ตลาดหุ้นจะพังแรงที่สุดในรอบ 300 ปี
- vichit
- Verified User
- โพสต์: 15833
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดหุ้นจะพังแรงที่สุดในรอบ 300 ปี
โพสต์ที่ 1
ตลาดหุ้นจะพังแรงที่สุดในรอบ 300 ปี
วันศุกร์ที่ 09 กรกฏาคม 2010
เนื่องจากตลาดหุ้นกำลังเซอีกครั้ง นักลงทุนจำนวนมากจึงวิตกกังวล แม้นักวิเคราะห์บางคนมองว่าหุ้นแค่ซบเซา แต่สำหรับโรเบิร์ต เพรชเชอร์ ซึ่งเป็นนักทฤษฏีสังคมและนักพยากรณ์ตลาด กลับมีความเชื่อว่าตลาดเข้าสู่ช่วงขาลง ซึ่งอาจจะมากที่สุดในรอบ 300 ปีเลยทีเดียว
เพรชเชอร์กล่าวว่า นักพยากรณ์คนอื่นๆ ไม่น่าจะยอมรับเหตุผลของเขาซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของทฤษฎีคลื่นเอลเลียต และแนะนำว่า นักลงทุนรายย่อยควรจะออกจากตลาดโดยสิ้นเชิง แล้วถือเงินสด หรือสิ่งที่มีค่าเท่ากับเงินสด อย่างเช่น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ สำหรับปีที่จะมาถึง
เพรชเชอร์ยังทำนายว่า นักลงทุนที่ซื้อและถือหุ้นไว้ จะได้รับความเสียหายมากเมื่อตลาดหุ้นพัง เพราะ จะมีความรุนแรงมากกว่าการปรับตัวลงของตลาดในปี 2551 และต้นปี 2552 หรือมากกว่าช่วงปีที่เกิดภาวะถดถอยทั่วโลกรุนแรงสุด หรือ มากกว่าเมื่อเกิดความตื่นตระหนกในตลาดในปี 2416
เขาได้เปรียบเทียบว่า ตลาดหุ้นจะพังเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นในอังกฤษและการล่มสลายของฟองสบู่ทะเลใต้เมื่อปี 2263 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ประชาชนไม่ซื้อหุ้นนานหลายร้อยปี
เพรชเชอร์บอกว่า หากเขาทำนายถูก วิกฤติที่จะเกิดขึ้นจะเป็นวิกฤติที่ประชาชนจะต้องสอนลูกสอนหลานไม่ให้ซื้อหุ้นในช่วงหลายปีจากนี้ไป
ตามการทำนายของเพรชเชอร์ ดัชนีดาวโจนส์อยู่ที่ 9,686.48 จุด และน่าจะยืนต่ำกว่าระดับ 1,000 จุด ไปอีกห้าหรือหกปี เนื่องจากวงจรตลาดใหญ่สิ้นสุดลงแล้ว และเมื่อประกอบเข้ากับภาวะตกต่ำของเศรษฐกิจและภาวะเงินฝืด จะทำให้ทุกคนถือเงินสดเพื่อความรอบคอบ
เพรชเชอร์ไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวในตลาดที่สนับสนุนให้นักลงทุนมีความรอบคอบในขณะนี้ แต่เกือบทุกคนที่มองเห็นว่า อนาคตจะสดใสขึ้นเมื่อความยุ่งยากในขณะนี้ผ่านไป
ตัวอย่างเช่น ราล์ฟ เจ. อะแคมโปรา นักวิเคราะห์ตลาดที่มีประสบการณ์มากกว่า 40 ปี ได้โยกเงินออกจากหุ้นไปถือเงินสดเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่า การถดถอยของหุ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ชี้ว่า ตลาดจะปรับตัวลงอีก 10% หรือ 15% โดยน่าจะลงไปจนถึงเดือนกันยายน หรือตุลาคม ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวอย่างมากอีกครั้ง
อะแคมโปราคาดว่า ในช่วงหลายปีข้างหน้า ตลาดจะมีลักษณะเหมือนกับตลาดปกติในยุคเก่า ซึ่งจะมีการแกว่งตัวค่อนข้างสั้น และจะสร้างโอกาสมากให้กับนักลงทุนที่ฉลาด และมีลักษณะเหมือนกับตลาดหุ้นในช่วงปี ค.ศ. 1960 และ 1970
แลร์รี่ เบอร์แมน ผู้ร่วมก่อตั้งอีทีเอฟ แคปิตอล แมเนจเมนต์ ในโตรอนโต ซึ่งเคยเป็นประธานสมาคมนักวิเคราะห์เทคนิค กล่าวว่า เขาเห็นแนวโน้มตลาดในด้านลบในระยะสั้น กำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้ แต่ไม่ได้ใช้ทฤษฎีคลื่นเอลเลียต เหมือนเพรชเชอร์ โดยกล่าวว่า เพรชเชอร์กำลังพยายามวัดตลาดในหลายทศวรรษ ซึ่งเป็นกรอบเวลาที่นานเกินไปสำหรับการบริหารความเสี่ยงหรือเป้าหมายในการซื้อขายในเชิงปฏิบัติ
สำหรับเพรชเชอร์ ขณะนี้อายุ 61 ปี เป็นผู้บริหารบริษัทสิ่งพิมพ์และจัดทำประมาณการที่ชื่อว่า เอลเลียต เวฟ อินเตอร์เนชันแนล เขาจบการศึกษาจากเยล เอกจิตวิทยา เมื่อปี 2514 เคยเป็นนักร้อง นักเล่นกลอง และคนแต่งเพลงในวงดนตรีร็อควงหนึ่ง จนไปเป็นนักวิเคราะห์เทคนิคให้กับเมอร์ริล ลินช์
เพรชเชอร์เริ่มหลงใหลกับงานเขียนของเอลเลียต ซึ่งมีความเห็นว่า การเคลื่อนไหวของตลาดสามารถคาดการณ์ได้หากมีแพทเทิร์นซับซ้อน ต่อมาได้เขียนหนังสือชื่อ หลักการของคลื่นเอลเลียต ร่วมกับ เอ.เจ.อะแคมโปรา ในปี 2521 ซึ่งได้ทำนายว่า ตลาดหุ้นจะมีความคึกคักมาก ซึ่งการทำนายส่วนใหญ่ถูกต้อง
ภายในปี 2530 ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยบทความในเดอะ นิวยอร์ก ไทม์ ยกให้เขาเป็น กูรูด้านเทคนิคชั้นนำของตลาด และมีบทความชิ้นหนึ่งในเดือนตุลาคมปีเดียวกันนั้นพูดถึงเขาว่าเป็นทั้งนักพยากรณ์และเทวดา หรือเป็นที่ปรึกษาที่คำแนะนำของเขาเข้าถึงนักลงทุนจำนวนมากและเขามีแนวโน้มที่จะดึงตลาดไปในทิศทางที่เขาได้ทำนายไว้
อย่างไรก็ดี ในขณะนี้ เพรชเชอร์มีอิทธิพลน้อยลงมาก หลังจากที่ได้ใช้เวลาหลายปีพัฒนาทฤษฎีที่เรียกว่า Socianomics ซึ่งทฤษฎีนี้ระบุว่า อารมณ์ของสังคมไม่เพียงแต่เป็นสาเหตุให้เกิดวงจรตลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นสาเหตุให้เกิดเหตุการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจด้วย
ในปี 2545 ได้ตีพิมพ์หนังสือชื่อ Conquer the Crash ซึ่งได้ทำนายว่าจะเกิดความลำบากในวันข้างหน้า แต่พอปี 2551 ได้ทำนายว่า ตลาดจะดีดตัวขึ้นอย่างรุนแรงในไม่ช้า และเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ได้กล่าวว่าหุ้นกำลังจะตกและจะเริ่มเกิดความตกต่ำครั้งใหญ่
...ต้องรอพิสูจน์กันว่า จะจริงดังคำทำนายหรือไม่ คงจะได้รู้กันในไม่ช้านี้
http://www.kaohoon.com/daily/index.php? ... Itemid=126
วันศุกร์ที่ 09 กรกฏาคม 2010
เนื่องจากตลาดหุ้นกำลังเซอีกครั้ง นักลงทุนจำนวนมากจึงวิตกกังวล แม้นักวิเคราะห์บางคนมองว่าหุ้นแค่ซบเซา แต่สำหรับโรเบิร์ต เพรชเชอร์ ซึ่งเป็นนักทฤษฏีสังคมและนักพยากรณ์ตลาด กลับมีความเชื่อว่าตลาดเข้าสู่ช่วงขาลง ซึ่งอาจจะมากที่สุดในรอบ 300 ปีเลยทีเดียว
เพรชเชอร์กล่าวว่า นักพยากรณ์คนอื่นๆ ไม่น่าจะยอมรับเหตุผลของเขาซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของทฤษฎีคลื่นเอลเลียต และแนะนำว่า นักลงทุนรายย่อยควรจะออกจากตลาดโดยสิ้นเชิง แล้วถือเงินสด หรือสิ่งที่มีค่าเท่ากับเงินสด อย่างเช่น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ สำหรับปีที่จะมาถึง
เพรชเชอร์ยังทำนายว่า นักลงทุนที่ซื้อและถือหุ้นไว้ จะได้รับความเสียหายมากเมื่อตลาดหุ้นพัง เพราะ จะมีความรุนแรงมากกว่าการปรับตัวลงของตลาดในปี 2551 และต้นปี 2552 หรือมากกว่าช่วงปีที่เกิดภาวะถดถอยทั่วโลกรุนแรงสุด หรือ มากกว่าเมื่อเกิดความตื่นตระหนกในตลาดในปี 2416
เขาได้เปรียบเทียบว่า ตลาดหุ้นจะพังเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นในอังกฤษและการล่มสลายของฟองสบู่ทะเลใต้เมื่อปี 2263 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ประชาชนไม่ซื้อหุ้นนานหลายร้อยปี
เพรชเชอร์บอกว่า หากเขาทำนายถูก วิกฤติที่จะเกิดขึ้นจะเป็นวิกฤติที่ประชาชนจะต้องสอนลูกสอนหลานไม่ให้ซื้อหุ้นในช่วงหลายปีจากนี้ไป
ตามการทำนายของเพรชเชอร์ ดัชนีดาวโจนส์อยู่ที่ 9,686.48 จุด และน่าจะยืนต่ำกว่าระดับ 1,000 จุด ไปอีกห้าหรือหกปี เนื่องจากวงจรตลาดใหญ่สิ้นสุดลงแล้ว และเมื่อประกอบเข้ากับภาวะตกต่ำของเศรษฐกิจและภาวะเงินฝืด จะทำให้ทุกคนถือเงินสดเพื่อความรอบคอบ
เพรชเชอร์ไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวในตลาดที่สนับสนุนให้นักลงทุนมีความรอบคอบในขณะนี้ แต่เกือบทุกคนที่มองเห็นว่า อนาคตจะสดใสขึ้นเมื่อความยุ่งยากในขณะนี้ผ่านไป
ตัวอย่างเช่น ราล์ฟ เจ. อะแคมโปรา นักวิเคราะห์ตลาดที่มีประสบการณ์มากกว่า 40 ปี ได้โยกเงินออกจากหุ้นไปถือเงินสดเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่า การถดถอยของหุ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ชี้ว่า ตลาดจะปรับตัวลงอีก 10% หรือ 15% โดยน่าจะลงไปจนถึงเดือนกันยายน หรือตุลาคม ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวอย่างมากอีกครั้ง
อะแคมโปราคาดว่า ในช่วงหลายปีข้างหน้า ตลาดจะมีลักษณะเหมือนกับตลาดปกติในยุคเก่า ซึ่งจะมีการแกว่งตัวค่อนข้างสั้น และจะสร้างโอกาสมากให้กับนักลงทุนที่ฉลาด และมีลักษณะเหมือนกับตลาดหุ้นในช่วงปี ค.ศ. 1960 และ 1970
แลร์รี่ เบอร์แมน ผู้ร่วมก่อตั้งอีทีเอฟ แคปิตอล แมเนจเมนต์ ในโตรอนโต ซึ่งเคยเป็นประธานสมาคมนักวิเคราะห์เทคนิค กล่าวว่า เขาเห็นแนวโน้มตลาดในด้านลบในระยะสั้น กำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้ แต่ไม่ได้ใช้ทฤษฎีคลื่นเอลเลียต เหมือนเพรชเชอร์ โดยกล่าวว่า เพรชเชอร์กำลังพยายามวัดตลาดในหลายทศวรรษ ซึ่งเป็นกรอบเวลาที่นานเกินไปสำหรับการบริหารความเสี่ยงหรือเป้าหมายในการซื้อขายในเชิงปฏิบัติ
สำหรับเพรชเชอร์ ขณะนี้อายุ 61 ปี เป็นผู้บริหารบริษัทสิ่งพิมพ์และจัดทำประมาณการที่ชื่อว่า เอลเลียต เวฟ อินเตอร์เนชันแนล เขาจบการศึกษาจากเยล เอกจิตวิทยา เมื่อปี 2514 เคยเป็นนักร้อง นักเล่นกลอง และคนแต่งเพลงในวงดนตรีร็อควงหนึ่ง จนไปเป็นนักวิเคราะห์เทคนิคให้กับเมอร์ริล ลินช์
เพรชเชอร์เริ่มหลงใหลกับงานเขียนของเอลเลียต ซึ่งมีความเห็นว่า การเคลื่อนไหวของตลาดสามารถคาดการณ์ได้หากมีแพทเทิร์นซับซ้อน ต่อมาได้เขียนหนังสือชื่อ หลักการของคลื่นเอลเลียต ร่วมกับ เอ.เจ.อะแคมโปรา ในปี 2521 ซึ่งได้ทำนายว่า ตลาดหุ้นจะมีความคึกคักมาก ซึ่งการทำนายส่วนใหญ่ถูกต้อง
ภายในปี 2530 ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยบทความในเดอะ นิวยอร์ก ไทม์ ยกให้เขาเป็น กูรูด้านเทคนิคชั้นนำของตลาด และมีบทความชิ้นหนึ่งในเดือนตุลาคมปีเดียวกันนั้นพูดถึงเขาว่าเป็นทั้งนักพยากรณ์และเทวดา หรือเป็นที่ปรึกษาที่คำแนะนำของเขาเข้าถึงนักลงทุนจำนวนมากและเขามีแนวโน้มที่จะดึงตลาดไปในทิศทางที่เขาได้ทำนายไว้
อย่างไรก็ดี ในขณะนี้ เพรชเชอร์มีอิทธิพลน้อยลงมาก หลังจากที่ได้ใช้เวลาหลายปีพัฒนาทฤษฎีที่เรียกว่า Socianomics ซึ่งทฤษฎีนี้ระบุว่า อารมณ์ของสังคมไม่เพียงแต่เป็นสาเหตุให้เกิดวงจรตลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นสาเหตุให้เกิดเหตุการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจด้วย
ในปี 2545 ได้ตีพิมพ์หนังสือชื่อ Conquer the Crash ซึ่งได้ทำนายว่าจะเกิดความลำบากในวันข้างหน้า แต่พอปี 2551 ได้ทำนายว่า ตลาดจะดีดตัวขึ้นอย่างรุนแรงในไม่ช้า และเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ได้กล่าวว่าหุ้นกำลังจะตกและจะเริ่มเกิดความตกต่ำครั้งใหญ่
...ต้องรอพิสูจน์กันว่า จะจริงดังคำทำนายหรือไม่ คงจะได้รู้กันในไม่ช้านี้
http://www.kaohoon.com/daily/index.php? ... Itemid=126
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดหุ้นจะพังแรงที่สุดในรอบ 300 ปี
โพสต์ที่ 3
หมึกพอลทำนายแม่นน่าจะเอามาทำนายหุ้นแข่งกับคนบ้างนะ :lol:
- PaZZaHut
- Verified User
- โพสต์: 737
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดหุ้นจะพังแรงที่สุดในรอบ 300 ปี
โพสต์ที่ 4
นั่งรอดูผล ด้วยคนค้าบ
synthese(f)
n. synthesis, combining of separate elements into a complete whole; formation of a compound through the combination of simpler components (Chemistry); deductive logic
n. synthesis, combining of separate elements into a complete whole; formation of a compound through the combination of simpler components (Chemistry); deductive logic
- murder_doll
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดหุ้นจะพังแรงที่สุดในรอบ 300 ปี
โพสต์ที่ 8
เหอ แล้วมันก็จะผ่านไป
เงินทองเป็นของมายา
ข้าวปลาคือของจริง
ข้าวปลาคือของจริง
-
- Verified User
- โพสต์: 296
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดหุ้นจะพังแรงที่สุดในรอบ 300 ปี
โพสต์ที่ 11
"ตลาดคาดการณ์ไม่ได้ แต่ถ้าคุณจำเป็นต้องคาดการณ์ละก็ ให้คาดบ่อยๆ(มันต้องถูกซักครั้งแหละน่า)" :lol: :lol: :lol:
- manza125
- Verified User
- โพสต์: 92
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดหุ้นจะพังแรงที่สุดในรอบ 300 ปี
โพสต์ที่ 12
อะ
ฟังหูไว้หูแล้วกัน เล่าสู้กันฟัง
เรื่องนี้ถ้าลงมาจริงก็ไม่เห็นต้องตกใจ น่าดีใจด้วยซ้ำ :twisted:
หลังจากไม่มี 10 เด้งมาหลายปี คาวนี้ละเห็น10เด้งแน่
(ความคิดเห็นส่วนตัวผมว่าเป็นไปได้ยาก)
ฟังหูไว้หูแล้วกัน เล่าสู้กันฟัง
เรื่องนี้ถ้าลงมาจริงก็ไม่เห็นต้องตกใจ น่าดีใจด้วยซ้ำ :twisted:
หลังจากไม่มี 10 เด้งมาหลายปี คาวนี้ละเห็น10เด้งแน่
(ความคิดเห็นส่วนตัวผมว่าเป็นไปได้ยาก)
------------------------------
การพูด คือ อาหารของนักการเมือง
การวิเคราห์ คือ อาหารของวีไอ
การพูด คือ อาหารของนักการเมือง
การวิเคราห์ คือ อาหารของวีไอ
-
- Verified User
- โพสต์: 24
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดหุ้นจะพังแรงที่สุดในรอบ 300 ปี
โพสต์ที่ 13
I really do not believe in this write up. How could you predict market by reference for 300 years time frame. That is a very long period, even with the technical technique. I am not sure how long the Elliot Wave forcasting technique exists? Let's alone predicting for 300 years time frame? Furthermore, if the Dow falls to 1000 point, what is the value of some good company. I bet the valuation will be very cheap. For example IBM may be traded at less than USD10/share?
-
- Verified User
- โพสต์: 1160
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดหุ้นจะพังแรงที่สุดในรอบ 300 ปี
โพสต์ที่ 14
แน่จริงลงมาเลย!!!!! สายเกรแฮมรอมานานแล้ว พังให้มันวอดวายเลย 55555
ตลาดไทยโดนด้วย ลงมาเหลือสองร้อยจุดยิ่งดี
หรือลงไปขายหุ้นละ 0 บาทเลยก็ได้ ผมจะได้ซื้อเหมามันทั้งตลาด
PTT 0 บาท
cpall 0 บาท
โรงเกลือ โรงน้ำตาล ท่าเรือ ลงมาให้หมด แล้วผมจะเหมาที่ราคา 0 บาท
55555 ฝันกลางวัน ลงมาสองร้อยจุดก็ดีใจจะตายอยู่แล้ว ยิลด์ไม่รู้ตั้งเท่าไร
ตลาดไทยโดนด้วย ลงมาเหลือสองร้อยจุดยิ่งดี
หรือลงไปขายหุ้นละ 0 บาทเลยก็ได้ ผมจะได้ซื้อเหมามันทั้งตลาด
PTT 0 บาท
cpall 0 บาท
โรงเกลือ โรงน้ำตาล ท่าเรือ ลงมาให้หมด แล้วผมจะเหมาที่ราคา 0 บาท
55555 ฝันกลางวัน ลงมาสองร้อยจุดก็ดีใจจะตายอยู่แล้ว ยิลด์ไม่รู้ตั้งเท่าไร
-
- Verified User
- โพสต์: 12
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดหุ้นจะพังแรงที่สุดในรอบ 300 ปี
โพสต์ที่ 16
ถ้าดูจาก elliotte wave จาก monthly chart ก็คงมีโอกาสแต่ก็ไม่น่าหลุด6000
แต่สุดท้ายแล้วจะรู้ว่าเป็นคลื่นไหนก็ตอนที่เกิดขึ้นแล้ว
dowjones อาจจะเป็นคลื่น B กำลังลงไป C อย่างที่นักวิเคราะห์ทำนายไว้ แต่อาจจะเป็นคลื่น 1 เพื่อขึ้นไป 3 ก็ได้ (ล้วนแล้วแต่เศรษฐกิจกับปัจัยพื่นฐานทั้งสิ้น)
แต่ผมไม่คิดว่าจะกระทบกับไทยเท่าไหร่ เพราะหุ้นขึ้นรอบนี้ไม่เกี่ยวกับ fund flow จากนักลงทุนตปทเลย ยกเว้นพี่กองจะเททิ้ง : )
แต่สุดท้ายแล้วจะรู้ว่าเป็นคลื่นไหนก็ตอนที่เกิดขึ้นแล้ว
dowjones อาจจะเป็นคลื่น B กำลังลงไป C อย่างที่นักวิเคราะห์ทำนายไว้ แต่อาจจะเป็นคลื่น 1 เพื่อขึ้นไป 3 ก็ได้ (ล้วนแล้วแต่เศรษฐกิจกับปัจัยพื่นฐานทั้งสิ้น)
แต่ผมไม่คิดว่าจะกระทบกับไทยเท่าไหร่ เพราะหุ้นขึ้นรอบนี้ไม่เกี่ยวกับ fund flow จากนักลงทุนตปทเลย ยกเว้นพี่กองจะเททิ้ง : )
-
- Verified User
- โพสต์: 942
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดหุ้นจะพังแรงที่สุดในรอบ 300 ปี
โพสต์ที่ 17
Dow 1,000 จุด อยากเห็นเป็นบุญตาจริง ๆ :lol:
- picklife
- Verified User
- โพสต์: 2565
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดหุ้นจะพังแรงที่สุดในรอบ 300 ปี
โพสต์ที่ 20
ด้วยReturn26%ต่อปี เงินจะเป็น10เท่าใน10ปีpornchal เขียน:เป้าหมายอีก 20ปี มีพอร์ตหนึ่งร้อยล้านบาท (เริ่มมิ.ย.2010)
เริ่มต้นเท่าไหร่ คร๊าบ อยากรู้อยากเห็น ครับ
ขอนอกเรื่องนิดนึง
ดังนั้น100เท่าใน20ปีก็1ล้านครับ
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 163
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดหุ้นจะพังแรงที่สุดในรอบ 300 ปี
โพสต์ที่ 26
น่าจะให้หมึกพอลมาทำนาย :lol:
- คนรักน้ำมัน
- Verified User
- โพสต์: 266
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ตลาดหุ้นจะพังแรงที่สุดในรอบ 300 ปี
โพสต์ที่ 27
[quote="nanchan"][quote="vichit"]ตลาดหุ้นจะพังแรงที่สุดในรอบ 300 ปี
ตามการทำนายของเพรชเชอร์
ตามการทำนายของเพรชเชอร์
หุ้นไม่ใช่เพียงแค่กระดาษแผ่นหนึ่ง มันเป็นเอกสารที่แสดงถึงความมีส่วนเป็นเจ้าของในกิจการนั้นด้วย เมือคิดจะลงทุน จงใช้มุมมองอย่างเจ้าของกิจการ เน้นลงไปในกิจการและข้อมูลเบี้องหลัง ไม่ใช่แค่มองว่ามันเป็นแค่หุ้น ต้องรู้ใช้ชัดว่ากิจการนี้ทำอะไร และทำได้ดีแค่ไหน?
- คนรักน้ำมัน
- Verified User
- โพสต์: 266
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดหุ้นจะพังแรงที่สุดในรอบ 300 ปี
โพสต์ที่ 28
เรื่องอีเลียตเวฟ ผมไม่ให้น้ำหนักการทำนายในแนวคิดนี้เท่าไหร่ บางคนถึงกับเรียกว่าอีเดียตเวฟ เพราะความเป็นไปได้ต่ำมากโดยเฉพาะการทำนายในอนาคตไปไกลๆ แกคงลากกราฟคลื่นโดยใช้หลักฟีโบนาชชี่ ซึ่งตามทฤษฎีคลื่นมันก็เป็นไปได้ว่าจะออกมาแบบนั้น แต่ทางปฏิบัติผมก็ลองมาเยอะมันมีโอกาสผิดได้มากพอๆกับถูกแหละครับ
หุ้นไม่ใช่เพียงแค่กระดาษแผ่นหนึ่ง มันเป็นเอกสารที่แสดงถึงความมีส่วนเป็นเจ้าของในกิจการนั้นด้วย เมือคิดจะลงทุน จงใช้มุมมองอย่างเจ้าของกิจการ เน้นลงไปในกิจการและข้อมูลเบี้องหลัง ไม่ใช่แค่มองว่ามันเป็นแค่หุ้น ต้องรู้ใช้ชัดว่ากิจการนี้ทำอะไร และทำได้ดีแค่ไหน?
- Sorgios
- Verified User
- โพสต์: 368
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดหุ้นจะพังแรงที่สุดในรอบ 300 ปี
โพสต์ที่ 29
ฮ่าๆๆๆ เอางั้นเลยนะครับ งั้นคงต้อง BID แข่งกับผมหน่อยแล้วWarantact เขียน:แน่จริงลงมาเลย!!!!! สายเกรแฮมรอมานานแล้ว พังให้มันวอดวายเลย 55555
ตลาดไทยโดนด้วย ลงมาเหลือสองร้อยจุดยิ่งดี
หรือลงไปขายหุ้นละ 0 บาทเลยก็ได้ ผมจะได้ซื้อเหมามันทั้งตลาด
PTT 0 บาท
cpall 0 บาท
โรงเกลือ โรงน้ำตาล ท่าเรือ ลงมาให้หมด แล้วผมจะเหมาที่ราคา 0 บาท
55555 ฝันกลางวัน ลงมาสองร้อยจุดก็ดีใจจะตายอยู่แล้ว ยิลด์ไม่รู้ตั้งเท่าไร
ผมตั้งซื้อ ATO, ATC ทุกตัวเลย :lol:
CHIN UP, Do not give up !!!