเก็บเหรอครับ) จะไม่เล่นตัวนี้อีกตลอด
ตอนนั้น เงินหายไปเยอะมากกกก เสียใจ กลัวจอทีวีเวลารายงานหุ้น ซึมเศร้า
คิดดูครับ เด็กหนุ่ม เริ่มต้นกับหุ้น ทุ่มเงินสุดตัวไม่รู้อะไรเลย ดันเข้าดอยสุด แล้วเจอ จาก 900 จุดไป 380 จุด สุดยอดไหมครับ
เคยคิดว่าจะเลิกเล่นหุ้นไปตลอดชีวิต + อกหักซ้ำอีก + กาเรเรียนต่อยอดระดับสูงก็ผิดหวังอีก
แต่ผมเป็นคนมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา และคิดเสมอมาว่า เรากำหนดดวงเราเองได้ "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"
หลังจากนั้น อ่านหนังสือ ศึกษาระะบบตลาดทุน เศรษฐกิจ มหภาค จนไปสู่จุลภาค ลองเล่นพอร์ทจำลองเอง เขียนในกระดาษ แล้วดูว่า ของจริงไปเป็นดังที่เราคิดไหม เรียนรู้ด้วยตนเอง จนเกิดปัญญา
จากปี 2550 ณ 900 จุด ตอนนี้ พอร์ท 7หลัก แล้วครับ มีรถตลาดๆใช้พอเพียง กำลังจะมีบ้านในไม่ช้านี้
วันนี้ก็เล่าสู่แบ่งปันกันเท่านี้ก่อนละกันครับ ไปหาอะไรทานก่อน :D
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10538
- ผู้ติดตาม: 0
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์ที่ 76
[quote="croyoty"]เริ่มต้นเล่นหุ้นครั้งแรก ปี 2550 ขณะที่ SET แถว 900 (ดอยเลยครับ)
ตอนนั้นไม่รู้เรื่องอะไร รู้ว่าหุ้นขึ้นมันได้กำไรเร็วกว่าเงินฝากธนาคาร
ทำงานเก็บเงินได้เรื่องราวปีนั้นด้วย ลุยเต็มที่เลยครับ
6 แสนบาทได้ครับ
ตอนนั้นไม่รู้เรื่องอะไร รู้ว่าหุ้นขึ้นมันได้กำไรเร็วกว่าเงินฝากธนาคาร
ทำงานเก็บเงินได้เรื่องราวปีนั้นด้วย ลุยเต็มที่เลยครับ
6 แสนบาทได้ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 411
- ผู้ติดตาม: 0
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์ที่ 77
[quote="croyoty"]เริ่มต้นเล่นหุ้นครั้งแรก ปี 2550 ขณะที่ SET แถว 900 (ดอยเลยครับ)
ตอนนั้นไม่รู้เรื่องอะไร รู้ว่าหุ้นขึ้นมันได้กำไรเร็วกว่าเงินฝากธนาคาร
ทำงานเก็บเงินได้เรื่องราวปีนั้นด้วย ลุยเต็มที่เลยครับ
6 แสนบาทได้ครับ
ตอนนั้นไม่รู้เรื่องอะไร รู้ว่าหุ้นขึ้นมันได้กำไรเร็วกว่าเงินฝากธนาคาร
ทำงานเก็บเงินได้เรื่องราวปีนั้นด้วย ลุยเต็มที่เลยครับ
6 แสนบาทได้ครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1018
- ผู้ติดตาม: 0
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์ที่ 79
ผมเริ่มเล่นหุ้นปี 44 หลังเหตุการณ์ 911 อาทิตย์นึง ได้กำไรจากหุ้นช่วงปี 47 ที่ดัชนีขึ้นจาก 400 มา 800 ฐานเงินขึ้นมาเป็นเลข 7 หลัก ครั้งแรก ตอนนั้นเล่นแต่ warrant ได้กำไรตลอดเรียกว่าตัวไหนมี warrant ผมเล่นหมด เพราะมองว่ามันได้กำไรเร็วกว่าหุ้นแม่
สุดท้ายก็พลาด กับหุ้น nep-w1 ซื้อราคา 7 บาท แล้วก็ถือราคาก็ไหลลงเรื่อยๆ ที่สำคัญไม่มีสภาพคล่องให้ขาย จำได้ว่าทุกวันที่นั่งดูราคา ก็เครียดตลอด จนในที่สุดก็ต้องตัดใจขาย ที่ 4 บาท ขาดทุนหนักสุดในช่วงนั้นเกือบ 3 แสน แต่สิ่งที่ได้รับมาคือความรู้สึกสบายใจหลัง cutloss ความเครียดทุกอย่างหายไปหมด เหมือนกับเรายอมรับความพ่ายแพ้แล้ว ทั้งๆ ที่ขาดทุนหนักแต่หัวสมองโล่ง กลับมาหาหุ้นตัวอื่นเล่นได้อีก
ตัวต่อมา คือ Raimon ตอนที่กลุ่มผู้ถือหุ้นปัจจุบันซื้อหุ้นจากกลุ่ม ไทเก้น ที่ แถว 1.70 บาท ตอนนั้นราคาในกระดานอยู่ที่ 1.50 บาท มีการโยนบิ๊กล็อตกันในกระดาน จำนวนมาก ซึ่งผมนับแล้วว่าเกิน 25 % ยังไงก็ต้อง tender แต่ผลคือกลายเป็นว่าคนที่มาซื้อ split เป็น 3 ราย เพื่อเลี่ยงการถือหุ้น 25 % ผลคือราคาหลังปลด sp เปิดกระโดดลงมาอย่างรวดเร็ว ตัวนี้ก็เป็นบทเรียนครั้งสำคัญ คือ ขาดทุน 3 แสน ภายในช่วงเวลาสั้นๆ เนื่องจากการไม่ตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนซื้อ
ตัวถัดมาคือ pa ซื้อตอนมีการ tender รอบก่อนที่ 4.76 มองว่า BV อยู่ 8 บาท มีสินทรัพย์เงินสดอยู่ เกือบ 3 บาทต่อหุ้น แต่หลังจากซื้อไปก็เจอปัญหาหุ้นไม่มีสภาพคล่อง อยากจะขายก็ขายไม่ได้ แถมไม่มีการปรับโครงสร้างหรือลดทุนจ่ายปันผล อย่างที่คิดไว้ สุดท้ายติดหุ้นตัวนี้ไว้ 3 ปี (อยากขายก็ขายไม่ได้ ) สุดท้ายตอนนี้มารอขาย tender ที่ 7 บาท แต่ก็ได้บทเรียนว่าแกะงบอย่าดูแต่สินทรัพย์เงินสด ต้องดูความสามารถในการทำกำไร แล้วก็สภาพคล่องของหุ้นด้วย
ตัวสุดท้าย คือ svi ซื้อตัวลูกตอนปี 51 กลางปี ตอนนั้นซื้อเพราะ load รายงานการประชุมฟังแนวโน้มผลประกอบการ แล้วก็ดูประวัติการทำกำไรย้อนหลังซึ่งโตทุกไตรมาส แถมราคายังต่ำ BV อีกพอสมควร ตอนนั้นซื้อตัวลูกไป 2 ล้านหุ้น แต่พอเจอ วิกฤต lehman ราคาก็ลงมาเรื่อยๆ ผมก็ซื้อเพิ่มระหว่างทาง ด้วยสมมติฐานว่าหุ้น pe ต่ำกว่า 4 เท่า ยังไงมันก็ลงไม่ได้อีกแล้ว ตอนนั้นซื้อเพิ่มจนมี 4 ล้านหุ้น เงินหมด ราคาไหลลงมา อยู่ .20 บาท ขาดทุน ใน port 2 ล้าน 5 แสนบาท มากที่สุดตั้งแต่เล่นมา หุ้นแม่ตกลงไปจนเหลือ pe 2 เท่า เครียดที่สุดตั้งแต่เล่นมา เพราะไม่รู้จริงๆ ว่าตัวเองคำนวณอะไรผิด ผลประกอบการทุกอย่างก็เป็นไปตามคาด แต่ราคากลับลง สุดท้ายหุ้นตัวนี้ทำให้ผมได้บทเรียนสำคัญที่สุด คือ อารมณ์ตลาด กับ Mr market เป็นผู้กำหนดราคาซื้อขาย และ pe ที่เหมาะสม แต่ ผลประกอบการจะเป็นตัวกำหนดมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น จากตอนนั้นถึงวันนี้ผ่านไป 2 ปี หุ้นที่ครั้งหนึ่งผมขาดทุนมากที่สุดตอนนี้กลับเป็นหุ้นที่ทำให้ผมก้าวทะลุเลข 8 หลัก และเป็นฐานให้ port ผม โตต่อเนื่องต่อในอนาคตครับ
สุดท้ายก็พลาด กับหุ้น nep-w1 ซื้อราคา 7 บาท แล้วก็ถือราคาก็ไหลลงเรื่อยๆ ที่สำคัญไม่มีสภาพคล่องให้ขาย จำได้ว่าทุกวันที่นั่งดูราคา ก็เครียดตลอด จนในที่สุดก็ต้องตัดใจขาย ที่ 4 บาท ขาดทุนหนักสุดในช่วงนั้นเกือบ 3 แสน แต่สิ่งที่ได้รับมาคือความรู้สึกสบายใจหลัง cutloss ความเครียดทุกอย่างหายไปหมด เหมือนกับเรายอมรับความพ่ายแพ้แล้ว ทั้งๆ ที่ขาดทุนหนักแต่หัวสมองโล่ง กลับมาหาหุ้นตัวอื่นเล่นได้อีก
ตัวต่อมา คือ Raimon ตอนที่กลุ่มผู้ถือหุ้นปัจจุบันซื้อหุ้นจากกลุ่ม ไทเก้น ที่ แถว 1.70 บาท ตอนนั้นราคาในกระดานอยู่ที่ 1.50 บาท มีการโยนบิ๊กล็อตกันในกระดาน จำนวนมาก ซึ่งผมนับแล้วว่าเกิน 25 % ยังไงก็ต้อง tender แต่ผลคือกลายเป็นว่าคนที่มาซื้อ split เป็น 3 ราย เพื่อเลี่ยงการถือหุ้น 25 % ผลคือราคาหลังปลด sp เปิดกระโดดลงมาอย่างรวดเร็ว ตัวนี้ก็เป็นบทเรียนครั้งสำคัญ คือ ขาดทุน 3 แสน ภายในช่วงเวลาสั้นๆ เนื่องจากการไม่ตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนซื้อ
ตัวถัดมาคือ pa ซื้อตอนมีการ tender รอบก่อนที่ 4.76 มองว่า BV อยู่ 8 บาท มีสินทรัพย์เงินสดอยู่ เกือบ 3 บาทต่อหุ้น แต่หลังจากซื้อไปก็เจอปัญหาหุ้นไม่มีสภาพคล่อง อยากจะขายก็ขายไม่ได้ แถมไม่มีการปรับโครงสร้างหรือลดทุนจ่ายปันผล อย่างที่คิดไว้ สุดท้ายติดหุ้นตัวนี้ไว้ 3 ปี (อยากขายก็ขายไม่ได้ ) สุดท้ายตอนนี้มารอขาย tender ที่ 7 บาท แต่ก็ได้บทเรียนว่าแกะงบอย่าดูแต่สินทรัพย์เงินสด ต้องดูความสามารถในการทำกำไร แล้วก็สภาพคล่องของหุ้นด้วย
ตัวสุดท้าย คือ svi ซื้อตัวลูกตอนปี 51 กลางปี ตอนนั้นซื้อเพราะ load รายงานการประชุมฟังแนวโน้มผลประกอบการ แล้วก็ดูประวัติการทำกำไรย้อนหลังซึ่งโตทุกไตรมาส แถมราคายังต่ำ BV อีกพอสมควร ตอนนั้นซื้อตัวลูกไป 2 ล้านหุ้น แต่พอเจอ วิกฤต lehman ราคาก็ลงมาเรื่อยๆ ผมก็ซื้อเพิ่มระหว่างทาง ด้วยสมมติฐานว่าหุ้น pe ต่ำกว่า 4 เท่า ยังไงมันก็ลงไม่ได้อีกแล้ว ตอนนั้นซื้อเพิ่มจนมี 4 ล้านหุ้น เงินหมด ราคาไหลลงมา อยู่ .20 บาท ขาดทุน ใน port 2 ล้าน 5 แสนบาท มากที่สุดตั้งแต่เล่นมา หุ้นแม่ตกลงไปจนเหลือ pe 2 เท่า เครียดที่สุดตั้งแต่เล่นมา เพราะไม่รู้จริงๆ ว่าตัวเองคำนวณอะไรผิด ผลประกอบการทุกอย่างก็เป็นไปตามคาด แต่ราคากลับลง สุดท้ายหุ้นตัวนี้ทำให้ผมได้บทเรียนสำคัญที่สุด คือ อารมณ์ตลาด กับ Mr market เป็นผู้กำหนดราคาซื้อขาย และ pe ที่เหมาะสม แต่ ผลประกอบการจะเป็นตัวกำหนดมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น จากตอนนั้นถึงวันนี้ผ่านไป 2 ปี หุ้นที่ครั้งหนึ่งผมขาดทุนมากที่สุดตอนนี้กลับเป็นหุ้นที่ทำให้ผมก้าวทะลุเลข 8 หลัก และเป็นฐานให้ port ผม โตต่อเนื่องต่อในอนาคตครับ
- Croyoty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3617
- ผู้ติดตาม: 0
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์ที่ 80
[quote="Notelio"]ผมเริ่มเล่นหุ้นปี 44 หลังเหตุการณ์ 911 อาทิตย์นึง ได้กำไรจากหุ้นช่วงปี 47 ที่ดัชนีขึ้นจาก 400 มา 800 ฐานเงินขึ้นมาเป็นเลข 7 หลัก ครั้งแรก ตอนนั้นเล่นแต่ warrant ได้กำไรตลอดเรียกว่าตัวไหนมี warrant ผมเล่นหมด เพราะมองว่ามันได้กำไรเร็วกว่าหุ้นแม่
สุดท้ายก็พลาด กับหุ้น nep-w1 ซื้อราคา 7 บาท แล้วก็ถือราคาก็ไหลลงเรื่อยๆ ที่สำคัญไม่มีสภาพคล่องให้ขาย จำได้ว่าทุกวันที่นั่งดูราคา ก็เครียดตลอด จนในที่สุดก็ต้องตัดใจขาย ที่ 4 บาท ขาดทุนหนักสุดในช่วงนั้นเกือบ 3 แสน แต่สิ่งที่ได้รับมาคือความรู้สึกสบายใจหลัง cutloss ความเครียดทุกอย่างหายไปหมด เหมือนกับเรายอมรับความพ่ายแพ้แล้ว ทั้งๆ ที่ขาดทุนหนักแต่หัวสมองโล่ง กลับมาหาหุ้นตัวอื่นเล่นได้อีก
ตัวต่อมา คือ Raimon ตอนที่กลุ่มผู้ถือหุ้นปัจจุบันซื้อหุ้นจากกลุ่ม ไทเก้น ที่ แถว 1.70 บาท ตอนนั้นราคาในกระดานอยู่ที่ 1.50 บาท มีการโยนบิ๊กล็อตกันในกระดาน
สุดท้ายก็พลาด กับหุ้น nep-w1 ซื้อราคา 7 บาท แล้วก็ถือราคาก็ไหลลงเรื่อยๆ ที่สำคัญไม่มีสภาพคล่องให้ขาย จำได้ว่าทุกวันที่นั่งดูราคา ก็เครียดตลอด จนในที่สุดก็ต้องตัดใจขาย ที่ 4 บาท ขาดทุนหนักสุดในช่วงนั้นเกือบ 3 แสน แต่สิ่งที่ได้รับมาคือความรู้สึกสบายใจหลัง cutloss ความเครียดทุกอย่างหายไปหมด เหมือนกับเรายอมรับความพ่ายแพ้แล้ว ทั้งๆ ที่ขาดทุนหนักแต่หัวสมองโล่ง กลับมาหาหุ้นตัวอื่นเล่นได้อีก
ตัวต่อมา คือ Raimon ตอนที่กลุ่มผู้ถือหุ้นปัจจุบันซื้อหุ้นจากกลุ่ม ไทเก้น ที่ แถว 1.70 บาท ตอนนั้นราคาในกระดานอยู่ที่ 1.50 บาท มีการโยนบิ๊กล็อตกันในกระดาน
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1018
- ผู้ติดตาม: 0
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์ที่ 82
เยียม ดีนะที่มันกลับมาไวการฟื้นตัว ถ้าเป็นแบบนี้สัก 5ปี พี่ จะทำยังไง
ถ้าเป็นอย่างนั้นผมก็คงต้องทนถือหุ้น pe 2-3 เท่า ต่อไปอีก 5 ปีครับ เพราะผมหาเหตุผลที่จะขายมันไม่ได้แค่นั้นเองครับ
เพิ่มเติมอีกนิดครับ ทุกครั้งที่ผมพลาดผมจะคิดเสมอว่าพลาดเพราะอะไร แล้วถือคติว่าพลาดครั้งแรกเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าพลาดซ้ำสองแบบเดิมนี่ถือว่าโง่และไม่น่าให้อภัยครับ
ถ้าเป็นอย่างนั้นผมก็คงต้องทนถือหุ้น pe 2-3 เท่า ต่อไปอีก 5 ปีครับ เพราะผมหาเหตุผลที่จะขายมันไม่ได้แค่นั้นเองครับ
เพิ่มเติมอีกนิดครับ ทุกครั้งที่ผมพลาดผมจะคิดเสมอว่าพลาดเพราะอะไร แล้วถือคติว่าพลาดครั้งแรกเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าพลาดซ้ำสองแบบเดิมนี่ถือว่าโง่และไม่น่าให้อภัยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 104
- ผู้ติดตาม: 0
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์ที่ 83
ของผมก็จากตัว derivative warrants ครับ จากptte13ca กับ ptt08ca ช่วงแรกๆโลภมากไปหน่อย จะเอากำไรมากๆ เจอวิกฤติ เม.ย-พ.ค เข้าไปตัวแรกขาดทุนประมาณ 80% เลยครับตัวที่สองยังดีที่โดนแค่ 30%กว่าๆ แต่ก็ทำให้ได้บทเรียนราคาแพงเลยครับ โชคดีที่ผมเพิ่งเริ่มเล่น พอร์ตยังไม่ใหญ่มาก ช่วงหลังก็พยายามหาความรู้ใหม่ๆเสมอครับ เป็นกำลังใจให้กับทุกคนนะครับ ผมเชื่อว่าถ้าเราได้พยายามอย่างเต็มที่แล้วสักวันพวกเราจะเติบโตไปด้วยกัน สู้ๆนะครับ
- Diamond Dust
- Verified User
- โพสต์: 77
- ผู้ติดตาม: 0
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์ที่ 84
หุ้นที่เจ๊งส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นที่ผมซื้อตามคนอื่นโดยที่ไม่ได้ดูพื้นฐานเอง
กับหุ้นที่มีพรายกระซิบข้อมูล insider อ่ะคับ โดนทุกที :twisted:
กับหุ้นที่มีพรายกระซิบข้อมูล insider อ่ะคับ โดนทุกที :twisted:
-
- Verified User
- โพสต์: 17
- ผู้ติดตาม: 0
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์ที่ 85
ผมเพิ่งจะลงทุนผ่านหุ้นเมื่อราวๆสิ้นเดือนธ.ค.2553 ตอนนั้นซื้อ TF(มาม่า) มา200หุ้น หุ้นละ684บ. พอมันขึ้นถึง770บ. ผมก็ขาย เพราะกลัวคิดว่าราคามันขึ้นไปเร็วกว่ายอดขายและกลัวว่าจะเป็นราคาปั่นขึ้นไปจากแรงซื้อขายแต่ละวัน เพราะเห็นจำนวนซื้อขายแต่ละวันน้อยมาก และราคาก็ขึ้นไปบ่อยๆจากจำนวนหุ้นน้อยที่ซื้อขายแต่ละวัน ผมเพิ่งเล่นเงินไม่มากผมก็ใจร้อนรีบขายเกินไปกลัวขาดทุน เพราะงานที่ทำมันก็เหนื่อยมาก เงินเดือนก็น้อย มีโอกาสอยากกำไรไว้ก่อน พอมาดูตอนนี้มันพันกว่าบาท คิดแล้วก็เสียดายค่าเสียโอกาส แต่ที่เสียใจสุดก็คือ วันแรกที่ซื้อ ผมซื้อเพราะอยากเป็นหุ้นส่วนกิจการ ตอนนี้ไม่มีมาม่าอีกแล้ว พอเห็นมาม่าตามร้านหรือซื้อมากินต้องเสียใจทุกครั้ง ไม่น่าทำกับบริษัทที่เราไว้ใจแบบนี้เลย นี่แหละโทษของการโลเลและการเปิดดูราคาหุ้นบ่อยของผม บทเรียนนี้สอนผมว่า ปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนแปลงยาก แต่ราคาหุ้นเปลี่ยนแปลงง่าย คิดแล้วเศร้า เราเสียของดีไปแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 807
- ผู้ติดตาม: 0
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์ที่ 86
ซื้อ SSF เมื่อต้นปี เพราะงบสวย การเติบโตสูง พีอีต่ำ คิด DCF ได้ตั้ง 12 บาท แต่หารู้ไม่ว่ามันเป็นหุ้นวัฏจักร ขายทิ้งเพราะมีคนเตือน เลยพอมีกำไรนิดหน่อย
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
1. Biz model สำคัญกว่างบการเงินมากๆ อย่าถูกหลอกด้วยเลขสวยๆ ของ จนมองข้ามพื้นฐานกิจการ
2. คนที่ชอบติหุ้นที่เราถือน่ะน่าคบ มีเอาไว้เยอะๆ รับรองไม่จน :mrgreen:
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
1. Biz model สำคัญกว่างบการเงินมากๆ อย่าถูกหลอกด้วยเลขสวยๆ ของ จนมองข้ามพื้นฐานกิจการ
2. คนที่ชอบติหุ้นที่เราถือน่ะน่าคบ มีเอาไว้เยอะๆ รับรองไม่จน :mrgreen:
อย่ายอมแพ้
- kyoza
- Verified User
- โพสต์: 224
- ผู้ติดตาม: 0
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์ที่ 88
aviruth เขียน:โหคนเข้ามาตอบเยอะมาก ได้ความรู้ทั้งนั้นเลยขอบคุณครับ
ของผม ซื้อ Hana 26 บาท สองปีที่แล้ว แล้วก็ลงมาเรื่อยๆ เอาเงินเดือนถัวตลอด ถัว 16 14 12 10 8 จนมันวกกลับมา 10 12 16 19 พอ 19 ผมก็ขาย ได้กำไรอยู่ หมื่นกว่าบาท โง่มั้ยครับ ตอนนี้ มัน 27 บาท อิเล็กทรอนิคส์มันเป็นวัฐจักร จริงๆด้วย
ผมก้มีตัวนี้ราคาเดียวกันครับ แต่ต่างกันที่ไม่ได้ถัวเลย เพราะเลิกดูไปเลย แล้วปีที่เเล้วก้ไปต่างประเทศ กลับมาดูอีกทีราคาขึ้นมาเกือบๆทุนก้เลยขายไปเลย สรุปเเล้วได้ปันผลมาสามรอบ
- kyoza
- Verified User
- โพสต์: 224
- ผู้ติดตาม: 0
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์ที่ 89
aviruth เขียน:โหคนเข้ามาตอบเยอะมาก ได้ความรู้ทั้งนั้นเลยขอบคุณครับ
ของผม ซื้อ Hana 26 บาท สองปีที่แล้ว แล้วก็ลงมาเรื่อยๆ เอาเงินเดือนถัวตลอด ถัว 16 14 12 10 8 จนมันวกกลับมา 10 12 16 19 พอ 19 ผมก็ขาย ได้กำไรอยู่ หมื่นกว่าบาท โง่มั้ยครับ ตอนนี้ มัน 27 บาท อิเล็กทรอนิคส์มันเป็นวัฐจักร จริงๆด้วย
ผมก้มีตัวนี้ราคาเดียวกันครับ แต่ต่างกันที่ไม่ได้ถัวเลย เพราะเลิกดูไปเลย แล้วปีที่เเล้วก้ไปต่างประเทศ กลับมาดูอีกทีราคาขึ้นมาเกือบๆทุนก้เลยขายไปเลย สรุปเเล้วได้ปันผลมาสามรอบ