ช่วยอธิบายความสำคัญของ ROA กับ ROE ให้ด้วยค่ะ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

ล็อคหัวข้อ
VI อ่อนหัด
Verified User
โพสต์: 5
ผู้ติดตาม: 0

ช่วยอธิบายความสำคัญของ ROA กับ ROE ให้ด้วยค่ะ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

รบกวนผู้รู้ทุกท่านช่วยอธิบายด้วยค่ะ ว่ามันต่างกันยังไง
ค่าของแต่ละตัว ควรเป็นเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม
ขอบคุณมากๆ ค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Minesweeper
Verified User
โพสต์: 472
ผู้ติดตาม: 0

ช่วยอธิบายความสำคัญของ ROA กับ ROE ให้ด้วยค่ะ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ในเมนูด้านบนของเวบบอร์ดจะมีเมนู search อยู่อะครับ

กดเข้าไปจะสามารถเลือก option ต่างๆ ได้

ในกรณีนี้ให้ใส่ keyword เป็น ROA AND ROE และเลือก forum เป็น พจนานุกรม

ก็จะได้ผลลัพธ์ออกมาครับ

ถ้ายังไม่พอใจในผลลัพธ์ที่ได้ ก็ลอง search ที่ forum อื่นๆ ดูด้วยก็ได้ครับ

หรือ

อีกวิธีหนึ่งก็ไปที่ www.google.co.th

ใส่ keyword เป็น ROA ROE เลือกค้นเฉพาะหน้าของประเทศไทยก็ดีครับ

เลือกดูอันที่ชอบครับ มี lecture ของมหาลัยต่างๆ ให้เลือกอ่านด้วย...

8)
offshore-engineer
Verified User
โพสต์: 2166
ผู้ติดตาม: 0

ช่วยอธิบายความสำคัญของ ROA กับ ROE ให้ด้วยค่ะ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

แนะนำให้ไปอ่านหนังสือเพิ่มนะครับ

เริ่มจากหนังสือที่จัดทำขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีวางจำหน่ายตามร้านหนังสือทั่วไป ราคาไม่แพงด้วยครับ บางเล่มมีให้ดาวน์โหลดได้ฟรีที่เว๊ปไซต์ของตลาดหลักทรัพย์

เล่มที่ควรศึกษาคือ การวิเคราะห์หลักทรัพย์ด้วยปัจจัยพื้นฐาน, เทคนิคการวิเคราะห์งบการเงินของบริษัท และ ความมั่งคั่งใครบ้างไม่อยากมี
offshore-engineer
Verified User
โพสต์: 2166
ผู้ติดตาม: 0

ช่วยอธิบายความสำคัญของ ROA กับ ROE ให้ด้วยค่ะ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ROA และ ROE บ่งบอกถึงความสามารถของบริษัทในการทำกำไรเมื่อเทียบกับทรัพย์สิน และ ส่วนของผู้ถือหุ้น ตามลำดับ

ROA = Return on Asset = Net profit/Asset
ROE = Return on Equtiy = Net profit/ Equity

(หมายเหตุ อย่าใช้ of แทน on นะครับ ความหมายจะเพี้ยนไปอย่างมากทันที ถ้าคุณใช้คำว่า of จะกลายเป็นว่าคุณได้สินทรัพย์นั้นกลับคืนมา ไม่ใช่ได้ผลตอบแทนจากสินทรัีพย์นะครับ)

ถ้าพิจารณาต่อไป เราสามารถขยายความของ ROA ได้ดังนี้

ROA = Asset Turnover x Profit margin = (Sales/Asset) * (NP/Sales)

การเพิ่ม ROA สามารถทำได้สองทาง คือ การทำยอดขายให้เพิ่มสูงขึ้นโดยใช้สินทรัพย์น้อยลง หรือ เพิ่มอัตราการทำกำไร แต่ละธุรกิจมีความแตกต่างกันทำให้กลยุทธ์ในการเพิ่ม ROA ไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น หุ้นในกิจการค้าปลีก Net profit margin ค่อนข้างต่ำ เพราะต้องขายของถูกจึงจะดึงลูกค้าเข้ามาได้ ดังนั้น บริษัทเหล่านี้จึงต้องทำยอดขายให้ได้มากๆ เพื่อจะเพิ่มค่า ROA

ROE = ROA x Financial Leverage = ROA x (Asset/Equity)

ธุรกิจโดยทั่วไปมีการกู้เงินเพื่อนำมาลงทุน หากอัตราส่วน Asset/Equity สูง แสดงว่าบริษัทมีส่วนของเงินกู้เยอะซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยดี การดูค่า ROE จึงต้องดูด้วยว่าอัตราส่วนระหว่างเงินกู้ต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเยอะหรือไม่
ภาพประจำตัวสมาชิก
ch_army
Verified User
โพสต์: 1352
ผู้ติดตาม: 0

ช่วยอธิบายความสำคัญของ ROA กับ ROE ให้ด้วยค่ะ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ROA เนี่ยก็คือดูว่าเงินทอง ทรัพย์สินที่กิจการมีเนี่ย เอาไปทำกำไรได้กี่ %
ROE คือดูว่าเงินที่เราในฐานะเจ้าของธุรกิจลงเงินไปเท่าไรในปีนั้นๆแล้วได้กำไรมาเท่าไร
ค่าที่เหมาะสมของ ROA ขึ้นกับ
1. ความเสี่ยงของธุรกิจประเภทนั้นๆ ซึ่งจะมีผลต่อปริมาณหนี้สินที่เหมาะสมด้วย
2. การทำกำไรของธุรกิจนั้นๆ
3. ประเภทธุรกิจ พวกบริการจะมีทรัพย์สินน้อย ROA อาจดีกว่าพวกที่ต้องลงทุนมากๆแบบ โรงไฟฟ้า ต้องเปรียบเทียบในธุรกิจเดียวกันดีกว่า
4. ปัจจัยในการกำเนิดกำไรของบริษัทเอง(ROA ในอดีต)

ซึ่งลองศึกษาดูไปก็รู้เองครับว่า สำหรับเจ้าบริษัทที่เราสนใจ ควรมี ROA เท่าไร แนะนำว่า ลองหาข้อมูลบริษัทๆหลายๆอันที่ทำธุรกิจแข่งกัน ดู ROA ย้อนหลังของพวกนั้นแล้วทำกราฟดูความเปลี่ยนแปลงดีกว่าครับ จะได้เห็นกันชัดๆ เพราะตัวเลขมันไม่เท่าไรหรอก

ROE เนี่ยเป็นตัวเลขที่สำคัญนะครับ จะดีไหมเนี่ย ต้องขอฟันธงหน่อยว่า
1. ไม่น่าต่ำกว่า 15 ในธุรกิจที่เติบโต(ยิ่งต้องสูงๆด้วยซ้ำ)
2. แบบนิ่งๆก็ไม่น่าต่ำกว่า 10
3. หากลดลงเรื่อยๆก็ ลาก่อนครับ
http://inspirationword.blogspot.com

-กำลังใจ มีอยู่ในตัวคุณ-
-พัฒนาทัศนคติ สู่ชีวิตแห่งชัยชนะ-
ภาพประจำตัวสมาชิก
มือเก่าหัดขับ
Verified User
โพสต์: 1112
ผู้ติดตาม: 0

ช่วยอธิบายความสำคัญของ ROA กับ ROE ให้ด้วยค่ะ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ตามแบบฉบับของนักลงทุนแนวคุณค่าแล้ว หากเป็นธุรกิจผลิตสินค้า เราก็ดูค่า ROE --> ยิ่งสูงยิ่งดี ยิ่งมากกว่า 10 - 12% ยิ่งดีมาก
(ไม่นับว่าต้องเป็นธุรกิจที่มีพื้นฐานดี แข่งขันได้อย่างยั่งยืนนะ ซึ่งต้องเลือกธุรกิจแบบนั้นมาพิจารณา)

หากเป็นธุรกิจธนาคาร จะดู ROE ไม่ได้ เพราะสูงมากๆ เราก็เลี่ยงไปดูที่ ROA แทน ถ้าเกิน 1% ไปได้เท่าไรยิ่งดี อันนี้ก็ต้องดูนโยบายธนาคาร การคัดสรรคุณภาพลูกค้าสินเชื่อ อะไรพวกนี้อีกจิปาถะ (ผมไม่ถนัดดูธุรกิจธนาคาร)
คนอื่นเขาสะสมอย่างอื่น เราขอสะสมความดี, ความรู้, ประสบการณ์, เงินทอง, กับหุ้นก็แล้วกัน
http://www.muegao.blogspot.com หุ้น การเงิน การลงทุน ธุรกิจ
ล็อคหัวข้อ