เป็นVIเก่งอย่างเดียวไม่พอ!!!!! จิตใจต้องนิ่งด้วย!!!!!
- picklife
- Verified User
- โพสต์: 2565
- ผู้ติดตาม: 0
เป็นVIเก่งอย่างเดียวไม่พอ!!!!! จิตใจต้องนิ่งด้วย!!!!!
โพสต์ที่ 1
สวัสดีครับ เพื่อนๆ ชาวThaiVI หลายให้หลายๆคนมาแชร์การควบคุมไม่ให้อารมณ์ตัวเอง ที่มีกับราคาหุ้น มามีผลกับการตัดสินใจซื้อขายหุ้นยังไงครับ?
มาแชร์กันนะครับ เพื่อเป็นประโยชน์กับท่านที่ใจยังไม่นิ่งพอ(รวมทั้งผม )
ขอบคุณคร๊าบบบบ
มาแชร์กันนะครับ เพื่อเป็นประโยชน์กับท่านที่ใจยังไม่นิ่งพอ(รวมทั้งผม )
ขอบคุณคร๊าบบบบ
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
- picklife
- Verified User
- โพสต์: 2565
- ผู้ติดตาม: 0
เป็นVIเก่งอย่างเดียวไม่พอ!!!!! จิตใจต้องนิ่งด้วย!!!!!
โพสต์ที่ 2
แชร์ของตัวผมเองก่อนนะครับ ช่วยๆกันแชร์เผื่อเป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้าง
เมื่อตอนที่ผมเข้ามาใหม่ๆอ่านBlogของyoyoบอกว่าอย่าไปสนราคาทุนลืมมันซะ เราจะได้ไม่มีอคติกับราคาที่เราซื้อ ซึ่งผมฟังแล้วก็รู้สึกเห็นด้วยเลยแต่พอทำจริงสัญชาติญานมันทำใจไม่ได้จริงๆครับ เช่นหุ้นAซื้อมา10 ไปเจอหุ้นBมาดีกว่าหุ้นAมาก แต่หุ้นAราคาดันลงไป9.95 ก็รอๆๆให้มันซัก10.1จะได้รีบขายไปซื้อหุ้นB แต่สุดท้ายก็Bวิ่งAทรงๆและลงเล็กน้อย ผมเจอเคสนี้มาเยอะมากเลยครับ ซึ่งแม้นว่าผมจะเล่นมาไม่กี่ปีแต่ประสบการณ์เทรดผมก็เยอะครับเทรดเกือบทุกวัน เลยครับ เพราะความรูยังน้อยพอรู้อะไรใหม่ๆมาความคิดก็เปลี่ยนก็ปรับพอร์ท
ซึ่งวิธีที่ผมใช้กับตัวเองคือ ผมจะupdate Portทุกวัน และจะคิดเสมอว่าพอจบ1วันเท่ากับผมขายล้างพอร์ทออกไป พอวันรุ่งขึ้นเท่ากับผมซื้อใหม่ทั้งหมดในราคาปิดเมื่อวาน ดังนั้นหุ้นทุกตัวในพอร์ทผมก็จะไม่มีตัวที่ติดกับทุนเก่าเลยแม้นแต่ตัวเดียว เพราะผมคิดเสมอว่าทุนผมคือราคาปิดเมื่อวาน.....และเอาชนะราคาเมื่อวานให้ได้
ซึ่งสำหรับผมได้ผลมากๆครับวิธีนี้เพราะหลังจากทำอย่างนี้มาต้องแต่เข้าวงการณ์และทำอย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อได้อ่านblog yoyo จนถึงจุดหนึ่งพอเวลามันสะสมมามากๆทำให้ผมหลุดพ้นจากทุนไปโดยสิ้นเชิงครับ เพราะว่าผมปรับสัดส่วนพรอทเกือบทุกวัน ถามว่าผมรู้ได้อย่างไรว่าผมหลุดพ้นจากทุน เพราะว่าพอมีเงินใหม่เข้ามาแทนที่ผมจะรอไว้ซื้อตัวอื่น แต่ผมกลับเคาะทันทีด้วยสัดส่วนเดิมของพอร์ท โดยไม่สนเลยว่าเมื่อวานมันจะขึ้นมา10%หรือเท่าไหร่ก็เคาะหมด ซึ่งข้อเสียหลายครั้งก็คือดอยเล็กๆผมเก้บหมดT^T ส่วนเหตุที่ผมปรับพอร์ทบ่อยเกือบทุกวันเพราะว่า ผมก็มักจินตนาการเสมอว่าถ้าผมเปิดพอร์ทใหม่มีเงินสดเต็มมือด้วยUpsideแต่ละตัวที่เหลือเท่านี้ผมจะซื้อตัวไหนกี่% พอได้ออกมาแล้ว ผมก็มาดูพอร์ทผมถ้าไม่เหมือนผมก็เคาะปรับพอร์ทเดี๋ยวนั้นเลยราคาเท่าไหร่ไม่รู้ ดังนั้นจะมีอยู่ช่วงที่ผมจิตใจไม่นิ่งพอก็ปรับไปปรับมาเสียค่าคอมเยอะเลยT^Tและก็ขายหมูซื้อบาวแดงเยอะT^T แต่พอเริ่มนิ่งแล้วความคิดก็เริ่มเหมือนกันในทุกๆวันครับไม่ต่างมากนัก ยกเว้นหุ้นขึ้นแรงๆก็อาจจะมีปรับบ้าง
ซึ่งพอตอนนี้ผมก็เลยเพิ่งมาเข้าใจอารมณ์ของเซียนที่บอกว่าอย่าไปสนราคาทุน พอคุยกะเพื่อนๆ แนะนำหุ้นกัน เขาบอกว่าก็ดีนะแต่แต่ขึ้นมาเยอะทุนเท่าไหร่ละ?ผมก็บอกว่าไม่รู้แฮ๊ะไม่เคยใจเลยดูแต่upside เพื่อนบอกว่าโหววพูดอย่างเซียน ผมฟังแล้วก็เลยเพิ่งรู้ตัวเองเราหลุดพ้นจากราคาทุนจริงๆแล้วนินา แต่ฟังเพื่อนพูดแล้วก็ละอายยเพราะเรื่องความรู้ผมยังห่างไกลแสนไกลจากความเป็นเซียนยิ่งนัก ดังนั้นหากใครท่านใดเห็นผมพูดว่าไม่สนใจทุนอย่าเข้าใจผิดนะครับว่าผมเก่ง จริงๆแล้วอ่อนมากๆๆๆๆถึงมากที่สุด ครับ:wall:
สรุปผมใช้วิธีประมาณที่เล่านะครับและก็ได้ผลก็เลยอยากแชร์ต่อครับ
ปล.แต่สุดท้าย VIที่ดีต้อง เก่ง+ใจนิ่ง(ไร้ซึ่งอคติ) แต่ผมมีแค่อย่างหลังก็เลยยังตะล๋องตะแล๋งอยู๋ครับ :wall: :wall:
เมื่อตอนที่ผมเข้ามาใหม่ๆอ่านBlogของyoyoบอกว่าอย่าไปสนราคาทุนลืมมันซะ เราจะได้ไม่มีอคติกับราคาที่เราซื้อ ซึ่งผมฟังแล้วก็รู้สึกเห็นด้วยเลยแต่พอทำจริงสัญชาติญานมันทำใจไม่ได้จริงๆครับ เช่นหุ้นAซื้อมา10 ไปเจอหุ้นBมาดีกว่าหุ้นAมาก แต่หุ้นAราคาดันลงไป9.95 ก็รอๆๆให้มันซัก10.1จะได้รีบขายไปซื้อหุ้นB แต่สุดท้ายก็Bวิ่งAทรงๆและลงเล็กน้อย ผมเจอเคสนี้มาเยอะมากเลยครับ ซึ่งแม้นว่าผมจะเล่นมาไม่กี่ปีแต่ประสบการณ์เทรดผมก็เยอะครับเทรดเกือบทุกวัน เลยครับ เพราะความรูยังน้อยพอรู้อะไรใหม่ๆมาความคิดก็เปลี่ยนก็ปรับพอร์ท
ซึ่งวิธีที่ผมใช้กับตัวเองคือ ผมจะupdate Portทุกวัน และจะคิดเสมอว่าพอจบ1วันเท่ากับผมขายล้างพอร์ทออกไป พอวันรุ่งขึ้นเท่ากับผมซื้อใหม่ทั้งหมดในราคาปิดเมื่อวาน ดังนั้นหุ้นทุกตัวในพอร์ทผมก็จะไม่มีตัวที่ติดกับทุนเก่าเลยแม้นแต่ตัวเดียว เพราะผมคิดเสมอว่าทุนผมคือราคาปิดเมื่อวาน.....และเอาชนะราคาเมื่อวานให้ได้
ซึ่งสำหรับผมได้ผลมากๆครับวิธีนี้เพราะหลังจากทำอย่างนี้มาต้องแต่เข้าวงการณ์และทำอย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อได้อ่านblog yoyo จนถึงจุดหนึ่งพอเวลามันสะสมมามากๆทำให้ผมหลุดพ้นจากทุนไปโดยสิ้นเชิงครับ เพราะว่าผมปรับสัดส่วนพรอทเกือบทุกวัน ถามว่าผมรู้ได้อย่างไรว่าผมหลุดพ้นจากทุน เพราะว่าพอมีเงินใหม่เข้ามาแทนที่ผมจะรอไว้ซื้อตัวอื่น แต่ผมกลับเคาะทันทีด้วยสัดส่วนเดิมของพอร์ท โดยไม่สนเลยว่าเมื่อวานมันจะขึ้นมา10%หรือเท่าไหร่ก็เคาะหมด ซึ่งข้อเสียหลายครั้งก็คือดอยเล็กๆผมเก้บหมดT^T ส่วนเหตุที่ผมปรับพอร์ทบ่อยเกือบทุกวันเพราะว่า ผมก็มักจินตนาการเสมอว่าถ้าผมเปิดพอร์ทใหม่มีเงินสดเต็มมือด้วยUpsideแต่ละตัวที่เหลือเท่านี้ผมจะซื้อตัวไหนกี่% พอได้ออกมาแล้ว ผมก็มาดูพอร์ทผมถ้าไม่เหมือนผมก็เคาะปรับพอร์ทเดี๋ยวนั้นเลยราคาเท่าไหร่ไม่รู้ ดังนั้นจะมีอยู่ช่วงที่ผมจิตใจไม่นิ่งพอก็ปรับไปปรับมาเสียค่าคอมเยอะเลยT^Tและก็ขายหมูซื้อบาวแดงเยอะT^T แต่พอเริ่มนิ่งแล้วความคิดก็เริ่มเหมือนกันในทุกๆวันครับไม่ต่างมากนัก ยกเว้นหุ้นขึ้นแรงๆก็อาจจะมีปรับบ้าง
ซึ่งพอตอนนี้ผมก็เลยเพิ่งมาเข้าใจอารมณ์ของเซียนที่บอกว่าอย่าไปสนราคาทุน พอคุยกะเพื่อนๆ แนะนำหุ้นกัน เขาบอกว่าก็ดีนะแต่แต่ขึ้นมาเยอะทุนเท่าไหร่ละ?ผมก็บอกว่าไม่รู้แฮ๊ะไม่เคยใจเลยดูแต่upside เพื่อนบอกว่าโหววพูดอย่างเซียน ผมฟังแล้วก็เลยเพิ่งรู้ตัวเองเราหลุดพ้นจากราคาทุนจริงๆแล้วนินา แต่ฟังเพื่อนพูดแล้วก็ละอายยเพราะเรื่องความรู้ผมยังห่างไกลแสนไกลจากความเป็นเซียนยิ่งนัก ดังนั้นหากใครท่านใดเห็นผมพูดว่าไม่สนใจทุนอย่าเข้าใจผิดนะครับว่าผมเก่ง จริงๆแล้วอ่อนมากๆๆๆๆถึงมากที่สุด ครับ:wall:
สรุปผมใช้วิธีประมาณที่เล่านะครับและก็ได้ผลก็เลยอยากแชร์ต่อครับ
ปล.แต่สุดท้าย VIที่ดีต้อง เก่ง+ใจนิ่ง(ไร้ซึ่งอคติ) แต่ผมมีแค่อย่างหลังก็เลยยังตะล๋องตะแล๋งอยู๋ครับ :wall: :wall:
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เป็นVIเก่งอย่างเดียวไม่พอ!!!!! จิตใจต้องนิ่งด้วย!!!!!
โพสต์ที่ 3
แฮ่...สำหรับตัวผมเองpicklife เขียน:สวัสดีครับ เพื่อนๆ ชาวThaiVI หลายให้หลายๆคนมาแชร์การควบคุมไม่ให้อารมณ์ตัวเอง ที่มีกับราคาหุ้น มามีผลกับการตัดสินใจซื้อขายหุ้นยังไงครับ?
มาแชร์กันนะครับ เพื่อเป็นประโยชน์กับท่านที่ใจยังไม่นิ่งพอ(รวมทั้งผม )
ขอบคุณคร๊าบบบบ
ผมคิดว่าเรื่องใจผมพอไหวครับ
แต่ผมไม่เก่งเอาซ๊ะเลยนี่ซิครับ ปัญหาของผม
วิเคราะห์ธุระกิจ อ่านงบการเงินหรือหาหุ้นก็ไม่เป็นกับเค้าครับ
ในส่วนที่ทำให้ใจนิ่งผมคิดว่า เพราะทัศนคติในเรื่องการลงทุนครับ
(เคยเห็นบางท่านเรียกว่าจริต)
ผมเคยรู้สึกว่าตลาดหุ้นน่าจะเป็นแหล่งระดมทุน เพื่อพัฒนาธุระกิจให้เติบโต
ตั้งแต่ก่อนผมมาลงทุนในตลาดหุ้นครับ
พอผมเข้ามาศึกษาใหม่ๆ ผมก็เลยโดนใจและยึดหลักการลงทุนโดยยึดแนวคิดนี้ในทันทีครับ
ส่วนที่ผมพยายามเรียนรู้เพิ่มเติมขึ้นมาในตอนหลังคือธุระกิจที่เราจะเข้าไปลงทุน
แล้วก็การประเมินมูลค่าคร่าวๆไว้ครับ
จากนั้นก็ถือหุ้นโดยคิดว่าจะร่วมทุนทำธุรกิจไปกับเค้า โดยการสนใจข่าวสาร
ของบริษัทที่เราลงทุนมากกว่าราคาหุ้นครับ
(แต่ก็ดูเพื่อประเมินว่ามูลค่าใกล้เคียงกับที่เราคาดไว้หรือยัง
ถ้าใกล้เคียงหรือเจอตัวใหนที่ประเมินว่าอัพไซด์เยอะกว่าก็ค่อยขาย)
ส่วนผลตอบแทนผมก็หวังไว้แค่ชนะตลาดนิดหน่อยคือปีละประมาณ15เปอร์เซ็นต์
ทำให้ผมไม่เลือกเสี่ยงกับธุระกิจที่เราไม่เข้าใจ หรือผลประกอบการณ์ไม่แน่นอนครับ
ไม่รู้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆหรือเปล่า
แต่ผมยึดแนวคิดนี้แล้วทำให้ผมถือหุ้นได้แบบสบายใจและสนุกที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจของหุ้นแต่ละตัวตลอดเวลาเลยครับ
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
-
- Verified User
- โพสต์: 1808
- ผู้ติดตาม: 0
เป็นVIเก่งอย่างเดียวไม่พอ!!!!! จิตใจต้องนิ่งด้วย!!!!!
โพสต์ที่ 4
เป็น VI ต้้องอดทน :8)
"Risk comes from not knowing what you're doing" - Warren Buffet
สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
http://www.sarut-homesite.net/
สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
http://www.sarut-homesite.net/
-
- Verified User
- โพสต์: 1455
- ผู้ติดตาม: 0
เป็นVIเก่งอย่างเดียวไม่พอ!!!!! จิตใจต้องนิ่งด้วย!!!!!
โพสต์ที่ 5
อย่าตัวเองไปเปรียบเทียบเทียบกับใคร
อย่าเอาหุ้นตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร
พอใจในสิ่งที่ที่เรามี พอใจในสิ่งที่เราเป็น แค่นี้ก็สุขใจเป็นไหนๆๆ :D
อย่าเอาหุ้นตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร
พอใจในสิ่งที่ที่เรามี พอใจในสิ่งที่เราเป็น แค่นี้ก็สุขใจเป็นไหนๆๆ :D
อย่าทำตัวเป็นนักแสดง เป็นเพียงผู้ดูก็พอ..
-
- Verified User
- โพสต์: 1036
- ผู้ติดตาม: 0
เป็นVIเก่งอย่างเดียวไม่พอ!!!!! จิตใจต้องนิ่งด้วย!!!!!
โพสต์ที่ 7
[quote="RONNAPUM"]อย่าตัวเองไปเปรียบเทียบเทียบกับใคร
อย่าเอาหุ้นตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร
พอใจในสิ่งที่ที่เรามี พอใจในสิ่งที่เราเป็น แค่นี้ก็สุขใจเป็นไหนๆๆ
อย่าเอาหุ้นตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร
พอใจในสิ่งที่ที่เรามี พอใจในสิ่งที่เราเป็น แค่นี้ก็สุขใจเป็นไหนๆๆ
อย่าโลภเกินความรู้ความสามารถของตัวเราเอง
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
เป็นVIเก่งอย่างเดียวไม่พอ!!!!! จิตใจต้องนิ่งด้วย!!!!!
โพสต์ที่ 8
ถ้ารู้สึกว่าใจไม่นิ่ง... และอยากใจนิ่ง...
โชคดีที่เราเกิดมาในประเทศที่มีพระพุทธศาสนา... แนะนำให้ใช้หลักธรรมเข้ากล่อมเกลาจิต...
ใจไม่นิ่ง เพราะ มันเป็นธรรมชาติของใจ ที่จะไม่นิ่ง ฟุ้งไปคิดเรื่องนู้น เรื่องนี้
ดังนั้นการที่จะทำให้ใจนิ่งเป็นเรื่องที่ขัดกับธรรมชาติของใจ
แต่คำถาม คือ เมื่อใจไม่นิ่ง กำลังคิดเรื่องนู้นเรื่องนี้อยู่ เรามีสติรู้อยู่หรือไม่ว่าใจกำลังคิดเรื่องนั้นๆ
เมื่อมีสติ สติจะเป็นตัวกำกับเองว่า สิ่งที่คิดเป็น กุศล หรือ อกุศล เป็นประโยชน์ หรือไร้ประโยชน์ และเมื่อมีสติรู้ว่าเรื่องที่คิดเป็นเรื่อง อกุศ เป็นกิเลส เป็นเรื่องไร้ประโยชน์ ก็จะค่อยๆ ละ สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์เหล่านั้นได้
คำว่ามี "สติสัมปชัญญะ" ฟังดูเป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย... แต่ทำจริงแล้วทำยาก... จำเป็นต้องตั้งใจปฏิบัติ ต้องค่อยๆ ฝึกเอา... เป็นศาสตร์ที่เรื่องรู้ และเข้าใจได้ง่าย แต่ต้องปฎิบัติถึงจะเห็นผล... คล้ายๆ กับการฝึกเล่นกีฬา...
แต่ผมเชื่อนะ...ว่ามันคุ้มค่าที่จะทำ... และผลลัพธ์ที่จะได้จากการเจริญสติ จะส่งผลดีทุกด้านในชีวิต รวมไปถึงการลงทุนด้วย
โชคดีที่เราเกิดมาในประเทศที่มีพระพุทธศาสนา... แนะนำให้ใช้หลักธรรมเข้ากล่อมเกลาจิต...
ใจไม่นิ่ง เพราะ มันเป็นธรรมชาติของใจ ที่จะไม่นิ่ง ฟุ้งไปคิดเรื่องนู้น เรื่องนี้
ดังนั้นการที่จะทำให้ใจนิ่งเป็นเรื่องที่ขัดกับธรรมชาติของใจ
แต่คำถาม คือ เมื่อใจไม่นิ่ง กำลังคิดเรื่องนู้นเรื่องนี้อยู่ เรามีสติรู้อยู่หรือไม่ว่าใจกำลังคิดเรื่องนั้นๆ
เมื่อมีสติ สติจะเป็นตัวกำกับเองว่า สิ่งที่คิดเป็น กุศล หรือ อกุศล เป็นประโยชน์ หรือไร้ประโยชน์ และเมื่อมีสติรู้ว่าเรื่องที่คิดเป็นเรื่อง อกุศ เป็นกิเลส เป็นเรื่องไร้ประโยชน์ ก็จะค่อยๆ ละ สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์เหล่านั้นได้
คำว่ามี "สติสัมปชัญญะ" ฟังดูเป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย... แต่ทำจริงแล้วทำยาก... จำเป็นต้องตั้งใจปฏิบัติ ต้องค่อยๆ ฝึกเอา... เป็นศาสตร์ที่เรื่องรู้ และเข้าใจได้ง่าย แต่ต้องปฎิบัติถึงจะเห็นผล... คล้ายๆ กับการฝึกเล่นกีฬา...
แต่ผมเชื่อนะ...ว่ามันคุ้มค่าที่จะทำ... และผลลัพธ์ที่จะได้จากการเจริญสติ จะส่งผลดีทุกด้านในชีวิต รวมไปถึงการลงทุนด้วย
- newbie_12
- Verified User
- โพสต์: 2904
- ผู้ติดตาม: 0
เป็นVIเก่งอย่างเดียวไม่พอ!!!!! จิตใจต้องนิ่งด้วย!!!!!
โพสต์ที่ 9
ยังกับเล่นหุ้นรายวันเลยนะเนี่ยะซึ่งวิธีที่ผมใช้กับตัวเองคือ ผมจะupdate Portทุกวัน และจะคิดเสมอว่าพอจบ1วันเท่ากับผมขายล้างพอร์ทออกไป พอวันรุ่งขึ้นเท่ากับผมซื้อใหม่ทั้งหมดในราคาปิดเมื่อวาน ดังนั้นหุ้นทุกตัวในพอร์ทผมก็จะไม่มีตัวที่ติดกับทุนเก่าเลยแม้นแต่ตัวเดียว เพราะผมคิดเสมอว่าทุนผมคือราคาปิดเมื่อวาน.....และเอาชนะราคาเมื่อวานให้ได้
วิธีทำใจให้นิ่งๆ จริงๆง่ายมากนะครับ ให้ศึกษาและวิเคราะห์ จนเห็นมูลค่าของมันโดยแจ่มแจ้งแล้ว ถ้ามันยังเหลือ upside อีกเยอะมาก เราก็ไม่เห็นจะต้องไปเดือดร้อนกับราคารายวัน
เช่น หุ้นตัวหนึ่ง มูลค่ามัน 10 บาท แต่ตอนนี้ราคา 5 บาท สองวันขึ้นมา 6 บาท ก็ไม่ต้องตื่นเต้น เพราะยังเหลือ upside อีก 4 บาท
.
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
- vi_tal signs
- Verified User
- โพสต์: 631
- ผู้ติดตาม: 0
เป็นVIเก่งอย่างเดียวไม่พอ!!!!! จิตใจต้องนิ่งด้วย!!!!!
โพสต์ที่ 11
picatos เขียน:ถ้ารู้สึกว่าใจไม่นิ่ง... และอยากใจนิ่ง...
โชคดีที่เราเกิดมาในประเทศที่มีพระพุทธศาสนา... แนะนำให้ใช้หลักธรรมเข้ากล่อมเกลาจิต...
ใจไม่นิ่ง เพราะ มันเป็นธรรมชาติของใจ ที่จะไม่นิ่ง ฟุ้งไปคิดเรื่องนู้น เรื่องนี้
ดังนั้นการที่จะทำให้ใจนิ่งเป็นเรื่องที่ขัดกับธรรมชาติของใจ
แต่คำถาม คือ เมื่อใจไม่นิ่ง กำลังคิดเรื่องนู้นเรื่องนี้อยู่ เรามีสติรู้อยู่หรือไม่ว่าใจกำลังคิดเรื่องนั้นๆ
เมื่อมีสติ สติจะเป็นตัวกำกับเองว่า สิ่งที่คิดเป็น กุศล หรือ อกุศล เป็นประโยชน์ หรือไร้ประโยชน์ และเมื่อมีสติรู้ว่าเรื่องที่คิดเป็นเรื่อง อกุศ เป็นกิเลส เป็นเรื่องไร้ประโยชน์ ก็จะค่อยๆ ละ สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์เหล่านั้นได้
สุดยอดครับพี่ตี่ อนุโมทนาบุญด้วยครับ
สําหรับผมจะจํากฏารลงทุนข้อสุดท้ายของพี่สุมาอี้ไว้คือ
ถ้ารถติดอยู่ ถ้ามีเสียงแตรบีบให้ไป แล้วเราประเมินตัวเองได้
ยม่ตามฝูงชน เรามีสิทธิที่จะประสบความสําเร็จได้ครับ
คำว่ามี "สติสัมปชัญญะ" ฟังดูเป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย... แต่ทำจริงแล้วทำยาก... จำเป็นต้องตั้งใจปฏิบัติ ต้องค่อยๆ ฝึกเอา... เป็นศาสตร์ที่เรื่องรู้ และเข้าใจได้ง่าย แต่ต้องปฎิบัติถึงจะเห็นผล... คล้ายๆ กับการฝึกเล่นกีฬา...
แต่ผมเชื่อนะ...ว่ามันคุ้มค่าที่จะทำ... และผลลัพธ์ที่จะได้จากการเจริญสติ จะส่งผลดีทุกด้านในชีวิต รวมไปถึงการลงทุนด้วย
มันจะมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
- murder_doll
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
เป็นVIเก่งอย่างเดียวไม่พอ!!!!! จิตใจต้องนิ่งด้วย!!!!!
โพสต์ที่ 13
:lol: ของผมพยายามคิดซะว่ามันมีขึ้นมีลงเป็นเรื่องธรรมดา นะครับ
เวลาลง ก็เข้าใจว่ามันเป็นอย่างนั้นเอง
เวลาขึ้น ก็เข้าใจว่ามันเป็นอย่างนั้นเอง
อาจจะเพราะเล่นเงินเย็น และบัญชีCash เลยพอได้ แต่ถ้าเล่น Margin ใจอาจไม่นิ่งก็ได้ครับ :lol:
เวลาลง ก็เข้าใจว่ามันเป็นอย่างนั้นเอง
เวลาขึ้น ก็เข้าใจว่ามันเป็นอย่างนั้นเอง
อาจจะเพราะเล่นเงินเย็น และบัญชีCash เลยพอได้ แต่ถ้าเล่น Margin ใจอาจไม่นิ่งก็ได้ครับ :lol:
เงินทองเป็นของมายา
ข้าวปลาคือของจริง
ข้าวปลาคือของจริง
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
เป็นVIเก่งอย่างเดียวไม่พอ!!!!! จิตใจต้องนิ่งด้วย!!!!!
โพสต์ที่ 14
ส่วนตัวผมมองว่า ปรับพอร์ท เป็นการใช้ประโยชน์จากนายตลาดในการเพิ่มมูลค่าเงินลงทุนของเรา แต่เราไม่มีความจำเป็นต้องทำบ่อยๆ ทำแต่พอดี
นานๆครั้ง เพราะการที่ราคาหุ้นจะขึ้นไปใกล้เคียงมูลค่าที่เราคาดการณ์ เราควรให้เวลาธุรกิจนั้นทำงานมากพอ ที่จะแสดงผลกำไรนั้นออกมาจริงๆ แล้วจึงปรับพอร์ตจริงๆจังๆ ก็ยังไม่สาย ท่านฟิลิป ฟิชเชอร์ ยังบอกไว้เลยครับว่า ควรจะถือหุ้นตัวนึงอย่างน้อย 3 ปี (ท่านมองมูลค่าไปไกลกว่านั้นครับ) หากถือสั้นไปกว่านี้ บริษัทไม่มีเวลาพอที่จะทำกำไรก้อนนั้นให้เกิดขึ้นได้
ผมว่า เราควรเปิดใจศึกษาความรู้ให้หลายๆทางนะครับ หนังสือการลงทุนชั้นยอดของโลก ก็มีแปลเป็นภาษาไทยให้เราๆได้อ่านกัน แบบอย่างที่น่าชื่นชม
ในเวบนี้ ก็มีหลายคน ให้เราสังเกต มีงานสัมนา + เพื่อนสมาชิกที่เป็นกันเอง + อาหารอร่อย + ราคาย่อมเยา ให้เราได้เข้าบ่อยๆ :D
นานๆครั้ง เพราะการที่ราคาหุ้นจะขึ้นไปใกล้เคียงมูลค่าที่เราคาดการณ์ เราควรให้เวลาธุรกิจนั้นทำงานมากพอ ที่จะแสดงผลกำไรนั้นออกมาจริงๆ แล้วจึงปรับพอร์ตจริงๆจังๆ ก็ยังไม่สาย ท่านฟิลิป ฟิชเชอร์ ยังบอกไว้เลยครับว่า ควรจะถือหุ้นตัวนึงอย่างน้อย 3 ปี (ท่านมองมูลค่าไปไกลกว่านั้นครับ) หากถือสั้นไปกว่านี้ บริษัทไม่มีเวลาพอที่จะทำกำไรก้อนนั้นให้เกิดขึ้นได้
ผมว่า เราควรเปิดใจศึกษาความรู้ให้หลายๆทางนะครับ หนังสือการลงทุนชั้นยอดของโลก ก็มีแปลเป็นภาษาไทยให้เราๆได้อ่านกัน แบบอย่างที่น่าชื่นชม
ในเวบนี้ ก็มีหลายคน ให้เราสังเกต มีงานสัมนา + เพื่อนสมาชิกที่เป็นกันเอง + อาหารอร่อย + ราคาย่อมเยา ให้เราได้เข้าบ่อยๆ :D
เราต่างตื่นขึ้นมาทุกวัน เพื่อสร้างผลงานให้ได้ เราควรรู้ว่า ในทุกวันมีอะไรที่ต้องทำเพื่อให้เกิดผลงาน หากการตื่นขึ้นมา ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลงาน เราก็ไม่สมควรที่จะตื่นขึ้นมาให้รกหูรกตาคนรอบข้าง
- หมีบึงกุ่ม
- Verified User
- โพสต์: 408
- ผู้ติดตาม: 0
เป็นVIเก่งอย่างเดียวไม่พอ!!!!! จิตใจต้องนิ่งด้วย!!!!!
โพสต์ที่ 16
เรี่องไม่ดูราคาทุนว่าเท่าไรนี่ผมก็ละไม่ได้เหมือนกันครับ
เพราะคอยเอาไว้ใช้ดูว่ากำไร หรือขาดทุนแล้วกี่เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตามผมไม่ใช้ราคาทุนเป็นตัวตัดสินการซื้อหรือขายหุ้น (ก็เพิ่งจะคิดได้ปีนี้ละครับ :oops:)
แต่จะใช้วิธีประเมินราคาเหมาะสม (ตามความสามารถ) ของตัวที่ถืออยู่กับตัวที่อยากจะเปลี่ยนไปถือ
แล้วดูว่าตัวไหนมี upside มากกว่ากันเมื่อเทียบกับราคาตลาดในปัจจุบัน ถ้าเป็นตัวเก่าก็ถือต่อ
ถ้าเป็นตัวใหม่ก็เปลี่ยนตัวถือ (แม้จะต้องขายขาดทุนตัวเก่ามากๆ ก็ตาม)
ทั้งนี้จะเปลี่ยนทั้งทีก็ต้องเปลี่ยนให้คุ้ม
ความมั่นใจในรูปแบบธุรกิจและการคาดการณ์ราคาเหมาะสมมีผลกระทบมากต่อการตัดสินใจ
คิดถูกประเมินราคาถูกก็ดีไป คิดผิดก็เข้าข่ายขายหมูอ้วนซื้อหมูผอมจนถึงควายมาก็เยอะ :wall: ก็ได้แต่บอกตัวเองว่าเป็นบทเรียน
ครั้งต่อไปถ้าไม่อยากเป็นอีกก็หัดประเมินราคาให้มันถูกๆ ซะซิ :lol:
ป.ล.ผมว่าวิธีคิดแบบนี้ช่วยไม่ให้เราถอนต้นไม้ แต่เก็บวัชพืชไว้ให้รกพอร์ต ได้เป็นอย่างดี
เพราะคอยเอาไว้ใช้ดูว่ากำไร หรือขาดทุนแล้วกี่เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตามผมไม่ใช้ราคาทุนเป็นตัวตัดสินการซื้อหรือขายหุ้น (ก็เพิ่งจะคิดได้ปีนี้ละครับ :oops:)
แต่จะใช้วิธีประเมินราคาเหมาะสม (ตามความสามารถ) ของตัวที่ถืออยู่กับตัวที่อยากจะเปลี่ยนไปถือ
แล้วดูว่าตัวไหนมี upside มากกว่ากันเมื่อเทียบกับราคาตลาดในปัจจุบัน ถ้าเป็นตัวเก่าก็ถือต่อ
ถ้าเป็นตัวใหม่ก็เปลี่ยนตัวถือ (แม้จะต้องขายขาดทุนตัวเก่ามากๆ ก็ตาม)
ทั้งนี้จะเปลี่ยนทั้งทีก็ต้องเปลี่ยนให้คุ้ม
ความมั่นใจในรูปแบบธุรกิจและการคาดการณ์ราคาเหมาะสมมีผลกระทบมากต่อการตัดสินใจ
คิดถูกประเมินราคาถูกก็ดีไป คิดผิดก็เข้าข่ายขายหมูอ้วนซื้อหมูผอมจนถึงควายมาก็เยอะ :wall: ก็ได้แต่บอกตัวเองว่าเป็นบทเรียน
ครั้งต่อไปถ้าไม่อยากเป็นอีกก็หัดประเมินราคาให้มันถูกๆ ซะซิ :lol:
ป.ล.ผมว่าวิธีคิดแบบนี้ช่วยไม่ให้เราถอนต้นไม้ แต่เก็บวัชพืชไว้ให้รกพอร์ต ได้เป็นอย่างดี
"Good practice makes perfect"
- SupachaiZ594
- Verified User
- โพสต์: 834
- ผู้ติดตาม: 0
เป็นVIเก่งอย่างเดียวไม่พอ!!!!! จิตใจต้องนิ่งด้วย!!!!!
โพสต์ที่ 18
ผมแบ่งการลงทุนเป็นสองส่วนแทน
ส่วนหนึ่งตั้งใจซื้อตัวที่คิดว่าดูดีแล้วแน่แล้วราคามี mos มี upside แน่ ๆ ถือยาว ๆ รอผลประกอบการไปเลยไม่สนตลาด
อีกส่วนหนึ่งตั้งใจซื้อตัวที่เป็นรองตัวแรกมาก ๆ แต่กระแสแรง หรือมีโอกาสทำกำไรตามข่าวหรือตามไตรมาส
ส่วนแรกทำใจไม่แตะต้องเลย รอเวลาอย่างเดียวจนกว่าตลาดจะเห็นตามเรา ทำใจยากหน่อย แต่เป็นการฝึกตัวเอง เพราะรุ้ว่ายังไม่สามารถนิ่งไม่ไหวติงตามตลาดได้
ส่วนทีสอง เข้า ๆ ออก ๆ เอาไว้คลายเครียดเวลาตลาดขึ้นหรือตัวไหนขึ้นหรือลงจะได้มีส่วนร่วมเก็งกำไรเก็งกระแส
หกเดือนของปีนี้ที่ผ่านมา ส่วนแรกทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำกว่าส่วนที่สองอย่างไม่น่าเชื่อ ส่วนที่สองกำไรบ้างขาดทุนบ้าง บวก ๆ ลบ ๆ แม้จะเป็นบวกแต่ผลตอบแทนกลับสู้ส่วนแรกไม่ได้ แต่ก็โอเคครับ เพราะทำใจไว้แล้ว
เคยพยายามทำตัวเป็น VI ที่ดี 100% แต่ได้ไม่นาน อ่านตัวโน้นตัวนี้อ่านไปอ่านมา มือเคาะเทรดทุกที เลยลดสัดส่วนลงมาคลายเครียดแบบที่ว่าแทน
:) :)
ส่วนหนึ่งตั้งใจซื้อตัวที่คิดว่าดูดีแล้วแน่แล้วราคามี mos มี upside แน่ ๆ ถือยาว ๆ รอผลประกอบการไปเลยไม่สนตลาด
อีกส่วนหนึ่งตั้งใจซื้อตัวที่เป็นรองตัวแรกมาก ๆ แต่กระแสแรง หรือมีโอกาสทำกำไรตามข่าวหรือตามไตรมาส
ส่วนแรกทำใจไม่แตะต้องเลย รอเวลาอย่างเดียวจนกว่าตลาดจะเห็นตามเรา ทำใจยากหน่อย แต่เป็นการฝึกตัวเอง เพราะรุ้ว่ายังไม่สามารถนิ่งไม่ไหวติงตามตลาดได้
ส่วนทีสอง เข้า ๆ ออก ๆ เอาไว้คลายเครียดเวลาตลาดขึ้นหรือตัวไหนขึ้นหรือลงจะได้มีส่วนร่วมเก็งกำไรเก็งกระแส
หกเดือนของปีนี้ที่ผ่านมา ส่วนแรกทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำกว่าส่วนที่สองอย่างไม่น่าเชื่อ ส่วนที่สองกำไรบ้างขาดทุนบ้าง บวก ๆ ลบ ๆ แม้จะเป็นบวกแต่ผลตอบแทนกลับสู้ส่วนแรกไม่ได้ แต่ก็โอเคครับ เพราะทำใจไว้แล้ว
เคยพยายามทำตัวเป็น VI ที่ดี 100% แต่ได้ไม่นาน อ่านตัวโน้นตัวนี้อ่านไปอ่านมา มือเคาะเทรดทุกที เลยลดสัดส่วนลงมาคลายเครียดแบบที่ว่าแทน
:) :)
-
- Verified User
- โพสต์: 547
- ผู้ติดตาม: 0
เป็นVIเก่งอย่างเดียวไม่พอ!!!!! จิตใจต้องนิ่งด้วย!!!!!
โพสต์ที่ 20
[quote="maiaowna"]ผมเจอปัญหาที่ใหญ่สุดๆตอนนี้คือลืมราคาทุนไม่ได้
ไม่รู้จะแก้อย่างไงเหมือนกัน หรือเป็นเพราะผมไม่มั่นใจ
กับมูลค่าหุ้นที่ผมคิดได้ก็ไม่รู้
ไม่รู้จะแก้อย่างไงเหมือนกัน หรือเป็นเพราะผมไม่มั่นใจ
กับมูลค่าหุ้นที่ผมคิดได้ก็ไม่รู้
- กล้วยไม้ขาว
- Verified User
- โพสต์: 1074
- ผู้ติดตาม: 0
เป็นVIเก่งอย่างเดียวไม่พอ!!!!! จิตใจต้องนิ่งด้วย!!!!!
โพสต์ที่ 22
ใจมันนิ่งหรือไม่นิ่ง...
มันก็ไม่ได้มีผลทำให้หุ้นขึ้นหรือลงนี่ครับ :?:
มันก็ไม่ได้มีผลทำให้หุ้นขึ้นหรือลงนี่ครับ :?:
- picklife
- Verified User
- โพสต์: 2565
- ผู้ติดตาม: 0
เป็นVIเก่งอย่างเดียวไม่พอ!!!!! จิตใจต้องนิ่งด้วย!!!!!
โพสต์ที่ 24
[quote="Paul VI"][quote="RONNAPUM"]อย่าตัวเองไปเปรียบเทียบเทียบกับใคร
อย่าเอาหุ้นตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร
พอใจในสิ่งที่ที่เรามี พอใจในสิ่งที่เราเป็น แค่นี้ก็สุขใจเป็นไหนๆๆ
อย่าเอาหุ้นตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร
พอใจในสิ่งที่ที่เรามี พอใจในสิ่งที่เราเป็น แค่นี้ก็สุขใจเป็นไหนๆๆ
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
- Sorgios
- Verified User
- โพสต์: 368
- ผู้ติดตาม: 0
เป็นVIเก่งอย่างเดียวไม่พอ!!!!! จิตใจต้องนิ่งด้วย!!!!!
โพสต์ที่ 26
[quote="Paul VI"][quote="RONNAPUM"]อย่าตัวเองไปเปรียบเทียบเทียบกับใคร
อย่าเอาหุ้นตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร
พอใจในสิ่งที่ที่เรามี พอใจในสิ่งที่เราเป็น แค่นี้ก็สุขใจเป็นไหนๆๆ
อย่าเอาหุ้นตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร
พอใจในสิ่งที่ที่เรามี พอใจในสิ่งที่เราเป็น แค่นี้ก็สุขใจเป็นไหนๆๆ
CHIN UP, Do not give up !!!
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
เป็นVIเก่งอย่างเดียวไม่พอ!!!!! จิตใจต้องนิ่งด้วย!!!!!
โพสต์ที่ 30
ผมต่างหากที่ต้องขอโทษคุณ pick ครับ เพราะว่า มีหลายคนบอกว่าผมใช้คำพูดแรงเกินไป... ยอมรับว่า อ่านโพสต์หลังๆแล้วรู้สึก ว่าเป็นอย่างนั้นครับpicklife เขียน: ขอโทษเป็นอย่างสุงครับพี่ ไม่ได้มีเจตนาสอนแต่อย่างใดครับ
1.จะได้แชร์ความรูที่มีให้คนอื่น แม้นตัวผมจะเป็นเพียงผู้ปฏิบัตธรรมหางแถว แต่ผมก็อยากแชร์สิ่งที่มีให้คนอื่นครับ ถ้าเขาเริ่มสนใจก็เข้าสู่หลักธรรมนั้นเอง ผมไม่แม้นมีเจตนาสถาปนาตัวเองเป็นผูรูแต่อย่างใด เพียงแค่ช่วงยแชร์เท่านั้นครับ
2.ผมก็อยากให้คนอื่นประเมินความคิดผมเหมือนกันครับ ว่าตรงไหนถูกผิดควรแก้ไขอย่างไร เก็บไว้คนเดียวไม่แชร์ ผมคงไปไกลกว่านี้ไม่ได้
3.เพื่อจุดประเด็น จะได้อยากรูว่าเพื่อนๆใช้วิธีไหนกันบ้าง เพื่อจะได้เอามาพัฒนาใช้ได้บ้าง เช่นคุณpicatosใช้วิธีธรรมมะ น่าสนใจมากๆๆครับ และอีกหลายๆคนก็ต่างมีวิธีที่น่าสนใจยิ่งยัก
ตั้งแต่ ใช้มาร์จิ้น 100% แต่ เล่น เทรดบ่อยมากๆ
จนกระทั่งล่าสุด คุณ pick ออกมาบอกว่า เล่นแบบลืมต้้นทุนรายวัน
อ่านเสร็จปุ๊บ ก็ยิ่งรู้สึกว่า แปลก.. และไม่แปลกธรรมดาด้วยครับ
แต่สิ่งที่คุณ pick บอกว่าไม่ได้สอน แต่ การตั้งกระทู้ของคุณ pick แต่ละครั้งมันเหมือน โฆษณา เอ .. หรือว่าผมคิดไปเองครับ
คือผมชอบที่คุณ pick โพสต์สร้างสีสัน บ่อยๆนะครับ และสนับสนุนด้วย แต่อยากให้เน้นเรื่องที่โพสต์เป็นเรื่องพื้นฐานกิจการ หรือ การวิเคราะห์พื้นฐานบริษัทมากกว่าอ่ะครับ
ผมก็นักลงทุนหางแถวครับ อาจจะผิดก็ได้ที่ไปชี้แนะคุณ pick เพียงแค่สิ่งที่ผมอ่าน และรู้สึกได้ ...มันแย้งกับสามัญสำนึกของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จหลายๆคนที่ผมรู้จักครับ
ขอโทษที่ทำให้ไม่สบายใจ และขอบคุณที่ให้อภัยในการโพสต์ของผมครับ
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.